เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3 ... 6
  พิมพ์  
อ่าน: 10779 “มาดูรูปพิธีกรรมสำเร็จโทษเจ้านายในพม่ากัน” ตอนพิเศษ “ตามล่าหาความจริง”
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


 เมื่อ 05 พ.ค. 18, 11:04

เมื่อ ๒ ตุลาคม ๒๔๕๒ หรือเมืองแปดปีครึ่งที่ผ่านมา  ผมได้เริ่มใช้เวลาว่างหลังปลดภาระการงานออกไปทีละอย่างสองอย่าง  เอาเวลาตรงนั้นมาใช้ในการเขียนลงพันทิปดอทคอม  ประเดิมโดยเรื่องราวในอดีตของพม่าก่อนเสียเมืองให้อังกฤษ  เกิดเป็นซีรีย์ถึง ๕ ตอนที่ทำให้คนรู้จัก NAVARAT.C แล้วยัดเยียดให้ผมเป็นอาจารย์  แม้ผมจะพยายามบอกว่าผมเป็นสถาปนิก ยอมให้เฉพาะผู้รับเหมาเท่านั้นที่จะมาเรียกผมดังว่า  สำหรับในเรื่องประวัติศาสตร์แล้วผมเป็นเพียงผู้อ่าน  ชอบเรื่องที่ผ่านตาเรื่องใด ก็เอามาเล่าต่อเท่านั้น  ส่วนข้อเท็จจริงจะผิดถูกอย่างไรผมไม่มีญาณทัศนะจะหยั่งถึง  เอาเป็นว่า ผมได้พยายามตรวจสอบเต็มที่โดยอ่านเล่มอื่นๆประกอบด้วยจนถึงที่สุดแล้ว แม้จะไม่มีเชิงอรรถเพราะมันไม่ใช่บทวิชาการ แต่ผมรับรองว่าไม่มีตรงไหนที่ผมมโนเขียนขึ้นเอง  และ(ขณะที่เขียนนั้น)ผมเชื่อในสิ่งที่ผมเขียนนั้นว่าเป็นเรื่องจริงก็แล้วกัน

แม้กระนั้น ผมก็ยังสนใจในข้อเท็จจริงต่างๆที่เคยนำมาเขียนเล่าสู่กันฟังเสมอ ถ้ามีข้อมูลใหม่ที่สำคัญพอ ผมก็พยายามจะเอามาปรับเปลี่ยน อย่างเช่นเรื่องนี้เป็นต้น


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 05 พ.ค. 18, 11:04

.


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 05 พ.ค. 18, 11:05

.


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 05 พ.ค. 18, 11:06

.


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 05 พ.ค. 18, 11:18

ผมเคยไปมัณฑะเลย์มาแล้วเพียงครั้งเดียวเมือประมาณสี่สิบปีมาแล้ว ตอนนั้นพระราชวังเลียนแบบของเดิมยังไม่ได้สร้าง จะมีก็เพียงกำแพงเมือง แล้วผมก็ยังไม่เคยทราบเรื่องราวของการบูชายัญด้วยมนุษย์เป็นๆของเมืองนี้ จึงไม่สนใจจะมองหา ต่อมาเมื่อรู้แล้วพยายามจะใช้อินทรเนตรก็หาได้พบไม่ แต่ด้วยตาเนื้อของมนุษย์ตัวเป็นๆ คราวนี้ผมเจอหลักเมืองที่เคยคิดว่ารัฐบาลพม่าย้ายไปซ่อน ยังอยู่ในตำแหน่งเดิมที่ฝรั่งผู้เขียนในสมัยโน้นนำมาประกอบภาพ


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 07 พ.ค. 18, 08:34

ก่อนจะไปย้อนอดีตตามล่าหาความจริงกันต่อ ผมอยากให้ดูแผนที่ของมัณฑะเลย์ยุคที่อังกฤษเข้ายึดครองใหม่ๆ ซึ่งตรงกับต้นๆรัชกาลที่ ๕ ของสยาม สมัยนั้น กำแพงเมืองมัณฑะเลย์ก็เหมือนกับกำแพงเมืองเดิมของกรุงเทพ เพียงแต่มันสูงหนากว่าของเราสักเท่าหนึ่ง แถมด้านหลังกำแพงยังถมดินหน้ากว้างประมาณถนนขึ้นไปยันถึงด้านบนเพื่อให้ม้าวิ่งได้สบายๆอีก พม่าเตรียมกำแพงไว้รบกับมหาอำนาจ ไม่อังกฤษก็จีน แต่ก็อย่างที่รู้ๆกัน ถึงเวลาเข้าทหารอังกฤษได้เดินสวนสนามผ่านประตูกำแพงเมืองนี้ไปเฉยๆ

ภายในกำแพงเมือง พระเจ้าแผ่นดินพระราชทานที่ให้พวกเจ้านายและขุนนาง ข้าราชการ สร้างวังสร้างบ้านพักอาศัย ราษฎรที่เป็นคนในสังกัดของบุคคลชั้นสูงดังกล่าวก็ได้เข้าไปพำนักใกล้ๆเพื่อรับใช้ เช่นเดียวกับกองทหาร พวกที่มีหน้าที่ป้องกันเมือง และป้องกันวังถวายความปลอดภัยให้พระเจ้าแผ่นดิน ไม่ให้ใครรุกล้ำเขตพระราชฐาน(กรอบสีน้ำเงิน)เข้าไปได้ ภายในเขตนี้ ทหารรักษาพระองค์และชาววังเท่านั้นที่จะได้พำนักอยู่
ส่วนเขตพระราชฐานชั้นในที่ประทับจริงๆของพระเจ้าแผ่นดินกับบรรดามเหษีและเจ้าจอมทั้งหลาย(กรอบสีเขียว) มีกำแพงล้อมรอบ แต่ทั้งกำแพงวังและกำแพงพระราชฐานไม่ได้สูงใหญ่เหมือนกำแพงเมือง อังกฤษเข้าครอบครองเขตภายในกำแพงเมืองมัณฑเลย์หมด เปลี่ยนชื่อเป็น Fort Dufferin  เป็นเกียรติแก่ Frederick Temple อุปราชแห่งอินเดียผู้ส่งกองทัพอังกฤษมาพิชิตพม่า ผู้ซึ่งสุดท้ายมีตำแหน่ง Marquess of Dufferin and Ava

ครั้นอังกฤษคืนพม่าให้เจ้าของประเทศแล้ว ฟอร์ต ดัฟเฟอรินได้กลายเป็นที่ตั้งกองทหารของเมียนมาร์ ซึ่งกันพื้นที่ในเขตพระราชทานให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวภายใต้กฏเกณฑ์ที่เคร่งครัด นักท่องเที่ยวจะเที่ยวไปเดินๆล้ำเข้าเขตทหารไม่ได้


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 07 พ.ค. 18, 08:46

เขตพระราชฐานชั้นใน ซึ่งพม่าต้องการสร้างให้เป็นศูนย์กลางของจักรวาลนี้ไม่ได้ใหญ่โตมโหฬารมากนัก เปรียบเทียบกับเขตพระราชฐาของพระบรมมหาราชวังมิได้เลย ภาพนี้เป็นผลิตผลของโดรน รัฐบาลเมียนมาร์เพิ่งจะนำออกเผยแพร่ไม่นานนักในยูทูป


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
Pat
อสุรผัด
*
ตอบ: 7


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 07 พ.ค. 18, 09:00

ลงชื่อเข้าคลาสค่ะ ☺️
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 07 พ.ค. 18, 11:23

ดีใจจัง มีคนเข้ามาตามดูแล้ว รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้หายากหาเย็น ไปกระจุกตัวที่fbกันหมด
.
.
ก่อนจะผ่านกำแพงเมืองเข้าไปตามหาข้อมูล เพื่อยืนยันว่าผมไปจริงๆ ไม่ได้อ่านข้อความคนอื่นแล้วนำมาเขียน หรือยกเมฆขึ้นเองเพื่อความมัน ผมจึงนำภาพนี้มาให้ดู
v
ถ้าเอาตามข้อมูลที่พลตรีฟลิตชย์ (Fytche) ผู้เขียน Burma, Past and Present กล่าวไว้ แต่ละเสาหลักเมืองข้างกำแพง จะฝังคนลงไปทั้งเป็น ๓ คน ทั้งหมด ๑๒ เสา ก็ ๓๖ คน
เรื่องนี้มีผู้เขียนความเห็นในหน้าเฟซของผมว่า ตอนซ่อมพระราชวังมัณฑเลย์ นักโบราณคดีพม่าได้ขุดพิสูจน์ใต้ที่ตั้งพระราชบัลังก์สีหาสนะ ซึ่งพลตรีฟลิตชย์กล่าวว่าตรงนั้นฝังไว้รวมกัน ๔ คน ปรากฏว่าไม่พบอะไรนอกจากไหทำด้วยหินขนาดไม่ใหญ่นัก สันนิษฐานว่าเป็นภาชนะบรรจุน้ำมันหอมในพิธีกรรม อันนี้ผมตามหาข้อมูลเพิ่มแต่ในอินเทอเน็ตไม่มี ค้นหาชื่อผู้เขียนคคห.นี้ก็ไม่เจอเสียแล้ว จึงไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้

ดังนั้น แถวๆโคนเสาอาจจะมีราษฎรพม่า ๓ คน ถูกบังคับให้พลีชีพเเป็นนัตเฝ้าอยู่ไม่มีผุดมีเกิด แต่ที่เห็นยืนอยู่กับเสาเป็นคนครับ ไม่ใช่นัต นั่นและพ้ม


บันทึกการเข้า
unicorn9u
มัจฉานุ
**
ตอบ: 65


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 07 พ.ค. 18, 14:24

ลงชื่อเข้าคลาสบ่ายครับอาจารย์
บันทึกการเข้า
Naris
องคต
*****
ตอบ: 421


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 07 พ.ค. 18, 15:23

ผมก็สนใจครับ ยังอยู่ครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 07 พ.ค. 18, 16:28

นั่งอยู่แถวหลังค่ะ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 07 พ.ค. 18, 17:08

ยินดีต้อนรับครับ ตอนนี้เรตติ้งเริ่มดีขึ้นแล้ว ค่อยยังชั่วหน่อย
.
.
นอกจาก ๓ คนที่เสาหลักเมืองข้างกำแพงทั้ง ๔ ทิศ รวม ๑๒ เสา แล้ว
ยังมี ๑ คนที่แต่ละมุมเมือง
๔ คนที่แต่ละหัวมุมของพลับพลาหอรบหน้าประตูหลักของเมือง
๑ คนที่แต่ละประตูพระราชวังทั้ง ๔ ทิศ
กับอีก ๔ คนใต้สีหาสนะบัลลังก์

นายพลอังกฤษคนเดียวกันบันทึกตามที่เขาค้นคว้ามาว่า มีคนถูกจับมาทำพิธีทารุณกรรมทั้งหมดในคืนอุบาทว์นั้น ๕๒ คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ถ้าเป็นหญิงกำลังท้องยิ่งให้ลำดับสำคัญ เพราะลงทุนฆ่าคนๆเดียวแต่ได้ถึง ๒ วิญญาณอย่างน้อย

เหยื่อบูชายันต์แต่ละคนจะถูกนำไปมัดในก้นหลุมที่เตรียมไว้ พอได้ฤกษ์ก็ทุ่มด้วยหินให้ตาย เอาดินกลบ หลังจากนั้นก็ผลักโอ่งน้ำมันหอมที่เตรียมไว้ลงไปก่อนแล้วโกยดินลงไปทับ รุ่งขึ้นจึงทำพิธีเอาเสาเอกลงหลุมให้เหมือนกับว่าไม่มีการเอาคนลงฝังไว้ล่วงหน้าแล้ว

ผมไปคราวนี้จึงทราบว่าพม่าบ้าหวยพอๆกับคนไทย มีหวยรัฐบาลออกทุกวันเป็นหวยเล็ก ส่วนหวยใหญ่เงินรางวัลแยะจะออกตามวันของไทย นี่เป็นความฉลาดของรัฐบาลพม่าที่ไม่ต้องลงทุนในกรรมวิธีออกสลาก รอชุบมือเปิบดีกว่าไม่เสียสตางค์  ดังนั้นถึงเวลาหวยใหญ่ออก คนพม่าจะลุ้นหน้าจอทีวีพร้อมๆกับคนไทย ซึ่งพวกได้เฮมีนิดเดียว ส่วนใหญ่เห็นแต่โฮกับโห่  อย่างไรก็ดี ผมไม่เห็นคนพม่ามาขูดเสาพวกนี้ขอหวย แสดงว่าแผนการลับบของสมุนพระเจ้ามินดงได้ผล คนมัณฑเลย์จึงไม่รู้เรื่องพิธีบูชายัญนี้ นอกจากไอ้คนที่คาบความไปบอกฝรั่ง

ดังนั้นจึงมีผู้เขียนความเห็นในหน้าเฟซของผมว่า ตอนซ่อมพระราชวังมัณฑเลย์ นักโบราณคดีพม่าได้ขุดพิสูจน์ใต้ฐานที่ตั้งพระราชบัลังก์สีหาสนะ ซึ่งพลตรีฟลิตชย์กล่าวว่าตรงนั้นฝังไว้รวมกัน ๔ คน ปรากฏว่าไม่พบอะไรนอกจากไหทำด้วยหินขนาดไม่ใหญ่นัก สันนิษฐานว่าเป็นภาชนะบรรจุน้ำมันหอมในพิธีกรรม ส่วนที่เสาหลักเมืองไม่ได้กล่าวถึง อันนี้ผมพยายามตามหาข้อมูลเพิ่มแต่ในอินเทอเน็ตไม่มี ค้นหาชื่อผู้เขียนคคห.นี้ก็ไม่เจอเสียแล้ว(ถ้าท่านเข้ามาเห็นก็ทักมาหน่อยนะครับ) จึงไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 07 พ.ค. 18, 17:24

ก็ไม่ทราบว่าไหหินที่ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ทำไมแค่เอาไปใส่น้ำมันหอมจึงต้องออกแรงซะขนาดนั้น  ความสงสัยของผมยิ่งทวีขึ้นเมื่อเจอรูปนี้ในเน็ต ใต้ภาพบรรยายว่าทหารอังกฤษค้นโกดังหลวงแล้วไปเจอเอาภาชนะทำด้วยเงินนี้เข้า สันนิษฐานว่าเป็นภาชนะบรรจุอาหารให้ช้างเผือก

ถ้าช้างต้องเอางวงลงไปควานหาอะไรขึ้นมาใส่ปากจากโอ่งปากแคบอย่างนั้น พี่ทั่นอาจไม่พอใจถีบให้ล้มเพื่อจะอำนวยความสะดวกแก่ตนมากกว่า แล้วภาชนะที่ทำมาเผื่อแยอะแยะใช้ไม่หมดนี้เอาไว้งานอะไรเล่า ?


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 07 พ.ค. 18, 17:32

พลันก็ย้อนกลับมาดูภาพนี้ ผมเอามาให้ดูหลายทีแล้ว แต่สำหรับท่านที่ยังไม่เคยเห็น ผมจะทิ้งไว้ให้พิจารณาเป็นการบ้านสักคืนนึงก่อนที่เราจะไปกันต่อ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 ... 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.043 วินาที กับ 19 คำสั่ง