จ้อ
|
วันที่ 14 กุมภาพันธ์นอกจากจะเป็นวันวาแลนไทน์หรือวันแห่งความรักแล้ว ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเหตุการณ์อื่นๆด้วยนะครับ เป็นวันเดียวกลับที่่เกิดปฎิวัติขับไล่พระเจ้าชารห์ในอีหร่าน แต่จำไม่ได้ว่าปีอะไร คิดว่าประมาณ 20 กว่าปีมาแล้ว อาจจะเป็น ค.ศ. 1979 บังเอิญมีเพื่อนอีหร่านเล่าให้ผมฟัง(บังเอิญคนนี้เป็นผู้ชายไม่ใช่สาวๆ เหอๆๆ)
ใครๆก็บอกว่าปฎิวัติอิสลามในอีหร่านนี้ อยาตุเลาห์ โคไมนี่ (Ayatollah Khomeini)เป็นผู้นำปฎิวัติ แต่ที่น่าสนใจคือช่วงที่เกิดการปฎิวัตินั้น โคไมนี่ไม่ได้อยู่ในอีหร่าน ไม่แน่ใจว่าอยู่ในฝรั่งเศสหรืออเมริกา? ฝรั่งชอบใช้คำว่าปฎิวัติอิสลาม แต่จริงๆเหตุการณ์ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการปฎิวัติไม่ใช่เกิดจากสุเหร่าครับ เกิดจากมหาวิทยาลัย ...
เพื่อนผมเล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัย 20 ปีกว่ามาแล้วตอนที่เพราะเจ้าชารห์ยังมีอำนาจอยู่ในอีหร่าน พระองค์ทรงประพฤติตัวไม่ดีเท่าไหร่นัก เช่นค้าขายยาเสพติดส่งออกนอกประเทศ ฯลฯ อีกมาก นอกจากนั้นยังไม่สนใจฝ่ายศาสนาอีกต่างหาก ประชาชนมีการประท้วงกันบ่อยครั้ง ทั้งในสุเหร่า และที่อื่นๆ เมื่อมีการประท้วงพระเจ่้าชารห์ก็ส่งทหารเขาไปปราบ (ตอนแรกคงส่งตำรวจเข้าไปก่อน) หลายคนคงนึกว่าในประเทศอิสลามส่งทหารเข้าไปในสุเหร่าคงเกิดเรื่องแน่ แต่ไม่เป็นอย่างนั้นครับ จากที่เพื่อนผมเล่าให้ฟัง ส่งทหารเข้าไปในสุเหร่า ประชาชนก็เลิกชุมนุม กลับบ้านกลับช่อง
แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งมีการชุมนุมประท้วงรัฐบาลพระเจ้าชารห์ที่มหาวิทยาลัยเตหะราน พระเจ้าชารห์ก็ส่งทหารเข้าไปปราบ ปรากฎว่านักศึกษาเสียชีวิตไปประมาณ 500 คน จากนั้นเหตุการณ์ก็ลุกลามใหญ่โต จนเกิดเป็นการปฎิวัติศาสนาอิสลามขึ้น ที่น่าสนใจก็คือส่งทหารไปปราบปรามการประท้วงในสุเหร่ากลับไม่มีปัญหา แต่ส่งทหารไปปราบนักศึกษากลับได้เรื่องทันที ...
ตลอดเวลาจะเห็นว่าโคไมนี่นั้นไม่ได้อยู่ในอีหร่านเลย เขาอยู่ต่างประเทศแต่โคไมนี่ ส่งข่าวสารและคำปราศัยต่างๆผ่านสื่อกลับมายังอีหร่านเสมอ ...
ตอนปฎิวัติอีหร่านนั้นผมยังเป็นเด็กไร้เดียงสา มีใครพอจะทราบข้อมูลบ้างมั้ยครับ
|