กระทู้: ทนายหน้าหอมีจนถึงช่วงสมัยไหน เริ่มกระทู้โดย: mark08 ที่ 15 เม.ย. 23, 20:50 สวัสดีค่ะ อยากทราบเรื่องทนายหน้าหอ
ว่าหลัง ร.5 ยกเลิกระบบทาสและไพร่ จัดตั้งระบบการศึกษาขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว ทนายหน้าหอที่รับใช้เจ้านายยังมีอยู่ไหมคะ ถ้ามีจนถึงถึงช่วงเวลาไหน ขอบคุณค่ะ กระทู้: ทนายหน้าหอมีจนถึงช่วงสมัยไหน เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 เม.ย. 23, 16:57 อ่านแล้วค่อนข้างงง เพราะคำถามคุณเอาเรื่อง 2 เรื่องที่ไม่เกี่ยวกันมาโยงเข้าด้วยกัน
แต่จะพยายามตอบตามที่ตัวเองเข้าใจ ถ้าผิด คุณเพ็ญชมพูคงจะเข้ามาบอกเอง คือทนายหน้าหอ เป็นตำแหน่งหัวหน้าคนรับใช้ ทำนองเดียวกับ butler ของอังกฤษ ไม่เกี่ยวอะไรกับระบบทาสและไพร่ ไม่เกี่ยวกับระบบการศึกษา พูดแบบภาษายุุคนี้คือเป็นงานจ๊อบงานหนึ่ง ทำงานเป็นบริวารชั้นมีหน้ามีตาหน่อยของขุนนาง ถ้าเป็นในสมัยโบราณที่มีศักดินา เมื่อขุนนางมีกรณีพิพาทกับคนที่มีศักดินาต่ำกว่า ก็ไม่ต้องไปตากหน้าหาตุลาการตัดสินปรับโทษเอง ใช้ทนายหน้าหอไปแทนก็ได้ ถ้าถามว่าทนายหน้าหอมีมาจนช่วงเวลาไหน ก็กำหนดพ.ศ.เป๊ะๆลงไปไม่ได้ เพราะอาชีพนี้ไม่ได้ระบุไว้เป็นทางการ จึงไม่มีการยกเลิก แต่ดูตามเหตุการณ์ หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองมีการยกเลิกบรรดาศักดิ์ขุนนาง ต่อมามีสงครามโลกครั้งที่ 2 เศรษฐกิจไม่ดี ขุนนางเก่าๆที่ยังเหลืออยู่ไม่สามารถจ้างบริวารได้มากๆ ทนายหน้าหอก็หมดไปเอง ปัจจุบัน คนที่ทำหน้าที่คล้ายทนายหน้าหอสำหรับเศรษฐี คือเลขานุการส่วนตัวที่เป็นผู้ชาย กระทู้: ทนายหน้าหอมีจนถึงช่วงสมัยไหน เริ่มกระทู้โดย: mark08 ที่ 17 เม.ย. 23, 18:16 ขอบคุณนะคะ
เผอิญเห็นซีรีส์วายเรื่อง "หอมกลิ่นความรัก" เป็นเรื่องเกี่ยวกับทนายหน้าหอ อยู่ในช่วง ร.7 พ.ศ.2470-2471 เลยสงสัยว่าในสมัยนั้นอาชีพนี้ยังมีอยู่รึเปล่า กระทู้: ทนายหน้าหอมีจนถึงช่วงสมัยไหน เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 เม.ย. 23, 18:37 สมัยรัชกาลที่ 7 มีค่ะ
กระทู้: ทนายหน้าหอมีจนถึงช่วงสมัยไหน เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 17 เม.ย. 23, 19:35 คำว่า "ทนายหน้าหอ" ปัจจุบันใช้เป็นสำนวน หมายความว่า "คนที่มักออกหน้าแทนผู้เป็นนาย" มักใช้เป็นคำเหน็บแนม ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็น ทนายหน้าหอ คงไม่พอใจเท่าไร
กระทู้: ทนายหน้าหอมีจนถึงช่วงสมัยไหน เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 03 พ.ค. 23, 11:10 ร.5 ทรงปลอมพระองค์เป็นทนายตามเสด็จที่กำแพงเพชร
คุณเอนก นาวิกมูล เขียนว่า สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเล่าถวายสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เมื่อ 1 ตค 2483 หม่อมฉันเห็นว่าเป็นเพราะเจ้านายได้รับความอบรมมา ผิดกับผู้อื่น ตั้งแต่ยังเยาว์จนเติบใหญ่....ถึงจะปิดบังอย่างไร กิริยาเจ้าคงโผล่ออกมา ซ่อนอาการที่เขาเรียกว่าสง่าไม่ได้ ....” เมื่อขึ้นต้นแล้วก็ทรงเล่าต่อว่า เมื่อ ร.5เสด็จประพาสต้นเมืองกำแพงเพชร (เดือนสิงหาคม พ.ศ.2449) วันหนึ่งทรงเรือเล็ก ไปจอดที่บ้านแห่งหนึ่งเพื่อจะทรงฉายรูป เจ้าของบ้านลงมาต้อนรับ คิดว่าเป็นพวกข้าราชการที่ตามเสด็จ ร.5 ทรงสั่งให้พระยาโบราณราชธานินทร์(พร เดชะคุปต์) ออกหน้าสำหรับปราศรัยกับเจ้าของบ้าน ส่วนพระองค์เองขอทำตัว เป็นทนาย(ผู้รับใช้,ผู้แทนของนาย) เดินตามหลัง ไม่ช้าเท่าใดกลก็แตก เพราะท่าทางพระยาโบราณฯเหลียวหน้าเหลียวหลังคอยชำเลืองดูทนายอยู่เรื่อย ส่วนพวกทนายคนอื่นๆ ก็ไม่เดินคลอไหล่ไปกับทนายคนสำคัญ ตัวทนายคนสำคัญเองบางทียังเผลอเรียกเอากล้องชักรูปหรือของอื่นจากเพื่อนทนายไปถ่ายเสียด้วย ที่สุดเจ้าของบ้านก็หันไปเคารพทนายคนสำคัญยิ่งกว่าเจ้าคุณโบราณฯ นี่เท่ากับ ร.5 ทรงถูกจับได้ เพราะอาการกิริยาเป็นเครื่องแสดงฐานะอย่างไม่รู้ตัว ร.5 ทรงเคยตรัสกับสมเด็จฯกรมพระยาดำรงฯตั้งแต่ครั้งถูกจับได้ที่ดำเนินสะดวก (ขึ้นบ้านยายผึ้งกับเจ๊กฮวด แล้วเจ๊กฮวดจำพระองค์ได้ ในหนังสือเสด็จประพาสต้นครั้งที่ 1 พ.ศ.2448)ว่าขากลับมากลางทาง ตรัสว่า “ฉันนี้เห็นจะหนียาก” ฝ่ายสมเด็จฯกรมพระยาดำรงฯก็กราบบังคมทูลว่า “ถ้าเสด็จออกนอกมณฑลกรุงเทพฯ ข้าพระพุทธเจ้าถวายเวลาให้หนี 7 วัน จะตามจับให้ได้” กระทู้: ทนายหน้าหอมีจนถึงช่วงสมัยไหน เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 03 พ.ค. 23, 14:35 คุณเอนก นาวิกมูล เขียนว่า สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเล่าถวายสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เมื่อ 1 ตค 2483 ขออนุญาตแก้ไขวันที่ จากวันที่ ๑ ตุลาคม เป็น ๑๕ ตุลาคม บ้านซินนามอน ปีนัง วันที่ ๑๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๘๓ ทูล สมเด็จกรมพระนริศฯ หม่อมฉันได้รับลายพระหัตถ์เวรฉบับลงวันที่ ๘ ตุลาคม เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๑ เวลาเช้า แต่มีรอยตัดเปิดผนึกที่ปีนัง และทราบความในลายพระหัตถ์ฉบับนี้ว่า จดหมายหม่อมฉันถวายไปเมื่อคราวเมล์ก่อน ก็ถูกตัดเปิดผนึกเหมือนกัน ยุติได้ว่าเป็นเพราะเขาตรวจเข้มงวดขึ้น ทูลสนองความในลายพระหัตถ์ฉบับลงวันที่ ๑ ตุลาคม ๑) เรื่องเสด็จประพาสต้นนั้น ……… ๒) ชื่อที่เรียกว่า "นิทาน" นั้น ……… ๓) ที่ตรัสเล่าเรื่องปลอมพระองค์ ไปกลแตกที่สรรพยานั้นขันดีแต่ไม่ประหลาด หม่อมฉันเห็นว่าเป็นเพราะเจ้านายได้รับความอบรมมา ผิดกับผู้อื่นตั้งแต่ยังเยาว์จนเติบใหญ่ ไม่รู้จักกิริยาบ่าวหรือกิริยากุลบุตรที่ได้เลื่อนยศขึ้นเป็นขุนนาง ถึงจะบิดบังอย่างไรกิริยาเจ้าคงโผล่ออกมา ซ่อนอาการที่เขาเรียกว่าสง่าไม่ได้ เมื่อสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จประพาสต้นที่เมืองกำแพงเพชร วันหนึ่งทรงเรือเล็กไปจอดที่บ้านแห่งหนึ่งเพื่อจะทรงฉายรูป เจ้าของบ้านลงมาต้อนรับด้วยสำคัญว่าเป็นพวกข้าราชการที่ตามเสด็จ ดำรัสสั่งให้พระยาโบราณออกหน้าเป็น "เจ้าคุณโบราณ" สำหรับทักทายปราศรัยเจ้าของบ้าน พระองค์เองเสด็จตามหลังเป็นทนายไม่ช้าเท่าใดกลก็แตก เพราะท่าทางพระยาโบราณแกปวดตัวเดินเหลียวหลังคอยชำเลืองดูทนายอยู่เสมอ พวกทนายคนอื่นก็ไม่เดินเรียงรอคลอไหล่กับทนายคนสำคัญ ยังซ้ำทนายคนสำคัญเองบางทีก็เผลอเรียกเอากล้องชักรูปหรือสิ่งอื่นจากเพื่อนทนาย ลงปลายเจ้าของบ้านก็หันไปเคารพทนายคนสำคัญยิ่งกว่าเจ้าคุณโบราณ ครั้งสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จไปเสวยที่บ้านราษฎรในคลองดำเนินสะดวกที่ ถูกลูกเจ้าของบ้านจับได้นั้น ขากลับมากลางทางก็ตรัสแก่หม่อมฉันว่า "ฉันนี้เห็นจะหนียาก" หม่อมฉันกราบทูลว่า "ถ้าเสด็จออกนอกมณฑลกรุงเทพฯ ข้าพระพุทธเจ้าถวายเวลาให้หนี ๗ วันจะตามจับให้ได้" ที่ทูลนั้นโดยมีหลักฐาน จะทูลตัวอย่างที่หม่อมฉันยังจำได้เวลานี้ ๒ เรื่อง ครั้ง ๑ ลูกสาวผู้มีบรรดาศักดิ์สูงคนหนึ่งหนีตามผู้ชายไป ผู้ปกครองมาให้หม่อมฉันช่วยสืบเสาะหม่อมฉันยังไม่ทันมีคำสั่ง ก็ได้รับโทรเลขบอกมาจากเมืองอุตรดิตถ์ว่า มีชายหนุ่มพาหญิงสาวชาวกรุงเทพฯ ขึ้นไปที่เมืองอุตรดิตถ์ ผู้หญิงเอาแหวนเพชรออกขายเห็นแปลก สงสัยจะเป็นลูกผู้ดีหนีไป อีกเรื่องหนึ่งเจ้าชายทิสากร ในสมเด็จกรมพระยาเทววงศ์เที่ยวอาละวาดในกรุงเทพฯ พระบิดาเสด็จติดตามเองก็ไม่ได้ตัว มาตรัสบอกหม่อมฉันว่าเห็นจะหนีออกไปหัวเมือง ให้ช่วยสืบจับสักที ยังไม่ทันสั่งกรมขุนมรุพงศ์ฯ ก็จับส่งเข้ามาจากเมืองฉะเชิงเทรา หม่อมฉันเคยสังเกตเห็นว่า ถ้าคนหนีซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพฯ จับยากกว่าหนีออกไปหัวเมือง เพราะฉะนั้นจึงปรากฏว่าจับตัวผู้ร้ายหัวเมืองได้ในกรุงเทพฯ เนือง ๆ จาก สาส์นสมเด็จ วันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ ดร (https://vajirayana.org/สาส์นสมเด็จ-พุทธศักราช-๒๔๘๓/ตุลาคม/วันที่-๑๕-ตุลาคม-พศ-๒๔๘๓-ดร) กระทู้: ทนายหน้าหอมีจนถึงช่วงสมัยไหน เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 04 พ.ค. 23, 09:35 ในบทความงานวิจัย "พัฒนาการนามศัพท์ "ทนาย" ต้ังแต่สมัยอยธุยาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์" ซึ่งศึกษาจากเอกสารร้อยแก้ว ประเภทสารคดี ได้แก่ จดหมายเหตุ, พงศาวดาร, บันทึก และประกาศ พบนามศัพท์ "ทนาย" จำนวน ๖ คำ คือ ทนาย, ทนายคบ, ทนายปืน, ทนายเลือก, ทนายเรือน และทนายความ ไม่พบ "ทนายหน้าหอ" คำนี้พบข้อมูลเฉพาะในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕, พ.ศ. ๒๕๔๒ และ พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งให้ความหมายว่า "(ปาก) น. หัวหน้าคนรับใช้ที่ใช้ออกหน้าออกตา, ผู้รับหน้าแทนนาย."
ผู้วิจัยให้เหตุผลที่ไม่พบ "ทนายหน้าหอ" ในเอกสารที่ใช้ศึกษา อาจเป็นเพราะ "ทนายหน้าหอ" เป็นเพียงภาษาพูดเฉพาะคนบางกลุ่ม จึงไม่มีการบันทึกในเอกสารประเภทสารคดีซึ่งมักเป็นเอกสารราชการ https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jhusoc/article/download/200068/139956 |