เรือนไทย

General Category => ระเบียงกวี => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ค. 13, 13:11



กระทู้: บทกวี ข้ามฝั่งฝัน ของนภาลัย สุวรรณธาดา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ค. 13, 13:11
ข้ามฝั่งฝัน

         
ในโลกแห่งความฝันวรรณศิลป์
         เคยครองถิ่นนักคิดพิชิตหวัง
         ถือคฑาคำทองครองบัลลังก์
         งามพร้อมพรั่งเกียรติยศปรากฏไกล

         แต่อยู่สูงเกินไปจึงไร้เพื่อน
         โลกจึงเหมือนโดดเดี่ยวเปลี่ยวไฉน
         ในโลกฝันบัลลังก์ร้างหัวใจ
         คฑาชัยร่วงหล่นไร้คนแล

         จึงเหม่อมองไปยังอีกฝั่งฝัน
         ในโลกนั้นหัวใจไร้รอยแผล
         มีดวงดาวพราวช่วงในดวงแด
         เป็นโลกแท้ที่ใกล้จึงไม่มอง

         ไร้รางวัลใดใดให้พิชิต
         มีแต่จิต ถึงจิต พิชิตหมอง
         ไร้คำกลอนอ่อนหวานปานคำทอง
         เพียงคำกรองกลั่นธรรมไร้คำลวง

         จะลงจากบัลลังก์ข้ามฝั่งฝัน
         หรือมุ่งมั่นเดินตรงปักธงสรวง
         จะสละทุกอย่างวางทั้งปวง
         หรือยังห่วงสิ่งใด...ข้ามไม่พ้น!
                     

นภาลัย  สุวรรณธาดา
   
๑๖ พค. ๕๕


กระทู้: บทกวี ข้ามฝั่งฝัน ของนภาลัย สุวรรณธาดา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ค. 13, 13:12
“ในโลกฝัน”

 ในโลกฝันวรรณศิลป์ถิ่นนักคิด
หวังชีวิตเดินทางอย่างยิ่งใหญ่
เป็นผู้รับแต่พอเพียงพอเลี้ยงวัย
แล้วคืนให้สังคมอย่างสมบูรณ์

ทุกบทนำคำทองล้วนกรองแล้ว
เพียงแสงแวววับวาบแล้วสาบสูญ
หรือก่องเก็จเพชรรัตน์จรัสจรูญ
ล้วนเกื้อกูลใจน้อยน้อยให้พลอยงาม

หากกระบี่คมในฝักมักจะฝืด
เข็นเรืออืดค้างคูดูงุ่มง่าม
แต่ภาพนิ่งก็ฉาบฉายได้ใจความ
เหนือนิยามศาสตร์ศิลป์จินตนา

ชนะมากเกินไปกลับไร้เพื่อน
โลกจึงเหมือนอยู่คนเดียวเที่ยวโหยหา
ถึงวันนี้มีบุญหนุนนำพา
เป็นคนในสายตาฟ้าบันดาล

บทกวีแม้จะหวานสักปานไหน
หากคนรับขาดหัวใจก็ไม่หวาน
ขอคืนฝันกลั่นคำเย้ยน้ำตาล 
ฝากเทพอ่านฝากฟ้า...นภาลัย ๚ะ๛

       ชมพร  เพชรอนันต์กุล
      ๑๖  พฤษภาคม  ๒๕๕๕


กระทู้: บทกวี ข้ามฝั่งฝัน ของนภาลัย สุวรรณธาดา
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ค. 13, 13:13
               อารมณ์กวี

      เมื่ออารมณ์อ่อนหวานถึงปานนี้
      บทกวีจะหวานสักปานไหน
      คนได้รับจะอาบหวานสักปานใด
      โลกจะไหวจะหวานซ่านอารมณ์

      เมื่ออารมณ์โศกเศร้าเฝ้าทอดถอน
      ทุกคำกลอนก็สะอื้นด้วยขื่นขม
      คนได้รับอาบน้ำตาผวาตรม
      โลกจะล่มฟ้าจะลับเดือนดับแรม

      เมื่ออารมณ์สดใสคล้ายเด็กน้อย
      กลอนก็พลอยเริงรื่นชื่นแฉล้ม
      คนได้รับอาบอิ่มด้วยยิ้มแย้ม
      โลกแต่งแต้มความใสแห่งวัยเยาว์

      ด้วยอารมณ์แห่งกวีที่กล่อมโลก
      จะให้ซึมจะให้โศกจะให้เศร้า
      จะให้ยิ้มจะให้แย้มให้หยอกเย้า
      จะปลุกเร้าหรือให้ถอยด้อยศรัทธา

      ขอคำหวานหว่านโลกที่โศกหมอง
      ขอคำกรองกล่อมขวัญวันผวา
      ขอคำรื่นชื่นฉ่ำรสธรรมา
      ขอคำฟ้าพร่างพรมอารมณ์กวี      
                       นภาลัย  สุวรรณธาดา
                            ๑๕ พค. ๕๕