ราชบัณฑิตยัน ศิลาจารึกสมัยสุโขทัย ชี้พิสูจน์วิทยาศาสตร์หิน - รอยขูดแล้ว
นายประเสริฐ ณ นคร ราชบัณฑิตสาขาประวัติศาสตร์ ให้สัมภาษณ์กรณีนายพิริยะ ไกรฤกษ์
ผู้อำนวยการสถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักวิชาการบางส่วน
ออกมาระบุศิลาจารึกหลักที่ 1 ไม่ได้ทำขึ้นใน พ.ศ.1835 ตรงกับสมัยสุโขทัย
แต่ทำขึ้นระหว่าง พ.ศ.2394-2398 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 4) ว่า
ข้อเสนอของนายพิริยะซึ่งเป็นนักประวัติศาสตร์ศิลปะพูดมากว่า 10 ปีแล้ว และถกเถียงกันมาหลายครั้ง
แต่นักวิชาการสาขาต่างๆ ยังคงยืนยันว่าศิลาจารึกหลักที่ 1 ทำขึ้นในสมัยสุโขทัย
ส่วนการยกคำศัพท์จากจารึกหลักที่ 1 แล้วไปเทียบกับหลักอื่นนั้น ยังมีเหตุผลไม่เพียงพอ
และวิธีพิสูจน์ยังไม่น่าเชื่อถือเพียงพอ
นายประเสริฐกล่าวว่า อย่างคำศัพท์ว่า "ขับ" นายพิริยะบอกว่าจารึกหลักอื่นแปลว่า "ไล่"
แต่ในจารึกหลักที่ 1 "ขับ" มีความหมายว่าขับร้อง ถ้าไปดูจะเห็นว่า ในจารึกหลักที่ 1 ก็มี "ขับ"
ที่แปลว่าไล่เหมือนกัน และมีที่แปลว่าขับร้องด้วย แต่ใช้พยัญชนะ "ฃ" แทนเป็น "ฃับร้อง"
นายพิริยะยังบอกอีกว่าจารึกหลักที่ 1 เขียนขึ้นตอนเสียง "ข" และ "ฃ" เสียงมาเหมือนกับปัจจุบันแล้ว
แต่นักภาษาศาสตร์บอกว่าจารึกหลักที่ 1 ตรงกับภาษาไทขาวที่แยกเสียง "ข" กับ "ฃ"
ก็บอกต่อว่าไม่เห็นพิสูจน์เลยว่าไทขาว กับสุโขทัย ทำไมไปเหมือนกันได้ อ้างอย่างนี้ได้อย่างไร
คนที่ไม่รู้เรื่องภาษาศาสตร์ก็พูดเรื่อยไป อย่างข้อความในศิลาจารึกว่า ชื่อ "สรีอินทราทิตย"
อ่านถูกต้องแล้ว ไม่ใช่ "สรีนีทราทีตย" เช่นที่นายพิริยะเข้าใจ ส่วนข้อความอื่นๆ ในจารึกหลักที่ 1
สามารถเทียบเคียงกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในยุคสมัยใกล้เคียงกันได้
"คำว่าเมืองไท ในจารึกหลักที่ 1 ที่บอกว่าเกิดสมัยรัตนโกสินทร์ ช่วงรัชกาลที่ 3-4
เพราะโบราณไม่ได้คิดถึงเรื่องเชื้อชาติ ประเทศ แต่ในจารึกวัดป่าแดง ที่เชียงตุง พ.ศ.1994 มีระบุว่า
นำศาสนาจากลังกามาเมืองไท แสดงว่าคำนี้มีมานานแล้ว ส่วนข้อความ "เจ้าเมืองบ่เอาจกอบในไพร่"
ที่บอกว่าทำขึ้นสมัยรัชกาลที่ 4 เพราะคิดในเรื่องทุนนิยม ลองอ่านไตรภูมิพระร่วง ซึ่งเขียนขึ้นสมัยพระยาลิไท
สมัยสุโขทัย จะเห็นว่ากล่าวถึงการเก็บภาษีด้วย หรืออย่างในจารึกหลักที่ 1 ที่ระบุว่า
พ่อขุนรามคำแหงใส่ลายสือไท ก็คล้ายกับในหนังสือจินดามณี ที่มีข้อความว่า พระร่วงใส่ลายสือไท
อาจารย์พิริยะบอกว่าเป็นการใส่ข้อความเข้าไปใหม่ ทั้งที่เมื่อไปดูต้นฉบับหนังสือจินดามณี
ก็ปรากฏลายมือสมัยอยุธยาเขียนไว้ คือ นำหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในสมัยที่ใกล้เคียงกับสุโขทัย
มาเทียบเคียงซึ่งก็ได้ข้อสรุปว่า ศิลาจารึกหลักที่ 1 ทำขึ้นสมัยสุโขทัยจริงๆ" นายประเสริฐกล่าว
ราชบัณฑิตสาขาประวัติศาสตร์กล่าวอีกว่า การพิสูจน์ด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์
เป็นอีกวิธีหนึ่งที่พิสูจน์ได้แล้วว่าศิลาจารึกหลักที่ 1 ทำขึ้นสมัยสุโขทัย ตอนที่จัดสัมมนากัน
ได้บอกว่ากำลังนำหินไปพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อยู่ ดูทั้งหิน ดูทั้งรอยขูด แต่นายพิริยะไม่เชื่อถือผลการทดสอบ
เพราะผู้ทำคือ กรมศิลปากร ย่อมต้องการให้ดูเก่า แต่จริงๆ มีคนของกรมทรัพยากรธรณีมาช่วยกันหลายคน
ท้ายสุดก็สรุปได้ว่าเป็นของเก่าสมัยสุโขทัย แต่ระบุไม่ได้ว่าอยู่ในรัชกาลไหน
ด้านนายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปากรที่ 6 สุโขทัย กรมศิลปากร กล่าวว่า
หลักศิลาจารึกหลักที่ 1 สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยในปี พ.ศ.1835 ค้นพบในสมัยรัชกาลที่ 3
ซึ่งรัชกาลที่ 4 เป็นผู้ค้นพบขณะผนวชอยู่ หลักฐานที่ยืนยันได้ว่า ศิลาจารึกหลักที่ 1 สร้างขึ้นสมัยสุโขทัย
อาทิ รูปร่างหน้าตา ตัวอักษร ข้อความภาษาของหลักศิลาจารึกที่ค้นพบประมาณ 70 หลัก
มีความสอดคล้องกัน ส่วนเนื้อความที่พูดถึง เนื้อความที่มีอยู่ เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้น
สิ่งที่มีอยู่ในเขตเมืองโบราณสุโขทัยทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็น สรีตภงส์ ประตูเมือง กำแพงเมืองสี่ด้าน
"หลักศิลาจารึกหลักที่ 1 เป็นของแท้ดั้งเดิม รัชกาลที่ 5 ท่านเคยบันทึกไว้ว่า สมเด็จพระราชบิดา
ขณะทรงผนวชท่านได้ขนมาจากเมืองสุโขทัยเก่า ถ้าเราไม่เชื่อใจพระมหากษัทริย์ ไม่เชื่อ ร.5
ผมไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว ปัจจุบันนักวิชาการกระแสหลักยังเห็นว่า หลักศิลาจารึกหลักที่ 1
สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย ไม่ได้สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ดังนั้น จะต้องมีหลักฐานว่าสร้างขึ้นในสมัย ร.4
มายืนยันถึงจะเชื่อ อย่าแค่สันนิษฐาน" ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปากรกล่าว
- - -- - - - - - -- - - - - - - - - -- - - -
ข่าวจาก : มติชน วันที่ 03 กรกฎาคม พ.ศ. 2547
ที่มา :
http://www.matichon.co.th/matichon/