Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 60 เมื่อ 09 ก.พ. 16, 17:48
|
|
๐ ความรู้สึกของการจากลา ๐ … กระซิบถามหัวใจจนรู้สึก จากทุกห้วงสำนึกความหวั่นไหว พยายามตามหาความเข้าใจ ที่ห่างไกลจากเธอเสมอมา … สัมผัสกลิ่นคุ้นเคยกับความเศร้า เหลือบมองดูความเหงาเข้ามาหา เริ่มรู้สึกเหน็บหนาวเมื่อคราวลา เดินไปอย่างเชื่องช้าระมัดระวัง … ลืมตาตื่นขึ้นพบแล้วจบจาก เหมือนสูญสิ้นความยุ่งยากจากอีกฝั่ง ยกธงแพ้แน่นิ่งอย่างจริงจัง เป็นบันทึกความหลังนิรันดร … มีเพียงเงาเท่าที่รู้ผู้นำทาง ปกคลุมร่างต่างเพื่อนไม่เหมือนก่อน สายลมแห่งความเหงาเข้าอาทร แตะผิวหน้าผ่าวร้อนไม่ย้อนคืน … ยังเก็บงำคำตอบไร้ขอบเขต จากต้นสายปลายเหตุอันขมขื่น กับความสุข,ทุกข์,หวังไม่ยั่งยืน ที่เศร้าโศกสะอื้นฝืนรอคอย … ความรู้สึกของการจากลา ชีวิตเริ่มเชื่องช้าอ่อนล้าบ่อย เป็นเหมือนฝุ่นละอองการล่องลอย เจ็บปวดอยู่ไม่น้อยจากรอยเดิม ภู กวินท์
(ด้วยจิตระลึกถึงท่านเสมอครับ) |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 61 เมื่อ 13 ก.พ. 16, 17:57
|
|
๐ ฝันของเธอ ๐
มืดฟ้ามามืดใจไม่สู้สร่าง หากหลงร้างหลงโลกให้โศกเฉือน แต่ใช่ทุกข์ถาโถมมิโลมเลือน สุขก็เคลื่อนเข็ญคล้อยอยู่รอยแรง
สารัตถะใดเล่าผู้เฝ้าฝัน เพื่อพบวันรวีที่ฉายแสง ขับความมืดหมองหมางเมื่อคลางแคลง ซึ่งแสวงวาดไว้แต่ใจตน
บริบทบางคราวช่างหนาวนัก ใช่รู้หลักลำดับความสับสน แลร้อนรุ่มสุมทรวงห้วงกมล จะเพียรผลพบหรือผู้ถือทาง
เมื่อไม่รู้เลศนัยหทัยท้อ จะก้าวก่อการใดในระหว่าง’ หากแจ้งเหตุแห่งใจไม่เลือนราง ย่อมก้าวย่างอยู่พ้นไม่จนจริง
ฝันใดเมื่อไม่สิ้นซึ่งดินฟ้า สู้ศรัทธาท่ามทุกข์แลสุขสิ่ง ได้ยินยลบนโลกหลักพักพิง งดงามยิ่งอยู่ใน หัวใจเรา |
"บางครั้ง ความเป็นจริงก็ทำร้ายความฝัน แต่บางครั้งความฝัน ก็ทำให้ผู้คนไม่ต้องปวดร้าวในความเป็นจริง" ธรรมดา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 63 เมื่อ 23 ก.พ. 16, 18:02
|
|
๐ วังเวง ๐
เมื่อไม่อาจดึงฟ้าลงมาต่ำ ย่อมเจ็บช้ำสู่วันอันหนักหน่วง ต่อทนทุกข์ลุกล้มกลางลมลวง ซึ่งหลายช่วงสิ้นหวังกำลังใจ
เสียงจากความเงียบงันวันเหว่ว้า ต่างดวงตาหดหู่เธอรู้ไหม เหมือนค่ำคืนเหน็บหนาวนั้นยาวไกล จึงหวั่นไหวเหลือเกินนักเดินทาง
สันโดษโดยจำนนคนถูกทิ้ง เหมือนแน่นิ่งในดวงมานการก้าวย่าง จะหลับลงตรงความเหงาเริ่มเบาบาง หลังทอดร่างโรยแรงกับแสงจันทร์
ซึ่งแสงเดือนเลือนลาก่อนฟ้ารุ่ง เฝ้ามองคุ้งขอบฟ้านัยน์ตาฝัน เหม่อลอยคอยคำใจจากใครกัน ไม่คงมั่นเหมือนเมื่ออยู่ไม่รู้ทิศ
จึงเห็นความแตกต่างวางเราไว้ ซุกซ่อนความอ่อนไหวไม่มีสิทธิ์ หลงละเมอเพ้อผ่านกับการคิด เมื่อรู้ผิดรู้รสบทน้ำตา
เสียงจากความเงียบงันเฝ้าฝันถึง ยังรำพึงผ่านสายลมโลมยอดหญ้า มองช่องว่างห่างกันวันอำลา เหมือนท้องฟ้าซึ่งไกลมากจากผืนดิน
ธรรมดา |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 64 เมื่อ 28 ก.พ. 16, 19:25
|
|
คลื่นความถี่ที่จูนคูณความฝัน บวกแสงจันทร์แสงดาวเอาหาวห่ม ช่วงติดลบพลบค่ำทำระทม หารหกล้มห่วงหาน้ำตาเติม
กำลังสองตรองตนคนไหนหนอ นั่นบางอ้อบางจากหลายฉากเสริม กลับมาเหงาเท่าทนที่คนเดิม แล้วจึงเริ่มเขียนคำจำนรรจา
ไม่มีเรื่องตลกยกเมฆมุ่ง หรือต้องปรุงต้องปรับประคับค่า คนอ้างว้างหวั่นไหวในแววตา เห็นแต่ฟ้าสีช้ำของค่ำคืน
อยากเขียนคำนำคนบนโลกหลับ หรือช่วยซับน้ำตาคราสะอื้น ให้ห้าวหาญมานมุ่งพยุงยืน แต่ต้องฝืนใจตน คนเดียวดาย
ธรรมดา |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 65 เมื่อ 07 มี.ค. 16, 20:07
|
|
ดั่งห้วงหาวดาวเดือนมิเคลื่อนคล้อย เฝ้าเคียงคอยคู่ฟ้าคราฉายแสง ประหนึ่งหวานหว่านวาดสาดแสดง หารู้แล้งเริงรำเมื่อค่ำคืน
เธอเป็นดั่งดาวเหนือเมื่อฟ้าหลับ ผู้คอยซับน้ำตาคราสะอื้น ช่วงสับสนทนทางที่ย่างยืน ก็เติมตื่นเติมไฟให้กล้าเดิน
จับมือฉันมั่นมานกับการก้าว กี่ร้อนหนาวหนักใดไม่ห่างเหิน คือแรงใจใกล้กันวันเผชิญ ไม่ขาดเขินเลยร้างระหว่างเรา
บุปผาพวงผึ้งภู่จึงรู้หวาน ที่เคยกร้านเกลื่อนกลบสงบเหงา จึงอบอุ่นสุนทรีย์ที่บรรเทา ที่เธอเฝ้าห่วงใยใจคนจร
ธรรมดา |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 66 เมื่อ 11 มี.ค. 16, 13:13
|
|
หมอกหม่นร่นลับฤๅอับแสง ร้างแล้งลุลู่สู่อุษา ปาดเปื้อนเลือนลวงจากดวงตา มืดฟ้าหม่นฝันอันตรธาน
ตื่นเติมใจจากหลับลืมทับถม จากเคยล้มรู้รุดจุดบรรสาน แห่งวันวัยใดได้ดังวิมาน ก็ปลุกปานใจแจ้งจากแรงตน
ต่อวิถีหรี่เร้นลงลับหล้า หรือลับตาแต่ใจจะให้หน หากแสงหนึ่งนั้นไกลในจำนน ย่อมพบผลไม่น้อยในรอยทาง
วับวาวราวมณีดับสีช้ำ เคยตกต่ำแต่ใดก็ให้ห่าง เศร้าสลดหดหู่อยู่เบาบาง กับก้าวย่างยินดีในชีวิต
ธรรมดา |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 67 เมื่อ 16 มี.ค. 16, 22:08
|
|
ข้าวขาดเล้าเรือนชานผ่านพายุ หลังคาผุพื้นพังฟังเสียงฝน กล่อมแผ่นดินโดยหยาดจากธาตุทน ฟ้าหรือหล่นหลงฟ้ามาเจือใจ
สักนิดหนึ่งถึงเธอที่รักแล้ว หากต้องแคล้วคลาดกันคงหวั่นไหว จะน้อยหรือรอยรักรอยอาลัย ต่อเมื่อไม่พบเพ้อละเมอมาน
อยากหยิบดาวดาษดื่นเมื่อคืนมืด จะว่าจืดก็ใกล้กับไหวหวาน หวังแต่พอต่อแต้มแซมช่วงกาล ก่อนเธอหาญหักให้หัวใจจม
หวั่นว่ารักจักจรจากคอนเก่า ไม่เหลือเราให้หลงแล้วคงขม ค่ำจะหนาวร้าวล้ามาชิดชม หากต้องห่มห้วงใจไกลจากกัน
ข้าวขาดเล้าคนขาดรักประจักษ์เถิด หากละเมิดหมดใจไกลสีสัน สู้ถนอมยอมย้ำความสัมพันธ์ ให้สำคัญเคียงคู่ อยู่ยาวนาน
ธรรมดา |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
rena36704
อสุรผัด
ตอบ: 2
|
ความคิดเห็นที่ 69 เมื่อ 26 มี.ค. 16, 14:04
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 70 เมื่อ 19 ธ.ค. 16, 09:48
|
|
๐ มาเถิดมามวลมิตร ๐
ร้อนหลังฟังเสียงคลื่น ล้อลมตื่นตามภูผา ทุ่งฝันตะวันลา ร้างละศิลป์จะรินลง
หอมหวนบ่ทวนเท่า จะบอกเบาบ่เทียมหงส์ หรรษาสิอ่าองค์ อุ่นอ้างฟ้าสุธาธาร
พริบพร่างกลางดงดึก หนาวสำนึกในห้วงหาญ หาฝันจะบันดาล ดั่งแสงซึ้งคะนึงนวล
นาวาจะล้าร่น ฤๅไพรสณฑ์สิเหลือสวน ผ่านพบจึงทบทวน ถนอมน้อยจะรอยเรียน
มาเถิดมามวลมิตร ร่ายลิขิตและคำเขียน เพื่อผู้จะพากเพียร ประโยชน์นั้นในโลกา
ฝากรอยเป็นรอยล้อม เพื่อจะพร้อมสู่ศึกษา สานศิลป์จินตนา มนน้อมประโลมชน ฯ
ธรรมดา ๑๕/๑๒/๒๕๕๙ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 72 เมื่อ 11 ม.ค. 17, 09:26
|
|
๐ สุข.ทุกข์.ท่วม.รวมใจไทย ๐
ท่ามแผ่นผืนคืนวันสรรค์ชีวิต เราลิขิตสิทธิ์สู้สู่จุดหมาย ต่างเติมฝันมั่นมุ่งดั่งรุ้งพราย ต่างปีนป่ายสายสร้างอย่างเสรี
หลากรอยยิ้มอิ่มอาบให้ซาบซึ้ง ในคำนึงพึ่งพาภาพวิถี ยังอบอุ่นหนุนค่าสามัคคี ทุกถิ่นที่ทั้งผองพี่น้องไทย
เช่นนี้เล่าเก่าก่อนจะร้อนหนาว กับเรื่องราวลำเค็ญเซ่นสมัย ป่าปิดเมืองเนืองหนุนสมดุลใด เหตุปัจจัยให้ผืนหล้าบ่านที
โอบอุ้มจะรุมร้ายหมายขย้ำ โถมกระหน่ำน้ำหลากพรากวิถี พลัดถิ่นฐานโถมทุกข์สุขเคยมี มาบัดนี้กี่พลีแล้วระทมทน
ใยแผ่นดินร้องไห้เป็นสายน้ำ นิยามย่ำสยามยิ้มลิ้มรอยหม่น ขอวิงวอนพรจากฟ้ามาดาลดล เภทภัยพ้นพี่น้องทั้งผองพลัน
เถิด.อย่าท้อรอจำนนจนใจสู้ อย่าหยุดอยู่อย่างสิ้นหวังนั่งหวาดหวั่น ขอแค่ใจไม่ล้าลงจาบัลย์ ยังมีวันวาดฟ้าดาราราย
ปลอบโยนยามยากไร้ให้แรงหวัง ให้กำลังยังใจอยู่หารู้หาย ฝ่าชะตาท้าทนที่ทักทาย ผ่านภัยร้ายได้ด้วยไทยไม่ทิ้งกัน
แรงใฝ่ดีที่เกื้อกูลจะพูนเพิ่ม มาสร้างเสริมเติมใจไร้ขีดขั้น ร้อยรวมไทยด้วยหัวใจใฝ่ถึงกัน ร้อยผูกพันผ่านลมพา.ว่าห่วงใย ฯ
ธรรมดา พ.ย.๒๕๕๔ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 73 เมื่อ 14 ม.ค. 17, 13:05
|
|
๐ ใจเล็กเล็ก ๐
เช้าใหม่ให้ความหวังเมื่อยังเด็ก ใจเล็กเล็กรู้โลกสวยด้วยเดียงสา ละมุนละไมยิ้มหวานไม่มารยา ไม่รู้ว่าโลกนี้กี่คมคน
จึงตั้งใจใฝ่รู้ชูปัญญา สู้ศึกษาศาสตร์ศิลป์ให้สิ้นหม่น น้อมหลักจริยธรรมนำตน เหตุและผลเพียรชอบประกอบการ
ระลึกรู้ชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ วิสัยทัศน์พัฒนาและกล้าหาญ สัตย์ซื่อถือวินัยใคร่เจือจาน รู้ผสานรู้รักสามัคคี
เช้าวันใหม่ให้ความหวังกับสังคม จึงได้สมสร้างมาเหมือนหน้าที่ พยุงตนบนเส้นทางอย่างคนดี โลกวันนี้.หลายล้ารออาทร
ธรรมดา |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|