และ เช่นเคย เหตุการณ์ครั้งนี้ได้จุดประกายการแก้ไขกฎหมาย
สิทธิครอบครองปืน ในอเมริกา มีการบัญญัติสิทธิในการครอบครองปืนของชาวอเมริกันได้อย่างเสรีนับตั้งแต่ประกาศเอกราชจากอังกฤษ
สิทธิและแนวคิดนี้ถูกส่งผ่านมายังสังคมอเมริกันในปัจจุบัน
จากการเก็บรวบรวมข้อมูลของ Gun Violence Archive พบว่า สหรัฐอเมริกามีจำนวนยอดผู้เสียชีวิตจาก
อาวุธปืนนับตั้งแต่ปี 1968-2015 มากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากสงครามทั้งหมดที่สหรัฐฯ เข้าร่วมถึง 9%
ข้อมูลจาก UNODC The United Nations Office on Drugs and Crime (2012) ยังพบว่า สหรัฐฯ มี
อัตราการเสียชีวิตของพลเมืองจากอาวุธปืนสูงถึง 29.7% เมื่อเทียบกับอัตราการเสียชีวิตของผู้คนจากอาวุธปืนทั่วโลก
โดยมากกว่าแคนาดาถึง 6 เท่า และมากกว่าเยอรมนีหนึ่งในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วด้วยกันถึง 16 เท่า
สมาคมไรเฟิลแห่งชาติสหรัฐฯ และการครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสของพรรครีพับลิกัน ทำให้การผลักดัน
ให้เกิดการแก้ไขกฎหมายที่จำกัดสิทธิในการครอบครองปืนของพลเมืองสหรัฐฯ เป็นไปด้วยความยากลำบากมากขึ้น
นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงแก้ไขอาจนำไปสู่บทสรุปการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อีกด้วย
อ่านต่อที่
https://thestandard.co/united-states-gun-law/