เรือนไทย

ขอเวลานอก ด้วยกระทู้เบาๆสักเรื่อง

ย้อนหลังไปหลายปีก่อนหน้านี้  เคยเห็นภาพถ่ายเด็กทารก แต่งตัวเป็นผักชนิดต่างๆ บ้าง เป็นดอกไม้บ้าง วางขายเป็นบัตรอวยพร    นึกชอบว่าน่ารักดี
ต่อมาก็เจอเป็นปฏิทิน เป็นปกสมุด  อะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่าง ล้วนแต่หนูน้อยอายุไม่กี่เดือน  อยู่ในอิริยาบถต่างๆน่ารักน่าเอ็นดู
เมื่อโลกมาถึงยุคสื่อสารไร้พรมแดน   จึงสามารถขอความช่วยเหลือจากอินทรเนตร ให้เล็งแลที่มาของรูปพวกนี้ให้หน่อย ว่าเป็นภาพถ่ายฝีมือใคร  และมีภาพอะไรบ้าง

จึงได้คำตอบมา  ว่าเป็นผลงานของช่างภาพหญิง ชื่อแอนน์ เกดเดส

 ;D

แอนน์เกิดที่ควีนสแลนด์ ประเทศออสเตรเลียเมื่อ 13 กันยายน ค.ศ. 1956  พ่อแม่เป็นเจ้าของฟาร์มเลี้ยงวัวกว้างขวางขนาด 26,000 เอเคอร์ มีลูกสาวเรียงกัน 5 คน  เธอเป็นลูกคนที่สาม
แอนน์ชอบอ่านแมกกาซีน โดยเฉพาะ National Geographic และ Life ซึ่งเด่นในด้านภาพถ่ายที่นำลง   เธอชอบดูรูปผู้คน  และที่ชอบมากที่สุดคือรูปถ่ายที่ช่างภาพจับภาพออกมาได้แม่นยำในเสี้ยวนาที     เป็นภาพประเภทที่ไม่อาจถ่ายครั้งที่สองได้ออกมาซ้ำเหมือนครั้งแรก

อย่างภาพผู้ชายกระโดดข้ามเด็ก   จัดภาพยังไง ก็ไม่อาจถ่ายภาพที่สองออกมาได้มุมได้จังหวะ ซ้ำกับภาพแรกได้สำเร็จ

เมื่ออายุ 25  แอนน์เริ่มหัดถ่ายรูปโดยเอากล้องที่บ้านมาฝึกฝีมือ    เธอก็เริ่มก้าวเข้าไปในโลกของภาพถ่ายนับแต่นั้น     แต่ว่าแอนน์ไม่ได้สักแต่ว่าถ่ายรูปโน่นนี่รอบตัวเฉยๆ     เธอแสวงหาเอกลักษณ์ของตัวเองด้วย  ภาพถ่ายของเธอควรจะมีลักษณะเฉพาะตัวไม่ซ้ำกับภาพของคนอื่น

แอนน์ชอบเทพนิยายของนักเขียนสตรีชาวออสเตรเลียนเช่นกันชื่อแมรี่ กิ๊บส์    แมรี่เป็นทั้งนักเขียน นักวาดภาพประกอบ และนักเขียนการ์ตูน
เทพนิยายที่เธอเขียน มีภาพของหนูน้อยในจินตนาการ เรียกว่า gumnut babies  อาศัยอยู่บนต้น gum (ยาง)

ภาพวาด gumnut babies ของแมรี่ กิ๊บส์ จุดประกายให้แอนน์หัดถ่ายรูปทารกน้อย จัดภาพเป็นส่วนหนึ่งของต้นไม้ดอกไม้แบบเดียวกัน

 ;D

           Celine Dion ออกอัลบั้ม(เพลงและภาพ)ชุด Miracle ในปี 2004
รวมเพลงที่บรรยายถึงความรัก ความผูกพันระหว่างแม่กับลูก โดยมี Anne Geddes เป็นช่างภาพ ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=VGNQ9bu1mDk

เพลงเพราะมากค่ะ คุณ SILA

ที่น่าทึ่งก็คือแอนน์ไม่ได้ไปร่ำเรียนวิชาถ่ายรูปมาจากสถาบันไหน    เธอฝึกฝนด้วยตัวเอง   ค้นพบแนวทางของตัวเองจนสำเร็จ  ผลงานที่พิมพ์ออกมาประสบความสำเร็จ กลายเป็นหนังสือขายดีทั้งในออสเตรเลียและยุโรป   ข้ามไปถึงสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
ผลงานขายได้มากกว่า 14 ล้านเล่ม และแปลเป็นภาษาต่างๆถึง  15 ภาษา

หาเพลงและรูปมาให้ฟัง และดูกันบ้าง

http://www.youtube.com/watch?v=w7jtGl6RwdI

ความน่ารักของทารกน้อยเป็นเสน่ห์จับตาจับใจผู้พบเห็นไม่ว่าชาติไหนภาษาไหน     ไม่ว่าลูกคน หรือว่าลูกสัตว์ตัวเล็กๆก็น่ารักน่าเอ็นดูด้วยกันทั้งนั้น      แอนน์จึงรวมสองอย่างไว้ด้วยกันในภาพถ่าย   จับหนูน้อยทั้งหลายมาแต่งตัวเป็นเจ้าสัตว์น้อย  แล้วเก็บความประทับใจตามธรรมชาติ  โดยเฉพาะรอยยิ้ม หรือการนอนหลับอย่างไร้เดียงสาเอาไว้
ยิ่งภาพสุดท้ายแล้ว  ดูไม่ออกว่าระหว่างตุ๊กตาหมีน้อยที่เด็กฝรั่งมีเอาไว้กอด  กับทารกน้อยในชุดหมี  อย่างไหนน่ากอดมากกว่ากัน

ขอจัดชุดมาให้ดูกันค่ะ
ชุดผัก

ชุดฟักทอง

ภาพชุดที่นำความสำเร็จมาให้แอนน์อย่างมาก ก็คือชุดทารกกับดอกไม้
แอนน์วางแนวภาพไว้หลากหลายแนวด้วยกัน  มีทั้งภาพเดี่ยว ภาพหมู่   ลักษณะดอกไม้และอิริยาบถของทารกที่แตกต่าง ไม่ซ้ำกัน
แต่ก็อยู่ในโครงสร้างเดียวกัน

อย่างชุดนี้ เป็นภาพเดี่ยวของทารก กลางกลุ่มดอกไม้

กลุ่มดอกไม้หนูน้อย

กระถางดอกไม้น้อยๆ

แนวภาพทารกกับดอกไม้อีกแบบหนึ่งที่นำชื่อเสียงมาให้แอนน์ คือการจับภาพทารกน้อยอายุไม่กี่เดือน หลับอยู่บนกลีบดอกไม้     แอนน์ใช้โปรแกรมแต่งภาพ ผสมผสานหนูน้อยเข้ากับกลีบดอกไม้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างสนิท
เหมือนกับทารกเหล่านี้กำเนิดมาจากดอกไม้   หรืออีกนัยหนึ่ง เป็นการรวมคนและธรรมชาติเข้าด้วยกัน  ให้เห็นความเป็นหนึ่งเดียวของสิ่งมีชีวิต

ชุดนี้เป็นการจัดภาพรับเทศกาลต่างๆ
-คริสต์มาส
-ฮัลโลวีน
-อีสเตอร์

วาดเหมือนภาพถ่าย  หรือว่าถ่ายเหมือนภาพวาดกันแน่หนอ?
รูปซ้าย เป็นผลงานของ Cicely Mary Barker    ส่วนรูปขวาเป็นฝีมือของแอนน์ เกดเดส ค่ะ

ความเด่นของแอนน์ มีอีกอย่างหนึ่งคือจัดหาองค์ประกอบแปลกๆ มาสร้างแนวภาพไม่ให้ซ้ำแบบใคร      มีตั้งแต่ธรรมชาติอย่างต้นไม้ดอกไม้    แต่งแฟนซีให้ทารกน้อย    และเอาสองอย่างที่ว่านี้มาผสมกัน
อย่าง เจ้าผึ้งน้อย ในภาพนี้

แยกออกไหมคะ   หนูน้อยคนไหนจริง  คนไหนปลอม

หนูน้อยตรงกลางของจริงค่ะ นอกนั้นเป็นตุ๊กตา เพราะหน้าบล็อคเดียวกันเป๊ะ