กระทู้: อิทธิพลของ ฮิปปี้ เริ่มกระทู้โดย: sound engineer ที่ 07 ม.ค. 06, 11:02 ในช่วงทศวรรษแห่งปี1970 ดนตรีร็อค ค่อนข้างมีอิทธิพลในการแต่งตัวของคนไทย ผมสังเกตจาก ภาพถ่ายยุคเรียกร้องประชาธิปไตยทุกคนใส่กางเกงขาบาน กางเกงยีนส์ ไว้ผมยาว ผมลองไปหยิบ concertเก่าๆของ Jimi hendrix ,Led zeppelin มาดูเลยสงสัยจังว่า ในสมัยนั้นเขาเสพเพลงพวกนี้ได้จากที่ใด ฝากถามไปถึง คุณเทาชมพู คุณถาวศักดิ์ หรือใครหลายๆคนที่เคยเป็นหนุ่มสาวสมัยนั้นว่าเคยแต่งฮิปปี้กันบ้างหรือเปล่า อีกอย่างคือ ตลาดนัดสนามหลวงเก่านี่ เกิดขึ้นในยุคฮิปปี้ด้วยหรือเปล่า levi's wrangler สมัยนั้นแพงหรือเปล่า เหมาถามทุกอย่างเลยครับ ที่เกี่ยวกับยุคนั้น ผมกำลังทำเพลงพวก psycrederic rock อยู่ครับ
กระทู้: อิทธิพลของ ฮิปปี้ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ม.ค. 06, 11:20 สอบถามเรื่องกางเกงยีนส์มาให้ได้ ๑ เรื่อง ว่า แพงค่ะ
แรงเลอร์มาก่อน แล้วก็มีลีไว กับลี ราคา ๑๘๐_๒๐๐ บาท ผู้ให้ข้อมูลฝากมาบอกว่า ในยุคก๋วยเตี๋ยวชามละหกสลึง สองบาท เรียนจบปริญญาตรีรับราชการเงินเดือนขั้นต้น ๑๒๕๐ บาท จบปริญญาเอกได้ ๓๐๓๐ บาท ซื้อกางเกงยีนส์ยี่ห้อดังจากอเมริกาสักตัวก็ต้องคิดหนักเหมิือนกัน กระทู้: อิทธิพลของ ฮิปปี้ เริ่มกระทู้โดย: sound engineer ที่ 07 ม.ค. 06, 12:45 ถือว่าแพงใช้ได้เลยครับ แต่ว่าถ้ากางเกงยุคนั้นหลุดมาขายยุคนี้ผมว่าราคามี หมื่นแน่เลยครับ มันvintage มาก แต่กรรมของlevie นะครับยุคนี้ใกล้สูญพันธุ์แล้ว ลดกำลังการผลิตไปเยอะมากในบ้านตัวเอง คุณเทาชมพู เคยแต่งฮิปปี้เปล่าครับ ผมยาว รองเท้ายาง เสื้อยืด กางเกงยีนส์ขาบาน (บางคนดูดกัญชาด้วย) แล้วมันบุปผาชนตรงไหน?
กระทู้: อิทธิพลของ ฮิปปี้ เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 07 ม.ค. 06, 15:32 "แล้วมันบุปผาชนตรงไหน"
ดิฉันคงตกสำรวจคำว่า "บุปผาชน" ด้วยได้ยินคำนี้เป็นครั้งแรก เมื่อใช้ดิกออนไลน์ ตรวจดูความหมาย แปลว่า ฮิปปี้ แล้วคุณ sound เขียนว่าแล้วมัน "ฮิปปี้" ตรงไหน งงจัง คุณหมายความว่าอะไรคะ (ก็มันฮิปปี้เห็นๆอยู่นี่คะ) กระทู้: อิทธิพลของ ฮิปปี้ เริ่มกระทู้โดย: sound engineer ที่ 07 ม.ค. 06, 15:52 หมายถึงว่าดูดกัญชามันเกี่ยวกับ hippy ตรงไหน ชื่อบุปผาชน น่าจะเป็นความหมายใสสะอาดครับ ดีครับชอบคุณหนูจัน เฮ้ยคุณ nuchanจัง
กระทู้: อิทธิพลของ ฮิปปี้ เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 07 ม.ค. 06, 19:25 คุณ sound ใช้คำว่าบุปผาชนเลยงงค่ะ
ในอเมริกาช่วง 1946-1964 เป็นยุคของ เบบี้บูม ราวต้น 60s ก็มาถึงยุค flower power เท่าที่ทราบ ฮิปปี้เป็นพวกรักสงบ มีลักษณะเฉพาะ คือโกนหัวหรือผมยาว ฟังเพลงรอค เสพยา และสวมกางเกงยีนส์ "Although golf was originally restricted to wealthy, overweight Protestants, today it's open to anybody who owns hideous clothing." กระทู้: อิทธิพลของ ฮิปปี้ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ม.ค. 06, 21:39 ดิฉันไม่เคยแต่งฮิปปี้ค่ะ
สิ่งที่คุณจขกท.ถามเป็นแฟชั่นของนิสิตนักศึกษาไทยยุคประชาธิปไตยเบ่งบาน เรียกว่า ห้า ย. คือเสื้อยืด ผมยาว นุ่งยีนส์ สวมรองเท้าแตะยาง สะพายย่าม บุบผาชน หรือ Flower People เป็นหนุ่มสาวที่เกิดจากยุคเบบี้บูม พอโตเป็นหนุ่มสาวอเมริกาก็เข้าร่วมในสงครามเวียตนาม ในการรบครั้งนั้นทหารหนุ่มอเมริกันเอาชีีวิตไปทิ้งเสียมากมาย สงครามยืดเยื้อไปนานเท่าไรกระแสแอนตี้สงครามก็ก่อตัวแรงขึ้นเท่านั้น หนุ่มสาวเริ่มเห็นว่าการรบเป็นสิ่งไม่ควรทำ เกิดสโลแกนขึ้นว่า Make Love, not War พวกหนุ่มสาวยุคนี้มีเอกลักษณ์คือประดับดอกไม้ และเดินแจกดอกไม้ให้ผู้คน เป็นเครื่องหมายของความรักที่มนุษย์พึงมีต่อกัน ถ้าจำไม่ผิดเริ่มที่ซานฟรานซิสโก ลองเปิดเพลง San Francisco เนื้อร้องตอนหนึ่งพูดถึง People with flowers in their hair นอกจากแจกดอกไม้ รักความสงบ แอนตี้รบราฆ่าฟัน พวกเขายังสลัดพันธนาการทางสังคมออกหมด เช่นไม่เรียนหนังสือ ออกจากบ้านไปนอนข้างถนน จับกลุ่มกันอยู่ในโลกของพวกเขา เพื่อค้นหาตัวตนอันแท้จริงของตัวเอง ยาเสพติดเข้ามามีบทบาทในการแสวงหานี้ด้วย เช่นกัญชา มารีฮวนน่า แอลเอสดี หนุ่มสาวบุบผาชนระเริงกับเสรีภาพไร้ขอบเขตกันสุดเหวี่ยง แนะนำให้คุณซาวน์เอนจิิเนียร์หาซีดี -Forrest Gump มาดู นางเอกในเรื่องคือบุบผาชนของแท้ คุณจะเห็นแฟชั่น เพลง และการดำเนินชีวิตแบบฮิปปี้ กระทู้: อิทธิพลของ ฮิปปี้ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ม.ค. 06, 22:50 SAN FRANCISCO
Scott McKenzie If you're going to San Francisco Be sure to wear some flowers in your hair If you're going to San Francisco You're gonna meet some gentle people there For those who come to San Francisco Summertime will be a love-in there In the streets of San Francisco Gentle people with flowers in their hair All across the nation such a strange vibration People in motion There's a whole generation with a new explanation People in motion people in motion For those who come to San Francisco Be sure to wear some flowers in your hair If you come to San Francisco Summertime will be a love-in there If you come to San Francisco Summertime will be a love-in there เพลงนี้ละค่ะสะท้่อนภาพลักษณ์และอุดมการณ์อันสวยงามของฮิปปี้ กระทู้: อิทธิพลของ ฮิปปี้ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ม.ค. 06, 08:42
กระทู้: อิทธิพลของ ฮิปปี้ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ม.ค. 06, 08:48
กระทู้: อิทธิพลของ ฮิปปี้ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ม.ค. 06, 08:49
กระทู้: อิทธิพลของ ฮิปปี้ เริ่มกระทู้โดย: วันเสาร์ ที่ 16 ม.ค. 06, 11:12 ขออนุญาตแนะนำให้อ่านหนังสือ in my generation เป็นพ็อคเกตบุ๊คที่ "สีลม"เขียน ถ้าจำไม่ผิด ออกมาในช่วงปีที่แล้ว รวบรวมคอลัมน์เกี่ยวกับดนตรีช่วง60-70 เคยตีพิมพ์ในมติชนสุดสัปดาห์ค่ะ
กระทู้: อิทธิพลของ ฮิปปี้ เริ่มกระทู้โดย: คำฝอย ที่ 16 ม.ค. 06, 17:22 สวัสดีคุณเทาชมพูและทุกท่านในเรื่อนไทยค่ะ
ดิฉันหายหน้าหายตาไปเป็นพักๆ เพราะช่วงนี้ยุ่งมากๆเรื่องเรียนค่ะ ตามกำหนดเป็นปีสุดท้ายแล้ว ตอนนี้เลยหนักหน่อยค่ะ แต่ก็ยังกัดฟันสู้นะคะ (ฮึด) ยังติดตามอ่านอยู่เรื่อยๆ แหละค่ะ เห็นกระทู้เรื่องฮิปปี้แล้วก็สนใจค่ะ เพราะ 1. ดิฉันสับสนบ่อยๆ ระหว่าง การแต่งตัวแบบฮิปปี้ หรือบุปผาชน และสไตล์ โบฮีเมียน เนื่องจากว่า โบฮีเมียน จะเป็นแบบที่สาวๆ ใส่เสื้อผ้าที่ประดับดอกไม้ ขนนก หรือว่าจีบ ระบาย เยอะๆ (หรือเปล่าคะ ?) ที่สับสนเพราะโบฮีเมียนติดดอกไม้ (บุปผา = ดอกไม้) ขอบคุณ คุณเทาชมพูที่บอกที่มาของบุปผาชนเหล่านี้ค่ะ 2. นึกสงสัยว่า สังคมฮิบปปี้นี้กำเนิดในอเมริกาใช่ไหมคะ แล้วในที่อื่นๆ เช่น ยุโรปมีกลุ่มคนที่ทำตัวเสรี ค้นหาตัวเอง และถือ คติ make love ,not war เหมือนกันหรือเปล่า 3. ดิฉันว่าชาวบุปผารักสันติภาพนี้ก็ดีมากๆ นะคะ แต่รู้สึกสยองกับการค้นหาตัวเองโดยการใช้ยาเสพติด สุดท้ายคงไม่ได้รู้เพิ่มขึ้น อาจจะเลอะเลือนไปเลย คิดว่าสำหรับวัยรุ่นในอเมริกาและยุโรป คงเป็นเรี่องธรรมดาที่แต่ละคนมีโอกาส หรือลองสูบ แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งผิดกฎหมายก็ตาม (ยกเว้น อัมสเตอร์ดัมไว้แล้วกันนะคะ) หรือเปล่าคะ (ดิฉันไม่เคยไปอเมริกาค่ะ) 4. พูดถึงสงครามเวียดนามแล้วก็ทำให้นึกถึงสงครามอื่นๆ ที่อเมริกาส่วนร่วมอีกหลายๆ สงครามค่ะ เพื่อนร่วมงานของดิฉันเป็นชาวอเมริกัน และพี่ท่านมาจาก แคลิฟลอร์เนียค่ะ เพื่อนคนนี้แปลกมาก (แต่ดิฉันคิดว่าคงมีชาวอเมริกันอีกหลายคนที่เป็นเช่นนี้) คือ เมื่อเปิดโอกาสให้เขาพูดถึงประเทศตัวเอง เขาจะรู้สึกว่า ประเทศของเขาช่างเลวร้ายและทำในสิ่งที่น่าละอายเหลือเกิน ทำให้โลกนี้วุ่นวาย ร่วมหรือก่อสงครามที่ มีแต่ทำลายล้างชาติอื่นๆ ตั้งแต่ เวียดนาม จนถึง ตะวันออกกลาง จนเขาไม่อยากจะกลับไปอยู่ที่นั่น และไม่อยากเป็นอเมริกันอีกแล้ว (ตอนนี้ทำงานด้วยกันที่เยอรมนีค่ะ) 5. ในความรู้สึกของดิฉัน ดิฉันนึกไม่ออกว่า เมื่อดิฉันไม่ได้เป็นคนไทย ดิฉันจะยังเป็นตัวของดิฉันอยู่ได้อย่างไร (อ่านแล้วงงไหมคะเนี่ย) ดิฉันไม่เข้าใจเลยค่ะ เพราะว่าในความรู้สึกของดิฉัน no place like home จริงๆ นะคะ แล้วคำว่า home ในที่นี้ ดิฉันรู้สึกเอาเองนะคะว่า มันไม่ได้มีแค่บ้าน พ่อ แม่ และน้องชาย แต่มันรวมถึงบ้านเกิด เมืองนอน และ สิ่งที่เลี้ยงดู หล่อหลอมเราจนเติบโตมาได้ทุกวันนี้ แม้ดิฉันจะทำตัวผิดแบบผิดแนวเดิมบ่อยๆ ก็เถอะ (ตอนนี้เลิกคิดจะเข้าใจเพื่อนแล้วด้วยค่ะ ปล่อยเขาไป) เคยพูดเสมอว่า ถ้าชีวิตนี้ไม่อยู่บ้านเรา ที่แห่งหนึ่งที่คิดว่าจะอยู่ได้และมีความสุขคือ สเปนค่ะ เหตุผลก็คือ เพราะมีหลายอย่างคล้ายบ้านเรามากๆ ค่ะ รู้สึกเหมือนดิฉันจะพาออกนอกประเด็นพิกล ยังไงก็ขออภัยทุกท่านด้วยนะคะ กระทู้ฮิปปี้กลายเป็น กระทู้สงครามกับความรักชาติไปซะแล้ว กระทู้: อิทธิพลของ ฮิปปี้ เริ่มกระทู้โดย: ปุยฝ้าย ที่ 26 ม.ค. 06, 21:29 ในยุคนี้ก็มีความเปลี่ยนแปลงด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรมมากเลยนะคะ ((พอรู้เพราะบังเอิญเรียนด้านนี้อยู่)) แต่ไม่แน่ใจว่าข้อมูลปึ๊กพอรึเปล่าอะค่ะ ขอไปค้นคว้าอีกสักประเดี๋ยว 55
กระทู้: อิทธิพลของ ฮิปปี้ เริ่มกระทู้โดย: ชื่นใจ ที่ 30 ม.ค. 06, 04:47 ขออนุญาตออกนอกประเด็นนิดนึงค่ะ...นิดเดียวจริงๆ
ข้อที่ห้าของคุณคำฝอย มันตรงใจอิฉันจังเลย เพิ่งซาบซึ้งความรู้สึกนี้เมื่อต้องมาอยู่เกาะ !! ไม่มีที่ไหนเป็น "บ้าน" ได้เท่าเมืองไทยอีกแล้ว เชื่อไหมคะ...อยู่ที่นี่...ฟังเพลงสามัคคีประเทศไทย ของคาราบาวทีไร ...ร้องไห้ทุกที ออกนอกเรื่องมาพอแล้วค่ะ |