นายฟ้อนตามบักหมงมาไหว้ผม เห็นว่าเป็นน้องชายก็เลยซักไปนิดนึงว่าทำไมถึงไม่ทำงานที่โรงงาน คือผมไม่อยากให้เพื่อนบ้านที่ดีแคลงใจว่าผมไปย่องตอดเอาคนของเขามา
“คุณลุงไม่รับครับ คนงานเต็มแล้ว”
ผมถือโอกาสบอกคุณลุงด้วยเพื่อพบกัน ว่าผมรับน้องชายของนายฟ้อนมาทาสีบ้านให้ผม
“มันขี้เกียจ อย่าไปเอามันเลย”
“อ้าว ผมตกปากรับคำไปแล้ว งั้นขอดูลายหน่อยแล้วกันนะครับ ไม่เป็นไร ผมจ้างเขาเป็นรายวัน ถ้าไม่ไหวก็จะเลิกจ้าง ขอบพระคุณครับที่บอก”
บักหมงหน้าตาดูซื่อๆ แววตามีความวิตกกังวลอยู่ยังไงไม่รู้ เขายังอาศัยซุกหัวนอนอยู่ในโรงงานของคุณลุง แต่เช้าก็เดินมาทำงานตั้งแต่ก่อนเวลา เที่ยงกลับไปล้อมวงกินข้าวคนงานกับพี่ชาย บ่ายก็กลับมาปีนกระไดไม้ไฝ่ เอาน้ำมันเครื่องก้นแคร้งทาฝาบ้านต่อ ไม่เคยอู้ไม่เคยหลบ สังเกตุอยู่หลายวัน คนอย่างนี้ถูกหาว่าขี้เกียจได้อย่างไร ผมนึกในใจ
คุณลุงมาบ้านผมบ่อยๆเพราะสนิทกัน เห็นนายมงคลทีไรก็มองแบบค้อนๆ แต่บักหมงก็สุภาพอ่อนน้อมกับคุณลุงเสมอทุกครั้งที่ประจันหน้ากันในบ้านผม
“คุณลุงรับเมียผมทำงาน ให้ข้าวพ้มกิน ให้ที่พ้มนอน มีบุญคุณกับพ้มมากเลยขรับ” เขาเล่าให้ผมฟังหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นผ่านมาแล้วนานทีเดียว
“พี่ฟ้อนเข้ามาทำงานที่กรุงเทพตั้งแต่อายุ ๑๔ พ้มต้องอยู่ช่วยพ่อช่วยแม่ปลูกมันสำปะหลัง บางปีมันดีราคาก็ตก ราคาจะขึ้นสูงตอนปีที่มันไม่ดี ก็ไม่รู้จะเอาอะไรไปขายเค้าให้พออยู่พอกิน
ก่อนจะลงกล้ามัน ถ้าไม่กำจัดหญ้าคาก่อนก็ไม่มีทางได้กิน มีทางเดียวขรับ ต้องใช้ยาฆ่าหญ้า พ้มน่ะไม่ถูกกับยานี้เล้ย ได้กลิ่นมันทีไรก็มึนงงไปทั้งวัน
ครั้งนึงกำลังพ่นยาอยู่เกิดลมหวนกลับ ยาปลิวมาโดนเต็มตัว พ้มล้มทั้งยืน สลบไป ฟื้นมาแล้วผมตัดสินใจเลย ไม่เอาอีกแล้ว บอกพ่อบอกแม่ว่าจะขอตามไปอยู่กับพี่ฟ้อนละ ถ้าอยู่ต่อไปก็ตายแน่”
“มากันทั้งผัวทั้งเมียเลยหรือ”
“เปล่าขรับ ครั้งแรกพ้มมาคนเดียวก่อน ยังไม่ยอมให้เมียตามมา”
“อ้าว เหรอ แล้วทำไมตอนนั้นคุณลุงถึงไม่รับมงคลให้ทำงานล่ะ”
“คุณลุงหาว่าผมขี้เกียจขรับ พ้มก็ไม่รู้จะเถียงแกอย่างไร ก็แกลงมาทีไรเห็นพ้มตอนเดินเข้าห้องน้ำทุกที ครั้งที่สาม แกเลยบอกว่าผมอู้งาน ไม่จ้างแล้ว ตอนนั้นถ้าคุณหม่อมไม่ให้งานพ้มทำ พ้มก็ไม่รู้จะไปไหนต่อ”
“แล้วเมียเราล่ะ”
“พอพ้มทำงานให้คุณหม่อมได้แน่ๆ พ้มเลยไปรับเมียมาสมัครงานกับพี่ฟ้อน คุณลุงก็ไม่ว่าอะไร ให้ทำงานมีที่อยู่ที่กินพร้อม เลยได้อยู่ด้วยกัน”
อึมม์…. แต่อีกเป็นปีแหละครับ ผมจึงได้ปลูกเรือนคนงานในบ้าน แล้วให้ผัวเมียคู่นี้ย้ายมาอยู่อาศัยในรั้วบ้านผม เพราะแน่ใจแล้วว่า บักหมงไม่ได้เป็นคนแบบที่คุณลุงตั้งข้อหาไว้ในสมองของผม ทั้งสองไม่เพียงแต่ไม่ขี้เกียจ แต่ยังขยันหางานโน่นงานนี่ในบ้านทำโดยไม่ต้องรอฟังคำสั่งจากใคร บ้านผมทั้งหลังในรูป ทั้งสีดำสีแดงสีขาว ตั้งแต่หลังคายันเสาเรือน บักหมงโชว์เดี่ยว “หมู” เมียของบักหมงนั้น ยังมีฝีมือทางทำกับข้าวถูกปากลูกๆผมด้วย เลยเลิกทำงานในโรงงานมาเป็นแม่บ้านแม่ครัวประจำบ้าน อยู่กินกับผมเลยทีเดียว
ชีวิต'บักหมง'แค่เริ่มต้นก็ดราม่าแล้ว รอลุ้นต่อค่ะ ว่ากว่าจะเป็น'บิ๊กหมง'จะต้องผ่านขวากหนามน้ำตาท่วมจอหรือไม่
เห็นตัวละครโผล่มาอีกตัวด้วย คาดว่าน่าจะเป็นตัวเอกในตอนต่อจาก'ว่าจะเป็นบิ๊กหมง' ขออนุญาตตั้งชื่อตอนคอยไว้ก่อนเลยนะคะ ว่า 'หมูของหมง'