กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: ใต้ร่มไทร ที่ 04 เม.ย. 06, 19:19 ผมเพิ่งมีความรู้สึกไม่ดีต่อเพื่อนคนหนึ่ง เราพยายามปรับตัว แต่ก็ไม่เป็นผลเลย กะเลยนึกถึงนิทานเรื่อง พ่อกับลูกขายลา ซึ่งได้ข้อคิดว่า เราไม่สามารถทำให้คนอื่นพอใจได้ ทุกคน
แต่ผมอยากรู้ว่าในตำนานกรีกนั้นมีเรื่องนี้หรือเปล่า ที่ว่ามนุษย์ทำไมไม่ชอบหน้ากัน หรือ ความคิดไม่ตรงกันอะครับ ขอบคุณครับ กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: HotChoc ที่ 12 เม.ย. 06, 14:13 Pandora's Box?
http://en.wikipedia.org/wiki/Pandora's_Box กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: ใต้ร่มไทร ที่ 19 เม.ย. 06, 20:25 ขอบคุณคร๊าบบบ
ว่าแต่จนบันนี้ผมก็ยังไม่ได้แปลเลย ว่าจะเอาไปทำเป็นบทความเล่นๆนะครับ ขอบคุณอีกครั้ง.... กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 เม.ย. 06, 09:12 ตำนานที่ตรงเป๊ะกับเรื่องนี้ ไม่ได้อยู่ในตำนานกรีก
แต่อยู่ในพระคัมภีร์เก่าของคริสตศาสนา ว่าด้วยการสร้างหอคอยบาเบล ค่ะ กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 20 เม.ย. 06, 09:40 เรื่องหอคอยบาเบลเป็นตำนานยิว ซึ่งคริสตศาสนารับมา ค่อนข้างตรงกับหัวข้อเรื่องของกระทู้นี้ครับ คืออธิบายว่าทำไมคนเราจึงพูดกันไม่รู้เรื่อง
แต่ในตำนานกรีกโรมัน ที่ผมนึกออกใกล้ที่สุดกับเรื่องนี้ แต่ไม่ใช่การขัดแย้งกันโดยทั่วไป เป็นการขัดแย้งเฉพาะกรณี คือปฐมเหตุแห่งสงครามกรุงทรอยซึ่งมีสิ่งที่เรียกว่า the apple of discord หรือไงนี่แหละ อันนำไปสู่ The Judgement of Paris ต่อมา กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 20 เม.ย. 06, 09:51 ต่อไปนี้เป็นการเล่าจากความจำ ขอผู้รู้จริงกว่าเมตตาแก้ไขด้วยเทอญ
ว่ากันว่า ก่อนจะเกิดมหาสงครามกรุงทรอยนั้น ครั้งหนึ่งมหาเทวีผู้ยิ่งใหญ่ของเทวสภากรีกโรมันสามนางประทับอยู่ด้วยกัน คือเทพีจูโนหรือเฮรา ชายาของเทพบดีซิวส์หรือจูปิเตอร์ อันถือว่าเป็นเทพสตรีผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ที่สุดในสวรรค์ องค์หนึ่ง เทพีอะโฟรไดท์หรือวีนัส เทพธิดาที่งามที่สุดในสวรรค์หรือในจักรวาลก็ได้องค์หนึ่ง และเทพีมิเนอร์วาหรืออะธีนา เทพธิดาแห่งสติปัญญาธิดาอันเกิดจากพระกระโหลกของซีวส์เอง ซึ่งเป็นเทพีที่ฉลาดที่สุดในสวรรค์อีกองค์หนึ่ง กำลังนั่งกันอยู่ดีๆ ตัวกาลีผ่านมา ผมจำไม่ได้แล้วว่าเป็นใครชื่ออะไร แต่ในเรื่องนี้รับบทบาทเหมือนตัวกาลีของนิยายฮินดู เป็นผู้ร้าย ผมจึงขอเรียกว่าตัวกาลีก็แล้วกัน ตัวกาลีนี้เห็นภาพเทพชุมนุมหรือเทวีชุมนุมเช่นนั้น ก็คันมืออยากจะก่อความปั่นป่วนให้วุ่นวายเล่น (นักป่วนในโลกไซเบอร์เดี๋ยวนี้อาจจะสืบเชื้อสายมาจากตัวกาลีสมัยโน้นหรือไม่ก็ไม่ทราบ) ก็แกล้งเนรมิตผลแอปเปิ้ลที่งดงามสมบูรณ์ดูน่ากินที่สุด โยนโครมลงไปกลางวงทันที บนแอปเปิ้ลเจ้ากรรมนั้นมีคำจารึกอยู่ด้วยว่า To the Fairest มอบแก่ผู้เจ๋งที่สุด ผมแปลของผมดุ่ยๆ ยังงี้แล้วกัน พอสามมหาเทวีเห็นแอปเปิ้ลนั้น (ซึ่งเลยได้ชื่อว่า Apple of discord) ก็ทะเลาะกันทันทีสมใจตัวกาลี เพราะต่างองค์ต่างก็ทรงเห็นว่าพระนางเองนี่แหละเจ๋งสุดๆ สมควรมีสิทธิ์ในแอปเปิ้ลลูกนี้ แย่งกันไปแย่งกันมาแทบจะเขาโอลิมปุสแตก ในที่สุดก็ต้องให้ กกต. เอ๊ยคนกลางตัดสิน คนกลางนั้นคือ เจ้าชายปารีสแห่งกรุงทรอย ซึ่งขณะนั้นออกไปเลี้ยงแกะอยู่บนเขานอกเมือง กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 20 เม.ย. 06, 09:59 การตัดสินว่าใครเจ๋งที่สุดนี้ จึงเป็นที่มาของนิยายตอนที่เรียกว่า the judgement of Paris
ตามประสามหาเทวีที่แพ้ไม่ได้ ทั้งสามองค์เลย จึงปรากฎว่าหลังจากส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเอ๊ย ปารีสพิจารณาแล้ว ทั้งสามมหาเทวีก็แอบไปติดสินบนเจ้าชายปารีสทีละองค์ๆ โดยไม่ได้รู้กัน มิเนอร์วาบอกว่าถ้าปารีสตัดสินเข้าข้างเธอ เธอจะประสาทพรให้ปารีสเป็นชายที่มีสติปัญญามากที่สุดในโลก เฮราว่า ถ้าปารีสตัดสินให้เธอ เธอจะเสกให้ปารีสเป็นจอมจักรพรรดิผู้ทรงอำนาจยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และวีนัสบอกว่า ถ้าปารีสตัดสินเข้าข้างเธอ เธอจะบันดาลให้เขาได้คู่กับหญิงงามที่เซ็กซี่ที่สุดในโลก ก็ตามประสาผู้ชายนะครับ ปารีสเลือกกิ๊กครับ ทีนี้ก็เกิดเรื่องสิ เพราะเทพีวีนัสได้ตรัสออกพระโอษฐ์ไปแล้ว ก็ต้องทำตาม ปัญหาคือ หญิงที่ว่ากันว่าสวยที่สุดในโลกมนุษย์นั้น คือเฮเลน ซึ่งไม่ได้เป็นสาวโสดตัวเปล่าๆ แต่มีพระสามีเป็นตัวเป็นตนแล้ว เป็นเจ้าเมืองหนึ่งของสมาพันธรัฐกรีกด้วยอีกต่างหาก แต่ในเมื่อวีนัสลั่นปากแล้วก็จำเป็นต้องบันดาลให้ปารีสไปชิงนางมา จนเกิดศึกมหาสงครามกรุงทรอยจนได้ เพราะผัวเขาพาพวกมาตามเมียคืน และทั้งหมดทั้งเพนี้ สืบมาจากแอปเปิ้ลลูกเดียวเท่านั้นเอง กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 20 เม.ย. 06, 10:08 ถ้าว่าทางพระพุทธศาสนา เทวีทั้ง 3 นั้นถึงจะเป็นตั้งเทวดาแล้วก็ยังเต็มไปด้วยความยึดมันถือมั่นในตัวตน มีอหังการ-มมังการ ตัวฉันของฉันเหนียวแน่นมาก กะอีแค่ตำแหน่งที่ตัวกาลีหลอกโดยจารึกบนแอปเปิ้ลซังกะบ๊วยลูกเดียวก็ติดยึดเป็นเรื่องใหญ่โต ไม่ยักรู้เท่าว่ามันเป็นแค่สมมติเท่านั้นแหละ แถมเป็นสมมติที่ตัวกาลีมันแกล้งเอาเสียด้วย
ตกลงสาเหตุของการทะเลาะกัน น่าจะเป็นตัวกูของกูนี่เอง จขกท. เห็นว่าไงครับ? กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: HotChoc ที่ 21 เม.ย. 06, 01:27 ถ้าจำไม่ผิดเรื่อง apple of discord จะเกิดขึ้นกลางงานเลี้ยงนะครับ เทพ+เทวีทุกองค์ได้รับเชิญ ยกเว้นเทวีที่คุณนิลกังขาเรียกว่ากาลีแหละครับ (ผมเองก็จำชื่อจริงๆไม่ได้ เป็นเทวีที่ไม่สำคัญเท่าไหร่ด้วย) ก็เลยเป็นเรื่อง
กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 เม.ย. 06, 09:35
กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 21 เม.ย. 06, 10:47 ขอบคุณคุณครูครับ
ผมมีข้อสังเกตสองสามข้อ ข้อหนึ่ง แปลกดีที่เทวีแห่งการวิวาทบาดหมางนั้น ชื่อ Eris ซึ่งถ้าเปลี่ยนอักษรเสียตัวเดียวก็จะกลายเป็นเทพบุตร Eros เทพเจ้าแห่งความรัก หรือกามเทพ หรือคิวปิดบุตรชายของวีนัสนั่นเอง จะแปลว่ารักกับแค้นอยุ่ใกล้กันนิดเดียวได้หรือเปล่าไม่รู้ กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 21 เม.ย. 06, 10:55 ข้อสอง สามเทวีที่ไปปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าชายเลี้ยงแกะปารีสข้างบนนี้ หุ่นแบบนางแบบรูเบนส์ จริงๆ คืออ้วนไปหน่อยสำหรับสายตาผม
เทพีเฮราหรือจูโน มีนกยูงเป็นสัญลักษณ์ แปลกที่มาตรงกับพระสรัสวดี ชายาพระพรหม เทวีแห่งอักษรศาสตร์ฮินดู ตัวมหาเทพซิวส์เองซึ่งเป็นสวามีนั้น มีนกอินทรีเป็นเครื่องหมายครับ เทพีวีนัส มีคิวปิดในรูปกุมารน้อยเล่นอยู่ใกล้ๆ ตามตำนานคิวปิดเป็นลูกของวีนัส เทพีมีเนอร์วานั้น โดยปกติทรงเครื่องรบใส่เกราะทะมัดทะแมง แต่เมื่อจะต้องมาประกวดนางงามก็เลยต้องยอมแก้ผ้า เอ๊ยเปลื้องเกราะให้สายตามนุษย์อย่างปารีสได้ยลโฉม (อ้วนๆ) ของเธอด้วย เฮ้อ... เปลืองตัวจริงจริ๊ง... ชุดเกราะของพระนางถอดวางทิ้งไว้ข้างโคนต้นไม้ มีโล่มีหมวกเกราะ ซึ่งถ้าเพ่งดีๆ จะเห็นว่าบนโล่มีหัวนางอสุรเมดูซาติดอยู่ด้วย กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 21 เม.ย. 06, 10:57 ผู้ชายอีกคนที่ยืนดูจ้ำบ๊ะมหาเทวีอยู่คู่กับปารีส ที่ใส่หมวกมีปีกนั้น คือเมอร์คิวรี่ เทพเจ้าผู้สื่อสารแห่งสวรรค์ครับ
กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: Akira ที่ 21 เม.ย. 06, 18:52 อยากฟังเรื่องของ หอคอยบาเบลครับ อาจารย์เทาชมพู พอจะเล่าให้ฟังละเอียดๆ หน่อยได้ไหมครับ เพราถ้าจำไม่ผิดเรื่องนี้เห็นกล่าวกันว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ มนุษย์ทั้งหลายคุยกันไม่รู้เรื่อง คุยกันคนละภาษา ถูกต้องไหมครับ?
กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 เม.ย. 06, 08:27 คำถามของคุณ Akira แสดงว่าคุณรู้เรื่องหอคอยบาเบลแล้ว แต่ถ้าจะให้เล่าอีกก็จะเล่าให้ฟังอีกครั้ง
เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ตอนหนึ่งใน Old Testament หรือพระคัมภีร์เก่าของคริสตศาสนาที่ใช้หลักฐานร่วมกับยิว มีอยู่ว่าหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมโลก ผู้ที่รอดตายมาได้มีแต่ครอบครัวของโนอาห์ที่ต่อเรือใหญ่ขนสัตว์ต่างๆลงเรือไปอย่างละคู่ อย่างที่เราคงได้เคยดูหนังหรือการ์ตูนเรื่องนี้กันมาบ้างแล้ว เมื่อน้ำแห้ง โลกกลับเข้าสู่ความปกติ ลูกหลานของโนอาห์ก็สืบเชื้อสายเผ่าพันธุ์ต่อกันมาอีกหลายชั่วคน พูดภาษาเดียวกัน พวกนี้ตั้งหลักแหล่งอยู่ที่ตะวันออกกลาง วันหนึ่งคนเหล่านี้ก็เกิดความคิดจะสร้างเมืองและหอคอยขึ้นเป็นเกียรติประวัติแก่พวกตัวเอง และจะได้ตั้งหลักปีกฐานกันอยู่ตรงนี้ไม่กระจัดกระจายแยกย้ายกันไปที่ไหน หอคอยที่สร้างขึ้นสูงลิบลิ่วนี้ก็เพื่อบูชาพระอาทิตย์ พระจันทร์และดวงดาว แทนที่จะบูชาพระผู้เป็นเจ้า และเป็นการรวมตัวอยู่เป็นกระจุกเดียว แทนที่จะแผ่ขยายเผ่าพันธุ์ออกไปตามดินแดนต่างๆทั่วโลก ตามพระประสงค์ของพระเจ้า ขณะที่กำลังสร้างหอคอยให้สูงขึ้นทุกทีๆ พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงดลบันดาลให้ผู้คนที่เดิมพูดภาษาเดียวกัน กลายเป็นพูดคนละภาษา สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เกิดวิวาทบาดหมางกันเป็นการใหญ่ เพราะพูดกันไม่เข้าใจ จนกระทั่งต้องล้มเลิกการสร้างหอคอยกลางคัน แล้วต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไปตามที่ต่างๆ ตั้งถิ่นฐานอยู่ต่างแดนกันในโลก ดังความประสงค์ของพระเจ้า หอคอยนี้ก็เลยได้ชื่อว่า บาเบล แปลว่าความขัดแย้ง กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: Akira ที่ 28 เม.ย. 06, 19:12 ขอบคุณครับ อ.เทาชมพู...
ก็เท่ากับว่าเหตุการณ์ของหอคอยบาเบล เกิดหลังเหตุการณ์น้ำท่วมโลกในพระคัมภีร์พันธสัญญาเก่า...สินะครับ ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าคนทั่วโลกเกิดจากครอบครัวโนอาห์ อา.... อึ้งเลย กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 เม.ย. 06, 09:11 ใช่ค่ะ เพราะพระเจ้าให้โนอาห์กับเมียและลูกรอดมาได้ก็เพื่อได้เป็นต้นเผ่าพันธุ์ของมนุษย์สืบต่อมา
ก็ไปตรงกับปางมัตสยาวตารของพระนารายณ์ ที่พระองค์อวตารเป็นปลาใหญ่พาเรือพระมนูฝ่ากระแสคลื่นรอดน้ำท่วมโลกมาได้ พระมนูก็เลยเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ สืบมาด้วยประการนี้ บางคนก็แปลคำว่ามนุษย์ว่า สืบต่อมาจากพระมนู กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: Akira ที่ 02 พ.ค. 06, 18:26 กำลังอึ้งอยู่ครับ.... ความจริงคือผมไม่สันทัดกับวรรณกรรมเรื่องรามเกียรติ์เท่าไร ก็เลยไม่รู้จะถามต่อยังไง รู้จักแค่ตัวหลักๆเท่านั้น.. (ถนัดแต่วรรณกรรมฝรั่ง แหะๆ)
แต่ก็ขอขอบคุณสำหรับคำตอบของอาจารย์เทาชมพูมากๆครับ..... กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 02 พ.ค. 06, 20:10 พอเริ่มเรื่องนำท่วมโลก ซึ่งภาษาไทยคริสต์รุ่นเก่าท่านเรียกว่า น้ำวินาศ แล้วก็คงเล่าต่อได้อีกหลายเรื่องละครับคุณ Akira
ตั้งแต่เทียบพระมนูกับโนอาห์ (อาหรับเรียก นุห์) และอื่นๆ ตอนนี้ผมมีคำถามเดียวก่อนว่า ทำไมคนเราเดี๋ยวนี้ ซึ่งเป็นลูกหลานพ่อโนอาห์ด้วยกันหมด ถึงได้มีสีผิวเชื้อชาติต่างๆ กันได้ยังงี้ครับ? อำนาจคำสาปพระเจ้าอันเนื่องมาจากหอคอยบาเบล คงจะทำให้มนุษย์พูดกันไม่รู้เรื่อง แต่ในพระคัมภีร์ไม่เห็นบอกนี่ครับว่าทำให้ลักษณะทางพันธุกรรมของมนุษย์เปลี่ยนแปรไปต่างๆ ด้วย? ที่จริงจะว่ากันจริงๆ แล้ว อย่าว่าแต่สมัยพ่อโนอาห์เลย ตั้งแต่ยุคพ่ออาดัมแม่อีฟแล้ว จากบรรพชนคู่เดียว พวกเราเปลียนแปรแปลกๆ กันได้มากขนาดนี้เลยเหรอ? คิดไปก็ไลฟ์บอยเปล่า... กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: ใต้ร่มไทร ที่ 03 พ.ค. 06, 00:47 มีเรื่องรบกวนถามอาจารย์อีกแล้วครับ
คือผมมีโอกาสได้อ่านนิตยสารต่วยตูน ฉบับพ๊อตเก็ต ฉบับนานนมาแล้วนะครับ มีคอลัมภ์หนึ่งผู้เขียนได้กล่าวเรื่อง เทพไดโอนีซุส (dionysus) ว่าเป็นตัวแทนของปัจเจกชน induvidus lism คือเป็นความคิดเป็นอิสระในตัวเอง เขากล่าว ถ้าปัจจุบันก็คือคนที่มีอาชีพ แพทย์ ทนาย ศิลปิน นักคอมฯ แต่ผู้เขียนไม่ได้กล่าวเรื่อง เทพซีอุส เทพอพอลโล คือผมอยากรู้ว่า เทพทั้งสอง ปัจจุบันเป็นตัวแทนคนจำพวกใดนะครับ ขอบคุณสำหรับคำตอบมากครับ กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 03 พ.ค. 06, 17:04 ใช่ Individualism รึเปล่าครับ
ผมออกจะนึกว่าไดโอนีซุส เป็นเทพประจำพวกขี้เมามากกว่าอื่น แต่ค้นในวิกิพีเดีย เห็นให้เป็นเทพของพวกที่มีวิชาชีพอิสระทำนองคล้ายๆ ที่ต่วยตูนว่ามาได้ด้วยจริงด้วย อะพอลโลสุริยเทพ ดูเหมือนจะเป็นเทพเจ้าของอะไรหลายๆ อย่าง รวมทั้งศิลปะวิทยาการ ดังนั้น อาชีพอะไรที่เป็นวิชาการทั้งหลาย และศิลปินทั้งหลายจะถือวาอยู่ใต้พระอุปถัมภ์ของพระองค์ก็คงได้มั้ง ถ้าผมจำไม่ผิด คทาของแอสเคลาปิอุสหมอวิเศษ อันที่มีงูพันแล้วต่อมาเป็นสัญลักษณ์ของการแพทย์นั้น เดิมก็เป็นของอะพอลโล เทพธิดามิวส์ 9 นางประจำศิลปะวิทยาการสาขาต่างๆ ก็มีเรื่องเกี่ยวข้องกับอะพอลโล อะพอลโลทรงดีดพิณเรียกว่า lute ดังนั้นมือกีตาร์และนักดนตรีทั้งหลายก็น่าจะเป็นชนพวกที่อะพอลโลทรงเอ็นดูด้วย ส่วนซิวส์เทพบดี ราชาแห่งโอลิมปุสนั้น ผมออกรู้สึกว่า โดยพระนิสัยส่วนพระองค์ น่าจะทรงเป็นเทพของคนเจ้าชู้ทั้งหลาย และเป็น "ป๋า" ของสาวๆ ดังนั้นควรจะเหมาะกับอาชีพไหนก็นึกเอาเองเถิด แต่ที่จริงถ้าว่าโดยหน้าที่ของพระองค์ ซิวส์ทรงเป็นเทวาธิบดี ก็คงจะเป็นเทพประจำชนชั้นปกครอง หัวหน้างาน นายงานต่างๆ กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: Akira ที่ 03 พ.ค. 06, 18:17 อืม... อืม... กำลังรอเก็บข้อมูลครับคุณนิลกังขา
จริงอย่างที่คุณบอกแหละ เริ่มต้นมีแค่มนุษย์คู่เดียว อดัมส์กับอีฟ หรือ โนอาห์กับภรรยาเขา แค่คู่เดียวก่อให้เกิด เผ่าพันธ์มนุษย์ได้หลาหลายขนาดนี้เชียว พระคำภีร์ Holy Bible เองก็ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ด้วย... เอ ไม่ทราบจะมีอยู่ในส่วนของคำภีร์บทนอกด้วยหรือเปล่า.. กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 พ.ค. 06, 18:25 ถ้าหากว่าคุณ Akira จะมองพระคัมภีร์ว่าเหมือนหลักฐานทางสังคมศาสตร์ หรือประวัติศาสตร์ ชิ้นหนึ่งละก็ คุณจะต้องตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ หรือเป็นไปไม่ได้ แบบไม่รู้จบทีเดียว
สิ่งหนึ่งที่ตำราไม่มี แต่ไบเบิ้ลมี คือศรัทธา เพราะฉะนั้นเมื่อมีศรัทธาเสียอย่าง อะไรๆก็เป็นไปได้ เหมือนคำในพระคัมภีร์ใหม่ (New Testament)ที่ว่า Faith can move the mountain ไงคะ กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 พ.ค. 06, 19:49 กลับเข้ามาบอกอีกทีว่า ไม่อยากให้คำตอบของดิฉันเป็นการตัดบท และกีดขวางสติปัญญาของคุณ Akira และคุณนกข. มิให้คิดสงสัยอะไรอีก
ก็จะบอกข้อน่าฉงนฉงายอีกข้อหนึ่งให้ไปคิดกันเล่น เมื่ออาดัมกับอีฟ ถูกขับไล่ออกจากสวนสวรรค์อีเดนแล้ว ก็ไปใช้ชีวิตกันอย่างสามีภรรยา มีลูกชาย ๒ คน คนโตชื่อเคน(แต่ไม่ใช่ธีรเดช) คนเล็กชื่ออาเบล หรือเอเบล ทั้งสองกระทำสักการะแก่พระเจ้าเป็นนิจ เคนเป็นชาวนาก็เอาพืชผลมาสังเวยพระเจ้า ส่วนอาเบลเป็นคนเลี้ยงแกะ ก็เชือดแกะปรุงอาหารเนื้อ ถวาย พระเจ้าโปรดของสักการะของอาเบลมากกว่า ทำให้เคนริษยาจึงฆ่าน้องชาย เมื่อพระเจ้าทรงทราบ ก็ทรงลงโทษเคนด้วยการสาปให้เขาเร่ร่อนพเนจรออกจากถิ่นที่อยู่ เคนร้องขอความกรุณาว่า "ข้ากลัวคนที่พบข้า จะฆ่าข้า" พระเจ้าก็โปรดประทานเมตตาให้ ไม่ให้เคนตายด้วยน้ำมือใครทั้งสิ้น เคนก็ร่อนเร่พเนจรไปเป็นเวลานาน มีลูกหลานมากมายสืบต่อกันมาเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ คำถามก็คือเคนไปมีลูกได้ยังไง ในเมื่อตอนนั้นมีมนุษย์แค่ ๔ คนในโลก คืออาดัมกับอีฟ เขาและน้องชาย เมื่ออาเบลถูกฆ่าตาย ก็เหลือ ๓ คน เมื่อเคนถูกสาปให้ร่อนเร่ไปไกลถิ่น เขาจะกลัวคนมาฆ่าเขาไปทำไม ในเมื่อโลกไม่มีใครอีกนอกจากพ่อแม่ที่ถูกทิ้งอยู่ทางบ้าน และข้อสำคัญ เคนมีลูกหลาน ด้วยการแต่งงานกับผู้หญิงที่ไหนกัน กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: Akira ที่ 03 พ.ค. 06, 20:18 อิ อิ อิ พูดอย่างนี้ชวนให้สงสัยให้คิดจริงๆนา... ท่านอาจารย์เทาชมพู
แต่อาจารย์มาเล่าอย่างนี้ก็ดีครับ สนุกจังตังค์อยู่ครบ เอ๊ย.. กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: AngleHell ที่ 22 ธ.ค. 07, 15:26 เคนมีลูกกับลิลิธหรือเปล่า??
ลิลิธที่เปนผู้หญิงคนแรกก่อนที่เอวาจะเกิดน่ะ กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ธ.ค. 07, 16:33 Lilith เป็นตำนานในพระคัมภีร์ฮีบรู(ยิว)มาก่อน ไม่ใช่คริสเตียน แม้ว่าอ้างไว้ในบางฉบับของพระคัมภีร์คริสเตียน ก็ยังน่าสงสัยถึงความจริง ว่าเป็นเรื่องแท้หรือว่าปลอมปนเข้ามาทีหลัง
เรื่องราวของลิลิธกระจัดกระจายอยู่ในตำนานหลายแห่ง หาอ่านได้ที่นี่ http://en.wikipedia.org/wiki/Lilith กระทู้: อยากรู้ตำนานกรีกเรื่องทำไมมนุษย์ไม่ชอบหน้ากัน หรือว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีในตำนานหร เริ่มกระทู้โดย: baezae ที่ 26 ธ.ค. 07, 04:30 ขอทักท้วงคุณนิลกังขานิดหน่อยนะครับ
คำว่า กาลี นี้ ความหมายเดิมมีว่า เป็นผู้อยู่เหนือหรือไร้ซึ่งกาลเวลา ในนิยายฮินดูไม่เคยมีผู้ร้ายที่เป็นตัวกาลีนะครับ จะมีก็แต่เจ้าแม่กาลี (ขออนุญาตเรียกตามที่คนไทยเราเรียกกัน) อันเป็นภาคหนึ่งของพระแม่อุมาเทวี ซึ่งแปลงภาคออกมาเพื่อปราบอสูรทารุณ ซึ่งปางมหากาลีนี้นัยว่าเป็นการแสดงพลังแห่งการปกป้องของเพศแม่ ที่เมื่ออยู่สถานการณ์จำเป็น ก็จะมีกำลัง ความสามารถ รวมถึงความดุร้ายชนิดที่บุรุษเพศไม่สามารถเปรียบเทียบได้เลย อย่างไรก็ตาม ในตำนานยังได้กล่าวต่อว่า เมื่อได้รับชัยชนะแล้ว พระแม่ได้แสดงความยินดีโดยการกระโดโลดเต้น และจะกระทืบเท้าลงยังพื้นโลก ในจังหวะนี้เอง เพื่อป้องกันไม่ให้โลกถูกทำลาย พระอิศวรอันเป็นพระสวามีจึงได้ทอดกายลงเพื่อรองรับแรงกระทืบของเจ้าแม่ หากแต่เมื่อเจ้าแม่ทอดเนตรลงเห็นพระผู้เป็นสามีนอนรองรับอยู่นั้น ก็ได้ทำการยั้งเท้าไม่ให้กระทืบลงไปอันอาจจะทำให้เกิดการเสื่อมเกียรติแก่พระอิศวร ผมว่าตำนานเรื่องนี้เป็นตำนานที่น่ารักมากครับ และเพื่อแก้ไชขความเข้าใจผิดเกี่ยวกับนาม กาลี จึงขอทักท้วงมาดังข้างต้นครับ |