เรือนไทย

General Category => ชั้นเรียนวรรณกรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: Wandee ที่ 14 พ.ย. 10, 05:47



กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 14 พ.ย. 10, 05:47

       จากหนังสือ ที่ระลึก   ในงานพระราชทานเพลิงศพ

เมื่อวันที่ ๑๕  มีนาคม  พ.ศ. ๒๕๑๘



ชอุ่ม  ปัญจพรรค์ - แย้มงาม   เขียนถึง


กรคนสวย

       ฉันเป็นเด็กภูธรเข้ามาเรียนหนังสือกรุงเทพฯ      และเป็นเพื่อนเธอเมื่อสอบเข้าเตรียมอุดมศึกษา

แห่งจุฬาลวกรณมหาวิทยาลัยรุ่นแรก         เธอสวยจังเลย   สูงสง่า   ผิวอ่อนละเอียดสีนวลแตงร่มใบ

ใบหน้ารูปไข่   คางแฉล้ม       คิ้วเป็นปื้น        ผมของเธอก็ดำขลับ   มีชาร์มเก๋ด้วย       แขนเธอก็สวย

จริง ๆ         นัยน์ตาใสกระจ่างบอกความฉลาดชัด      จมูกโด่ง      ปากรูปแปลกอ่อนอิ่ม    แต่จัดจ้าน

เมื่อโต้แย้งกันกับเพื่อน ๆ หรือกับอาจารย์ที่ตัวไม่พอใจ



กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 14 พ.ย. 10, 05:58

ธิดาคนเดียว  คุณหญิง ดร.สุริยา  รัตนกุล   เล่าประวัติคุณแม่


       คุณแม่เป็นบุตรี ศาสตรจารย์พระวรเวทย์พิสิฐ  และนางวรเวทย์พิสิฐ​(ผึ่ง   ศิวะศริยานนท์)


เกิดเมือวันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๔

พี่น้องร่วมบิดามารดา ๓ คน คือ

๑.   ดร.วิทย์   ศิวะศริยานนท์

๒.  นายแพทย์ ประเสริฐ   ศิวะศริยานนท์

๓.  นางศุภร   บุนนาค

๔.  อาจารย์ชุมศรี   ศิวะศริยานนท์


       คุณแม่ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม  ๒๕๑๗  รวมอายุได้ ๕๓ ปีบริบูรณ์



กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 14 พ.ย. 10, 06:26


       ในสมัยนั้นครอบครัวเราตั้งบ้านเรือนอยู่ตำบลวังบูรพาภิรมย์  ใกล้ศาลาเฉลิมกรุง

เมื่อคุณแม่แรกเกิดศาลาเฉลิมกรุงยังไม่ได้สร้าง


ชอุ่ม  ปัญจพรรค์:   ฉันกับอาจินต์น้องชาย   เดินไปเที่ยวบ้านเก่าของเธอที่บ้านหม้อ

ก่อนไฟไหม้  ก่อนน้ำท่วม        บ้านเธอมีพุทราหวานอยู่ด้วย  ที่ทะลุนอกชานออกลูกดกและหวานจริง ๆ 



       ครอบครัวทางฝ่ายคุณยายมีอาชีพเป็นช่างทอง  สืบฝีมือมาจากเจ้าตาคง เชื้อสาย

พระราชวงศ์เวียงจันทน์ และเคยรับราขการอยู่ในกรมช่างสิบหมู่       คุณแม่เล่าว่าในสมัย

ที่มีงานทำเต็มมือเช่นได้รับงานเครื่องโขนละครของหลวง   ฐานะครอบครัวของเราสบายมากทีเดียว

มีการทำบุญเลี้ยงพระที่บ้าน   มีการสังเวยครูช่างทอง       ถือกันว่าครูเตาลงยาไม่ใช้หัวหมู  จะมีแต่ไก่ต้ม 

ปลาช่อนต้ม   กล้วยอ้อยน้ำมะพร้าว  เพราะเทพยดาซึ่งเป็นเจ้าแห่งศิลปการลงยา เป็นเทวดาแขก

เรื่องนี้ฟังดูก็สมเหตุผลเพราะชาติที่ขึ้นชื่อทางศิลปกรรมการลงยาก็เป็นชาติที่ไทยเราเรียกว่าแขกทั้งสิ้น เช่น

อิหร่าน  อินเดียเป็นต้น



กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 14 พ.ย. 10, 10:20

       เมื่อคุณแม่(คุณศุภร) เกิดมาเป็นหลานผู้หญิงคนเดียวที่อยู่รอด   พวกญาติจึงทำขวัญ

กันเป็นพิเศษด้วยงานฝีมือแบบมิเนเจอร์  คือเครื่องเล่นเงินสลักลงยาทั้งชุด   แสดงออกถึงความทนุถนอม

ของปู่ย่า ตายาย    เป็นสำรับข้าวคาวหวาน  กาน้ำ  ขันน้ำ  พานรอง  คันฉ่อง  ตลับเล็กตลับน้อยย่อส่วน

คุณศุภรรักของเล่นชุดนี้มากเพราะบางชิ้นเป็นฝีมือคุณชวด



        ครูภาษาไทยคนแรกคือคุณยาย อิ่ม  คงสถิตย์  คุณยายของคุณศุภรเอง          คุณยายอิ่มรู้ภาษาไทย

อย่างดีเยี่ยม  สมัยที่อยู่ในพระบรมมหาราชวัง  ท่านเป็นครูผู้หญิงสอนหนังสือชาววัง     ใช้ตำรามูลบทบรรพกิจ


        ในเวลานั้นเป็นระยะกลางรัชกาลที่ ๖         เป็นวันเวลาของความสุขที่คุณศุภรฝังใจมาก   

สถานการณ์บ้านเมืองทั่วโลกสงบสุข  เมืองไทยก็เป็นระยะรุ่งเรือง         คุณหลวงวรเวทย์พืสิฐเป็นข้าราชการ

กระทรวงธรรมการ  สนใจในด้านภาษาและวรรณคดีไทย   นับว่าต้องพระราชนิยมเป็นที่ยิ่ง


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 14 พ.ย. 10, 13:29

       คุณหลวงวรเวทย์พิสิฐได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้ร่วมโต๊ะเสวย  และวิพากย์วิจารณ์

งานพระราชนิพนธ์และงานของผู้รักวรรณศิลป์คนอื่น ๆ        ในเวลาที่รับสั่งเรื่องงาน

ประพันธ์ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๖  ไม่ทรงถือเรื่องอิสสริยยศ  และวางพระองค์เป็นนักประพันธ์

คนหนึ่งเท่านั้น        ท่านชื่นชมโสมนัสในเรื่องนี้อย่างยิ่ง    และนำเรื่องพระราชจริยาวัตรมาเล่าสู่กันฟัง

ในครอบครัว


       คุณหลวงมีหนังสือฉบับพิมพ์ครั้งแรกของเพื่อนนักประพันธ์เช่น เสฐียรโกเศศและนาคะประทีป   ของ

กรมหมื่นพฤฒยลาภพฤติยากร  ของน.ม.ส.   และแม้นแต่หนังสือพระราชนิพนธ์เก็บไว้เป็นจำนวนมาก

หนังสือพวกนี้มีพระปรมาภิไธย  พระนามและลายเซ็นของผู้ให้กำกับไว้ด้วย      ท่านเก็บหนังสือพวกนี้

ไว้ในตู้ลายทองตั้งอยู่ที่หอนั่ง      เป็นของรักอย่างยิ่ง       


       คุณหญิง ดร.สุริยา เล่าไว้ว่า  คุณแม่ได้ลูบคลำหนังสือเหล่านี้มาแต่เด็ก   เป็นแรงบันดาลใจที่จะเขียน

หนังสือบ้างก็คงเกิดกับคุณแม่ตั้งแต่เด็กนี้เอง       ภายหลังใน พ.ศ.​๒๔๘๗  บ้านเก่าของเราที่วังบูรพาต้องภัยพิบัติ

ของสงครามโลกครั้งที่ ๒           หนังสือตู้ทองนั้นก็ถูกระเบิดกระจัดกระจายทำลายไปเกือบทั้งหมด    ตลอดเวลาที่ข้าพเจ้า

ยังเด็กและต้องระเหเร่ร่อน   ย้ายไปอยู่บ้านนั้นบ้างบ้านนี้บ้าง          ข้าพเจ้าจำได้ดีว่า  คุณแม่มีตะกร้่าหวายใบใหญ่อยู่

สองใบ   ใส่หนังสือผุขาดกะรุ่งกะริ่ง  เปื้อนโคลน  ซึ่งคุณแม่หอบติดตัวไปด้วยเสมอ   ไม่เคยยอมทิ้งเลย    เมื่อถามคุณแม่

ก็ได้รับคำตอบแต่เพียงว่า "หนังสือตู้ทองของคุณตา"         เมื่อเป็นผู้ใหญ่ขึ้น      ข้าพเจ้าจึงเข้าใจว่าหนังสือเหล่านั้นเป็น

ตัวแทนของยุคทองในชีวิตคุณตา       คุณแม่จึงรักและผูกพันอย่างยิ่ง      และได้ทราบลักษณะนิสัยนักต่อสู้ไม่ยอมแพ้โชค

ชะตาชีวิตของคุณแม่ว่า   ท่านตั้งปณิธานไว้ว่าจะเพียรเช็ดโคลนออกจากหนังสือเหล่านั้นทีละหน้าและเย็บปกหนังเดินทองใหม่ 

ใส่ตู้ทองไว้ในเรือนไทยในสภาพเดิม  ซึ่งท่านก็ทำสำเร็จ



กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 พ.ย. 10, 07:09
จดหมายถึง "กร"

ชอ่ม ปัญจพรรค์


       ฉันกับน้องชิบอ่านหนังสืออ่านเล่นมากทุกคน   แต่คุณป้าฉันห้ามอ่าน  เพราะกลัวใจจะแตก

แต่บ้านเธอมีตู้หนังสือตั้งกลางบ้านเต็มบ้าน  และเธอมีหนังสือไม้เมืองเดิมแต่งครบชุดเลย  ฉันขอยม

ไปอ่านที่บ้านหลายเล่ม  เธอหยิบให้ยืมง่าย ๆ ไม่หวงของเลย


       ฉันยังจำได้เธออุตส่าห์เอาผ้าพันคอสีเหลืองเนื้อหนาของเธอมาห่อผูกเงื่อนตายให้อาจินต์ถือหิ้วกลับบ้าน

ฉันรู้ดีเธองามทั้งรูปร่างและน้ำใจ


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 พ.ย. 10, 07:43

       ธิดาคนเดียวเล่าไว้


       คุณแม่เข้ารับการศึกษาอย่างจริงจังเมื่ออายุ ๘ ขวบ      โรงเรียนแรกที่เข้าคือโรงเรียนเสาวภา

อยู่ไม่นานแล้วย้ายไปโรงเรียนสตรีวิทยา      ต่อจากสตรีวิทยาคุณตาให้คุณแม่ไปอยู่โรงเรียนวัฒนาเพราะตอนนั้นคุณยายเสียแล่ว

คุณตามีความประสงค์จะให้คุณแม่เรียนถึงขั้นมหาวิทยาลัย   คุณตาเป็นอาจารย์รุ่นแรกเมื่อเริ่มตั้งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย

และเล็งเห็นคุณค่าของการศึกษา   คุณแม่ไปอยู่วัฒนาปีเดียวคุณตาก็พาย้ายเพราะโรงเรียนอยู่ไกลเกินไป         เวลาไปรับคุณแม่

เสาร์ทีอาทิตย์ทีต้องนั่งรถม้า


       คุณแม่มาเรียนจบชั้นมัธยมปีที่ ๖ ที่โรงเรียนราชินี ถนนมหาราช      ท่านเรียนเก่งภาษาต่างประเทศและชอบแต่งโคลงฉันท์

กาพย์กลอน   เคยแต่งกาพย์เห่เรือขมพานกาชาด   โดยเลียนแบบกาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร  ตั้งแต่เมื่อท่านอายุ ๑๕

แต่งดีจนท่านอาจารย์ (ม.จ.หญิง อัจฉราฉวี  เทวกุล) รับสั่งถามว่า  "นี่ให้คุณพ่อช่วยแต่งหรือเปล่าแม่กร(เพื่อนนักเรียนชอบเรียกคุณแม่ว่า กร

ทำให้คนูบาอาจารย์พลอยเรียกไปด้วย)     ซึ่งคุณแม่ก็กล้าทูลตอบอย่างที่เด็กสมัยนั้นไม่กล้าทูลตอบผู้ใหญ่ว่า "ถ้าคุณพ่อแต่งต้องดีกว่านั้น"

เป็นเหตุให้ท่านอาจารย์ทรงจำชื่อคุณแม่ไปได้อีกนาน


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 พ.ย. 10, 11:30


       คุณแม่เข้าเป็นนักเรียนเตรียมรุ่นที่ ๑   ของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา    อาจารย์ปกครองที่ท่าน

รักมากคืออาจารย์หม่อมหลวงบุญเหลือ  เทพยสุวรรณ  ผู้พาท่านไปหัดรำละครที่วังบ้านหม้อ   จนกระทั่งท่าน

สามารถรำเป็นนางนารายณ์ได้ในฉาก "นารายณ์ปราบนนทุกข์"   ซึ่งเป็นงานโรงเรียนที่นับว่าซู่ซ่ามาก

คุณแม่อยู่ในมหาวิทยาลัยระหว่าง ๒๔๘๓ - ๒๔๘๗   สนใจร่วมในงานกิจกรรมอย่างมาก   ท่านเลือกวิชาวรรณคดีอังกฤษ

กับประวัติศาสตร์        ข้าพเจ้าถามคุณแม่ว่าทำไมท่านไม่เลือกวิชาเรียนวิชาภาษาไทย เพราะเห็นว่าคุณแม่สนใจภาษา

และวรรณคดีไทยอย่างยิ่ง  และเก่งโคลงฉัณท์กาพย์กลอนชนิดที่สามารถบอกสักวากลอนสดได้       ท่านบอกว่าเลือกเรียนไม่ได้หรอก

เพราะคุณตาเป็นอาจารย์หัวหน้าแผนกวิชาภาษาไทยอยู่ในเวลานั้น     ถ้าขืนเรียนถ้าจะทำคะแนนได้ดีอย่างไร    คุณตาก็ไม่ให้เกิน

๖๕ % เพราะเกรงข้อครหา





       คุณดำรง  บุนนาค    สามีของคุณศุภร  เล่า เรื่องการพลัดพรากจากคนที่รักเป็นทุกข์

       ข้าพเจ้ารู้จักศุภรมิใช่แต่เมื่อเริ่มรักกันเมื่อเป็นหนุ่มเป็นสาว        ข้าพเจ้าเห็นเธอครั้งแรกเมื่อเธออายุ ๖ ขวบ

ข้าพเจ้า ๘ ขวบ        แม่เธอเสียเมื่อเธอ ๙ ขวบ       ส่วนแม่ของข้าพเจ้าเสียเมื่อข้าพเจ้าอายุ ๑๘​ ปี

วันที่ ๕ มิถุนายน  ๒๔๘๗  วันที่กรุงเทพฯ ถูกบอมบ์ครั้งแรกอย่างหนักในตอนกลางวัน       บ้านเธอถูกระเบิดยับไปทั้งหลัง       

ข้าพเจ้าพร้อมคุณกุศบุนนาค  และตุณตรึก  บุนนาค   ได้ไปฉุดเธอ  น้องสาว และน้ารวมสามชีวิตขึ้นมาจากกองทราก

เสาไม้ของตัวเรือนที่พังทับลงไป   เธอช่างมีสติดีและไม่มีการร้องห่มร้องไห้เลย


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 พ.ย. 10, 11:52


       คุณแม่เรียนจบอักษรศาสตร์บัณฑิตเมื่อ ๒๔๘๗  และแต่งงานกับคุณพ่อในปีนั้นเอง

แล้วติดตามคุณพ่อผู้เป็นวิศวกรเหมืองแร่ไประหกระเหินตามที่ต่าง ๆ       ที่ที่ไปอยู่นานที่สุดคือ

เหมืองที่หนองเป็ด  อำเภอร่อนพิบูลย์  จังหวัดนครศรีธรรมราช          เวลาคุณพ่อไปตรวจงานตอนกลางคืน

ทิ้งคุณแม่อยู่บ้านคนเดียวกับปืนสองกระบอกและข้าพ้จ้าซึ่งขณะนั้นยังอยู่ในเบาะ     ไฟฟ้าก็ไม่มี

มีแต่ตะเกียงลานส่งเสียงออด ๆ   คุณแม่ก็อยู่ได้   ไม่มีความหวาดกลัวอะไร



คุณดำรงเล่า

       ข้าพเจ้าพาเธอไปตกระกำลำบาก   เธอก็อยู่ได้โดยไม่สทกสะท้าน         เมื่อใกล้วันดีเดย์(วันเตรียมรับมือกับกองทัพญี่ปุ่น ปี ๘๘)

เธอก็เตรียมพร้อมที่จะอพยพ  ถือกระเป๋าคนละใบขึ้นเขาไปอยู่กับกงสีของเถ้าแก่อึ้งค่ายท่าย  เธอประดิษฐ์ถุงย่ามที่จะให้ข้าพเจ้าแบกลูกสาว

อายุ ๔ เดือนสะพายหลังไปด้วย

       เธอเป็นคนช่างเก็บช่างงำถนอมกินถนอมใช้         ข้าวของทุกชิ้นที่ข้าพเจ้าหาได้เอง  ไม่ว่าจะมีราคาค่างวดอย่างใดก็ตาม

เธอก็ถนอมใช้และเมื่อเลิกใช้เธอก็เก็บงำเป็นอย่างดีโดยไม่ทิ้งขว้าง            จดหมายของข้าพเจ้าทุกฉบับที่เขียนถึงเธอ

เธอก็รวบรวมไว้อย่างเรียบร้อย          เสื้อผ้าชุดแรกที่ตัดให้ลูกใส่       เธอก็ยังรวบรวมเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย




ธิดาคนเดียวเล่า

       เมื่อเลิกสงคราม  บริษัทแร่และยางไทยเลิกกิจการ   คุณพ่อจึงพาคุณแม่กลับเข้ากรุงเทพ

คุณพ่อเข้าทำงานที่โรงงานยาสูบ   คุณแม่เข้าทำงานธนาคารศรีนครจำกัด



กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 15 พ.ย. 10, 14:51
ดีใจจริง ๆ ที่คุณวันดีเอาเรื่องของท่านผู้นี้มาเล่าสู่กันฟัง
ดิฉันได้อ่านหนังสือของท่านเรื่อง "ฟ้าใหม่" และอีกเรื่อง จำชื่อไม่ได้
 
แต่ที่อยากอ่านมาก และหาไม่ได้เลยคือ "สมบัติกวี" ค่ะ
มีคนบอกว่า หากหาหนังสือนี้ได้ ต้องรักษาไว้อย่างดี เพราะหาไม่ได้อีกแล้ว

ดิฉันดีใจและหายเหงาไปเยอะที่รู้ว่าคุณวันดีก็อ่านหนังสือของท่านผู้นี้ด้วย
เพราะหนังสือของท่าน คนรอบตัวดิฉันเขาเมินกันหมด จึงไม่รู้จะไปคุยกับใครได้


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 พ.ย. 10, 15:25

       ประวัติคุณศุภรเกือบจบแล้วค่ะ   เคยอ่านรสลินและไม่ได้อ่านอีกเลย(อิอิ  ขออย่าเอ่ยจำนวนปีเลยนะคะ)

สมบัติกวีที่มีในมือคืออิเหนา     ที่ยืมสหายมาคือขุนช้างขุนแผน  ที่อยากชวนทุกคนมาคุยกัน

จะเห็นต่างกันก็ไม่แปลกอะไร  เพราะเราเคารพความคิดของทุกคน 


     ดิฉันเคยรับใช้ท่านผู้ปกครองไปที่เรือนไทยที่ลาดพร้าวหนหนึ่ง   ดิฉันไม่แตกตื่นอะไรเลยเมื่อเห็น

เรือนไทยของรสลินที่มีผ้าม่านเป็นลูกไม้โปร่งสีแดง  และตู้มุกด์(เฉพาะชิ้นนี้ดูจากรูป)

       ส่วนหมูหวานที่เคี่ยวจนน้ำมันใสแจ๋วนั้น    เคยได้รับแจกอยู่ค่ะ
       
       เมื่ออ่านรสลินใหม่ ๆ  ดิฉันพยายามท่องจำลิลิตพระลอ  ทั้งๆที่ห่างไกลความเข้าใจเหลือเกิน


ท่านผู้ใหญ่ของเราอีกคนที่ตีวรรณคดีน่าฟังมาก  สำหรับดิฉันนะคะ ในฐานะนักอ่าน  คือ พลเรือตรี สมภพ  ภิรมย์ค่ะ

อ่านแล้วก็ยังคิดว่าทำไมเราถึงอ่านตกไปได้หนอ  อาจจะเป็นเพราะเด็กมากเมื่อเริ่มอ่าน


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 16 พ.ย. 10, 04:28



       คุณศุภรเริ่มงานเขียนครั้งแรกราว พ.ศ. ๒๔๙๔ - ๒๔๙๕  โดยเขียนเรื่องสั้นสองเรื่องไปลงในหนังสือโฆษณาสาร 

ที่คุณชอุ่ม  ปัญจพรรค์เป็นผู้ช่วยบรรณาธิการ คือเรื่อง "ผ้าไหมผืนใหม่" และเรื่อง "วลัยมรกต"      ตอนนั้นท่านยังไม่ได้

ใช้พิมพ์ดีด   ท่านชอบนั่งกับพื้นเขียนบนตั่งเล็ก ๆ ที่ทำด้วยไม้มะเกลือฝังมุก  ซึ่งเป็นเครื่องเรือนชิ้นเดียวที่เหลือรอดจากภัยระเบิดมาได้


       คุณหญิง ดร.สุริยาเล่าไว้อย่างน่าฟัง  ว่าคุณศุภรมีแมวตัวโปรดชื่อเจ้าม่ำเคล้าเคลียอยู่ด้วย

คุณแม่เป็นคนมีนิสัยเด็ดเดี่ยว  พูดจริง  ทำจริง   ใครๆจึงมักคิดว่าท่านใจแข็ง  แต่ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดทราบดีว่า 

ท่านใจอ่อนเป็นนำ้ทีเดียวกับสัตว์เล็กๆที่ช่วยตัวเองไม่ได้   นิสัยรักสัตว์ของท่านทำให้ท่านเขียนเรื่องสั้นหลายต่อหลายเรื่อง

ที่มีสัตว์เป็นตัวละครเอก  มีวัตถุประสงค์เพื่อขอร้องไม่ให้คนทารุณสัตว์

       คุณหญิงชี้แจงว่า คุณศุภรไม่เคยนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงไปเป็นเค้าโครงนวนิยายที่ท่านแต่งเลย  แต่ท่านใช้

บรรยากาศที่ท่านคุ้นเคย เช่นบ้านโบราณที่มีต้นพุทรา   บ้านผู้จัดการเหมืองฝรั่ง เป็นต้น


รายชื่อหนังสือ และปีที่พิมพ์รวมเล่ม

ปาริชาติลวง                ๒๔๙๗
รสลิน                        ๒๕๐๒  และ  ๒๕๐๖
สมบัติกวี  สารคดี          ๒๕๐๓ และ ๒๕๑๖
แม้ความตายมาพราก      ๒๕๐๙
ลมเย็น  รวมเรื่องสั้น       ๒๕๐๙
คนซื้อฝัน                    ๒๕๐๙
รถเมล์สายพระพุทธบาท   ๒๕๑๐
ฟ้าใหม่                      ๒๕๑๐
สวรรค์ขุมไหน              ๒๕๑๐       รวมเรื่องสั้น
ที่รัก                         ๒๕๑๐       รวมเรื่องสั้น
แผ่นดินยังกว้าง            ๒๕๑๑
เกลียวทอง                  ๒๕๑๒
รอบตะเกียงลาน            ๒๕๑๒
ไม้ร่วมกอ                   ๒๕๑๓
บุญเพรงหากพระสรรค์     ๒๕๑๕
ขอบฟ้าหรือจะกั้น           ๒๕๑๖
ผืนผไทนี้ลำ้  แหล่งคุณ     ๒๕๑๖


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 16 พ.ย. 10, 05:06


คุณศุภรป่วยเป็นโรคไตและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช


ข้อเขียนทั้งหมดที่ยกมานี้ก็มาจากหนังสืออนุสรณ์ 

กราบขออภัยต่อคุณหญิง ดร.สุริยา   ที่ได้คัดลอกความ  หากขาดตกบกพร่องประการใด

ดิฉันเป็นนักอ่านที่ได้อ่านรสลิน  เมื่อพุทรากะลักกะตาร่วง  ดิฉันก็นั่งอยู่ที่นั่น

เมื่อคุณยายทำบุญบ้าน  ดิฉันก็รวมอยู่ในกลุ่มทโมน

คุณศุภรเป็นนักเขียนยอดนิยมของดิฉัน       ความรักวรรณคดีไทยของเธอก็กระเซ็นมาจับใจดิฉัน

หนังสือของท่านเป็นหนังสือหายากมาก

หนังสือสมบัติกวี ชุดขุนช้างขุนแผน  ดิฉันเคยอ่านนานมากมาแล้ว   ไม่เคยมีโอกาสเก็บเป็นสมบัติ

เมื่อได้งัดมหาสมบัติออกมาจากกรุของสหายนักสะสมที่ไม่ยอมแลกเปลี่ยนหนังสือกับหนังสือเล่มอื่น ๆ หรือเงินทอง

ดิฉันอ่านอย่างกระหาย      เก็บความรู้ที่คุณศุภรมอบให้  ประหลาดใจในความลุ่มลึกของเรื่อง

เพื่อนรุ่นเยาว์ของดิฉันคนหนึ่งเมื่ออ่านกระทู้นี้  พูดว่า   ลูกสาวพระวรเวทย์พิสิฐหรือนี่


       การได้อ่านเรื่องที่อยากอ่านมานานอีกที   เป็นความสุขอย่างยิ่ง


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 16 พ.ย. 10, 10:56

ตามอ่าน ขุนช้างขุนแผน  ที่คุณศุภร  เล่าไว้ ๖๘๘ หน้า

ท่านบอกว่า


       เรื่องขุนช้างขุนแผน  ตามความเห็นของข้าพเจ้านั้น   ความดีเด่นเป็นที่สุดอยู่ตรงว่า  เป็นชีวิตสามัญ

ของคนไทยแท้ ๆ  ไม่ใช่เรื่องจักร ๆ วงศ์ ๆ     เป็นเรื่องสนุกนัก  และเป็นของไทยแท้   ตัวนางเอก  พระเอก  ผู้ร้าย  ฉากบ้านช่อง  และป่าสวน

อ่านแล้วซึมซาบ   พลอยโกรธ พลอยสงสารไปด้วย         เรื่องนี้มีลักษณะพิเศษคือเป็นตัวแทนของชีวิตไทยแท้       ฉบับที่

เราอ่านกันอยู่นี้  เป็นฉบับที่ได้เรียบเรียงขึ้นใหม่ในสมัยรัตนโกสินทร์จากเค้าเรื่องและตัวบุคคลที่สืบมาจากครั้งกรุงเก่า


เริ่มจากบิดามารดาของขุนแผน  ขุนไกรพลพ่ายกับนางทองประศรี


            คุณสมบัติของบิดาของขุนแผน

       อาจองคงกระพันชาตรี                    เข้าที่ไหนไม่มีที่จะถอย

รบศึกศัตรูอยู่กับรอย                             ถึงมากน้อยเท่าไรไม่หนีมา


คุณศุภรอธิบายว่า  "อยู่กับรอย"  เป็นคำพิ้น ๆ  ไม่เป็นศัพท์แสงที่ต้องแปล    เมื่อเอามาใช้ถูกที่

ก็ทำให้เตือนใจถึงความทรหดอดทนของคนที่เป็นปู่ย่าตายาย         จุดเด่นเหล่านี้มีอยู่ตลอดในเรื่องของขุนช้างขุนแผน

คนไทยเวลารบนั้นเขารบกันอย่างนี้  เวลารบนั้นไม่ให้ถอนรอย  นอกจากจะรุกไปข้างหน้า



กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 16 พ.ย. 10, 11:15


       ดิฉันมาเล่าประวัติของคุณ คุณ​ศุภร  บุนนาค  และบังอาจจะยกบางตอนใน ขุนช้างขุนแผน

ที่ดิฉันชอบ  เห็นว่าแปลกและให้ความรู้อย่างยวดยิ่ง      เพื่อแนะนำว่าหนังสือดีที่น่าอ่านเล่มหนึ่ง

พลาดไปก็จะคุยกับวงการลำบากหน่อย

หนังสือที่ออกมาใน พ.ศ. ๒๕๐๐  ในความเข้าใจของนักอ่านหนังสือเก่า  ถือว่าไม่ใช่หนังสือเก่าทีเดียว

หนังสืออายุ ๑๐๐ ปี  ก็ไม่ใช่จะเป็นหนังสือมีค่าเสมอไป



ขอเชิญนักอ่านที่แวะมาสนทนาได้ตามชอบ     



        นับตั้งแต่บัดนี้ไปถึงสิ้นปี    ชมรมนักอ่านหนังสือเก่าจะมีการพบปะกันบ่อยครั้ง

แทบทุกอาทิตย์          ดิฉันได้ติดอาวุธให้ตนเองแล้วด้วย  สมบัติกวี เรื่องขุนช้างขุนแผน

   


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 16 พ.ย. 10, 13:20
       ตอนที่ตัวพระกับนางจะมาพบกันนั้น  เป็นเวลาสงกรานต์    มีการขนทรายเข้าวัดก่อพระทราย

แล้วเลี้ยงพระฉลองพระทรายวันรุ่งขึ้น         ราบชื่อกับข้าวที่เลี้ยงพระทำบุญบางอย่าง แทบจะไม่

มีคนรู้แล้วในสมัยนี้ เช่น

        ต้มไข่ผัดปลาแห้งทั้งแกงบวน                          บ้างก็ทำวุ้นชาสาคู

ข้าวเหนียวหน้าหมูไว้ถี่ถ้วน                                     หน้าเตียงเรียงเมล็ดข้าวเม่ากวน


       ปลาแห้งกินกับแตงโม   แกงบวนเป็นแกงโบราณ  ประกอบด้วยเครื่องในหมู  เนื้อหมู  รสหวานปะแล่มเล็กน้อย

หอมตะไคร้และใบไม้ที่คั้นน้ำใส่   เช่นใบมะตูม  ปรุงรสให้แหลมขึ้นด้วยน้ำปลาร้าเล็กน้อย       วุ้นชาคือวุ้นน้ำเชื่อม

หน้าเตียงเป็นของชื่อแปลก   จะบรรยายถี่ถ้วนก็จะกลายเป็นตำรากับข้าวไป



(เคยเห็นวุ้นกาแฟ  คือวุ้นหน้ากะทิ  ผสมกาแฟชงน้ำร้อนให้พอมีกลิ่นหอมกรุ่นกาแฟ       หน้าเตียงนั้น  ตำราแม่ครัวหัวป่าก์

เรียกว่า  ล่าเตียง  คือผัดกุ้งสับผสมมัน  ใส่กระเทียมรากผักชี  แล้วห่อด้วยไข่โปร่ง)


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 16 พ.ย. 10, 13:35

การใส่เครื่องประดับของขุนช้าง

นิ้วก้อยใส่รังแตนแหวนงู                        นิ้วชี้เชิดชูนั้นแหวนเพขร

นิ้วนางแหวนประดับทับทิม                     เอ๊ะ  ทีนี้นางพิมหวิดสำเร็จ

แหวนเครื่องของบิดายอดห้าเม็ด              ชาวสุพรรณมันเข็ดว่ามั่งมี



(ดิฉันเคยเห็นรูปนาคในสกุลบุนนาค  ใส่แหวนแปดนิ้ว  ดูจะเป็นแหวนยอดห้าหลายวงทีเดียว)


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 17 พ.ย. 10, 06:16

       
       ชะตากรรมของนางพิมหรือวันทอง  มาจากแม่ตัว  แม่ผัว  เมียน้อย  ขุนช้างผู้ปองรักแต่เหมือนปองล้าง

และตัวขุนแผนเอง

       นางทองประศรีไม่ชอบนางพิมเพราะขุนแผนยังไม่ได้บวชก็ต้องการแต่งงาน

       เมื่อพลายแก้วมาบอกแม่ว่านางพิมให้เงินมาทำทุนสู่ขอ  นางทองประศรีก็ยังไม่พอใจ

 
       ทองประศรีว่ากรรมเอ๋ยกรรมแล้ว                    พ่อแก้วแก้วตาของแม่เอ๋ย

บวชก่อนเถิดอย่าพึ่งมีเมียเลย                               แม่จะได้ชมเชยชายจีวร


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 17 พ.ย. 10, 06:27

คุณศุภรชอบตอนตีดาบฟ้าฟื้นเพราะสนุกมาก      ท่านเล่าว่าจำได้ขึ้นใจ  เวลาสอบ

ก็ยกมาอ้างได้อย่างไม่บกพร่อง


ท่านอธิบายเรื่องการนั่งสมาธิขั้นต่าง ๆ    เรื่องนิมิตที่หาอ่านที่ไหนไม่ได้    ไม่มีวรรณคดีเล่มไหน

จะพรรณนาอย่างแจ่มแจ้ง


เรื่องขุนช้างขุนแผนบรรยายเรื่องความเชื่อและความรู้ของคนยุคนั้นว่า  เขาเพียรศึกษากันในด้านใดและวิธีใดบ่าง


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 17 พ.ย. 10, 06:51

เมื่อขุนแผนขึ้นเรือนขุนช้าง  ขุนแผนได้โกนหัวขุนช้างเสีย  และด่าขุนช้างว่า "ไอ้เหาหิว"

เพราะไม่มีผมเป็นที่หาอาหารเลย



เมื่อขุนแผนและนางวันทองตัดพ้อกัน  คนที่เคยมีความรักความหลังจะรู้สึกกินใจเหลือเกิน

คุณศุภรเคยได้ฟังคุณเหนี่ยวขับเสภาครั้งหนึ่ง  รู้สึกว่าได้เห็นขุนแผนกับวันทองหลั่งน้ำตาตัดพ้อกันจริง ๆ


       "ความรักที่ฝังใจอยู่นั้นไม่ใช่ของที่จะตัดหรือล้างออกให้หมดไปได้เหมือนล้างภาชนะ      ในขณะที่กำลังมึนงง

เพราะฤทธิ์มนต์สะกดเช่นนี้     และนางคลำพบเนื้อพบกลิ่นที่เคยรักเคยสัมผัส         ใจก็คงคิดไปว่ากลิ่นนี้เนื้อนี้เหมือนกับรสสัมผัสที่เคยพบ"



กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 17 พ.ย. 10, 07:06

       
       ขุนแผนต่อว่านางวันทองว่าไม่ซื่อสัตย์เหมือนนางสีดา

นางวันทองสวนไปว่า  "เจ้าลอบช้อนเอาปลาที่หน้าไซ"  คือพูดเอาแต่ง่าย ๆ สะดวก ๆ เหมือนตักปลา

ที่มาอออยู่ตรงหน้าไซ

ขุนแผนเล้าโลมและขู่ว่าถ้านางไม่ไปด้วยจะฆ่าเสียให้ตาย


       "นี่เป็นเรื่องของผู้ชาย     เมื่อนางยังดีอยู่แต่กำลังมีของใหม่ดูรังเกียจกินแหนงว่ามีราคี

เสียนี่กระไร    แต่พอของใหม่จากไป     ถึงบทต้องการขึ้นมาแม้ว่าบัดนี้วันทองจะมีราคีไปจริงๆ

แต่กลับไม่ยักรังเกียจ        แปลว่าถูกใจแล้วถึงสกปรกเท่าไรก็ไม่รังเกียจ"


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 17 พ.ย. 10, 07:17


เล่ามาพอเป็นน้ำจิ้ม    เชิญท่านผู้เจริญหาหนังสืออ่านกันเทอญ

ขืนเล่าหมดก็เรียกว่าไร้รสนิยมอันดี      ลอกงานของท่านผู้เลิศแล้วเอาดื้อๆ  นักอ่านที่ดีไม่ทำ

คุยกันพอหอมปากหอมคอ



       มีหนังสือดี ๆ ให้อ่านอีกมาก


       คิดว่าตนเองมีโชคที่ครั้งหนึ่งได้โน้มตัวลงไหว้  คุณศุภร  บุนนาค  ที่บ้่านเรือนไทยของท่าน

เรื่องี้ก็คงเล่าได้อีกนาน


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ย. 10, 08:24
เคยเอ่ยถึง สมบัติกวี ไว้นิดหน่อยในกระทู้นี้
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=1690.0


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 17 พ.ย. 10, 09:31


ขอบพระคุณค่ะ

วันก่อนมีกระทู้แถวๆนี้  ถามว่ากริชของอิเหนาชื่ออะไรแน่  ชื่ออิเหนาหรือ  ก็อิเหนาเป็นเจ้าของนี่นา


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ย. 10, 09:50
เดี๋ยวจะมาบอกเรื่องชื่อกริชอิเหนา นะคะ

ความรู้ของคุณศุภรในเรื่องโบราณ (ไม่เฉพาะแต่ในวรรณคดี)  มีมากมายน่าอัศจรรย์ใจ  อย่างตอนหนึ่งที่เล่าไว้ในเรื่อง สมบัติกวี ขุนช้างขุนแผน  เรื่อง "ดูเมฆ"
ขอลอกมาให้อ่านแทนย่อ เพื่อไม่ให้เสียอรรถรสในคำอธิบายของเธอ

" ดูเมฆ   ก่อนจะเดินทางไปรบทัพจับศึก  หรือทำการสิ่งใด  คนโบราณต้องดูนิมิตเหตุลางต่างๆ    การดูเมฆ ถ้าเมฆเกลื่อนกลุ้มประชุมกันเหมือนรูปเมรุมาศ อย่าไป     เป็นรูปจระเข้สองตัวดีนัก    ถ้าเมฆเลื่อนจากเหนือมาใต้เข้าไปปิดบังดวงอาทิตย์ไว้มิดี   แต่ถ้าพอเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์กลับแตกกระจายหายไป กลับดี   หรือมาจากตะวันตกไปตะวันออกเข้าบังดวงอาทิตย์ ไม่ดีเช่นกัน   แต่ถ้าเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ แล้วกลับกระจายก็ดีอีก    แต่ถ้ามาจากใต้แล้วไปเหนือ  แล้วบังดวงอาทิตย์ไว้อย่างนี้ดี    แต่ถ้าไม่ทันบัง ถอยไป ไม่ดี    หรือถ้ามาจากตะวันออกไปสู่ตะวันตก  แล้วบังดวงอาทิตย์ก็ดีอีก   แต่ถ้าไม่ทันบังกลับถอยไป กลับร้ายนัก"


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 พ.ย. 10, 09:29


ขอบพระคุณค่ะ

วันก่อนมีกระทู้แถวๆนี้  ถามว่ากริชของอิเหนาชื่ออะไรแน่  ชื่ออิเหนาหรือ  ก็อิเหนาเป็นเจ้าของนี่นา

ถ้าตอบแบบตอบข้อสอบวรรณคดี ก็ต้องตอบว่า ชื่อ แก้วสุรกานต์

เมื่อนั้น                        ถึงองค์อสัญแดหวา
ซึ่งเป็นบรมอัยกา            สถิตย์ยังชั้นฟ้าสุราลัย
จึงนิมิตกริชแก้วสุรกานต์    นามกรพระหลานจารึกใส่
.......................

แต่ถ้าตอบแบบคุณเป๋ง แห่งเขื่อนกิ่วลม ของ "มนันยา" ก็ต้องตอบว่า กริชอิเหนา ชื่อ "นั้น"

เห็นกริช นั้น วางอยู่ข้างที่               มารศรีหลากจิตคิดสงสัย
จึงหยิบมาดูด้วยดีใจ                     แล้วถวายภูวนัยฉับพลัน

ส่วนท้าวกุเรปัน ก็..
ชื่นชมโสมนัสอัศจรรย์                   เอากริชนั้นออกพิจารณา


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 19 พ.ย. 10, 15:52
คุณวันดีคะ ทำไฉน ดิฉันจึงจะได้ สมบัติกวี สักเล่ม สักตอน มา "เสพ" รสแห่งวรรณกรรมได้คะ
ห้องสมุดที่ไหนมีบ้างเอ่ย มีใครพิมพ์อีกบ้างไหม


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 19 พ.ย. 10, 15:59

หลังไมค์ได้ไหมคะ

ขอแผนที่บ้านด้วยค่ะ

จะให้สมาชิกชมรมบนถนนวิทยุไปส่งให้ค่ะ   


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: fishstar ที่ 05 ก.พ. 11, 14:57

         ขอบคุณค่ะ  คุณวันดี
 
  ปลา (ขออนุญาตใช้คำแทนตัวด้วยชื่อนี้นะคะ) ชื่นชมหนังสือของคุณศุภรมากๆ ค่ะ

  เคยอ่าน บุญเพรงหากพระสรรค์ และ ฟ้าใหม่

  รู้สึกถึงความรักชาติ และความเป็นไทยของชาวบ้าน  อ่านอยู่หลายรอบ

  ชอบทั้งเนื้อหา  ภาษา  บรรยากาศ และผู้คนในนั้นค่ะ  อ่านด้วยความปิติ

       ดีใจที่มาเจอกระทู้นี้ค่ะ  เพราะไม่ใคร่เห็นใครพูดถึงงานของคุณศุภร


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: fishstar ที่ 05 ก.พ. 11, 15:00

   ขุนช้างขุนแผน  เป็นวรรณคดีที่รักและอ่านบ่อยที่สุด
เห็นความมีชีวิตชีวา  และที่มาที่ไป  บทบรรยายหลายบทไพเราะและถึงรสมากๆ
เป็นเล่มที่อ่านก่อนนอนมาหลายปี  มี ตรงที่อ่าน อ่านซ้ำซ้ำ จนจำได้ . . . อยู่หลายบทค่ะ


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 05 ก.พ. 11, 16:12


ขอบคุณคุณปลาจังเลย  ที่แวะมาคุย

คุณปลาเคยอ่าน รสลิน ไหมคะ    ชีวิตของเด็กผู้หญิงที่คุณยายเป็นช่างทำทอง
มีไหว้ครู   คุณพ่อเล่นดนตรีไทยใส่แหวนก้อย    มีหมี่กรอบ    บ้านโดนระเบิดระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒
มีหมูหวานแบบในวัง  (เอะ!!  หมู่นี้คิดออกแต่อาหารค่ะ)


ขุนช้างขุนแผนไม่มีวันจะตายไปจากการอ่านของคนรักหนังสือได้หรอกค่ะ   เรือนไทยมีกระทู้ขุนช้างขุนแผนอยู่บ้าง

แวะมาคุยกันนะคะ



กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.พ. 11, 19:03
กำลังอ่าน รสลิน เล่ม ๒ อยู่พอดีค่ะ  ;D


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 15 ก.พ. 11, 08:26
จดหมายถึง "กร"

ชอ่ม ปัญจพรรค์


       ฉันกับน้องชอบอ่านหนังสืออ่านเล่นมากทุกคน    แต่คุณป้าฉันห้ามอ่าน  เพราะกลัวใจจะแตก

แต่บ้านเธอมีตู้หนังสือตั้งกลางบ้านเต็มบ้าน  และเธอมีหนังสือไม้เมืองเดิมแต่งครบชุดเลย  ฉันขอยืม

ไปอ่านที่บ้านหลายเล่ม  เธอหยิบให้ยืมง่าย ๆ ไม่หวงของเลย


       ฉันยังจำได้เธออุตส่าห์เอาผ้าพันคอสีเหลืองเนื้อหนาของเธอมาห่อผูกเงื่อนตายให้อาจินต์ถือหิ้วกลับบ้าน
ฉันรู้ดีเธองามทั้งรูปร่างและน้ำใจ

ผมเข้าใจในวันนี้เองว่าทำไมคุณอาจินต์ ปัญจพรรค์ ถึงได้แต่งหนังสือได้ดีมาก จนได้รับเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ


กระทู้: ศุภร บุนนาค และ สมบัติกวี ชุด "ขุนช้างขุนแผน"
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 ก.พ. 11, 11:46
เรียนคุณลุงไก่


       เป็นธรรมดาอยู่เอง  ที่คุณลุงไก่จะไม่คุ้นเคยกับ  ชอุ่ม ปัญจพรรค์

ท่านเป็นนักเขียนเรื่องรักที่หวาน  สดชื่นและสมหวังค่ะ    อุปสรรคอยู่ที่ความยากจนและการทำงานหนัก

ไม่มีอันตรายต่อวัยรุ่น หรือพาไปในทางเสียหาย   อาจจะฝัน ๆ สักหน่อย


       หลังๆ คุณชอุ่มเขียนประวัติบุคคล  ยิ่งน่าอ่านมากขึ้น    ชีวิตของสาวน้อยที่แต่งงานกับข้าราชการหนุ่ม  ไปอยู่หัวเมือง

สาวน้อยทำข้าวแกงขาย  แสนจะเหน็ดเหนื่อย  อ่านแล้วก็เหนื่อยตามจริงๆ         หญิงไทยที่มีเรือนแล้ว  ส่วนมากก็อยู่บ้าน

ปอกมะพร้าว  ขูดมะพร้าว  ตำนำ้พริก       เหน็ดเหนื่อยหนักหนาเลี้ยงลูกและบริวารมา   รายได้ของสามีก็ลงสโมสร ลงขวดไป

ไม่ใช่ว่านักอ่านจะเลือกอ่านเรื่องที่บำรุงปัญญา  ยกระดับจิตใจเท่านั้น    บางทีเราก็อ่านเพื่อความเพลิดเพลินด้วย


       คุณหญิงของท่านจอมพลคนหนึ่ง  ที่แสนงาม(คุณหญิงงามนะคะ  ท่านจอมพลสูงและสะโอดสะอง)  ได้ต่อสู้ชีวิตดังนี้ผ่านมาแล้ว  คือขายข้าวแกงในตลาด  

 เมื่อตอนสามีเป็นนักเรียนนายสิบ     ดีแต่เรียนเก่งได้เป็นนักเรียนนายร้อย        

วันหนึ่งท่านเหนื่อยมากเป็นลมกลางตลาด  สามีไปช่วย  เพิ่งจะสงสารเมียขึ้นมา  ภรรยาร้องไห้บอกว่าเหนื่อยเหลือเกินแล้ว  สามีเลยกลับตัวเป็นคนดี


ดิฉันเคยติดตามผู้ปกครองไปที่บ้านของท่านจอมพล  รู้สึกว่าเกรงกลัวไปหมด       ธิดาของท่านจอมพลก็เป็นคุณหญิงเหมือนกัน

ท่านกรุณาทักทายผู้ปกครองของดิฉันที่เป็นแม่บ้านธรรมดา   อย่างมีอัธยาศัย

       หลายสิบปีผ่านไปแว๊บเดียว   ดิฉันได้อ่านว่าท่านเคยข้าวแกงในตลาดต่างจังหวัด   หนังสืองานศพ หรือที่พวกเราเรียกว่าหนังสืออนุสรณ์นั้น

ก็เป็นหนังสือที่เขียนโดยนักเขียนและปราชญ์ของประเทศ   หายากไปตั้งนานแล้ว


       สตรีที่มีอาชีพเพียงทำกับข้าวขาย  เลี้ยงลูกเป็นพรวน    ก็น่านับถือ  เพราะท่านมิได้ปิดบังพื้นภูมิของตน

กว่าจะคั้นกะทิมาแกง  ต้องใช้แรงและเวลาแต่ไหน   ตำน้ำพริกกว่าจะแหลกง่ายหรืออย่างไร