เรือนไทย

General Category => ศิลปะวัฒนธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: srisiam ที่ 16 ส.ค. 10, 14:51



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 16 ส.ค. 10, 14:51
น้อมรับคำสั่งอาจารย์เทาชมพูด้วยเต็มใจและหนักใจ....ขอรับกระผม

tanadol เตรียมตัวช่วยลุงด้วย...........



ทุกท่านที่เป็นขาประจำกระทู้ลุงไก่....ช่วยๆกันหน่อยนะครับ...โดยเฉพาะท่านnavarat c.

และอาจารย์เพ็นโน คุณร่วมฤดี..และท่านม้า.....โปรดเข้ามายามวิกฤติ




ขอเปิดกระทู้นี้ด้วยสะพานพระปฐมบรมราชานุสรณ์...สะพานพุทธยอดฟ้า...เมื่อประมาณช่วงกึ่งพุทธกาล
เรือแพยังแออัด

 ;D

มีเรื่องเก่าๆน่าอ่านบางเรื่อง เกี่ยวกับสะพานพุทธฯอยู่ในเวปนี้ครับ
http://forum.serithai.net/viewtopic.php?f=2&t=25341&start=60


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ส.ค. 10, 15:09
เร็วทันใจจริง ๆ คุณศรีสยาม
ขอผิดกติกาด้วยการออกพ้นกรุงเทพไปหน่อย แต่ก็พอกล้อมแกล้มได้ว่าเกี่ยวกับประเทศไทย
เป็นภาพการพิจารณาคดีเขาพระวิหาร ครั้งแรก  สมัยจอมพลสฤษดิ์     ที่รัฐบาลไทยส่งม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช(คนขวาสุด) เป็นหัวหน้าทีมทนายความไปโต้กับเขมรที่ศาลโลก   ผลคือศาลโลกตัดสินให้เขาพระวิหารตกเป็นของเขมร


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ส.ค. 10, 15:10
รูปนี้คำอธิบายชัดเจนว่างานอะไร ที่ไหน แต่ไม่มีพ.ศ. ค่ะ
สันนิษฐานจากรุ่นของรถยนต์ว่าก่อนพ.ศ. 2500  และยังมีสามล้ออยู่ในกรุงเทพ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ส.ค. 10, 16:25
คุณศรีสยามไปยกป้ายประท้วงในกระทู้โน้นว่าติดเกาะอยู่ที่นี่คนเดียว   กลับมาแล้วค่ะ

พิธีเปิดสะพานพุทธ  ในรัชกาลที่ ๗ 


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ส.ค. 10, 16:27
^
พ.ศ.2472 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ทรงมีพระราชดำริให้มีการจัดงานเฉลิมฉลองการสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นราชธานี ครบ 150 ปี โดยโปรดฯให้สร้างสิ่งซึ่งจะเป็นอนุสรณ์ถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ผู้ทรงสถาปนากรุงเทพมหานคร ทรงเห็นว่าเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่จะสร้างสะพานเชื่อมพระนครกับธนบุรีเข้าด้วยกัน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ร่วมกันรำลึกถึงโอกาสที่รัชกาลที่ 1 ทรงย้ายเมืองหลวงจากฝั่งธนบุรีมายังฝั่งพระนคร โดยโปรดฯให้สร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของรัชกาลที่ 1 ไว้ที่เชิงสะพานฝั่งพระนครด้วย

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฯ กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ทรงออกแบบพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 ทรงเครื่องขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ประทับเหนือพระราชบัลลังก์ หล่อด้วยสำริด

สำหรับสะพานนั้นบริษัททดอร์แมนลอง จากประเทศอังกฤษ เป็นผู้ออกแบบก่อสร้าง เป็นสะพานเหล็กยาว 229.76 เมตร กว้าง 16.68 เมตร ท้องสะพานสูงเหนือน้ำ 7.50 เมตร สามารถยกสะพานขึ้นลงเพื่อเปิดทางให้เรือขนาดใหญ่ผ่านได้ ออกแบบให้มีรูปลักษณ์เหมือนลูกศร มีปลายอยู่ที่ฝั่งธนบุรี งบประมาณในการสร้าง 4 ล้านบาท ซึ่งเป็นพระราชทรัพย์ของรัชกาลที่ 7 ส่วนหนึ่ง รัฐบาลส่วนหนึ่ง และเงินบริจาคของประชาชนส่วนหนึ่ง รัชกาลที่ 7 ทรงประกอบพิธีเปิดสะพานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2475



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 16 ส.ค. 10, 18:18
ภาพคุ้นตาสำหรับผู้ผ่านไปมาแถวสะพานพุทธฯ.............ในอดีต

ยามที่สะพานต้องยกเปิดเพื่อให้เรือใหญ่เช่นเรือรบที่แล่นออกจากอู่ซ่อม-กรมอู่ทหารเรือ(ติดกับวัดแจ้ง)





ผลคือ............การจราจรกรุงเทพ-ธนบุรี เป็นอัมพาตนานหลายชั่วโมง
ปัจจุบันคงไม่มีการยกสะพานอีกแล้ว?


 :D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ส.ค. 10, 21:30
พระรูปนี้ของเจ้านายองค์ไหนคะ
ในคำบรรยายของฝรั่ง บอกว่าเป็นพระเจ้าน้องยาเธอในรัชกาลที่ ๑


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ส.ค. 10, 21:34
หนุ่มสยามในค.ศ. 1865 (พ.ศ. 2408)
แปลกใจว่าเขาสวมเสื้อแขนยาว เหมือนสเวตเตอร์ของฝรั่ง ท่อนล่างเป็นกางเกง ไม่ใช่โจงกระเบน   และมีผ้าห่มคลุมเฉียงบ่า ราวกับจีวรพระ
เสื้อผ้าดูเป็นทางการ แต่ไม่สวมรองเท้า

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/597/14597/images/sphoto19/thom24.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: natadol ที่ 16 ส.ค. 10, 22:01
จากภาพ คห.6 นะครับ น่าจะเป็นเจ้าฟ้า มหามาลา กรมขุนบำราบปรปักษ์ครับ เป็นพระเจ้าน้องยาเธอในรัชกาลที่4ครับ มี2ภาพให้ชมครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: natadol ที่ 16 ส.ค. 10, 22:03
อีกหนึ่งภาพครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 16 ส.ค. 10, 22:22
รวดเร็วแม่นยำ........กว่ากามนิตหนุ่มเชียวนะครับ คุณnatadol

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ส.ค. 10, 22:39
เก่งมากค่ะ ทีแรกดิฉันเข้าใจว่าเป็นกรมหลวงวงศาธิราชสนิทเสียอีก

ภาพนี้ คุณ V_Mee คงจำได้ว่ามีพระองค์ใด และใครบ้าง
แต่ถ้าคุณ V_Mee ยังไม่เข้ามา  ท่านอื่นก็ตอบได้ ไม่ผิดกติกา และไม่จำกัดคนตอบค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: natadol ที่ 16 ส.ค. 10, 22:41
กราบขอบพระคุณท่านผู้อาวุโสsrisiam ที่รับผมเป็นหลานนะครับ ผมจะพยายามหาเวลาไปเที่ยวกับท่านลุงบ่อยๆ ถ้าป้าไม่ว่านะครับ  :D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 17 ส.ค. 10, 08:53
ภาพที่ 11 ของ อาจารย์เทาชมพู เป็นภาพรัชกาลที่ 6 ทรงเต้นรำกับ พระนางเธอลักษมีลาวัลย์ค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 17 ส.ค. 10, 09:06
งานรัฐธรรมนูญ เคยมีการจัดที่สวนลุมพินีจริง ๆ เดิมนึกว่ามีแต่แถวลานพระรูปทรงม้านะคะ

ตอนยังเล็ก ๆ เคยไปเที่ยวงานอะไรสักอย่างที่สวนลุม หน้าตาคล้ายงานรัฐธรรมนูญในภาพมาก
แต่เล็กเกินกว่าจะรู้อะไรเป็นอะไร จำได้อย่างเดียวว่า ร้องไห้แผลงฤทธิ์จนถูกอุ้มกลับบ้าน เพราะอยากนั่งรถไฟเล็ก  เขาเอาวางบนสนามหญ้าในสวนลุมนี่แหละ วิ่งเป็นวงกลม และมีเครื่องบินเล็ก แบบมีสายโยง คนเล่นต้องหมุนตัวตามรอบการบินไปเรื่อย ๆ น่าเวียนหัวจริงๆ

(http://)

ในรูปที่หน้าประตูสวนลุมฯ มีภาพรถรุ่นเดียวกันกับของคุณปู่เปี๊ยบเชียว มีไฟเลี้ยวแบบยกแขนออกมาจากตัวรถ แล้วกระพิรบ วาบ ๆ เป็นระยะ เด็ก ชอบดูมาก เป็น รถ Fiat ค่ะ หลังคาเปิดประทุน เวลาไปสวนลุม ฯ กับปู่ จะยืนบนเบาะ เกาะขอบกระจกชูคอโต้ลมเย็น ๆ ไปค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 17 ส.ค. 10, 09:29
ภาพที่คุณเทาชมพูนำมาให้ทาย

เคยเห็นในหนังสือบทละครพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๖ เรื่องหนึ่ง  แต่จำไม่ได้ชัดว่าเป็นเรื่องอะไร

ภาพนี้ เป็นภาพในการแสดงละครพระราชนิพนธ์เรื่องหนึ่ง  ซึ่งมีพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่
พระวรกัญญาปทาน  พระองค์เจ้าลัลลภาเทวี  (หม่อมเจ้าวัลลภาเทวี  วรวรรณ) 
พระนางเธอลักษมีลาวัณ  (หม่อมเจ้าลักษมีลาวัณ วรวรรณ)
และเจ้าพระยารามราฆพ  (หม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ  ซึ่งครั้งหนึ่งท่านเจ้าคุณเคยใช้ชื่อว่า หม่อมหลวงรามราฆพ  พึ่งบุญ)

ทีแรกคิดว่าเป็นบทละครเรื่องกลแตก  แต่ดูแล้วอาจจะไม่ใช่  คุณวีมีคงตอบได้ดีกว่าผม ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 17 ส.ค. 10, 09:51
[[[ยังอยากฟังคุณร่วมฤดีเล่าถึงม.เกษตร  เผื่อคุณศรีสยามและคุณณัฐพลมีรูปถ่ายในอดีตมาแจมให้เห็นภาพ     บางเขนในยุคที่ดิฉันกับคุณนวรัตนเรียนอยู่สามย่าน  เป็นทุ่งบางเขนชานเมืองไกล ขนาดนิสิตเกษตรต้องมีหอพักอยู่กัน  ไปกลับไม่ได้
จำได้ว่าเกษตรศาสตร์สมัยนั้นได้ชื่อว่าเป็นแหล่งวิชาเกษตรจริงๆ   ไม่มีคณะมนุษย์  สังคม วิศวะ    เพื่อนๆดิฉันที่เรียนสายศิลป์มาจากร.ร.เตรียม  ถ้าไม่เลือกเข้าจุฬาก็เลือกเข้าธรรมศาสตร์    ไม่มีคนไหนไปเรียนเกษตรเลย คิดว่าไม่มีสาขาที่จะเรียนกัน]]]

มาตามคำขอของอาจารย์เทาชมพูค่ะ

ใครมีรูปบางเขน เอามาลงได้นะคะ ดิฉันไม่มีเลยค่ะ และยังแปะรูปในนี้ไม่เป็นด้วยค่ะ

ทุ่งบางเขนสมัยอาจารย์เทา และ คุณนวรัตน์เรียนอยู่สามย่าน ต่างจากสมัยดิฉันเรียนที่นั่นไม่มากค่ะ พอสอบเข้าไปได้ ก็พยายามจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในหอพักนะคะ สมัยดิฉันเรียนนั้น หอพักเขาสงวนไว้ให้เด็กต่างจังหวัด และ นักกีฬามหาวิทยาลัยที่ต้องซ้อมตอนเย็น ๆ

ดิฉันไม่เข้าข่าย เลยเป็นผีสิงหอพัก แอบเข้าไปอาศัยเบียด ๆ กันนอน พออาจารย์หัวหน้าตึกมาก็หนีไปแอบเสียอีกตึก ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนครบ 4 ปีค่ะ สนุกมาก  ตอนนั้น มาม่าเพิ่งมีขาย และเราต้มกินเป็นอาหารหลัก

อาจารย์เทาพูดถูกค่ะ สมัยก่อน ม.เกษตร บางเขน เน้นวิชาเกษตรจริง ๆ มีสายศิลป์บ้างไม่มาก เช่นเศรษฐศาสตร์ และ อักษรศาสตร์(แต่เรียกว่า คณะ วิทยาศาสตร์และ อักษรศาสตร์ ค่ะ ไม่ได้แยกออกจากกัน แปลกไหมคะ)

อย่างดิฉันเรียนเศรษฐศาสตร์ ถูกบังคับให้เรียนวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานร่วมกันกับคณะอื่นหมด ไม่ว่าจะเป็น เคมี ชีวะ ฟิสิกข์  Math Statt โอ้ย..พวกที่มาจากสายศิลป์ ลาออกไป Ent ใหม่กันมาก เพราะสู้ไม่ไหว พอจบ เขาก็ให้เราได้ วท.บ. แล้วค่อยใส่ในวงเล็บว่า เป็นสาขาเศรษฐศาสตร์อะไรแบบนี้

จะสาขาอะไรก็ช่างเถอะ สวรรค์ของการได้เรียนเกษตร คือ ได้กินไข่สดจากเล้าทุกวัน ไปล้วงเอาเอง ฟรี ๆ มีข้าวโพด Super Sweet ให้หักกินฟรี สด ๆ ไม่ต้องต้ม หวานเหมือนแห้วกรอบ ๆ มีให้เรียนเพาะเห็ด ทำไวน์ อะไร ๆ มากมายแล้วแต่จะสนใจ เมื่อบวกเข้ากับการได้อยู่หอพัก(ทั้งแบบถูกต้องและ แบบผีสิง) จะรักกัน รู้จักกันทุกคณะค่ะ

อากาศดีมาก เสียอย่างเดียว เครื่องบินขึ้นลงที อาจารย์ต้องหยุดบรรยาย รอเครื่องบินไปพ้นก่อน

แล้วจะมาเล่าต่อนะคะ เล่าแลกรูปภาพค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 17 ส.ค. 10, 10:05
ขอเอารูปจากคุณวิกี้มาประกอบเรื่องให้......
เมื่อ 2510 มีเพื่อนรักจากบ้านนอกด้วยกันมาเรียนที่เกษตร.......ทำให้มีโอกาสมาเยือนบ่อย....ยังจำอนุสาวรีย์หลวงสมานวนกิจ? หลังหอประชุมได้..อยู่ใต้ต้นไม้..?


เคยถ่ายรูปไว้บ้าง...เสียดาย...หายเกลี้ยง...
ต่อมาเพื่อนแพ้ระบบโซตัสเข้มข้นของม.เกษตร...จึงย้ายไปเรียนท่าพระจันทร์เมื่อขึ้นปีสอง


ความจริงประเพณีปีนเสารับน้องของเกษตร...น่าสนุกมาก...ไม่ทราบยังมีไหม?

 :)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 17 ส.ค. 10, 10:20
ขอเอาภาพมาแลกเรื่องอีกภาพ......

ภาพเมื่อ 14 ธันวาคม 2509 โปรดเกล้าฯให้คณาจารย์และนิสิตเกษตรเข้าเฝ้า....ในวันนี้เองที่พระราชทานเพลงประจำสถาบันให้..ม.เกษตร

รายละเอียดอยู่ที่นี่....
http://hi5.com/friend/group/3380624--14081067--0--1--2--KING%2527S%2BARMY%2B%2B%2B%2B%2B%2B%2B%2B%2B%2B%2B%2B%2B%2B%2B%2B%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD----topic-html?offset=20


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 ส.ค. 10, 10:36
อ้างถึง
ภาพนี้ คุณ V_Mee คงจำได้ว่ามีพระองค์ใด และใครบ้าง
แต่ถ้าคุณ V_Mee ยังไม่เข้ามา  ท่านอื่นก็ตอบได้ ไม่ผิดกติกา และไม่จำกัดคนตอบค่ะ

อ้างถึง
ภาพที่คุณเทาชมพูนำมาให้ทาย

เคยเห็นในหนังสือบทละครพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๖ เรื่องหนึ่ง  แต่จำไม่ได้ชัดว่าเป็นเรื่องอะไร

ภาพนี้ เป็นภาพในการแสดงละครพระราชนิพนธ์เรื่องหนึ่ง  ซึ่งมีพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่
พระวรกัญญาปทาน  พระองค์เจ้าลัลลภาเทวี  (หม่อมเจ้าวัลลภาเทวี  วรวรรณ) 
พระนางเธอลักษมีลาวัณ  (หม่อมเจ้าลักษมีลาวัณ วรวรรณ)
และเจ้าพระยารามราฆพ  (หม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ  ซึ่งครั้งหนึ่งท่านเจ้าคุณเคยใช้ชื่อว่า หม่อมหลวงรามราฆพ  พึ่งบุญ)

ทีแรกคิดว่าเป็นบทละครเรื่องกลแตก  แต่ดูแล้วอาจจะไม่ใช่  คุณวีมีคงตอบได้ดีกว่าผม


คุณวีหมีของผมมาสาย สงสัยฝนตกรถติด ผมขอส่งคำตอบเข้าประกวดก่อนก็แล้วกัน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 17 ส.ค. 10, 10:48
คุณ NAVARAT.C น่าจะตอบได้ถูกต้องแล้ว :o
ภาพนั้นเป็นการแสดงบทละครเรื่องโพงพาง
และฉากตอนจบของเรื่อง

หนังสือบทละครพระราชนิพนธ์เรื่องโพงพางที่ผมมี  ตอนนี้อยู่ไกลมือ
ที่ใกล้มือมีแต่บทละครพระราชนิพนธ์เรื่องกลแตก 
ที่พิมพ์เป็นที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพเจ้าพระยารามราฆพ  (ม.ล.เฟื้อ  พึ่งบุญ) ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 10, 11:03
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3462.0;attach=13089;image)

คุณนวรัตนคว้าคะแนนเต็มไปแบบสำเร็จรูป คือยกภาพพร้อมคำบรรยายมาลงให้เห็น ไม่ต้องตอบกันมาก

คำตอบสุดท้าย คือละครเรื่อง โพงพาง  แสดงที่วังสราญรมย์   เรื่องนี้แหละแม่พลอยแต่งตัวเต็มยศเหมือนจะเข้าเฝ้า นั่งรถยนต์ไปอย่างโก้หรูพร้อมกับคุณเปรม    เพื่อไปดูละครที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖  ทรงแสดงด้วยพระองค์เองพร้อมกับพระวรกัญญาปทาน พระคู่หมั้น  (ก็คือพระองค์เจ้าวัลลภาเทวี  คนซ้ายสุดในภาพ)
พอพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกมากลางเวที  แม่พลอยก็ใจหายวาบด้วยความเคยชิน  ยอบตัวลงเหมือนจะหมอบเข้าเฝ้าทั้งๆนั่งอยู่บนเก้าอี้   หลังจากนั้นก็ใจสั่นระทึกดูไม่รู้เรื่องไปทั้งเรื่อง
รูปที่ดิฉันไปเอามาโชว์ มีคำบรรยายว่าผู้ชายคนขวาสุด  คือเจ้าพระยารามราฆพ  ตอนนั้นเป็นพระยาประเสริฐศุภการ
แต่ในรูปที่คุณนวรัตนนำมาเฉลย   มีแต่ชื่อพระยาอนิรุทธเทวาว่าแสดงเป็นใคร   แต่ไม่ยักมีชื่อเจ้าพระยารามราฆพผู้พี่ชาย

ดิฉันเคยเห็นรูปเจ้าพระยารามฯ และพระยาอนิรุทธฯตอนหนุ่มๆ    เข้าใจว่าในภาพน่าจะเป็นเจ้าพระยารามฯ มากกว่าพระยาอนิรุทธ   ส่วนหญิงสาวที่ยืนคู่กับท่านคือพระนางเธอลักษมีลาวัณ   ตอนที่เล่นละครยังเป็นท่านหญิงติ๋ว   น้องสาวของพระวรกัญญาฯ อยู่


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 17 ส.ค. 10, 11:23
อ้างถึง
รูปที่ดิฉันไปเอามาโชว์ มีคำบรรยายว่าผู้ชายคนขวาสุด  คือเจ้าพระยารามราฆพ  ตอนนั้นเป็นพระยาประเสริฐศุภการ

ตอนนั้น เจ้าพระยารามราฆพ  มีบรรดาศักดิ์ เป็นที่พระยาประสิทธิ์ศุภการ ครับ  ไม่ใช่พระยาประเสริฐศุภการ ครับ
บรรดาศักดิ์พระยาประสิทธิ์ศุภการ นี้  บิดาของเจ้าคุณราม คือ หม่อมราชวงศ์ละม้าย   พึ่งบุญ ก็ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์นี้ในรัชกาลที่ ๕ มาก่อน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 10, 12:58
ขออำไพเจ้าคุณและคุณหลวง  :-[


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 10, 13:11

จะสาขาอะไรก็ช่างเถอะ สวรรค์ของการได้เรียนเกษตร คือ ได้กินไข่สดจากเล้าทุกวัน ไปล้วงเอาเอง ฟรี ๆ มีข้าวโพด Super Sweet ให้หักกินฟรี สด ๆ ไม่ต้องต้ม หวานเหมือนแห้วกรอบ ๆ มีให้เรียนเพาะเห็ด ทำไวน์ อะไร ๆ มากมายแล้วแต่จะสนใจ เมื่อบวกเข้ากับการได้อยู่หอพัก(ทั้งแบบถูกต้องและ แบบผีสิง) จะรักกัน รู้จักกันทุกคณะค่ะ

อากาศดีมาก เสียอย่างเดียว เครื่องบินขึ้นลงที อาจารย์ต้องหยุดบรรยาย รอเครื่องบินไปพ้นก่อน

แล้วจะมาเล่าต่อนะคะ เล่าแลกรูปภาพค่ะ


จำได้แต่เพลงเกษตร ที่ว่า เกษตรเขาหล่อจริงๆ  ผู้หญิงเขาอยากรู้จัก  เกษตรเขาหล่อยิ่งนัก ถ้าใครรู้จักกินผักฟรีๆ 

ย้อนอดีตนำภาพทุ่งบางเขนเมื่อปี 2476 มาให้ดู    ที่นี้เคยเป็นสมรภูมิของกบฏบวรเดช  ยิงปืนใหญ่สู้กันสะเทือนเลื่อนลั่น

(http://i38.photobucket.com/albums/e139/black_express/Thai%20railway%20history/Boworadet-rebel--008.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 10, 13:14
มีภาพมาให้ฝันร้ายอีกแล้ว

(http://i9.photobucket.com/albums/a87/e21eic/D5.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 17 ส.ค. 10, 13:44
รูปนี้คงไม่ต้องเก็บไปฝันร้าย ครับ

บันทึกภาพเมื่อปี 1950 ยังมีรถสามล้อ ทางรถราง คนลากรถขนสุ่ม(เป็ด ไก่?)

จากภาพตึกแถวเห็นป้ายชื่อบริษัทประชาช่าง จำกัด ถามกูเกิ้ลได้ความว่า

บริษัท ประชาช่าง จำกัด
การพิมพ์ (Printing)
โรงพิมพ์
861-863 ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
จดทะเบียน : พ.ศ.2486  


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: manit peuksakondh ที่ 17 ส.ค. 10, 14:16
เข้ามาแจมเรื่อง ม.เกษตร มั่งดีกว่า เรื่องของเรื่องคือว่า ปี2494เขามีการจัดสัปดาห์วิทยาศาตร์ ที่คณะวิทย์ สามย่าน ที่ตึกPhysic กลุ่มผมก็จะมี ท่านดร.ทัศนีย์ (เจ้าของเสียงเพลง หลงคอย ที่ดังระเบิดเถิดเทิงที่ตอนนั้นท่านอยู่ที่สามย่าน) อยู่ด้วย พอจบงานทาง ม.เกษตร ก็เลี้ยง"ขอบคุณ?" มีดนตรีของ ม.เกษตรที่ท่านที่เป่า sax จำได้ว่าชื่อนำหน้าด้วย ก.ไก่ อาหารที่ติดใจมากคือ ลูกเจี๊บ ทอดกรอบ (ได้ลิ้มรสครั้งเดียว แล้วไม่ได้..อีกเลย) จากอนุสฯมาที่บางเขน พอพ้นอนุสฯมาขวามือจะมี วัว และแขกขายนม ซ้ายมือจำไม่ได้(เพราะดูได้ทีละข้างมั้ง) สะพานควายเป็นสะพานไม้เล็กๆ ตอนผมจะเอ็นผมคิดว่าผมเอ็นเข้าสามย่านไม่ได้แน่นอน เพราะพอออกมาจากห้องสอบ ผมตอบไม่เหมือนเพื่อนๆเลย เลยไปสมัครไว้ที่บางเขน ฮิ ฮิ ที่บางเขนน่าอยู่จัง สาขาที่สมัครก็เหมาะกับนามสกุลผมมากเลย ฮิ อิ
มานิต


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 ส.ค. 10, 14:43
25 วัดพระศรีมหาธาตุครับ ฝันดีครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 10, 16:14
^
ใช่ค่ะ   เอาไปเต็ม ๑๐


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 10, 18:37
ราชดำเนินในอดีต กะว่าหลังสงครามโลกเพราะมีสามล้อแล้ว   
แต่หน้าตึกสี่เหลี่ยมที่มุมซ้าย (หน้าตาเหมือนห้องน้ำสาธารณะ)ยังมีม้าลากรถอยู่

(http://img211.imageshack.us/img211/3486/ratch4ct.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: puyum ที่ 17 ส.ค. 10, 19:07
มองจากตึกกรมโยธา สะพานที่เห็น ที่ว่าไปแล้ว
ราชดำเนินตอนนั้นไม่ทราบว่ามีเฉลิมไทย ทางซ้ายมือหรือยัง
ขวามือเขาว่าเป็นที่ดุ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 10, 20:13
มองจากตึกกรมโยธา สะพานที่เห็น ที่ว่าไปแล้ว
ราชดำเนินตอนนั้นไม่ทราบว่ามีเฉลิมไทย ทางซ้ายมือหรือยัง
ขวามือเขาว่าเป็นที่ดุ
ในรูปมองไม่เห็นเฉลิมไทย ไม่ทราบว่าสร้างหรือยังค่ะ
"ที่ดุ" เป็นยังไงคะ  

มีรูปถนนราชดำเนินมาให้ดูอีกรูป  ในยุคกรุงเทพเมืองฟ้าอมร  ที่ถนน " ราชดำเนินน่าเดิน    เพลิดเพลินเรียบร้อยพราวพรรณ
สมนามสำคัญเฉิดฉันอำไพ" เหมือนในเพลงกรุงเทพราตรี


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 ส.ค. 10, 20:39
เอามาให้เปรียบเทียบครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 ส.ค. 10, 20:42
รูปนี้เห็น "ที่ดุ" อย่างชัดเจน รอฟังเหมือนกันครับ ที่ว่าดุน่ะ ดุอย่างไร


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 10, 21:18
งานรัฐธรรมนูญ เคยมีการจัดที่สวนลุมพินีจริง ๆ เดิมนึกว่ามีแต่แถวลานพระรูปทรงม้านะคะ

ในรูปที่หน้าประตูสวนลุมฯ มีภาพรถรุ่นเดียวกันกับของคุณปู่เปี๊ยบเชียว มีไฟเลี้ยวแบบยกแขนออกมาจากตัวรถ แล้วกระพิรบ วาบ ๆ เป็นระยะ เด็ก ชอบดูมาก เป็น รถ Fiat ค่ะ หลังคาเปิดประทุน เวลาไปสวนลุม ฯ กับปู่ จะยืนบนเบาะ เกาะขอบกระจกชูคอโต้ลมเย็น ๆ ไปค่ะ

ตอนเด็กๆจำได้ว่ารถเฟียตของอิตาลีวิ่งกันหนาตา  รถญี่ปุ่นใช้เป็นแทกซี่มากกว่ารถส่วนตัว    รถคันแรกที่ดิฉันขับก็เป็นรถเฟียต 
มีอยู่รุ่นหนึ่งเราเรียกว่าเบบี้เฟียต เป็นรถจิ๋วมี 2 ที่นั่ง   ที่จำแม่นเพราะนางเอกนิยายที่อ่าน ของวรรณสิริหรือไม่ก็น้อย ชลานุเคราะห์คนใดคนหนึ่ง นั่งรถแบบนี้  นักเขียนบรรยายไว้ซึ่งตอนนั้นรู้สึกว่าเก๋มากคือ เธอสวมเสื้อเชิ้ต นุ่งกางเกงขาสามส่วน  สีเข้ากับรถ
คุณร่วมฤดีคงจำเบบี้เฟียตได้นะคะ  น่าจะเคยเห็น

(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:UGz3wUuWSiinEM::&t=1&usg=___SZpMMNu9v1Jpettv6KEE5C0ZWA=)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 10, 23:05
ถนนสาทร อดีตและปัจจุบัน
คลองสาทร อดีตเรียกว่าคลองพ่อยม  มาจากชื่อเจ้าสัวยม หรือหลวงสาทรราชายุตก์ (ยม พิศลยบุตร) กรมท่าซ้าย เกิดเป็นบุตรพระยาพิสณฑ์สมบัติบริบูรณ์ (เจ้าสัวยิ้ม) และ (ขรัวยาย) ปราง มาจากสกุลสมบัติศิริ
(หลวงสาทรฯ เป็นน้องของเจ้าจอมมารดาอ่วม เจ้าจอมมารดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระจันทบุรีนฤนาท ต้นราชสกุลกิติยากร

พระยาพิสณฑ์สมบัติบริบูรณ์ (เจ้าสัวยิ้ม) เป็นผู้ขุดคลองภาษีเจริญ และเจ้าของเรือเมล์ไปสิงคโปร์    เมื่อเจ้าสัวยิ้มถึงแก่กรรม นายยมได้สืบต่องานขุดคลอง และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกอมปนีขุดคลองแลคูนามสยาม  และเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการจากรัชกาลที่ 5 ในการจัดหาสิ่งของต่างๆ สำหรับใช้ในการก่อสร้างพระราชวังบางปะอิน จนเมื่อการก่อสร้างสำเร็จลงแล้ว ก็ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์และราชทินนามว่า หลวงสาทรราชายุตต์

เจ้าสัวยมถึงแก่กรรมเมื่ออายุเพียง 30 ปีเศษในขณะลูกๆ ยังมีอายุน้อย กิจการทั้งหมดจึงตกอยู่ภายใต้การดูแลของ นายถมยา หรือ หลวงจิตรจำนงวานิช บุตรเขยที่มาแต่งงานกับนางสาวแช่ม  ธิดาคนโตของหลวงสาทร

คลองพ่อยม เป็นสถานที่ที่ม.ร.ว. คึกฤทธิ์เลือกให้เป็นถิ่นที่อยู่ของคุณเปรมพระเอกแม่พลอย   แม่พลอยอยู่บ้านริมคลองพ่อยมจนถูกระเบิดในสงครามโลกครั้งที่ ๒


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 18 ส.ค. 10, 00:18
รูปสวยๆทั้งนั้นเลยครับ......

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: natadol ที่ 18 ส.ค. 10, 01:04
ขอแบบ โหด หน่อยนะครับท่านลุง 2ภาพครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: natadol ที่ 18 ส.ค. 10, 01:07
ภาพที่ 2 ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 18 ส.ค. 10, 07:27
สุดสยอง................... 8) :o


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 08:07
^
^
^
ใครขวัญอ่อนรีบปิดตาเร็ว  :o


ถนนราชดำเนิน ปีน้ำท่วม ๒๔๘๕

ประชาชนเคารพธงชาติเมื่อเวลา  ๘.๐๐ นาฬิกา   เห็นคนยืนตรงบนถนนราชดำเนินกลาง  ทางขวาเห็นป้ายร้านเล็ก ๆ อ่านได้ว่า "สึกสาภันฑพานิชย์"  ซึ่งก็คือร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์  ขององค์การค้าคุรุสภา  แหล่งจำหน่ายเครื่องเขียนแบบเรียนที่ยังคงยืนยงมาจนถึงปัจจุบัน

(http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/12/K7296683/K7296683-81.jpg)


อาคารราชดำเนิน ถ่ายจากที่สูงมากไปทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และสะพานผ่านฟ้าลีลาศ

(http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/12/K7296683/K7296683-85.jpg)


อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แลเห็นคนพายเรือกันหน้าอนุสาวรีย์ดูขวักไขว่  ภาพนี้ถ่ายจากหน้าร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ไปทางสะพานผ่านฟ้าลีลาศ

(http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/12/K7296683/K7296683-84.jpg)

 ;D



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 18 ส.ค. 10, 08:22
ปิดตาแล้ว........

ขออนุญาตเอารูปทั้งสามไปเข้าโฟโต้ช็อป.....เพราะเป็นภาพหายาก
ปรับlevels นิดเดียว

เอามาคืนแล้วครับ......




 :D


รบกวนถามผู้รู้ด้วยครับ...เกิดอะไรขึ้นกับกรุงเทพในช่วงนั้น...............น้ำท่วมใหญ่...เข้าใจว่านานนับเดือน์....คนกรุงจึงต้องพายเรือ...

น้ำเหนือหลาก..หรือฝนพันปี?


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 18 ส.ค. 10, 09:30
ราชดำเนินอีกมุมมอง ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 18 ส.ค. 10, 09:32
ยานสามรถ - ลาก สามล้อ เก๋ง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 18 ส.ค. 10, 09:40
จำรถเฟียตได้ดีค่ะ อาจารย์เทาชมพูคะ เพียงแต่รุ่นของคุณปู่จะเก่ากว่าภาพที่ส่งมา และ ไฟหน้ารถ ยังเป็นดวงกลม โปน ๆ ออกมาวางไว้เหนือบังโคลนล้อหน้าค่ะ และน่าจะคันเล็กกว่าคันในรูปของอาจารย์ค่ะ

เอาเพลงมาฝากค่ะ
รำวงเกษตร

(สร้อย) เกษตรนี้หล่อจริง ๆ ผู้หญิงเขาอยากรู้จัก เกษตรนี้หล่อยิ่งนัก ถ้าใครรู้จักกินผักฟรี ๆ

เกษตรนี้หล่อจริง ๆ ผู้หญิงเขาชมไม่เบื่อ  เกษตรรูปหล่อเลิศเหลือ ถ้าใครที่เชื่อกินเนื้อฟรี ๆ
(สร้อย)

เกษตรนี้หล่อจริง ๆ ผู้หญิงว่าไม่มีใครข่ม  เกษตรรูปหล่อน่าชม ถ้าใครนิยมกินนมฟรี ๆ
(สร้อย)

เกษตรนี้หล่อจริง ๆ ผู้หญิงเขาชมกันใหญ่  เกษตรรูปหล่อใช่ใหม ถ้าใครรักใคร่กินไข่ฟรี ๆ
(สร้อย)

เกษตรนี้หล่อจริง ๆ ผู้หญิงเขาชมทั่วหน้า  เกษตรนี้หล่อหนักหนา ถ้าใครรักข้ากินปลาฟรี ๆ
(สร้อย)

เกษตรนี้หล่อจริง ๆ ผู้หญิงเขาชมกันลั่น  เกษตรรูปหล่อพวกฉัน ใครเป็นคู่หมั้นกินมันฟรี ๆ
(สร้อย)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 09:43
น้ำท่วมใหญ่ปี 2485 ค่ะ คุณศรีสยาม

รูป # 44 นายแบบนั่งเท่มาก
คุณ SILA หายไปนาน  กว่าจะกลับมาร่วมวง   ขอต้อนรับอีกครั้งค่ะ

โรงแรมรัตนโกสินทร์ ในอดีต  เห็นฟ้ากว้างกว่าเดี๋ยวนี้


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 18 ส.ค. 10, 09:48
รูปหวาดเสียงของคุณ Natadol ทั้ง 2 รูป คงไม่ใช่เหตุการณ์เดียวกันมังคะ ผู้คนด้านหลังแดนประหาร ไม่เหมือนกันเลย ต้นไม้ และพื้นก็ต่างกัน แต่.....อึ๋ยยย...น่าหวาดเสียงเท่า ๆ กันค่ะ

ยังรอฟังเรื่องที่ดินดุ ๆ ตรงหัวถนนราชดำเนินกลางอยู่ค่ะ เกี่ยวกับผี หรือ เกี่ยวกับอาถรรพ์คะ

โปรยเรื่องให้ชวนติดตามแ้ล้วห้ามหนีไปนะคะ กำลังกำพระเครื่องรอฟังอยู่ค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 10:02

รบกวนถามผู้รู้ด้วยครับ...เกิดอะไรขึ้นกับกรุงเทพในช่วงนั้น...............น้ำท่วมใหญ่...เข้าใจว่านานนับเดือน์....คนกรุงจึงต้องพายเรือ...

น้ำเหนือหลาก..หรือฝนพันปี?

กรุงเทพฯ คุ้นเคยกับเหตุการณ์น้ำท่วม และถูกน้ำท่วม (ในปริมาณไม่มาก) แทบทุกปีในช่วงฤดูน้ำหลากจนกลายเป็นเรื่องปกติของคนยุคนั้น แต่ว่ากลับเหตุการณ์น้ำท่วมปี ๒๔๘๕ กลับแตกต่างออกไป เพราะถึงแม้ว่าก่อนที่น้ำจะท่วมกรุงเทพฯ กองอุตุนิยมวิทยาจะประกาศให้ทราบล่วงหน้าทางวิทยุกระจายเสียง แต่ว่าด้วยความที่น้ำเหนือหลากมามาก และฝนยังตกติดต่อกันอย่างต่อเนื่องยาวนาน กรุงเทพฯ ที่เป็นพื้นที่รับน้ำจึงถูกน้ำท่วม (หนัก) เป็นเวลาร่วม ๓ เดือน (ก.ย.–พ.ย.) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=36915


http://www.youtube.com/watch?v=1VhX9gTBPKA

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 18 ส.ค. 10, 10:04
รวดเร็วทันใจ..หายสงสัยในพริบตา...ขอบพระคุณมากครับ

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 10:07
มองจากตึกกรมโยธา สะพานที่เห็น ที่ว่าไปแล้ว
ราชดำเนินตอนนั้นไม่ทราบว่ามีเฉลิมไทย ทางซ้ายมือหรือยัง
ขวามือเขาว่าเป็นที่ดุ

จริงด้วยค่ะ คุณ puyum มาโปรยให้อยากแล้วก็จากไป  เกือบลืมไปแล้ว     
ขอบคุณคุณร่วมฤดีที่มาเตือน ดิฉันจะยกมาโชว์เป็นระยะว่าคุณปูยำยังมีหนี้สินตกค้างอยู่ค่ะ

อาคารนี้คุณร่วมฤดีคงรู้จักดี       อาคารเทพศาสตร์สถิตย์


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 18 ส.ค. 10, 10:43
จำอาคารเทพสถิตย์ได้ดีค่ะ อาจารย์เทาชมพูคะ

ก็ที่นี่แหละค่ะ ตกกลางคืน นิสิตปีหนึ่งจะถูกต้อนมาร้องเพลงเชียร์ และ  "เจอการจัดระเบียบสังคมด้วยเสียงอันดัง"
2 เดือนแรก เรียนหนังสือไม่รู้เรื่องเลย ง่วงนอน และ หวาดผวา แต่ไม่ลาออกค่ะ

รูปอาคารหน้าตะไล (หอประชุมหน้ามหาวิทยาลัย) ฝากถามคุณมานิตว่า เหคุใดชาวเกษตรจึงเรียกบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยแปลกๆ แบบนี้คะ

ด้านข้างหอประชุมมีโรงรับฝากจักรยาน เพื่อนจากจุฬาไปเยี่ยม แล้วเห็นจักรยานมากมายนี้ด้วยความงงว่า พวกเราจำรถของตัวเองได้อย่างไร


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 18 ส.ค. 10, 12:11
เข้ามาเยือนเรือนไทยทุกวัน ครับ แต่ไม่ได้ส่งเสียง
 
ภาพปี 1950 - ป้ายโฆษณาเครื่องดื่มน้ำดำที่ชานพระนคร


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 18 ส.ค. 10, 12:17
งามมากครับภาพนี้............

ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าน้ำดำมากัดกระเพาะเราตั้งแต่ 1950 โน่น

ไม่ต่ำกว่า 60 ปีนะนี่




 :( :o 8)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: manit peuksakondh ที่ 18 ส.ค. 10, 13:14
1.Fiat 500, Baby Fiat เทห์มากในประมาณปี 2495เปิดประทุนได้ด้วยมั้ง
2.ตอนผมอยู่สามย่านเวลาใครถามว่าไปไหน ผมจะตอบว่าไปโรงเรียน เดี๋ยวนี้เขาต้อง"ไปหมาลัย" ที่ท่านถาม คงแบบนี้มั้ง
3.ตอนผมอยู่ปี 4 คือ 2497 เจ้าน้ำดำ เอาถังน้ำแข็งใหญ่สีแดง มาวางไว้หน้าคณะตอนจะเที่ยง เราก็มาแข่งกินกันว่าจะได้กี่ขวด
4.เพลงเกษตรที่ว่า ผมร้องได้ แต่ผมไปที่นั่นตอน2494 หนเดียว แล้วมาไปถี่ตอนหลังตอนมีเพื่อนสนิทชื่อ ท่าน พร เรศานนท์ และ ท่าน เดชา เอกก้านตรง(เขยท่านหลวงฯ) แต่ตอนหลังไปถี่ยิบ เพราะชอบฟังเวลานิสิตเขาซ้อมดนตรีไทยกัน
5.จากสะพานควายมา ม.เกษตร เปลี่ยวมากนั่งรถเมล์สีส้ม แล้วตอนหลังก็มีสีเทา สองข้างทางมีแต่ท้องนา ยิ่งเลย ม.เกาตรไป ตอนกลางคืนจะมืดมาก ถ้าเห็นแสงไฟนีออนอีกครั้งแสดงว่าจะถึงวัดพระศรีฯแล้ว ครับผม
มานิต


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 13:15
พาคุณร่วมฤดีไปย้อนความหลังในรั้วนนทรีมาหลายรูปแล้ว  พาหลายๆท่านมาสู่รั้วจามจุรีบ้าง

นี่คือด้านหลังของตึกเก่าสุดของจุฬา   คือคณะอักษรศาสตร์  ถ่ายจากสนามทางด้านตึกวิศวะฯ   ดูจากรถยนต์น่าจะเป็นหลังสงครามโลกจบลงไม่นานนัก  ในยุคที่ยังไม่มีใครในเรือนไทยเกิด  นอกจากคุณมานิต
คนที่ได้เห็นตึกนี้ในยุคก่อนหน้าคุณมานิต คือแม่ของดิฉัน ท่านเข้าเรียนเมื่อพ.ศ. 2475   แม่เล่าว่าตึกนี้เคยเป็นที่เรียนของ  3 คณะคืออักษรศาสตร์ วิศวะ  และรัฐศาสตร์   แม่เรียนอยู่ชั้นบน
ตึกนี้ ซึ่งเรียกกันว่า"เทวาลัย" อยู่ยงคงกระพันในสภาพเดิมจนมาถึงสมัยดิฉันเข้าไปเรียน   ล่วงมาถึงยุคที่ลูกสาวคนโตของดิฉันเข้าไปเรียนในคณะเดียวกัน    หน้าตาและสนามหญ้าก็ไม่ต่างจากสมัยแม่และยายเรียนเท่าไร   แต่ลูกสาวไม่ได้เรียนตึกนี้  ไปเรียนที่ตึกบรมราชกุมารีซึ่งสมัยแม่เรียน ยังไม่ได้สร้าง เป็นแค่อาคารสองชั้นเล็กๆขององค์การต่างประเทศมาใช้พื้นที่ในจุฬา
 
สมัยที่ดิฉันเรียน ตัวตึกชั้นบนด้านที่เห็นนี้เป็นห้องเรียนใหญ่ เมื่อเราอยู่ปี 3  ส่วนชั้นล่างเป็นห้องใหญ่ที่รวมของภาควิชาภาษาฝรั่งเศส   ศาสตราจารย์คุณหญิงจินตนา ยศสุนทรเป็นหัวหน้าภาควิชา  อาจารย์ในยุคนั้น ก็มีคุณหญิงเกื้อกูล เสถียรไทย มารดาดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย    ตัวดร.สุรเกียรติ์เองตอนนั้นอายุราว 10 ขวบ  เป็นเด็กชายผิวขาวหน้าตาน่ารัก เค้าหน้าเหมือนคุณพ่อ    อีกท่านคือ(คุณหญิง)ม.ร.ว. ดวงใจ ชุมพล   
ประตูเปิดกว้างทุกบาน มีบังตาไม้ทาสีแดงแก่ ติดสปริง   เราต้องเคาะบังตาก่อนเข้าไป  ส่วนใหญ่พอเคาะเสร็จ ก็ย่อตัวลงมองลอดเข้าไปว่า เห็นขาอาจารย์นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานหรือเปล่า    ถ้าเห็น ก็ค่อยๆแง้มบังตาเข้าไปหา  ถ้าไม่เห็นก็ไม่เข้า  เดินกลับไปทางเดิม


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 13:47
จากบันไดพญานาคลงไปที่ลานข้างสนาม   ตรงนี้ที่เรียกกันว่า ลานชงโค   

(http://www.stc.arts.chula.ac.th/imgs/arts12-4-2.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 13:50
ท้าทายเทวพิมานตระหง่านนภพิสัย
เลอทวยสุเทพไท              ประสิทธิ์
งามตึกอักษรศาสตร์วิลาสวรวิจิตร
รื่นรมย์มโนนิตย์               นิรันดร์
เชิญเนาผองนุชเพียรบำเรียนวิวิธวรรณ
โดยเจตน์ประจวบบรร-        ลุเทอญฯ

จิตร ภูมิศักดิ์
อักษรานุสรณ์ ฉบับรับนิสิตใหม่ ประจำปี ๒๔๙๖

 ;D





กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 14:26
ขอเป็นไกด์พาเที่ยวถิ่นเดิมสักวันนะคะ   
นี่คือห้องโถงใหญ่ของคณะอักษรศาสตร์  สมัยดิฉันเรียนจะต้องเดินเข้าห้องโถงนี้ทุกวัน    เพราะเป็นทางไปสู่ห้องเรียนทั้ง 4 ปี
ปีหนึ่งเดินเข้าห้องโถงแล้วเลี้ยวขวา ตรงไปห้องเรียนรวมชั้นปีที่ 1  เป็นห้องประวัติศาสตร์  พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลทีื 6 เคยเสด็จมาเปิดอาคารที่ห้องนี้ 
ปีสองได้ขึ้นบันได   พอถึงชานพักตรงกลางทุกคนต้องหยุดไหว้พระบรมฉายาลักษณ์พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5   ถ้าเลี้ยวขึ้นบันไดไปทางปีกซ้ายก็ตรงไปห้องเรียนปี 2     ถ้าเลี้ยวไปทางขวา แสดงว่าเราขึ้นเรียนถึงปี 4 แล้ว เพราะห้องปี 4 อยู่ทางปีกขวา
ถ้าขึ้นซ้ายหรือขวาก็ตาม   แต่เดินตรงไปทางปีกหลังของตึกชั้น 2     แสดงว่าเรียนปี 3   
จำรุ่นพี่คนไหนว่าอยู่ปีไหน ก็เพราะเห็นแถวๆห้องไหน  ในปีกไหนนี่แหละค่ะ

แต่ละคาบวิชา ยาว 50 นาทีให้พวกเราได้พัก 10 นาทีก่อนขึ้นชม.ใหม่   แต่สัญญาณหมดเวลาไม่ใช้กริ่ง  ยังคงเป็นการตีระฆังแบบโบราณเหมือนระฆังวัด ก้องกังวานไปทั้งตึก
คนตีระฆังเป็นลุงแก่ๆร่างผอม สวมชุดสีกากี ทำงานมาหลายสิบปีแล้ว   ลุงช่างกลมกลืนกับบรรยากาศของตึกจนดูเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน   จนดิฉันเผลอนึกไปว่าลุงจะต้องอยู่ที่นี่ไปชั่วฟ้าดินสลายไม่ไปไหน 
แต่แล้ว วันหนึ่งก็พบว่าลุงต้องเกษียณเหมือนพนักงานทั่วไป   เล่นเอาใจหาย  เพื่อนๆก็เศร้า เมื่อรู้ว่าจะไม่ได้เห็นลุงค่อยๆเดินขึ้นบันไดมาตอนเช้า ค่อยๆเดินลงบันไดกลับไปตอนเย็น   ตอนกลางวันลุงก็เปิดกล่องข้าวออกมานั่งแอบๆ  กินอยู่เงียบๆคนเดียว   ตอนนั้นได้ข่าวว่าอาจารย์ม.ร.ว.ดวงใจพยายามขอให้ลุงได้ต่ออายุงาน แต่ไม่สำเร็จ
วันสุดท้าย ก่อนลุงเกษียณ ดิฉันก็ไปเลี้ยงลาด้วยการเอาข้าวกลางวันกับกับข้าวใส่ปิ่นโตจากบ้านไปให้  ยังจำลุงมาได้จนทุกวันนี้ แม้ว่าลุงคงไปตีระฆังสวรรค์มาหลายสิบปีแล้วก็ตาม

พี่กฤษณา คงจำลุงได้นะคะ

(http://photos2.hi5.com/0075/323/053/G6yRSb323053-02.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 18 ส.ค. 10, 14:53
มาลงชื่อ ขอตามขบวนชมตึกคณะอักษรศาสตร์ด้วยคนครับ เรียนอยู่คณะข้างๆกันก็หลายปี แต่ไม่เคยได้เข้าไปจีบ... เอ๊ยไปชมคณะอักษรฯ สักทีครับ

พูดถึงตึกเรียน ทำให้ผมนึกถึงของเก่าอย่างหนึ่งที่เคยเห็นในคณะ

ผมไม่แน่ใจว่าตึก ๓ คณะวิศวฯ สร้างตั้งแต่เมื่อใด สมัยเรียนอยู่มีการต่อเติมชั้น ๔ ขึ้นไป แล้วลือกันว่าทำได้สบายมากเพราะตึกนี้สร้างไว้เผื่อการทิ้งระเบิดตั้งแต่สมัยสงครามโลก คนออกแบบเผื่อ safety factor ไว้ถือ 50 เท่า ตอนฟังก็เฉยๆ แต่มานึกย้อนหลังเห็นว่าจะโม้เสียมากกว่า และตึกนี้จะเก่าแค่ไหน เห็นทีคงต้องให้รุ่นพี่เก่าแก่อย่างคุณมานิตมาช่วยเฉลยครับ ตึก ๑ ตึก ๒ นั้นผมไม่ติดใจอะไร แน่ใจว่าต้องเป็นตึกเก่าก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒ แน่นอนครับ

ตอนผมเรียน ห้องทะเบียนคณะจะอยู่ชั้นล่างของตึก ๓ ใกล้ๆกับห้องประชุม หน้าห้องมีเครื่องเหล็กชิ้นหนึ่งตั้งอยู่ หนักมากขนาดยกไม่ขึ้น หน้าตาเหมือนมอเตอร์ตัวย่อมๆ และมีมือจับสำหรับหมุน มันคือหวอเตือนภัยสมัยสงครามโลกครับ

ผมเคยมือบอน ทดลองหมุนดูพอเบาะๆ พบว่าให้เสียงโหยหวนดีทีเดียว ตัวแกนนั้นหนักมาก เมื่อหมุนแล้วจึงสะสมทอร์คไว้มากพอจะทำให้เสียงหวอนั้นดังต่อเนื่องได้อีกนานเป็นครึ่งนาทีหลังจาปล่อยมือแล้ว ถ้าหมุนเต็มที เสียงหวอคงจะค้างได้นานกว่านี้อีกมากครับ

เมื่อผมเข้าไปที่คณะเมื่อคราวน้องสาวลูกคุณอารับปริญญาเมื่อปีที่แล้ว ไม่มีเครื่องนี้อยู่หน้าห้องทะเบียนอีกแล้ว ถามน้องๆนิสิต ก็ไม่เคยเห็นและไม่ทราบว่ามีของอย่างนี้อยู่ด้วยครับ

หวังว่าคงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่ใดสักแห่งนะครับ อย่าได้ถูกขายเป็นเศษเหล็กเลย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 14:57
(http://i269.photobucket.com/albums/jj73/yyswim/blog020/17.jpg)

ห้องชั้นล่างที่เห็นคือห้องปี 1  เรียกว่าห้องเลขที่ 10   อยู่ติดถนนด้านหลังหอประชุม
ตอนเข้าเรียนปี 1  เป็นยุคห้ามนิสิตนักศึกษายุ่งกับการเมือง  จอมพลประภาสนั่งเก้าอี้อธิการบดีควบไปกับรวม.กลาโหมและรมว.มหาดไทย  ในจุฬา  วิศวะยกพวกตีกับคณะอื่นๆ เป็นกิจกรรมนอกหลักสูตรที่ยืดเยื้อกันมาหลายปีแล้ว   ไม่เห็นมีคณาจารย์ห้ามปรามได้  ก่อนหน้าดิฉันเข้า  ก็มีตำนานวิศวะยกพวกตีกับรัฐศาสตร์  ทำให้สองคณะนี้มองหน้ากันไม่ติด  และหลายปีก่อนหน้า วิศวฯก็ยกพวกมาตีกับอักษรศาสตร์  เห็นเขาลือกันว่าอักษรชนะ  ที่ว่าชนะคืออาจารย์มาห้ามให้เลิกแล้วกันไป

ศึกสีเทา-เลือดหมูเรื่องนี้ดิฉันยังนึกไม่ออกว่าเกิดได้ยังไง วิศวะ 4 ปีรวมแล้วสี่ห้าร้อยคน  ทั้งคณะอักษร มีผู้ชายเรียนรวมสี่ปีอยู่ 20 คนเป็นอย่างมาก  บางยุคก็ไม่ถึงด้วยซ้ำ  เวลาตั้งทีมฟุตบอลกันเพื่อแข่งกีฬา พี่ประธานกีฬาบ่นว่าหาตัวนักกีฬาทั้งง่ายทั้งยาก  ที่ง่ายมากคือไม่ต้องคัดเลือก  เกณฑ์กันมาเลย  ที่ยากคือบางปีขนาดไม่เกี่ยงแล้ว ก็ยังหาได้ไม่ครบ   สมัยดิฉันอยู่ปี 1  พี่ประธานกีฬาชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว จำได้แต่ตัวผอมนิดเดียว
พี่ผู้ชายอักษรยุคโน้นมักเป็นผู้ชายเก่งเรียนหาตัวจับยาก   ถ้าไม่เก่งจริงไม่ติดคณะนี้ เพราะพวกผู้หญิงมักผูกขาด  หนุ่มที่แหวกเข้ามาได้จึงเป็นหนอนหนังสือเก่งฉกาจเป็นส่วนใหญ่  และส่วนใหญ่ก็หุ่นบางระหงหนักไม่เกิน 50 กิโล   อย่าว่าแต่ตีกับใครเลย  แค่วิศวะเอาพัดลมมาตั้ง ก็แทบปลิวตามลม

ย้อนกลับมาเรื่องปี 1   กำลังสอบกลางปี  เคร่งเครียดกับข้อสอบซึ่งเป็นอัตนัยล้วนๆ ไม่มีปรนัยติ๊กอย่างเดียวอย่างสมัยนี้     วิศวะเลือกวันดี ตีกับคณะวิทยาศาสตร์วันนั้นพอดี   ได้ยินเสียงโห่ร้องกับเห็นนิสิตชายแต่งชุดสีน้ำเงินซึ่งเป็นฟอร์มเฉพาะคณะวิศวะฯ  เดินกันเกลื่อนเต็มถนนหน้าคณะเรื่อยมาจนถนนหลังหอประชุมติดกับห้องเรียน   
เล่นเอาใจสั่นระทึก ไม่มีสมาธิจะตอบข้อสอบ    เลยนึกแช่งพวกนี้อยู่ในใจ สาปส่งว่าชาตินี้ไม่ขอมีแฟนวิศวะเด็ดขาด     ด้วยแรงอธิษฐานซึ่งเทวดามักไม่ฟัง  หรือรับฟังเพียงครึ่งเดียว    ก็....ไม่ต้องเล่าต่อนะคะ

คุณเพ็ญชมพู  ฉันท์ของจิตร  ภูมิศักดิ์เพราะมากค่ะ   สมเป็นหนุ่มอักษรฯ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 15:15

หลายปีก่อนหน้า วิศวฯก็ยกพวกมาตีกับอักษรศาสตร์  เห็นเขาลือกันว่าอักษรชนะ  ที่ว่าชนะคืออาจารย์มาห้ามให้เลิกแล้วกันไป

ศึกสีเทา-เลือดหมูเรื่องนี้ดิฉันยังนึกไม่ออกว่าเกิดได้ยังไง วิศวะ 4 ปีรวมแล้วสี่ห้าร้อยคน  ทั้งคณะอักษร มีผู้ชายเรียนรวมสี่ปีอยู่ 20 คนเป็นอย่างมาก 

เรื่องศึกสีเทา-เลือดหมูไม่เคยได้ยิน

เคยได้ยินแต่สีเลือดหมูโยนบกสีเทาในหอประชุมจุฬาฯ

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 15:26
(http://image.dek-d.com/13/613124/13255790)

ตำนานหนุ่มวิศวะสาวอักษรน่าจะเกิดพร้อมๆกับการเกิดของคณะทั้งสอง    

แม่เล่าว่าตอนเข้าเรียนที่ตึกนี้ เรียนกัน 3 คณะในตึกเดียว  ก็มีหนุ่มวิศวะมาเมียงมองสาวๆอยู่เป็นประจำ  แต่ผู้ชายสมัยรัชกาลที่ 7 ไม่กล้าพูดกับผู้หญิงก่อนเป็นอันขาด     แม้แต่เพื่อนนิสิตชายอักษรศาสตร์ของแม่เอง กว่าจะกล้าพูดกับแม่ก็ต่อเมื่ออายุมาก มีครอบครัวลูกเต้าโตๆกันไปหมดแล้ว ย้อนกลับมามีตติ้งนิสิตเก่ากัน   ถึงกล้าบอกแม่ว่า
"ผมอยากพูดกับคุณจะตาย   แต่กลัวคุณไม่พูดด้วย"

เอารูปนี้มาให้ดู  ตึกซ้ายคือตึกเทวาลัย ส่วนตึกขวาคือตึกหอสมุด   เหมือนกันราวกับฝาแฝด แต่เทวาลัยมีรายละเอียดที่ประณีตกว่า
ตรงกลางเป็นทางเดินยาวเชื่อมระหว่างสองตึก     ตรงนี้แหละ เป็นเส้นทางมหาภัยที่วิศวะยึดหัวหาดไม่ยอมปล่อย  เขาจะมายืนพิงลูกกรงสองฟากฝั่ง รอเวลาหยุดเที่ยงซึ่งสาวๆอักษร เดินผ่านไปทะลุตึกหอสมุด เพื่อลงบันไดไปกินอาหารกลางวันที่สโมสรอาจารย์ตรงมุมรั้วด้านถนนอังรีดูนังต์   ที่เรียกว่าสโมสรอาจารย์เพราะอาจารย์รับประทานกันที่นี่ แต่แยกคนละส่วนกับนิสิตซึ่งเหมือนกับโรงอาหารเล็กๆธรรมดาๆ
พวกเราก็ต้องก้มหน้าก้มตาเดินผ่านกลางไประหว่างวิศวะ  ที่ยืนจ้องมองมาตลอดเส้นทาง    คนไหนไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองเป็นนางงามเดินบนเวทีประกวด   ก็ลงบันไดพญานาคด้านข้างด้านตึก  เดินฝ่าแดดไปกินที่โรงอาหาร  ร้อนหน่อยแต่สบายใจกว่า
ตอนดิฉันเข้าปี 1  กระโปรงพลีตจีบรอบตัวกำลังฮิท   ที่สำคัญคือเป็นผ้าแพรไนลอนอัดจีบถาวรมีซับใน    แพรพวกนี้เนื้อบางเบา โดนลมไม่ได้มันจะกลายเป็นร่มชูชีพ    ระเบียงยาวนั้นก็ลมโกรกแรงเหลือทน     ร้อนถึงศาสตราจารย์รอง ศยามานนท์ คณบดี ซึ่งเป็นเทพบิดรของเทวาลัย  อดห่วงลูกสาวหน้าใหม่ๆไม่ได้  ตอนปฐมนิเทศนิสิตใหม่ หลังจากให้โอวาทแล้วท่านก็เตือนว่าอย่าสวมกระโปรงพลีตนะเธอ  เพราะลมมันแรง   พัดทีเดียวกระโปรงพลีตปลิวครอบหัว...
เลยอดนุ่งพลีตไปตลอดสี่ปี

กำลังจะส่งข้อความ  เห็นข้อความของคุณเพ็ญชมพูเข้าเสียก่อน เลยมาเติม

เรื่องตีกันระหว่างวิศวะกับอักษร มีจริงค่ะ  คนนอกคณะอาจไม่รู้    เรื่องโยนบกนั้นหนุุ่มสีเทาชื่อจิตร ภูมิศักดิ์ โดนเข้า เพราะเป็นสาราณียกรหนังสือที่มีเนื้อหารุนแรงต่อศาสนา และดูถูกเพศแม่


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 15:50
(http://mw2.google.com/mw-panoramio/photos/medium/33046739.jpg)

สนามหญ้าด้านนี้คนละฝั่งกับรูปก่อน  เป็นตึกอักษรศาสตร์ฝั่งตะวันตก  ด้านหลังหอประชุม

เทวาลัยที่เจิดจ้าด้วยแสงไฟในยามค่ำคืน   เป็นสิ่งที่ดิฉันได้เห็นปีละครั้ง เมื่อมีงานคืนสู่เหย้า

บางปีเขาไปจัดกันในโรงแรม แล้วแต่นโยบายของสมาคมนิสิตเก่าฯ    แต่ส่วนใหญ่จัดที่สนามหญ้าด้านตะวันตก เพื่อระลึกความหลัง  ถึงเวลาก็แต่งสีชมพู หรือไม่ก็ชมพูเทากันพร้อมเพรียงมาร่วมงาน  ตั้งโต๊ะจีนกันที่ลานถนนหลังหอประชุม  ส่วนสนามหญ้าตั้งเวทีการแสดงที่แสดงกันโดยบรรดานิสิตเก่า   
ส่วนใหญ่เป็นรุ่นคุณป้าคุณน้ายังสาว ที่ยังมีแรงเต้นโชว์กันอยู่   เราไม่ค่อยจะจ้างโชว์จากภายนอก แต่ขึ้นเวทีกันเอง
ตัวแสดงหาได้ง่ายเพราะทั้งคณะมีแต่ผู้หญิง จะรำอวยพร เซิ้ง ดิสโก้  หรือคาบาเร่ต์ ก็สบายมาก  แต่ถ้าจะมีโชว์ผู้ชายล้วนละก็หายาก  ดูเหมือนไม่เคยมี    เพราะนิสิตเก่าชายที่แก่ๆ ไม่ค่อยจะมาร่วมงาน   คนไหนมาก็จะกลายเป็นเดือนในหมู่ดาว  หาเพื่อนผู้ชายด้วยกันไม่ได้   เลยเขินๆไม่ค่อยมากันเป็นส่วนใหญ่
พวกนิสิตเก่าพอกลับคืนสู่เหย้าก็กลับกระชุ่มกระชวย กลายเป็นเด็กกันอีกพักหนึ่ง   ขึ้นไปวี๊ดบู้มกันบนเวทีได้ไม่ต้องอายใคร   คนเห็นมีแต่พี่ๆน้องๆสีเทาด้วยกันทั้งนั้น   เห็นอาจารย์ท่านมาร่วมงานก็วิ่งไปไหว้อาจารย์ บอกชื่อบอกรุ่นทั้งๆก็ทราบว่าท่านคงจำไม่ไหว

พิธีกรประจำก็คือสาวอักษรที่ไปเป็นดาราในวงบันเทิง   ที่ยืนพื้นก็มีป้าจี๊ อัจฉราพรรณ    นีรนุช ปัทมสูตร   เมื่อก่อนมีนุสบามาเป็นพิธีกรด้วย  หลังๆไม่ค่อยเห็นเธอ
ดิฉันมีรูปเพื่อนๆที่ขึ้นเวทีไปเต้นโชว์ด้วย   แต่จะเอามาลงในเว็บ  ก็เกรงว่าจะถูกฆ่าเอาง่ายๆ     เชิญดูรูปตึกอย่างเดียวดีกว่าค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 15:51

เรื่องโยนบกนั้นหนุุ่มสีเทาชื่อจิตร ภูมิศักดิ์ โดนเข้า เพราะเป็นสาราณียกรหนังสือที่มีเนื้อหารุนแรงต่อศาสนา และความเป็นแม่


ถ้าแม้นใคร่ใจที่จะมีลูก
ฤทัยผูกรักล้ำทั้งพร่ำสอน
อุตส่าห์เลี้ยงเอี้ยงกล่อมถนอมนอน
ขอกราบกรนั่นแหละแม่ที่แท้จริง

แต่เธอคลอดทอดทิ้งแล้ววิ่งหนี
ไม่รู้ชี้เป็นตายหรือชายหญิง
ไม่แลเหลียวเจียวหลังเพราะชังชิง
เธอคือหญิงรับจ้างแท้...ใช่แม่คน

จิตร  ภูมิศักดิ์
หนังสือมหาวิทยาลัย ฉบับปิยมหาราชานุสรณ์ ๒๓ ตุลาคม ๒๔๙๖

 ;D

 


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 15:58
กลอนบทนี้แหละค่ะ   แล้วก็มีเรื่องศาสนาด้วย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: puyum ที่ 18 ส.ค. 10, 16:01

ที่ดินตรงนั้น ปัจจุบันเป็นของธนาคาร
แต่ผมอาจจะใช้ภาษาผิดไป คงเป็นอาถรรพ์ก็ได้
ครั้งสุดท้ายก่อนเป็นของธนาคาร
ผมไม่แน่ใจว่า มิตร ชัยบัญชา ซื้อไปแล้ว หรือเพียงตกลง
ก็มีอันเป็นไปเสียก่อน ก่อนหน้านั้นก็เป็นเรื่องเหมือนๆกัน
แต่ภาพที่เห็นชัดๆ บ้านตรงนั้นก็หน้าสนใจ
ใครทราบ ช่วยผมทั้งสองเรื่องด้วย ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 16:09
ปัจจุบันที่ดินที่คุณ puyum พูดถึงเป็นที่ตั้งของหอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

เดิมมิตร ชัยบัญชา ซื้อที่เอาไว้เพื่อเตรียมทำเป็นโรงถ่ายภาพยนตร์ แต่ต้องชะงักเมื่อเค้าประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตขณะถ่ายทำภาพยนตร์ช่วงปี ๒๕๑๓ ต่อมาที่ดินก็ตกเป็นของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเปิดโอกาสให้บุคคลผู้มีความรู้ทางด้านศิลปวัฒนธรรม เข้ามาบริหารจัดการ และได้ปรับปรุงเป็นหอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในเวลาต่อมา

(http://www.bloggang.com/data/thenut/picture/1204596894.jpg)

(http://www.bloggang.com/data/thenut/picture/1204596867.jpg)

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 16:15
ได้ยินมาอย่างที่คุณเพ็ญชมพูเล่า ค่ะ
ได้รูปหายากมาจากเว็บอักษรศาสตร์   นี่คือรูปอักษรศาสตรบัณฑิต รุ่น ๑๔  รับพระราชทานปริญญารุ่นแรก ๒๔๙๓
บัณฑิตหญิงคนที่ ๔ จากซ้ายคือศาสตราจารย์คุณหญิงเกื้อกูล เสถียรไทย  มารดาของดร.สุรเกียรติ์   


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: manit peuksakondh ที่ 18 ส.ค. 10, 16:24
เรียนท่านประธานที่เคารพ อดีตหนุ่มวิศว ขอใช้สิทธิเนื่องจากถูกพาดพิง นะขอรับ
ผมเข้าจุฬามาได้ยังไงก็ไม่รู้ ยิ่งเข้าวิศวได้ยิ่งงงหนัก ยิ่งไม่ตกยิ่งงงที่สุด เดิมผมไม่เชื่อเรื่องพรหมลิขิตแต่ตอนหลังต้องเชื่อครับ
ตึกวิศว เดิมมีแค่ตึก 1 กับ 2 เป็นตึก 2 ชั้นแบบอังกฤษ ตอนปิดเทอมปี 3 ทางคณะต่อเติมเป็น3 ชั้น แล้วต่อมามีตึก san เป้นตึก2 ชั้นสีเขียวๆอยู่ข้างรั้ว ผมคลับคล้ายคลับคลาว่า ช่วงที่ผมเรียนตึกอักษรมีการปรับปรุงและมีการสร้างหอสมุดกลาง ตอนผมเข้าปี1 นิสิตใหม่อักษรที่ผมสนใจมากชื่อ บุปผา เธอสวยเหลือเกิน เธอมาแต่เช้ามาแล้วก็นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงบันไดทางขึ้นตึกบันไดแรก เสียดายที่ตอนปีหลังๆไม่ได้เจอเธออีก หลังตึกวิศวมีทางลัดไปตึกรัฐศาสตร์ที่เพิ่งสร้างใหม่ได้
เรื่องกีฬา ผมเคยแฝงกายไปเล่นรักบี้ให้กับคณะอักษร บ้าง สมัยท่านสมภพ เป็นหน.ทีม
เรื่องสาวอักษร เนื่องจากตอนเรียนผมจน กลางวันไม่มีเงินกินข้าว ก็เดินไป่อาศัยน้ำเย็นที่ตึกอักษรลุบท้อง ครั้งหนึ่งผมมีงานจะต้องไปประสานกับสาวอักษรและเป็นสาวอักษรคนแรกเธอชื่อ วิจิตรา ผมงี้สั่นเป็นเจ้าเข้าเลย ที่เหลือเอาไว้เล่าวันหลัง (แต่ผมมีรักแรกพบกับสาวคณะนี้นะครับ ขอบอก) ฮิ อิ
มานิต


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 16:32
พอโพสต์รูปสาวอักษร ที่คุณมานิตอาจพอจำได้   แต่ไม่รู้ว่ามีสาวอักษรแห่งความหลังของคุณรวมอยู่หรือเปล่า เดาว่าไม่ใช่รุ่นนี้
แถวกลาง คนกลางที่ทำผมสวย โพสท่าเก๋ไก๋ว่าเพื่อน ชื่อสมศรี เสฐียรโกเศศ  เป็นบุตรีพระยาอนุมานราชธน   ต่อมาคืออาจารย์สมศรี สุขุมลนันทน์    แม่เล่าว่าตอนเรียนท่านเล่นละครเป็นจูเลียตของโรมิโอ   เพราะสวยมาก   อาจารย์สมศรีเพิ่งถึงแก่กรรมไปไม่กี่ปีมานี้  คุณรำเพยหลานสาวของท่านก็เป็นชาวเน็ตคนหนึ่งที่ห้องพันทิปคงรู้จักดี
ส่วนแถวบนสุดคนขวามือ คือท่านผู้หญิงศรีนาถ สุริยะ  พระอาจารย์ในสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ  คุณV_Mee คงรู้จักท่าน    ท่านยังแข็งแรงดีในวัยเก้าสิบกว่า   เดินเหินเองได้ ไม่ต้องนั่งเก้าอี้

กำลังจะโพสต์ อ่านค.ห.ความรักความหลังของคุุณมานิตเข้าเสียก่อน   อย่าลืมมาต่อตำนานรักบนตำหนักเทวาลัยให้ลูกๆหลานๆฟังบ้างนะคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 18:04
ขอพาลูกทัวร์เข้าไปห้องเรียนปี 1 ของพวกเรา  ห้องหมายเลข 10 ชั้นล่างปีกซ้ายของเทวาลัย

กระดานดำอมตะประจำห้องอาจจะแขวนอยู่ตั้งแต่สมัยแม่เรียน  หรือตั้งแต่ก่อตั้งคณะ  ออกแบบโอ่อ่ามีกรอบงามตรึงกับผนัง  เหมือนนำมาประดับเป็นส่วนหนึ่งของห้องมาก่อน   แต่ไม้กระดานกลายเป็นสีดำจางซีด หน้าตาดูอิดโรยแก่ชราเต็มทีแล้วเมื่อดิฉันไปเห็นครั้งแรก   เป็นกระดานสองแผ่นซ้อนเหลื่อมกันเล็กน้อย  ชักให้เลื่อนขึ้นลงได้  ถ้าอาจารย์เขียนเต็มแผ่นแล้วก็ชักขึ้นไป ดึงอีกแผ่นเลื่อนลงมาแทน

แต่จะด้วยใครไปทำอะไรก็ไม่รู้กับเสาที่เลื่อนขึ้นลงนี่แหละ จึงเกิดปรากฎการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่มาร์โคนียังค้นไม่พบ   กระดานแผ่นนี้วันดีคืนดีก็กลายเป็นเสาอากาศรับวิทยุมีเสียงคลื่นโครกครากเข้ามาได้   ครู่เดียวก็หายไป     พวกเราตอนแรกได้ยินก็เลิ่กลั่กกันนึกว่าผีหลอก  หลายๆหนก็ชินกันไปเอง 

ห้องเรียนห้องนี้บรรจุนักเรียนได้ทั้งรุ่น   ตอนเข้าเรียนรับนิสิต 150 คนอาจมีเศษเล็กน้อยสำหรับคนสอบได้คะแนนเท่ากันตอนท้ายๆ เลยต้องรับเข้ามาหมด  มีโต๊ะเก้าอี้ทำด้วยไม้หนาขึงขัง ต่อเป็นโต๊ะมีเท้าแขน  เชื่อมต่อกับแผ่นรองรับแทนพื้นโต๊ะ   เวลายกต้องยกกันไปทั้งชุด  แยกส่วนไม่ได้    จัดเรียงกันข้างละสิบกว่าตัว  แบ่งทางเดินตรงกลาง 

นิสิตทุกคนมีเก้าอี้เฉพาะตัวให้นั่งประจำที่   เรียงกันเป็นลำดับตั้งแต่ก.ไก่ถึงอ.อ่าง  (เพราะไม่มีใครชื่อขึ้นต้นด้วย ฮ.นกฮูก) พอครบเทอมก็กลับใหม่ เอาอ.อ่างขึ้นต้น แล้วเรียงย้อนลงมาถึง ก.ไก่    ที่เรียงแบบนี้มีเหตุผล เดี๋ยวจะเล่าต่อไปค่ะ     


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 18:43
      จุดต่อไปที่พาชมคือบรรยายในห้องเรียนคณะอักษร  ตั้งแต่ปี 1 ถึงปี 4 นั่งเบียดกันอยู่แบบนี้ละค่ะ   
      รูปนี้น่าจะถ่ายราวๆทศวรรษ 2490s  เพราะทรงผมนิสิตในรูปดัดหยิกเป็นลอน  เป็นแฟชั่นตอนดิฉันเล็กๆ    ตอนดิฉันเข้าเรียนมีทรงเดียวคือปล่อยผมยาว ไม่ดัดเลย ก็เหมือนทรงเดี๋ยวนี้ละค่ะ  แต่นอกจากนิสิตคนละรุ่นแล้ว โต๊ะเก้าอี้ยังชุดเดิม
   ตอนนี้มาเห็นภาพแล้วรู้สึกว่าแออัดยัดเยียด  แต่สมัยเรียนไม่รู้สึก อาจเป็นเพราะนั่งเหมือนๆกันทั้งห้อง    ส่วนพวกผู้ชายนั้นเข้าเรียนใหม่ๆเขาก็นั่งประจำที่ตามอักษรชื่อ  แต่สักพักเขาทนถูกผู้หญิงขนาบซ้ายขวาไม่ได้  จะบิดตัวเหยียดขาก็ไม่สะดวก  เขาเลยใช้อภิสิทธิ์ของความเป็นชาย หนีไปนั่งแถวสุดท้าย เพราะเก้าอี้มีมากกว่าจำนวนนิสิต  แถวท้ายสุดมักจะว่างอยู่แล้ว
   ที่พวกเราต้องนั่งประจำที่  เพราะว่ายุคนั้นมีการเช็คชื่อ  ระเบียบคณะคือต้องมีเวลาเรียนไม่ต่ำกว่า 80% ของยอดรวม   ไม่งั้นหมดสิทธิ์เข้าสอบ   ระเบียบนี้ทำกันเอาจริงเอาจัง  ไม่ใช่ตราไว้โก้ๆ
   หลังจากเข้าเรียนราว 10 นาที ประตูด้านหลังห้องก็จะมีเจ้าหน้าที่เดินเข้ามาเงียบๆ ถือกระดาษแผ่นใหญ่ที่มีแผนผังที่นั่งนิสิตทุกคนไว้ในมือ  แล้วลงมือจดไล่ตามแต่ละแถวว่าใครมาบ้างไม่มาบ้าง  โดยเช็คจากด้านหลัง ไม่มารบกวนการเรียนของพวกเรา   จำได้ว่ามี 2 คน คนหนึ่งเป็นหัวหน้าแผนกธุรการ   เป็นผู้หญิงที่สวยสง่าดูเป็นผู้ดีสมกับเป็นหม่อมหลวง ราชสกุลอะไรดิฉันไม่เคยถาม เรียกกันว่าคุณหม่อม    ส่วนคนที่สองเป็นผู้ชายร่างท้วมท่าทางเรียบร้อยชื่อคุณยงยุทธหรืออะไรสักอย่างที่จำไม่ได้อีก    เรียกคุณยงยุทธไปก่อนแล้วกัน 
     คุณยงยุทธนี่แหละเป็นตำนานของพวกเรา  โดยเฉพาะกับเพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่งชื่อ ชื่อเจ้าตี้   เจ้าตี้เป็นคนเรียนเก่งโดยไม่จำเป็นต้องเข้าเรียน   ชอบแวบไปดูหนังที่สยามสแควร์เป็นประจำ    หนักๆเข้าก็จวนแจจะหลุดเส้น 80 % ลงไป คุณยงยุทธก็ไปเตือนว่าคุณครับ ขาดเรียนหลายหนแล้วนะ เดี๋ยวไม่มีสิทธิ์สอบ    เจ้าตี้ก็เสียดายหนัง เลยวางอุบายครั้งต่อไปที่โดดไปดูหนัง ก็ยกเก้าอี้ตัวเองออกไป ไม่ให้เห็นว่าว่างจากแถว กลายเป็นว่าเพื่อนข้างๆมานั่งที่แทนตัวเองไปโดยปริยาย   
       คุณยงยุทธก็เก่งสุดยอด  ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นหน้าพวกเราเพราะเช็คจากด้านหลัง  ยังจำหัวพวกนิสิตได้ทุกคนไม่พลาดว่าหัวไหนนั่งตรงไหน    หัวเจ้าตี้หายไปจากที่นั่ง  มีหัวเพื่อนที่ไม่เหมือนกันมานั่งแทน   คุณยงยุทธก็เช็คได้ว่าเจ้าตี้หายไปอีกแล้ว    เจ้าตี้ก็เลยถูกจับได้อีกครั้ง  ดูเหมือนจะถูกอาจารย์เรียกไปเตือน  กลายเป็นตำนานที่ไม่ลืมกันมาจนทุกวันนี้


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: manit peuksakondh ที่ 18 ส.ค. 10, 19:04
เข้ามาเพิ่มข้อมูลให้กับท่านCrazyhorse
1.กระดานดำที่คณะวิศวใช้เทคฯเดียวกับคณะอักษร แต่ดูว่าจะไม่classic เท่าและขนาดเล็กกว่า
2.สามแยกตรงหน้าตึก 1 เป็นที่สำหรับปี3และ4 ชาวอักษรเขาขนานนามว่า สามแยกปากส....เพราะเดินมาถึงตรงนี้ขาจะแทบขวิด
3.ตึก 2ไม่มีห้องใต้ดิน ตึก 1 มี ผมพบโดยความสอดรุ้สอดเห็น เป็นที่เก็บเอกสารเก่าๆ หนังสือรับน้องใหม่เก่าๆ ผมชอบลงไปอ่าน ปีที่แล้วไปปฐมนิเทศก์ หาไม่เจอแล้วครับ ถามใครก็ไม่มีใครรู้
4.รุ่นผมมีจะตีกับรัฐศาสตร์แต่รุ่นหลังๆเขาว่าตีกับอักษร(แล้วแพ้) และมีตีกับคณะวิทฯด้วย "พวกวิศวนิสสัยไม่ดี" เจ้าแม่จอมบ่นของผมเขาชอบพูด
5.โยนบกมีจริงและก็มีโยนน้ำด้วย
6.ท่าน ม.ร.ว.ดวงใจฯที่ท่านว่าเป็นท่านเดียวกับท่านดวงใจ จิตรพงศ์หรือไม่ครับ
7.รุ่นผมนั้นพวกมีตังเขาต้องไปกิน ทึงร้อน ทึงเย็น ที่โรงอาหารคณะบัญชี  ที่อยู่เลยคณะอักษรออกไป คนขายชื่อคุณสุดา
8.โรงอาหารของจุฬาอยู่หลังตึกจุลจักรพงศ์ จากตึก 2 มีสะพานไม้เล็ก ทาสีขาวๆ ข้ามคูไป ครับผม
9.ตอนหลังๆ ผมขึ้นไปชั้น 2ของตึกอักษรบ่อยๆ ทุกครั้งก็ทำความเคารพท่านผู้มีพระคุณต่อสถาบัน ครับผม
10.โจทก์เก่าผมมีทั้งที่คณะของท่านเพ็ญฯและท่านเทาฯ ครับผม ฮิ ฮิ
มานิต


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 19:25

2.สามแยกตรงหน้าตึก 1 เป็นที่สำหรับปี3และ4 ชาวอักษรเขาขนานนามว่า สามแยกปากส....เพราะเดินมาถึงตรงนี้ขาจะแทบขวิด

มานิต

รู้จักค่ะ แต่ไม่เคยเดินไปแถวนั้น    พวกอักษรไม่ได้เรียกสามแยกปาก ส..... เขาเรียกสามแยกปาก ห..... ตรงๆเลย
อาจารย์ม.ร.ว.ดวงใจ เดิมอยู่ในราชสกุล จิตรพงศ์ ใช่แล้วค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 10, 19:27
นำชมอดีตต่อไป
สองท่านนี้คือสองในปรมาจารย์ของคณะอักษรศาสตร์
ซ้าย ท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา และขวา ศาสตราจารย์ม.ล.ปิ่น มาลากุล
ยุคในภาพเป็นยุคที่นิสิตหญิงยังไม่มีเครื่องแบบ  แต่งกายกันได้ตามใจแต่ต้องสุภาพ  สมัยแม่ดิฉันเรียนก็ไม่มีเครื่องแบบ  นุ่งซิ่นยาวสวมเสื้อขาวแบบไหนก็ได้แต่ต้องมิดชิด   แต่พวกผู้ชายมีชุดพระราชทานแล้ว
ผู้ออกแบบเครื่องแบบนิสิตหญิง ท่านหนึ่งคือศาสตราจารย์คุณหญิงจินตนา ยศสุนทร   ท่านเคยเล่าให้พวกเราฟังขำๆว่า ออกแบบเข็มขัดหนังกลับสีน้ำตาล แล้วมานึกทีหลังว่าเข็มขัดน้ำตาลกับกระโปรงสีกรมท่า มันจะเข้ากันได้ยังไงเล่า   
กระโปรงนิสิตสมัยดิฉันเรียน ไม่มีสีดำ ทุกคนนุ่งกระโปรงสีน้ำเงินกรมท่า    มีคณะเดียวที่นิสิตหญิงนิยมนุ่งกระโปรงดำคือคณะรัฐศาสตร์ เพราะสีประจำคณะคือสีดำ     ในคณะอักษรฯถ้าใครนุ่งดำแปลว่าไว้ทุกข์    แต่พอถึงสมัยลูกสาว นุ่งดำกันหมด เพราะสีดำฮิท


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: manit peuksakondh ที่ 18 ส.ค. 10, 21:25
ท่าน อ.ม.ร.ว.ดวงใจฯ ท่านขาวๆทัวมๆ สูงประมาณ 165ซม. เสียงดังฟังชัดดี นะครับ
มานิต


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 19 ส.ค. 10, 13:29
อ่านชาวอักษรจุฬาระลึกความหลังด้วยความตั้งใจ เพราะสถาบันแห่งนี้ ผลิตบัณฑิตมีคุณภาพในสาขานี้มากมายค่ะ

ที่เกษตรก็มีสามแยก ปาก.....เหมือนกัน แต่คนที่จับจองพื้นที่ตรงนั้น เป็นพวก วนศาสตร์ คณะนี้ ไม่มีใครกล้ามีเรื่องด้วย ท่านน่าเกรงขามมาก

การตีกันในจุฬา ดิฉันเกิดทันได้เห็นและเข้าไปที่นั่นหลังเหตุการณ์ด้วย เพราะ มีอาเป็นอาจารย์แพทย์ศาสตร์ เห็นท่าน ๆ ชาววิศวะพังโต๊ะเก่้าอี้ไปหลายตัว แปลกใจที่ตีกันเองในมหาวิทยาลัยเดียวกัน

คุณจิตร ภูมิศักดิ์ ท่านเป็นคนหัวรุนแรงที่น่านับถือ เพราะเก่งมาก จัดว่าเป็นปราชญ์คนหนึ่งนะคะ และกว่าจะผลิตผลงานแต่ละชิ้น ท่านค้นคว้าหลักฐานจนน่าจะเป็นวิทยานิพนธ์เสียมากกว่าหนังสือธรรมดา



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 19 ส.ค. 10, 14:03
เอารูปรถคุณปู่มาฝากอาจารย์เทาค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 19 ส.ค. 10, 14:07
รูป "ป๊อกแป๊ก" หาบเร่ชาวจีนที่ขายของสารพัด เดินไปพร้อมแกว่งกลองหนังเล็ก ๆ ให้มีเสียงบอกว่า ป๊อกแป๊กมาแล้วจ้า


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 19 ส.ค. 10, 14:09
และนี่คือร้านขายของเล่นที่ทำจากกระดาษ และไม้่ระกำ แบบเดียวกับที่เห้นในสนามหลวง เพียงแต่รูปนี้ เป็นร้านค้าถาวร ในสมัย ร.5 ค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 19 ส.ค. 10, 14:13
หาบเร่ขายอาหารชาวจีน สมัยเด็ก ๆ ยังเห็นมีอยู่
ขายก๋วยเตี๋ยว้าง  บางทีก็เต้าหู้ทอด หรือไม่ก็ข้าวต้มใส่เกลือชามละ 1 สะลึ๋ง
ขายคนจน ๆ ส่วนใหญ่เป็นกรรมกร แต่เราเ็ด็ก กลับชอบใจ
เพราะรู้สึกอร่อยกว่าของทำเองในบ้าน ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเป็นเช่นนั้น


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 10, 14:32
ใช่ค่ะ  อาจารย์ม.ร.ว.ดวงใจ  ราชสกุลเดิม จิตรพงศ์

ขอพาทัวร์ออกจากจุฬาไปสนามศุภชลาศัย    เพื่อไปดูงานใหญ่ของชาวจุฬา  ที่น้องใหม่สมัยโน้นตั้งตาคอยตั้งแต่เริ่มเข้ารั้วมา - ฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/463/31463/images/32250017.jpg)

ถ้าเล่าถึงชีวิตนิสิตจุฬาสมัยโน้นแล้วไม่เล่าถึงฟุตบอลประเพณี   ก็เหมือนคุณนวรัตนเล่าเรื่องการเมืองไทยในอดีตแล้วไม่เล่าถึงรัฐประหาร  มันจะขาดสาระสำคัญไป

ฟุตบอลประเพณีจุดไฟฝันให้เด็กเตรียมอย่างดิฉันฝันอยากย้ายรั้วมาเข้าจุฬา   เพราะวันบอลประเพณีเป็นวันบิ๊กเบิ้มของปี     ตื่นเช้าไปร.ร.เห็นพี่ๆเขาใส่เสื้อยืดสีชมพูสว่างโร่มาแต่ไกล  เบียดเสียดกันมาในรถกระบะเปิดประทุนซึ่งสมัยนี้จะมีได้ก็แต่เล่นน้ำสงกรานต์เท่านั้น  แล่นไปแล่นมาอยู่ตลอดเช้าเพื่อตอนบ่ายจะไปเข้าสนามศุภ    ร้องเพลงเชียร์กันสนั่น  สวนทางกับรถของพี่ๆธรรมศาสตร์ที่สวมเสื้อยืดเหลือง ก็บูมเข้าใส่กันอย่างครึกครื้น เป็นเป้าสายตาประชาชน    ในสายตาเด็กอย่างเรา  เกิดมาไม่เคยเห็นอะไรเท่ขนาดนั้นเลยในชีวิต  พี่ๆก็ดูเท่เสียยิ่งกว่าซูเปอร์สตาร์
สมัยนั้นรถยังไม่ติดเท่าไร ลื่นไหลไปได้สะดวก  จึงไม่มีประชาชนออกมาบ่นด่ารถพวกนิสิตนักศึกษาว่าเพิ่มจำนวนรถในถนน  น้ำมันก็ถูกมากจนไม่รู้สึกว่าผลาญ 
ในที่สุดเมื่อเข้ารั้วสีชมพูได้  ก็ตั้งหน้าตั้งตาคอยวันบอลประเพณี   


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: manit peuksakondh ที่ 19 ส.ค. 10, 14:57
เล่นด้วยครับ ตอนผมเข้าสามย่านได้ วันที่ผมกลัวที่สุดคือ วันรับน้องใหม่ เพราะท่านrepeater ทั้งหลายท่านหมายศรีษะย์ ผมไว้(ให้ได้ยินซะด้วย) ผมจะไม่ไปอยู่แล้วก็ปรึกษาพี่ ท่านบอกว่าถ้าไม่ไปจะเสียโอกาสที่จะได้รับประสบการณ์ที่สำคัญที่จะไม่มีกับชีวิตอีกแล้วในรั้วจามจุรี ตอนเช้ารับน้องจุฬาก็เข้าไปตะเบ็งเสียงกันในหอประชุม ใครเสียงแห้งทางคณะเขามีน้ำแจก ตอนบ่ายรับน้องคณะผมเดินผ่านซุ้มรุ่นพี่repeaterด้วยความไหวหวั่น แต่ผิดคาดครับท่าน เพราะไม่มีอะไร เพียงแต่คำว่า"ไอ.. นิด มึ.. เสียงดังนักนะ"เท่านั้นเอง ถ้าผมไม่ไปร่วมคงเสียใจไปตลอดชีวิต
อ้อสำหรับท่านวิศวกร crazyhorse (ไม่กล้าเรียกสั้นๆกลัว)หอประชุมจุฬาสมัยนั้นตรงข้างฝามีพัดลมใหญ่มากแต่ไม่สามารถเปิดใช้งานได้ เพราะเปิดแล้วกำแพงสั่น พื้นก็มาออกแบบกันใหม่ตอนทำวิทยานิพนธ์ สนามกีฬาก็ออกแบบกันใหม่ทางด้าน permeability นะครับผม
มานิต


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 19 ส.ค. 10, 15:11
ขอขอบคุณคุณruamrudeeที่กรุณาเปิดกรุภาพเก่ามาให้ชม...ภาพงามๆหายากทั้งนั้นเลยครับ.....

เข้าใจว่าภาพ   -ป็อกแป๊ก-  คงเป็นที่มาของหนัง ทายยาทป๋องแป๋งของคุณกำธร ทัพฯ........





เรื่องสามแยกปากหมาน....คงมีทุกมหาวิทยาลัย..แถวๆท่าพระจันทร์..ก็อยู่ใต้ตึกโดม..ปัจจุบันก็ติดกับศูนย์หนังสือฯ
หนุ่มๆสถาบันไหน..ก็ปากหมานพอกันกระมัง..?


บอลประเพณีนั้น...สุดยอดความบันเทิงของชาวรั้วเหลืองแดงและชมพู...เพราะสมัยนั้นไม่มีสถานบันเทิงมากเหมือนสมัยนี้...
อีกกิจกรรมที่ชอบกันมาก...ภาพยนต์การกุศลรอบพิเศษ...โรงหนังขวัญใจ...น่าจะเป็นโคลีเซี่ยมที่สะพานยมราชเพราะจุที่นั่งมาก...ค่าเช่าถูกกว่า?


 ;D


หอมเอยหอมดอกกระถิน.....รวยระรินเคล้ากลิ่นกองฟาง.....


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 10, 15:19
มาเล่าเรื่องบอลประเพณี ต่อ

ในยุคนั้น คนสวยของคณะจะได้ 2 ตำแหน่งใหญ่ๆ คือนางนพมาศคณะ ที่ไปประกวดเป็นนางนพมาศจุฬาอีกปีหนึ่ง    คนที่ได้ตำแหน่งนี้ต้องสวมชุดไทยสไบเฉียงได้สวย   นั่งพับเพียบไปบนเสลี่ยง ไม่ต้องออกแรงมาก    ส่วนอีกตำแหน่งหนึ่งคือดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่งของคณะ     รองลงมาเหมือนรองน.ส.ไทยคือดรัมเมเยอร์ไม้สอง    

ที่แปลกคือเชียร์ลีดเดอร์ซึ่งสมัยนี้เป็นตำแหน่งคนสวยคนหล่อ  ยุคโน้นไม่ดังเท่าไร   ไม่ได้หมายความว่าไม่เลือกคนสวย พี่ก็เลือกคนหน้าตาดีๆ และหุ่นดีๆไปเป็นเชียร์หลีด    แต่เลือกความเท่ทะมัดทะแมงเป็นส่วนใหญ่  ไม่ได้เป็นที่สะดุดตาเท่าดรัมเมเยอร์  
กิจกรรมของบอลประเพณีเป็นของน้องปีหนึ่งทั้งหมด   มีแต่นักฟุตบอลเท่านั้นที่พี่ๆเขาลงสนามได้ตลอด ๔ ปีที่เรียน   น้องใหม่ที่นำออกโชว์เช่นดรัมเมเยอร์ เป็นหญิงทั้งหมด   พวกผู้ชายเป็นได้แต่เชียร์ลีดเดอร์   ซึ่งมีทั้งชายและหญิง

คนสวยของคณะต่างๆที่ได้เป็นดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่งยุคโน้น  ที่จำได้คือคุณมณฑินี บุณยะประสพแห่งคณะบัญชี    ปัจจุบันคือท่านผู้หญิงมณฑินี มงคลนาวิน    อีกคนคือม.ร.ว. สิริมาดา วรวรรณ  คุณแม่ของแบม จณิสตา    ตอนเย็นๆตอนเลิกเรียนกลับบ้าน เห็นม.ร.ว.สิริมาดาไปหัดโยนไม้บาตองอยู่ที่สนามใหญ่ใกล้สระน้ำ      
ชุดดรัมเมเยอร์สมัยนั้นเป็นกระโปรงบานสั้น สวมกับบู๊ํตและสวมหมวกสูง เดินควงคธาหรือไม้บาตองอย่างองอาจ   แฟลชวูบวาบจากอัฒจันทร์ตอนเดินไปตามลู่ของสนามศุภ   แต่ปีที่ดิฉันเข้าเรียนอักษร ดรัมเมเยอร์ฉีกแนวไป นุ่งกระโปรงบัลเล่ต์สีขาวกับชมพู ประดับขนนกเทียมฟูฟ่อง เหมือนชุดระบำหงส์เหิร  เดินกันตั้งแต่จุฬาไปสนามศุภ     ยุคนั้นแดดและอากาศในกรุงเทพไม่ร้อนเท่าไร  อย่างน้อยเดินไปก็ไม่รู้สึกว่าร้อน   ถ้าเป็นยุคนี้ คงมีดรัมเมเยอร์เป็นลมแดดกันไปบ้าง

หารูปดรัมที่ว่ามาเท่าไรก็ไม่ได้   ได้มารูปหนึ่ง คนขวาคือนีรนุช ปัทมสูตร


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 19 ส.ค. 10, 16:29
หารูปเมื่อ ๖๐ ปีที่แล้วมาแจม ครับ

ม ธ ก



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 19 ส.ค. 10, 16:55
บนอัฒจันทร์ 


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 19 ส.ค. 10, 16:57
ฝั่งจุฬาฯ สังเกตจากตราพระเกี้ยวบนหมวกและเสื้อ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 19 ส.ค. 10, 17:52
สองนิสิตสาว (อดีตและปัจจุบัน) ผู้อัญเชิญพระเกี้ยว


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 10, 18:38
คุณ SILA น่าจะมีคอลเลคชั่นรูปเก่า  ที่หามาลง สวยและชัดมากค่ะ

แปรอักษรเป็นงานโชว์ดังของบอลประเพณี  พอมธ.ยกคำขึ้นมา จุฬาก็ต้องตอบโต้ให้ได้ ทั้งๆไม่ได้นัดกันมาก่อน  เรียกว่าต้องเก็งกันล่วงหน้าหาคำมาแปรอักษรโต้ตอบกันไม่ให้เพลี่ยงพล้ำ
ก่อนหน้าวันงาน คณะถาปัดซึ่งเป็นเจ้าภาพเหมาทำด้านแปรอักษร จะปิดเป็นความลับไม่ให้ฝ่ายมธ.รู้ว่าซุ่มทำฉ็อทเด็ดอะไรสำหรับปีนี้บ้าง     ได้ยินมาว่ากินนอนกันอยู่ที่คณะนั่นเองหลายวันติดต่อกัน
เรื่องนี้ต้องถามคุณนวรัตนว่าทำอะไรกันบ้าง  จำได้แต่ว่าปีนึงที่เรียนอยู่ แปรอักษรเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ที่มีแสงเงางดงามเป็นพิเศษ   

อีกรายการหนึ่งคือขบวนล้อเลียนการเมือง   มีนิสิตนักศึกษาแห่กันยกป้ายถ้อยคำเจ็บๆคันๆ ล้อเลียนเหตุการณ์ใหญ่ๆของบ้านเมืองในเวลานั้น  มาเดินโชว์  เป็นที่เฮฮาสะใจของคนดูซึ่งไม่มีสิทธิ์มีเสียงจะออกปากทางการเมืองได้

ถ้าอยู่ทางบ้านไม่ไปดู   ก็มีการถ่ายทอดทางทีวีให้ดูเป็นรายการใหญ่ด้วย  ถ่ายทอดกันตั้งแต่ดรัมเมเยอร์นำขบวนแห่เข้าสนามมาทีเดียว

(http://www.mediathai.net/module/gallery/images/200902/gallery_medium_images/933_43607.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 10, 18:48
ดิฉันหารูปแปรอักษรเก่าไม่ได้  สมัยนั้นไม่มีกล้องดิจิตอลเหมือนเดี๋ยวนี้   ถ่ายรูปเป็นเรื่องยุ่งยาก กล้องก็ตัวเบ้อเริ่มหนักอึ้ง  ไม่มีใครพกพากัน เลยไม่ได้บันทึกรูปไว้
ขอนำรูปใหม่มาลงแทน
แปรอักษรทุกครั้ง ของทั้งสองฝ่าย   ภาพที่ขาดไม่ได้คือพระบรมฉายาลักษณ์  จะต้องขึ้นมาในสนามก่อนแปรอักษรแบบอื่น

(http://www.mediathai.net/module/gallery/images/gallery_medium_images/224_8068.jpg)

(http://learners.in.th/file/papon_k/byAIzX853287-02.jpg)

ถ้าฝ่ายไหนยิงเข้าประตูได้    การเคลื่อนไหวบนอัฒจันทร์เพื่อแปรอักษรก็จะเกิดขึ้นทันที    ฝ่ายยิงได้ก็มีถ้อยคำไชโยโห่ร้องแสดงความยินดี   ฝ่ายเสียประตูก็จิกกัดไปตามเรื่อง ให้เฮฮากัน
อย่างภาพนี้ พอจุฬายิงประตูได้  ธรรมศาสตร์ก็แปรอักษรทีเดียวว่า "บังเอิญ"

(http://i18.photobucket.com/albums/b121/seisama/fbtrad63th/IMG_6981.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 10, 19:11
เอารูปรถคุณปู่มาฝากอาจารย์เทาค่ะ

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3462.0;attach=13248;image)



รูปปัจจุบันหรือเปล่าคะ  เป็นรถโบราณที่สวยมากค่ะ



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: manit peuksakondh ที่ 19 ส.ค. 10, 20:53
ผมจะพยายามไม่ให้ซ้ำกับของท่านเทาชมพู
สมัยผม ไม่มีทีวี ไม่แน่ใจว่าจะมีการถ่ายทอดวิทยุหรือไม่ แต่เป็นการแข่งกีฬาที่ยิ่งใหญ่ ตอนปี1 ผมโดนให้ใส่กางเกงขาว เสื้อขาวแขนยาว หมวกขาว ขาดเอวสีชมพู ลงไปแปรขบวนที่ในสนามกับเขาด้วย(สงสัยทำเขาเละ)
ตลอดเวลาที่อยู่ที่จุฬา ผมมีวิธีเข้าดูโดยไม่เสียเงินคือ 1.ไปพร้อมนักกีฬา 2.พอไปถึงให้พยายามถือธงของมหาวิทยาลย หรืออยู่ใกล้ๆธงให้มากท่สุด แล้วเขาจะให้เข้า ครับผม
มานิต


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 10, 20:59
แถวนี้ไม่มีชาวเหลืองแดง   หรือชาวสีอื่นๆมาเล่าถึงความหลังครั้งเรียนบ้างหรือคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 19 ส.ค. 10, 21:44
จำได้แต่เพียงว่าธรรมศาสตร์ค่อนข้างขึ้นชื่อเรื่องพาเหรดและแปรอักษร...ล้อการเมือง  โดยเพาะการเมืองในยุคที่สองจอมพลยิ่งใหญ่คับฟ้าคับแผ่นดิน

จอมพลถนอม/ประภาส....


หลังการตระเวณแห่รอบกรุงด้วยสารพัดยานพาหนะ..รวมถึงรถบรรทุกหกล้อที่ผมร่วมนั่งกับเขาด้วย.......รวมทั้งเพื่อนจากสถาบันอื่น..ที่อยากมีส่วนร่วม
เสียง.....วี๊ด...บึ้ม......จะดังสลับเพลงประจำธรรมศาสตร์..และเพลงเชียร์ตลอดเส้นทาง...


หากเป็นสมัยนี้...คงโดนด่าตั้งแต่ยังไม่สตาร์รถแน่...ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปมาก

ชอบภาพนี้ของคุณSILAมาก....แต่คงก่อนรุ่นผมแน่ๆ...ขออนุญาต เร็นโนเหวดสีเดิมหน่อยครับ.....


 ;D ;) :D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 20 ส.ค. 10, 18:23
อาจารย์เทาชมพูคะ
 
รถในรูปนั่นเอามาจาก Catalog ของ Fiat โบราณที่พบโดยบังเอิญค่ะ แต่ทุกอย่างเหมือนของคุณปู่ 100 % นี่แหละค่ะ รถที่เด็ก นั่งกันได้หลายคน เปิดหลังคารับลมเย็น ๆ สมัยที่ถนนวิทยุ มีแต่ต้นก้ามปูและมีคลองขนานกันไป

พูดเรื่องฟุตบอลประเพณีแล้ว ชอบใจมากที่จุฬาและธรรมศาสตร์รักษาประเพณีนี้ไว้ได้ดีมาก จำได้ว่าเคยไปยืนดู ดรัมเมเยอร์สวย ๆ ที่ชื่อ สัณหจุฑา เข้าใจว่าปัจจุบันนามสกุล จิราธิวัฒน์ จำได้ติดตาเลยว่าเธอสวยสง่ามาก ชื่อก็เทห์เหลือเกิน

แปลกที่ไม่ค่อยสนใจ ดาวจุฬา หรือ ดาวธรรมศาสตร์ เพราะเธอนั่งนิ่ง ๆ ให้เขาแห่ผ่านเราไป แต่ ดรัมเมเยอร์นี่ เก่งมาก โยนไม้ก็เก่ง และ บุคคลิกสง่างาม

การแปรอักษร ก็จำได้ว่า นิสิตไทย ทำได้เก่งจนประเทศอื่นมาขอให้ไปสอน

เกษตรไม่มีอะไรแบบนี้หรอกค่ะ เราเป็นมหาวิทยาลัยลูกทุ่งมาก เก่งรักบี้ก็จริง แต่พอรามคำแหงตั้งสำเร็จ เกษตรก็สู้ทีมของรามคำแหงไม่ได้ เขามีตัวเก่ง ๆ ให้เลือกเยอะค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: natadol ที่ 20 ส.ค. 10, 21:08
หามาคาราวะท่านลุงsrisiamครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 20 ส.ค. 10, 21:27
เข้าพรรษาเนี่ยนะหลาน...เอิ๊ก!


 :D ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 21 ส.ค. 10, 09:40
ดอกไม้มีหนามแหลม
มิใช่แย้มคอยคนชม
บานไว้เพื่อสะสม
ความอุดมแห่งผืนดิน

คุณเทาชมพูจำดาวจุฬาคนนี้ได้ไหม

 ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ส.ค. 10, 09:55
^
ตอบด้วยรูปปัจจุบัน

(http://www.bloggang.com/data/porpayia/picture/1246632174.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 21 ส.ค. 10, 14:57
การแปรอักษรในประเทศไทยมีขึ้นครั้งแรกในปี 2487 โดยมาสเตอร์ เฉิด สุดารา แห่งโรงเรียนอัสสัมชัญ เป็น "บิดาแห่งการแปรอักษร" โดยได้ความคิดมาจากศิลปะ Mosaic โดยการแปรอักษรครั้งแรกนั้น ม.เฉิดได้ให้นักเรียนแต่งชุดและหมวกสีขาวมานั่งเรียงเป็นพื้นแล้วเว้นช่องว่างเอาไว้เป็นคำว่า อ ส ช แล้วให้ยุวชนทหารใส่ชุดสีกากีแกมเชียวมานั่งให้เต็มทำให้เกิดเป็นคำว่า อ ส ช อย่างชัดเจนและมีการพัฒนาเรื่อยมาในการแข่งขันฟุตบอลประเพณีสวนกุหลาบ-เทพศิรินทร์ งานฟุตบอลประเพณีจตุรมิตรสามัคคี


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 21 ส.ค. 10, 16:07
โรงเรียนมัธยมหลายแห่งในกรุงเทพฯ...มักเพิ่มรสชาดการเชียร์กีฬาของทีมตนด้วยการแปรอักษรเช่นกัน...



กองเชียร์เตรียมอุดมศึกษาแปรอักษรเมื่อปี 2509 ที่สนามศุภฯ
ได้มีโอกาสเขียนโค๊ด(ออกแบบ)แปรอักษรหลายภาพ

 ;D ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ส.ค. 10, 21:48
โรงแรมไฮโซใกล้จุฬา   คือสยามอินเตอร์คอนติเนนตัล  หลังคาเก๋ไม่ซ้ำแบบโรงแรมไหนๆ    แต่กาลเวลาก็ทำให้ต้องหลีกทางให้สยามพารากอนอยู่ดี


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 09:21
อาการหลอนเริ่มกลับคืนมา
รูปนี้    รู้แต่ว่า หลังคาสีเขียวเห็นลิบๆคือหลังคาหอประชุมธรรมศาสตร์   
แต่ยังดูไม่ออกว่า A B C คือตรงไหนของกรุงเทพ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 09:23
รูปที่เจอ เป็นอย่างนี้ค่ะ

(http://farm2.static.flickr.com/1264/718305887_339cabc5ed_o.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 11:28
รูปนี้ขอฝากคุณวันดี
หนุ่มสมัยรัชกาลที่ ๕ ถ่ายกับไบซิเกิล  (สั่งจากห้างของคุณเปรม  ;)

(http://img26.imageshack.us/img26/3797/00nu1.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 29 ส.ค. 10, 13:37
A  อาคารศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร กทม.
B  พระอุโบสถวัดราชนัดดา เห็นยอดโลหะปราสาทเหนือหลังคาโบสถ์
C  อาคารริมถนนราชดำเนินกลาง ติดโรงหนังฉลิมไทย น่าจะถูกรื้อแล้วเพื่อสร้างลานต้อนรับแขกเมือง


รีบตอบ....กลัวกำแพงถูกหัวโขกพังหมดครับ...


 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 29 ส.ค. 10, 16:40
สำหรับผู้ที่ต้องสอบซ่อมครับ

คำถามที่1. ที่ไหนครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 16:53
^
 :'(
คำตอบสุดท้าย...





วังบูรพา  โรงหนังคิง กับ แกรนด์ ค่ะ
v
v
เจ้าประคู้น...


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 17:11
เข้ามาขอบคุณคุณศรีสยามค่ะ ที่ช่วยไม่ให้กำแพงพัง  ;D
รูป C  น่าจะเป็นด้านหลังอาคารริมถนนราชดำเนิน ใกล้ศาลาเฉลิมไทย

เอารูปโรงหนังมาให้ดู


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 29 ส.ค. 10, 17:36
อ้างถึง
คำตอบสุดท้าย...

วังบูรพา  โรงหนังคิง กับ แกรนด์ ค่ะ
v
v
เจ้าประคู้น...


ถูกครับ ผ่าน

คำถามที่2 โรงหนังแกรนด์กำลังฉายเรื่องอะไรครับ

ยากไป โวยได้นะครับ จะได้เปลี่ยนคำถามใหม่



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 17:45
ซูมภาพเข้าไปสุดฤทธิ์   ก็ยังดูไม่ออก
แต่เดาว่าเป็นหนังบู๊ของไทย น่าจะสมัยมิตร ชัยบัญชาแสดงนำ
อินทรีแดง หรือเหยี่ยวราตรี ของเศก ดุสิต

วิชาเดาล้วนๆ 
น่ากลัวต้องหากำแพงอีกแล้วเรา
 :-\


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 29 ส.ค. 10, 17:46
^
คำถามยากไป เดี่ยวถูกโห่

เปลี่ยนเลยดีกว่าครับ.....ที่ไหนครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 17:56
เห็นเส้นทางน้ำตรงริมบนสุด  นึกถึงแม่น้ำเจ้าพระยาก่อนอื่น เพราะเห็นคลองแยก 
แต่ดูอีกทีทำไมแม่น้ำเจ้าพระยาแคบเท่าคลอง      ???
เห็นเจดีย์ แต่ไม่รู้วัดไหน 
ขอตัวช่วย อย่างคุณศรีสยาม คุณณัฐดลและคุณศิลา จะผิดกติกาไหมคะ

ถ้าห้ามมีตัวช่วย  ดิฉันขอเวลาไปเตรียมกำแพงอย่างดีไว้ก่อน  คราวนี้เอาศิลาแลง จะได้ไม่พัง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 29 ส.ค. 10, 18:03
เอาครับๆ อย่าไปทำกำแพงเขาพังเลย เอ้าตัวช่วย...เชิญคร้าบบบ.


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 18:11
วันอาทิตย์   ตัวช่วยคงจะพักผ่อน  ไม่เข้าเน็ต
ไปหัดทำลูกศรไว้ ๓ แห่ง   เป็นวัด ๑ เจดีย์ ๑  และสะพานข้ามคลอง ๑
บอกใบ้สักแห่งได้ไหมคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 29 ส.ค. 10, 18:12
ระหว่างตัวช่วย ขอโทษครับ เรียกคนช่วยดีกว่า ไหนนะครับ..ท่านช่วยหรือครับ ครับได้ครับ
.
.
เอาใหม่   ระหว่างรอท่านช่วยกำลังทำกราฟฟิกอยู่ ผมเอารูปที่บังเอิ้ญ-บังเอิญไปเจอมาฝากอีกรูปนึง
บรรยายภาพบอกว่าเป็นคลองผดุงกรุงเกษม ภาพตึกสูงคือตึก7ชั้น ชื่อตึกนายเลิศ



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 29 ส.ค. 10, 18:32
^


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 29 ส.ค. 10, 18:55
ตกลงครับ ใบ้ก็ใบ้

เดี๋ยวท่านช่วยเกิดไม่มาจริงๆจะหลอนไปถึงเช้า

ปัจจุบันมองจากดาวเทียมจะเป็นอย่างนี้ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 19:01
ช่วยได้มากเลยค่ะ   >:(
คำตอบสุดท้าย
v
v
v


ดูไม่ออกค่่า


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 19:10
ก่อนจะถูกรีพีทหรือรีไทร์    มาขอคะแนนเพิ่ม  ด้วยการเอารูปคลองมาให้ดู
หวังว่าจะเป็นคลองผดุงกรุงเกษมเหมือนภาพบนนะคะ

(http://i14.photobucket.com/albums/a307/cHemon2/Bangkok%20in%20the%20Past/UWM3_1960.jpg)

ตึกนายเลิศ คงจะโอ่อ่ามากสมัยแรกสร้าง   เพราะกรุงเทพตอนนั้นมีแต่ตึกแถวสองชั้น   ตึกเจ็ดชั้นเลยเห็นเด่นเป็นสง่าแต่ไกล  และยังดูแข็งแรงดี จนถึงปัจจุบัน
ไปค้นในเน็ต พบว่าตึกนายเลิศในปัจจุบันเป็นคนละตึกไปแล้ว  อยู่ที่สุขุมวิท 
ส่วนตึกนายเลิศของเดิม พบอยู่นิดเดียวในเว็บนี้

http://www.grandprixgroup.com/new/magazine/motorcycle/detail.asp?Detail_Id=3997&Column_Name=Scooter

บอกไว้สั้นๆ ว่าห้าง "เทพนคร" อยู่ตึกนายเลิศ ย่านตลาดน้อย เป็นเอเย่นต์ของ Triumph


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 29 ส.ค. 10, 20:05
^
เฉียด

เอาค่อยๆใบ้ไปอีกนิด


ยังไงก็รับรองไม่มีพีทไม่มีไทร์ครับ ยิ่งไม่มีใครลงวิชานี้อยู่
เดี๋ยวท่านก็ปิดแผนกเสียเท่านั้น


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 20:14
เฉียดๆ แปลว่า ผิด :'(

ขอตัวไปถามน้องกู๊กว่า วัด ช.  และวัด บ. ในกรุงเทพ มีวัดอะไรบ้าง
ถนน ส. หายากหน่อยเพราะตัว ส.ใช้กันแยะ 
เดี๋ยวจะกลับมาตอบ
ห้ามใครมาตอบก่อน  เดี๋ยวดิฉันจะอดขึ้นปี 2   ไม่พีทไม่ไทร์  แต่รีเอ๊กแซมมันทุกค.ห.  หนักกว่าไทร์ซะอีก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 29 ส.ค. 10, 20:33
อ้างถึง
หวังว่าจะเป็นคลองผดุงกรุงเกษมเหมือนภาพบนนะคะ

บนไหนครับ ถ้ากำลังหมายถึงรูปคำถามก็ไม่เฉียดละครับ โดนเลย

แต่ถ้ากำลังหมายถึงรูปตึก7ชั้น ก็เฉียดรูปคำถามไป


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 20:37
ลองตอบ
เพี้ยง...

ลืมพิมพ์คลองผดุงกรุงเกษมไปค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 20:43
ย้อนกลับมาดูรูปปริศนา ก็ยังเทียบไม่ถูกอยู่นั่นเองว่าวัดชนะสงครามกับถนนสามเสนอยู่ตรงไหน
นับว่าเคราะห์ดีที่จุฬาไม่ได้เปิดคณะถาปัดอยู่คณะเดียว   ไม่งั้นข้าพเจ้าคงเอ็นฯแปดปีไม่ติด
:-\


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 29 ส.ค. 10, 20:48
อีกนิดนึงครับ



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 20:55
ป้อมนี้ค่ะ



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 29 ส.ค. 10, 21:04
^


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 21:06
เริ่มเห็นแววว่าไม่ต้องรีเอ๊กแซม   ;D
คลองในรูปปริศนา คือคลองนี้ (ถ่ายตรงปากคลอง)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 29 ส.ค. 10, 21:29
วิวตรงปากคลองผมไม่เตยเห็นครับ ขออภัย รูปนี้^อาจเป็นปากคลองสานก็ได้


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 21:40
 :-\

ครูคนนี้ให้คะแนนยากจริง :-\

คลองเดียวกับคลองนี้ค่ะ

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/7/75/Bkkpadungkrungkasem03c.jpg/250px-Bkkpadungkrungkasem03c.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 21:46
คลองเดียวกับคลองนี้ด้วยค่ะ

(http://www.junghoo.com/images/1099705952/Pukoutong%20e.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 29 ส.ค. 10, 21:51
เอาละซี สงสัยชื่อคลองจะหลอนครูตั้งแต่ยังไม่ทันนอน

รูปคลอง2รูปข้างบนนี้ถูกครับ ไม่ใช่คลองผดุงกรุงเกษม
เอ๊ะครูต้องกลับไปรีเอกแซมมั้ยเนี่ย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 22:03
มาสารภาพผิดหน้าชั้นเรียน
รูปปริศนามี ๒ คลอง   คลองที่คุณครูใบ้ชื่อย่อมา  เป็นคลองที่นักเรียนไม่ยักกะตอบ   
แต่กลับไปตอบถึงคลองที่แยกจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามา ซึ่งครูไม่ได้ใบ้คำไว้

ชื่อคลองที่ตอบไปเป็นคลองอยู่ติดกับป้อม ที่ตอบไปแล้ว  ชาวบ้านเรียกกันหลายชื่อ
ครูก็เลยมึนพะย่ะค่ะ   ต้องขออำไพด้วย

คลองที่คุณครูใบ้ชื่อย่อไว้ คือคลองนี้ค่ะ
โดนหักคะแนนไหมเนี่ยเรา


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 29 ส.ค. 10, 22:16
นักเรียนอนุบาลกำลังงง  ว่าผู้ใหญ่เขาคุยอะไรกัน ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 29 ส.ค. 10, 22:22
ครูก็งง แถมมึนอีกตังหาก

สพานไหนล่ะนั่น^  คลองนี้ถ้าอยู่ข้างล่างเขาเรียกอีกชื่อนึง สพานนี้ไปข้ามคลองที่คนละชื่อกับคลองข้างป้อมหรือเปล่าครับ
เอาใบ้ใหม่ดีกว่า

ชื่อคลองตรงนั้น อักษรย่อ บ. ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 22:25
อย่าว่าแต่นักเรียนงงเลยค่ะ  เจอคำตอบของดิฉันเข้า  ท่านกูรูใหญ่กว่า ก็กำลังมึนอยู่เหมือนกัน
จนคุณหมอ CVT อาจพาสชั้นขึ้น ป. ๑ ไปแล้ว  ดิฉันยังย่ำอยู่อนุบาลอยู่ดี


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 22:28
คลองที่ดิฉันตอบเป็นวรรคเป็นเวร คือคลอง บ. นี่ละค่ะ
ใจมันอยู่ที่คลองนี้ตั้งแต่เห็นรูป สงสัยว่าคลองอะไร   พอตอบได้เลยตอบเสียใหญ่
ไม่ใช่คลอง ผ. ที่คุณครูใบ้คำไว้ข้างล่างรูปปริศนา
คือ...คลอง ผ.นั้น ลืมไปเลย  มัวไปอยากตอบชื่อคลอง บ.

มานึกได้ในรูป 135  เลยรีบตอบไป


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 22:35
สงสารคนที่เปิดเข้ามาอ่านในวันจันทร์    เดี๋ยวจะเตรียมพิมเสนกับวาเป๊กซ์ไว้ให้เลือก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 29 ส.ค. 10, 22:36
เปลี่ยนเป็น บ. แล้วครับ ในรูปนี้คลองชื่อ บ. ปลายคลองเดียวกันนี้ชื่อ อ.

คุณหมออย่าเพิ่งพาสชั้นไปไหนนะครับ รอหน่อย เผื่อมีคนมึนจัดหงายหลังตึงจะได้ช่วยแก้ไขทัน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 29 ส.ค. 10, 22:36
 :-X





 ;D



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: natadol ที่ 29 ส.ค. 10, 22:43
หายไปหลายวันครับ..กลับมาขออณุญาตืเข้าชั้นเรียนครับ  ตามลูกศรชี้น่าจะเป็นคลองบางลำพูครับ คลองนี้ถ้าผ่านย่านไหนชื่อก็จะเปลี่ยนไป ใช่มั้ยครับ อาจาร์ย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 29 ส.ค. 10, 22:47
ใช่คร้าบ ตัวช่วย เอ้ยท่านช่วยมาแล้ว

มาช่วยให้ผมได้นอนในคืนนี้แน่นอน และไม่หลอนด้วย


เอ้าตอบให้ชื่นใจหน่อยครับ ภาพนี้ที่ไหนครับท่านอาจารย์เทาชมพู


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 10, 23:00
กลับจากบนเจ้าพ่อมาแล้วค่ะ

ขอตอบว่า บางลำพู  คลองทางขวามือที่แยกจากแม่น้ำเจ้าพระยาคือคลองที่เรียกตามตำบลที่ผ่าน ว่าคลองบางลำพู เป็นคลองเดียวกับคลองโอ่งอ่าง
วัดทางซ้ายคือวัดชนะสงคราม   วัดที่มีเจดีย์คือวัดบวรนิเวศ
ถนนที่ตัดผ่านกลางภาพ  มีสะพานข้ามคลอง คือถนนสามเสน
สะพานที่ข้ามคลอง  คือสะพานในภาพหลอนภาพแรก  ที่ท่านอาจารย์ลงทุนไปยืนกลางถนนถ่ายรูปมาให้ดูนั่นแหละ

ว่างๆผ่านไปทางนี้  เอาทองไปปิดสะพานเห็นจะดี  จะได้เลิกตามหลอนเรา
เอ๊ะ หรือจะปิดครูแทนดีล่ะเนี่ย   




กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 29 ส.ค. 10, 23:08
ไชโย ไชโย ไชโย

ขอราตรีสว้สดิ์ และฝันดีทุกท่านนะครับ
วันหลังค่อยว่ากันใหม่ จะเอาอย่างไรกับผมก็เอา จะปิดทองก็ยอม แต่อย่าเอาไปอัดกรอบนะครับ ขอร้อง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 10, 08:41
มาเข้าเรือนไทยตอนสายๆวันจันทร์   บรรดาพรรคพวกที่เข้ามาล้อมวงกันอยู่ในกระทู้ เมื่อคืนนี้ หายกันไปหมด
คงยังไม่ฟื้นจากสลบ
ไม่รู้ว่าต่อกระทู้กันไปได้ยังไงจนจบ   นึกแล้วยังงง

ภาพถ่ายบางลำพูที่คุณนวรัตนทำเอาสลบไปเมื่อวานนี้ เป็นภาพถ่ายทางอากาศ   ดูสภาพบ้านเมืองแล้วเดาว่าเป็นรัชกาลที่ ๗  คนถ่ายน่าจะถ่ายจากเครื่องบิน   ไม่ใช่ปีนขึ้นยอดภูเขาทองแล้วถ่าย  มันคนละทิศทางกันนี่คะ 
ถ่ายออกมาได้สวยมาก มือนิ่ง   จนทำให้มองออกว่ากรุงเทพในสมัยนั้น ยังเติบโตแบบมีทิศทาง  จัดระเบียบผังเมืองได้เรียบร้อย    บ้านเรือนและร้านค้าสองฟากถนนหนาแน่น  แต่ไม่เกะกะรุงรัง   เดาว่าดอกไม้สด ศรีบูรพา และยาขอบ คงเคยเห็นบ้านเมืองอย่างนี้มาด้วยกันทุกคน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 30 ส.ค. 10, 09:57
เดี๋ยวจะกลับมาตอบ
ห้ามใครมาตอบก่อน  เดี๋ยวดิฉันจะอดขึ้นปี 2   ไม่พีทไม่ไทร์  แต่รีเอ๊กแซมมันทุกค.ห.  หนักกว่าไทร์ซะอีก


ล็อคกุญแจห้องสอบ..ขังเดี่ยวตัวเองไว้.........ตัวช่วยก็ได้แต่แอบลุ้นอยู่นอกห้อง....ใจจะขาดรอนๆ.....ในสภาพยังเงี๊ย......

 :-X

ยังเงี๊ยะ.....


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 10, 10:07
ขืนคุณศรีสยามมาส่งซิก บอกข้อสอบอยู่หน้าห้องเรียน  ดิฉันก็จะถูกปรับตก   ดีไม่ดี  ดิฉันก็ต้องเจอข้อสอบใหม่น่ะซีคะ
หนักกว่าเก่าอีก  :-\

ตอนนี้มาได้แล้วละค่ะ  ดิฉันสอบผ่านแล้ว   ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 30 ส.ค. 10, 10:14
เอาแผนที่เก่ามาฝาก ไม่ได้ให้ทายอะไรนะคะ เพราะดูคำอธิบายภาพก็รู้ว่า อะไรเคยอยู่ที่ไหน
แต่แผนที่นี้ บอกตำแหน่งสถานที่ ๆ หายไปแล้วได้หลายแห่งค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 10, 10:20
แกะรอยอย่างขะมักเขม้น
มุมซ้ายล่างคือถนนวิทยุ  ซอยร่วมฤดี และเส้นทางรถไฟช่องนนทรีย์  ใช่ไหมคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ส.ค. 10, 10:52
^
เริ่มอีกแล้วหรือครับ

เมื่อคืนคงนอนหลับสบาย วันนี้สุขภาพจิตดี ....เอาอีกแล้ว


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 10, 11:04
^
แหม  ยังไม่ติดค่ะ ยังไม่ติด
แค่เลิกไม่ได้เอ๊ง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 30 ส.ค. 10, 11:17
อ้างถึง
มุมซ้ายล่างคือถนนวิทยุ  ซอยร่วมฤดี และเส้นทางรถไฟช่องนนทรีย์  ใช่ไหมคะ

ผิดหมดเลยค่ะอาจารย์ขา มุมซ้ายล่าง คือ สวนลุมพินี และ ถนนพระราม 4
ถนนวิทยุ เป็นแนวเหนือใต้ เส้นตรงกลาง เฉียงไปทางขวา
ซอยร่วมฤดี อยู่ทางขวาของภาพ แนวเหนือใต้เช่นกัน แต่ยังไม่ตัดทะลุมาทางวิทยุ สุดทางแค่ คลองไผ่สิงโต
ทางรถไฟสายช่องนนทรีย์ เป็นแนวเหนือใต้ ทางขวามือค่ะ

ดูดี ๆ นะคะ เห็นวังวิทยุ(ของกรมพระยาชัยนาทฯ) บ้านคุนจำกัด และ ม.ร.ว.เสนีย์ บ้านมหาโยธินไหม ที่ดินบ้านเก่าแหม่มสี
ร.ร. St. Mary SPG ปากซอยสารสิน มีให้เห็น

เสียดายที่ดิฉันทำอะไรไม่เป็นเลยเรื่องใส่ลูกศร ต้องรบกวนอาจารย์ Navarat ทำให้แล้วละค่ะ
(ลุงSrisiam บอกว่าต้องใช้ Photoshop อูยยย ทำไม่เป็นค่ะ)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ส.ค. 10, 11:21
ถ้าไม่มาช่วยเดี๋ยวคืนนี้ไม่ได้นอน

ผมนะครับ ...ไม่ใช่ท่าน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 30 ส.ค. 10, 11:35
อาจารย์ Navarat ขา ผิดอีกแล้วค่ะ

ตรงที่เขียนว่าสุขุมวิท ที่จริง คือ ถนนเพลินจิตค่ะ
ที่เขียนว่า วิทยุ และ สาธร คือ แนวทางรถไฟช่องนนทรีย์ค่ะ
ถนนวิทยุในภาพ อยู่แนบกับแนวรั้วสวนลุมพินีค่ะ
ไม่มีถนนสาธรในภาพค่ะ

(แอบดีใจ...มาปราบเซียนภาพถ่ายทางอากาศสำเร็จ อาจารย์เทาชมพูจะให้อะไรเป็นรางวัลไหมหนอ???)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ส.ค. 10, 11:43
กรรม!

สงสัยผมจะไม่ได้นอนจริงๆ...คืนนี้


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 10, 11:49
ทิ้งงานประจำที่มีกำหนดส่งวันนี้  เลื่อนเป็นส่งคืนนี้   มาทำงานไม่ประจำ(ซึ่งยังไม่เข็ด)แทน
คุณร่วมฤดีลองใช้โปรแกรม paint ที่มีติดมาในเครื่องนะคะ  ใช้ง่ายกว่า photoshop แยะ

ลองแกะรอยอีกครั้ง
ถ้าถูกแปลว่าความจำยังดี (แม้ว่าอ่านแผนที่ไม่ออก)  
ขอ บลั๊ฟหน่อยเถอะ   แถวนี้ถิ่นเก่าของดิฉันค่ะคุณนวรัตน เหมือนถนนราชวิถีเป็นถิ่นเก่าของคุณนวรัตนน่ะแหละ

อ้าว ชนกันกลางอากาศอีกแระ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 10, 11:54
อ้างถึง
ร.ร. St. Mary SPG ปากซอยสารสิน มีให้เห็น

ใครคนหนึ่งซึ่งจำไม่ได้ว่าเป็นคุณ PTBT หรือคุณคนไหน ถามถึงโรงเรียนในหนังสือชีวิตเหมือนฝันของหม่อมมณี ว่าโรงเรียน SPG คืออะไร
ดิฉันก็จำไม่ได้  รู้แต่ว่าเลิกไปแล้ว  มาเห็นในกระทู้นี้เองว่าคือ เซนต์แมรี่ อยู่ปากซอยสารสิน
ขอบคุณคุณร่วมฤดีมาก ที่เอ่ยถึงค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ส.ค. 10, 12:13
^
^
เดี๋ยวรอไปสอบซ่อมก็ด้าย

ตำรามีก็ไม่ดู ไปเขียนจากความจำ โธ่เอ๋ย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 10, 12:34
(แอบดีใจ...มาปราบเซียนภาพถ่ายทางอากาศสำเร็จ อาจารย์เทาชมพูจะให้อะไรเป็นรางวัลไหมหนอ???)

คงต้องแอบงุบงิบให้กันสองคนค่ะ   ดิฉันยังกลัวการบ้านขึ้นป. ๒ อยู่


ล็อคกุญแจห้องสอบ..ขังเดี่ยวตัวเองไว้.........ตัวช่วยก็ได้แต่แอบลุ้นอยู่นอกห้อง....ใจจะขาดรอนๆ.....ในสภาพยังเงี๊ย......

 :-X

ยังเงี๊ยะ.....

เกรงคุณศรีสยามจะขาดใจคาเรือนไทย  เดี๋ยวขาดตัวช่วยไป ๑ คน   คุณครูนวรัตนจะกรุณาป้อนการบ้านแกไปซีกสี่ซ้าห้าภาพ  เอาชนิดปราบเซียน ให้สมอยากดีไหมคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 30 ส.ค. 10, 12:48
ไม่เอาจ้า...
กลัวแล้วจ้า....

เข็ดแล้วจ้า....




เอาชนิดช่วยกันตอบเหมือนเดิมดีแล้วจ้า....
อย่าปราบเซียน...เพราะไม่ใช่เซียนจ้า.....แค่เป็ดง่อยจ้า.....

 :o :o :( ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ส.ค. 10, 13:29
ไม่ต้องกลัวคร้าบบบ

มาเอาการบ้านไปเสียดีๆ
บอกใบ้ให้นิดนึง ตรงที่ลูกศรชี้ เป็นถนนตัดใหม่(เมื่อห้าสิบปีก่อน)ไปแล้ว


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 10, 14:01
โล่งใจ  ที่เป็นการบ้านให้ด.ช.ศรีสยาม   :D

ในรูป วัดก็ไม่มีให้สังเกต  วังก็ไม่มีให้ดู   สิ่งก่อสร้างใหญ่ๆก็ไม่เห็น
ไม่ใช่ภาพปราบเซียน แต่ปราบอภิมหาเซียน



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 30 ส.ค. 10, 14:11
ด.ช.ศรีสยาม เตรียมธงขาวไว้แล้ว........



แต่ยังไม่ได้ยก...ยังปากแข็ง/ขาสั่นอยู่....แค่เอาให้ดู... ;D
รู้ล่วงหน้าว่าอาจต้องใช้...คราวคับขัน..
โจทย์ยากยังงี้...ขอเวลาสามปี...เอ๊ยสามวัน(ไม่เกิน)....


Nattadol...อยู่หนาย...ช่วยด.ช.ศรีสยามด่วน.............ลุงเจอสหบาทาแล้วหลายเอ๋ย...
สมน้ำหน้า..อิอิอิ.....


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 30 ส.ค. 10, 14:31
ขณะรอเป็ดศรีสยาม...ดำน้ำหาปูหากุ้ง......
ช่วยดูภาพนี้ด้วยครับ....ที่ไหนแน่?


เป็นภาพที่มีอยู่ในกรุ...ชุดเดียวกับภาพวัดบวร...(ที่มีการใบ้หวย ก.ข.)
ฝากท่านเชียนNAVARAT - คุณRuamrudeeผู้ปราบเชียน - และอาจารย์เทาฯผู้ส่งเป็ดศรีสยามเข้ากีโยติน....

 ;D ;D :D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ส.ค. 10, 14:48
เซียนมาสมัครสอบซ่อมครับ



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 10, 14:51
หลีกทางให้เซียนค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ส.ค. 10, 14:52
ต้องใช่พระที่นั่งองค์นี้แน่นอนครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 30 ส.ค. 10, 14:53
เอาการบ้านไปถามแม่ ๆ บอกไม่เป็นไรลูก พรุ่งนี้แม่จะพาไปลาออกจาก ร.ร. เพราะการบ้านยากไปค่ะ

ขอตอบภาพของลุง Srisiam ก่อนนะคะ  เป็นพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิตค่ะ



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ส.ค. 10, 14:56
เห็นแมะ ^ท่านช่วยของผมมาแล้ว

พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต.


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 10, 14:59
.


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 30 ส.ค. 10, 15:00
ถูกต้องนะคร๊าบบบบบบ    ทีเราถามเขา....เขาตอบถูกเพียบ..เร็วอีกตะหาก..งง
คราวหน้า...จะเอาภาพยากกว่าเดิมมาให้....ทาย


 ;D ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 30 ส.ค. 10, 15:10
อูย..เจ็บหัว....

อีกภาพครับ........ไม่ต้องรอเฉลย...เพราะศรีสยามก็ไม่ทราบ....




 :D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ส.ค. 10, 15:13
อ้างถึง
เอาการบ้านไปถามแม่ ๆ บอกไม่เป็นไรลูก พรุ่งนี้แม่จะพาไปลาออกจาก ร.ร. เพราะการบ้านยากไปค่ะ

เอาละ โรงเรียนนี้
เด็กออกไปหนึ่งละ


อ้างถึง
โจทย์ยากยังงี้...ขอเวลาสามปี...เอ๊ยสามวัน(ไม่เกิน)....

เดี๋ยวอีก3วันก็คงออกอีกหนึ่ง


อ้างถึง
คุณครูนวรัตนจะกรุณาป้อนการบ้านแกไปซีกสี่ซ้าห้าภาพ  เอาชนิดปราบเซียน ให้สมอยากดีไหมคะ.

เหลือแต่ครูใหญ่กับครูประจำชั้นสองคนหลอนกันเอง เจริญ
ดูภาพข้างบนสิครับ^ หลอนไหม


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 10, 15:21
อะน่ะ   เดี๋ยวลดแหลกแจกแถม ให้เรียนฟรี  แถมขนมด้วย

ภาพโหดล่าสุด เป็นกระทรวงหรือเปล่าคะ  เห็นมีเสาธงอยู่ใกล้ๆ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 30 ส.ค. 10, 16:35
อะน่ะ   เดี๋ยวลดแหลกแจกแถม ให้เรียนฟรี  แถมขนมด้วย

ภาพโหดล่าสุด เป็นกระทรวงหรือเปล่าคะ  เห็นมีเสาธงอยู่ใกล้ๆ

เหมือนเสาธงทหารเรือนะครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 30 ส.ค. 10, 16:53
คุณลุงSrisiam ขา

เป็นรูปอาคารที่ทำการเก่า ของสถานทูตอเมริกาหรือเปล่าคะ มันคุ้นหูคุ้นตามาก ๆ เลยค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 10, 16:57
นักเรียนยังปักหลักสู้ตายอยู่ ๑ คน
นักเรียนยังไม่ไปไหน อีก ๑ คน
ใจชื้นแระ

ประตูทางเข้าสถานที่อยู่ทางซ้าย  ด้านเสาธง แสดงว่าถนนใหญ่อยู่ทางซ้ายของภาพ     
ตัวตึกหันข้างให้ประตูทางเข้า แทนที่จะหันหน้าอย่างสถานที่ราชการทั่วไป
ที่ไหนกันเนี่ย?


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 30 ส.ค. 10, 17:02
อาจารย์เทาชมพูคะ

จุดสังเกตุคือ

คลองขนานกับถนนวิทยุ ยังอยู่

ต้นก้ามปูยังอยู่ รั้วสถานทูตก่อนแพ้สงครามเวียตนาม เป็นรั่วโปร่งค่ะ (เคยปีนตาข่ายเข้าไปช้อนลูกน้ำ)

เสาธง ก็อยู่ตรงนั้นแหละ ต่อมา จึงมาไว้ที่หน้าอาคารใหม่

ด้านหลังอาคาร จะเห็นบ้านหลังหนึ่งสร้างเฉียง ๆ กับถนนวิทยุ เป็นบ้านพักฝรั่ง เคยให้บริษัท Richard Ellis เช่าก่อนจะรื้อทิ้ง

ถัดไป จะเห็นหลังคาวังวิทยุ มีโดมเล็ก ๆ คู่กันอยู่ค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 30 ส.ค. 10, 17:10
เอารูปโดมวังวิทยุมาให้อาจารย์ดูค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ส.ค. 10, 17:32
คุณร่วมฤดีความจำแม่นมากเลยครับ

เอารูปเปรียบเทียบสถานทูตสหรัฐที่ถนนวิทยุมาให้ดู

ผมว่าผมเคยเห็นเจ้าตึกน่าเกลียดๆนี่นะ แต่จำเพี้ยนว่าเป็นของทหารไทย ไปกวาดดูภาพถ่ายทางดาวเทียมมาก็แทบตากลับ เข้ามาอีกที คราวนี้ง่ายเลยครับ :D

เอ้าสอบผ่านกันทุกคน รวมทั้งผมด้วย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 30 ส.ค. 10, 18:43
ทั้งศิษย์-อาจารย์ แท็คทีมทำข้อสอบเดี๋ยวเดียวเสร็จ............สุดยอด....จริงๆ
 ;D :D



เหลือแค่การบ้านโหดหิน................หลอนสามวัน???
Natadolอยู่หนาย....เตรียมเชือกให้เส้นนึงด้วย..




กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 10, 18:48
คุณศรีสยามทำใจดีๆไว้  คุณณัฐดลจวนมาแล้ว

ขอชมทีมงานว่าเจ๋งมากค่ะ
 
;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 30 ส.ค. 10, 18:49

ต้นก้ามปูยังอยู่ รั้วสถานทูตก่อนแพ้สงครามเวียตนาม เป็นรั่วโปร่งค่ะ (เคยปีนตาข่ายเข้าไปช้อนลูกน้ำ)





ช่างสังเกตุ/ช่างวิเคราะห์/ความจำเป็นเลิศอีกตะหาก......
นี่แหละมือระดับปราบเซียน...

เลื่อมใสครับเลื่อมใส


ขอคารวะสามจอกน้ำชา..ทั้งสามท่าน ;D :D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 10, 18:53
ขอคารวะสามจอกน้ำชา..ทั้งสามท่าน ;D :D



สองพอมั้งคะ  ดิฉันกับคุณหมอ CVT ไม่ได้ทาย
 :-[


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ส.ค. 10, 18:58
ค่ำแล้ว เดี๋ยวคืนนี้จะนอนหลอนกันไปไม่รู้จะกี่คน บาปกรรมจะตกแก่ผม

เอางิ๊ ใบ้ให้อีกนิดนึง
ที่บอกว่าถนนตัดใหม่เมื่อ50ปีก่อนโน้นน่ะครับ เดี๋ยวนี้มันยังชื่อถนน......ตัดใหม่อยู่เล้ย

ชัดมั้ยๆ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 30 ส.ค. 10, 19:06



สี่จอกดีกว่าครับ.....ทั้งท่านNAVARATและอาจารย์เทาชมพูที่ช่วยสมคบคิด...

 ;D

ที่ท่านใบ้นั้น...........เหมือนเดิมครับ.....คือพอเดาได้ว่าเพชรบุรีตัดใหม่แต่แรก...
ทว่า 50 ปี นะซีครับอาจารย์....เปลี่ยนหมดแทบไม่เหลือเค้า...............จะลองดูครับ

สวีท ซัฟเฟอร์ริ่ง........อีกหนึ่ง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 10, 19:13
ทำงานเสร็จแล้ว   ก็กลับมาหาเรื่องใส่ตัวตามถนัด

ตรงลูกศรชี้ คลองแสนแสบหรือเปล่าคะ?


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ส.ค. 10, 19:17
กำลังจะเฉลย เลยไม่เฉลยดีกว่า

^

ผิดครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 10, 19:27
นึกแล้ว...
v
V





ว่าไม่ควรหาเรื่องใส่ตัว
ถ้าเฉลยก่อนห้าทุ่มจะเป็นพระคุณยิ่ง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ส.ค. 10, 19:38
ลูกศรมันผิดทิศน่ะครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 30 ส.ค. 10, 19:39
ฮึดสู้แล้วครับ......เมื่อรู้ว่างานนี้ไม่ตายเดี่ยว.....

A  สี่แยกราชประสงค์...50 ปีก่อนถูกเผา
B  วังเพขรบูรณ์ 50 ปี ก่อนมีสยามพารากอน
C  ตลาดโตรุ่งประตูน้ำ...ติดกับอู่รถเมล์นายเลิด...อยู่บนถนนเพชรบุรี(ตัดเก่า)
D  สี่แยกประตูน้ำ..50 ปี ก่อนถูกกระชับพื้นที่
E  กำลังจะถูกเวนคืนทำถนนเพขรบุรีตัดใหม่


เชือกอยู่ไหน???.......ถ้าไม่ใช่จะแขวนคอ....(แมวดำ)
 ;D ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ส.ค. 10, 19:42
.


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 10, 19:54
อดีตเมื่อ ๕๐ ปีก่อน ไม่เห็นจะมีอะไรเหมือนปัจจุบันสักอย่างเดียว
คุณศรีสยามคงจะนั่งยานเวลากลับไปเทียบแน่ๆ
ยอดเยี่ยมค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ส.ค. 10, 20:41
แสดงว่า ต้องหารูปให้ยากขึ้นอีกสักหน่อย


พรุ่งนี้แล้วกัน คืนนี้จะโหดไป


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 30 ส.ค. 10, 21:34
ตอบเสร็จแล้ว.......ไม่กล้ารอดูเฉลย........สยอง????

โดเรมอนไม่ยอมให้ยืมยานเวลา...........แต่ขอบพระคุณอาจารย์เทาชมพูที่ช่วยเมตตาชี้ทางสว่างให้..


ก็เพราะคลองแสนแสบของอาจารย์...จึงทำให้เห็นบึงน้ำวังเพชรบูรณ์...........ที่เหลือก็ง่ายละครับ
ยากตรงที่ดูให้ที่ตั้งไดมารูที่ยังไม่ได้สร้าง....ให้เป็นคลองแสนแสบนี่ละครับ...อิอิอิอิ



ภาพอื่นที่จะตามมา...?
หากยากมากท่านNAVARAT กรุณาใบ้หวยแบบถนน ก.  คลอง ข. สะพาน ง.  ให้ด้วยนะครับ
สงสารเป็ดง่อยด้วย..
เลี้ยงไว้ก่อน...ตรุษจีนค่อยเชือดครับ.


สาธุ ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 31 ส.ค. 10, 07:15
สวัสดีตอนเช้าครับ

เอาการบ้านมาให้ทำแต่ไก่โห่
ใครมาก่อนก็ทำไปได้ไม่ต้องรอพวกภาคค่ำ หรือภาคสายภาคเที่ยงอะไรทั้งนั้น พวกภาคสมทบที่ไม่เคยทายเลยก็เชิญทายได้นะครับ ถ้าไม่กลัวจะหลอน

และขออนุญาตที่จะยังไม่ใบ้ก่อน เพราะอันนี้ใบ้ปุ๊บก็จะทราบปั๊บ เหนื่อยผมที่จะต้องไปหาภาพที่ไม่ค่อยได้ผ่านตาพวกท่านทั้งหลายมาสนอง ซึ่งชักหมดกรุแล้วไม่ทราบจะไปเศกมาจากไหนได้อีก ที่เหลืออยู่เยอะหน่อยท่านเห็นเข้าก็จะร้อง..เฺฮ่ยยยยหมู ผมจะเอาไว้หลอกเด็กที่วิกอื่น

เชิญครับ..ที่นี่ที่ไหน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ส.ค. 10, 08:23

ก็เพราะคลองแสนแสบของอาจารย์...จึงทำให้เห็นบึงน้ำวังเพชรบูรณ์...........ที่เหลือก็ง่ายละครับ
ยากตรงที่ดูให้ที่ตั้งไดมารูที่ยังไม่ได้สร้าง....ให้เป็นคลองแสนแสบนี่ละครับ...อิอิอิอิ


คุณศรีสยามเจ๋งมาก  ขนาดดิฉันใบ้เลขผิด  คุณยังซื้อล็อตเตอรี่ถูกรางวัลจนได้ ;)
ไดมารูเก่า + วังเพชรบูรณ์ ถิ่นเก่าของคุณไม่ใช่หรือ?

มีเลขเด็ดจากท่านนวรัตนมาให้อีกแล้วค่ะ
คราวนี้ขอตัวไม่ใบ้หวยนะคะ   เพราะดูในรูป มองเห็นคลองอีกแล้ว
เชื่อว่าของจริงน่าจะเป็นถนน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 31 ส.ค. 10, 11:30
ภาพ 198 ของอาจารย์ Navarat ทายว่า เป็นภาพ ร.พ.จุฬาฯ
ถ่ายจากหัวมุมถนน สารสิน เห็นถนนโค้ง ๆ ในสวนลุมที่มุมล่างด้านขวา
และ คลองไผ่สิงโตที่แล่นเลียบแนวรั้ว เลี้ยวไปตามแนวถนนราชดำริ
ด้านบน เห็นตึกจักรพงษ์ด้วย

เดี๋ยวจะลองหัดทำลูกศรดูค่ะ เมื่อคืน หลาน ๆ มาสอนให้ค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 31 ส.ค. 10, 11:48
เบอร์ 1 คือ ตึกจักรพงษ์
เบอร์ 2 คือ สวนลุมพินี มุมด้านซอยสารสิน
เบอร์ 3 คือ ร.ร. St.Mary SPG (ของหม่อมมณี)
เบอร์ 4 คือ ตึกภาควิชาพยาธิวิทยา( อาหมอทำงานที่นี่ค่ะ)
เบอร์ 5 คือ คลองไผ่สิงโต
เบอร์ 6 คือ ถนนราชดำริ

หากทายผิด ก็ผิดทุกข้อค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 31 ส.ค. 10, 12:25
นึกแล้ว ต้องถูกคุณร่วมฤดีปราบ

นี่ขนาดตัดภาพเหลือเสี้ยวเดียวนะนี่
เอ้า  ดูภาพเต็มๆกันครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 31 ส.ค. 10, 12:28
ภาพนี้สำหรับท่านที่ยังงงอยู่  (ซึ่งผมคิดว่ามีอย่างน้อย1คน)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 31 ส.ค. 10, 13:01
อาจารย์ Navarat ขา ถามจริง ๆ เถอะค่ะ
ไม่ทราบไปหารูปถ่ายทางอากาศเก่า ๆ มากมายเหล่านี้มาจากไหนหรือคะ

ปกติ หากไปไหนไกลบ้าน ก็จำทิศทางไม่ได้ จะเป็นฝ่ายถูกปราบค่ะ
 
แต่อาจารย์เอาถิ่นเก่ามาถาม ถ้าตอบผิด คุณแม่หยิกเนื้อเขียวเชียวนะคะ

แค่วังเพชรบูรณ์ ประตูน้ำ  ไกลออกไปหน่อยเดียว ไม่รู้จักแล้วอ่ะค่ะ

แถวราชประสงค์ ใคร ๆ จำไดมารูได้ แต่ดิฉันเป็นคนเห็นแก่กิน จำได้แต่ร้าน Wimpy
คิดถึง...มาก เพราะอร่อยจริง ๆ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 31 ส.ค. 10, 13:52
 ;D

มือปราบเซียนลงมือสำเร็จแล้ว...
เยี่ยมยอด/ยอดเยี่ยม......
.สงสัยขยายพื้นที่ช้อนลูกน้ำแถวๆ ร.พ.จุฬาด้วย?



แอบเงียบ..เพราะเชื่อว่าหลานRUAMRUDEEของลุงด.ช.ศรีสยามตอบได้แน่ๆครับ..........


ก็ขออนุญาตเรียนถามด้วยคำถามเดียวกัน...สะสมไว้ใช่ไหมครับ...เพราะไม่น่าเป็นภาพจากเว็บ
ภาพวัดบวรฯ..........คงเป็นชุดเดียวกันนี้.........ถ่ายประมาณกึ่งพุทธกาลใช่ไหมครับ


ร้าน GOLDEN EGGS ที่หน้าไดมารูเก่า ขายอะไรครับ? ผมลืมจริงๆ คุณRUAMRUDEE เมตตาตอบด้วยครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 31 ส.ค. 10, 14:11
รูปถ่ายทางอากาศที่เอามาหากินอยู่นี่ มาจากหนังสือเล่มนี้ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 31 ส.ค. 10, 14:19
คุณลุงขา หนูจำร้านไข่ทองไม่ได้หรอกค่ะ ขออำไพเจ้าค่ะ

ไม่ได้ช้อนลูกน้ำแถวนั้นหรอกค่ะ เดี๋ยวอาหมอตีตาย
เพียงแต่มีหน้าที่ หิ้วปิ่นโต วิ่งข้ามสวนลุมไปส่งอาหมอหรือ คุณปู่ที่พักรักษาตัวที่ ร.พ.ค่ะ
บางทีก็ต้องไปจ่ายค่าน้ำประปาตรงแท้งค์น้ำที่อาจารย์ Navarat เอาไปซ่อนไว้
โตขึ้นมาหน่อย ก็ต้องเดินผ่านซอยสารสินไปเรียนหนังสือที่ซอยมหาดเล็กหลวง 3 ค่ะ
ยังจำโรงแรมเสาเดียว ที่อยู่ริมคลองไผ่สิงโตได้ไม่ลืม
เสียดาย ไม่เก่งเท่าอาจารย์ Navarat เลยไม่มีภาพประกอบค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 31 ส.ค. 10, 14:38
เก่งไม่เก่งก็ที่เห็นเป็นภาษาเยอรมัน เท่ห์ซะไม่มีนั้น ผมอ่านออกแค่2-3คำไม่เกิน

ที่ซื้อมาเพราะชอบรูป แค่ดูรูปก็คุ้มเกินคุ้มแล้วครับ แต่นี่ยังสามารถนำมาหากิน หลอกคนวัยเดียวกัน ที่ไม่ทราบว่าแก่หรือเด็กได้อีกหลายคน ทำให้เพลิดเพลินได้ถือว่าเป็นโบนัสพิเศษ เพราะซื้อมาแค่เล่มละ100บาทเท่านั้น

สงสัยคนสั่งเข้ามาจะตั้งราคาประชด คนคงเห็นเป็นภาษาเยอรมันอ่านไม่ออกเลยไม่ซื้อ หนังสือเหลือบานเบอะ ท่านที่อยากได้ ลองไปที่ดวงกมล ซีคอนแสควร์ชั้นBนะครับ อาจจะยังมีเหลืออยู่มั้ง

ส่วนร้านไข่ทอง เป็นประเภทร้านอาหารที่มีดนตรีครับ ดึกๆมีข้าวต้ม ใช้ไสตย์ที่ไม่ไม่โฉ่งฉ่าง แบบวงฟรองโก้ แทรมเบรตต้า จำได้ไหมครับ วิมปี้นี่ก็เป็นแฮมเบอเกอร์ไฮโซ มาก่อนแมคโดนัลด์ วัยรุ่นทุรนทุรายจะต้องไปกินกันให้ได้ กินแล้วก็ต้องไปเดินขึ้นบันไดเลื่อนที่ไดมารูซะหน่อยจึงจะครบเครื่อง โถ..ของเล่นสมัยก่อนก็มีแค่เนี๊ยะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 31 ส.ค. 10, 15:16
ขอบพระคุณครับ............สำหรับไข่ทองและหนังสือเล่มละร้อย...........
ซีคอนสแควร์...............ไกลจังเลย?


ฝากภาพให้อาจารย์เทาชมพูครับ..........สถานีรถไฟที่เป็นเรือนตาย...ของโกโบริ.....ไม่ทราบตายตรงไม้หมอนท่อนไหนในภาพนี้???




 ;D :)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: natadol ที่ 31 ส.ค. 10, 20:53
ปล่อยท่านลุงsrisiam โดนรุมอยู่คนเดียว ซะหลายวัน เพราะหลานงานยุ่ง มากๆ จนท่านลุงไปมีหลานสาวมาเพิ่ม  ท่านลุงเอาภาพสถานีรถไฟธนบุรีมาให้ดู ก็เลยนึกได้ว่า มึปัญหาคาใจมาตั้งแต่เด็กๆ  ตลาดข้างๆสถานีรถไฟ ทำไมถึงชื่อตลาด ศาลาน้ำร้อน  ครับ สงสัยมานานกว่า30ปีแล้ว รบกวนท่านลุงและท่านอาจารย์ไขข้อข้องใจให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ  ???


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ส.ค. 10, 21:02
ซอยเกษรและไดมารูเก่า เป็นแหล่งการค้าไฮโซ ในทศวรรษ 2510   
นอกจากไข่ทอง  มีร้านอาหาร Fork and Spoon ด้วยค่ะ  เป็นร้านเล็กปูพรมและเล่นระดับพื้น  มีรีเซพชั่นนิสต์แต่งชุดราตรียาวในเวลาเที่ยง
มีร้านอาหารไทยชื่อสไบทองอยู่แถวนั้น
Wimpy ทำบรรยากาศเหมือนร้านขายแฮมเบอร์เกอร์ในอเมริกาเลย

เห็นหนังสือที่คุณนวรัตนนำมาทรมานตาคนชอบภาพเก่า  แล้วชั่งใจว่าออกจากบ้านไปถึงซีคอนสแควร์ ค่าน้ำมันรถคง ๑๐ เท่าของค่าหนังสือ  เอาไว้เมื่อไรมีธุระแถวนั้นจะแวะไปดูค่ะ

สถานีบางกอกน้อย- ไม่มีความรู้เลยค่ะ  ขอผ่าน
ไม้หมอนรถไฟ เดี่ยวจะจุดธูปเชิญโกโบริมาบอกคุณศรีสยามที่บ้านตอนตีสามละกัน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 31 ส.ค. 10, 21:26
ขอเคาะประตูภาพเก่า เข้ามาเยี่ยมเยือน ทักทายด้วยภาพนี้ให้ทายครับ ยากไปหรือเปล่านี่


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 01 ก.ย. 10, 00:08

ร้านสไบทองเป็นร้านที่อยู่เยื้องๆกับซ่อมและช้อนใช่ไหมคะ

ที่อยู่ชั้นสอง

เข้าใจว่าเป็นร้านที่เซเล็บชาวต่างประเทศมากันเงียบๆมากหน้าหลายตา


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 01 ก.ย. 10, 01:25
เพิ่มเติมเรื่องสถานีรถไฟธนบุรี หรือสถานีบางกอกน้อย (ปัจจุบันยกให้โรงพยาบาลศิริราชแล้ว).....
ได้ที่.............


http://www.oknation.net/blog/print.php?id=312714

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%98%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5

http://www.vcharkarn.com/varticle/38575

http://203.155.220.217/bangkoknoi/travel/raiwaybangkoknoi.htm


 ;D


ภาพของคุณsiamese รอเซียนทุกท่านตอบก่อน...............ยังงงอยู่ครับ...ใกล้ตีสามแล้วด้วย......บรื๊อออ?


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 01 ก.ย. 10, 01:34

ขอบพระคุณอาจารย์เทาชมพูที่ไขข้อข้องใจเรื่องร้านไข่ทองครับ.....
ส่วนตลาดศาลาน้ำร้อน...........
คุณหลานnatadolลองอ่านในเว็บนี้ดูครับ..............


http://napapon.net/page6-BKN2.htm

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 10, 06:27
ส่งการบ้านครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 10, 06:54
เมื่อส่งการบ้านเสร็จ ก็ให้การบ้านมั่ง

นี่ผมเอามาจากหนังสือที่ว่าก็จริง แต่เคยเห็นในเน็ทบ่อยๆ อาจผ่านสายตาท่านแล้ว


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 01 ก.ย. 10, 07:31
มัวเถลไถลไม่ได้เข้าเรียนห้องนี้เสียนาน  พอเข้ามาอ่านก็พบว่าคุณครูใหญ่ท่านให้การบ้านไว้แต่ต้น  เลยต้องขออนุญาตส่งการบ้านย้อนหลัง  หวังว่าคุณครูใหญ่คงไม่ลงโทษให้ไปนั่งทำการบ้านที่ "กรงลิง" เหมือนโดนท่านเจ้าคุณผู้บังคับการลงโทษสมัยเป็นนักเรียน

มาที่การบ้านข้อแรกเลยครับ  พระบรมรูปล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ ทรงละครนั้น  ทรงแสดงเป็นนายพลเรือโท พระยาสมุทโยธิน ในเรื่องโพงพาง  กำลังทรงเต้นรำกับ พระวรกัญญาปทาน (พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี)  ศึ่งทรงแสดงเป็นคุณหญิงสมุทโยธิน  ส่วนหม่อมเจ้าหญิงลักษมีลาวัณ (พระนางเธอ ลักษมีลาวัณ) ทรงแสดงเป็น นางสาวสายหยุด  สมุทโยธิน ธิดาของพระยาและคุณหญิงสมุทโยธิน  พระยาประสิทธิ์ศุภการ (เจ้าพระยารามราฆพ) แสดงเป็น นายเรือเอกหลวงเชี่ยวชลธาร

เรื่องที่สอง ที่ดินหัวมุนถนนราชดำเนิน  ตรงที่เป็นธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)  สาขาสะพานผ่านฟ้า นั้น  ได้ยินผู้ใหญ่ท่านคุยกันว่า  ที่ดินแปลงนั้นเป็นบ้านเดิมของ หลวงราชดรุณรักษ์ (ม.ร.ว.สอาด  อิศรเสนา) คุณมหาดเล็กในล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕  ซึ่งเล่ากันอีกว่า ล้นเกล้าฯ พระราชทานเลื่อนฉลองพระบาทหนังสีดำมาให้คุณหลวงใช้  คุณหลงรับพระราชทานมาแล้วก็เชิญมาขัดเป็นเงางามทุกวัน  ขัดเสร็จท่านก็เชิญขึ้นไว้บนพาน  แล้วถวายบังคมฉลองพระบาทนั้นเป็นประจำทุกวัน

หลวงราชดรุณรักษ์นั้นมีบุตรชายคนหนึ่งชื่อ ม.ล.ทศทิศ  อิศรเสนา  ที่ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระยาภะรตราชา  ผู้มีกิตติศัพท์ลือลั่นทั้งที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่วชิราวุธวิทยาลัย  ท่านเจ้าคุณท่านเล่าว่า ท่านเกิดที่บ้านนี้  ต่อมาก่อนท่านถึงอนิจกรรมไม่นาน  มีผู้มาขอซื้อที่ดินแปลงนี้ไปจากท่านในราคา ๓ ล้านบาท  ซื้อไปได้ราว ๒ ปี  มิตร  ชัยบัญชา ได้ซื้อที่ดินแปลงนั้นไปในราคา ๖ ล้านบาท  นัยว่าจะสร้างโรงภาพยนตร์เพื่อให้เข้าคู่กับ ศาลาเฉลิมไทย ที่ฝั่งตรงข้าม  

เมื่อมิตร  ชัยบัญชา เสียชีวิตลง  ธนาคารกรุงเทพ จำกัด ในฐานะเจ้าหนี้ได้บังคับจำนองแล้วนำมาสร้างเป็นธนาคาร  แล้วดูเหมือนมิตร  ชัยบัญชาท่านยังอาวรณ์กับที่ดินแปลงนี้  จึงต้องมีรูปคุณมิตรประดับไว้ที่ธนาคาร  แล้วต่อมาธนาคารได้ปรับปรุงพื้นที่ชั้นเป็นสถานที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมที่ทำให้คุณอนก  นาวิกมูล โด่งดังขึ้นมา  แล้วมาดัดแปลงเป็นหอศิลปสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

เรื่องที่สาม คือเรื่อง "เทวาลัย" ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ภาพที่คุณครูใหญ่ท่านนำมาลงไว้มองเห็นหน้าบันชัดเจนเลยทีเดียว  เรื่องหน้าบันนี้ อาจารย์สวัสดิ์  จงกล  นิสิตเก่าอักษรศาสตร์ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า ลายที่หน้าบันนั้นเป็นรูปอรุณเทพบุตรถือคบเพลิง  วันหนี่งได้รับเชิญไปเสวนาที่เทวาลัย  เวลาเดินไปก็แหงานหน้ามองหน้าบันนั้น  ก็เห็นสมจริงดังที่ว่า อาจารย์สวัสดิ์ท่านว่าไว้ว่า ปกติอรุณเทพบุตรนั้นท่านถือแพนหางนกยูง  เพื่อให้สัญญาณ  เลยไปขยายความในวงเสวนาว่า เมื่อจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างตึกเทวาลัยนี้ โปรดเกล้าฯ ให้นายเอดเวิร์ด  ฮีลี่ สถาปนิกผู้ออกแบบอาคารนี้ขึ้นไปดูงานศิลปสถาปัตยกรรมฝีมือชั้นครูที่สุโขทัย  ศรีสัชนาลัย  สวรรคโลก  แล้วจึงลงมาออกแบบอาคาร  

เมื่อคำนึงถึงลานหน้าบันที่หอประชุมโรงเรียนวชิราวุธ  ที่ตามต้นแบบในพิมพ์เขียวเป็นรูปเทพนม  แต่พอสร้างจริงกลับเป็นสัญลักษณ์ของเทพทั้งสี่แล้ว  จึงชวนให้เชื่อว่า การที่อรุณเทพบุตรถือคบเพลิงนั้นจึงน่าจะเป็นพระราชดำริในล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖  เพราะคบเพลิงนั้นเปรียบเสมือนให้แสงสว่างทางปัญญา  และลายกนกก้านขดที่แวดล้อมภาพอรุณเทพบุตรนั้น  ก็เป็นภาพกนกหัวนาค ข้างละ ๓ ตัว  ก็อธิบายได้ว่า พญานาคนั้นคือ ปีมะโรงนักษัตรซึ่งเป็นพระราชสมภพในล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖  กนกก้านขดข้างละ ๓ ตัวน่าจะหมายถึง ๓ รอบมะโรงนักษัตร  ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้สร้างตึกนี้เป็นที่ระลึกและเป็นปีที่โปรดเกล้าฯ ให้ประดิษฐานโรงเรียนข้าราชการพลเรือน จ.ป.ร. ขึ้นเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  เมื่อรวมกนกทั้งสองข้างเป็น ๖ ตัว ก็หมายถึงรัชกาลที่ ๖ โปรดให้สร้างตึกนี้  

พอเดินไปตรงมุขกลางกน้าตึกที่ทำเป็นมุขลด  หน้าบันตรงมุขลดเป็นเป็นปูนปั้นตราอาร์มแผ่นดินในรัชกาลที่ ๕  และมุขหลังเป็นพระครุฑพาห์    มีกลางเป็นตราจักรี  ก็อธิบายได้ว่า สถาบันนี้มีพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ทรงเป็นพระบรมราชูปถัมภก  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นผู้ริเริ่ม  แล้วล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ ทรงสร้างเสริมให้มั่นคง

โดดเรียนไปนานเลยต้องส่งการบ้านเสียยืดยาวเป็นการไถ่โทษครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 10, 07:55
^
สุดยอด


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 09:19
ให้กิ๊ฟคุณวีมี


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 09:33
ส่วน #217  เพื่อประหยัดเวลาทาย....


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 10, 09:44

ไปซะแล้ว 1

เอ้า คุณร่วมฤดีครับ

เคยเลยไปช้อนลูกน้ำแถวนี้บ้างหรือเปล่า


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 09:55
รูปถ่ายทางอากาศที่เอามาหากินอยู่นี่ มาจากหนังสือเล่มนี้ครับ

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3462.0;attach=13648;image)

เล่มนี้ก็น่านำมาใช้หากินได้อยู่นา   ;)

(http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/12/K7296683/K7296683-111.jpg)

หนังสือ "กรุงเทพฯ ๒๔๘๙ – ๒๕๓๙ BANGKOK 1946 - 1996" จัดทำขึ้นเนื่องในวโรกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี ในพุทธศักราช ๒๕๓๙  ภาพถ่ายทางอากาศ ฝีมือถ่ายภาพของนายปีเตอร์  วิลเลี่ยมส์  ฮันท์ (Peter  Williams  Hunt) หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร  ได้รับความช่วยเหลือจาก UNESCO และ ICA ดำเนินการจัดซื้อจากสถาบันโบราณคดี  มหาวิทยาลัยลอนดอน (The Archaeological Research Trust For Thailand)

เสนอภาพให้เห็นเป็นตัวอย่าง

ภาพทางซ้าย พ.ศ. ๒๔๘๙ และภาพทางขวา พ.ศ. ๒๕๓๙

(http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/12/K7296683/K7296683-112.jpg)

ภาพนี้คงไม่สามารถนำมาเป็นภาพปริศนาได้

เพราะใคร ๆ ก็รู้จัก

 ;D



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 10:00
พวกมีหนังสือเนี่ย เขาไม่สงสารคนไม่มีบ้างรึไง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 10:29
ยังไม่เข็ด :( กับ #217

- คลองอยู่ตรงกลางขนาบด้วยถนนสองข้าง
- อยู่ในระยะที่คุณร่วมฤดีจะไปช้อนลูกน้ำได้

สาทร หรือเปล่าคะ

(http://www.bloggang.com/data/penicillin/picture/1255591877.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 10, 10:54
ไม่ผิด

แปลว่า"ถูก"ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 10, 10:56
ถนนสาทรในรูปจากหนังสือเยอรมัน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 10, 10:58
ถนนสาทรจากหนังสือ Thailand from Above พิมพ์เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 10, 11:00
รูปที่เหลือมีแต่ง่ายไป กับยากไป

อยากให้เอาอะไรมาทายครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 11:12
ทำไมรู้สึกว่าคลองสาทรเมื่อ ๒๐ ปีก่อนสวยกว่าปัจจุบัน  กทม.ไปทำอะไร ขยายถนนหรือนี่   คลองพ่อยมของคุณเปรมและแม่พลอยจึงเหลือแต่ท่อระบายน้ำ
ป.ล.รู้สึกอย่างเดียวกันตอนไปคลองสาน    เห็นแต่ท่อระบายน้ำโสโครก ช่วงสั้นๆ  และสกปรกมาก

อ้างถึง
รูปที่เหลือมีแต่ง่ายไป กับยากไป

อยากให้เอาอะไรมาทายครับ

สำหรับดิฉัน ขอรูปง่าย ง่ายเท่าไรยิ่งดี   เผื่อคุณหมอ CVT ด้วย  จะได้มีกำลังใจเข้ามาทายบ่อยๆ
ส่วนคุณศรีสยาม คุณร่วมฤดี และคุณณัฐดล พาสชั้นอยู่ระดับมหาลัยแล้ว  ขอรูปยากเท่าไรได้ก็ยิ่งดีค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 01 ก.ย. 10, 12:42
มาเช็คชื่อเข้าเรียนหลังเที่ยงค่ะวันนี้ มัวไปฉีดยากันยุง กลัวกรรมเก่าตามทัน

รู้สึกผิดจรรยาบรรณขึ้นมา ขอไม่ทายรูปถนนสาธร หรือ สาทร (ไม่ทราบว่าเขียนอย่างไรจึงจะถูกต้องคะ
อาจารย์เทาชมพูช่วยกรุณาชี้แจงด้วยค่ะ สับสนเหลือเกิน) ให้คนอื่น ๆ ได้สนุกกันดีกว่า

แต่ เอ..ในรูปดูจะเห็นหลังคาตำหนักของท่านปิยะรังสิตกับท่านหญิงวภาวดี ริมถนนสาทรนะคะ

วันนี้มีรูปมาทายกับเขาบ้าง ไม่ใช่ที่ช้อนลูกน้ำหรอกค่ะ แต่ก็ไม่ห่างไกลกันนัก ส่งการบ้านให้ท่านปรมาจารย์ตอบบ้างค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 01 ก.ย. 10, 12:44
กราบขอบพระคุณ คุณ VeeMee ค่ะ กรุณาเข้ามาให้สารคดีบ่อย ๆ นะคะ ชอบอ่านมาก ๆ
เด็ก ๆ ในนี้ มัวทายปัญหากันเพลิน ลืมให้ข้อมูลที่มีสาระกันไปค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 13:10
รูปของคุณร่วมฤดี ไม่รู้จะปราบเซียนอยู่ไหม แต่ปราบดิฉันได้ราบคาบค่ะ

ชื่อถนนสาทร ที่ถูกต้องคือ "สาทร" มาจากชื่อหลวงสาทรราชายุกต์(เจ้าสัวยม) ผู้บริจาคที่ดินให้ตัดถนนสายนี้   แต่ราชการสะกดผิดมาหลายสิบปีเป็น "สาธร"    เพิ่งจะมาแก้ไขให้ถูกต้องทีหลังค่ะ

วังท่านปิยะรังสิตกับพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดี มีที่สาทรด้วยหรือคะ     น่าจะเป็นแถวถนนปั้นหรือเปล่า อาจจะเป็นสมัยก่อนท่านย้ายมาอยู่วังที่ถนนวิทยุละมั้ง
ตอนเด็กๆดิฉันเคยเข้าไปทางประตูด้านหลังวัง ติดกับซอยร่วมฤดี    เข้าไปหนังดูการ์ตูนขาวดำเรื่องมิกกี้เม้าส์ ที่ในวังมีเครื่องฉายหนังส่วนตัว  ในสายตาเด็กอย่างเรา( หรือถึงตอนแก่ๆนี่ก็เถอะ) เห็นว่าโก้สุดยอด


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 13:28
แล้วเจ้าต้นนี้ล่ะ

Millettia leucantha  Kurz var.  buteoides  (Gagnep.) P.K.Loc

http://www.dnp.go.th/EPAC/province_plant/khorat.htm

(http://www.igetweb.com/www/wanramsurinschool/gallery/439133.jpg)

สาทร หรือ สาธร

 ???


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 13:33
ถนนสาทร เป็นถนนแห่งความหลังของดิฉัน อีกสายหนึ่ง
เห็นถนนสาทรมาตั้งแต่อายุไม่ถึง ๑๐ ขวบ  เพราะแม่มักจะพาดิฉันมาที่นี่เสมอ  เพื่อมาเยี่ยมคุณลุงของแม่ ที่ซอยพระยาพิพัฒน์( ตอนหลังดูเหมือนจะชื่อซอยพิพัฒน์ เฉยๆ) 
ถนนสาทรมี ๒ สายคือสาทรเหนือกับใต้    คั่นกลางด้วยคลอง และมีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นสองข้างทาง    บ้านสองฟากถนนเป็นบ้านใหญ่มีบริเวณกว้าง    มีหลังหนึ่งแม่ชี้ให้ดู บอกว่าเป็นบ้านเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศร์   
บ้านที่ดิฉันติดใจมากที่สุดคือบ้านหลังนี้   ตอนนั้นเป็นสถานทูตรัสเซีย ไม่ได้ทาสีขาว แต่เป็นสีปูน   ปิดประตูสนิท กำแพงสูง แต่ตัวบ้านสูงเลยมองเห็นหลังคาและโดมโผล่ขึ้นมา   มีครั้งหนึ่งเขาเปิดประตู ไม่รู้ว่าเปิดเพราะมีงานหรืออะไร  เลยมองเข้าไปเห็นสนามและตัวตึกชั้นล่าง   โอ่อ่ามาก

(http://www.crownproperty.or.th/cpad/p_vtr/8.jpg)

คุณลุงของดิฉันบอกว่าเป็นบ้านเพื่อนของคุณลุงเอง ชื่อหลวงจิตร์จำนงวาณิช   ทราบว่าเคยเป็นโรงแรมด้วย

ใกล้ๆปีใหม่ YWCA หรือ YMCA จำไม่ได้แล้วจะจัดงานออกร้านให้เข้าไปเดินชมกันได้   มีข้าวของจากประเทศต่างๆนำมาขายโดยภรรยาทูตานุทูต   ที่ต้องไปคือไปตกเบ็ดเอาของ  เสียเงิน ๑๐ บาท  เกี่ยวฉลากขึ้นมาแล้วไปขึ้นของ  ส่วนใหญ่ก็ของดีราคาไม่น้อยกว่า ๑๐ บาท   ๑๐ บาทในสมัยนั้นก็สัก ๒๐๐ สมัยนี้เห็นจะได้


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 01 ก.ย. 10, 13:46
อ่านแล้วสนุกจังเลยครับ

ได้ความรู้มากๆ

อนึ่ง มีใครอยู่ต่างจังหวัดแล้วมีรูปเก่าๆบ้างไหมครับ จะได้ฟังเรื่องราวกว้างขึ้น

ขอบพระคุณครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 14:09
แล้วเจ้าต้นนี้ล่ะ

Millettia leucantha  Kurz var.  buteoides  (Gagnep.) P.K.Loc

http://www.dnp.go.th/EPAC/province_plant/khorat.htm

(http://www.igetweb.com/www/wanramsurinschool/gallery/439133.jpg)

สาทร หรือ สาธร

 ???

ถ้าไม่เกี่ยวกับคุณหลวงสาทร ฯ  ก็ต้อง "สาธร" ตามชื่อพระราชทาน ซิคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ย. 10, 14:34
ขอส่งการบ้าน บ้างครับ

1 คือ ถนนสาทรใต้
2 คือ ถนนสาทรเหนือ
3 คือ โบสถ์ไคร้สเชิช หรือคริสตจักรไคร้สเชิชกรุงเทพ โบสถ์ในนิกายแองกลิกัน มีความเก่าแก่มาตั้งแต่ พ.ศ.2407 โดยโบสถ์หลังเก่านั้นตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แต่อีก 40 ปีต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ก็ได้ทรงพระราชทานที่ดินตรงที่ปัจจุบัน
4 คือซอยสวนพลู


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ย. 10, 14:50
ตอบการบ้านคุณ Ruamrudee

ภาพที่นำมาจัดวางไว้ ซึ้งคำใบ้บอกว่าอยู่ไม่ไกลกัน ก็ขอตอบว่า "ถนนสีลม" วู้ๆๆ มีคลองกับเขาด้วยหรือนี่ ซึ่งคลองนี้มีประโยชน์ในการบรรทุกข้าวเปลือกจากทุ่งนาสีลม และมาส่งโรงสีที่ทุ่งสีลมและทุ่งศาลาแดง

จะขอวางภาพแผนที่ระวางสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ยลโฉมกัน จะเห็นถนนและคลองสีลม ประชิดขนานกันไป คลองอยู่บน ถนนอยู่ล่าง ทั้งนี้แล้วตีความได้ว่า จากภาพถ่ายคุณ Ruamrudee จะต้องถ่ายหันหลังให้ถนนสีลม มองตรงไปสุดตามองไปยังสี่แยกศาลาแดง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 10, 15:26
เอารูปสถานทูตรัสเซียมาแจมก่อน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 10, 15:40
นี่เป็นคลองสาทรร่วมสมัยกับรูปข้างบนครับ

มันไม่ค่อยคล้ายกันเล้ย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 01 ก.ย. 10, 16:03
คุณ Siamese เก่งมาก ทายถูกค่ะ
อาจารย์ Navarat สอบตกซ้ำชั้นค่ะ

ภาพนี้ เอามาจากหนังสือ เล่มเดียวกับภาพนี้ค่ะ ถือโอกาสให้การบ้านใหม่เลยนะคะ เพราะคนเก่งลงมาปราบเซียนแล้ว
ลองดูนะคะว่า เป็นที่ไหน และ อาคารตรงนั้นคืออะไร


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 16:08
ย่องเข้ามาบอกว่าขอลดจากรีพีทเป็นรีเอ๊กแซมเถอะค่ะ  สำหรับครูนวรัตน
ขนาดทายผิดแล้วผิดอีกอย่างดิฉัน ท่านยังให้รีเอ๊กแซมมาทุกหน  ท่านก็ไม่ควรโดนโหดนัก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 01 ก.ย. 10, 16:22
อาจารย์ Navarat ได้รับสิทธิพิเศษจากอาจารย์ใหญ่ ให้ Re-Examค่ะ

ให้ข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับภาพคลองสีลมนะคะ คัดมาจากคำบรรยายภาพนั่นเองค่ะ

" ถนนขวาง ต่อมา คือ ถนนสีลม สร้างขึ้นจากดินที่ขุดคลองขวาง (ต่อมาชื่อคลองสีลมภายหลังถูกถมขยายถนน) เชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยาที่บางรัก กับคลองหัวลำโพง(ถมไปแล้ว) ทึี่ขุดเลียบถนนตรง(ถนนพระรามสี่)"

จากคำบรรยายภาพนี้เอง เราจะทราบว่า ชื่อเดิมของถนน และ คลอง ถูกเปลี่ยนไปหมด
ถนนขวาง = ถนนสีลม
คลองขวาง = คลองสีลม
ถนนตรง = ถนนพระรามสี่

ติดใจเรื่องชื่อถนนมาก เพราะ เป็นคนที่มีชีวิตวนเวียนแถว ๆ นั้นมาแต่เด็ก ไม่ต่างจากอาจารย์เทาชมพูค่ะ
ได้อ่านเรื่องราวมิชชั่นนารี่ นั่งรถม้าจาก ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนจะไปสนามหลวง เล่าว่า ผ่านคลองขวาง ที่อยู่ถัดจากคลองพ่อยมไป นึกเท่าไรก็ไม่ออกว่าคลองอะไร จนได้เห็นรูปนี้

ตอนเล็ก ๆ ปู่พาไปฉีดยาที่ ร.พ.กรุงเทพคริสเตียน ที่สีลม ตอนจะเข้าประตูโรงพยาบาล รถต้องขับขึ้นสะพานก่อนค่ะ
เด็กเล็ก เด็กน้อยในรถก็จะบรรเลงเสียงร้องไห้ไว้ล่วงหน้า ก่อนเข็มฉีดยาจะถึงตัวเสียอีก เพราะจำสะพานได้
 
สถาทูตรัสเซีย เคยเป็นฉากภาพยนต์เรื่องแรกของอรัญญา นามวงศ์ มีหม่อมหลวงขาบเล่นเป็นเจ้าคุณปู่ จำชื่อเรื่องไม่ได้ จะ
เห็นตัวอาคารสถานทูตเป็นสีอิฐแดง ตัดขอบหน้าต่างสีขาวค่ะ

อาจารย์เทาชมพูคะ ท่านหญิงวิภาวดี แต่งงานใหม่ ๆ กับท่านปิยะรังสิต ท่านจะไปอยู่บ้่านของท่านเอง (เรือนหอ) ที่สาทร ปากซอยสวนพลูค่ะ เคยมีภาพ แต่ไม่รู้ไปเก็บไว้ที่ไหน

ํYWCA มีสระว่ายน้ำ มี Gym และ มีที่กิจกรรมสำหรับ Y-Teen อย่างดิฉันด้วย
ผู้ใหญ่น่ารักอย่างท่าน อาจารย์สุคนธ์ ชลออยู่ (ภรรยา พลเรือเอกสงัด ชลออยู่)จะเป็นกำลังสำคัญในยุคนั้น  


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 10, 16:35
ผมสงสัยไม่รอดแน่ครับ มีอาจารย์ใหญ่อีกท่านหนึ่งข้ามห้วยมาดู แล้วหลังไมค์มาให้Fผม ท่านว่ารูปทางอากาศที่ผมบอกสถานทูตรัสเซียนั้น ไม่ใช่ ผมเอามาเปรียบเทียบกันดูแล้ว หลังคาตึกก็ไม่ใช่จริงๆ ตอนนี้กำลังหาอยู่ว่าตึกสีฟ้าหลังคาแดงนั้นคือตึกอะไร


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ย. 10, 16:37
ต้องรบกวนคุณ Ruamrudee  ตรวจข้อสอบให้อีกแล้ว

1 ปากคลองผดุงกรุงเกษม ช่วงด้านใต้ ดูลักษณะสีน้ำที่ออกมา คนละสี กับแม่น้ำเจ้าพระยา

2 อาคารสวยงามอะไรกันนี่....คือ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ มาตั้งนิวาศสถานที่ตำบลนี้ด้วยเป็นศูนย์กลางการค้าของทางชาวยุโรป พื้นที่เดิมเป็นที่ดินของวัดแก้วแจ่มฟ้า เลยต้องผาติกรรม ซื้อที่ดินคืนสร้างวัดให้ใหม่ไปอยู่แถวสี่พระยา ต่อมากลายเป็นโรงแรมขนาด 700 ห้อง หรูหรามาก "เชอราตัน"

3 โอว ..อาคารอะไรนั่น มีปล่องไฟ สูงมาก ...รับทราบมาว่าเป็นโรงซ่อมหลังใหญ่ ของรถราง บางกอก แทรมเวย์ เชียวนะครับ

4 ชี้ให้เห็นสะพานข้ามคลองผดุงกรุงเกษม สะพานนี้คือสะพานเหล็กล่างครับ ปัจจุบันคือสะพานทิพยเสถียร เป็นปูนคอนกรีตไปแล้ว

5 ถ้าจับทิศทางได้แล้ว เบอร์ 5 ควรจะเป็นสี่แยกสี่พระยา ตัดกับถนนเจริญกรุง



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 16:39
อ้างถึง
สถานทูตรัสเซีย เคยเป็นฉากภาพยนต์เรื่องแรกของอรัญญา นามวงศ์ มีหม่อมหลวงขาบเล่นเป็นเจ้าคุณปู่ จำชื่อเรื่องไม่ได้ จะ
เห็นตัวอาคารสถานทูตเป็นสีอิฐแดง ตัดขอบหน้าต่างสีขาวค่ะ


น่าจะเป็นเรื่อง "อีแตน" (๒๕๑๑)  ยุคนั้นหนังไทยยังฮิทเรื่องประเภททายาทเจ้าคุณปู่อยู่
สถานทูตทาสีอิฐแดง หรือดิฉันเรียกว่าสีปูน นั่นแหละค่ะ

(http://www.thaifilmdb.com/pic/m02460.jpg)

ในหนังสืออนุสรณ์พระองค์เจ้าวิภาวดี  เล่าว่าท่านเคยรีดนมควาย สมัยอยู่เรือนหอหลังเสกสมรสใหม่ๆ   ต่อมาดูเหมือนจะกลายเป็นร้านอาหารค่ะ

ชนกลางอากาศกับคุณนวรัตน    สงสัยว่าท่านผิดพลาดไปสองสามหนติดกัน  อาจจะโดนดิฉันแช่งไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ เวลาเห็นข้อสอบโหดๆจากท่าน   ต้องขอตัวไปถอนคำสาปก่อนนะคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 16:41
ผมสงสัยไม่รอดแน่ครับ มีอาจารย์ใหญ่อีกท่านหนึ่งข้ามห้วยมาดู แล้วหลังไมค์มาให้Fผม ท่านว่ารูปทางอากาศที่ผมบอกสถานทูตรัสเซียนั้น ไม่ใช่ ผมเอามาเปรียบเทียบกันดูแล้ว หลังคาตึกก็ไม่ใช่จริงๆ ตอนนี้กำลังหาอยู่ว่าตึกสีฟ้าหลังคาแดงนั้นคือตึกอะไร

สมาคมพาณิชย์จีน ที่สาทรหรือเปล่าคะ

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/956/2956/images/126ThaiChen/ThaiCC_02.jpg)

http://www.oknation.net/blog/mindhand/2009/06/18/entry-1


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ย. 10, 16:47
สมาคมพาณิชย์จีน   ที่สาทร กลายเป็นอดีตไปแล้วครับ ปัจจุบันตัวอาคารนี้เป็นร้านอาหารระหรูชื่อว่า Blue Elephant ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 01 ก.ย. 10, 16:51
คุณ Siamese คือ คลื่นลูกใหม่ ระดับ Tsunami เก่งมากค่ะ ตอบได้ราบคาบทีเดียว
เก่งขนาดนี้ ไปช่วงอาจารย์ Navarat ค้นหาตึกสีฟ้าหลังคาแดงเถอะค่ะ

 


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 17:03
ขอแย่งซีน

สมาคมพาณิชย์จีน หรือหอการค้าไทย-จีน หรือร้าน Blue Elephant ค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 10, 17:49
เป็นอันว่า นักเรียนทุกคนได้เลื่อนชั้นหมด ครูรีพีทอยู่คนเดียว


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 17:53
อนุโลมว่าสอบได้ยกชั้นไหมคะ คุณร่วมฤดี


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 10, 18:37
เอาแบบตกทั้งชั้นมารวมกับครูใหม่ดีกว่า

นี่ที่ไหนครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ย. 10, 18:56
กระผมมิอาจจะขึ้นก้าวไปเทียบชั้นกับอาจารย์ Navarat หรอกครับ  :-[

จากภาพด้านบน ไม่ยอมตกยกชั้นหรอกครับ ขอชิงตอบไว้ก่อน

ก. มองสภาพตึกทรงฝรั่ง สวยงาม สะดุดตาขวามือ มีรูระบายอากาศวงกลม 2 วงสวยงามมาก (ไม่ใช่ประเด็น)

ข. มองแถวซ้ายมือ เห็นหมู่รถลากมากมาย พร้อมผู้คนชาวพระนครมากมาย คาดว่าต้องมีงานอะไรสักอย่าง ถึงได้มีประชาชนออกมาที่ท้องถนนมากขนาดนี้

ค. มองไปยังเบื้องนภากาศ สิ่งนี้ทำให้ตอบได้ หมายเลข 1 คือ มหาวิหารใหญ่โต แต่ก็มาพ้องกับวิหารหมายเลข 2 วางตั้งฉากกัน อันเป็นเสน่ห์แห่งหนึ่งเมื่อครั้งตั้งกรุงเทพฯ

ถนนนี้จะเป็นถนนอื่นไม่ได้เลย คือ "ถนนตีทอง" ถ่ายมองไปยังวัดสุทัศน์เทพวราราม ศูนย์กลางแห่งเขาพระสุเมรุ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 19:02
ดีจริง    คืนนี้จะได้ไม่หลอน
ว่าแต่อาคารทางซ้ายสุด คืออะไรคะ?


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ย. 10, 19:21
เรียนอาจารย์เทาชมพู

หากวิเคราะห์ถึงมุมกล้อง ก็ประมาณจุดสีส้ม ซึ่งเป็นที่ตั้งกล้องถ่ายภาพ ส่วนอาคารทางซ้ายมือเป็นกลุ่มอาคารพาณิชย์ ซึ่งทอดขนานไปกับแนวถนน และขนานกับรั้ววัด ซึ่งจะทอดไปยังถนนบำรุงเมือง ไม่มีอะไรที่เป็นที่สงสัยแต่ประการใด เป็นเพียงจุดตีบของภาพเท่านั้นครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 01 ก.ย. 10, 19:25
เจอกลุ่มอภิมหาเซียน....Navarat-Ruamruedee-Siamese-เทาชมพู เข้าอย่างนี้..ผู้น้อยต้องขอน้อมคารวะ.........
รับหน้าที่ภารโรงอยู่แถวนี้ละครับ.....


ขอบพระคุณท่าน..Siamese..........ได้ความรู้ดีครับ...
 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ย. 10, 19:29
อย่ากระนั้นเลยคุณ srisiam ไปลดฐานะศักดิ์ตนเองไปใย ลองสอบใหม่ดู คราวนี้จะตกทุกชั้นปีการศึกษาเลยหรือไม่ ลองค้นหากันดูครับ

สะพานอะไร ?


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 19:32
เจอกลุ่มอภิมหาเซียน....Navarat-Ruamruedee-Siamese-เทาชมพู เข้าอย่างนี้..ผู้น้อยต้องขอน้อมคารวะ.........
รับหน้าที่ภารโรงอยู่แถวนี้ละครับ.....


เจอกลุ่มอภิมหาเซียน....Navarat-Ruamruedee-Siamese-   เทาชมพู


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 01 ก.ย. 10, 19:35
ฮั่นแน่............อาจารย์เทาชมพูรีบโดดหนีก่อนเชียว....................



ทายว่า...(เดา).............สะพานเทเวศน์ครับ...



เตรียมธงขาวไว้ยกแล้วครับ
หากตอบผิด.........................


 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 10, 19:39
เฉลยรูปที่แล้วก่อนครับ

คุณคนสยามต้องเคยช้อนลูกน้ำอยู่แถวนั้นแน่ๆ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 10, 19:45
ทายต่อ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ย. 10, 19:53
ยอดเยี่ยมเลยครับ อาจารย์ NAVARAT.C ถูกต้องแน่นอน ร้อยเต็มเลยครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 10, 19:55
หวุดหวิด


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 10, 20:40
อย่าหาว่าผมโหดเลยนะครับ พอดีได้ข่าวว่าในชั้นเรียนของเรามีเด็กระดับปริญญาเอกปลอมตัวมาช้อนลูกน้ำอยู่แถวนี้ด้วย
เลยต้องถามยากๆหน่อย เพราะผมใกล้จะหมดภูมิแล้วเหมือนกัน

ท่านที่เป็นโรคนอนหลับยากก็ผ่านไปได้นะครับ อย่าไปดูมัน เพราะรูปนี้มันจะหลอนเอาแน่นอน
เอาครับ ที่ นี่ ที่ หนาย



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 01 ก.ย. 10, 20:48
รีบยกธงที่เตรียมไว้....ก่อนหลอนจนนอนไม่หลับครับ....


 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 20:52
อีกคน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ย. 10, 20:53
ภาพตึกนี้ ปัจจุบันก็คงสภาพที่ว่า เป็นอาคารโค้งไปตามถนนเยาวราช ครับ เลยวงเวียนโอเดียนมานิดเดียว เป็นโรงแรมครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 10, 21:19
นี่ครับ

ชายผู้ตระเวนช้อนลูกน้ำไปทั่วกรุงตั้งแต่สมัยรัชกาลที่5 กลับชาติมาเกิดเป็นคุณหนุ่มสยาม

โรงแรมตรงถนนโค้งของเยาวราชตอนล่างนี้ชื่อนิวเอ็มไพรครับ

สุดยอดจริงๆ

ที่ผมรู้น่ะไม่ใช่เพราะไปช้อนลูกน้ำกับเขาดอกนะ
มีหนังสือเล่มละ100บาทอยู่น่ะครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ย. 10, 21:19
เอาให้สอบกันใหม่ยกชั้น ด้วยคำถามนี้ครับ...ที่ไหนครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ก.ย. 10, 21:25
ครูขอตัวไปช้อนลูกน้ำก่อนละนะเด็กๆ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 21:37
 :'(


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 01 ก.ย. 10, 22:15
เกมส์นี้เด็กบ้านนอกเกือบใต้สุดแดนสยามอย่างผมได้แต่ทำตาปริบๆ  ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 10, 22:22
โบสถ์คริสต์   มองเห็นไม้กางเขนบนยอด   สมัยรัชกาลที่ ๕ มีโบสถ์คริสต์ในกรุงเทพอยู่กี่แห่งกัน?
มองไปด้านหลัง ซ้ายมือ มีอาคารอยู่หลังโบสถ์ เป็นรูปขวาง  ที่เห็นอาจเป็นส่วนหน้าตรงทางเข้า  ส่วนที่ทำพิธีอยู่ด้านหลัง
เขียนมา ๒ บรรทัดแล้วก็ยังนึกอะไรไม่ออก  จบดีกว่า
เอ๊ะ หรือจะเป็นป่าช้าสีลม


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 02 ก.ย. 10, 01:00
โบสถ์คริสต์   มองเห็นไม้กางเขนบนยอด   สมัยรัชกาลที่ ๕ มีโบสถ์คริสต์ในกรุงเทพอยู่กี่แห่งกัน?
มองไปด้านหลัง ซ้ายมือ มีอาคารอยู่หลังโบสถ์ เป็นรูปขวาง  ที่เห็นอาจเป็นส่วนหน้าตรงทางเข้า  ส่วนที่ทำพิธีอยู่ด้านหลัง
เขียนมา ๒ บรรทัดแล้วก็ยังนึกอะไรไม่ออก  จบดีกว่า
เอ๊ะ หรือจะเป็นป่าช้าสีลม


รับรองได้ว่าละเมอขึ้นมาเขียนตอบ..................เพราะหลับไปแล้วตั้งแต่ คห. 273



คห. 276 นี่ก็เขียนตอนละเมอออออออ......

หลอนจริงๆๆๆ :o


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ย. 10, 07:54
แปดโมงตื่นขึ้นมา  เพิ่งหลับไปเมื่อหกโมงนี้เอง
จับไข้ทั้งคืนค่ะคุณศรีสยาม  ไม่ได้ละเมอ  แค่เพ้อ
ว่าวัดเอ๋ยวัดโบสถ์...ปลูกข้าวโพดถนนไหน...



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 02 ก.ย. 10, 08:36
เสียงลือเสียงเล่าอ้าง             โบสถ์ใดพี่เอย
เสียงย่อมหลอนใจใคร           ทั่วหล้า
สองปราชญ์อย่าหลับไหล       ลืมตื่น    ฤาพี่
สองพี่คิดเองน้า     อย่าได้      ถามเผือ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 02 ก.ย. 10, 08:53
ศรีศรีเจ๊กฆ่าหมู        ปางใด

ปางสิบทุ่มใน         โรงฆ่า

เจ๊กทำสิ่งใดหนา     วานบอก

เจ๊กจับสองขาฟาด    หมูนั้นบรรลัย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 02 ก.ย. 10, 09:43
ตอบรูป 271 ของคุณ Siamese ค่ะ

เขาเรียกกันว่า "อาสนวิหารอัสสัมชัญ" เป็นหลังเดิมก่อนถูกระเบิด
อยู่ซอยเจริญกรุง 40 อายุเกือบ 200 ปีแล้ว สร้างเสร็จปี 2364
สร้างโดยบาทหลวงปาสกัล ออกแบบโดยชาวฝัร่งเศส(หน้่าตาถึงเป็นแบบนั้น)

อาคารปัจจุบัน (ไม่เหลือเค้ารูปเดิม) ไม่มีรั้วรอบ ๆ สร้างใหม่เมื่อปี 2461

แหม ถามยากไปหน่อยหรือเปล่าคะ เพราะปัจจุบันไม่เหลือซากให้เดาได้แล้ว
คนทายต้องเป็นศิษย์เก่า ร.ร.ใกล้ ๆ โบสถ์นี้แน่ ๆ เลยแน่ ๆ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 02 ก.ย. 10, 09:53
ถูกต้องที่สุด ให้ A+ + เลยครับคุณ Ruamrudee อาสนวิหารอัสสัมชัญงดงามมากครับ มองภาพดีๆนะครับ อย่าได้ตกใจ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 02 ก.ย. 10, 10:01
^
^
ด็อกเตอร์กับด็อกเตอรินี

ตัวจริง

(มีภาพกระพริบด้วย! !)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 02 ก.ย. 10, 10:04
ขออนุญาตออกนอกเรื่องสถานที่เล็กน้อย
เพราะแถวนี้มีศิษย์เก่าคณะสีเทาของจุฬาหลายท่าน
ภาพนี้เอามาจากรูปที่ อาจารย์เทาชมพูแปะไว้ เป็นภาพอาจารย์สอนหน้าชั้นเรียน
อยากทราบว่า อาจารย์ในภาพ เป็นคนไทยหรือเป็นฝรั่งคะ หน้าตาคล้ายฝรั่งค่ะ

และมีใครเคยอ่านหนังสือ ของอาจารย์ Carol Hollinger บ้างไหมเอ่ย เล่าสู่กันฟังบ้าง
เพราะดิฉัน อ่านภาษาอังกฤษไม่แตกค่ะ จับงูจับปลาจากในเรื่อง พบว่า
ท่านพูดเรื่องจริง และ ชื่อบุคคล ก็มีจริงทั้งหมด เท่าที่เข้าใจ เรื่องของท่านสนุกมาก
คงเดาได้นะคะว่า หนังสือชื่อเรื่องอะไร


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 02 ก.ย. 10, 10:42
น้อมคารวะอีกครั้ง......ทุกท่าน......



ผู้เยี่ยมยุทธ.......และจอมยุทธ...ช้อนลูกน้ำ

ขอบพระคุณที่มาร่วมแบ่งปันความรู้.....................
 ;D :D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 02 ก.ย. 10, 10:58
หลังจากภาพปริศนาขั้นปริญญาเอก

มาลองภาพปริศนาขั้นปริญญาตรีบ้าง

เอาเรื่องสะพานให้เข้าชุดกับภาพของคุณ ไซอามีส ก็แล้วกัน

สะพานอะไร ?

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3462.0;attach=13691;image)

คำตอบคือ สะพานเทวกรรมรังรักษ์ -สะพานนางเลิ้ง

คุณนวรัตนได้ร้อยเต็มจากภาพนี้

ต่อไปเป็นภาพปริศนาขั้นปริญญาตรี

สะพานอะไร ?

๑.



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 02 ก.ย. 10, 11:05
๒.


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 02 ก.ย. 10, 11:12
๓.


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 02 ก.ย. 10, 11:32
ขอทายภาพที่ 3 ก่อนนะคะ กินของย่อยง่ายก่อนค่ะ
ภาพบริเวณหน้าสถานีหัวลำโพง และ วงเวียน 22 กรกฏาคม ค่ะ

ภาพที่ 1 จำชื่อสะพานไม่ได้ ให้อาจารย์ Navarat ตอบดีกว่าค่ะ แต่น่าจะเป็น(แปลว่าไม่มั่นใจ)
สะพานข้ามคลองผดุงกรุงเกษม ตรงระหว่าง วังแดง กับ คุรุสภา ค่ะ

ภาพที่ 2 คลองเดียวกัน บริเวณตลาดมหานาคค่ะ ชื่อสะพานไม่แม่น ยกให้ อาจารย์ Navarat อีกรูปค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 02 ก.ย. 10, 11:40
สะพานในภาพที่ ๓  น่าจะเป็น สะพานเฉลิมเดช ๕๗ ข้ามคลองหัวลำโพง
ปัจจุบัน คือ ปลายถนนสี่พระยาต่อกับถนนพระรามสี่ ข้างวัดหัวลำโพง

สะพานเฉลิมเดช ๕๗  เป็นสะพานที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕
แต่ไม่ทันที่รัชกาลที่ ๕ จะได้เสด็จฯ ไปทรงเปิดสะพานนี้
ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน   รัชกาลที่ ๖ ได้เสด็จฯ ไปทรงเปิดสะพานเฉลิมเดช ๕๗
เมื่อ วันที่ ๑๕ พ.ย. ๑๒๙ (๒๔๕๓)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 02 ก.ย. 10, 12:18
ข้าว-แข้วไม่ต้องกินกันละ

เสร็จอันหนึ่งก็ทายอันหนึ่งก่อน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 02 ก.ย. 10, 12:48
จะผิดไหมนี่

ไปช้อนลูกน้ำบ่อยๆ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 02 ก.ย. 10, 12:54
ปริญญาตรีไม่อาว จาเอาปาถม

ที่ไหนครับ

พวกปริญญาเอกจะโผล่มาไหมเนี่ย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 02 ก.ย. 10, 13:12
ภาพที่ ๑  คุณนวรัตนตอบผิด

ภาพที่ ๒ คุณนวรัตนตอบถูก

ภาพที่ ๓ คุณหลวงเล็กตอบผิด  คลองนั้นไม่ใช่คลองหัวลำโพง ชื่อสะพานเป็นชื่อชุดเหมือนกันแต่ไม่ใช่ชุดเฉลิม

ลองตอบอีกที่เถอะ

 ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 02 ก.ย. 10, 13:40
โธ่เอ้ย มันน่าเอาไม้ช้อนลูกน้ำเคาะหัวตัวเองจริงจริ้ง
เมื่อกี้หิวข้าวตาลายไปหน่อย

เอาใหม่ครับ เอาใหม่


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ย. 10, 13:41
เพื่อสันติ สงบได้ในชีวิต
เพื่อเพ่งพิศสัจธรรมกรรมทั้งหลาย
ข้าพเจ้าจึงขอเลี่ยงไม่เสี่ยงทาย
คืนนี้ขอหลับสบายหายเหนื่อยที


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 02 ก.ย. 10, 13:49
แต่งภาพช้าไปนิดเดียว อาจารย์ NAVARAT.C ชิงตอบไปก่อน กินแห้วเลยเรา :'(


ตอบอาจารย์เพ็ญชมพู นะครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 02 ก.ย. 10, 14:01
ตอบใหม่ครับ  สะพานที่ ๓ ชื่อสะพานเจริญสวัสดิ์ ข้ามคลองผดุงกรุงเกษม
สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๖  และรัชกาลที่ ๖ เสด็จน มาทรงเปิดสะพานนี้ เมื่อ ๓๐ ธันวาคม ๒๔๕๙

แต่เดิมบริเวณนี้มีสะพานไม้สร้างอยู่ก่อนแล้ว  ต่อมาได้มีพระราชดำริให้รื้อสร้างใหม่
เป็นสะพานโค้งใหญ่กว้าง ๗ วา ยาว ๑๒ วา ๒ ศอก  สูงจากระดับน้ำธรรมดา ๕ ศอกเศษ



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 02 ก.ย. 10, 14:08
ขอดำดิ่งอีกครั้งให้ดูสถานีรถไฟสายปากน้ำกันชัดๆ ถนนตรงหรือพระราม ๔ ในปัจจุบันฝั่งขาออกเป็นพื้นผิวจราจรเดิม
ส่วนคลองถมเป็นถนนฝั่งขาเข้าเมือง

สถานีต้นทางปากน้ำ - กรุงเทพ ดำเนินกิจการไม่นานก็ขาดทุน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 02 ก.ย. 10, 14:12
เป็นอันว่า คุณนวรัตน และ คุณหลวงเล็ก สอบผ่านหมด

คุณไซอามีสไฉนจึงตอบซ้ำคำตอบแรกของคุณหลวงเล็กซึ่งผิด

 ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 02 ก.ย. 10, 14:19
ข้าน้อยช้อนลูกน้ำผิดสะพาน จึงต้องเอ๋อสักครู่

ขอน้อมรับผิด และทดแทนด้วยคำตอบนี้

ภาพนี้จะดูยากสักหน่อย แต่ให้ลองนึกถึงว่า คุณกำลังยืนแถวคุกเก่า (สวนสาธารณะรมมณีย์นาถ) มองไปทางถนนเจริญกรุงตัดด้านหน้า กล้องตั้งอยู่บนถนนมหาไชย จะเห็นภาพแบบนี้


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 02 ก.ย. 10, 14:23


ภาพที่ 1 จำชื่อสะพานไม่ได้ ให้อาจารย์ Navarat ตอบดีกว่าค่ะ แต่น่าจะเป็น(แปลว่าไม่มั่นใจ)
สะพานข้ามคลองผดุงกรุงเกษม ตรงระหว่าง วังแดง กับ คุรุสภา ค่ะ





แปลว่าภาพที่ ๑ คุณร่วมฯ ชี้พิกัดถูกต้องเป็นท่านแรก.........
ผู้น้อยเรียนสนุก...แต่สอบตกตลอด.....แน่นอน....คงต้องตามไปเพ่งพิศพินิจธรรมอีกคน...

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 02 ก.ย. 10, 14:25
พลิกตัวช้อนลูกน้ำจากเยาวราช ลุกเร็วเกินไปทำให้สมองรวน เนื่องจากเหงยหน้าขึ้นไปพาลพบกับสิ่งสวยงามของโรงแรมนิวเอ็มไพร์ จึงรีบนำมาฝากให้สัมผัสถึงสิ่งสวยงามที่ข้าพเจ้าพบเห็น

เป็นอาคารที่ตกแต่งด้วยภาษาจีนอย่างสวยงาม หน้าปัดเรือนงามชี้ที่ 11.00 นาฬิกา กำลังแดดดี จึงตะลึงกับภาพที่พบเห็น ตอบผิดสะพานไป


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 02 ก.ย. 10, 14:25

ภาพนี้จะดูยากสักหน่อย แต่ให้ลองนึกถึงว่า คุณกำลังยืนแถวคุกเก่า (สวนสาธารณะรมมณีย์นาถ) มองไปทางถนนเจริญกรุงตัดด้านหน้า กล้องตั้งอยู่บนถนนมหาไชย จะเห็นภาพแบบนี้

จะสารภาพว่าหลอนขนาดไหน......?
ในภาพที่เห็นเป็นดังนี้...


ทหารป่าสองนาย....เดินตามหลังหม่องพม่าสามคนครับ.....

เห็นอย่างนี้จริงๆ...

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 02 ก.ย. 10, 14:26
สลบ
ตอบอย่างนี้คนถามต้องสลบอย่างเดียว

ที่เอามาถามนี่กางตำราถามนะขอรับ ไม่ได้เคยรู้เคยเห็นเอง ลูกน้ำก็ไม่เคยไปช้อนแถวนั้น นึกว่ายากสุดๆแล้วยังตอบถูกอีก ???


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 02 ก.ย. 10, 14:39
สิ่งที่อาจารย์ NAVARAT.C ส่งภาพมาให้ดู มีสิ่งหนึ่งที่สุดตามากกว่าคำตอบ ตั้งอยู่กลางถนนกลางสี่แยกพอดิบพอดี เป็นสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม เหมาะกับบรรยากาศแห่งพระนครในสมัยรัชกาลที่ ๕ มากมาย

ไม่ต้องจ้อง ไม่ต้องเพ่ง จัดให้แบบเต็มหูเต็มตา ดูแล้วเวลาขึ้นไปยืน ต้องขึ้นสูงสักนิด เพื่อให้เห็นการจราจร ทั้งรถลาก รถม้า มอเตอร์คาร์ จักรยาน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 02 ก.ย. 10, 14:45
^
ถามสิครับ
อยู่ ที่ ห น า ย ?


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 02 ก.ย. 10, 15:47
ขออีกสักภาพเถอะน่า

เป็นภาพชุดเดียวกันกับภาพของคุณร่วมฤดี

ภาพนี้ เอามาจากหนังสือ เล่มเดียวกับภาพนี้ค่ะ ถือโอกาสให้การบ้านใหม่เลยนะคะ เพราะคนเก่งลงมาปราบเซียนแล้ว
ลองดูนะคะว่า เป็นที่ไหน และ อาคารตรงนั้นคืออะไร

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3462.0;attach=13672;image)

คุณไซอามีสตอบว่า


1 ปากคลองผดุงกรุงเกษม ช่วงด้านใต้ ดูลักษณะสีน้ำที่ออกมา คนละสี กับแม่น้ำเจ้าพระยา

2 อาคารสวยงามอะไรกันนี่....คือ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ มาตั้งนิวาศสถานที่ตำบลนี้ด้วยเป็นศูนย์กลางการค้าของทางชาวยุโรป พื้นที่เดิมเป็นที่ดินของวัดแก้วแจ่มฟ้า เลยต้องผาติกรรม ซื้อที่ดินคืนสร้างวัดให้ใหม่ไปอยู่แถวสี่พระยา ต่อมากลายเป็นโรงแรมขนาด 700 ห้อง หรูหรามาก "เชอราตัน"

3 โอว ..อาคารอะไรนั่น มีปล่องไฟ สูงมาก ...รับทราบมาว่าเป็นโรงซ่อมหลังใหญ่ ของรถราง บางกอก แทรมเวย์ เชียวนะครับ

4 ชี้ให้เห็นสะพานข้ามคลองผดุงกรุงเกษม สะพานนี้คือสะพานเหล็กล่างครับ ปัจจุบันคือสะพานทิพยเสถียร เป็นปูนคอนกรีตไปแล้ว

5 ถ้าจับทิศทางได้แล้ว เบอร์ 5 ควรจะเป็นสี่แยกสี่พระยา ตัดกับถนนเจริญกรุง

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3462.0;attach=13675;image)

คำตอบนี้ถึงกับทำให้คุณร่วมฤดีออกปากชมว่าคุณไซอามีสคือ คลื่นลูกใหม่ ระดับ Tsunami เก่งมาก ตอบได้ราบคาบทีเดียว


ภาพนี้คงไม่ยากสำหรับ Tsunami ลูกใหม่

คำถามเดียวกัน

เป็นที่ไหน และ อาคารตรงกลางภาพนั้นคืออะไร

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 02 ก.ย. 10, 16:12
ตอบอาจารย์เพ็ญชมพู

ลักษณะคลองวกไปด้านขวา ต้องเป็นทิศลงใต้ แผ่นหน้าคือแม่น้ำเจ้าพระยาในเมื่อ มีคลอก ย่อมไม่พ้นคลองโอ่งอ่างกับคลองผดุงกรุงเกษม ซึงมีวัดชื่อดังตั้งอยู่ปากคลอง จะเป็นที่อื่นไม่ได้นอกจาก "วัดเทวราชกุญชร" ครับผม


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 02 ก.ย. 10, 16:27
ภาพนี้แืท้จริงแล้วเป็นภาพปากคลองผดุงกรุงเกษมด้านทิศเหนือ  ตรงกลางภาพคือวัดเทวราชกุญชร ถูกต้อง

แถมอีกนิดตรงขวาของภาพเห็นหลังคาโบสถ์ของอีกวัดหนึ่ง คือ วัดนรนารถสุนทริการาม

อย่างไรก็ตาม คุณไซอามีสก็ยังเป็นคลื่นลูกใหม่และใหญ่อยู่

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 02 ก.ย. 10, 16:44
คุณเพ็ญชมพูครับ คุณหนุ่มไซอามีสนั่นไม่ใช่คลื่นลูกใหม่ แต่เป็นคลื่นลูกเก่าเก๋ากึ่กทีเดียว ...หนาวววว

ส่วนคลื่นลูกนี้มัวแต่ประดิษฐ์ประดอยอยู่เลยกระทบฝั่งก่อนส่งงาน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 02 ก.ย. 10, 18:14
เกรงจะถูกรีไทร์....ขอรักษาสถานภาพนักเรียนด้วยภาพบริษัทบางกอกแทรมเวย์และสะพานเหล็กล่างครับ...

 :D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 02 ก.ย. 10, 18:52
ขอถามเซียนร่วมฤดีหน่อยครับว่า บ้านนี้บ้านใคร


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ย. 10, 19:00
อยู่หลังวังท่านปิยะรังสิต หรือเปล่าเนี่ย?


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 02 ก.ย. 10, 19:09
ผมไม่เคยไปช้อนลูกน้ำแถวนั้นเลยครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ย. 10, 19:25
ดิฉันเคยช้อนลูกน้ำอยู่แถวนั้นค่ะ  แต่ไม่เคยเจอคุณร่วมฤดีสักที

บ้านนี้อยู่ในซอยร่วมฤดี ซอยใหญ่  ไม่ใช่ซอยแยกที่มีอยู่ ๔ ซอยด้วยกัน   ค่อนไปทางหลังสถานทูตสหรัฐ ไม่ใช่ใกล้ปากทางซึ่งเป็นด้านหลังโรงแรมพลาซ่า แอทธินี
ถ้าหากว่าเป็นบ้านด้านหลังวังม.จ.ปิยะรังสิตละก็  เคยได้ยินว่าเป็นบ้านที่เจ้าของวังให้เช่า   แต่ตอนนี้อาจจะรื้อไปแล้วหรือไม่ก็อยู่หลังอาคารพาณิชย์ที่ปลูกใหม่

รอคุณร่วมฤดีดีกว่า


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ย. 10, 19:34
บ้านนี้ไม่ใช่วังวิทยุ ของม.จ.ปิยะรังสิต  วังวิทยุหน้าตาเป็นอย่างนี้  เจ้าของคนปัจจุบันคือม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต

(http://www.whoweeklymagazine.com/file-lib/picmedia/image/Leisure/Celebs_hobbies/09Oct/Preyananthana/6_W50Leisure(1).jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 02 ก.ย. 10, 20:00
ดีจริง    คืนนี้จะได้ไม่หลอน
ว่าแต่อาคารทางซ้ายสุด คืออะไรคะ?


อาจารย์เทาชมพู ช่างสังเกตุมากกว่าข้าพเจ้าเสียอีก จึงต้องรีบมาหาข้อมูลใหม่ ซึ่งมีภาพชัดคมแจ๋ว เจาะลึกได้เค้าว่า เป็นขบวนอะไรสักอย่าง ด้านหน้าแต่งชุดตัวตลก สวมหมวกแหลม และอาคารที่อาจารย์เทาชมพูถามถึง คือ หลังคาโบสถ์พราหมณ์ ตามภาพที่ได้บรรจงคัดให้สวยงาม ส่งการบ้านแต่งตัวใหม่ให้นิ้งกว่าเดิม

ประตูทางเข้าเขตสังฆาวาส เคยเดินผ่านไปช้อนลูกน้ำอยู่หลายครั้ง ริมถนนเป็นเขตวัดสร้างตึกแถวไว้ ภายในมีด้วยกันหลายคณะ ตั้งแต่คณะ ๑-๑๕ เป็นต้น


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 03 ก.ย. 10, 08:26
เมื่อวานเข้า Net ได้แป๊ปเดียวเอง งานยุ่งมาก

 เช้านี้เห็นการบ้าน 312 ของ อาจารย์ Navarat แล้ว ต้องรอ้งเพลง

"ถอยดีกว่า มะ..เอา...ดีกว่า"

จนด้วยเกล้าพะย่ะค่ะ เซียน Siamese มาช่วยด่วน ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

บ้านนี้ดูคุ้นตา แต่นึกไม่ออกจริง ๆ ค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 03 ก.ย. 10, 09:28
^
ในหนังสือบอกว่า เป็นบ้านเลขที่30 ซอยร่วมฤดี ถนนเพลินจิตครับ
คำถามคือ บ้านใคร?


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 ก.ย. 10, 09:38
บ้านคุณขวัญแก้ว วัชโรทัย ถูกไหมเอ่ย หรือว่าจะเป็น ศ.ไขแสง ศุขะวัฒนะ อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จุฬาฯ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 03 ก.ย. 10, 09:52
ยังไม่ถูกครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 09:59
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3462.0;attach=13755;image)

คุณร่วมฤดีถอยเสียแล้ว    อีกคนหนึ่งที่น่าจะเคยเห็นคือคุณวันดี  
ถ้าอย่างนั้นก็เหลือแต่ความทรงจำอันเลือนรางของเด็กช้อนลูกน้ำ   วิเคราะห์ไปทีละขั้น
๑   บ้านนี้ ไม่ใช่บ้านคนสามัญแน่นอน    ซอยร่วมฤดีในสมัยโน้น มีบ้านไม้เป็นส่วนใหญ่  ถ้าตึกก็สองชั้นขนาดกลาง  เพียงแต่ว่าแต่ละบ้านมีเนื้อที่กว้างกว่าบ้านจัดสรรราคา ๑๕ ล้านสมัยนี้  คือ ๒๐๐ ตารางวาอย่างต่ำ  บ้านนี้บริเวณอาจจะเฉียด ๑ ไร่
     มีอีกหลังเดียวที่หรูหราพอกันคือบ้านพักทูตสเปนหรือประเทศไหนสักแห่งในยุโรป อยู่ปากซอยร่วมฤดี ๒
๒   บ้านสวยหลังนี้เป็นบ้านที่ดิฉันเคยมองเห็น  ในเมื่อดิฉันช้อนลูกน้ำอยู่ในซอยเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยจะได้ไปช้อนลูกน้ำแถวถนนวิทยุ  ก็แปลว่าบ้านนี้หันหน้ามาทางซอย  
๓    คิดว่าบ้านนี้แหละที่เป็นทางผ่านของเด็กช้อนลูกน้ำ  ไปเข้าประตูด้านหลังวังวิทยุ และมีคนบอกว่าเป็นบ้านที่เจ้าของวังให้ฝรั่งเช่า
๔    เลขที่ ๓๐ บอกอายุอันยาวนานของทะเบียนบ้านหลังนี้   แสดงว่าปลูกมานานแล้วไม่ต่ำกว่า ๕๐ ปี     คนมีเงินปลูกบ้านขนาดนี้ได้ ไม่ธรรมดา
๕   โปรดสังเกตโอ่งและอ่างลายครามใส่บัวที่วางอยู่ขอบสนาม   นั่นแหละของแท้   ในสมัย ๕๐ ปีย้อนหลังขึ้นไป เศรษฐีเขาวางประดับสนามไว้เป็นของปกติ ไม่มีใครขโมย  เพราะยกเอาไปจำนำไม่ได้
     ขอยืนยันว่าของเก่าแท้ เพราะยุคนั้นเถ้าฮงไถ่ยังไม่เกิด    ไม่มีการผลิตกระถางหรือโอ่งลายครามของใหม่
       เจ้าของบ้านที่มีเครื่องลายครามเอามาตั้งประดับสนามได้ตั้งหลายใบ  แสดงว่ามาจากตระกูลเก่าแก่สะสมกันมาหลายชั่วคน   ในบ้านคงมีใบดีๆกว่านี้   ใบที่คัดมาวางนอกบ้านคือใบที่เจ้าของบ้านถือว่าพื้นๆ
        บ้านแบบฝรั่งจ๋า เมืองไทยไม่เคยเห็นแบบนี้แสดงว่าเจ้าของน่าจะเคยศึกษาอยู่ในยุโรป  หรือมีหัวทางวัฒนธรรมตะวันตกเอามากๆ
        สถาปนิก - ดิฉันสงสัยว่าอาจจะเป็นคุณหลวงบุรกรรมโกวิท

       บ้านคุณขวัญแก้ว อยู่ริมซอยร่วมฤดี ใกล้โบสถ์มหาไถ่ค่ะ   ไม่ใช่บ้านนี้   เป็นบ้านสองชั้น ไม่หรูหราขนาดนี้
       คุณนวรัตนน่าจะรู้ว่าบ้านใคร   หลอกให้ทายเป็นคุ้งเป็นแคว      ช่างเถอะ  ผิดก็ผิด อย่างมากก็...


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 03 ก.ย. 10, 10:23
งานนี้ อาจารย์เทาชมพูได้เต็ม 100 คะแนนแน่ ๆ
ดิฉันเป็นเด็กช้อนลูกน้ำแถวถนนวิทยุ (กับสถานทูตอเมริกา)
แถบที่จะไปออกเพลินจิต อย่างที่เคยเล่าไว้ ว่า แถวสวนฝรั่ง จำได้แต่ตัวบ้าน แต่ไม่รู้เจ้าของค่ะ

จากข้อมูลของอาจารย์เทาชมพู เอามาปะติด ปะต่อ เดา ๆ ดู น่าจะเป็นบ้านที่เกี่ยวข้องกับวังวิทยุ

ถ้าไม่ใช่บ้านของ พระองค์เจ้าเยาวภา วงศ์สนิท ก็น่าจะเป็นของ ม.จ.สนิทประยูรศักดิ์ หรือ ม.จ.จารุลักษณ์กัลยานี

เพราะวังของกรมหลวงเพชรบุรี "วังคันธาวาส" ก็กลายเป็น ร.ร. อิมพีเรียล และ ปัจจุบันกลายเป็น Plaza Attinee ไปหมดแล้ว เอารูปมาให้ดูค่ะ




กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 03 ก.ย. 10, 10:51
เอารูปหลังวังมาให้ดูกัน หลังไหนดีละคะอาจารย์เทาชมพูขา

คนให้การบ้าน ใจแข็งจัง ยังไม่ยอมเฉลย
เดี๋ยวจะไปธุระ บ่าย ๆ หรือเย็น ๆ จะมาตามล่าอีกรอบ หากกลับมาได้ทันนะคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 11:04
ดูแผนที่ไม่ออก (ตามเคย) ค่ะ      ถ้าหาซอยร่วมฤดีเจอก็บอกได้ว่าอยู่ติดซอยค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 ก.ย. 10, 11:19
ระหว่างรอคำตอบ มาผ่อนคลายกับบรรยากาศสบายๆกันบ้างครับ แถวนี้ลมเย็น อากาศสะอาด ปลอดโปร่งมาก พอดีนั่งเรือมาช้อนลูกน้ำแถวนี้ "ที่ไหนครับ"


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 11:25
แต่ละรูปที่คุณไซมีสไปหามา   เหมือนเงาในน้ำ เห็นแต่จับไม่ติดว่าที่ไหน 
เพื่อป้องกันตัวจากอาการหลอน จะลากเม้าส์ผ่านไป เปิดทางให้เซียนทั้งหลายเหยียบเมฆลงมาทายกัน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 03 ก.ย. 10, 12:23
^
^

วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ บางปะอินครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 03 ก.ย. 10, 12:46
อ้างถึง
บ้านแบบฝรั่งจ๋า เมืองไทยไม่เคยเห็นแบบนี้แสดงว่าเจ้าของน่าจะเคยศึกษาอยู่ในยุโรป  หรือมีหัวทางวัฒนธรรมตะวันตกเอามากๆ
        สถาปนิก - ดิฉันสงสัยว่าอาจจะเป็นคุณหลวงบุรกรรมโกวิท

อ้างถึง
จากข้อมูลของอาจารย์เทาชมพู เอามาปะติด ปะต่อ เดา ๆ ดู น่าจะเป็นบ้านที่เกี่ยวข้องกับวังวิทยุ

ถ้าไม่ใช่บ้านของ พระองค์เจ้าเยาวภา วงศ์สนิท ก็น่าจะเป็นของ ม.จ.สนิทประยูรศักดิ์ หรือ ม.จ.จารุลักษณ์กัลยานี

คำตอบของทั้งสองท่านถือว่าสุดยอด สมคำร่ำลือว่าเป็นเซียนช้อนลูกน้ำอยู่ในย่านนี้จริงๆ ผมไม่หวังจะเอามาทายคนอื่นหรอกครับ มันเกินความรู้ระดับปริญญาเอกไปแล้ว ก็ผมซึ่งเป็นผู้ถามแท้ก็ยังไม่รู้เลย นี่เปิดตำรามาว่ากันสดๆ
เจ้าของบ้านนี้คือท่านหญิงจารุลักษณ์กัลยานี (รังสิต) บูรณานนท์ พระธิดาของสมเด็จกรมพระยาชัยนาทนเรทรเจ้าของวังวิทยุพระองค์จริงนั่นแหละครับ เดี่ยวนี้น่าจะเหลือหม่อมเจ้าหญิงอีกไม่กี่องค์แล้ว แต่น่ายินดี ผมทราบว่าท่านหญิงทรงมีสุขภาพแข็งแรงและความจำยังดีอยู่ครับ
สถาปนิกผู้ออกแบบบ้านนี้เป็นฝรั่ง ชื่อชาร์ล เบเกอแลง

ที่เคยถามผมว่า บ้านหลังนี้อยู่หลังบ้านท่านปิยะหรือเปล่า ผมเรียนไปว่าไม่ทราบ ก็ไม่ทราบจริงๆแหละครับว่าอยู่หน้าหลัง หรือข้างไหน แต่เห็นซักใกล้เข้ามาแล้วก็เลยไม่ใบ้ต่อ ก็ตามคาด ท่านดักทางเอาจนเจอเหมือนกัน

เก่งครับ เก่งจริงๆ



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 12:48
ชื่อกระทู้คือบางกอก
คุณไซมีสเล่นพานั่งเรือไปถึงบางปะอิน   แบบคนดูไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวเจ้าค่ะ ท่านประธาน เลยจำหน้าตาวัดไม่ได้

เอารูปนี้มาเอาคืนบ้างดีกว่า
ที่นี่ที่ไหน
บ้านหลังโอฬารตรงส่วนล่างของภาพ คือบ้านใคร


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 13:06
ขอบคุณสำหรับคำเฉลยค่ะ
คืนนี้คงนอนหลับสนิท


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 03 ก.ย. 10, 13:06
เดินหาอะไรกินอยู่แถวซอยร่วมฤดีนานมากเหมือนกันค่ะ

ร้านสารพัดสั่งที่ท้ายซอยที่ออกไปซอยโปโลเป็นที่พึ่ง

ไก่ร้านกีข้างโรงพัก

ร้านแพงที่ชื่อเหมือนมนุษย์อวกาศ

ร้านขนมไทยที่ปากซอยมีขนมถ้วยเล็กๆ  ขนมใส่ไส้แสนอร่อย

มีคนเล่าว่า บ้านมงคลนาวินก็อยู่ซอยนี้แต่ไม่ทราบหลังไหน

เคยไปวังวิทยุ ๒ ครั้ง    ครั้งหนึ่งได้ประทานน้ำชาและขนมพลัมเค้กที่อร่อยที่สุดในชีวิต  ฟาดเสีย ๓ ชิ้น
อีกครั้งหนึ่งขึ้นไปเฝ้าท่านชายกับหม่อมยาย  ไม่ทันจะได้ดูมหาสมบัติแต่อย่างใดเพราะห้องโถงค่อนข้างมืด
สายตารู้จักแต่หนังสือ

ท่านผู้มีอาวุโสแวะมาซักไซ้ว่าได้เข้าวังจริงหรือ
ไปนั่งตรงไหน  กินขนมที่ไหน
ตอบว่าระเบียงหน้า  และเข้าประตูหน้าขึ้นไปเฝ้าชั้นบน
ท่านตำหนิว่า  ไม่มีใครเข้าประตูหน้าหรอกเธอ
อ่าว....
ท่านให้ข้าหลวงมาเชิญนี่  ไปแบบเป็นแขกรุ่นจิ๋ว  ไม่ได้เป็นชาววังอย่างพี่ๆนี่จะได้เข้าประตูข้าง

ความจำของสาวน้อยมากับอาหารเสมอค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 ก.ย. 10, 13:45
^
^

วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ บางปะอินครับ
ชื่อกระทู้คือบางกอก
คุณไซมีสเล่นพานั่งเรือไปถึงบางปะอิน   แบบคนดูไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวเจ้าค่ะ ท่านประธาน เลยจำหน้าตาวัดไม่ได้

เอารูปนี้มาเอาคืนบ้างดีกว่า
ที่นี่ที่ไหน
บ้านหลังโอฬารตรงส่วนล่างของภาพ คือบ้านใคร


อาจารย์สองท่านครับ ดูดีๆนะครับ อย่างเพิ่งหลงประเด็นไปอยุธยา หาได้ใช่วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ ++ เมื่อครั้งก่อนไปช้อนลูกน้ำแถวนี้จริงๆ นั่งเรือไปด้วยครับ ยืนยันว่า ปัจจุบันนี้อยู่บางกอกครับ  ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 03 ก.ย. 10, 13:56
อาจารย์ทั้งหลายเจ้าขา ภาพ 326 นั่นเป็นวัดนิเวศน์ธรรมประวัติแน่หรือคะ
ไม่เห็นโครงสร้างจะเหมือนกันตรงไหนเลยค่ะ
อีกทั้งเจ้าของการบ้าน เจตนาจะปิดจะบังอย่างไรชอบกล ไม่ให้เห็นครบทั้งหมด
มีวัดไทยอยู่ในวริเวณเดียวกันด้วย น่าสงสัยมาก
ลองดูจากรูปวัดนิเวศฯ บางปะอินในปัจจุับันนะคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 ก.ย. 10, 13:58
งานนี้ อาจารย์เทาชมพูได้เต็ม 100 คะแนนแน่ ๆ
ดิฉันเป็นเด็กช้อนลูกน้ำแถวถนนวิทยุ (กับสถานทูตอเมริกา)
แถบที่จะไปออกเพลินจิต อย่างที่เคยเล่าไว้ ว่า แถวสวนฝรั่ง จำได้แต่ตัวบ้าน แต่ไม่รู้เจ้าของค่ะ

จากข้อมูลของอาจารย์เทาชมพู เอามาปะติด ปะต่อ เดา ๆ ดู น่าจะเป็นบ้านที่เกี่ยวข้องกับวังวิทยุ

ถ้าไม่ใช่บ้านของ พระองค์เจ้าเยาวภา วงศ์สนิท ก็น่าจะเป็นของ ม.จ.สนิทประยูรศักดิ์ หรือ ม.จ.จารุลักษณ์กัลยานี

เพราะวังของกรมหลวงเพชรบุรี "วังคันธาวาส" ก็กลายเป็น ร.ร. อิมพีเรียล และ ปัจจุบันกลายเป็น Plaza Attinee ไปหมดแล้ว เอารูปมาให้ดูค่ะ


ถ้าพื้นที่ปัจจุบันใกล้เคียงกับโรงแรม พลาซ่า ฯ แล้ว ควรจะเป็นวังคันธาวาส ตามที่คุณร่วมฤดี อ้างถึงได้กระมังครับ



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 03 ก.ย. 10, 14:01
ชนกันกลางอากาศกับเซียน Siamese พอดี ดีใจจังค่ะ มีคนเห็นเหมือนกันว่าไม่ใช่วัดนิเวศ

หาภาพสนับสนุนไม่ได้ว่าเป็นวัดอะไร ริมแม่น้ำแน่ ๆ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 14:09
บ้านมงคลนาวินมีอาณาเขตติดทั้งสองซอย  คือเข้าประตูหน้า ก็เข้าทางซอยร่วมฤดี 4  แต่ถ้าออกประตูหลังจะออกทางซอย 3  ค่ะ

นึกก่อนว่าวังวิทยุ มีอะไรบ้าง เมื่อเข้าไปช้อนลูกน้ำในนั้น
อย่างแรกที่จำได้คือมีสระบัวอยู่ข้างวัง     และอย่างที่สองมีสวิมมิ่งพูล  ในยุคที่หัดว่ายน้ำต้องไปที่สนามกีฬา  ตามบ้านทั่วไป  ผู้คนต่อให้รวยยังไงก็ไม่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว  
สวิมมิ่งพูลที่นั่นสร้างบนเนินเล็กๆ พูนดินสูงขึ้นมาจากสนาม เป็นสระรูปไข่บุกระเบื้องสีฟ้าอมเขียวเห็นน้ำใสแจ๋ว     ไม่ใหญ่โตนัก แต่ก็พอที่เด็กๆจะว่ายไปมาได้    เราถูกกำชับไม่ให้ทำไอศกรีมโคนหยดไปในน้ำเพราะจะต้องถ่ายน้ำทั้งสระ ยุ่งยาก  ก็ได้แต่ไปยืนดู แต่ไม่ได้ลง
จำอาหารการกินไม่ได้ค่ะ   จำได้แต่เครื่องฉายหนังอย่างที่บอกไว้

จำได้อีกอย่างคือทางรถไฟช่องนนทรี   ถ้าเดินจากเพลินจิตก็จะไปถึงคลองเตยได้  
ทางรถไฟทำให้บริเวณนั้นโล่งกว้าง สว่างไสวลมพัดแรงเหมือนอยู่ในชนบท  มีคูน้ำกว้างขนาบอยู่ทั้งสองข้าง แออัดไปด้วยผักตบชวา ชูช่อกสีม่วงอ่อน มันมีแววเหมือนหางนกยูงอยู่ในกลีบดอก    
ตอนเย็นๆชาวบ้านออกมาเดินเล่นนั่งเล่นกันอยู่บนรางรถไฟ  โดยไม่กลัวรถไฟจะมา     ถ้ามาเขาจะเปิดหวูดมาแต่ไกล   คนก็หลบลงข้างทางซึ่งกว้างมาก    พอรถไฟไปก็กลับมาเดินเล่นได้ตามเดิม      มันดูคล้ายสวนสาธารณะเล็กๆที่ผู้คนซึ่งส่วนใหญ่มาจากบ้านเล็กบ้านน้อยริมซอยสุขุมวิท 2   ออกมาหายใจกัน     บางวันดิฉันก็ไปเดินช้อนลูกน้ำอยู่แถวนั้นเหมือนกัน


อ้าว ไม่ใช่วัดนิเวศธรรมประวัติ    เพล้ง!
ขอโทษคุณ Siamese ด้วยค่ะ    ท่านกูรูใหญ่พาดิฉันออกนอกทางไปบางปะอิน   จนหลงกลับกรุงเทพไม่ถูกซะแล้ว


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 14:15
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3462.0;attach=13880;image)

ซอยร่วมฤดีอยู่ตรงไหนคะ?

หวังว่าจะรู้ชื่อวัดก่อนห้าทุ่มนะคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 03 ก.ย. 10, 14:17
เพล้ง

เอ้ย

โป๊ก....โป๊ก.....โป๊ก

สามทีพอมั้ง เดี๋ยวฆ้อนหัก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 ก.ย. 10, 14:38
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3462.0;attach=13880;image)

ซอยร่วมฤดีอยู่ตรงไหนคะ?

หวังว่าจะรู้ชื่อวัดก่อนห้าทุ่มนะคะ

ซอยร่วมฤดี แต่ก่อนคงร่มรื่น ตามแนวเส้นที่ทำไว้ให้ เป็นแนวทิวต้นสนสวยงามครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 03 ก.ย. 10, 14:57
ตอบภาพ 326 ค่ะ ด้วยภาพข้างล่างนี้ค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 03 ก.ย. 10, 15:02
^^ อธิบายภาพข้างบนค่ะ

งานญาติสมาคมซึ่งจัดเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.๒๔๕๔ หรือ ร.ศ.๑๓o โดยท่านเจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร)
เป็นประธาน (นั่งเก้าอี้ด้านซ้ายสุด) นับว่าเป็นการรวมสมาชิกสายสกุลบุนนาค ครั้งใหญ่ที่สุด ณ วัดประยุรวงศาวาส
ด้านหน้าอาคารทรงโกธิค ชื่อ พรรณาคาร ภายหลังอาคารหลังนี้ ได้ถูกระเบิดทำลายในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา

ท่านเจ้าของการบ้านบอกว่าอยู่ริมน้ำ แต่น้ำตรงนี้ ช้อนลูกน้ำไม่ได้นะคะสมาชิกทั้งหลา่ย
สกุลบุนนาค มีสมาชิกรับราชการเป็นทูตกันมาก และ เป็นคนไทยรุ่นแรก ๆ ที่ได้ไปยุโรป
ท่านจึงนิยมสถาปัตยกรรมของยุโรปค่ะ แม้แต่ Chanderlier (สะกดไม่แม่นนะคะ)
ม.ร.ว.คึกฤทธิ์เคยล้อท่านเจ้าพระยาบรมมหาสุริยะวงศ์ว่า
สั่งซื้อมาใหญ่โตจนเอาเข้าบ้านไม่ได้ ต้องถวายไว้ที่พระที่นั่งอัมรินทร์วินิจฉัย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 03 ก.ย. 10, 15:09
อาจารย์เทาชมพูถามเรื่องบ้านตรงกลางภาพ เลยตัดมาให้ดูค่ะ วังคันธาวาสจริง ๆด้วย
นักช้อนลูกน้ำขอยกนิ้วให้คุณ Siamese
ระดับนี้ ไม่ได้มาเหนือเมฆแล้ว นี่อยู่เหนือ Galaxy ทีเดียว


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 15:11
จอมกระบี่ปราบเซียนท่านเล่นเอาอาคารบ้านช่องที่ราพณาสูรไปแล้วมาทาย    คนทายจะเหลืออะไรล่ะคะ  โธ่
ขอบคุณคุณร่วมฤดีที่มาช่วยฉีดวัคซีนป้องกันอาการหลอนค่ะ

เอารูปเดิมของถนนเพลินจิตที่คุณ Siamese ไขคำตอบไว้ มาเล่าแยกซอยอีกครั้ง
ร่องรอยของต้นสนใหญ่ที่เพลินจิต  ยังมีให้ดิฉันเห็นได้เมื่อช้อนลูกน้ำอยู่แถวร่วมฤดี    คือต้นสนที่ซอยต้นสน  ซึ่งอยู่ระหว่างถนนหลังสวนกับถนนวิทยุ    เป็นสนขนาดใหญ่มาก  ไม่รู้เรียกว่าสนทะเลหรืออะไร  รู้แต่ว่าสูงประมาณบ้านสี่ห้าชั้นขึ้นไป
เดี๋ยวนี้ผ่านไปทางเพลินจิต มองเห็นแต่อาคารสูง  มองไม่เห็นต้นสน ไม่รู้เหลืออยู่มากน้อยแค่ไหน

รูปที่นำมาลงคงถ่ายไว้มากกว่า 60 ปี    เพลินจิตเป็นถนนชานเมืองที่ร่มรื่นมาก  บางส่วนก็ยกร่องเหมือนสวนผัก อย่างในวงกลม A      มีบ้านใหญ่ปลูกอยู่ห่างๆกันในเนื้อที่กว้างขวาง    ตามที่ดิฉันวงกลมเอาไว้    
ไม่รู้ว่าบ้านเหล่านั้นยังเหลืออยู่ไหม   เดาว่าไม่เหลือแล้ว
บ้านที่น่าสนใจคือบ้าน E  ดูจากที่ตั้งน่าจะอยู่ใกล้คลองแสนแสบ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 ก.ย. 10, 15:12
ต้องปรบมือดังๆให้กับคุณ Ruamrudee มากๆที่ตอบได้ถูกต้อง นอกจากนี้แล้วกลางภาพที่เห็นพุ่มๆ คือ เขามอ (เขาเต่า)
สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ สร้างภูเขาจำลองนี้ขึ้นโดยได้แนวคิดเกี่ยวกับเค้าโครงของภูเขาจำลองมาจาก "หยดเทียนขี้ผึ้ง " ที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ได้พระราชทานแก่สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ หยดเทียนขี้ผึ้งนี้เกิดจากน้ำตาเทียนที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงจุดขณะเมื่อประทับอยู่ในห้องลงพระบังคนหนัก น้ำตาเทียนหยดทับถมกันเป็นเวลาหลายปีจนก่อรูปเหมือนภูเขา  สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ จึงนำเค้าโครงของหยดเทียนขี้ผึ้งนี้มาเป็นแบบสำหรับสร้างภูเขาจำลอง   สระน้ำที่ล้อมรอบภูเขาจำลองเต็มไปด้วยเต่า และตะพาบน้ำ ที่มีผู้นำมาปล่อยไว้แต่นานมาแล้ว ประชาชนนิยมพาบุตรหลานมาเที่ยวเล่นบริเวณภูเขาจำลองเพื่อให้อาหารแก่เต่าและตะพาบน้ำ ภูเขาจำลองเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อว่า "ภูเขาเต่า" เนื้อที่ทั้งหมด บริเวณภูเขาจำลองมีความยาว ๔๘ เมตร กว้าง ๔๒ เมตร


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 15:13
งั้น B คือวังคันธาวาส


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 15:21
หอสูงในภาพของคุณไซอามีสช่างละม้ายคล้ายคลึงกับของวังพญาไทเสียนี่กระไร

ถึงไม่ใช่ก็น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกันอยู่บ้าง

 ???


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 03 ก.ย. 10, 15:30
อาจารย์เทาชมพูคะ สนที่เห็นเป็นแนวนั้น ไม่ใช่ซอยต้นสนค่ะ
แต่เป็นสนล้อมบ้านหรือวัง แถว ๆ สถานทูตเบลเยี่ยมและวังวิทยุนี่แหละค่ะ
จำได้ติดตา เพราะบ้านดิฉันในซอยร่วมฤดี ก็ปลูกไว้เป็นแนวที่ดิน
สมัยก่อน เราไม่ทำรั่วกัน ชามกับข้าว ถ้วยขนม ทั้งแกง ทั้งผลไม้
จะได้ข้ามไปแบ่งปันเพื่อนบ้านกันได้ง่าย ๆ ค่ะ
 
ลมพัดเย็นชื่นใจพร้อมกับเสียงต้นสนโบกไปมา เป็นสิ่งที่ตรึงใจมาก

ทางรถไฟสายช่องนนทรีย์ สมัยก่อน เตียนโล่งและได้ยินเสียงรถไฟทุกขบวนดังเข้าไปถึงห้องนอนในซอยร่วมฤดีค่ะ
ริมทางรถไฟนี่เอง มีคนเอาปลาเงินปลาทอง มาเพาะเลี้ยงในโอ่ง เรียงไว้ข้างทาง เป็นต้นกำเนิดกิจการ ช้อนลูกน้ำไงคะ
ไม่น่าเชื่อว่า รุ่นอาจารย์เทาชมพู อาจารย์วันดี อาจารย์ Navarat จะสนใจกิจการนี้ด้วย

สำหรับเซียน Siamese นั้น ขอกระซิบดัง ๆ ว่า เพราะเห็นเขามอในวัดประยูรนั่นแหละค่ะ
จึงมั่นใจเลยว่า วัดประยูรแน่ อีกทั้งอยู่ริมน้ำด้วย

คุณลุง Srisiam (คู่กับแหม่มสีหรือเปล่าไม่ทราบ) คะ
กระทู้คุณลุง ไม่ใช่ของเล่น ๆ นะคะ แต่ละท่านมีภูมิรู้มากมาย
อธิบายภาพเป็นความรู้ดีมากเลยค่ะ

ขอเรียนเชิญท่านที่ผ่านไปมา หากจะแวะมาร่วมวงกัน ก็ขอให้มาพร้อมสารคดีเยอะ ๆ นะคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 15:46
        อ้าว จริงหรือ?  มองจากห้องนอนชั้น 2  เห็นมันเป็นแนวยาว  ตระหง่านอยู่ไกลลิบเลยนะคะ   นึกว่าเป็นสนจากซอยต้นสนตลอดมา 
        กิจการช้อนลูกน้ำเพิ่งทำเป็นล่ำเป็นสันในกระทู้นี้เองค่ะ   ส่วนกิจกรรมริมทางรถไฟมักเป็นสำรวจทางเสียละมาก    หน้าว่าว  เด็กๆแถวนั้นก็เล่นว่าวกันริมทางรถไฟ
   สองข้างทางรถไฟเป็นที่โล่งกว้างลมพัดแรง ทำให้บ้านของดิฉันแค่เปิดหน้าต่างก็ลมพัดเข้าตึงๆ เหมือนกลางแจ้ง   ไม่ต้องใช้แอร์หรือพัดลม    บ้านแต่ละบ้านก็มีเนื้อที่ห่างกันพอประมาณ  ไม่บังลมกัน  ทำให้ได้รับลมตลอด
       คุยเพลิน เกือบลืมเอารูปปัจจุบันมาเทียบให้ดู     คุณร่วมฤดีช้อนลูกน้ำอยู่ตรงไหนคะ  ดิฉันยังหาที่ช้อนของตัวเองไม่เจอ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 ก.ย. 10, 15:58
หอสูงในภาพของคุณไซอามีสช่างละม้ายคล้ายคลึงกับของวังพญาไทเสียนี่กระไร

ถึงไม่ใช่ก็น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกันอยู่บ้าง

 ???

เรียนคุณเพ็ญชมพู ลักษณะอาคารโดมสูง มองผ่านตาแล้วดูลักษณะสถาปัตยกรรมใกล้เคียงกันมาก แต่ถ้าดูจริงๆแล้วต่างกันในองค์ประกอบของศิลปะ กล่าวคือ อาคารพรรณาคาร ก่อสร้าง ร.ศ.๑๑๕ ด้วยศิปละแบบโกธิก ส่วนพระราชวังพญาไทเริ่มสร้าง ร.ศ. ๑๒๘ ด้วยศิลปะผสมโรมันเนกส์กับโกธิก ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 16:01
เมื่อเซียนมาชุมนุมกัน ก็ต้องขยันหาของดีของงามมาไหว้เซียน

ที่ไหน  และปัจจุบันเป็นอย่างไรคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 ก.ย. 10, 16:24
โจทย์จากอาจารย์เทาชมพู ข้อนี้ง่ายครับ มองปร๊าดเดียว เห็นรองเท้าเกี๊ย กับตู้พร้อมจานขายพลอย เล็งไปที่สำเพ็ง ย่านวัดเกาะเลยครับ เป็นแหล่งค้าขายอัญมณีตั้งแต่ในภาพ จนปัจจุบันนี้ก็ยังคงอนุรักษ์อยู่ เป็นชาวอินเดียที่อาศัยร่วมกันอย่างลงตัว ร้านยังคงเหมือนเดิม แต่พื้นถนนได้ปูกระเบื้องสีแดงอย่างดี พร้อมเสาไฟสีเขียวของ กทม สวยงามน่าเดินเป็นที่ยิ่ง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: somsak_nong ที่ 03 ก.ย. 10, 16:25
ถ้าเป็นไปได้ ยากย้อยเวลาไปสัก 50 ปี จะได้มองเห็นต้นไม้บ้าง  ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: somsak_nong ที่ 03 ก.ย. 10, 16:26
ต้นไม้ยังขึ้นพรึบ ปัจจุบัน ไม่มีแล้ว มีแต่ต้นไม้ที่เป็นเกาะกลางถนน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 16:35
อุ้มลูกหมูมาให้คุณ siamese หันเอาแท้ๆ

ขอบคุณด้วยภาพประวัติศาสตร์ของสำเพ็ง จากบล็อคโอเคเนชั่น
พระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลรัชกาลที่ ๘  และรัชกาลที่ ๙  เสด็จสำเพ็งเมื่อ ๓ มิถุนายน ๒๔๘๙

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/95/95/images/17_2_53MyKing/2kings.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 ก.ย. 10, 16:42
ขอบคุณครับอาจารย์เทาชมพู ฝากภาพย่านวัดเกาะ ให้ชมครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 ก.ย. 10, 16:49
เสด็จสำเพ็ง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 17:01
ไม่เห็นเค้าเลยค่ะ  ชอบบรรยากาศแบบเดิมมากกว่าหลายเท่า   เห็นแล้วน่าจะตามแม่มณีและคุณหลวงเทพไปเดิน

เริ่มคำถามโหดละนะ
ผู้หญิงคนนี้เป็นใครคะ?


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 17:34
ภาพที่ 357 ถ่ายจากมุมสูง  เจ้าของภาพถ่ายมาจากชั้นบนของอาคารหรือคะ   

เท่าที่ทราบ จะไม่มีช่างภาพของราชสำนักถ่ายภาพจากที่สูงกว่าพระมหากษัตริย์


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 ก.ย. 10, 20:34
ขอทายว่า "เจ้าจอมสดับ"


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 20:52
ที่ถามเพราะไม่ทราบว่าสตรีในชุดวิกตอเรียนตอนปลาย เป็นใคร  ถ้าเป็นเจ้าจอมสดับก็น่าอัศจรรย์มาก  ไม่เคยเห็นท่านในภาพนี้  และทำให้สงสัยว่าท่านเคยตามเสด็จไปต่างประเทศด้วยหรือ    ชุดนี้ไม่ได้สวมในสยาม แน่นอน

(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=729451&stc=1&d=1256304979)

คนเดียวกันหรือเปล่าคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 21:13
เอารูปมาเทียบกัน  ขอเชิญท่านสมาชิกเป็นกรรมการตัดสิน  ว่าคนเดียวกันหรือเปล่าคะ?
ดิฉันยังลังเลอยู่


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 21:18
เทียร่าของเจ้าจอมสดับ  ในรูปนี้ ดิฉันเคยเห็นพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงอยู่องค์หนึ่ง
รูปร่างเหมือนกันเลย
คุณนวรัตน กับคุณวีมี จำได้ไหมคะ

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานเครื่องเพชรให้เจ้าจอมสดับไว้มาก     เพื่อเป็นรายได้ให้คนนำไปเช่าสวมออกงาน เหมือนอย่างในยุโรปทำกัน
แต่พอสิ้นรัชกาล เจ้าจอมท่านก็ถวายสมเด็จพระพันปี เพื่อสมทบสร้างร.พ.จุฬา


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 22:14
ติดใจการแต่งกายของเจ้าจอมสดับในรูปนี้  เป็นเสื้อลูกไม้ที่สวยมาก 
พยายามถอดรหัสออกมาว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง

ท่านสวมเครื่องประดับคอ แบบควีนอเลกซานดราของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ ๗ คือสร้อยร้อยกันหลายๆชั้นแบบติดคอ   เรียกว่า choker  นิยมทำด้วยไข่มุก
ส่วนสร้อยเพชร ไทยเรียกว่าสร้อยระย้า   ดูรูปแบบ  น่าจะซื้อมาจากยุโรป คราวเสด็จประพาสครั้งที่ ๒
เครื่องราชจุลจอมเกล้า มองไม่ถนัดว่าชั้นไหน  ต้องขอแรงคุณวีมี
กำไลข้อมือขวาน่าจะเป็นกำไลทองรูปตะปูสองดอก อันเลื่องลือ   ที่มีคำกลอนพระราชนิพนธ์จารึกอยู่


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 ก.ย. 10, 22:24
ฝากไว้ให้คิดครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 22:34
เป็นกำไลสวมทับถุงมือยาว ค่ะ
น่าคิดว่าอันเดียวกันหรือเปล่า


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 03 ก.ย. 10, 22:42
ผมก็จะไปหารูปมายันบ้างแหละครับ แต่ดูสิครับ ไปหาอย่างหนึ่งไปกลับได้อีกอย่างหนึ่ง ไม่งั้นตอนนั้นก็คงเอามายันคุณหนุ่มสยามได้แล้ว


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 22:43
เพิ่งดูออกว่า ในรูปทั้งสองนี้  ท่านสวมเครื่องเพชรชุดเดียวกัน แต่ว่าใส่สลับกันได้
เทียร่าในรูปแรก นำมาเป็นสร้อยคอในรูปที่สองได้
และสร้อยคอในรูปแรก ก็นำมาเป็นเทียร่าในรูปที่สองได้เช่นกัน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 03 ก.ย. 10, 22:50
^
^
ได้แต่ดูตามด้วยความทึ่ง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 ก.ย. 10, 22:56
กำไลมาศชาตินพคุณแท้  ไม่ปรวนแปรเป็นอื่นย่อมยืนสี

เหมือนใจตรงคงคำร่ำพาที  จะร้ายดีขอให้เห็นเป็นเสี่ยงทาย

ตาปูทองสองดอกตอกสลัก   ตรึงความรักรับไว้อย่าให้หาย

แม้นรักร่วมสวมใส่ไว้ติดกาย   เมื่อใดวายสวาสดิ์วอดจึงถอดเอย



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 23:04
สร้อยเพชร/เทียร่าที่เป็นรูปแฉกในรูปคุณจอมสดับ น่าจะเป็นสร้อยพระศอและรัดเกล้าที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ  เคยทรงในโอกาสสำคัญ เช่นในงานราตรีสโมสรเมื่อมีพระราชอาคันตุกะ หลายครั้งด้วยกัน    เสียดายดิฉันยังหาพระบรมฉายาลักษณ์ไม่พบ   ขอฝากให้ช่วยหากันด้วย
แสดงว่าเมื่อเจ้าจอมสดับถวายเครื่องเพชรให้สมเด็จพระพันปี นำไปสมทบทุนสร้างโรงพยาบาลจุฬา   มีข่าวว่าเครื่องเพชรเหล่านั้นถูกขายกลับไปยุโรป เพื่อนำเงินมาสร้างร.พ.    แต่อย่างน้อยเราก็รู้ว่าสร้อยเพชร/เทียร่าชิ้นนี้ ไม่ได้ถูกขาย  ยังอยู่เป็นพระราชทรัพย์   จึงตกทอดมาถึงรัชกาลปัจจุบัน

กำไลทองนี่แหละค่ะ พร้อมกลอนรักที่จับใจที่สุดชิ้นหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 ก.ย. 10, 23:07
ทันใจอาจารย์เทาชมพู ไหมครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 03 ก.ย. 10, 23:10
ถึงตอนนี้แล้ว เห็นทีผมก็ขอลาจรละครับ
.
.
คืนนี้ไม่หลอนแล้ว


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 10, 23:12
รวดเร็วกว่ากามนิตหนุ่ม   เร็วปานความไวแสงทีเดียวค่ะ
หมดข้อข้องใจเรื่องสร้อยเพชร/เทียร่าแล้ว    เหลือแต่รูปสตรีปริศนา 
คืนนี้จะหลอนรึเปล่า ต้องดูกันพรุ่งนี้


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 06:34
เอามาฝากคุณร่วมฤดีเฉยๆครับ ไม่ได้ทาย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 06:35
2


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 06:36
3


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 06:37
ภายในพระตำหนัก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 06:39
รูปสุดท้ายครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 04 ก.ย. 10, 06:50
กราบขอบพระคุณอาจารย์ Navarat ค่ะ รูปจากหนังสือ "ไปเมืองนอกครั้งแรก" ใช่ไหมคะ

เอารูปมาฝากอีกรูปค่ะ อันนี้เป็นรูปที่เอามาตามหาผู้รู้นะคะว่า เป็นรูปที่ไหน

เพราะดิฉันก็ไม่ทราบค่ะ ดูคุ้น ๆ ตา แต่ก็แปลกออกไปมาก



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 04 ก.ย. 10, 07:05
ภาพข้างบน คล้ายพระรูปทรงม้ามาก แต่ก็ไม่เหมือน และไม่ใช่ ใครทราบบ้างว่า เป็นรูปที่ไหน จะเห็นธงรูปช้างเผือกอยู่ด้วย แปลว่า เป็นภาพในสมัย ร.5 แน่นอน

และรูปข่างล่างนี้ เอามาฝากอาจารย์ Navarat เป็นการตอบแทน เป็นวังของเจ้าของเดียวกับวังวิทยุ แต่ไม่ใช่วังวิทยุนะคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 04 ก.ย. 10, 07:06
ขอตอบการบ้านในความเห็นที่ ๓๖๔ ครับ

ในภาพคุณจอมท่านประดับตราจุลจอมเกล้า ชั้นที่ ๒ "ทุติยจุลจอมเกล้า"  ที่ได้รับพระราชทานเมื่อวันที่  ๑๖  พฤศจิกายน  ร.ศ. ๑๒๕ (พ.ศ. ๒๔๔๙)

เรื่องเครื่องเพชรที่คุณจอมถวายสมเด็จพระพันปีเพื่อสมทบสร้างโรงพยาบาลจุฬา,งกรณ์นั้น  เห็นที่สมเด็จพระพันปีหลวงจะทรงรับไว้แล้วพระราชทานป็นเงินสมทบการก่อสร้างในนามคุณจอม  เครื่องเพชรชุดนี้จึงได้เป็นพระราชมรดกมาถึงล้นเกล้าฯรัชกาลที่ ๖  แล้วจึงตกทอดเป็นพระราชมรดกกันมาถึงปัจจุบัน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 04 ก.ย. 10, 07:25
ตอบความเห็นที่ ๓๘๐ ครับ

ซุ้มนั้นเป็นซุมรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินกลับจากประพาสยุโรปครั้งที่ ๒

ซุ้มนี้อยู่ที่พระลานพระราชวังดุสิต  เป็นการจำลองว่าต่อไปจะมีพระบรมรูปทรงม้า  แต่จำไม่ได้ว่ากระทรวงใดเป็นผู้คิดทำขึ้น


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 07:31
(อ้าว ไม่เห็นของคุณวีหมี เลยขอกลับมาแก้ใหม่)

รูปนี้เป็นรูปซุ้มรับเสด็จบนถนนราชดำเนิน กระทรวงโยธาธิการสร้างถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯคราวเสด็จนิวัติพระนครจากยุโรปในครั้งที่สองครับ รูปปั้นข้างหน้าเป็นรูปเทวดาทรงม้า เพื่ิอจำลองพระบรมรูปทรงม้าที่กำลังจะสร้างขึ้นในบริเวณนั้น

รูปวังวิทยุเอามาจากหนังสือไปนอกครั้งแรกถูกแล้วครับ ส่วนรูปของคุณร่วมฤดีเป็นพระตำหนักเรือนไม้ หรือวังไม้ใช่ไหมครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 04 ก.ย. 10, 08:36
กระทรวงโยธาจัดทำซุ้มนี้ขึ้น เพื่อทดลองการวางภูมิทัศน์ของประตูทางเข้าสวนพระราชดุสิต อาคารด้านหลังจะวกวงกลม โอบล้อมอนุสาวรีย์นี้ไว้อย่างสวยงาม สำหรับตัวอนุสาวรีย์นี้ จัดทำในรูปแบบของเทวดา โดยเลือก "พระพฤหัส" เป็นเทพแห่งความรู้ ครูบาอาจารย์


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 04 ก.ย. 10, 08:49
รายงานสภาพบรรยากาศ Siamese100

ถนนราชดำเนินนอกมุ่งหน้าลานพระรูป การจราจรคล่องตัว สองข้างทางประดับธงธิวไสว ปักฉัตรแลธงสายตลอดถนนราชดำเนิน



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 04 ก.ย. 10, 08:56
พื้นที่ตรงนี้ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่ลานพระราชวังดุสิตหรือไม่ก็ในรั้วของพระที่นั่งอนันตสมาคม มองออกไปยังหางม้า  จะเห็นว่าสองข้างทางมีเสาไฟฟ้าและถัดไปเป็นเสาประดับเรียงรายทำเป็นรูปช้าง ๓ เศรียร ปักฉัตร ปลายงวงคล้องมาลัย ปักเป็นแนวดังเสานางเรียง ติดกันไปยาวตลอด น่าตื่นตายิ่งนัก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 04 ก.ย. 10, 09:01
เมื่อขบวนรถม้าพระที่นั่งกำลังเสด็จมากถึง เหล่าหหารม้ากองเกียรติยศ ต่างนำม้าเรียงแถวเข้ารับเสด็จ หลังรูปพระพฤหัสทรงม้า แต่มีเหตุขลุกขลักเล็กน้อย เนื่องด้วยลมแรงมาก ผ้าที่ขึงระหว่างหัวเสาช้างสามเศียรได้ขาดลงมา จึงต้องรีบนำสะพานไม้พาดขึ้นไป รีบประดับชายผ้าที่หลุดให้เข้าที่โดยไว


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 09:54
ขอบคุณสำหรับภาพเทวดา พระพฤหัสทรงกวางครับ เป็นความรู้ใหม่ของผมเหมือนกัน

ไหนๆคุณหนุ่มสยามเอาภาพรับเสด็จครั้งรัชกาลที่5มาลงไว้ ผมขอต่อให้จบทั้งชุดเลยสำหรับท่านที่ยังไม่เคยเห็นนะครับ


รูปแรก การแต่งซุ้มรับเสด็จตามอาคารริมแม่น้ำเจ้าพระยา นี่ที่ตึกโรงภาษี


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 09:58
ตรงนี้ เป็นห้างฝรั่งแห่งหนึ่ง น่าจะเป็นบริษัทอิสต์เอเซียติกครับ

สงสัยต้องถาม ที่นี่ที่หนาย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:01
ตามบรรยายในภาพครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:05
เสด็จงเรือพระที่นั่งลำเล็กเพื่อเข้าเทียบท่า


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:06
.


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:07
ซุ้มรับเสด็จอีกด้านหนึ่งครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:10
จากท่าราชวรดิษฐ์ เสด็จเข้าสู่พระบรมมหาราชวังก่อนครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:12
เสร็จพระราชพิธีภายในพระบรมมหาราชวังแล้วเสด็จออก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:16
เสด็จพระราชดำเนินประทับรถม้าพระที่นั่งเพื่อกลับไปยังพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:17
.


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:19
ภาพซุ้มแรกอีกมุมหนึ่งครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:20
2


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:22
3


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:23
.


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:24
4


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:25
5


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:26
6


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:28
7


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:29
9


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:30
ขบวนเสด็จพระราชดำเนิน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:36
10


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 10:38
11 ฉายซ้ำหน่อยนะครับ
ซุ้มสุดท้าย ก่อนเสด็จเข้าพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 04 ก.ย. 10, 10:39
ภาพที่อาจารย์ NAVARAT.C สงสัยคือท่าเรือบริเวณใด

ก็ขอบอกให้ชัดแจ้งว่า เป็นบริเวณท่าเรือวัดกัลว่าร์ (วัดพระแม่ลูกประคำ) หาใช่แถวบริษัท อีสฑ์เอเซียติ๊ก จำกัด ไม่ครับ (ช้อนลูกน้ำที่นี่ตั้งแต่เล็กๆ เลยจำได้ดี) อีกในภาพเห็นหลังคาโบสถ์ของวัดกัลว่าร์ชัดเจน แถวนี้เป็นแหล่งการค้าที่เฟื่องฟูมาก แถวตลาดน้อยไงครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 04 ก.ย. 10, 11:42
เข้าไปค้นหาคำตอบให้อาจารย์ NAVARAT.C ว่าทำไมถึงได้มีแหม่มฝรั่ง ชาวต่างชาติมากมายขนาดนี้ คงไม่ได้เป็นชุมชนชาวฝรั่งเป็นแน่ จึงได้หาในแผนที่ระวางหนึ่ง ซึ่งเจอคำตอบเป็นแน่แท้ว่า ณ บริเวณดั้งเดิมช่วงวัดกัลว่าร์ (ตรงที่ปักธง) เป็นสถานกงศุลต่างประเทศอยู่ ๒ แห่งคือ เยอรมันนี และ ออสโต-ฮังกาเรียน ครับ

เส้นขนาดเส้นใหญ่ คือ คลองผดุงกรุงเกษมด้านใต้ (ที่ออกมาทางริเวอร์ซิตี้) ส่วนเส้นขนาดเล็ก คือ ถนนเจริญกรุง มีสะพานทิพยเสถียร มีสถานีตำรวจครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 ก.ย. 10, 13:26
ขอขอบคุณคุณหนุ่มสยามด้วยภาพนี้ครับ