เวลาที่ทุกท่านซื้อหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือเก่า หนังสือหายากเคยเจอปัญหาซ้ำซากที่ว่า
เล่มนี้ให้เปิดดูไม่ได้มันแพงนะคุณ
คุณราคาไม่ได้บอกผ่านจะซื้อก็ซื้อไม่ซื้อก็วางไว้
คุณรู้หนังสือมากน้อยแค่ไหน
คุณจะซื้อสู้ราคาเต็มไหม ต่อราคาเสียเวลาฉัน
ฯลฯ
ผมเจอปัญหาเหล่านี้มาหลายปี บางร้านถ้าไม่ใช่ลูกค้าประจำ เจ้าของร้านก็แทบไม่ใส่ใจ
บางร้านดูเราตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า หากมีเครื่องประดับมากกว่ามือถือถึงคุยด้วย
ปัญหาเช่นนี้ยังมีอีกมาก บางคนเบื่อมากเลยหันมาซื้อทางnet ผมไม่รู้ว่าระดับเซียนหนังสือเก่าหลายท่านจะแก้ไขอย่างไรครับ
ผมเคยเจอเหตุการณ์อย่างที่คุณ overhaul เล่ามา แม้กระทั่งปัจจุบันก็ยังเจออยู่ แต่ก่อนนั้นหากเจอเหตุการณ์อย่างนี้ ผมมีความรู้สึกอย่างคุณเหมือนกัน แต่พอมาได้ประสบการณ์ด้วยตนเองมากขึ้น และได้ฟังคำแนะนำกับประสบการณ์จากคนทีซื้อหนังสือเก่ามาโชกโชนช่ำชองก็ทำใจและเข้าใจได้
ถ้าเจอเหตุการณ์ข้างต้น ผมมีวิธีปฏิบัติง่ายมาก คือ เดินไปดูร้านอื่น ถ้าหากว่าหนังสือที่เราเห็นและใคร่ได้จากร้านนั้น ไม่ใช่หนังสือที่หายากยิ่งยวดแล้ว ย่อมต้องมีขายที่ร้านอื่นเหมือนกัน ราคาอาจจะต่างกันนิดหน่อย และสภาพอาจจะต่างกันบ้าง แต่ถ้าร้านอื่นมีอัธยาศัยดีกว่า เงินของเราก็น่าจะเหมาะแก่เขา เว้นแต่ร้านอื่นไม่มีจริงๆ ก็คงต้องตากหน้าไปเอาที่ร้านที่เราไม่ใคร่พอใจนั้น แต่ทีนี้คุณต้องรับอํธยาศัยของเขาให้ได้ด้วย
คุณ overhaul คงอายุใกล้เคียงกับผม ความที่คุณและผมอายุยังน้อย เจ้าของร้านอาจจะเห็นว่าเด็กเกินไปที่จะมาซื้อหนังสือเก่าราคาแพงได้ โดยความเข้าใจของคนขายหนังสือ เขามักเห็นว่าเด็กสมัยใหม่โดยมากไม่ค่อยสนใจหนังสือเก่าเหล่านี้ คนที่สนใจหนังสือเก่ามักมีอายุ ๔๐ ปีเป็นอย่างน้อย ซึ่งก็ไม่ใช่ความคิดที่ถูกเสียทีเดียว เพราะเดี๋ยวนี้คนอายุต่ำกว่า ๓๐ บางคน ก็สนใจหนังสือเก่าเหมือนกัน แน่นอนว่า คนวัยหนุ่มสาวเช่นนั้นอาจจะมีรายได้น้อย หรือไม่ก็ยังไม่มีรายได้เลย อำนาจในการซื้อหนังสือเก่าราคาสูง ย่อมมีน้อยในสายตาของคนที่ซื้อขายหนังสือเก่า คนขายหนังสือเก่าจึงอาจจะไม่ให้ความสนใจคนหนุ่มสาวที่เข้ามาหาซื้อหนังสือเก่าเท่าไร
คนที่เป็นคนซื้อหนังสือเก่า อ่านหนังสือเก่า ก็ใช่ว่าเขาจะต้องซื้อหนังสือแพงกันเสมอไป หลายคนที่อ่านหนังสือเก่าอาศัยถ่ายเอกสารเอาเสียมาก ถูก ประหยัด สะดวก และรักษาง่าย บางคนก็เอาฉบับพิมพ์ใหม่ๆ หน่อย ราคาไม่แพง หรือไม่ก็เลือกเอาสภาพที่พอใช้ไม่ต้องใหม่กริบนัก ถึงต้องซ่อมบ้างก็เอา บางคนก็อาศัยอ่านตามห้องสมุด หรือแม้กระทั่งหยิบยืมจากคนที่รู้จักชอบพอกันก็มี เพราะคนอ่านหนังสือเก่าก็ใช่ว่าจะมีเงินมากกันทุกคนเสียเมื่อไร ถ้าคุณ overhaul ได้รู้จักคนที่เป็นคนซื้อหนังสือเก่าตัวยงบางคน จะทราบว่า บางคนซื้อหนังสือถูกมากกว่าหนังสือแพง ถึงขนาดว่าซื้อเล่มละไม่เกิน ๑๐๐ บาท อย่างผมเองยังมีประสบการณ์น้อยอยู่ เอาแค่ซื้อหนังสือเล่มละไม่เกิน ๓๐๐ บาท ได้ก็นับว่าพอใจแล้ว
การซื้อหนังสือเก่า นอกจากจะซื้อหนังสือแล้ว เราต้องซื้อใจคนขายด้วย ซื้อใจอย่างไร เช่น ไม่ต่อราคาหักหาญน้ำใจกันนัก เพราะเขาก็ซื้อมาแพงเหมือนกัน ใจคอต้องคิดถึงคนขายด้วย ไม่รื้อหนังสือเขาอย่างบ้าระห่ำ ยิ่งรื้อมากๆ แล้วไม่เอาเลยสักเล่ม มันก็เกินไป ร้านไหนรื้อไม่ได้ก็เพียงหยิบๆ ดูก็พอ ยิ่งเปิดหรือแกะดูไม่ได้ด้วยต้องคิดให้ดีว่าจะซื้อเลยหรือไม่ เพราะจะไปแกะพร่ำเพรื่อไม่ได้ ต้องเกรงใจคนขายด้วย ที่สำคัญ ต้องมีแนวหนังสือที่ต้องการ ไม่ใช่จะหาหนังสืออะไรก็ไม่รู้ อย่างนี้คนขายที่เขาไม่คุ้นหน้าเราจะคิดว่า คนนี้มันจะมาลักของเขาหรือเปล่า
ส่วนการแต่งกายหรืออุปกรณ์เสริมฐานะนั้น บอกตามตรงว่า เท่าที่ฟังๆ มา คนที่เขาซื้อหนังสือเก่า เขาไม่แต่งตัว พกอุปกรณ์เสริมฐานะกันหรอกครับ เขาพกความรู้และคำพูดแหลมคมไว้สู้กันมากกว่า บางคนแต่งตัวบ้านๆ แต่เจ้าของร้านต้องรีบมาต้อนรับเข้าร้านก็มี แต่ของอย่างนี้ต้องอาศัยเวลาเหมือนกัน