เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 150 เมื่อ 14 ม.ค. 22, 08:50
|
|
ต้มกีบวัว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 151 เมื่อ 14 ม.ค. 22, 18:00
|
|
ซุบหางวัว
เป็นอาหารจานหนึ่งที่นิยมกินคู่ไปกับข้าวหมก(เนื้อ แพะ แกะ ไก่) ก็แปลกที่ไม่นิยมเอามาทำเป็นพวกต้มยำหรือต้มแซบแบบไทยๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 152 เมื่อ 15 ม.ค. 22, 08:06
|
|
ซุปหางวัว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 153 เมื่อ 15 ม.ค. 22, 18:01
|
|
อีกหนึ่งเมนูที่เคยเป็นที่นิยมกันในสมัยก่อน คือ ตัวเดียวอันเดียวตุ๋นยาจีน มีทำขายทั้งในภัตตาคารอาหารจีนและตามร้านขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เป็นเมนูหนึ่งที่ผมเลือกจะไม่สั่งและก็ไม่กินที่เขาสั่งมาอีกด้วย
ในปัจจุบันนี้ เกือบจะไม่เคยได้ยินเสียงสั่งและคำแนะนำเมนูนี้ของร้านใดๆเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 154 เมื่อ 16 ม.ค. 22, 08:04
|
|
ไปเสิชดูกับเชฟกู๊ก ได้คำตอบว่ายังมีบางร้านขายอยู่ค่ะ แต่คงไม่ฮิทเหมือนเมื่อหลายสิบปีก่อน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 155 เมื่อ 17 ม.ค. 22, 18:12
|
|
เอ็นแก้ววัวต้มแซบ
เป็นเมนูที่ดูจะพบเห็นเฉพาะตามร้านที่เป็นเพิงอยู่ตามชายทุ่ง หรือไม่ก็ต้องทำกินเอง แต่เอ็นแก้วตุ๋นนั้นหากินได้ไม่ยากนัก มีขายอยู่ตามร้านขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นยาจีนเจ้าที่มีชื่อดังทั้งหลาย
นานมาแล้ว ที่เคยกินมาและรู้สึกว่าอร่อยแปลกออกไปก็คือ เอ็นแก้วตุ๋นเอามาทำเป็นต้มยำหม้อไฟ (ปรุงรสเป็นแบบต้มยำ) เป็นเมนูดังของร้านอาหารหนึ่ง อยู่ในละแวกหมู่บ้านเก่าแก่ริมคลองประปา
ทั้งแบบต้มแซบและแบบต้มยำหม้อไฟนั้นดูจะเข้ากันได้ดีกับบรรยากาศแดดร่มลมตก เมนูหนึ่งแบบชายทุ่ง อีกเมนูหนึ่งแบบในห้องแอร์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 156 เมื่อ 17 ม.ค. 22, 18:41
|
|
ก็จะขอลองแวบเข้าไปดูเมนูที่ใช้เครื่องในวัวดูบ้างนะครับ
จานแรกที่ค่อนข้างจะเคยปรากฎอยู่ในเมนูของร้านอาหารหลายๆแห่งก็คือ ยำสะใบนาง ซึ่งก็คือ ยำผ้าขี้ริ้ววัว(ที่เอาไปฟอกจนขาวสะอาด) ความอร่อยของเมนูจานนี้อยู่ที่ความใส่ใจในการตัดขนาดและการลวกผ้าขี้ริ้วให้สุกและเคี้ยวได้กรุบๆกำลังพอดีๆ
ผ้าขี้ริ้ววัวนี้ ไม่เคยเห็นว่ามีการเอาไปต้มตุ๋น เห็นแต่มีการเอาไปลวกใส่ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสด หรือไม่ก็ทำแบบเมนูลวกจิ้ม ซึ่งสำหรับน้ำจิ้มนั้นก็มักจะอยู่ในรูปของรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ด(+หวานเล็กน้อย) แต่..แท้จริงแล้วเพียงจิ้มกับซีอิ๊วขาวก็อร่อยแล้วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 157 เมื่อ 17 ม.ค. 22, 20:05
|
|
ยำผ้าขี้ริ้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 158 เมื่อ 18 ม.ค. 22, 19:06
|
|
จิ้นส้า (ส้าเนื้อ?) เป็นเมนูหนึ่งที่ยังเป็นที่นิยมทำกินกันของผู้คนในภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะเมื่อมีเนื้อวัวที่สดใหม่และมีเครื่องในวัวอย่างละเล็กละน้อยหลายอย่าง (ที่นิยมกันว่าจะต้องมีก็เป็น ผ้าขี้ริ้ว ตับ และขอบกระด้ง) มีน้ำดี มีเลือดสด (และเพี้ยดีๆ) ทำกันแบบง่ายๆด้วยการหั่นเนื้อและเครื่องในเป็นชิ้นเล็กบาง สำหรับเครื่องในนั้นอาจจะลวกก่อนก็ได้ ใส่พริกลาบ คลุกเค้าให้เข้ากัน ใส่เลือด น้ำขี้เพี้ย และน้ำดี ปรุงรสด้วยเกลือ แล้วใส่ต้นหอม ใบสะระแหน่ ใบผักชีฝรั่ง ใบผักไผ่ กินกับสารพัดผักสดที่หาได้ เช่น ใบสะเดา ฝักมะริดไม้(เพกา) ใบคาวตอง เพีัยฟาน ใบเล็บครุฑ ใบหูเสือ(หอมด่วนหลวง) คีปลากั้ง มะระขี้นก ตูดหมูตูดหมา(ตดหมา) .........
พริกลาบของทางเหนือจะมีเครื่องเทศบางอย่างอยู่ด้วย โดยเฉพาะ มะแลบ(เทียนตาตักแตน หรือเมล็ดของต้นผักชีลาว_Dill) และมะแขว่น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 159 เมื่อ 18 ม.ค. 22, 20:07
|
|
เมนูส้าเนื้อนี้ ใช้เนื้อควายทำก็ได้ เนื้อควายจะมีกลิ่นสาบเนื้อเฉพาะตัวที่ค่อนข้างจะแรงกว่ากลิ่นสาบของเนื้อวัว เมื่อได้กินแล้วก็จะพอรู้สึกได้ว่าได้กินเนื้อของสัตว์ที่เป็นตามธรรมชาติของเขามากกว่าเนื้อของสัตว์ที่โตมาด้วยการเลี้ยง/การขุนมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 160 เมื่อ 19 ม.ค. 22, 10:53
|
|
จิ้นส้า (ส้าเนื้อ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 161 เมื่อ 19 ม.ค. 22, 17:59
|
|
นึกไปถึงเนื้อกับหน่อไม้ดอง สองอย่างนี้เป็นของที่เข้าคู่กันได้ดีทั้งผัดเผ็ดและทั้งแกงเผ็ดหรือแกงคั่ว ตัวเนื้อนั้นจะทำแบบหั่นเป็นชิ้นๆหรือจะสับก็ได้ หน่อไม้ดองเองก็ใช้ได้ทั้งแบบเป็นแว่นๆหรือชิ้นใหญ่ หรือจะหั่นแต่งให้มีขนาดสวยงามก็ได้
ในมุมมองของผม ด้วยความที่เนื้อวัวและหน่อไม้ดองต่างก็มีกลิ่นแรง แถมเมื่อปรุงเสร็จแล้วก็ยังให้รสที่ฉูดฉาด ไม่นุ่มนวลนัก รูปแบบของเนื้อที่เป็นชิ้นหรือสับและของหน่อไม้ดองที่เป็นชิ้นใหญ่หรือหั่นแต่ง เมื่อเอามาทำคู่กันไม่ว่าจะเป็นผัดหรือแกง จึงดูจะส่งผลทำให้ภาพของอาหารดูน่ากินต่างกันออกไประหว่างในทางดิบเถื่อนดุดัน หรือไปทางนุ่มนวลน่ากิน อาหารจานนี้ เมื่อเอารสของอาหารมาผนวกด้วย ก็จึงพอจะบ่งบอกถึงฝีมือของผู้ทำอาหารเมนูนี้ได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 162 เมื่อ 19 ม.ค. 22, 18:48
|
|
ไม่เคยกินแกงเนื้อหน่อไม้ดอง แต่เดาว่ารสคงจัดจ้าน เผ็ดร้อนรุนแรงค่ะ เหมาะกับคนชอบรสเผ็ด หรือไม่ก็คอเหล้าชนิดกินเนื้องูผัดเผ็ดแกล้มเหล้าโรงได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 163 เมื่อ 20 ม.ค. 22, 18:11
|
|
อีกจานหนึ่งที่หลายคนน่าะไม่ชอบและไม่คิดที่จะสั่งหรือทำกินเองก็คือ เนื้อผัดเผ็ดกับมะเขื้อเปราะและ/หรือมะเขือพวง เป็นอาหารจานบ้านๆ ภาพของอาหารที่ทำเสร็จแล้วของจานนี้ก็ดูดิบๆเถื่อนๆอยู่ไม่น้อยเช่นกัน สิ่งที่เด่นออกมาจนทำให้เห็นว่าไม่น่ากินนัก ก็น่าจะเป็นเรื่องของโทนสีของอาหารและความรู้สึกกับความหยาบกระด้างของเครื่องปรุงต่างๆ
โทนสีของอาหารจานนี้จะออกไปทางมืดคล้ำ ส่วนประกอบที่ทำให้ดูไม่น่ากินเลยก็คือสีดำของมะเขือเปราะ ซึ่งมีหากความพิถีพิถันสักหน่อยด้วยการผ่ามะเขือแล้วแช่น้ำเตรียมไว้ก่อนที่จะเอาลงไปผัดด้วย ก็จะทำให้มะเขือดูขาวทำให้อาหารน่ากินมากขึ้น ในด้านของความรู้สึกว่าหยาบกระด้างนั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากขนาดของชิ้นเนื้อและมะเขือที่หั่นลงไปผัด อีกส่วนหนึ่งมาจากการผัดที่ทำให้ทั้งเนื้อและมะเขือเปราะหรือมะเขือพวงสุกพอดีๆ ความสุกพอดีๆสำหรับมะเขือก็คือ เคี่ยวไปพร้อมๆกับเนื้อได้โดยไม่รู้สึกว่าต้องออกแรงขบอย่างมาก ด้วยที่มะเขือเปราะในปัจจุบันนี้จะออกไปทางเหนียวมากกว่าเปราะ(ค่อนข้างจะเป็นไปตามความแก่-อ่อนของมัน) ต่างไปจากพันธุ์ในสมัยก่อนมากๆ เมื่อจะซื้อมาใช้ก็จึงควรจะต้องเลือก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 164 เมื่อ 20 ม.ค. 22, 18:39
|
|
ผัดเผ็ดเนื้อมะเขือเปราะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|