เรือนไทย

General Category => ภาษาวรรณคดี => ข้อความที่เริ่มโดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 20:45



กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 20:45
 ขออนุญาตตั้งกระทู้นะครับ

ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 20:51
 ไม่ได้จะเอาไปลอกหรอกนะครับ

แต่อยากรู้ว่าความในใจของคนไทยกับพ่อและพ่อหลวงนั้นเป็นอย่างไร

ในรูปของเรียงความภาษาไทย

จากเรือนไทยแห่งนี้


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 มิ.ย. 06, 21:03
 ช่วยเขียนให้ดูเป็นตัวอย่างก่อนได้ไหมคะ


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 21:31
 การเขียนเรียงความ

เป็นการนำความคิดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ที่ผู้เขียนสนใจนำมาเรียบเรียงอย่างชัดเจน
ให้น่าสนใจโดยอาศัยข้อเท็จจริง ระกอบความคิดเห็นของผู้เขียนให้ผู้อ่านได้เข้าใจ
ตามที่ผู้เขียนต้องการ

องค์ประกอบของเรียงความ

เรียงความมีองค์ประกอบ 3 ส่วนด้วยกัน คือ

๑. คำนำ (การเปิดเรื่อง)

๒. เนื้อเรื่อง หรือเนื้อความ

๓. บทลงท้าย (การปิดเรื่อง หรือ บทสรูป)

ขั้นตอนการเขียนเรียงความ

๑. กำหนดความมุ่งหมาย ของเรียงความเรื่องนั้น

๒. เลือกแบบการเขียน หรือโวหารการเขียนให้สอดคล้องกับ ความมุ่งหมายสำคัญ

๓. หารายละเอียดประกอบ และขยายความประเด็นต่างๆ ของโครงเรื่อง

๔. กำหนดภาคคำนำ ภาคเนื้อเรื่อง และภาคสรุป

ภาคคำนำควร มีลักษณะดังต่อไปนี้

๑. ทำให้ผู้อ่านสนใจ

๒. แนะหรือบอกความมุ่งหมายหรือแนวของเรื่อง

๓. ไม่ตั้งต้นไกลเกินไป และมีแนวนำเข้าสู่เรื่อง

๔ .ไม่ยาวเกินไป


ภาคเนื้อเรื่อง เป็นภาคสำคัญประกอบด้วย

๑. ข้อมูลในโครงเรื่อง ซึ่งเรียงตามลำดับเวลา ตามพื้นที่ ตามเหตุผล หรือ
ตามความสำคัญ

๒. ประกอบด้วยย่อหน้าแต่ละย่อหน้า ที่สื่อความคิดอย่างมีประสิทธิผล เหมาะสมตามความสำคัญของเนื้อเรื่อง

๓. มีความสัมพันธ์ระหว่างแต่ละประโยค แต่ละย่อหน้า

๔. มีรายละเอียดที่ชัดเจน ขยายความ ประกอบความ และสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้ชัดเจนเหมาะสมสอดคล้องกัน


ภาคจบหรือภาคสรุป การจบมักใช้ 2 วิธี คือ

๑. จบด้วย การย่อ คือนำเอาใจความสำคัญ ที่เป็นสาระอย่างแท้จริงมากล่าว
ในตอนท้าย ให้ผู้อ่านประทับใจเป็นการทบทวนอีกครั้ง

๒. จบด้วยการสรุปให้ตรงความมุ่งหมายสำคัญของเรื่อง ใช้วิธี สรุปความ เป็นประโยคบอกเล่า หรือประโยคคำถาม เป็นภาษิต หรือเป็นคำประพันธ์
ที่สอดคล้องกับเนื้อเรื่องก็ได้ภาคจบนี้ควรแยกเป็นย่อหน้าหนึ่ง และต้องสรุป
ความหมายสำคัญเอาไว้ในหน้านี้


ที่มาของข้อมูล http://www.geocities.com/taoliks/e007.htm

(เดี๋ยวตัวอย่างจะตามมาทีหลังนะครับ)


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 21:37
 วันนี้ผมได้คุยกะพ่อหลายเรื่อง  

เริ่มตั้งแต่เรื่องซื้อโมเด็มตัวใหม่ สำหรับ adsl

ถึงเรื่องเรียน เรื่องเพื่อน และเรื่องคนที่ผมคบอยู่ แหะๆ  

พ่อเคยพูดตรงๆกับผม ว่าพ่ออยากได้ลูกผู้ชายมาก

แต่ผมกับน้อง เป็นผู้หญิงทั้งคู่นี่สิ ฮาฮา

เลยอยากลองเขียนออกมาในแบบคำพูดของผู้ชายดู ขอห้าวนิดนึงฮะ





ผมได้เลือดของพ่อมาเต็มๆฮะ ทุกเรื่องเลยก็ว่าได้

ศิลปะ เพลง ดนตรี รสนิยม อาหาร นิสัย การวางตัวในสังคม

พ่อจึงเหมือนกับเป็นคนที่เข้าใจผมที่สุดในโลกแล้ว


แต่ผมไม่เคยบอกว่ารักพ่อเลย แม้แต่ครั้งเดียว

ผมเป็นคนพูดคำว่า รัก ยากมากฮะ ไม่ว่าจะกับใครก็แล้วแต่ เพื่อน หรือ กะทั่งแฟน


พ่อเป็นคนเจ้าชู้ฮะ พ่อจึงไม่ค่อยมีเวลาให้ผมกับที่บ้านเท่าไร

เพราะพ่อมีหลายบ้าน ซึ่งผมก็รู้ดี มาตั้งแต่เล็กๆแล้ว


พ่อผมเก่งมากฮะ พ่อเล่นดนตรี เป็นมือกีต้าร์ solo เคยประกวดด้วย

ส่วนเรื่องฝีมือนี่ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะไม่เคยเห็นพ่อเล่นนานแล้ว

แต่รูปถ่ายเก่าๆ กับกีต้าร์โทรมๆใส่กล่อง ที่อยู่ในตู้+ปิ๊กกีต้าร์หลายตัวในกล่อง

ก็เป็นหลักฐานสำคัญ แต่ผมไม่กล้าแตะต้องฮะ ของมันเก่าแล้วและผมจะซุ่มซ่าม

แต่แปลก ที่พ่อไม่อยากให้ผมเล่นกีต้าร์เท่าไร

พ่อซื้อคีย์บอร์ด และ คู่มือ พร้อมกับส่งผมไปเรียนคีย์บอร์ดที่โรงเรียนดนตรีสยามของยามาฮ่า

แต่ผมไม่รักดีฮะ ผมอยากเล่นกีต้าร์ ผมจึงไม่สนใจคีย์บอร์ดตัวนั้นเลย

ปัจจุบันนี้ หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ และผมก็เอาดีทางด้านกีต้าร์ไม่ได้ด้วย -*-

แหมๆ มันมีเหตุผลหลายอย่างนะฮะ  



พ่อผมหล่อฮะ ทันสมัยตลอดเวลา ดูดีตลอด เก็กสุดๆ นั่งดูทีวียังเท่เลยฮะ จริงๆนะเนี่ย

ผมรักพ่อมากเลย ผมอยากสนิทกับพ่อมากกว่านี้

แต่เพราะผมเป็นผู้หญิงที่แต่งตัวจัดพอตัว เวลาไปไหนมาไหนกับพ่อ

มักจะโดนคนอื่นมองว่าเป็น เสี่ยควงกับอีหนู ทู๊กที ให้ตายเถอะ



แม่บ่นเรื่องพ่อให้ผมฟังเสมอ ว่าพ่อนิสัยไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้

ผมก็ไม่ค่อยสนใจฮะ ฟังหูไว้หู เพราะที่แม่พูดมา เข้าตัวผมเกือบหมด - -'

ทุกครั้งที่ผมมีเรื่องอะไร พ่อจะเป็นคนนั่งฟังผมระบายทุกครั้ง

ผมร้องไห้โวยวาย ผมกระแทกข้าวของ ผมทุบโต๊ะ พ่อคอยห้ามด้วยคำพูดที่อบอุ่นเสมอ

พ่อเป็นผู้ชายคนเดียวในโลก ที่เห็นผมร้องไห้อย่างเต็มที่ และบ่อยที่สุด


พ่อห่วงเรื่องผมจะไปมิตติ้งมากฮะ ถึงขนาดจะไปงานด้วยในฐานะ

"สมาชิกเก่าของบอร์ดหลุดโลก" แต่ผมห้ามไว้แล้ว ไม่ต้องห่วง ฮาฮา

และผมพยายามถามว่าพ่อใช้ชื่อเมมว่าไร

พ่อไม่ตอบฮะ  ไม่รู้ว่าจำไม่ได้หรือว่าไม่ต้องการจะบอก


ผมเปิดกะทู้รูปมิตติ้งทั้งในบอร์ด และรูปเก่าๆที่ผมเซฟไว้ในเครื่องให้พ่อดู

พ่อบอกว่า ถ้าผมอยู่ในสังคมนี้แล้วผมมีความสุข พ่อก็ไม่ว่าไร

แต่ให้ดูแลตัวเองด้วย และอย่าใช้คำพูดพวกนั้นในชีวิตประจำวัน เด็ดขาด  





ผมบอกพ่อว่า ให้พ่อลองเข้ามาอ่านบอร์ดซังได้ ถ้าว่างๆ

และนี่เป็นสาเหตุที่ผม มาเขียนเรียงความเรื่องนี้ไว้ฮะ

ผมหวังว่าพ่อคงจะเปิดเข้ามาดูในนี้ ซึ่งผมจะพยายามดักให้พ่อเข้ามาให้ได้ ฮาฮา





เรียงความนี้ มอบให้กับ ผู้ชายเพียงคนเดียวที่ผมจะรักที่สุดในโลก

แม้ผมจะเป็นในแบบที่พ่อต้องการไม่ได้แต่ผมก็รักพ่อฮะ



..
(แบบนี้ไม่ค่อยตามรูปแบบเรียงความเท่าไรนะครับ)


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 21:40
 เรียงความเรื่อง...พระคุณแม่....ของเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนึง อายุ 11 ขวบ ผู้ซึ่งทำให้ใครหลาย ๆคนได้อ่านแล้วรู้สึกซาบซึ้งจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่เลยล่ะค่ะ

เรื่อง พระคุณแม่

แม่เป็นผู้ให้กำเนิดเรามา เป็นผู้มีพระคุณต่อเรามาก เราผู้เป็นลูกจึงควรมองย้อน
ถึงพระคุณแม่ที่มีต่อเรา

คุณแม่ของฉันไม่ใช่คนเด่นไม่ใช่คนดัง ไม่ใช่คนที่ดีทุกอย่าง คุณแม่เป็นผู้หญิงธรรมดา ๆ
คนหนึ่ง แต่สำหรับฉัน"แม่"เป็นผู้หญิงที่เก่งที่สุด แม่สามารถเลี้ยงฉันและพี่ ๆ ตั้งแต่เล็กจนโตด้วย
มือสองมือ แม่เป็นคำที่ฉันใช้พูดทุกวัน แม่สามารถทำงานหาเงินทุกวันโดยไม่มีวันหยุด ไม่บ่นสักคำ
และไม่เคยนึกถึงสุขภาพของตนเองเลย ตั้งแต่ฉันจำความได้ แม่ฝึกให้ฉันเดิน แม่ฝึกให้ฉันพูด สอนให้
อ่านหนังสือ แม่เปรียบเสมือนคุณครูคนแรกของฉัน เมื่อฉันป่วยแม่ก็จะคอยเฝ้าดูแลป้อนยา ป้อนน้ำ ป้อนข้าว
เช็ดตัวให้ แม่จึงเป็นแพทย์คนแรกของฉัน แม่เป็นแม่ครัวคอยทำอาหารอร่อย ๆ ให้ฉันกิน และแม่ก็ยังเป็นธนาคาร
ที่ไม่มีวันเงินหมด แม่พูดเสมอว่าสำหรับลูกแล้วแม่ยินดีให้ได้ทุกอย่าง เห็นได้ว่าแม่เป็นได้ทุกอย่างสำหรับลูก
แม่ส่งให้ฉันได้เข้าเรียนหนังสือในโรงเรียนที่ดีโดยไม่นึกถึงเงินที่ต้องจ่าย แม่ของฉันถึงแม้ร่างกายของท่านจะ
ไม่แข็งแรง ท่านก็ทำงานเพื่อหาเงินส่งฉันเรียน ฉันสงสารท่านมาก ฉันคิดว่าพระคุณของท่านทดแทนเท่าไหร่ก็
ไม่มีวันหมด แต่ฉันจะทดแทนพระคุณท่านให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะนี้ฉันทำได้แค่เพียงตั้งใจเรียน
และเป็นเด็กดีของแม่

เพราะฉะนั้นเมื่อฉันโตขึ้นฉันจะตอบแทนพระคุณท่านโดยเรียนให้จบปริญญา และฉันจะทำงานหาเงิน
เลี้ยงดูท่านเหมือนที่ท่านดูแลฉัน......

ปล.แม่ก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกอย่างไรที่ได้ยินเสียงของน้องลูกอ่านบทความนี้อย่างชัดถ้อยชัดคำบน
เวทีของ รร.ในวันแม่ที่ ทาง รร.จัดขึ้น รู้แต่ว่า.....น้ำตา....ไม่รู้ว่ามาจากไหน...มันไหลไม่ยอมหยุดเลย
มันคงเป็นน้ำตาแห่งความปลื้มปิติกระมั้ง

(มา 2ตัวอย่างแล้วนะครับ)


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 21:54
 เรียงความ ฉันรักคุณครู...
คนที่สำคัญในชีวิตของเราเป็นคนที่เราต้องพบ ต้องเจอและใช้ชีวิตร่วมกับเขา คนคนนี้จะเป็นคนที่คอยอบรมสั่งสอนให้เราทำให้เราเป็นคนดีนอกจากพ่อแม่ของเราแล้วก็ยังมีบุคคลอีกคนหนึ่ง คนคนนี้คือแม่คนที่สองของเราหรือคุณครูของเรานั้นเอง
คุณครูที่ฉันรักเป็นคุณครูสอน วิชาภาษาไทย โดยคุณครูท่านนี้มีชื่อว่า คุณครู กรรณิกา ไววิทยะ ในครั้งแรกที่ฉันได้พบกํบท่าน ท่านดูเหมือนว่าจะดุมากแต่เมื่อได้เริ่มเรียนกับท่านฉันเห็นว่าท่านไม่ดุเลยเหมือนคนละคนกับที่ฉันได้พบในครั้งแรก จากที่ฉันไม่ค่อยชอบวิชา ภาษาไทยเพราะเป็นวิชาที่เรียนยากและฉันเรียนไม่ค่อยรู้เรื่องเมื่อฉันได้เรียนกับคุณครูท่านก็มีวิธีการสอนในแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็นนำประสบการณ์ของตนเองมาเชื่อมโยงกับเรื่องที่จะเรียนและนำมาสอน บางที่ก็จะมีแบบฝึกหัดเล็กๆน้อยๆมาให้ทำ จึงทำให้เวลาเรียนสนุกและไม่เบื่อและท่านยังทำให้ฉันได้รู้จักกับ คุณลุงอาจินต์ ปัญจพรรค์
วันที่คุณลุงมาโรงเรียนพวกเราเสียใจมากที่ไม่ได้มาเห็นคุณลุง คุณครูก็เสียดายที่เราไม่ได้พบกับคุณลุง ท่านก็ได้ให้เราไปฟัง ศุ บุญเลี้ยง พูดแทนจะเห็นได้ว่าคุณครูนำแต่สิ่งที่ดีๆมาให้ฉันและเพื่อนๆ ฉันจึงรักคุณครูมาก บางครั้งคุณครูอาจจะไม่ค่อยมีเวลา แต่ท่านก็ยังสละเวลามาให้คำสอนหรือคำแนะนำกับเราเวลาที่เราไม่เข้าใจอะไรในบางเรื่อง
คุณครูไม่ได้ต้องการอะไรจากเรา ไม่ต้องการให้เราบอกว่า หนูรักคุณครูก็ได้ แต่เราเป็นนักเรียนเราก็ควรที่จะตอบแทนพระคุณท่านโดยเราอาจจะตั้งใจเรียนเชื่อฟังคำสั่งสอนของคุณครูไม่เพียงแต่คุณครู กรรณิกา ไววิทยะแต่เป็นคุณครูทุกๆคน ท่านก็จะปลื้มใจแต่ตัวเราก็จะมีความภาคภูมิใจ ถ้าเราปฏิบัติตามคำที่คุณครูตักเตือนฉันคิดว่าเราน่าจะประสบความสำเร็จในชีวิตแน่นอนอาจารย์กรรณิกา เป็นอาจารย์ที่ฉันรักและฉันก็จะต้องใจเรียนและเชื่อฟังคำสั่งสอนของท่าน
____________________

นี่เป็นความเห็นครับ

__________________


ขอให้เป็นเด็กดี คิดดีอย่างนี้ตลอดไป

การตอบแทนคนที่เรารัก ทำได้หลายรูปแบบ
รูปแบบหนึ่งก็อย่างที่หนูเขียนมา คือการตั้งใจเรียน
หรือพูดได้อีกอย่างคือทำหน้าที่นักเรียนให้ดีที่สุด
ทำหน้าที่ในทุกด้านของเราให้ดีเป็นการตอบแทนอีกแบบหนึ่งซึ่งจะทำให้เรา เติบโตและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ดี
_________________

หนูธนวรรณ ทราบ**เรื่องที่หนูเขียถึงคุณครูกรรณิาร์นั้น เป็นเรียนความในห้องเรียน, ลุงให้คะแนน 95ใน100 หนูต้องหัดเขียนให้มีฉาก มีบุคคล มีรื่องราวมีชีวิตชีวา มีรักใคร่ โกรธเคือง ยินดีตลอดเรื่อง จึงจะเป็นนวนิยายหรือ เรื่องสั้นเรือยาวที่มีSTORY ,มีบรรยากาศของความรักโลภโกรธหลง จึงจะมีลัษณะ
แห่งนวนิยาย จงดูแบอย่างของโบตั๋,สุวรรรี สุคนธา,ชไมภร แสงกระจ่าง หรืโสภาค สุวรรณ**อย่าท้อถย กรุงโรมไม่ไ้ส้างเสร็จในวันเดียว*** // (รหัสนี้แปลว่า"ไชโย" นวนิยายต้องมี
1-ฉาก
2-ตัวในรื่อง
3-คำสนทนา นักเรียของร.ร.กาญจาภิเษก ต้องอ่าน 3 ข้อที่ว่านี้ และทำให้ได้1ห้ากระดาษฟุลสแค้ป วส่งคุณหน่อยแห่งร้าน PICK &PAY เอามาส่งที่บ้านอาจินต์ ปัญจพรรค์ ในกรุงเทพ ฯ.*** ใครจะตามคณหน่อยมาก็ได้
_______________________


..
(ช่วยกันเขียนให้ถูกหลักการ จะเป็นการสบับสนุนภาษาไทยนะครับ)


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 22:07
 (เก็บมาฝากอีกขอรับ เพื่อเป็นตัวอย่างในการเขียน)
...








ตำรวจที่ดีมีคุณภาพ ที่ประชาชนต้องการ

โดย

ร.ต.อ.รัฐศาสตร์ ดียิ่ง  รอง สว.ศทส.บช.ตชด.


     “เคารพเอื้อเฟื้อต่อหน้าที่ กรุณาปรานีต่อประชาชน  อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก ไม่มักมากในลาภผล   มุ่งบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ดำรงตนในยุติธรรม กระทำการด้วยปัญญา รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต” คำกล่าวเหล่านี้เราได้ยินอยู่เป็นประจำในการปฏิบัติตนภายหลังการเข้าแถวสวดมนต์ตอนเช้าของทุกๆ วัน สิ่งดังกล่าวนี้เป็นเครื่องเตือนสติเราให้ระลึกเกี่ยวกับอุดมคติของเราในการปฏิบัติหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อยู่เสมอๆ

     ในสภาวะการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยในปัจจุบัน ท่ามกลางการแข่งขันเพื่อความอยู่รอดของมวลมนุษย์  สิ่งที่มีอยู่อย่างจำกัดในโลกใบนี้ไม่มีสิ่งใดที่ได้มาฟรี ๆ การเอารัดเอาเปรียบกันเพื่อแย่งชิงในวัตถุต่าง ๆ ย่อมก่อให้เกิดความเห็นแก่ตัว ไม่สมดุลตามหลักเกณฑ์ของสังคม   ทำให้มนุษย์ต้องกระทำทุกวิธีทางเพื่อความอยู่รอด โดยบางทีอาจละเลยหรือละทิ้งต่อวิธีการที่พึงปฏิบัติ  อาชญากรรมจึงปรากฏขึ้นตามความไม่สมดุลของสังคม โดยเฉพาะในปัจจุบัน สังคมที่มีความสลับซับซ้อนย่อมจะทำให้อาชญากรรมมีความซับซ้อนและรุนแรงมากยิ่งขึ้น ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จึงเป็นเสมือนตัวแทนของสังคมในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่เกิดขึ้น ผู้ที่จะเข้ามาเป็นตำรวจจึงต้องได้รับการปลูกฝังและอบรมขัดเกลาความเป็นตำรวจวิชาชีพ  เพื่อให้ประชาชนอุ่นใจว่าตัวแทนของสังคมเหล่านี้จะทำหน้าที่ปกป้องและคุ้มครองอภิบาลประชาชน ให้ปราศจากการคุกคามของเหล่าอาชญากร    โดยสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ในการปฏิบัติงาน ได้แก่ ความรู้ความสามารถในศาสตร์ด้านต่าง ๆ เช่น การสืบสวน การสอบสวน หลักจิตวิทยา สังคมวิทยา กฎหมาย  รัฐประศาสนศาสตร์ ฯลฯ นอกจากนี้จริยธรรมตำรวจก็เป็นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งของความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ด้วย  ในด้านจริยธรรมแล้ว ตำรวจก็จะต้องเป็นผู้มีคุณธรรมและจริยธรรมในตัวเอง ความสำนึกในหน้าที่ของความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ความซื่อสัตย์ สุจริต ความไม่เห็นแก่ตัว ความเสียสละ รวมไปถึงคุณธรรมอื่น ๆ ย่อมเป็นสิ่งที่ประชาชนคาดหวังและอยากเห็นในผู้ที่ได้รับเรียกว่า  ตำรวจ

     ดังนั้น ตำรวจจะต้องขยันหมั่นเพียรและศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ ๆ เพื่อให้ทันต่ออาชญากรและการเปลี่ยนแปลงของสังคม หากมิฉะนั้นประชาชนคนดีจะอยู่เป็นสุขได้อย่างไร ตำรวจไทยต้องเก่งและฉลาดกว่าโจร เราควรมาร่วมมือกันเป็นตำรวจที่ดีมีคุณภาพที่ประชาชนต้องการกันดีกว่านะครับ   สวัสดี...


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 22:27
 (ขอให้เขียนมาเถอะนะครับ)

(เก็บมาฝากอีกเรื่อง)








เรื่อง หลักการเขียนเรียงความ



หลักการเขียนเรียงความ



เรียงความ หมายถึง เป็นการนำความคิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ทั้งรูปธรรมและนามธรรม ที่ผู้เขียนสนใจและมีความรู้ในเรื่องนั้นดีที่สุด มาเรียบเรียงอย่างแจ่มแจ้ง ชัดเจน น่าอ่าน น่าสนใจ โดยอาศัยข้อเท็จจริง ความคิดประกอบด้วยจินตนาการของผู้เขียน ให้ผู้อ่านได้ทราบและเข้าใจ เนื้อเรียงที่จะเขียนเรียงความต้องมีขอบข่ายและความมุ่งหมายเฉพาะไม่กล่าวผิวเผิน ต้องมีตัวอย่างรายละเอียดต่าง ๆ สนับสนุนความคิดเห็นของผู้เขียน สิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องมีข้อเท็จจริง ซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญในการเขียน



องค์ประกอบของเรียงความ

รูปแบบของเรียงความประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วน คือ



1.  คำนำ ( การเปิดเรื่อง )
                2.  เนื้อเรื่อง ( เนื้อความ )
                3.  สรุป ( ปิดเรื่องหรือบทลงท้าย )

คำนำ คือ การเปิดเรื่องเป็นการเข้าสู่เรื่องที่จะเขียน เขียนให้น่าสนใจ เพราะเป็นส่วนสำคัญ ที่จะชักนำให้ผู้อ่านติดตามการเขียนอาจจะตั้งคำถาม สุภาษิต คำขวัญ หรืออาจจะยกคำจำกัดความมาเขียนก็ได้ ต้องมี  นำหน้า  น่าอ่าน ไม่ยาวเกินไป ไม่เขียนออกนอกเรื่อง

 

เนื้อเรื่อง หรือ เนื้อความ เป็นใจความส่วนใหญ่ของเรื่อง ก่อนเขียนต้องวางโครงเรื่อง เรื่องลำดับความก่อน - หลัง มีใจความสัมพันธ์กัน ในส่วนเนื้อความจะเป็นส่วนที่ยาวที่สุดของเนื้อเรื่องเนื้อหาต้องมีความเข้มข้นเต็มไปด้วยสาระ มีหลักฐานน่าเชื่อถือ มีเหตุมีผลและมีข้อเท็จจริงกับเนื้อเรื่อง สรุป เป็นการปิดเรื่อง เป็นการเขียนทิ้งท้ายให้ผู้อ่านเกิดความประทับใจ บทลงท้ายควรใช้ภาษาสั้นๆ กระชับ น่าอ่าน



ลักษณะของเรียงความที่ดี

1. มีเอกภาพ หมายความว่า เนื้อหาจะต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไม่กล่าวนอกเรื่อง ไม่ขึ้นอยู่กับการวางโครงเรื่อง



2. มีสัมพันธภาพ หมายความว่า เนื้อหาต้องมีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกันตลอดทั้งเรื่อง เกิดจากการจัดลำดับความคิดและการวางโครงเรื่องที่ดี และเกิดจากการเรียบเรียงย่อหน้าอย่างมีระเบียบ



3. มีสารัตภาพ หมายความว่า เรียงความแต่ละเรียงจะต้องมีสาระสมบูรณ์ตลอดทั้งเรื่อง ความสมบูรณ์ของเนื้อหาเกิดจากการวางโครงเรื่องที่ดี



รายวิชา ภาษาไทย ใบความรู้ที่ 2 ใช้ประกอบการสอน รหัสวิชา ท 305 เรื่อง การเขียนเรียงความ เรื่อง แผนการสอนที่ 12 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 “ ไทยรักไทย ไทยเจริญ “



ตัวอย่างเรียงความ : เรื่อง “ ไทยรักไทย ไทยเจริญ ” พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี



ไทยรักไทย ไทยเจริญ

หวนระลึกย้อนกลับไปเกือบ 800 ปี อันเป็นระยะเวลาก่อนกรุงสุโขทัยพระมหานครแห่งแรกของเราจะเจริญรุ่งเรือง ในเวลานั้นประเทศไทยหรือประเทศสยามนี้ยังไม่บังเกิด ชนเผ่าไทยปกครองกันเป็นแคว้นเล็กแคว้นน้อย ต่างก็เป็นอิสระแก่กันอยู่ใต้อิทธิพลของขอม พ่อขุนบางกลางท่าว เจ้าเมืองบางยาง กับพ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด ได้พร้อมใจกันกู้อิสรภาพเป็นผลสำเร็จ พ่อขุนบางกลางท่าวได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกทรงพระนามว่า “พ่อขุนศรีอินทราทิตย์” แห่งกรุงสุโขทัย



ในระยะนี้เป็นระยะที่ชาติไทยมีความรุ่งเรืองที่สุดระยะหนึ่ง ทั้งทางศาสนาศิลปกรรมและเศรษฐกิจการปกครอง พระมหากษัตริย์ทรงรักษาราษฎรประดุบิดารักบุตรของตน พระราชอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลขึ้นชื่อลือกระเดื่องไปทั่วทกทิศานุทิศ
ในปัจจุบันนี้ ประเทศไทยอันเป็นที่รักยิ่งของเรากำลังอยู่ในหัวเลี้ยวหัวต่อ ประเทศมหาอำนาจต่าง ๆ หรือพวกฝ่ายตรงข้ามกำลังแผ่อิทธิพลเข้าสู่ประเทศไทยเราอย่างเห็นได้ชัด จากการโฆษณาชวนเชื่อ และการนำทหารผ่านไปรบประเทศอื่น ซึ่งเราจำต้องยอมอย่างหน้าชื่นอกตรม แผ่นดินรอบ ๆบ้านเราร้อนเป็นไฟไปทั่วทุกหย่อมหญ้า เราก็ได้เห็นตัวอย่างจากประวัติศาสตร์มาแล้ว เมื่อใดเรามีความรักความสามัคคีซึ่งกันและกัน เมื่อนั้นชาติจะเจริญรุ่งเรือง เมื่อใดเราขาดความสามัคคีเมื่อนั้นเราจะเสียเอกราชความเป็นไท



ครั้งต่อมาอาณาจักรสุโขทัยเสื่อมอำนาจลง กรุงศรีอยุธยาเรืองอำนาจเป็นราชธานีอยู่ถึง 417 ปี ฉนั้นเหตุการในประวัติระยะนี้จึงควรแก่การทรงจำยิ่งนักบรรพชนชาวอยุธยาได้สร้างสรรค์ความเจริญนานัปการแก่ชาติ ท่านเหล่านั้นได้สละแล้วซึ่งเลือดในกายจนกระทั่งชีวิตและรักษาความเป็นไทยที่ท่านรักไม่มีผู้ใดจะคัดค้านได้ ถ้าข้าพเจ้าจะกล่าวว่าชาวไทยเป็นคนกล้าหาญเป็นเชื้อชาติเผ่าพันธ์นักรบ แต่เหตุไฉนไทยเราจึงปราชัยย่อยยับ ต้องตกเป็นเมืองประเทศราชของพม่าข้าศึกทั้งสองครั้งสองคราเล่า เมื่อพิจารณาถึงเหตุผลแล้วก็พอจะสรุปได้ว่าเราขาดความรัก ความสามัคคีในระดับหมู่คณะชาวไทยด้วยกัน เรารักความเป็นใหญ่ส่วนตัว เรื่องทะเลาะเบาะแว้งส่วนตัวเหนือความปลอดภัยของชาติ ความผิดใจกันระหว่างสมเด็จพระมหินทราธิราชกับสมเด็จพระมหาธรรมราชา ทำให้สมเด็จพระมหาธรรมราชายืมมือต่างประเทศ คือ พม่าเข้ามา เป็นการซักน้ำเข้าลึก ซักศึกเข้าบ้าน ทั้งพระยาจักรียังเข้ามายุแหยให้แตกความสามัคคีกันอีก แล้วชาติไทยจะอยู่ได้อย่างไร การเสียกรุงครั้งที่ 2 ก็เป็นไปในทำนองเดียวกันนี้ กล่าวคือ เป็นการอิจฉาริษยากันเอง ภายในผู้นำฝ่ายไทยด้วยกัน



ในปัจจุบันนี้ ประเทศไทยอันเป็นที่รักยิ่งของเรากำลังอยู่ในหัวเลี้ยวหัวต่อ ประเทศมหาอำนาจต่าง ๆ หรือพวกฝ่ายตรงข้ามกำลังแผ่อิทธิพลเข้าสู่ประเทศไทยเราอย่างเห็นได้ชัด จากการโฆษณาชวนเชื่อ และการนำทหารผ่านไปรบประเทศอื่น ซึ่งเราจำต้องยอมอย่างหน้าชื่นอกตรม แผ่นดินรอบ ๆบ้านเราร้อนเป็นไฟไปทั่วทุกหย่อมหญ้า เราก็ได้เห็นตัวอย่างจากประวัติศาสตร์มาแล้ว เมื่อใดเรามีความรักความสามัคคีซึ่งกันและกัน เมื่อนั้นชาติจะเจริญรุ่งเรือง เมื่อใดเราขาดความสามัคคีเมื่อนั้นเราจะเสียเอกราชความเป็นไท



“ ชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล แม้ชาติย่อยยับอับจน บุคคลจะสุขได้อย่างไร ”



เพราะฉะนั้นชาวไทยจงร่วมรักร่วมสมัครสามัคคีกันไว้ถ้าเผื่อมีข้าศึกมาย้ำยีบีฑาก็จะสู้ได้เต็มแรง ก้อนหินน้อยใหญ่หลาย ๆ ก็สามารถรวมกันเป็นภูผาหลวงได้ฉันใด คนไทยแต่ละคนรวมกำลังเข้าด้วยกันก็สามารถสร้างชาติไทยให้เจริญถาวรได้ฉันนั้น ข้อสำคัญที่สุดคือ ไทยเราอย่าทำลายกันเอง ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ให้ช่วยกันบำรุงรักษาประเทศชาติศาสนาและวัฒนธรรมให้รุ่งเรืองถาวรอยู่คู่ฟ้าดิน



เหตุที่ชาติไทยเจริญอยู่ได้ เป็นเพราะชาวไทยรักชาวไทยด้วยกัน ต่างก็มั่นอยู่ในความสามัคคีธรรม โดยถือแม้ตนเองเป็นเชื้อชาติใดนับถือศาสนาใดก็ตาม ต่างก็เป็นข้าแผ่นดินเดียวกันทั้งนั้น เมื่อถือได้เช่นนี้จิตใจของคนไทยก็ย่อมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เมื่อไทยรักไทย ไทยต้องเจริญถาวรอย่างไม่ต้องสงสัย


หนังสือประจำปี คณะอักษรศาสตร์ 2516


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 22:35
 (อีกเรื่องครับ)

..








พ่อของฉัน
พ่อคือพระในดวงใจผู้ใหญ่ยิ่ง           ผู้ที่ให้ทุกสิ่งที่ลูกหวัง

ผู้ที่ให้ความรักความผูกพัน                  ตั้งใจมั่นตอบแทนคุณพ่อเราเอย

               คำว่า  พ่อ  อาจจะกล่าวได้ว่า  ไม่มีสิ่งใดมาเทียบเทียมได้เลย  พ่อคือผู้สร้าง  พ่อคือผู้ให้  ผู้มอบชีวิตให้แก่เรา  ผู้ที่ให้ความดูแลความห่วงใย  ให้ความรุกความเมตตาเสมอมา  เราจะใช้น้ำในมหาสมุทร  

แทนน้ำหมึกปากกา  ใช้ท้องฟ้าที่รามแทนกระดาษ  ก็มิอาจจะเขียนพระคุณของท่านหมด

               พ่อเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ได้สร้างชีวิตของเด็กตัวน้อยๆ  เกิดมา  พ่อเป็นผู้ที่ให้การดูแล  ฟูมฟักรักษาชีวิตของลูกเสมอมา  เป็นผู้สร้างอนาคตของลูกให้การศึกษาสร้างชีวิตที่มีคุณภาพแก่ลูก  พ่อไม่ใช้เป็นเพียงแต่ผู้ให้ชีวิตเท่านั้น  แต่พ่อเป็นผู้ที่ให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่ชีวิตลูก  สู้เหนื่อยยากลำบากกาย  หาเงินมาเลี้ยงดูลูกให้มีชีวิตที่ดี  มีอาหารดีๆ  มีความเป็นอยู่ที่ดี  พ่อเป็นดั่งร่มโพธิ์ร่มไทรของลูก  ที่คอยปกป้องภัยอันตรายต่างๆ  ไม่ให้มากล่ำกลายลูก  เมื่อยามลุกกมีทุกข์พ่อก็พยายามหาแนวทางแก้ไขให้ความทุกข์ของลุกนั้นคลายหายไป  เมื่อยามลุกน้ำตาตกแล้วใครเล่าละทีน้ำตาตก  ก็พ่อของเราอีกนั้นแหละ  เมื่อยามที่พ่อมีความสุข  พ่อก็ย่อมจะมีความสุขไปด้วย  ความหวังสูงสุดที่พ่อมีต่อลุก  คือ  อนาคตที่ดี  การที่ลูกมีการศึกษาสูงๆ  มีงานทำดีๆ  เพื่อที่จะทำให้ลูกมีหน้ามีตาในสังคม  ไม่ด้อยกล่าคนอื่นเขา  เป็นคนดีในสังคม  นี้แหละเป็นความหวังที่พ่อตั้งไว้

               พระคุณของพ่อจะเขียนลงใจกระดาษสักร้อยแผ่นพันแผ่น  ก็มิอาจจะบรรยายถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของท่านหมด  แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ  การทดแทนพระคุณของท่านให้เหมือนกับที่ท่านได้เคยฟูมฟักรักษาเรามาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย  สิ่งสำคัญที่สุดที่เราทำได้ในตอนนี้  คือการเชื่อฟังคำสั่งสอนของท่าน  ไม่ให้ทำตัวเกเร  ตั้งใจเรียนให้มาก ๆ  เมื่อยามที่ท่านแก่เฒ่าก็ต้องดูแลท่านเอาใจส่าให้เหมือนกับที่ท่านเคยเหนื่อยกาย  ดูแลเรามาตั้งเล็กจนเติบใหญ่ถึงป่านนี้  คอยดูแล  ป้อนน้ำ  ป้อนข้าว  รักท่านให้สมกับที่ท่านรักเราดั่งแก้วตาดวงใน

               ข้าพเจ้าเป้ฯลูกคนหนึ่งที่ยากจะตอบแทนพระคุณของพ่อ  แต่ข้าพเจ้าเสียใจมากที่ข้าพเจ้ามิเคยได้ตอบแทนพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพ่อเลย  ท่านก็มาจากข้าพเจ้าไปเสียก่อน   สิ่งที่ข้าพเจ้าทำได้ในตอนนี้ก็แค่ยืนมองรูปถ่ายของท่านอวยพรให้พ่อได้มาเป็นพ่อของฉันอีกครั้ง  ข้าพเจ้าคิดว่าเพื่อๆ  ทุกคนที่พ่อของคุณยังมีชีวิตอยู่กับคุณ  จงรีบตอบแทนพระคุณของท่านเสียตั้งแต่วันนี้เถอะค่ะ  ก่อนที่จะไม่ได้ตอบแทนพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพ่อเลย  เหมือนข้าพเจ้า


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 22:46
 (อีกครั้งครับ หวังว่าคงยังไม่เบื่อ)






เรียงความเนื่องในวันพ่อ

รางวัลอันดับที่ ๑

               จากดวงดาวแห่งความศรัทธา  กำเนิดเจ้ามาด้วยความรักอันยิ่งใหญ่  เจ้าคือแก้วตาดวงใจ  สายใยลูกโซ่แห่งความรัก  ผ่านลมฝนผ่านร้อนผ่านหนาว ใต้ร่มเงาให้ใจคอยพักพิง  ลูกเอยพ่อเคยพร้อมทุกสิ่ง  บางสิ่งหายไปกับตา  แม่เจ้าเหมือนแก้วตา  ด่วนลาพ่อลาเจ้าไป  ลูกรักจงอย่าได้หวั่นเกรง  เพลงที่แม่กล่อม  จากนี้พ่อจะร้องเอง ใครจะมาข่มเหงไม่มีวัน  หลับเถิดหนาแก้วตาดวงใจ  หลับให้สบายไม่นานคงพบกัน   จากไปไม่ใช่ชั่วนิรันดรสักวันพ่อจะตามไป  คุ้มครอง เจ้าคือดวงดาวน้อยของพ่อ  จับมือพ่อเอาไว้  พ่อจะพาเจ้าเดินข้ามไป  สู่ปลายทางที่ดี ไม่มีรักครั้งไหน  รักมากแค่ไหนยิ่งใหญ่เกิน   ยิ่งใหญ่เกินเหนื่อยแค่ไหนไม่ท้อ  ทนได้เสมอขอให้ลูกมีความสุข  ให้เจ้าเดินต่อไป ไม่น้อยหน้าใคร ๆ

               ถ้าพูดถึงพ่อ คงไม่มีใครหรอกที่เกิดมาโดยไม่มีพ่อ  แต่เราจะได้มีโอกาสเห็นหน้าพ่อหรือไม่นั้น  ก็ขึ้นอยู่กับบุญวาสนาของเรา  บางคนเกิดมามีทั้งพ่อมีทั้งแม่ก็ถือว่าเป็นบุญวาสนาของเขาไป  แต่มีอีกหลายคนที่เกิดมาอาภัพนัก  มีแต่ผู้เป็นพ่อคนเดียวเท่านั้น    แต่เขาก็มีชีวิตอยู่ได้อย่างสบายเพราะสามารถเป็นได้ทั้งพ่อเป็นได้ทั้งแม่ และเป็นได้ทั้งเพื่อน   ยามใดที่เราท้อแท้พ่อก็คอยให้กำลังใจ  ยามที่เราร้องไห้พ่อก็คอยปลอบโยนเรา  พ่อสามรถทำให้เราได้ทุกอย่าง  เมื่อตอนที่ฉันยังเด็กพ่อเคยเล่าให้ฟังว่า พ่อเลี้ยงดูฉันมาเป็นอย่างดี บางครั้งพ่อชงนมให้ฉันกินในยามที่ฉันร้องไห้  ในคืนที่ฝนตก พ่อกอดฉันให้ความอบอุ่นแก่ฉัน  จนฉันหลับไปในอ้อมกอดของพ่อ  ฉันได้รู้สึกถึงความอบอุ่นทุกครั้งที่พ่อกอดฉัน ฉันซาบซึ้งถึงความรักความเอ็นดูจากพ่อทุกครั้งที่พ่อจูบแก้มฉัน พ่ออบรมสั่งสอนฉันให้ฉันเป็นเด็กดี  พ่อไม่เคยตีฉันเพียงแต่ทุกครั้งที่ฉันทำผิดพ่อจะดุฉัน  เมื่อฉันเรียนสูงขึ้นพ่อต้องไปทำงาน บางครั้งเป็นเดือนกว่าที่พ่อจะกลับ ฉันต้องอยู่กับแม่ แม่เองก็รักและเอ็นดูดูฉันได้ไม่น้อยไปกว่าพ่อเลย  บางคืนแม่สะอื้นร้องไห้ ลูกแกล้งหลับไปทั้งที่ได้ยินเสียงสะอื้นของแม่ พ่อทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุขสบาย  ความรักของพ่อที่มีให้กับฉันมันไม่สามารถที่จะทดแทนได้หมดเลย  แต่ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อมีความสุขให้พ่อสบายใจ  ฉันจะเป็นลูกที่ดีของพ่อและแม่  แต่บางคนอาจจะไม่เป็นเช่นนั้น  ลูกบางคนตอบแทนพระคุณของพ่อโดยการทำตัวเกเร  เหลวไหลไม่ตั้งใจเรียน บ้างก็ติดยาเสพย์ติด ซึ่งก็เท่ากับเป็นการทำลายอนาคตของตัวเอง  ทำลายความหวังของพ่อ  พ่ออยากให้เรามีงานดี ๆ ทำ  เพื่อที่จะได้สบายในภายภาคหน้า มิหนำซ้ำลูก ๆ บางคน  เมื่อพ่อบังเกิดเกล้าของตัวเองแก่ชรา ก็พาพ่อไปทิ้งยังบ้านพักคนชรา  โดยไม่คิดจะเหลียวกลับมาดูแลพ่อเลย  นี่หรือผลตอบแทนที่เรามีให้กับพ่อ  บางครอบครัวมีลูก 4 คน 5 คน แต่ไม่มีใครเลยสักคนที่จะสามารถเลี้ยง

ดูพ่อได้  เราเคยคิดบ้างไหมว่าที่ลูกกี่คนพ่อเลี้ยงได้อย่างสบาย  แต่ลูกคนจะดูแลพ่อในยามชราได้   พ่อไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าความรักความห่วงใย   ถึงแม้กาลเวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหน  ความรักของพ่อที่มีให้กับลูกก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง  และไม่เคยลดน้อยลงมีแต่จะเพิ่มขึ้น ๆ ไม่มีวันที่จะสิ้นสุด

               แต่ฉันก็ยังมีพ่ออยู่อีกหนึ่งคน  ที่คอยดูแลฉันอยู่ห่าง ๆ นั้นคือในหลวงของเรานี้เอง  พ่อเพียงคนเดียวสามารถที่จะดูแลลูก ๆ  กว่าเจ็ดสิบล้านคนได้  หยาดเหงื่อของพ่อคือความเจริญและความมั่นคงของประเทศ   พระองค์สามารถเดินไปได้ทุกที่  ถึงแม้หนทางจะยากลำบากสักเพียงใด  พ่อไม่เคยบ่นสักคำว่าเหนื่อย  พ่อทรงจัดทำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริขึ้นมากมาย   อาทิเช่น โครงการรักบ้านเกิด  โครงการพัฒนาประมงพื้นบ้านเป็นต้น  พ่อทรงช่วยเหลือลูก ๆ ทุกวิถีทาง  พ่อพยายามให้ลูกทุกคนได้เรียนหนังสือ  พ่อทรงช่วยเหลือชาวเกษตรทุกพื้นที่  พ่อทรงบริจาคปุ๋ยให้ชาวสวน  ชาวนา เมื่อฟูดแล้งมาถึง พ่อทรงคิดการทำฝนเทียมขึ้น เพื่อไม่ให้ชาวเกษตรกรต้องได้รับความเดือดร้อน  ยามใดที่เกิดอุทุกภัย พ่อก็ทรงส่งเครื่องยังชีพไปให้ลูก ๆ พ่อต้องยอมสละความสุขของตนเอง เพื่อให้ลูก ๆ มีความสุข  แล้วเราได้ตอบแทนอะไรให้แก่พ่อบ้าง บางคนอาจจะตอบว่าทำมาตั้งหลายอย่างแล้ว  แต่บางคนแคคิดก็ยังไม่เคย  หยุดคิดสักนิด  ก่อนที่จะสายเกินไป   ประเทศไทยจะเจริญได้   ถ้าเราทุกคนร่วมมือกัน

               ดังนั้นคงไม่สายเกินไปที่เราจะทดแทนพระคุณของพ่อ   พ่อคือคนที่เรารักและพ่อคือคนที่เรารัก  เราควรที่จะรักพ่อบ้าง  ห่วงใยพ่อบ้าง  ดูแลพ่อให้ดีกว่านี้  อย่าได้ทำให้พ่อเสียใจอีกเลย   บอกรักพ่อให้ทุกวัน  ให้พ่อได้ชื่นใจ  สิ่งที่พ่อต้องการ คือความรักจากเรา  ให้เราเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่   เพียงแค่นี้ท่านก็มีความสุขแล้ว   ตอบแทนพระคุณของพ่อตั้งแต่ตอนนี้  บอกความในใจบางอย่างให้พ่อฟัง  ว่า  พ่อค่ะหนูรักพ่อมากที่สุดในโลกเลยค่ะ เพียงแค่แคนี้พ่อก็เป็นสุขแล้ว

........................................................................................................

นางสาวนุชนาถ   สัณห์พานิชกิจ   นักเรียนชั้น  ม. 5/8


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 22:49
 (อันนี้ที่ 2ครับ)


























รางวัลอันดับที่ ๒
เรียงความ”วัน พ่อ”
               พ่อก่อกำเนิดชีวิตของลูก  เมื่อลูกถือกำเนิดเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัว  พ่อก็เริ่มเตรียมตัวสร้างอนาคตไว้คอยท่า  แต่พ่อก็ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น  พ่อยังสานพัฒนาความเจริญเติบโตทั้งร่างกายและจิตใจตลอดจนสติปัญญา  พ่อต้องการให้ลูกเป็นคนดี  เป็นคนฉลาด  มีความสำเร็จในชีวิต และรอดพ้นจากทุกข์โศกโรคภัย

               พ่อต้องมีภาระที่ต้องเตรียมความพร้อมให้แก่ลูก  พ่อเติมแต่งให้ลูกได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆอันมีคุณค่า  พ่อทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ  เพื่อจะได้มีเงินให้ลูกเรียน  ให้ลูกได้สบาย  ถึงแม้ว่าพ่อจะเหนื่อยกับการหาเงิน  แต่พ่อก็มีความสุข เมื่อเห็นลูกรักมีความสุข  พ่อเป็นครูคนแรกที่ชี้โลกกว้างและสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูก  เป็นครูตลอดเวลาและตลอดชีวิต  พ่อจะให้ความรัก ความเข้าใจ  ความห่วงใยอาทรแก่ลูก  โดยยากที่จะหาจากผู้อื่น  พ่อเป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุดสำหรับลูก  เมื่อใดที่พ่อรู้ว่าลูกมีความทุกข์  พ่อก็พลอยเป็นทุกข์ไปด้วย  พ่อเป็นคนแรกที่เห็นใจและเข้าใจลูก  พ่อเป็นผู้ที่คอยให้แสงสว่างแก่ลูกและคอยชี้แนวทางให้แก่ลูก  พ่อต้องรับภาระมากมายในการดูแลลูก  พ่อเป็นผู้บ่มเพาะคุณธรรม  และลักษณะนิสัยที่ดีงามให้แก่ลูกโดยตั้งแต่ยังอ่อนเยาว์ด้วยการสร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมในบ้านที่มีความแจ่มใส  สะอาด  มีระเบียบ  ลูกเรียนรู้โดยที่พ่อเป็นผู้ช่วย  พ่อเปิดโอกาสให้ลูกได้สัมผัส  สัมพันธ์  เรียนรู้โดยที่พ่อคอยดูอยู่ห่าง ๆพ่อคอยแนะนำเมื่อลูกสงสัย  จัดหาสื่อที่มีคุณภาพ  พ่อคอยชี้ทางที่ถูกต้องให้แก่ลูก  คอยป้องกันทางเสื่อมและเสี่ยงของชีวิตลูก  พ่อคอยบ่มเพาะ  ปลูกฝัง  ขัดเกลาอบรมบ่มนิสัยของลูกโดยที่พ่อไม่รู้สึกรำคาญหรือเหนื่อยกับการเลี้ยงลูกเลย  พ่อยอมทุกอย่างเพื่อให้ลูกได้ดี  และประสบความสำเร็จในชีวิต

               ถึงแม้ว่าพ่อจะไม่กล่าวคำว่า “ รัก ”  ให้ลูกฟังแต่ลูกทราบว่าพ่อรักลูกมาก  พ่อเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตลูก  พ่อยอมเหนื่อย  ยอมเจ็บ  ในความคิดของพ่อมีแต่อยากให้ลูกสบาย  พ่อจะมีความสุขถ้าลูกมีความสุข  พ่อจะมีทุกข์ถ้าลูกมีทุกข์  พ่อมีพระคุณกับลูกมาก  ลูกจะไม่มีวันลืมพระคุณของพ่อเลย  พ่อคะ  ลูกอยากบอกว่า  “ ลูกรักพ่อมากค่ะ ”

………………………………………………

เด็กหญิงสุณีย์  เจ๊ะมูดอ  นักเรียนชั้น ม.2/5


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 22:54
 (จัดให้นะครับ)








รางวัลอันดับที่ ๓


เรียงความ “วันพ่อ”

               เนื่องในวันที่ 5 ธันวาคม  ของทุกปี  เป็นวันพ่อแห่งชาติ  เราทุกคนคงรู้ว่ามันยิ่งใหญ่ขนาดไหน  อันเป็นวันที่ประเสริฐอีกวันหนึ่ง  คำว่าพ่อ  ถึงแม้เป็นคำสั้น ๆแต่กินใจใครทุกคนบนโลกนี้  เพราะทุกคนมีพ่อ  เป็นที่รักและปรึกษา  คอยอบรมสั่งสอนเราให้เป็นคนดีในสังคมและประเทศชาติ  การที่พ่อยอมเหนื่อยมาทั้งปี ก็เพื่อหาเงินเข้าสู่ในครอบครัว  ส่งเรียนหนังสือให้สูง ๆเพื่อเราจะได้มีหน้ามีตาในสังคมแล้วก็มีความรู้เหมือนคนอื่น อย่าได้เหมือนพ่อเลย

               พ่อเคยบอกดิฉันอยู่เสมอว่า  ในสมัยที่เขายังเป็นเด็ก เขาเรียนหนังสือจบแค่ ป.4  เพราะตอนนั้นไม่มีโรงเรียนที่จะเรียนแล้วไม่มีครูที่จะสอน ไม่เหมือนสมัยนี้ เพราะตอนนี้มีโรงเรียนที่จะเรียน  มีครูที่จะสอน   แต่ไม่มีเด็กที่จะเรียน  คิดว่าตัวเองนั้นรวยแล้วไม่ต้องเรียนหนังสือก็ได้  เพราะมีเงินอยู่แล้ว  ไม่จำเป็นที่จะต้องมีความรู้  แต่อยากบอกว่าคิดผิดไม่เคยนึกถึงคนอื่นบ้างเลย  คนที่ด้อยโอกาสไม่มีเงินที่จะเรียน   ดังนั้น พ่อบอกดิฉันว่าลูกจะต้องตั้งใจเรียนให้สูง ๆอย่าคิดว่าเรามีเงินแล้ว  เรารวยแล้วไม่จำเป็นต้องเรียน  แต่ความจนความรวยนั้นไม่จำเป็นเลยสักนิด  สิ่งจำเป็นก็คือ  ความรู้  ที่จะนำให้เราสำเร็จได้

               พ่อ ในความเป็นพ่อก็อยากเห็นลูกมีอนาคตที่ดี  พ่อเคยบอกว่าการที่ลูกเป็นผู้หญิง  เป็นกุลสตรี  จะต้องเป็นคนกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ  แต่ถ้าเราเป็นคนอกตัญญู ก็ไม่ประสบผลดีต่อเรา  จะเป็นคนที่มีปัญหา  และในฐานะที่ดิฉันเป็นลูกของท่านคนหนึ่ง  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ตาม  แล้วเราในฐานะที่เป็นลูกของท่านเราอย่าได้ทำให้ท่านต้องเสียใจเพราะเราเลย  การที่ท่านเคยดุด่าว่าเรา ไม่ใช่เขารังเกียจเพียงแต่เขารักเรา  อยากให้เราเป็นคนดี  และสุดท้ายนี้อยากบอกท่านว่ารักพ่อที่สุดในโลก  และถ้าหากชาติหน้ามีจริง  ก็ขอให้เกิดเป็นลูกของท่านทั้งสอง  ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้า  ลูกคนนี้ก็ภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกของท่าน

               สำหรับคำกลอนข้างล่างนี้  เป็นบทกลอนที่มาจากใจจริงของลูกคนนี้  เพื่อเป็นคำขวัญให้แด่ท่านที่เคารพรักของเราทุก ๆคน

อันตัวท่านชื่อว่าพ่อที่แสนรัก
แม้ห่างไกลหัวใจยังห่วงหา

               อันตัวฉันชื่อว่าลูกของท่าน

ท่านคือ พ่อที่รักและเข้าใจความเป็นฉัน

               อันตัวท่านชื่อว่าพ่อที่รู้ใจ

แม้ห่างไกลหัวใจยังคิดถึง

...........................................................................

เด็กหญิงกาสม๊ะ   มีรีซี  นักเรียนชั้น ม.2/13


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 22:55
 เรียงความ”พ่อ”
               คำว่าพ่อเป็นคำสั้น ๆ เป็นคำที่กล่าวได้ง่าย ๆ แต่คำ ๆนี้ มีความหมายอันล้ำค่า  ที่ยากเกินบรรยาย มันคงไม่มีวันหมดกับความหมายที่แสนลึกซึ้งและมีค่า  ต่อให้เอากระดาษสมุดเล่มหนึ่งมาเขียนบรรยายว่า  คำว่าพ่อหมายถึงอะไร  ไม่ใช่แค่ผู้ดูแล   เพื่อให้เราเติบโตเท่านั้น  และไม่ใช่เป็นได้แค่พ่อเรา ท่านเป็นได้ทั้งเพื่อน  เป็นได้ทั้งครู  และเป็นได้ทุอย่างที่ท่านคิดว่าเป็นแล้ว  ทำให้เรามีความสุข  ความหมายที่กล่าวมานั้น เป็นแค่ส่วนหนึ่งของคำว่าพ่อ  แต่ยังมีอีกมากมายที่ยังไม่ได้กล่าว
นับเป็นหมื่นเป็นแสนความหมาย
               ทุกคนคงเคยได้ยินเพลงใครหนอ  โดยเฉพาะบทแรกที่กล่าวว่า  ใครหนอรักเราเท่าชีวี   ใครหนอปรานีไม่มีเสื่อมคลาย   ใครหนอรักเราใช่พียงรูปกาย  รักเขามิหน่ายมิคิดทำลายใครหนอ...  คงไม่ต้องบรรยายและตอบว่าเป็นใคร  เขาก็คือ บิดาหรือพ่อของเรา  บุญคุณของพ่อ  ทุกคนคงทราบแล้วว่า ท่านเคยทำอะไรให้กับเรา  ปัจจุบันนี้ที่ทุกคนได้มานั่งเล่าเรียนและศึกษาตรงนี้  ทุกคนคงรู้ว่าใครเป็นคนส่งเราให้มาเรียนหนังสือ  เงินทุกบาททุกสตางค์ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ล้วนเป็นหยาดเหงื่อแรงกายพ่อทั้งสิ้น  กว่าจะได้มาบาทสองบาทไม่ใช่เรื่องง่าย ๆแต่พ่อก็ทนเหนื่อยยากลำบาก  เพื่อจะนำเงินที่พ่อได้ไปเลี้ยงลูก ๆให้ลูก ๆมีความเป็นอยู่ที่ดี  พ่อไม่ต้องการเห็นลูกอดอยากปากแห้ง  แต่ต้องการให้ลูก ๆมีความสุข  แม้ว่าท่านจะทุกข์ก็ตาม  พ่อยอมอดให้เราอิ่ม  ถึงแม้พ่อจะไม่ได้กินให้อิ่มหนำสำราญใจ  แต่พ่อก็ทนอยู่ได้  เพื่อใครกันเล่าถ้าไม่ใช่เพื่อลูก บุญคุณของพ่อ ทุกอย่างที่พ่อทำพ่อไม่ต้องการ  สิ่งตอบแทนจากลูก  และไม่ได้ทำเพื่อหวังอะไรจากลูก  นอกจากหวังให้เราเป็นคนดีเท่านั้น  แค่นี้เราทำให้พ่อไม่ได้หรอกหรือ

               ลูก ๆ ทุกคนคิดว่าทุกครั้ง ที่พ่อตีที่พ่อด่า พ่อนั้นไม่รักเรา  ตีเราแรง ๆ  ทำให้เราเจ็บเรารู้ไหมว่าพ่อเจ็บมากกว่าเรา  ท่านไม่ต้องการตีเราเลยแต่เราทำผิด   การที่ท่านตีเรานั้น  ท่านฝืนใจทำขนาดไหนเราไม่รู้  แต่ถ้ารู้เราจะเข้าใจ  เพราะความไม่เข้าใจ  ทำให้ปัจจุบันนี้เด็กบางคน  หลงติดยาเพราะความน้อยใจที่พ่อตี  แต่การตัดสินใจของเด็กนั้นทุกข์    ใช่ทุกข์เพียงตัวเขาคนเดียว คนที่ทุกข์มากกว่าเขาและเสียใจมากกว่าเขาคือพ่อเขาก็ยังไม่รู้อีก  สองมือที่อุ้มชูลูกน้อยหวังชุบเลี้ยงด้วยชีวิตให้เขาเป็นคนดี  สองมือที่นิ่มนวลอ่อนโยน  บอบเบาบริสุทธิ์  อุ้มลูกอย่างเบา ๆ  เพราะกลัวลูกเจ็บ  กล่อมลูกนอนให้หลับให้ลูกพักผ่อนได้เต็มที่   และสองมือนี้ที่คอยเช็คอุจจาระให้เรา  ป้อนข้าวป้อนน้ำ  คอยปัดยุงให้เรา    เรานั่งบนตักพ่อแล้วเราทำการปัสสาวะ  มีไหมที่พ่อจะไม่ล้างให้เรา  จะรังเกียจปัสสาวะเรา ไม่มีแน่  พ่อล้างพ่อป้อนด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรัก  ความห่วงใยเกิดมาจากสองมือของพ่อใช่ไหม  สองมือที่ยิ่งใหญ่หาสิ่งใดเทียบไม่ได้

               ถ้าวันนี้ทุกคนจะตอบแทนบุญคุณของพ่อ  เรายังพอช่วยเหลืออะไรท่านได้ เราก็ควรจะทำ  เช่น  กวาดบ้าน  ถูบ้าน  ยกน้ำให้ท่านดื่ม  เมื่อท่านกลับมาจากที่ทำงานเหนื่อย ๆเมื่อท่านแก่  ท่านคงจะทำอะไรไม่ได้  เราเสียอีกที่ต้องทำให้ท่าน  เราต้องป้อนน้ำป้อนข้าวให้ท่าน  คอยเลี้ยงดูท่าน  เมื่อยามท่านแก่เฒ่า  และที่สำคัญต้องคอยล้างอุจจาระของท่าน  ถ้าใครรังเกียจอุจจาระของพ่อ  คนนั้นถือว่า เนรคุณ   แล้วเราไม่ควรลืมว่า  เมื่อเรายังเด็กนั้นใครกันที่ล้างอุจาระให้เรา  ท่านไม่เคยรังเกียจ  ถ้าท่านรังเกียจ  ท่านคงไม่ล้างให้เรา  และคงไม่มีใครมาล้างอุจาระของเราแน่  การที่เราจะล้างอุจจาระให้ท่าน  อย่าคิดว่าแค่นั้น  จะตอบแทนบุญคุณท่านได้หมด  ต่อให้เอาชีวิตทั้งชีวิต  เอาเงินเอาทองมากองรวมกันก็ยังไม่เท่ากับบุญคุณที่พ่อมีให้เรา  ให้เอาโลกทั้งโลกมาแทนบุญคุณที่เราจะทดแทนให้พ่อ  มันก็ยังไม่หมด  วันนี้เราควรพร้อมที่จะตอบแทนบุญคุณพ่อแล้ว  เราควรเลี้ยงดูท่าน  ให้ท่านได้เห็นว่าท่านเคยเลี้ยงเรามา  เคยอุ้มชูดูแลเรามา ปัจจุบันนี้เราได้ตอบแทนบุญคุณท่านแล้ว  ทั้งที่ท่านก็ไม่ได้หวังในสิ่งนี้  แต่สิ่งที่ท่านหวัง  คือ ให้ลูกเป็นคนดีเท่านั้น  นี้คือ ความรัก  ความห่วงใย จากใจคน ๆหนึ่ง  ที่ยอมอุ้มชู เลี้ยงดูเรา  ถ้าเป็นคนอื่น  เขาคงไม่มานั่งเลี้ยงเราอย่างนี้  โดยไม่มีสิ่งตอบแทน  แต่คน ๆนี้  ท่านเลี้ยงเรามา  โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนความรักจากท่านเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ มีค่าล้ำเลิศประเสริฐศรียิ่งกว่าสิ่งใด ๆทั้งปวง  คาเราได้ตอบแทนท่านได้ครึ่งหนึ่งของท่านก็พอใจแล้ว  แต่ถ้าจะตอบแทนให้หมดคงเป็นไปไม่ได้  ชีวิตนี้ทั้งชีวิตคงต้องยกให้คน นี้เท่านั้น  คนที่ให้มาทั้งชีวิต เพื่อเรา นี่แหล่ะ คือ พ่อที่แท้จริง เท่านี้ก็พอเข้าใจว่า  เรามีวันนี้เพราะใคร

                               สองมือนี้มีไว้เพื่อใครเล่า                                   สองมือนี้ให้เราเพียงเท่านั้น

               สองมือนี้ค่าเหนือทุกสิ่งอัน                                               สองมือนี้เท่านั้นให้ด้วยใจ

                               ชีวิตนี้ให้ลูกมีวันนี้                                              เป็นคนดีเท่านี้ก็เหลือหลาย

               ไม่ต้องการอะไรตั้งมากมาย                                               สุขใจกายลูกนี้ก็ดีพอ

                               เห็นลูกสุขท่านสุขมากเท่าไหร่                         เห็นลูกทุกข์ท่านทุกข์มากกว่าหนอ

               รอยยิ้มลูกเติมสุขเป็นให้พอ                                               แค่นี้ก็สุขล้นคนนา

                               คนคนนี้ให้ยิ่งกว่าชีวิต                                       คนคนนี้ให้คิดให้ศึกษา

               จากหยาดเหงื่อแรงกายที่ได้มา                                          เป็นชีวิตที่ล้ำค่ามากเกินใคร

                               คนคนนี้เป็นใครเราก็รู้                                       คนคนนี้ยอมสู้ไม่หวั่นไหว

               คนคนนี้ให้ลูกได้ทั้งใจ                                                       พ่อใช่ไหมที่ได้มอบให้มา

                               ให้กราบเท้าตอบแทนคุณเป็นล้นพ้น              ให้บุญคุณจบสิ้นกันเถิดหนา

               อย่าคิดว่าแค่นั้นมันมีค่า                                                      บุญคุณนี้ใช้เวลาตราบวันตาย

......................................................................

เด็กหญิงโน๊ตไฮนี    มือลี  นักเรียนชั้น ม.3/3


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 22:56
 เรียงความเรื่อง  พ่อ

               พ่อคือผู้มีพระคุณยิ่งใหญ่ คือผู้ที่มีบุญคุณที่ยิ่งใหญ่ ในโลกนี้ถ้าลูกเกิดมาไม่มีพ่อก็จะลำบากในการดำรงชีวิต  บุญคุณของพ่อที่เราติดค้าง  ชาตินี้หรือชาติไหนก็ไม่มีวันทดแทนหรือชดใช้หมด

               ทุกคนเกิดมาบนโลกนี้ก็ตัองมีพ่อและทุกคนก็รนักพ่อถึงแม้จะรักพ่อน้อยกว่าแม่ก็ตาม แต่ส่วนลึกในหัวใจเราก็รักพ่อ พ่อเป็นผู้นำครอบครัว พ่อต้องรับภาระหนัก นั่น คือพ่อต้องดูแลคนในครอบครัวให้อยู่รอดและมีความสุข  พ่อต้องทำงานเพื่อหาเงินให้เราได้เรียนหนังสือ  เมื่อตอนเรายังเด็กพ่ออาจต้องทำงานไม่หนักนัก  แต่พอเราโตขึ้นพ่อก็ต้องทำงานมากขึ้น เพราะเราโตขึ้นเราก็ต้องเรียนสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวก็ต้องเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  ตามลำดับ เราเคยคิดบ้างไหมว่าพ่อทำงานเหนื่อยแค่ไหน เวลาเราใช้เงินแต่ละบาทเราเคยสำนึกบุญคุณของพ่อบ้างไหม เคยไหมที่จะคิดถึงหยาดเหงื่อแต่ละหยดของคนทำงานว่ามีความลำบากแค่ไหน ทั้งหมดที่พ่อทำเพื่อใครละเคยคิกบ้างไหม  เคยไหมว่าพ่อกลับมาเหนื่อย ๆ เอาน้ำไปให้และพร้อมทั้งถามพ่อว่าพ่อเหนื่อยไหม  ทั้งวันของทุกวันพ่อต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำงานและตอนใกล้ค่ำก็เพิ่งกลับบ้าน  ถึงพ่อจะไม่เคยบ่นว่าพ่อเหนื่อย ว่าพ่อเบื่อ  แต่เราก็ทราบถึงความเหน็ดเหนื่อยของพ่อ  แต่พ่อก็อดทนมาตลอดและจะอดทนตลอดไป  ทั้งหมดนี้พ่อทำเพื่อใครอีกล่ะ  ผู้เป็นพ่อนี้ยอมเสียสละทุกอย่าง  ยอมเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อลูก  พ่อยอมได้ยอมแม้กระทั่งลมหายใจ  พ่อยอมเสียสละให้ได้เพื่อลูก  แล้วเราล่ะยอมทำเพื่อพ่อไหม  ยอมเสียสละเพื่อพ่อไหม  ยอมเสียสละเพื่อพ่อไหม  ทั้งหมดนี้เราเคยถามตัวเองบ้างไหม  และพ่อนี้แหละที่คอยสั่งสอนเราให้เราเป็นคนดีของพ่อแม่และเป็นคนดีของสังคม พ่อยังสอนเราให้รู้จักคำว่าอดทนต่ออุปสรรคใด ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตและยังสอนให้เรากล้าในสิ่งที่ถูกและอย่าทำในสิ่งที่ผิด  พ่อได้ทำหน้าที่ของท่านได้ดีมีความรับผิดชอบสูงมากและพ่อก็ยังต้องการให้เรามีความรับผิดชอบเหมือนพ่อ  ในครอบครัวหนึ่งครอบครัวคงไม่ต้องการอะไรมากนอกจากความเข้าใจ  ความเข้าใจนี้ก็ย่อมมาจากความรักและถ้ามีความรักแล้วก็จะก่อให้เกิดความอบอุ่นภายในครอบครัว  ใช่เราต้องการให้พ่อเข้าใจเราแล้วล่ะเคยถามตัวเองไหมว่าเราเข้าใจพ่อของเราไหม  เข้าใจพ่อของเราสักแค่ไหนเราเคยรู้บ้างไหม  ว่าพ่อของเรา ในหัวใจของพ่อเราเขาคอยแต่คำ ๆ หนึ่งที่ไม่เคยบอกท่าน ซึ่งคำคำนั้นอาจจะบอกใครแล้ว  แต่ไม่เคยบอกท่านและ  คำ ๆนั้นอาจเป็นคำที่เราและหัวใจเรากำลังเฝ้าคอยเช่น

กันคำ ๆ นั้นก็คือ ......คำว่ารัก เราลองพูดซิว่าเรารัก บอกพ่อซิ บอกแค่ว่า พ่อหนูรักพ่อนะ   เราเคยสัมผัสถึงความรู้สึกอบอุ่นที่เกิดภายในหัวใจน้อย ๆ ดวงนั้นไหมมันซึ้งยิ่งกว่า  คำว่ารักที่เราเอ่ยบอกใครคนหนึ่งอีกเป็นพันเท่า

               เราอาจจะมองพ่อของเราในบางครั้งว่าไม่รักเรา  แต่ที่จริงแล้ว  เราคือยอดดวงใจของพ่อซึ่งใครก็ห้ามแตะ พ่อคอยห่วงเราทุกเวลา  เพราะพ่อรักเรา  คนที่เป็นพ่ออาจจะดูห่างกับลูกมาก  เพราะพ่อต้องทำงาน พ่อไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับเรามากนัก  แต่พ่อก็รักเรา   เราทราบมาจากไหนล่ะว่าพ่อรักเรา....ก็จากการกระทำของพ่อไง  นั่นคือทุกอย่างที่พ่อทำเพื่อใคร  เพราะฉะนั้นเราห้ามดื้อกับพ่อเด็ดขาด   เราเคยใหม่ที่รู้สึกผิดหวัง  พ่อก็เช่นกันพ่อรู้สึกผิดหวังมาก  เวลาเราดื้อกับพ่อ  เวลาที่เราไม่ทำตามใจพ่อบ้าง   เราเป็นลูกเราควรที่จะเชื่อฟังพ่อ  เพราะพ่อเป็นผู้ใหญ่  พ่อสามารถที่จะรู้อะไรมากมายที่เกิดขึ้นบนโลกนี้มากกว่าเรา    แต่เราไม่เอา เอาแต่ความคิดของเราเป็นใหญ่   แต่ความรู้สึกของตนเองไม่เคยคิดเลยว่าพ่อจะรู้สึกผิดหวังมากแค่ไหนเวลาที่พ่อห้ามอะไรเราไม่ฟัง เราจะทำอะไรเราก็ทำ  แต่ถ้าความดื้อที่เราทำลงไปเกิดปัญหา  คนที่เดือนร้อนไม่ใช่เราเพียงคนเดียว   เราเคยคิดถึงตรงนี้บ้างไหม   และอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้พ่อเจ็บปวดนั่นคือ  การเอาแต่ใจตนเองเราทราบไหมว่าบางครั้งความเอาแต่ใจตนของเราอาจทำให้พ่อต้องอับอายและเจ็บปวด  ถ้าเราทำให้พ่อเจ็บปวด นั่นคือการเอาแต่ใจตัวเอง  เราทราบไหมว่าว่าบางครั้ง ความเอาแต่ใจตนเองของเราอาจทำให้พ่อต้องอับอาย  และเจ็บปวดถ้าเราทำให้พ่อผิดหวังและเจ็บปวดแล้วแสดงว่าเราเป็นลูกที่อกตัญญูแล้ว  เพราะฉะนั้นใครก็ตามไม่ว่าจะกรณีใด  ๆ ก็ตาม เราควรที่จะกลับไปและกล่าวว่าพ่อค่ะหนูขอโทษกับการกระทำของหนู เราเคยรู้ไหมว่าพ่อไม่เคยที่จะโกรธเรา  เพราะความรักของพ่อที่มีต่อเรามันมากมายเกินที่จะโกรธลง  นอกจากพ่อนั้นเอง  และถ้ายิ่งเราไปขอโทษพ่อโทษที่เราทำลงไป จะยิ่งใหญ่กว่าภูเขาสิบลูกทับกัน  พ่อก็ยิ่งให้อภัยแก่เราได้หมดเลย   และพ่อคนนี้อีกนั่นแหละที่คอยเป็นหว่งอนาคตของเรา  อยากให้เราเรียนจบเร็ว ๆ และได้งานทำเป็นหลักเป็นฐาน และดูแลครอบครัวแทนพ่อ  เพราะตอนนั้นพ่อเราก็คงจะชรามากแล้วถึงเวลาที่ต้องพักผ่อน  ไม่ใช่ว่าพอเรียนจบได้งานทำเป็นหลักเป็นฐานก็ลืมคนที่คอยดูแลเรา  คนที่คอยเลี้ยงดูเราตั้งแต่เล็กจนโต    ผู้เป็นพ่อลูกสิบคนยังเลี้ยงไหว แต่พอพ่อแม่ชราลงลูกสิบคนเลี้ยงพ่อแม่สองคนไม่ไหว  จงทำดีต่อท่านทั้งสองให้มาก ๆ ก่อนที่จะไม่มีท่านทั้งสองให้เราทำดี

               ความรักของพ่อยิ่งใหญ่ไม่น้อยไปกว่าแม่ พ่อคือผู้ที่ลำบาก คือผู้ที่คอยอบรม  และคือผู้ที่เราเกรงกลัว   และพ่อคนนี้คือผู้ที่คอยสั่งสอนให้เราเป็นคนดี  และยอมเสียสละให้แก่เราผู้ซึ่งเป็นดวงใจของพ่อ   ทั้งหมดที่พ่อทำทุกอย่างที่พ่อปฏิบัติจุดมุ่งหมายที่อยู่ในใจของพ่อสิ่งเดียวเท่านั้น นั่นคือ  ทุกอย่า” เพื่อลูก ยอดดวงใจของพ่อ”

...........................................................................................

     นางสาวนูรฮายาตี   อาดัม    นักเรียนชั้น  ม. 5/7


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 23:05
 คนข้างหลัง

ในชีวิตหนึ่งๆของคนเรา จะมีสักกี่คนที่จะรัก และทุ่มเทชีวิตทั้งชีวิตให้กับเรา ห่วงใยเรา ดูแลเรา ให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่เรา ให้ชีวิตแก่เรา……

ยามที่เราเกิดมาใครเล่าคอยให้กำลังใจให้เรามีชีวิตรอดออกมา ใครเล่าคุยกับเราแม้จะฟังเราพูดไม่รู้เรื่อง ใครเล่าที่คอยปลอบโยนเรายามที่เราร้องไห้หวาดกลัว ใครเล่าคอยป้อนน้ำป้อนข้าวให้เรายามที่เราหิว ใครเล่าต้องตื่นมายามดึกดื่นเพื่อดูว่าเราหลับดีหรือเปล่า ใครเล่าต้องทำงานตรากตรำเพื่อหาเงินมาให้แก่เรา ใครเล่าต้องตื่นแต่เช้ากลับบ้านดึกเพื่อเรา ใครเล่าต้องทำตามสิ่งที่เราบอกเราต้องการ ใครเล่าหาทุกสิ่งทุกอย่างมาให้แก่เรา ใครเล่าคอยต้องรับส่งเราไปโรงเรียนทุกวัน ใครเล่าที่คอยดุว่าเราตีเรายามที่เราดื้อดึง ใครเล่าที่ร้องไห้อยู่ในใจยามที่ดุว่าเรา ใครเล่าดูแลเอาใจใส่เราทุกอย่าง ใครเล่าแม้ยามป่วยก็ยังห่วงใยเรา ใครคนนั้น… ที่ให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่เรา… “พ่อ”

คนเราทุกคนไม่ว่าใครเกิดมาย่อมมีพ่อ แต่พ่อของแต่ละคนล้วนแล้วก็แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งหนึ่งที่พ่อของทุกๆคนไม่ว่าใคร ก็ย่อมมีเหมือนกันก็คือ ความรักที่มีให้แก่ลูก พ่อทุกคนย่อมรักลูกเป็นธรรมดาอยู่แล้ว เพราะลูกนั้นเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ เสมือนแก้วที่เปราะบางที่แม้สัมผัสเพียงเล็กน้อยก็อาจแตกร้าวได้ พ่อแม่จึงต้องคอยดูแล เลี้ยงดู เอาใจใส่ อย่างทะนุถนอมเพื่อให้แก้วบางนั้น แข็งแกร่งขึ้นเป็นแก้วเจียรไนให้ได้

พ่อผู้ซึ่งเป็นผู้นำของครอบครัว ผู้ซึ่งเป็นบุคคลที่จะต้องนำพาครอบครัวฝ่าฟันอุปสรรค ภยันตราย ให้รอดพ้นไปให้ได้ ผู้ซึ่งคอยโอบอุ้มครอบครัวให้มั่นคง อุ้มชูฟูฟักครอบครัวให้ปลอดภัย ทั้งยังต้องคอยให้กำลังใจแก่ครอบครัวยามที่ครอบครัวท้อแท้ ยามพ่อกังวลพ่อก็ต้องทำเป็นปกติ ยามพ่อกลุ้มพ่อก็ต้องแอบไปนั่งคิดคนเดียว ยามพ่อทุกข์พ่อก็ต้องฝืนยิ้ม ยามพ่อป่วยพ่อก็ต้องทำเป็นสบาย ทั้งหมดนี้พ่อไม่ได้ทำเพื่อใครอื่น พ่อทำเพื่อเราทั้งสิ้น เพื่อไม่ให้เราไม่สบายใจไปกับท่าน เพื่อให้เรามีความสุข  แต่แล้วท่านล่ะ?

ขณะที่เราไปโรงเรียน เรียนหนังสือหาความรู้ วิ่งเล่น พูดคุย สนทนาเฮฮา นั่งคุยโทรศัพท์กับเพื่อนเป็นชั่วโมงๆ หรือขณะที่เราไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนๆ แต่งตัวอย่างสวยงาม ใช้ของหรูๆ ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า เบื้องหลังความรู้ ความสวยงาม ความสนุกนั้น ใครสักคนกำลังตรากตรำทำงานเพื่อหาเงินมาให้แก่เรา ใครคนนั้นต้องเหน็ดเหนื่อย ใครคนนั้นต้องลำบาก ใครคนนั้นต้องเสียหยาดเหงื่อแรงงาน  ทั้งหมดก็เพื่อความสุขของเรา เพื่อความรู้ของเรา แล้วเราจะยังไม่เห็นใจท่านหรือ? จะไม่คอยดูแลท่านเลยหรือ? ในวันหยุดจะไม่อยู่กับท่านหรือ? ยามว่างจะไม่คุยเล่นกับท่านแทนคุยโทรศัพท์กับเพื่อนเลยหรือ?

กว่าเราจะได้มาเรียนหนังสือ กว่าเราจะได้ชุดสวยๆ กว่าเราจะเล่นดนตรีได้เก่งๆ กว่าเราจะมีคนชม กว่าที่จะมาเป็นตัวเราในขณะนี้ เบื้องหลังนั้น มีคนที่ต้องเหน็ดเหนื่อยอยู่ ความรู้ที่แลกมาด้วยความเหนื่อยอ่อน เสื้อผ้าที่แลกมาด้วยแรงงาน ความสนุกสนานที่แลกมาด้วยสุขภาพ ของผู้ที่ย่างเข้าวัยชรา พ่อ… แม้ท่านจะเหนื่อยอ่อนท่านก็ไม่ปริปากพูดสักคำ แม้ท่านจะย่างเข้าวัยชรา ท่านก็ยังต้องทำงาน ท่านก็ยังต้องคอยดูแลเรา นั่นก็เพราะท่าน…เป็นพ่อ และเพราะเรา…เป็นลูกของท่าน

คำว่าพ่อจึงมีความหมายที่ยิ่งใหญ่ เพราะท่านเป็นผู้เสียสละ เป็นผู้ให้ ไม่ว่าท่านจะเป็นพ่อแท้ๆของเรา หรือพ่อแผ่นดิน ท่านก็ยังเป็นพ่อ พ่อที่มีหน้าที่ที่จะต้องดูแลลูกๆ ให้ลูกๆของท่านมีความสุข สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งที่ท่านทำไปนั้นไม่ใช่เพียงเพราะเป็นหน้าที่ของพ่อ แต่ยังเป็นเพราะ…ความรักของพ่อ…ที่มีให้แก่ลูก

พ่อผู้ให้กำเนิดแก่ตัวเรา    พ่อผู้เฝ้าดูแลเอาใจใส่
พ่อผู้คอยอุ้มชูเราด้วยใจ           พ่อผู้ไม่เคยเหินห่างจากเราไป
พ่อผู้คอยปลอบโยนยามเราเศร้า   พ่อผู้คอยขัดเกลาไม่ไปไหน
พ่อผู้คอยดูแลอยู่ใกล้ใกล้   พ่อผู้มอบดวงใจให้แก่เรา


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 23:19
 http://72.14.203.104/search?q=cache:jqcNhiFRVH0J:www.geocities.com/Tokyo/Flats/4295/poem/book/9b.html+%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%2B%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1&hl=th&gl=th&ct=clnk&cd=18









แอบวางดอกไม้ไว้บนหัวเตียง ที่อยู่ข้างเคียงคือการ์ดแสนสวย (ช่วยกันทำทั้งบ้าน) อาหารเช้าวันนี้เป็นเมนูที่ "เค้า" โปรดปราน และวันนี้ชุดทำงาน แอบความพิศดารไว้ข้างใน "เค้า" ตื่นมาคงแปลกตา ตอนแรกคงสงสัย ว่าใครเอาดอกไม้มาวางไว้ทำไม ยิ่งเข้าห้องน้ำต้องงใหญ่ ใครเอารูปหัวใจ มาติดไว้กำแพง พอออกมาเปิดตู้เสื้อผ้า "เค้า" จะพบว่า ถูกกลั่นแกล้ง ทั้งตู้เหลือชุดเดียวแขวนไว้โดดเดี่ยวต่องแต่ง แถมในชุดมีเสื้อกล้ามปักตัวหนังสือสีแดง ไว้หนึ่งแห่ง ที่อกซ้าย เขียนคำว่า "พวกเรารักพ่อ" คราวนี้ "เค้า" คงหัวร่อออกมาได้ และรู้ว่าหลายวันมานี้ ที่ลูกๆแปลกๆไป ก็เพราะซุ่มซ่อนเซอร์ไพร้ส์ ที่ตั้งใจจะทำให้ "เค้า" คนเดียว



 พ่อ" ผู้สอนให้เรารู้สึกสำนึกบุญคุณของผู้มีพระคุณ และตอบแทนทุกครั้งที่มีโอกาส แต่พ่อ ไม่เคยบอกเลยว่า คนแรกที่ควรจะทดแทนในพระคุณนั้น คือ พ่อเอง



 เมื่อวาน คุณครูสั่งให้เขียนเรียงความเรื่อง 'คุณพ่อของฉัน' เพื่อนคนนั้นคนนี้ก็พูดถึงคุณพ่อคนดีของกันและกัน ฉันกังวลทั้งวันเพราะคุณพ่อของฉัน เป็นเพียงรูปถ่าย 1 ใบ แม่ครับ รูปถ่ายใบนั้นน่ะ พ่อผมใช่ไหม รูปถ่ายใบนั้นน่ะ พ่อผมใช่ไหม บอกหน่อยสิแม่ พ่อผมเป็นใคร ใครก็ได้แม่ ใครก็ได้ ผมขอแค่มีเรียงความไปส่งครู แม่ยิ้มน้ำตาคลอเบ้า ลูบหัวฉันเบาๆ แล้วบอกว่า 'พ่อของลูกเป็นนักสู้' เป็นทหารหาญ เป็นผู้ต่อต้านศัตรู ถึงจะไม่โก้หรู ถึงจะฝังร่างอยู่นิจนิรันดร์ แม่ครับ.. ผมควรจะภูมิใจใช่ไหม แม้ความดีของพ่อจะเหลือให้ แค่รูปถ่ายใบนั้น แม่พยักหน้า ฉันยิ้มให้ ด้วยหัวใจที่ตื้นตัน รับปากแม่ว่า เรียงความ 'คุณพ่อของฉัน' จะไม่น้อยหน้าใครทั้งนั้น แน่นอน



 อยากบอกพ่อว่าขอบคุณมากจริงๆ สำหรับทุกๆสิ่งที่พ่อมีให้ ตั้งแต่เล็ก จนเติบใหญ่ พ่อให้ทุกสิ่ง ด้วยรักแท้ ขอให้รู้ว่าลูกรักพ่อจริงๆ และไม่ทอดทิ้งพ่อแม่ เมื่อลูกยังเล็ก พ่อเอาใจใส่ดูแล และเมื่อถึงวันที่พ่อแก่ ลูกจะดูแลพ่อเอง



 นอนซมอยู่กับบ้าน ไม่มีนางพยาบาลมาอยู่ใกล้ ก็ได้ผู้ชายคนนี้แหละ ไม่ใช่ใคร มาคอยดูแลเอาใจใส่ จนหายดี ขอบคุณงามๆค่ะ 'คุณพ่อที่รัก' ที่คอยฟูมฟักลูกอย่างนี้ ปกป้องคุ้มครองลูกมาตังหลายปี จะไม่ลืมพระคุณที่มีอย่างแน่นอน ไว้ตอนคุณพ่อไม่สบายบ้าง จะคอยปรนนิบัติเคียงข้าง ไม่ถ่ายถอน สัญญาค่ะ จะเป็นนางพยาบาลที่ดีแน่นอน ให้สมกับที่คุณพ่อสั่งสอน มากับมือ



 มือที่คอยจูงฉัน ไปโรงเรียนทุกวันยังจำได้ โยเย ร้องไห้ จะเป็นจะตาย ไม่เอา ยังไงก็ต้องกลับบ้านพร้อมกัน พ่อต้องคอยโอ๋ อย่าร้องไห้ ลูกคนเก่งต้องอยู่ได้ พ่อเชื่ออย่างนั้น เอาไว้ตอนเย็นพ่อมารับ แล้วเรากลับบ้านด้วยกัน นิ่งเสียนะ เด็กไม่ดีเท่านั้นเค้าถึงได้งอแง คิดถึงวันเก่าๆที่เยาว์วัย วันที่ไปโรงเรียนวันแรกกลัวแทบแย่ น้ำตาเป็นเผาเต่า กลายเป็นเด็กขี้แย ก็จะมีพ่อคนดีดูแล ห่วงใย จนมาถึงทุกวันนี้ ยังจำได้ดี ไม่เคยเลือนหาย มือของพ่อที่คอยปกป้อง คุ้มครองภัย มือที่มีแต่ให้ โดยไม่หวังอะไรตอบเลย



 ด้วยสองมือที่พ่อสร้าง ก่อเส้นทางที่หวังวาด สรรหา ทุกสิ่งขาด ด้วยหมายมาดให้ลูกมี หยาดใสจากเหงื่ออุ่น ก็เกื้อหนุนในวันนี้ ค้ำจุนหนึ่งชีวี ให้ได้ดี ไม่รองใคร ของใดไม่มีค่า พอจะมา เทียบทันได้ หนึ่งนี้ ลมหายใจ ขอมอบให้ ทนแทนคุณ



 อย่างน้อยในโลกที่เงียบเหงา ก็ไม่ว่างเปล่า ยังมีใครคนหนึ่ง คิดถึง และรักกัน ใครคนนั้น คือ พ่อ ผู้ที่ฉันมั่นใจได้ว่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด "พ่อยังคงรักฉันเสมอ"



 เกเรไปหน่อย หาเรื่องปวดหัวอยู่บ่อยๆอย่างนี้ เรียนหนังสือก็เกือบบ๊วยทุกที ท่าทางไม่น่าเอาดี ได้เหมือนใครๆ ไปทางไหน เขาก็เมินหน้า บอกกันว่า เด็กคนนี้เลี้ยงไม่ไหว ดื้อรั้นแถมยังเอาแต่ใจ ทำตัวไร้สาระอยู่ได้ ทั้งวี่ทั้งวัน แต่ก็จะมีอยู่คนหนึ่งที่ยอมเข้าใจ รักและให้อภัยเสมอ ในตัวฉัน ห่วงใยอาทร เป็นทุกข์เป็นร้อนแทนกัน ใครอื่นอีกหมื่นพัน ไม่เทียบทันความจริงใจ พระคุณพ่อ สิ่งใดก็ไม่อาจพอทดแทนได้ อยากจะเป็นลูกของพ่ออย่างนี้ตลอดไป โอมเพี้ยง! ชาติไหนๆ ก็ขอให้ได้เกิดมาเป็น พ่อลูกกัน



 เป็นเพียงชายที่ไร้เงินทองท่วมฟ้า เป็นเพียงคนทำมาหากินทุกเช้าค่ำ วันทั้งวันต้องเหนื่อยยากและตรากตรำ เพียงเพื่อนำครอบครัวไปในทางดี มีเพียงสองมือหนึ่งใจใช้ต่อสู้ ไม่เคยหดหู่ ทดท้อ หรือถอยหนี เพื่อทุกคนได้อยู่สุขสบายทุกนาที ตัวพ่อนี้ เหนื่อยยากเข็ญ มิเป็นไร เป็นเพียงคนที่หัวใจไม่เคยแพ้ ยามลูกเมียอ่อนแอก็เป็นหลักให้ยึดได้ หากไม่ใช่พ่อเราก็คงไม่มีใคร ที่จะให้อย่างพ่อให้ได้ทุกวัน


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 23:24
 คือห่วงใย.. คืออบอุ่น คือบุญคุณเหนือสิ่งไหน คือดวงตะวัน ดวงใหญ่ อยากบอกว่า... ลูกภูมิใจที่ได้เป็นลูกพ่อ



 ถึงเค้าจะไม่ใช่ซุปเปอร์แมน แต่อ้อมแขนเค้าก็อบอุ่นเสมอ ถึงไม่ใช่ชายในฝันที่เคยพร่ำเพ้อ แต่เค้าก็เป็นยอดมนุษย์เสมอ ในดวงใจ ยามใดที่ทุกข์ท้อ กำลังใจมากมายเกินพอ เค้ามีให้ อาจไม่เคยได้รางวัล 'พ่อดีเด่น' จากใคร แต่เค้าคือ "ฮีโร่ในดวงใจตลอดกาล"



 วันพิเศษวันนี้ อยากจะทำอะไรให้คุณพ่อแสนดีสักอย่าง อย่างน้อยก็เพื่อให้ท่านรับรู้บ้าง ว่าเรารักท่านไม่จืดจาง ตลอดมา ว่าจะซื้อของขวัญให้ แต่ก็ไม่มีของถูกใจให้ซื้อหา ไม่รู้จะซื้ออะไร ให้ถูกใจถูกตา ไปๆมาๆทำเองดีกว่า มีความหมายดี เลยซื้อกระดาษแผ่นใหญ่ วาดรูปลงไป แล้วระบายสี ตรงกลางเป็นรูป ผู้ชายใจดี กำลังให้เด็กตัวเล็กๆขี่คอ คงจะเพียงพอ ถ้าจะสื่อว่าหนูรักพ่อที่สุดเลย



 ถึงไม่มีบ่าใหญ่ให้ขี่คอ ไม่มีเวลามาพะเน้าพะนอเหมือนพ่อคนอื่นเค้า พ่อทำแต่งาน ไม่มีเวลามาสอนการบ้านเรา ออกจากบ้านแต่เช้า กลับถึงบ้านก็ดึกดื่นทุกที แต่ผมเข้าใจพ่อ เข้าใจว่าทุกอย่างที่พ่อสร้างพ่อก่อ ก็เพื่อลูกคนนี้ ศรัทธา ภูมิใจ และอบอุ่นในสิ่งที่พ่อมี สำหรับชีวิตนักเรียนแบบนี้ คำเดียวที่พอจะทดแทนได้ดี "ผมรักพ่อครับ"



 ครั้งนั้นมือใหญ่ จูงมือน้อย เดินตามกันต้อยๆไปไหนต่อไหน มีกันสองคน สองหัวใจ ให้หนทางไกลเท่าไกล ก็ไม่เหนื่อยล้า คนตัวใหญ่ อุ้มคนตัวน้อย ดาวไกลเกินสอย อยู่ข้างหน้า เขย่งเข้า เขย่าเข้า จะเอามา คนตัวน้อยร้องไห้จ้า ไม่ได้ดังใจ ไม่เอาดาวเดือน ได้ไหมลูก แล้วพ่อจะหาทุกสิ่งทุกอย่าง มาทดแทนให้ คนตัวน้อย พยักหน้าเข้าใจ แล้วจากนั้น คนตัวน้อยก็ไม่เคยอยากได้อะไรแล้วไม่ได้ อีกเลย



 มาซื้อของให้พ่อ มองดอกไม้หลายช่อ "ไม่รู้ว่าจะเลือกดอกไหน ตอนวันแม่ก็ซื้อมะลิแล้วส่งไป แต่วันพ่อไม่รู้จะซื้อดอกอะไร" กลุ้มใจจริง คิดว่าจะซื้อตุ๊กตา กลัวพ่อว่า นิสัยเด็กไม่ยอมทิ้ง เลยซื้อการ์ดมาเขียน "รักพ่อจริง-จริง" หวังว่าคงแทนได้ทุกสิ่งที่อยู่ในใจ อยากให้พ่อรู้ ไม่ว่าลูกจะอยู่ที่ตรงไหน พ่อจะเป็นความศรัทธาตลอดไป ด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ ไม่เปลี่ยนแปลง



 เช้านี้ ก็เหมือนทุกๆวัน พ่อใส่ชุดเก่ง ถือกระเป๋าหนังใบเก่า ออกไปทำงาน ฉันรักเสื้อผ้าของพ่อชุดนี้ ดูอบอุ่น กล้าหาญ และฉันรู้ว่า ภายในกระเป๋าหนังใบนั้น พ่อจะนำอนาคตอันสดใสมาให้กับฉัน ในยามที่พ่อกลับมา



 ฝ่ามือหนาหยาบกร้าน ตรากตรำทำงาน เหนื่อยยาก ไม่ยอมให้ลูกเมียอดอยาก ถึงลำบากอย่างไรก็สู้ทน ยอมสละความสุขทุกอย่าง เพื่อจะสร้างชีวิตให้หลุดพ้น เพื่อลูกเมียอยู่สบายไม่ร้อนรน เพื่อทุกคนในครอบครัวทั่วถึงกัน คือผู้ชายคนนี้ที่เป็นพ่อ ไม่เคยท้อหมดทางจะสร้างฝัน เพียงอยากให้ลูกเมียมีหลักประกัน เหนื่อยแค่ไหนพ่อไม่หวั่นฝ่าฟันไป บุญคุณพ่อเปรียบฟ้า มหาสมุทร เป็นที่สุดแห่งรักอันยิ่งใหญ่ ยกคุณพ่อ บูชา ไว้ในใจ สัญญาไว้ลูกจะกตเวที



 ถูกใครๆล้อว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ บางครั้งก็ท้อจนร้องไห้ ไม่โทษพ่อหรอกจ้ะ ที่ด่วนจากไป เพราะไม่ว่าจะยังไง ก็รักพ่ออยู่ดี พ่อเป็นคนเก่ง เป็นที่หนึ่ง เป็นผู้ชายคนเดียวที่ลูกคิดถึงตราบทุกวันนี้ ใครจะว่ายังไงก็ช่าง ลูกรู้ว่าพ่ออยู่ใกล้ ทุกนาที พ่อยังรักและอยู่ใกล้ ลูกรู้ดี ลูกมั่นใจ



 นิทาน ดวงดาว เคยมีคนเล่ากล่อมฉัน ความอบอุ่น ในวานวัน ผูกพันสองหัวใจ "หลับเสียนะ คนดี" สองแขนพ่อนี้จะกอดไว้ แทนผืนผ้าห่ม อุ่นไอ แทนความห่วงใย แทนความรัก


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 23:25
 เขียนถึงทุกความประทับใจ ที่พ่อให้ตั้งแต่ยังไร้เดียงสา จนเราเติบโตมา พ่อก็ยังไม่วางตา เพราะห่วงใย พระคุณนี้ทดแทนไม่หมด เกินกว่าทั้งชาติจะชดใช้ หวังเพียงว่า ยามเมื่อพ่อแก่ชราลงไป ลูกจะคอยดูแลเอาใจใส่ เหมือนกับที่พ่อเคยให้มา



 อยากกลับไปฟังพ่อเล่านิทาน แล้วฟังเสียงเพลงกล่อมเพลงหวาน ก่อนหลับไหล เหมือนเมื่อครั้งหนึ่งที่อ่อนวัย ที่พ่อคอยห่มผ้าให้ ทุกคืน มาอยู่ไกลบ้านอย่างนี้ คิดถึงพ่อแต่ละที น้ำตารื้น อยากกลับไปอยู่ในอ้อมกอดของวันคืน ที่มีความอาทรของพ่อหยิบยื่น อยู่เต็มใจ เอาเถอะนะ แล้วสอบเสร็จคราวนี้ จะรีบกลับไปฟังนิทานที่พ่อมี ไม่เถลไถล กลับไปหาบ้าน ที่มีแต่ความอบอุ่นข้างใน กลับไปหาที่มีแต่ความรักความห่วงใย ไม่จืดจาง



 พ่อจ๋า... เราไม่เคยบอกกันว่า 'รัก' แต่ลูกสามารถประจักษ์ได้ เพราะทุกสิ่งที่พ่อทำลงไป มันชัดเจนกว่าคำพูดใดๆทั้งๆมวล



 จากวันนั้น.. วันที่ฉันจะเอื้อมดาว อยากให้มาสุกสกาว อยู่ที่หลังคาบ้าน เพราะยังอ่อนเยาว์ ไร้ปฏิภาณ อยากได้ตามต้องการ ทุกครั้งไป เสียงหนึ่งที่คอยสอนและบอก ให้ฉันคิดออก ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ดาวเดือนที่อยู่ห่างกล ไม่เคยมีใครได้มันมา จนวันนี้.. ฉันเริ่มเข้าใจทุกอย่าง คนนั้นก็ยังเคียงข้าง ในยามเหว่ว้า คอยอบรมสั่นสอนด้วยความเมตตา แม้ว่าฉันจะเป็นผู้ใหญ่กว่า วันวาน แต่ฉันยังคงเป็นเด็ก สำหรับเขา เป็นห่วงเราทุกฝีก้าว เมื่ออกจากบ้าน จะกี่เดือน กี่ปี ที่เนิ่นนาน ความรักเขา ยังคงขับขานอยู่ในหัวใจ ฉันพบเขาทั้งยามตื่นและยามฝัน ฉันผูกพันกับเขา มากกว่าใครคนไหน ฉันเรียกเขาว่า 'พ่อ' อย่างมั่นใจ ว่าในโลกนี้ไม่มีใครแทนได้เลย



 ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน ลูกยังจำได้ถึงคำที่พ่อสั่ง แม้จะได้กลับบ้านนานๆครั้ง ลูกก็ยังคิดถึงพ่อ ตลอดเวลา 'อย่าเกเรนะลูก อย่าเหลวไหล' ขอให้เอาใจใส่ในการศึกษา วันที่ลูกกลับบ้านมา พ่อหวังว่า ลูกพ่อคงได้ดี ถึงลูกจะจากบ้านมาไกล ก็เหมือนพ่อมาอยู่ใกล้ๆที่นี่ ขอสัญญาว่าจะทำแต่สิ่งที่ดี ให้สมกับที่พ่อหวัง และตั้งใจ



 พ่อกับลูก ไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกันเสมอ บางครั้ง เพื่อความสมบูรณ์แห่งชีวิต เราต้องห่างกันไป บนเส้นทาง ฉันไปเพื่อความฝัน และเรียนรู้ที่จะเติบโต พ่อ.. ก็ไปเพื่อชีวิต อาจห่างเหินกันบ้าง แต่จริงๆแล้ว ฉันกับพ่อ เราผูกพันกัน และยังเคียงข้างกัน ในความคำนึงเสมอ



 พ่อจะอยู่ตรงไหนนะ ในฟากฟ้า แล้วพ่อจะรู้บ้างมั๊ยว่า ลูกคิดถึง แต่ก่อนเคยมีพ่อเป็น hero เก่งที่หนึ่ง แต่วันนึงจู่ๆ พ่อจากไป พ่อจ๋า.. อยู่บนโน้นมองเห็นลูกหรือเปล่า ลูกเข้มแข็งไม่เหมือนเก่า พ่อเห็นไหม ถ้าพ่อเห็น ขอให้ช่วยเป็นแรงใจ มองอยู่บนฟ้าดูลูกก้าวไป จนถึงจุดหมายปลายทาง



 ความรัก มีทั้งความสุข ความทุกข์ มีสมหวัง ผิดหวัง มีชนะ มีพ่ายแพ้ เราอาจต้องแก่งแย่งแข่งขัน เพื่อให้ได้มาซึ่งความรักที่ปรารถนา แต่ความรักของพ่อ คือความรักที่อบอุ่น ดื่มด่ำ และมั่นคงที่สุด ตราบจนนิรันดร์



 พ่อครับ.. ผมคือลูกชายของพ่อ ผมจะสานต่อสิ่งที่พ่อใฝ่ฝัน ถึงจะมีอุปสรรคร้อยพัน ผมก็จะฝ่าฟัน ไม่ยอมแพ้ รับรองครับ ผมจะไม่ท้อ เพราะลูกชายของพ่อ ต้องแน่ เป็นชายชาตรี ที่ไม่มีคำว่าอ่อนแอ ไม่มีคำว่าท้อแท้ อยู่ในใจ พ่อเป็นอย่างไร ผมจะเป็นอย่างนั้น สักวัน ผมจะต้องยิ่งใหญ่ พ่อครับ ขอให้พ่อวางใจ เชื่อมั่นในลูกชาย ว่าลูกพ่อทำได้แน่นอน



 หอมไอดิน ถิ่นเกิด ที่ๆเคยถือกำเนิด อาศัย พกพาความช้ำ มาเต็มใจ หวังให้ลมชโลมไล้ เบาบาง มานอนหนุนตักพ่อ เติมเต็มใจที่กำลังอ่อนท้อ อ้างว้าง เหนื่อยล้าเหลือเกิน บนหนทาง พ่อบอก ลูกจงก้าวย่าง อย่าอ่อนแอ ทางข้างหน้ายังมีอีกไกล ลูกจงก้าวไป อย่าพ่ายแพ้ โชคดีที่ยังมีพ่อ คอยดูแล ต่อไปลูกจะไม่อ่อนแอ ไม่แพ้ใคร


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 23:26
 เราอยู่ภายใต้ต้นไม้ใหญ่อันอบอุ่น แผ่กิ่งก้านปกคลุมคุ้มเราให้สุขสันต์ คอยปกป้องผองภัยไม่ให้มาทำร้ายกัน คอยดูแลอยู่ทุกวัน ไม่ห่างไกล แทบทุกอย่างที่ครอบครัวปรารถนา พ่อก็จะพยายามหามาให้ได้ พ่อรู้จักแต่คำว่า เสียสละอยู่เรื่อยไป จึงเป็นที่รักในใจของทุกคน สำหรับลูกขอตั้งใจอธิษฐาน อยากจะเกิดมาพบพาน เป็นพ่อลูกในทุกหน แม้จะต้องลำบากและยากจน ก็สุขล้น ถ้าได้เป็นลูกพ่ออยู่เหมือนกัน



 ชีวิตของฉันเปลี่ยนแปลงไป วันต่อวัน ปีต่อปี ฤดูต่อฤดู แต่ความรักของพ่อ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง คงเดิม มากเหมือนเมื่อวาน มั่นคง เสมอนาน และมั่นคง เสมอไป



 พอพ่อเตือน ชอบทำหน้าเบ้ ทำเป็นเสไปมองนี่มองนั่น พ่อพูดทีไร ไม่เคยตั้งใจฟังซักวัน เข้าหูนี้ ทะลุหูนั้น แย่จังเรา พอเกิดเรื่องเหมือนที่พ่อเคยเตือนไว้ เป็นไงล่ะ เป็นไง ตีหน้าเศร้า เห็นสายตาพ่อผิดหวัง ต้องแอบร้องไห้เบาๆ พ่อจ๋า ขอโทษที่หนูโง่เง่า พ่อจะด่าจะว่าก็เอา แต่อย่าโกรธเลยนะพ่อนะ



 เพียงสัมผัสอันอบอุ่น จากมือที่ไม่นุ่มละมุน แต่หยาบกร้าน ที่บ่งบอกถึงความรู้สึกมาช้านาน ก็ทำใจให้ได้ผ่าน ความทุกข์ตรม ด้วยสองมือที่คอยสร้าง ปูหนทาง ที่ห่างไกลความขื่นขม รอวันหน้าจะได้มา ซึ่งความชื่นชม ความสำเร็จสุขสมของลูกยา ยามใดที่โลกนั้นโหดร้าย ทุกๆอย่างจะคลี่คลายไปต่อหน้า เพียงได้รับคำปลอบใจจากผู้เป็นบิดา ซึ่งน้ำใจกว้างกว่า มหาสมุทรใด พ่อเป็นพ่อผู้ประเสริฐและเพริศแพร้ว มากกว่าแหวนแก้ว เพชรนิลจินดาที่หาค่าไม่ได้ มีแต่ให้ ไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนใด และเป็นเสมือนพ่อพระในหัวใจ ตลอดกาล



 พ่อจ๋า รู้ไหมว่า ความในใจลูกมีอะไรซ่อนอยู่ ที่วันนี้จะเปิดเผยให้พ่อรู้ พ่อเอียงหูมาสักนิดสิค๊ะ จะว่าให้ฟัง "ดีใจที่เป็นลูกพ่อ" เป็นสิ่งที่พอใจมากกว่าทุกอย่าง ความรักของพ่อ คุ้มภัยลูกไปทุกทาง และความดีที่พ่อสร้าง ก็เป็นแนวทางให้ลูกก้าวไป พ่อจ๋า ขอบคุณที่ให้ชีวิตลูกเกิดมาในโลกใบใหญ่ ขอบคุณที่สอนลูกให้รู้จักรักใครๆ กับชีวิตนี้ที่ลูกพอใจ ขอหอมแก้มพ่อทีได้ไหม เพราะลูกไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ จะมาขอบคุณ



 เธออาจมีความฝันมากมาย เธออาจทำความฝันของเธอให้เป็นจริงได้ และในเมื่อเธอมีความสุขกับทุกๆสิ่ง ขอให้เธอเหลียวกลับไปมอง ผู้ให้กำเนิดแก่เธอบ้าง เพราะแท้จริงแล้ว พ่อคือผู้ให้ทุกสิ่ง.. แม้ชีวิตของเธอ



 เขียนถึงทุกความประทับใจ ที่พ่อให้ตั้งแต่ยังไร้เดียงสา จนเราเติบโตมา พ่อก็ยังไม่วางตา เพราะห่วงใย พระคุณนี้ทดแทนไม่หมด เกินกว่าทั้งชาติจะชดใช้ หวังเพียงว่า ยามเมื่อพ่อแก่ชราลงไป ลูกจะอยู่คอยดูแลเอาใจใส่ เหมือนกับที่พ่อเคยให้มา



 แด่.. พระผู้ให้ ก่อกำเนิดเรือนกายเป็นรากฐาน กล่อมเกลาจิต ชีวิต และวิญญาณ เพื่อให้ลูกได้พบพาน สิ่งที่ดี ขอฝ่าเท้าของพ่อ โปรดรับคำวอนขอจากลูกนี้ ลูกขอวานสิ่งศักดิ์สิทธิ์และกรรมดี ตอบสนองให้พ่อมีแต่สุขเทอญ



 จะไปเรียนก็พ่อจ๋าของตังค์ เพื่อนชวนไปดูหนังก็พ่อจ๋าหนูบ่จี๊ อยากได้อะไรก็พ่อหามาให้ทุกที ตั้งแต่เด็กจนโตป่านนี้ ไม่ต่างอะไร รอให้เรียนจบก่อนนะ พ่อจ๋า รับรองว่าจะทำตัวเป็นผู้ใหญ่ จะเลี้ยงพ่อแม่ให้มีแต่สุขใจ แต่พ่อจ๋า.. วันนี้ตังค์จะไปมหา'ลัย ยังไม่มี (ขอหน่อย!)



 ระหว่างพ่อกับฉัน จากวัยวันที่ประคับประคองกันมา เราเป็นให้กันทั้งความอ่อนโยน และเป็นให้กันในสิ่งตรงกันข้าม ก่อเกิดวีรกรรมมากมาย ทั้งร้าย เลว และสวยงาม ฉันไปถึงที่ไหน พ่อก็ไปถึงที่นั่น แต่เราให้อิสระแก่กันและกัน ฉันยังโตขึ้นเท่าไหร่ พ่อก็ยิ่งแก่ลงเท่านั้น ระหว่างพ่อกับฉัน เราจึงผูกพันกัน ด้วยเรื่องราวเหล่านั้น พูดคุยกัน บางครั้ง ถึงเรื่องราวความฝัน และความหวาดหวั่นแห่งชีวิต เราต่างเป็นแรงใจให้กัน ฉันชื่นชมและศรัทธาในตัวพ่ออยู่ลึกๆ แต่ไม่บ่อยครั้งที่จะบอกให้พ่อรู้ ลูกผู้ชาย รักก็เก็บไว้ ไม่ชอบก็เก็บไว้ ระหว่างพ่อกับฉัน รับรู้กันด้วยหัวใจ อยู่แล้ว


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 23:29
 หวังว่าคงยังไม่เบื่อ


กระทู้: มาร่วมกันเขียนเรียงความพ่อของฉัน เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพร
เริ่มกระทู้โดย: verMouth ที่ 16 มิ.ย. 06, 23:30
 ลองอ่านๆดูก่อนนะขอรับ