พอดีมีผู้ส่งเพลงที่ขับร้องในงานพันธมิตรให้ฟัง เพลงแสงดาวแห่งศัทธา ซึ่งประพันธ์โดย จิตร ภูมิศักดิ์
พร่างพรายแสง ดวงดาวน้อยสกาว
ส่งฟากฟ้าเด่นพราวไกลแสนไกล
ดั่งโคมทอง ผ่องเรืองรุ่งในหทัย
เหมือนธงชัย ส่งนำจากห้วงทุกข์ทน
พายุฟ้า ครืนข่มคุกคาม
เดือนลับยาม แผ่นดินมืดมน
ดาวศรัทธา ยังส่องแสงเบื้องบน
ปลุกหัวใจปลุกคนอยู่มิวาย
ขอเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
คนยังคง ยืนเด่นโดยท้าทาย
แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย
ดาวยังพราย ศรัทธาเย้ยฟ้าดิน
ดาวยังพรายอยู่จนฟ้ารุ่งราง
ก็เลยลองค้นคว้าเกี่ยวกับจิตร ดู และได้เจอกระทู้นี้ ก็เลยขอขุดขึ้นมา
เนื้อหาบางส่วนต่อไปนี้คัดลอกจาก
http://www.geocities.com/thaifreeman/jit/yonbok/yonbok.html--------------------------------------------------------------
คำแถลงดังกล่าวของจิตรได้ช่วยโน้มน้าวนิสิตผู้มีใจเป็นธรรมให้มีความคิดเห็นโน้มเอียงมาทางตน ทำให้มีเสียงปรบมือสนับสนุนดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ยืดเยื้อและยาวนานกว่าเดิม พร้อมกับมีเสียงตะโกนขึ้นว่า "ให้ตีแผ่หนังสือออกมา" ดังลั่นทั่วทั้งหอประชุม จึงก่อให้เกิดความเดือดดาลขึ้นในหมู่นิสิตปฏิกิริยาขวาจัด จนมีเสียงตะโกนแย้งขึ้นว่า"โยนน้ำเลย"
ทันใดนั้นเอง เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น นายสีหเดชและนายศักดิ์ นิสิตเลือดร้อนกลุ่มขวาจัด ซึ่งเคยกดไหล่ให้จิตรนั่งลง เมื่อคราวที่แสดงความไม่เห็นด้วยกับคำแถลงของ ม.ร.ว.สลับ ได้ปีนขึ้นมาบนเวทีที่จิตรกำลังยืนแถลงอยู่ท่ามกลางความตื่นตะหนกของเหล่านิสิตที่นั่งฟังคำแถลงอยู่ด้านล่าง ไม่ทันได้พูดพร่ำทำเพลง นายสีหเดชก็วิ่งกราดเข้าเตะจิตรจนล้มฟุบลงกับพื้น แล้วนิสิตปฏิกิริยาทั้งสองก็ตรงเข้ามาประกบล็อคตัวจิตรไว้ทั้งซ้ายขวาและดึงแขนไว้ไม่ให้พูดต่อ นายชวลิต พรหมานพ เลขานุการของคณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้วิ่งตามขึ้นมารวบขาทั้งสองข้างของจิตรไว้ หนึ่งในนิสิตอันธพาลทั้งสามได้ตะโกนขึ้นว่า "อย่าโยนน้ำเลย โยนบกนี่แหละ"
พอสิ้นคำพิพากษาจากศาลเตี้ย ร่างของจิตรก็ถูกโยนลงมาจากเวทีหอประชุม ลงมากองอยู่กับพื้นไม้อัดด้านล่าง ซึ่งเป็นการกระทำที่ทารุณ โหดร้าย และป่าเถื่อนอย่างที่นิสิตหลายคนมิอาจยอมรับได้ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า บางครั้งการศึกษาที่สูงก็ไม่สามารถพัฒนาจิตใจให้ทุกคนเป็นคนดีได้เสมอไป
----------------------------------------------------------------