เรือนไทย

General Category => วิเสทนิยม => ข้อความที่เริ่มโดย: Anna ที่ 17 พ.ค. 14, 20:14



กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 17 พ.ค. 14, 20:14
ไม่ทราบว่ามีภาพการเสิร์ฟอาหารของร้านบะหมี่แถวราชวงศ์  ที่แขวนถาดกับหน้าต่างรถ  ให้ลูกค้ากินบะหมี่ในรถน่ะค่ะ  พอจะมีมั้ยคะ  อ่านเจอในนิยาย นึกภาพตามก็รู้สึกว่ามันน่าจะทุลักทุเล  เพราะคิดว่าคงต้องนั่งเอียงตัวหันข้างกิน  แล้วถ้าไปกันสองคน  ต่างคนต่างหันไปทางหน้าต่างคนละด้าน 
แต่นึกดูอีกที ถ้ามันทุลักทุเลขนาดนั้น



กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 17 พ.ค. 14, 20:22
ขอโทษค่ะ  มือเผลอไปโดนปุ่มส่งข้อความทั้งที่พิมพ์ยังไม่เสร็จ 

นึกดูแล้ว  พวกที่ไปกินก็ล้วนแล้วแต่ไฮโซ  ถ้าต้องกินในลักษณะทุลักทุเลขนาดนั้นเขาคงไม่กิน     


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 14, 20:52
ตอนไปกินบะหมี่ราชวงศ์โดยมีถาดมาเกี่ยวขอบหน้าต่างรถ   ดิฉันยังเด็ก  แต่ก็ยังจำได้ว่าไม่จำเป็นต้องยื่นมือชะโงกหัว ออกไปนอกหน้าต่างรถ  เพื่อจะกินอยู่เหนือถาด  ถ้างั้นก็ต้องยงโย่ยงหยกอยู่ในรถ ทุลักทุเลจริงอย่างคุณว่า
ก็แค่หยิบชามบะหมี่เข้ามานั่งกินอยู่ในรถ   ส่วนน้ำก็วางบนถาด กินเสร็จหยิบแก้วน้ำมากิน   กินน้ำเสร็จเขาเอาไอศกรีมมาเสิฟ วางบนถาด เราก็เอาชามบะหมี่ที่หมดเกลี้ยงแล้ววางคืนไปบนถาด   หยิบถ้วยไอศรีมที่เป็นแก้วกลมหนามีเชิง มากินต่อ
แม่นั่งอยู่ข้างๆก็หยิบชามบะหมี่จากถาดที่เกี่ยวกับหน้าต่างด้านแม่   พ่อไปนั่งบนเบาะหน้า ก็กินจากถาดที่เกี่ยวกับหน้าต่างหน้า
กินไปก็คุยกันไปในรถ
เวลาสั่งของมากินในรถ ไม่ลงไปในร้าน  พ่อแม่จะไม่สั่งก๋วยเตี๋ยวน้ำมากินค่ะ  เพราะถือแล้วร้อน หกง่ายอีกต่างหาก


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 พ.ค. 14, 21:28
หา


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 พ.ค. 14, 21:31
โอ้โห ข้อยยังไม่ทันขึ้นจากน้ำ นี่คนอ่านเผ่นหนีจากอีสานมาหม่ำบะหมี่ราชวงศ์กันซะแล้วหรือเนี่ย

อ่ะ ไม่เป็นไรครับ อยากเห็นถาดสมัยโน้น...เอ้า จัดให้


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 14, 21:43
หา
คุณนวรัตนหาบะหมี่เจอหรือยังคะ   ถ้ายังไม่เจอ เอาของดิฉันไปก่อนก็ได้


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 พ.ค. 14, 21:53
ขอบคุณครับ แต่ผมรับประทานข้าวเหนียวสัมตำปลาแดกไปเรียบโร้ยแล้ว

ตอนแรกนึกว่าคุณแอนนาตั้งคำถามผิดที่ เพราะกระทู้ข้างๆมีเรื่อง"ถนนเยาวราช จากวันวานถึงวันนี้" น่าจะเหมาะสำหรับทางโน้น


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 14, 21:53
รูปนี้ ดูแปลกๆ    จำได้ว่าไม่เคยมีใครเปิดประตูรถ  แล้วบริกรยกเก้าอี้มาให้นั่งล้อมวงข้างรถ  เพราะรถแต่ละคันจอดแบบเอาหน้าหม้อรถเข้าชิดฟุตปาธ   ตัวรถทำมุมเอียงกับฟุตปาธหน้าร้าน  จอดเรียงๆกันไป
จึงไม่มีที่ว่างข้างรถพอจะวางเก้าอี้หมู่ได้  ถึงมีมันก็เสี่ยงกับรถข้างๆ ถอยเข้าถอยออก  อาจจะเฉี่ยวไปทั้งเก้าอี้


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 14, 21:56
ไม่ทราบว่ามีภาพการเสิร์ฟอาหารของร้านบะหมี่แถวราชวงศ์  ที่แขวนถาดกับหน้าต่างรถ  ให้ลูกค้ากินบะหมี่ในรถน่ะค่ะ  พอจะมีมั้ยคะ  อ่านเจอในนิยาย นึกภาพตามก็รู้สึกว่ามันน่าจะทุลักทุเล  เพราะคิดว่าคงต้องนั่งเอียงตัวหันข้างกิน  แล้วถ้าไปกันสองคน  ต่างคนต่างหันไปทางหน้าต่างคนละด้าน 
แต่นึกดูอีกที ถ้ามันทุลักทุเลขนาดนั้น

ตอนแรกก็สงสัยว่าผิดกระทู้  แต่เห็นคุณแอนนาถามหาภาพการเสิร์ฟอาหาร เลยคิดว่าอยู่ในหัวข้อภาพเก่าหายากค่ะ
เห็นจะต้องยกไปกระทู้เยาวราชทั้งกระบิเสียแล้วมั้ง

ป.ล.ข้าวเหนียวส้มตำปลาแดก  ฝีมือแม่หญิงแช่น้ำ น่าจะเข้มข้นจากน้ำในหนองผสมลงไปด้วยนะคะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 พ.ค. 14, 22:10
คร้าบเข้มข้นมาก สงสัยจะท้องเสียต้องพักกระทู้สักสองสามวัน รอดูสถานการณ์ ถ้าท้องหายปั่นป่วนแล้วค่อยคิดเรื่องตามเสด็จต่อ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 14, 22:24
จะให้วางมาบนถาด เกาะกับหน้าต่างรถด้วยไหมคะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 18 พ.ค. 14, 09:25
ขอบพระคุณอาจารย์ทั้งสองท่านค่ะ  สำหรับรูปและคำอธิบาย 

ป.ล. บะหมี่แห้งที่อาจารย์เทาชมพูส่งมาน่ากินมากกกกกก   ถ้าอาจารย์นวรัตนไม่รับประทาน  ศิษย์ก้นกุฏิคนนี้ขอกินแทนนะคะ  ;D


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 พ.ค. 14, 09:32
เชิญเลยค่ะ
ขนมจีบแต้จิ๋วแบบโบราณ ก็น่ากินนะคะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 18 พ.ค. 14, 10:00
สมัยก่อนเวลาไปกินบะหมี่ราชวงศ์ ไฮโซกระเป๋าหนักของแท้เขาต้องสั่งบะหมี่อัศวิน นัยว่าบะหมี่ที่ใส่อะไรๆแพงๆโปะหน้าลงไปเป็นพิเศษนี้ อัศวินแหวนเพชรของเผ่า หรือนายตำรวจระดับนายพันที่เป็นบอดี้การ์ดของพล.ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีตำรวจสมัยสุดท้ายของรัฐบาลจอมพลป. เป็นคนกำหนดสเป๊กขึ้น เลยได้รับการขนานนามบะหมี่เมนูนี้ไว้ให้คนฮือฮา

ผมหารูปบะหมี่อัศวินแท้ๆไม่ได้แล้ว เพราะถ้าเป็นสมัยนี้ต้องตั้งราคาเฉียดพัน ทำให้ไม่มีร้านใดกล้าขาย ผมเลยเอาภาพบะหมี่ก้ามปู ที่พอจะใกล้เคียงมาให้ดูพอเป็นแนว แต่ชามนี้ยังขาด เซี่ยงจี๊ ตับหมู เนื้อหมูชิ้นโตๆ ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลา ฯลฯ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 พ.ค. 14, 10:05
อ้าว   มาเจออัศวินแหวนเพชร ไฮโซแท้ของเก่า เข้าที่กระทู้นี้แล้ว  
ดิฉันเองยังไม่เคยกินบะหมี่อัศวินเลย   พ่อสั่งให้แต่บะหมี่ธรรมดา  กินกะไอศกรีมกาแฟอีกถ้วย   แค่นี้ก็หรูมากแล้ว

ถ้าจะกรุณาทำออเดอร์พิเศษ  สั่งบะหมี่อัศวินมาเลี้ยงกันในกระทู้ก็จะเป็นอานิสงส์ยิ่งนะคะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 18 พ.ค. 14, 10:05
จำได้ว่าบะหมี่ราชวงศ์นั้นมีผู้ประกอบการหลายร้าน

๑. ร้านสีฟ้า ก่อตั้ง พ.ศ. ๒๔๗๙

๒. ร้านโภชนาลัย ก่อตั้ง พ.ศ. ๒๔๘๕

๓. ร้านบะหมีกัว ก่อตั้ง พ.ศ. ๒๔๙๐

ท่านกาญจนนาคพันธุ์เล่าเรื่องถนนราชวงศ์ก็ไม่ได้กล่าวถึงบะหมี่ย่านนี้เลย แต่กลับไปพูดถึงซาลาเปา ขนมจีบ ที่ "ร้านบันไดทอง" ที่ทำลวดสีทองเหลืองที่จมูกบันได ๑๕ ขั้น

ส่วนบะหมี่นั้นท่านเล่าว่าถ้าให้ขึ้นชื่อจริงๆ ก็ "บะหมี่ตลาดพลู" และ "บะหมี่วัดมหรรณ" มีผู้คนซื้อเยอะที่สุด


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 18 พ.ค. 14, 10:14
รูปคนนั่งทานอาหารกับถาดข้างรถยนต์นี้ คนวาดเกิดไม่ทันจึงนึกภาพไม่ออกว่าเขานั่งทานกันในรถ โดยถือชามอยู่ในมือ ทานเสร็จก็วางชามไว้บนถาด หยิบแก้วน้ำมาดื่มหน่อยแล้วคว้าถ้วยไอศกรีมมาต่อให้ครบสูตร ไม่ได้ไปนั่งทานกันบนพื้นถนนอย่างที่เห็น

ถาดอาหารที่แขวนอยู่บนขอบหน้าต่างจะสูงกว่าระดับมาตรฐานของโต๊ะอาหารมากอยู่ คนนั่งอย่างนั้นชามจะอยู่สูงถึงคอ คนวาดไม่รู้จะมั่วอย่างไรเลยตัดช่วงล่างออกเสียเลย เพราะถ้าวาดให้เห็นขาเห็นล้อรถครบมันจะฟ้องความไม่สมจริง


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 18 พ.ค. 14, 10:20
อ้างถึง
เชิญเลยค่ะ
ขนมจีบแต้จิ๋วแบบโบราณ ก็น่ากินนะคะ

เห็นรูปนี้แล้วนึกถึงความหลัง  สมัยเด็กๆ จะมีอาแปะสวมหมวกแหลมๆ หาบมาขายค่ะ  ขนมจีบในกระทงใบตองแห้งอย่างนี้แหละค่ะ  จำได้ว่าอร่อยมาก  โตขึ้นมาทานที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่า

ส่วยกุ่ยช่ายก็เหมือนจะเป็นแผ่นๆ หรืออย่างไรไม่แน่ใจ  จำได้ว่าอาแปะต้องเอาแผ่นเหล็ก (หรืออะลูมิเนียม) บางๆ มากดตัดให้เป็นชิ้นพอดีคำ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 พ.ค. 14, 10:25

เห็นรูปนี้แล้วนึกถึงความหลัง  สมัยเด็กๆ จะมีอาแปะสวมหมวกแหลมๆ หาบมาขายค่ะ  ขนมจีบในกระทงใบตองแห้งอย่างนี้แหละค่ะ  จำได้ว่าอร่อยมาก  โตขึ้นมาทานที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่า

ไม่รู้ว่าความเป็นเด็กทำให้อาหารทุกอย่างอร่อยไปหมด  หรือว่าสมัยนั้นของอร่อยมีกินเยอะแยะกว่าเดี๋ยวนี้จริงๆ 
ขนมจีบในกระทงใบตองแห้ง ราดน้ำจิ้มที่มีจิ๊กโฉ่ผสมพริกดองเผ็ดๆ อย่างนี้ละค่ะ อร่อยที่สุด   อาแปะหาบมาขายตามบ้าน  จำราคาไม่ได้แล้ว
เมื่ออาแปะหาบของเหล่านั้นสูญหายไปกับกาลเวลา  อาตี๋ผู้เป็นทายาทก็ตั้งร้านกันกลายเป็นเถ้าแก่กันเป็นแถว  ขนมจีบแบบนี้ก็หายไป 


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 18 พ.ค. 14, 10:28
อ้างถึง
ดิฉันเองยังไม่เคยกินบะหมี่อัศวินเลย   พ่อสั่งให้แต่บะหมี่ธรรมดา  กินกะไอศกรีมกาแฟอีกถ้วย   แค่นี้ก็หรูมากแล้ว

ถ้าจะกรุณาทำออเดอร์พิเศษ  สั่งบะหมี่อัศวินมาเลี้ยงกันในกระทู้ก็จะเป็นอานิสงส์ยิ่งนะคะ

ได้เลยครับ นี่เขาเรียกบะหมี่จอมพล เชิญเสพย์ตามสบาย ชามนึงไม่พอก็ขอเปิ้ลได้ ถือเป็นกันเองนะครับ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 พ.ค. 14, 10:35
^


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 พ.ค. 14, 10:57
    รำลึกความหลัง    
    ร้านบะหมี่ราชวงศ์มีหลายร้านค่ะ  ลูกค้าเต็มทุกร้าน
    ตอนเย็นวันอาทิตย์ พ่อมักจะพาแม่กับลูกไปกินบะหมี่ที่ร้าน "สีฟ้า"  เป็นรายการพิเศษนอกสถานที่     เมื่อไปถึง ค่ำแล้ว  ไฟเปิดสว่างไสว ในร้านมีลูกค้าอยู่เต็มร้านเสมอ ไม่เคยเห็นร้านมีโต๊ะว่างๆ  
    ถ้าโชคดีก็จะหาที่นั่งได้  แต่ส่วนใหญ่เมื่อเห็นคนนั่งกันเต็มร้าน   พ่อก็เลือกนั่งกินในรถดีกว่าจะเที่ยวเดินหาโต๊ะว่างให้ต้องหลีกหลบคน    เพราะโต๊ะตั้งใกล้กันมาก    พนักงานเคยชินกับลูกค้านอกร้าน  พอสั่งเขาก็ขมีขมันยกถาดมาเกี่ยวให้กับขอบหน้าต่างรถ แล้วยกบะหมี่แห้งมาให้
    บะหมี่สมัยนั้นมีเส้นและของประกอบมากกว่าเดี๋ยวนี้   ชามเดียวอิ่มแทบจุกสำหรับเด็ก     แต่ยังไงก็ต้องเหลือเนื้อที่ในกระเพาะไว้ให้ไอศกรีม ไม่งั้นไม่ครบสมบูรณ์ค่ะ      
   ส่วนใหญ่คนไปกินบะหมี่ราชวงศ์มักจะรู้จักกัน   อาจไปเพราะไปกินกันบ่อยๆเลยรู้จักกันไปเอง  หรือไม่ก็เป็นเพื่อนฝูงรสนิยมเดียวกัน  พอพ่อกินบะหมี่เสร็จก็ลงจากรถ ไปทักทายเจ้าของรถคันนั้นคันนี้   ยังไงก็ต้องเจอคนรู้จักเข้าบ้างอย่างน้อยก็หนึ่งหรือสองคน  แต่ส่วนใหญ่เจอมากกว่านั้น  อาทิตย์นี้เจอคุณนี่  อาทิตย์ต่อมาเจอคุณนั่น
    กรุงเทพในสมัยนั้นแคบกว่าสมัยนี้มาก   ไม่ว่าไปถนนสายไหน  เข้าร้านโน้นออกร้านนี้จะต้องเจอหน้าคนรู้จักกันเสมอ

   เอาบะหมี่ราชวงศ์มาฝากท่านผู้เข้ามาอ่าน    ชามนี้เจียมตัวหน่อยนะคะ   ไม่มีแหวนเพชรประกอบอย่างชามข้างบนโน้น


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 18 พ.ค. 14, 15:33
บะหมี่ใน ค.ห. 13 กับ 21 น่ากินสุดสุด  ทำเอาน้ำลายไหลเลยค่ะ :P    ค.ห.19 บะหมี่ที่เสิร์ฟมาในอ่างปลูกบัว  ดูน่ากลัว  มากกว่าน่ากิน  :o


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 พ.ค. 14, 21:12
แหม  คุณ Anna   บะหมี่อ่างบัวน่ะระดับฮ่องเต้นะคะ     ส่วนสองชามของดิฉันระดับธรรมดา   
ไปว่าของท่านไม่น่ากิน เดี๋ยวก็โดนขว้างป้ายประหารหัวสุนัขซะหร็อก


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 18 พ.ค. 14, 21:36
อ้างถึง
เดี๋ยวก็โดนขว้างป้ายประหารหัวสุนัขซะหร็อก


อา ราย จา คา หนาด น้าน


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 พ.ค. 14, 21:53
หัวมังกร...อ่ะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 18 พ.ค. 14, 23:10
ขออภัยหมื่นๆครั้งค่ะ อาจารย์นวรัตน์  แม้ความผิดครั้งนี้จะใหญ่หลวงนัก  หากแต่ข้าน้อยก็ยังไม่สมควรตาย  :'(


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 19 พ.ค. 14, 07:19
ให้อภัย

ไม่ชอบจานนั้นก็ไม่เป็นไร เอาฮ๊อทดอกมาเปลี่ยนให้



กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 พ.ค. 14, 09:35
ถ้าใส่ไส้เป็นพันธุ์ bichon  น่าจะแจ่มแจ๋วกว่าตัวนี้เยอะนะคะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: Namplaeng ที่ 19 พ.ค. 14, 10:43
(http://www.reurnthai.com/index.php?PHPSESSID=27930aa5e8f42454f19280351eb35180&action=dlattach;topic=5976.0;attach=48433;image)

ภาพวาดนี้ และเหตุการณ์ เกี่ยวกับ บะหมี่แขวนที่ราชวงศ์ ดูจะได้กลิ่นนมเนยมากกว่า กลิ่นน้ำมันกระเทียมเจียวนะครับ

ที่ดินย่านราชวงศ์ในอดีตเป็นทีแพงไม่ต่างจากย่านธุรกิจสีลมในปัจจุบัน ร้านอาหารใหญ่จะอยู่ใกล้ห้างผ้าคิคูย่า ก็มีหน้าร้านสักสองหรือสามคูหาตื้นๆเท่านั้น ไม่ได้กว้างขวางอย่างในภาพ  
การจอดรถย่านนี้เขาจอดรถชิดขนานขอบทาง ไม่ได้จอดรถหันหัวออก หรือเสียบหัวรถเข้า ทั้งนี้เพราะถนนย่านนี้ไม่ได้กว้างขวาง แต่กลับมียวดยานพลุกพล่าน การจอดขนานเปิดโอกาสให้คนมีธุระจำเป็นจอดซ้อนคันได้ชั่วขณะ แล้วยังเหลือช่องให้รถอื่นพอจะแล่นผ่านไปได้ จำได้ว่าการจอดรถลักษณะเสียบหัว หรือท้ายเข้า ผมมาได้เห็นเอาที่ย่านสยามเมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้วนี้เอง



[/size]


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 พ.ค. 14, 10:58
     ราชวงศ์ในช่วงก่อนพ.ศ. 2500  ยังมีรถสัญจรไปมาไม่มากนัก  โดยเฉพาะยามค่ำคืนก็มีแต่รถที่มาอุดหนุนบะหมี่ก๋วยเตี๋ยว    จึงสามารถจอดเรียงกันแบบเอาหน้าหม้อรถเข้าได้สบายค่ะ และทำให้มีที่จอดเพิ่มมากกว่าจอดขนานกับบาทวิถีด้วย
       พนักงานจะยกถาดมาเกี่ยวทางซ้ายขวาของรถก็ง่ายกว่า  ไม่ต้องกลัวรถที่วิ่งผ่านไปมาจะเฉี่ยวพนักงาน และเฉี่ยวถาดที่เกาะกับหน้าต่างรถด้วย


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: Namplaeng ที่ 19 พ.ค. 14, 11:02
จำได้ว่าคนกรุงเมื่อครึ่งศตวรรษที่แล้ว ไม่ว่าจะไทย แขก หรือเจ๊กจีน มีลักษณะทางสังคมที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือ ไม่นิยมจะมานั่งกินอาหารนอกบ้านหรือนอกร้านอาหาร ให้เป็นที่ประเจิดประเจ้อของผู้คนที่ผ่านไปมา  
เว้นแต่จะสุดวิสัยเพราะอยู่ระหว่างการเดินทางนอกบ้าน
ร้านค้าริมทางหรือแผงลอยขายอาหารสำเร็จรูปมีโต๊ะบริการแค่ 1 - 2 ตัว ไม่ได้มีมากมายเป็นตับเหมือนปัจจุบัน
คนยุคนั้นหากพึงใจจะกินอะไรจากแผงลอย หรือร้านที่ไม่มีที่นั่งเป็นสัดส่วน เขาจะเตรียมหม้อหูหิ้ว ให้เด็ก หรือคนรับใช้ ไปซื้อหามากินกันในบ้าน


(http://img.tarad.com/shop/2/2ndsumpeng/img-lib/spd_20090821150606_b.jpg)

(http://www.thaiscooter.com/forums/attachment.php?attachmentid=3905960&d=1356280331)

การมานั่งกินเลี้ยงกันที่ลานจะเป็นที่นิยมกันแต่ในกลุ่มที่เรียนจบมาจากเมืองนอกเมืองนา  ร้านอาหารที่ตั้งโต๊ะออกมานอกร้านให้ลูกค้ารับลมแรกมีก็อยู่ย่านถนนราชดำเนินโน่นกระมัง  แล้วภายหลังจึงมาผุดลานเบียร์ที่ละแวกสยามเป็นที่นิยมของวัยรุ่นยุคนั้น


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: Namplaeng ที่ 19 พ.ค. 14, 11:12
ลักษณะของร้านบะหมี่ในย่านนี้ จะเป็นร้านขายหมี่กวางตุ้ง
ซึ่งจะเป็นหมี่ใส่หมูย่างสูตรกวางตุ้ง หรือปู และมักจะขายคู่กับโจ๊ก
(บะหมี่-ก๋วยเตี๋ยว แต้จิ๋วประเภทใส่ลูกชิ้นปลาจะเป็นแผงลอยซะเป็นส่วนใหญ่)

โดยร้านคนจีนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เสริฟขายคู่กับไอสกรีม หรืออาหารเย็นๆ  

ด้วยขนบหรือความเชื่อจีนเขาถือว่าการตบท้ายมื้ออาหารด้วยไอสกรีมไม่ดีต่อสุขภาพ

เว้นแต่จะเป็นการสั่งซื้อจากร้านค้าข้างเคียง
หรือจะเป็นบริการในภัตตาคารซึ่งมุ่งให้บริการเอาใจลูกค้าเป็นสำคัญ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 19 พ.ค. 14, 11:42
เรียนอาจารย์เทาชมพู

สมัยก่อนของอร่อยๆเยอะกว่าเดี๋ยวนี้จริงๆค่ะ เป็นเพราะว่าสมัยก่อนไม่มีการลดต้นทุนแบบเดี๋ยวนี้ เครื่องปรุงเครื่องเคียงทุกอย่างจัดเต็ม ลูกชิ้นก็เนื้อหมูล้วนๆไม่ใช่ผสมแป้ง แต่เดี๋ยวนี้ข้าวของก็แพง วัตถุดิบราคาแพงขึ้นทุกอย่าง ทางร้านค้าก็ต้องหาวิธีการลดต้นทุนเอาเอง ถึงเราไม่ลดต้นทุน พวกร้านเครื่องปรุงต่างๆเขาก็ต้องพยายามลดของเขาเพื่อความอยู่รอด อย่างที่บ้านแฟนเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวแบบโบราณ ของทุกอย่างเตี่ยท่านพยายามท่านเองหมด เพื่อให้ได้คุณภาพ ท่านบอกว่าลดคุณภาพไม่ได้หรอก อยากให้คนกินเขาชื่นชม ๖กว่าจะขอเตี่ยขึ้นราคาทียากแสนยากเพราะเตี่ยสงสารลูกค้าที่มากรับประทาน ทั้งๆที่ต้นทุนนั้นสูงมากแล้วในปัจจุบัน) อย่างซอสปรุงลดท่านก็ใช้ง่วนเชียงเท่านั้นทั้งๆที่ราคาแพงกว่าซอสปรุงรสยี่ห้ออื่นๆ ดิฉันเคยแนะนำท่านว่าเตี่ยทำไมไม่ลองภูเขาทองหรือเด็กสมบูรณ์คะ ท่านก็บอกว่าไม่ได้ไม่เหมือนกัน คนกินประจำเขารู้ สมัยก่อนง่วนเชียงมีฝาขาว อันนั้นหอมอร่อยมากกว่าฝาเขียวอีก แต่ราคาก็สูงมากๆ คนไม่ค่อยซื้อ เขาเลยเลิกผลิตไป นี่ต้องเปลี่ยนมาใช้ฝาเขียวแทน หอมอร่อยไม่เท่ากันแต่พอแทนกันได้ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าเดี๋ยวนี้ผู้ผลิตเองก็ต้องพยายามลดต้นทุนของตัวเองลง ทำให้รสชาติอาหารแบบที่เราคุ้นเคยสมัยก่อนมันหายไป น่าเสียดายจริงๆค่ะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: Namplaeng ที่ 19 พ.ค. 14, 13:31
ที่หน้าร้านทองฮั่วเซ่งเฮง มีร้านบะหมี่อร่อยร้านหนึ่ง ประมาณบ่ายสามบ่ายสี่เค้าจะตั้งหม้อเคี่ยวกระดูกด้วยไฟอ่อนๆอยู่ข้างโรงเรียนที่ลูกเรียน เพื่อจะเอาน้ำแกงมาใส่บะหมี่ พอเคี่ยวไปถึงทุ่ม น้ำแกงก็กำลังได้ที่หวานน้ำต้มกระดูก  

แต่บ่อยครั้งเวลาเดินผ่านโต๊ะที่คนมาทานบะหมี่แล้วก็ให้รู้สึกเสียดายความตั้งใจ ที่เจ้าของร้านเธอใส่ไป เสียดายเวลาที่เธอต้มเคี่ยว เสียดายเชื้อเพลิงและทุกสิ่งที่ใช้ไป

เพราะหลายคนไปกินบะหมี่ด้วยความชอบส่วนตัว ตักเทพริกและเครื่องปรุงลงในชามเสียแซบเว่อร์ สุดท้ายท่านก็กินแต่เส้นหมี่และเครื่อง ปล่อยน้ำแกงที่เค้าใส่ใจต้มเคี่ยวไว้ในชามและก็เททิ้งไปในที่สุด......


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 19 พ.ค. 14, 14:00
ให้ภาพถนนราชวงศ์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๗  ซ้ายมือคือสี่แยกราชวงศ์ ขวามือคือไปทางท่าน้ำราชวงศ์

ทางม้าลายกลางภาพคือ ซอยวานิช ๑

ถนนราชวงศ์ฝั่งล่างภาพจะเห็นการจอดรถที่เป็นแนวทแยง จอดกันอย่างเป็นระเบียบ ส่วนฝั่งเหนือ (ฝั่งคิคูยา รวมทั้งฝั่งร้านบะหมี่ รถจอดขนานกับทางเท้า)

ห้างคิคูยา อยู่ตรงทางม้าลายเยื้องขวา

ร้านอาหารสีฟ้า คงอยู่ถัดจากร้านคิคูยาสัก ๔-๕ ห้อง ตรงรถสีขาวสามคัน


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: Namplaeng ที่ 19 พ.ค. 14, 18:47
ขอบคุณคุณหนุ่มมากครับ ที่กรุณามาขยายโลกทัศน์ของผม


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 19 พ.ค. 14, 20:07
อ้างถึง
จำได้ว่าบะหมี่ราชวงศ์นั้นมีผู้ประกอบการหลายร้าน

๑. ร้านสีฟ้า ก่อตั้ง พ.ศ. ๒๔๗๙

๒. ร้านโภชนาลัย ก่อตั้ง พ.ศ. ๒๔๘๕

๓. ร้านบะหมีกัว ก่อตั้ง พ.ศ. ๒๔๙๐

ยังมีอีกร้านหนึ่งครับที่เก่งเรื่องบะหมี่ แต่ไปดังเอาจริงๆที่ไอสกรีม โดยเฉพาะไอสกรีมทุเรียนที่ร้านนี้คิดสูตรขึ้นเจ้าแรก แต่จะมีเฉพาะหน้าของมัน พ้นไปแล้วก็ต้องหันไปกินไอสกรีมกาแฟที่เด็ดกว่าหลายยี่ห้อสมัยนี้ รู้จักกันในนามว่าไอสกรีมราชวงศ์ 555 ร้านนี้ก็เลยชื่อ “เลี่ยวเลี่ยงเซ้ง 555” ไปเลย สมัยที่ผู้คนนิยมไปจอดรถหาอะไรกินรอบดึก เลี่ยวเลี่ยงเซ้งก็ให้บริการเสริฟโดยใช้ถาดเกี่ยวที่หน้าต่างรถเหมือนกับร้านอื่นๆ

เดี๋ยวนี้เลี่ยวเลี่ยงเซ้ง 555ก็ยังอยู่ แต่จะอร่อยเหมือนเดิมหรือไม่ ผมก็ไม่เคยไป ท่านสามารถตามรู้ประวัติอันรุ่งเรืองของเขาจากเวปนี้ครับ V

http://www.maechoice.com/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%89%E0%B8%87


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 19 พ.ค. 14, 20:12
ชอบอีหมี่มากๆ เลย เส้นหมี่ที่จี่กับกะทะจนกรอบ โรยหมูแฮม โยนน้ำตาลเอง เหยาะจิ๊กโฉ่วเอง อร่อยมากๆ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: Namplaeng ที่ 19 พ.ค. 14, 23:47
ช่วง 2:10 -3:35 มีคำตอบครับว่า ร้านไอสกรีมมาแปลงเป็นภัตตาคารเมื่อไร.....

ส่วนอี(คุณ)หมี่ที่คุณหนุ่มชอบมีภาพเฉลยรูปลักษณ์อยู่ตอนท้าย

ความอร่อยคงต้องว่ากันไปตามรสนิยมส่วนตัว


http://www.youtube.com/watch?v=h07JcfRUEMI#t=61


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 พ.ค. 14, 13:41
บะหมี่ราชวงศ์ของร้านสีฟ้า ในปัจจุบัน  นำมาฝากคุณ Anna ค่ะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 25 พ.ค. 14, 15:37
เบื่อกระทู้นี้จริงๆ มาต่างบ้านต่างเมือง ไม่มีเงินกลับไทย  เลยไม่ได้กินบะหมี่มา 3 ปีแล้ว ได้ดูแต่รูป  >:(

 :'(  :'(  :'(  :'(  :'(  :'(  :'(  :'(  :'(  :'(


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 25 พ.ค. 14, 15:57
-ขอบพระคุณอาจารย์เทาชมพูค่ะ

-คุณประกอบลองใช้วิธีนี้ซีคะ เวลาที่เราได้ยินว่าใครทำบุญ  เราก็พูดว่าอนุโมทนา  สาธุ  นั่นเท่ากับว่าเรามีส่วนได้ร่วมบุญ
 
 เวลาคุณประกอบอยากทานบะหมี่ ก็ดูรูปในกระทู้นี้แล้วพูดว่า อร่อยจัง  อิ่มตื้อเลยเนอะ   ก็เท่ากับได้กินแล้วค่ะ ;D
 


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 28 พ.ค. 14, 12:32
ไชน่าทาวน์หรือเยาวราชเป็นแหล่งคนจีนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย (หมายถึงยุครัตนโกสินทร์) แต่ความจริง คนจีนมาอยู่ในประเทศไทยนานแล้ว ดังที่เล่าๆกันในนี้แหละ ปัจจุบันก็มีอยู่ในทุกจังหวัด ตลาดร้อยปีคงทุกแห่งที่เป็นชุมชนคนจีน แหล่งอารยธรรมสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนในภูเก็ต รวมทั้งอาหารการกินที่สื่อมวลชนไปชิมแล้วมาออกรายการตามสื่อต่างๆก็เป็นอาหารจีนเนื่องจากทำง่ายกว่าอาหารไทย ซึ่งซับซ้อน กรรมวิธีทำไม่มากแต่เครื่องปรุงมาก โน่นนิดนี่หน่อย เอามาผสมกันแล้วเป็นอาหารสุดวิเศษ มีครบทุกรสแฝงเร้นอยู่ด้วยกันอย่างลงตัว ไม่ทราบว่าท่านคิดค้นมาได้อย่างไร

คนเก่าๆก็ล้มหายตายจาก นึกไม่ออกว่าอนาคตจะไปหาอาหารไทยอร่อยๆกินที่ไหน
นอกจากอร่อยแล้วยังไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะใส่พืชผักที่สรรพคุณเป็นสมุนไพร (แต่ก่อนคนปรุงคงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้นัก อยู่ใกล้ตัวก็เอามาทำกับข้าว เน้นรสชาติ กลิ่นหอม แก้เลี่ยน การค้นคว้าว่าพืชผักเหล่านี้มีสรรพคุณเป็นสมุนไพรเพิ่งเห็นมีมาภายหลัง ไม่เคยเห็นร้านอาหารไทยแต่ก่อนนี้ที่ไหน ออกโฆษณาว่า เชิญลูกค้ามากินเพราะเป็นอาหารผสมสมุนไพรเหมือนปัจจุบัน)
ครัวไทยมีเครื่องมือ อุปกรณ์ไม่มาก หม้อ ไห กระทะ ตะหลิว ไม่กี่อย่าง แต่ถ้วยชามคงจะมาก เพราะต้องใส่โน่นนี่เต็มไปหมด คลุกเข้ากันแล้ว อร่อยเด็ด ส่วนครัวฝรั่ง เห็นในทีวี อุปกรณ์มาก เตาอบ ตู้แช่ แต่เครื่องปรุงไม่แยะ

..จะมาเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับอาหารจีน (ระดับชาวบ้าน) เพราะเข้ามาในกระทู้อาหารจีน ไปๆมาๆ ออกทะเลกลายเป็นอาหารไทยไปเสียนี่ เดี๋ยวมีเวลาจะมาใหม่ครับ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 พ.ค. 14, 12:38
ไม่รู้ว่าก๋วยเตี๋ยวต้มยำคืออาหารลูกครึ่งไทย-จีน หรือเปล่า
มาเสิฟเรียกน้ำย่อยไว้ก่อนค่ะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 พ.ค. 14, 12:40
เพื่อให้เข้ากับกระทู้ ก็เสิฟบะหมี่ต้มยำอีกชาม


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 28 พ.ค. 14, 12:50
ไม่รู้ว่าก๋วยเตี๋ยวต้มยำคืออาหารลูกครึ่งไทย-จีน หรือเปล่า
มาเสิฟเรียกน้ำย่อยไว้ก่อนค่ะ

ชัวร์ครับ ท่านอาจารย์
เป็นสีมือการประยุกต์ที่ลงตัว ระหว่างไทย-จีน
คนจีนไม่มีมะนาว พริกแห้งหรอกครับ คนไทยก็ไม่มีปลาเส้น บะช่อ แต่ทุกอย่างรวมอยู่ในต้มยำหมด แซ่บไม้ล่ะครับ?

แต่ก่อนนี้ ต้มยำใส่มะนาว แต่ต่อมา อย่างไรก็ไม่ทราบ ไม่มี คงลดต้นทุน แต่ถึงพริกน้ำส้ม ก็ยังอร่อยอยู่ดี

อ้อ คนจีนก็ไม่มีถั่วลิสงป่น ส่วนคนไทยใช้แยะ เรื่องต้มยำนี่ผมไม่เคยคิดวิเคราะห์นะ แต่ท่านเจ้าเรือนถามมา เลยนึกออกอย่างนี้

ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ (แบบที่ในรูป) คือผลงานอัจฉริยะด้านอาหารอีกชิ้นหนึ่งของคนไทย (ชาวบ้าน)กระมังครับ ที่บอกคนไทยชาวบ้าน เพราะเห็นอยู่ทุกแห่งที่เป็นชาวบ้าน ในภัตตาคารก็ไม่เห็นมี


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 28 พ.ค. 14, 13:01
ดูเอาละกัน คนไทยเอาก๋วยเตี๋ยวน้ำธรรมดาๆ รสชาติจืดๆ เค็มๆ (หวานน้ำต้มกระดูกฝีมือคนจีน) มาทำเป็นต้มยำ อาหารสุดแซ่บ ;D ;D ไม่รู้จะชมเชยยังไง...

ส่วนก๋วยเตี๋ยวต้มยำแบบอื่น อันนี้คงแบบคนไทยแท้ๆ ไม่มีกลิ่นอายของคนจีนคือ ทำต้มยำกุ้ง แล้วใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวลงไป (เส้นใหญ่ถึงจะอร่อย-คหสต.) ก็อร่อยดีเหมือนกัน ส่วนก๋วยเตี๋ยวต้มยำแบบคนจีน เส้นใหญ่ไม่อร่อย ต้องเส้นเล็กเท่านั้น (คหสต. อีกเหมือนกันครับ)

เข้ามาแจมเพราะจะเล่าเกี่ยวกับบะหมี่ปู ที่แต่ก่อนนี้ มีขายทั่วไปในพระนคร (ยุคนั้นเรียกพระนครคงได้ ถึงยมราชก็ไม่มีคนแล้ว อย่าว่าแต่ประตูน้ำ เยาวราชเก็บร้าน 3 ทุ่ม) อร่อยด้วย แต่กลับต้องมาพูดถีงอาหารไทย ก๋วยเตี๋ยวต้มยำซะนี่ กลายเป็น prelude ไป อิอิ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 พ.ค. 14, 13:24
ต้มยำใส่ปลาเส้น


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 28 พ.ค. 14, 13:27
แต่ก่อนนี้ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เขาทำน้ำก่อนแยกต่างหาก ใส่เครื่อง ถั่วลิสงป่น พริกป่น น้ำตาล น้ำปลา ตังฉ่าย น้าส้มสายชู/มะนาว ต้นหอมสดหั่นละเอียด ที่สำคัญคือเนื้อหมูบะช่อดิบ แล้วเอาทัพพีตักน้ำเดือดๆในหม้อน้ำแกงราดลงไป ใช้ทัพพีนั่นแหละคนให้ทั่ว 2-3 รอบ เนื้อหมูจะสุกพอดี หวานอร่อย แล้วจึงเอาเส้นที่ลวกกับถั่วงอกใส่ลงในชาม เอาเนื้อหมูชิ้น เครื่องในหมู (ลวกเดี๋ยวนั้น) วาง เสิร์ฟลูกค้าได้

ลูกค้าหลังจากชามต้มยำมาวางตรงหน้า ก็เอาช้อนคนอีกรอบ - 2 รอบ เติมรสตามใจชอบ เผ็ดน้อย -เผ็ดมาก หวานน้อย-หวานมาก ก็ตักเติมเอา (ต้องออกหวานปะแล่มๆถึงอร่อย) ถ้าไม่ร้อนจนเกินไป ก็ลงมือรับประทานได้เลย

เดี๋ยวนี้ไม่เคยเห็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำสูตรนี้ คนขายปรุงน้ำให้ก่อน ได้แต่โรยถั่วลิสงป่น พริกป่นมาให้ในชาม ลูกค้าคลุกเอง บะช่อก็ทำไว้แต่เช้า สุกมาก่อน

เล่าไปเล่ามานึกถึง เจ้าก๋วยเตี๋ยวแถววัดพระยาไกร สดทุกอย่าง เครื่องในหมูชิ้นโตๆ ลำไส้ ตับ หัวใจ เซ่งจี๊ บีบมะนาว อร่อยจนเดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วกันครับ คนขายเป็นผู้ชาย คิวยาวไปถึงถนนตก (ซึ่งมีข้าวหมกไก่ไร้เทียมทาน ห่อละ 5 บาทซึ่งถือว่าแพงยุคนั้น)


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 พ.ค. 14, 14:39
เข้ามาแจมเพราะจะเล่าเกี่ยวกับบะหมี่ปู ที่แต่ก่อนนี้ มีขายทั่วไปในพระนคร (ยุคนั้นเรียกพระนครคงได้ ถึงยมราชก็ไม่มีคนแล้ว อย่าว่าแต่ประตูน้ำ เยาวราชเก็บร้าน 3 ทุ่ม) อร่อยด้วย แต่กลับต้องมาพูดถีงอาหารไทย ก๋วยเตี๋ยวต้มยำซะนี่ กลายเป็น prelude ไป อิอิ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 28 พ.ค. 14, 14:50
มาเลี้ยว ๆ ใจเย็งๆๆ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 28 พ.ค. 14, 17:24
^ ^

ถ้า # 51คือที่คลองรังสิต การันตีครับว่าเป็นสรวงสวรรค์ชั้นอนิกษฐ์พรหม (สะกดถูกหรือเปล่าก็ไม่ทราบ อิอิ) ของคนกินก๋วยเตี๋ยว อีตอนนั้นวัยรุ่นครับ วันหนึ่งว่างๆ (คงปิดเทอม) ออกไปนอกบ้าน นั่งรถเมล์สีกรมท่า ไปถึงรังสิต ถนนยังลาดยางเห็นก้อนกรวดไหล่ทางอยู่เลย ไปถึงคงเที่ยงๆ ลงไปเจอคลองข้างทาง ในคลองมีเรือขายก๋วยเตี๋ยว สั่งบะหมี่แห้งหมู เขาใส่พริกป่นสีแดงๆมาให้ คลุกแล้วส่งเข้าปาก..

เจ้าประคุณเอ๋ย ทุกวันนี่ยังนึกถึง รสชาติอร่อย แสนแซบครั้งกระนั้น แต่ก็ไม่ว่างผ่านไปแล้ว ไปก็ไม่เจออีก

รสชาติคงพอฟัดพอเหวี่ยงกับเจ้าก๋วยเตี๋ยวเครื่องในหมูที่วัดพระยาไกร แซ่บพอกัน แต่ที่วัดพระยาไกรชามละ 5 บาทมั้ง รังสิตชามละ 1 บาท (ไม่ยืนยัน เพราะจำไม่ได้)

ส่วนบะหมี่ปู ในพระนครมีทั่วไป เนื้อปูขนาดนิ้วก้อย มีรับประทานทั้งกลางวัน กลางคืน
กลางวันก็ร้านซ้งโภชนา กับร้านนันฟ้า ที่ถ.ดินสอ ทุกวันนั้ก็ยังขายอยู่
กลางคืนเดี๋ยวว่างแล้วมาต่อครับ

เดิมทีปูทะเลล้วน ต่อมาผสมปูม้า ตอนนี้ปูม้าอย่างเดียว ชิ้นโตหน่อยยังหาไม่เจอเลยครับ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 พ.ค. 14, 18:54
 :D


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 พ.ค. 14, 18:56
ก๋วยเตี๋ยวเรือเดี๋ยวนี้ไฮโซกันหมดแล้ว


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: hobo ที่ 29 พ.ค. 14, 10:23
ที่อร่อยนั้นอร่อยจริงๆ หรือใส่กัญชาครับ เห็นหลายท่านบอกต่อให้ใช้ของดีอย่างไรก็ไม่อร่อยเท่าใส่กัญชา คนสมัยนี้ถึงทำตามไม่ได้ครับ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 29 พ.ค. 14, 11:44
ที่อร่อยนั้นอร่อยจริงๆ หรือใส่กัญชาครับ เห็นหลายท่านบอกต่อให้ใช้ของดีอย่างไรก็ไม่อร่อยเท่าใส่กัญชา คนสมัยนี้ถึงทำตามไม่ได้ครับ

ท่าคุณจะเคยกินนะครับ ยังไงก็ลองมาเล่าสรรพคุณให้ได้รู้กัน 8) ;D
ผมนึกไม่ออกว่า ตรงไหนที่บอกไปว่าคนสมัยนี้ทำไม่ได้



กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: prahnmongkol ที่ 29 พ.ค. 14, 12:24
เป็นกระทู้ที่ปวดใจอย่างมาก เหตุเพราะหากินไม่ได้แบบในรูป  ในท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ไม่มีก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยถูกใจเลย   :'(


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: hobo ที่ 29 พ.ค. 14, 12:32
ขออภัยผมใช้ภาษาไม่ชัดเจนครับ หลายท่านในที่นี้คือผมได้ยินคนเล่ามา พูดให้สุภาพคือหลายท่าน ไม่ได้หมายความถึงคนที่เล่าในนี้ครับ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 29 พ.ค. 14, 13:51
ขอพักเรื่องบะหมี่ปูไว้ก่อน แต่ขอบอกว่าปี 2510 ยังมีบะหมี่ปูทะเลขายแยะอยู่พอสมควร ที่หน้าร้านจะแขวนก้ามปูทะเลสีแดงๆ เอามาร้อยต่อๆกัน นัยว่าเป็นโลโก้ขอเชิญมากินบะหมี่ปูทะเลที่นี่ แต่สมัยนี้ไม่เจอ คงไม่กล้ามาแขวน แค่เนื้อปูม้ายังแบบผงๆเลย เป็นยวงๆเหมือนตะก่อน ไม่มีแล้วครับ

(มีเจ้าหนึ่ง บะหมี่ปู เย็นๆถึงดึกมาขายปากซอยสำราญราษฎร์ เยื้องเจ้าผัดไทยลือชื่อ เนื้อปูทะเลเคยกินมีที่เป็นยวงเหมือนกัน คนขายเป็นผู้หญิงอีสาน ตอนนี้ยังคงขายอยู่มั้ง พูดมากเดี๋ยวจะผิดนโยบายของบอร์ด อิอิ แต่ข้อยบ่ได้มีเจตนายังงั้นจริงๆ)

ที่ขอพักเรื่องบะหมี่ปู เพราะนึกถึงเย็นเตาโฟ เป็นก๋วยเตี๋ยวที่ฮิต หากินง่ายกว่าบะหมี่ปู แถมนายแพทย์ท่านหนึ่ง ลืมชื่อไปแล้ว จำได้เพียงนามสกุลว่า ชุณหสวัสดิ์ อะไรทำนองนี้ เขียนบรรยายสรรพคุณว่าเป็นอาหารที่รวมจักรวาล ผืนแผ่นดิน มหาสมุทร อุดมสมบูรณ์เสียยิ่งนัก เจ้าที่ลือชื่อที่สุดคือเย็นเตาโฟวัดแขก น้ำซุปรสชาติออกหวานใสๆ พริกตำอร่อย เครื่องครบ ปลาหมีก เลือดหมู เต้าหู้ ผักบุ้ง ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ บางและแคบกว่าที่อื่น คิดว่าเป็นข้อดีเด่นของร้านนี้นอกจากรสชาติ ร้านอยู่ข้างวัดแขก แต่กลางวันคิวยาวไปถึงบางรัก (ขอโม้ตามประสา อิอิ) ที่รู้จักเพราะบ้านลุงอยู่ซอยเดโช ไปหาทีไร คนในบ้านก็ไปซื้อมาให้ คนขายเป็นผู้ชาย หน้ากลมแต่คางแหลม ยิ้มใจดี นุ่งกางเกงขาสั้น 3 ส่วน ไม่เคยเห็นนุ่งขายาว สวมเสื้อคอปกลายสก็อต พื้นขาวลายเขียว

แต่ความจริง ในซอยเดโชนี่แหละ ตอนเย็นๆ มีอาม้าคนหนึ่ง อายุในราว 40 ปีมั้งตอนนั้น ผิวคล้ำ (คนจีนมักจะผิวขาว) รูปร่างหนา แข็งแรง หาบเย็นเตาโฟมาขาย ปลาหมึกชิ้นหนาๆ เลือดหมูก้อนเขื่องนิดๆ นิ่ม ต้นผักบุ้งดูเถื่อนๆ ไม่เขียวนวลลออเหมือนร้านดัง แต่กรอบ เป็นเจ้าที่อร่อยอีกเจ้า รสชาติบ้านๆ เถื่อนๆ แซ่บถึงใจเพราะน้ำส้มพริกขี้หนูตำ สีเขียวๆ ไม่ออกแดง สมัยนั้นไม่เคยเห็นใครใส่พริกป่นลงไปด้วย แต่จริงๆแล้วใส่นิดหน่อย แซ่บยิ่งขึ้น เรียกว่าต้มยำ

ถ้าตั้งร้านแข่งกันอยู่ข้างๆ ไม่ทราบว่าใครจะอยู่ใครจะไประหว่างเย็นตาโฟวัดแขกกับอาม้าคนนี้

เคยไปกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าหนึ่งแถวถนนพระราม4 จะเรียกว่าเคยก็ไม่ใช่ เพราะกินเกือบ 10 ปี เนื่องจากทำงานแถวนั้น เย็นเตาโฟของเจ้านี้คือเย็นเตาโฟวัดแขก 90%
ไม่มีรูป เพราะอัพไม่เป็น หาก็ไม่เก่งเหมือนผู้ทรงคุณวุฒิในนี้  :(



กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 พ.ค. 14, 17:10
 ;)


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 พ.ค. 14, 17:11
;D


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 29 พ.ค. 14, 19:23
;D

เห็นรูปนี้ของท่านเจ้าเรือน เลยนึกขึ้นมาได้ว่า เจ้าเย็นเตาโฟที่อร่อยที่สุดที่เคยกินมา ไม่ใช่ที่ไหน วัดแขกก็ไม่ใช่ แต่เป็นเจ้าที่ตรอกโรงหนังบุศยพรรณ บางลำพูนี่เอง ที่นึกขี้นได้ เพราะเห็นลูกชิ้นเต้าหู้ ซึ่งเป็นเย็นเตาโฟแบบหนึ่ง มามีเอาภายหลัง เย็นเตาโฟเจ้าตรอกบุศยพรรณ นอกจากเครื่องมาตรฐาน ปลาหมึก (ชิ้นหนาไม่มาก แต่ไม่บาง พอดีๆ+สดทุกชาม เพราะแต่ละวัน ไม่พอขายอยู่แล้ว ลูกค้าเต็มร้านทุกวัน ไม่ถึงกับแย่งกันไปกิน แต่ไม่เคยขาด) เลือดหมู (ไม่แพ้ใคร) เต้าหู้ ผักบุ้ง ลูกชิ้น ยังมีลูกชิ้นหมูแบบแคะ ทั้งสดทั้งนิ่ม ข้างในผสมกุ้งแห้ง ลูกชิ้นหมูอะไรก็ไม่ทราบ ตักเข้าปาก เหมือนจะละลาย 1 ชามมี2-3ลูก แค่ลูกเดียวก็ถือว่าสุดยอดแล้ว อาม้าทำเองจากครัวหลังร้าน ใส่ชามออกมายังควันขึ้นอยู่เลย

จำได้ว่าราคาชามละ 4 บาท (250X) ร้านเลิกขายไปนานแล้ว เสียดายมาก

คนขายเป็นอาม้าเหมือนกัน ทำเอาลืมอาม้า ซอยเดโช อร่อยคนละอย่าง อิอิ
(พริกที่ร้านบางลำพูรสชาติไม่โดดเด่น จัดจ้าน แต่คิดว่าลงตัวกับสูตร ออกเปรี้ยวๆมากกว่าเผ็ด)
ปัจจุบัน ลูกชิ้นแคะที่น่าจะอร่อย (อาจไม่ที่สุด) อยู่ในซ.รางน้ำ กินแล้วไม่เสียดายกะตังค์ 1 ชามไม่มาก แต่คุ้มความอร่อย


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: hobo ที่ 29 พ.ค. 14, 19:41
น่าจะมีกระทู้รวมแหล่งกินในกรุงเทพนะครับ เพราะรุ่นใหม่ๆ ไม่รู้เลยจริงๆ ครับ มีผู้รู้มาชี้ทางอย่านี้น้ำหนักคงขึ้นหลายกิโล


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 29 พ.ค. 14, 19:48
# 62 บอกไป 1 ร้านไงครับ แต่อาจถูกลบได้ เพราะในนี้ห้ามมาขายของ อิอิ
ไหนๆก็ไหนๆ เย็นเตาโฟที่มีชื่ออีกเจ้า ทุกวันนี้ก็ยังขายอยู่คือแถวพิชัย แต่คิดว่าไม่อร่อยเหมือนเมื่อก่อน
เอาเหอะ มีกินดีกว่าไม่มี ;D


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 พ.ค. 14, 09:39
ขึ้นชื่อว่าบะหมี่ เนื้อสัตว์ที่เข้ากันที่สุดเห็นจะไม่มีอะไรเกินหมูแดง
หมูแดงที่ไหนก็ไม่ขึ้นชื่อเท่าหมูแดงนครปฐม
ไม่รู้ว่าหมูแดงที่ว่านี้ มาจากจีน หรือเป็นลูกครึ่งไทยเช่นเดียวกับบะหมี่ต้มยำนะคะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 พ.ค. 14, 09:40
บะหมี่หมูแดง ใส่ปูด้วย น่าจะเป็นบะหมี่เกิดขึ้นในภายหลัง  เรียกสตางค์จากกระเป๋าลูกค้าได้มากกว่าบะหมี่ธรรมดาทั่วไป


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 30 พ.ค. 14, 11:10
ขึ้นชื่อว่าบะหมี่ เนื้อสัตว์ที่เข้ากันที่สุดเห็นจะไม่มีอะไรเกินหมูแดง
หมูแดงที่ไหนก็ไม่ขึ้นชื่อเท่าหมูแดงนครปฐม
ไม่รู้ว่าหมูแดงที่ว่านี้ มาจากจีน หรือเป็นลูกครึ่งไทยเช่นเดียวกับบะหมี่ต้มยำนะคะ

สอบถามแล้วครับ หมูแดงไม่ใช่ลูกครึ่ง เป็นอาหารของคนจีนแท้ๆเหมือนเป็ดย่าง หมูย่าง และหมูแดงนครปฐมขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย อาจเป็นเพราะว่าฟาร์มเลี้ยงหมูอยู่แถวๆนั้นด้วย ราชบุรี นครปฐม เลี้ยงหมูกันแยะ

เลยนึกถึงขาหมูห้วยกระบอก จังหวัดกาญจนบุรี เป็นอาหารขึ้นชื่ออีกรายการหนึ่ง ท่านว่าอร่อยนักแล..

ร้านข้าวหมูแดงที่อร่อย หมูชิ้นโต มีหมูกรอบด้วย กุนเชียงหอมหวาน ไข่ต้มพอดีสุก ที่สำคัญคือน้ำราดอร่อยมากคือที่เทเวศร์ ชื่อร้านลืมไปแล้วครับ ถ้าขับรถ ไปจอดในวัดนรนารถ หรือจอดริมคลองที่ขายต้นไม้ก็ได้
อีกร้านที่มีชื่อร่ำลือคือที่ตรอกสุกร แถวหัวลำโพง ชื่อดังเหมือนกัน แต่ไม่เคยมีโอกาสไปรับทาน


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 พ.ค. 14, 11:15
อย่าลืมบะหมี่เป็ดอีกอย่างด้วยค่ะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 30 พ.ค. 14, 11:24
ความทุกข์อย่างหนึ่งของคนชอบรับประทานบะหมี่เห็นทีจะเป็นตอนที่สั่งไปแล้วแทนที่จะได้ "บะหมี่" สีเหลือง กลับกลายเป็น "เส้นหมี่" สีขาว ซะนี่

เคยเจอกับตัวเองบ่อย ๆ  ร้านไหนมีปัญหาในการรับออเดอร์ต้องย้ำว่า "บะหมี่เหลืองนะ" แทบทุกครั้ง  ;D


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 30 พ.ค. 14, 11:35
อย่าลืมบะหมี่เป็ดอีกอย่างด้วยค่ะ

เทเวศร์อีกเหมือนกันครับ ใกล้กับร้านข้าวหมูแดง เป็นตรอกเดินเข้าไปในโรงหนังซึ่งตอนนี้ไม่ได้ฉายแล้ว น่าจะมีเจ้าเป็ดย่าง ที่พูดอย่างนี้ เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ได้ผ่านไปเลย เป็ดย่างเจ้านี้ แต่ก่อนคนขายเป็นผู้ชาย รูปหล่อ แฟนขายบะหมี่ปูอยู่ข้างๆ (อร่อย ปูแยะพอควร+สด ไปช้าหมด) ล่าสุด 2-3 ปีก่อนผ่านไป ปรากฎว่าเหลือผู้หญิงคนเดียว แต่เป็ดย่างยังขายอยู่ เขาบอกว่าตัดหางปล่อยวัดแฟนไปแล้ว (รูปหล่อๆ ย่อมความเสี่ยงสูง อิอิ)

อาหารร้านนี้รสชาติไม่เลวเลยละ ทั้งบะหมี่ปู (ไม่ทราบว่ายังขายอยู่หรือเปล่า แต่น่าจะยังขายอยู่) เคยกินบะหมี่เป็ดย่าง เป็ดอร่อยดี อร่อยกว่าร้านดัง ถ.ดินสอ หน้ากทม. อีกครับ

อ้อ ที่ซ.ทองหล่อก็มีร้านเป็ดย่างหลายร้านนะครับ ข้าวมันไก่สิงคโปร์ก็อยู่ในซอยนี้


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 30 พ.ค. 14, 11:41
ความทุกข์อย่างหนึ่งของคนชอบรับประทานบะหมี่เห็นทีจะเป็นตอนที่สั่งไปแล้วแทนที่จะได้ "บะหมี่" สีเหลือง กลับกลายเป็น "เส้นหมี่" สีขาว ซะนี่

เคยเจอกับตัวเองบ่อย ๆ  ร้านไหนมีปัญหาในการรับออเดอร์ต้องย้ำว่า "บะหมี่เหลืองนะ" แทบทุกครั้ง  ;D

ใช่ครับ ต้องย้ำว่า "เส้นหมี่ขาว" หรือ "บะหมี่เหลือง" ให้ชัดๆ
แย่กว่านั้น บางร้านสั่งแห้งได้น้ำ สั่งเส้นเล็กได้เส้นใหญ่ ผมไม่เข้าไปเป็นซ้ำ 2 ถือว่าไม่ตั้งใจบริการลูกค้า


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 30 พ.ค. 14, 14:50
จะกินบะหมี่ได้ ต้องรู้จักการทำบะหมี่เสียก่อน

การทำบะหมี่คือ เอาแป้งสาลีมานวด ใส่ไข่ ใส่โซดาไฟ มีกลิ่นแอมโมเนียน้อยๆ แล้วก็นวดด้วยวิธีการต่างๆกัน สำหรับการนวดบะหมี่ร้านนี้ก็นวดด้วยไม้ไผ่ขึ้นขย่มแล้วนวด นัยว่าจะอร่อยกว่าการนวดด้วยมือ

เคยเห็นการนวดแป้งแบบนี้แต่ใช้แก่นไม้แข็งนวด เพราะว่าแป้งมีความหนาและแข็ง จึงต้องใช้เครื่องทุ่นแรงจึงจะนวดแป้งออกมาได้อร่อย


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 พ.ค. 14, 15:50
ความทุกข์อย่างหนึ่งของคนชอบรับประทานบะหมี่เห็นทีจะเป็นตอนที่สั่งไปแล้วแทนที่จะได้ "บะหมี่" สีเหลือง กลับกลายเป็น "เส้นหมี่" สีขาว ซะนี่

เคยเจอกับตัวเองบ่อย ๆ  ร้านไหนมีปัญหาในการรับออเดอร์ต้องย้ำว่า "บะหมี่เหลืองนะ" แทบทุกครั้ง  ;D

บริกรสมัยนี้ไม่รู้จักเส้นหมี่เสียแล้ว?


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 พ.ค. 14, 09:41
จำไม่ได้ว่าบะหมี่ราชวงศ์ มีบะหมี่ผัดหรือไม่   จำได้แต่ว่าไปกินบะหมี่แห้ง    ไม่เคยกินบะหมี่ผัด 
ก๋วยเตี๋ยวผัดที่เคยกินตอนเด็กๆ ก็มีผัดซี้อี๊วและราดหน้า  มีทั้งเส้นหมี่และเส้นใหญ่
ส่วนบะหมี่ผัดคงเป็นของมาทีหลัง   ไม่รู้ว่ามาจากจีนเชื้อสายไหน

บะหมี่ราชวงศ์ก็เหมือนกัน  เป็นอาหารจีนแต้จิ๋วหรือกวางตุ้ง ใครทราบบ้างคะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 31 พ.ค. 14, 10:06
^ ^
^ ^
ผู้เช้ี่ยวชาญเรื่องนี้น่าจะเป็นคุณ han-bing
ส่วนตัวเดาว่าบะหมี่ปู หมูแดงน่าเป็นของชาวกวางตุ้ง รวมไปถึงบะหมี่ราดหน้าไก่ เหตุผลคือ ถ้าไปร้านบะหมี่ปู (แต่ก่อนนี้ ร้านไหนขายบะหมี่หมูแดง ก็ขายบะหมี่ปูด้วย ไม่หากินยากเหมือนสมัยนี้ ราคาก็แตกต่างกันไม่มาก) อาจ้งหรือพ่อครัวก็จะทำบะหมี่ราดหน้าไก่ด้วย ทางใครทางมันครับ ร้านบะหมี่กวางตุ้งก็ไม่ขายบะหมี่ลูกชิ้นปลา (แต้จิ๋วหรือไหหลำก็ไม่ทราบ แต่น่าจะเป็นพื้นที่ที่อยู่ติดทะเล) หรือลูกชิ้นแคะ

ส่วนผัดซีอิ๊ว ราดหน้ามีหลายสูตร สงสัยคนจีนคงกินอาหารจานนี้ทั้งประเทศ ในร้านอาหารกวางตุ้งที่ขายบะหมี่ เกี๊ยวปู หมูแดงก็ทำขายครับ สูตรอร่อยเสียด้วย พ่อครัวกวางตุ้งทำราดหน้า ผัดซีอิ๊วโดยใช้ผักกวางตุ้งแทนคะน้าก็มี (แยะด้วย) ที่พิเศษคือใส่หน่อไม้ด้วย คงหยิบมาจากสูตรข้าวหน้าไก่ เลยอร่อยมากขึ้นไปอีก อิอิ ผัดซีอิ๊วเส้นใหญ่ เส้นหมี่ผักกวางตุ้งก็อร่อยนะครับ ท่านอาจารย์

บะหมี่ผัด สงสัยจะเป็นของคนฮกเกี้ยน เห็นเรียกกันอย่างนั้น รอผชช.มาตอบครับ ผมก็ได้แต่เดา (ผิดมากกว่าถูก 55)

เล่าไปเล่ามา ไม่ไปราชวงศ์ซะที แต่อย่างว่าครับ ของอร่อยที่ไม่อยู่ที่เยาวราชมีทุกแห่ง ไหนจะอาหารไทย / แขกอีก ...


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 พ.ค. 14, 10:39
เล่าไปเล่ามา ไม่ไปราชวงศ์ซะที แต่อย่างว่าครับ ของอร่อยที่ไม่อยู่ที่เยาวราชมีทุกแห่ง ไหนจะอาหารไทย / แขกอีก ...
ก๋วยเตี๋ยวแขก  น่าจะเป็นอาหารลูกครึ่งจีน อีกแบบหนึ่ง


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 31 พ.ค. 14, 11:24
เข้าใจว่าไม่นิยมเรียกก๋วยเตี๋ยวแขกครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นสำเนียงเหมือนคำว่าเจ๊ก ซึ่งเกิดข้อพิพาท อย่างว่า คนไทยดูถูกคนจีนบางเรื่อง และคนจีนก็ดูถูกคนไทยบางเรื่องเหมือนกัน สุดท้ายก็ประนีประนอมกัน ตัวอย่าง ลูกชายเจ้าสัวแต่งงานกับลูกสาวพระยา หรือเชื้อเจ้าไปเลย ฯลฯ
คำที่เห็นเรียกกันคือก๋วยเตี๋ยวแกง แต่คิดว่าหารับประทานยากกว่าข้าวหมกไก่

สุดยอดข้าวหมกไก่คือที่ถนนตกครับ ทั้งหอม ทั้งรสชาติดี ปัจจุบันยังขายอยู่หรือเปล่าไม่ทราบ จำได้ว่าเม็ดข้าวเป็นสีเขียวอ่อนๆ ไม่ใช่สีเหลือง จะบอกว่าไม่กินเสียดายที่เกิดมา ก็จะหาว่าผมแยะ....


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 01 มิ.ย. 14, 10:08
ข้าวหมกไก่ที่อร่อยรองลงมาจากเจ้าถนนตกน่าจะเป็นที่บางลำพู หัวถนน 13 ห้างซึ่งปัจจุบันเป็นที่รู้จักแพร่หลาย (ไม่นานมานี้ก็มีเรื่องนปช. ชุมนุมที่อักษะ แต่มาว่าจ้างเจ้านี้ทำอาหารไปเลี้ยงโดยไม่ทราบว่าอยู่ฝ่ายตรงข้าม มีการไปโพสท์กระแนะกระแหนกันในเน็ท แต่เรื่องจบไปแล้ว) นอกจากนี้ยังมีบางเจ้า ถึงกับจ้างชวนชิมออกทีวี แต่ก็งั้นๆ เจ้าไม่ออกทีวีแถวๆเทเวศร์ 2 เจ้า อร่อยกว่าแยะ ดูจากหม้อ (ตรงนี้ขออนุญาตเรียกหม้อแขก รูปทรงกระบอกตลอด มีฝาปิดแบนๆ ทำด้วยโลหะอะลูมิเนียม เป็นเอกลักษณ์) ขนาดผ่าศก. ประมาณ 1 เมตร น่าจะขายวันละหลายร้อยจาน/ห่อ เคยซื้อกิน ใช้ได้เลย แต่ไม่เลอเลิศเหมือนเจ้าถนนตก


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 01 มิ.ย. 14, 12:40
โซ้ยบะหมีเส้นยังคาปาก  อ้าว! ข้าวหมกไก่ก็ตามมาติดๆ  แต่ไม่เป็นไรค่ะ  กระเพาะยังมีที่ว่างอีกแยะ เดี๋ยวกินต่อเลยละกัน  ;D


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 01 มิ.ย. 14, 13:54
....ประชดคุณ Anna 55

บะหมี่ไก่

วัตถุดิบ
-เส้นบะหมี่ (ชนิดเส้นแบน)
- เนื้อไก่ หั่นขนาดนิ้วชี้ x ยาว 4 ซม. (ความยาวนิ้วชี้ 6-8 ซม.แล้วแต่บุคคล) ควรติดหนังด้วยเล็กน้อย
- ผักกาดหอม สด ถ้าเหี่ยว แช่น้ำจนเต่ง กรอบ (ประมาณ 1/2 ชม.) หั่นเป็นเส้น + ต้นหอมซอย
- เครื่องปรุงรส น้ำปลา น้ำส้มดองพริกชี้ฟ้า ตังฉ่าย น้ำมันเจียวกระเทียม
- น้ำซุป (ถ้าต้องการรับประทานบะหมี่น้ำ)

วิธีทำ
เทน้ำลงในหม้อ ต้มจนร้อนหรือเดือด นำบะหมี่มา 1 ก้อน โหย่งให้เส้นหลวม ไม่กอดกัน แล้วลวกจนบะหมี่สุกพอดี (สังเกตดูเส้นจะใส สุกไปก็ไม่อร่อย ดิบไปก็กินไม่ได้) แช่ในน้ำเย็น แล้วเอาขึ้นมาเพื่ิอให้เส้นเหนียว แช่ในน้ำร้อนอีกครั้ง แล้วเทลงชามได้ ต่อไปลวกไก่ในน้ำเดือดหม้อเดียวกันจนสุกพอดี เหยาะน้ำมันเจียวกระเทียมที่เส้นหมี่ เอาตะเกียบหรือซ่อมคลุก เหยาะน้ำปลา เอาไก่ที่ลวกไว้วางบนเส้นหมี่ โรยตังฉ่าย ผักกาดหอม ต้นหอมซอย คลุกรับประทานได้ทันที

ถ้าชอบเปรี้ยว ใส่น้ำส้มดองพริก ชอบเผ็ดใส่พริกป่น หรือโรยพริกไทยแล้วแต่ชอบ
สูตรนี้ไม่เหมือนบะหมี่ไก่ที่ขายตามร้านหรือรถเข็น เพราะไม่ใส่ถั่วงอก

กินบะหมี่ชามนี้จากร้านในซอยสำราญราษฎร์ยุคที่ตกค่ำ มีบะหมี่ปูมาขาย 2 เจ้าแข่งกัน ปูทะเลด้วย เดี๋ยวนี้ไม่มีนานแล้วครับ ร้านนี้ตั้งอยู่อีกฝั่งตรงข้าม เป็นร้านถาวร โต๊ะ เก้าอี้นั่งสบาย กลางวันไม่ขาย เปิดหัวค่ำถึงดึก วันหนึ่งบังเอิญไปกิน เลยรู้จัก

บะหมี่ไก่ชามนี้ เปรี้ยวๆ เค็มๆ ถ้าใครชอบเผ็ดก็เติมพริกป่น ทำง่าย อร่อย และไม่เห็นมีร้านไหนขายอีก
แค่เส้นบะหมี่ เนื้อไก่ กินกับผัก เปรี้ยวๆ เค็มๆ เผ็ดๆก็อร่อยดี วิธีทำก็ง่ายดังเล่าข้างบนครับ

ร้านนี้ใช้เส้นบะหมี่แบน ส่วนบะหมี่ปู หมูแดงแบบกวางตุ้งใช้เส้นหมี่เส้นเล็กเท่านั้น ถ้าไม่มีเส้นหมี่แบน ใช้เส้นหมี่กวางตุ้งน่าจะได้ สำคัญลวกเส้น ลวกไก่ให้สุกพอดีละกัน  :P


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: prahnmongkol ที่ 01 มิ.ย. 14, 15:41
ก๋วยเตี๋ยวแกงดูหน้าตาคล้าย "หลักซา"ที่สิงคโปร์  เพื่อนร่วมงานชาวสิงคโปร์เคยชี้ชวนให้กินที่บุฟเฟ่ต์อาหารเที่ยงของโรงแรม  ไม่รู้จักอะไรเท่าไหร่ตักรับประทานตามๆเขาไปแล้วก็ต้องพยักหน้าหงึกหงักว่าอร่อยดี 


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 14, 19:54
รูปบนสองรูปคือหลักซา หรือ "ลักซา" ของสิงคโปร์   รูปล่างสองรูปคือก๋วยเตี๋ยวแขกที่ปัจจุบันเรียกก๋วยเตี๋ยวแกง
หน้าตาน่ากินทั้งสองอย่างค่ะ
ไปได้วิธีทำมาตามนี้

ลักซา (Laksa)อาหารขึ้นชื่อของประเทศสิงคโปร์ ลักซามีลักษณะคล้ายก๋วยเตี๋ยวต้มยำใส่กะทิทำให้รสชาติเข้มข้น คล้ายคลึงกับข้าวซอยของไทย โดยลักซาจะมีส่วนผสมของ กุ้งแห้งพริก กุ้งต้ม และหอยแครง เหมาะสำหรับคนที่ชอบรับประทานอาหารทะเลเป็นอย่างยิ่งอย่างไรก็ตาม ลักซามีทั้งแบบที่ใส่กะทิ และไม่ใส่กะทิ ทว่าแบบที่ใส่กะทิจะเป็นที่นิยมมากกว่า



กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 มิ.ย. 14, 09:55
ไม่แน่ใจว่าราชวงศ์สมัยโน้นมีก๋วยเตี๋ยวราดหน้า นอกเหนือจากบะหมี่หรือเปล่า   คิดว่าน่าจะมี    จำได้ว่ากินราดหน้ามาตั้งแต่เด็ก   ทั้งเส้นหมี่และเส้นใหญ่
เมื่อก่อนมีราดหน้าให้กินตามร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วไป   ต่อมารู้สึกว่าก๋วยเตี๋ยวราดหน้าจะหลีกทางให้ผัดซีอิ๊วเสียแล้ว    ตามร้านเล็กร้านน้อยไม่ว่าในกรุงเทพหรือตจว. มีผัดซีอิ๊วขึ้นกระดานให้สั่งได้ มากกว่าราดหน้า
แต่ราดหน้าก็ยังพอมีให้กินได้อยู่  ส่วนใหญ่เป็นเส้นใหญ่มากกว่าเส้นหมี่   
นานๆเจอที   แต่ยังไม่เคยเจอร้านอร่อยเลยค่ะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: ศานติ ที่ 02 มิ.ย. 14, 10:17
ชักหิว  ถ้าจะต้องจองตั๋วเครื่องบินกลับไปเมืองไทยเร็วๆนี้แล้ว


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 มิ.ย. 14, 10:31
เสิฟราดหน้ายอดผักไว้ล่วงหน้า ให้อาจารย์หมอศานติค่ะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 02 มิ.ย. 14, 11:32
เคยอ่านพบว่า เดิมนั้นราดหน้า ไม่ได้ใส่ผักคะน้า แต่ใส่ผักกวางตุ้งแทนซึ่งเป็นผักที่ปลูกกันมากในสวนท้องร่องของเมืองไทย หาง่ายมากๆ แต่มีข้อเสียคือ ผักสลด เหี่ยวดูไม่งามเวลานำมาอยู่กับราดหน้า เลยเปลี่ยนเป็นผักคะน้าที่คงรูปใบน่ารับประทานกว่าเข้าแทนที่


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 มิ.ย. 14, 11:39
เมื่อเล่าถึงราดหน้า ก็ต้องตามมาด้วยผัดซีอิ๊ว 
วิกิบอกว่า ในปี พ.ศ. 2556 ได้มีการสำรวจกันว่า ผัดซีอิ๊วเป็นอาหารจานด่วนอันดับ 1 ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติชอบมากที่สุด  แต่ไม่เห็นบอกว่าสำรวจที่ไหน โดยใคร


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 มิ.ย. 14, 11:43
ในยุคที่เนื้อวัวยังเป็นที่นิยมกันอยู่   เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊วใส่เนื้อวัว เป็นเนื้อปนมันหน่อยๆ กินแล้วนิ่มกว่าเนื้อวัวล้วนๆ  รสชาติอร่อยมาก  เรียกว่าก๋วยเตี๋ยวผัดเนื้อวัว   
แต่ต่อมาก็หายไปกลายเป็นเนื้อหมูแทน
ส่วนซีอิ๊วผัดทะเล  ตามมาทีหลังค่ะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 02 มิ.ย. 14, 11:59
ได้เวลาอาหารกลางวัน จะจัดการราดหน้าหรือผัดซีอิ๊วก่อนดีหนอ   ;D


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 มิ.ย. 14, 12:32
จัดการควบสองอย่างเลยก็ได้หนอ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 02 มิ.ย. 14, 20:12
ราดหน้าสมัยนี้หาอร่อยยาก  ซ้ำกลิ่นผักคะน้าก็แปลกๆด้วยค่ะ บางเจ้ามีกลิ่นสารเคมีแรงจนน่ากลัว  >:(


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 02 มิ.ย. 14, 23:27
พูดถึงราดหน้าแล้วที่ปัตตานีมีอยู่เจ้านึงครับ ร้านนำรส เปิดมาห้าสิบกว่าปีแล้ว ราดหน้าอร่อยมาก จานใหญ่เครื่องเคราครบ ทั้งหมู ไก่ ปลาหมึก กุ้ง กระเพาะปลา ฯลฯ  สมัยหลายปีก่อนผมกินจานละ 60 - 70 บาท จำราคาไม่ได้ เดี๋ยวนี้ไม่รู้จานละเท่าไหร่  ตอนนั้นผมไปตามหารักแท้อยู่แถวหาดใหญ่ ยังยอมฝ่าดงระเบิด เสียงปืนจากโจรใต้ ขับรถจากหาดใหญ่ร้อยกว่ากิโลเพียงเพื่อไปกินราดหน้าเจ้านี้ก็บ่อยๆ กินเสร็จก็ขับรถกลับ ซื้อมาฝากสาวๆ ที่หาดใหญ่ทำคะแนนไปด้วย  ช่วงนั้นห่วงกินมากกว่าห่วงตาย :)

กินราดหน้าร้านนี้มีเทคนิคอยู่อย่าง จำมาจากพี่ๆ ทหารที่เห็นนั่งกินในร้าน คือทุกคนจะนั่งหันหน้าไปทางหน้าร้านเท่านั้น ไม่นั่งหันหน้าไปทางหลังร้าน อาวุธอยู่ข้างกายให้หยิบฉวยสะดวก คงเพราะเผื่อมีระเบิดหรือโจรใต้มา จะได้ระมัดระวังตัวได้ เผ่นทัน เป็นเทคนิคที่ผมจำมาใช้ตลอดเวลาไปกินเดี่ยวๆ ไม่ว่าจะไปกินอาหารที่ไหน ปลอดภัยหรือไม่ ต้องหันหน้าออกหน้าร้านเสมอ มีกรณียกเว้นแต่เวลาพาสาวๆ ไปกินด้วย แบบนั้นต้องยอมเสี่ยงนั่งหันหน้าเข้า กลัวเดี๋ยวคนรู้จักมาเห็น จะสับรางไม่ทัน



กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 03 มิ.ย. 14, 09:51
โอ้โห คุณชายประกอบเทพนี่ใช่ย่อย อุตส่าห์ไปตามหารักแท้ถึงหาดใหญ่เลยทีเดียวเชียว ;D ;D


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 มิ.ย. 14, 10:03
จานนี้    ถ้าอยากกินก็ต้องลงไปถึงปัตตานีค่ะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 มิ.ย. 14, 10:46
บะหมี่อีกอย่างที่กินกันในฮ่องกง คือบะหมี่ราดหน้า แต่ตัวเส้นบะหมี่เอามาทอดจนกรอบเสียก่อน มีหมูและผักคะน้าเหมือนบะหมี่บ้านเรา  แต่ไม่ราดน้ำจนท่วม ไม่งั้นบะหมี่หายกรอบหมด


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: hobo ที่ 03 มิ.ย. 14, 11:10
น่าจะเดาตัวจริงของคุณชายออก คุณชายเรียนอยู่สก๊อตแลนด์หรือเปล่าวครับ ทำวิจัยเกี่ยวกับสัตว์ทะเล  ;D ;D ;D ;D ;D ถ้าใช่สวัสดีครับ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 มิ.ย. 14, 11:17
ขอเสนอราดหน้าสี่สี ครับผม แถวประตูผี เป็นราดหน้าใส่ไข่ดาวกรอบๆ ซึ่งจำได้ว่าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เคยมาเสวยเป็นการส่วนพระองค์ด้วยครับ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 03 มิ.ย. 14, 11:44
น่าจะเดาตัวจริงของคุณชายออก คุณชายเรียนอยู่สก๊อตแลนด์หรือเปล่าวครับ ทำวิจัยเกี่ยวกับสัตว์ทะเล  ;D ;D ;D ;D ;D ถ้าใช่สวัสดีครับ

ขอนอกเรื่องนิดนึงครับ แห่ะๆ น่าจะผิดคน 99.9999 % ครับ  ผมไม่ได้อยู่แถวสก็อตแลนด์ และไม่ได้เรียนหรือศึกษาเรื่องสัตว์ทะเลด้วย  แต่ศึกษาเรื่องข้อดีข้อเสียของวัฒนธรรมการอนุญาตให้ผู้ชายมีภรรยาได้หลายคน ในสังคมคนป่าเผ่าหนึ่งในเกาะบอร์เนียวครับ :) :P :P


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: hobo ที่ 04 มิ.ย. 14, 04:58
ขอบคุณครับคุณชาย ผิดคน ผมยังนึกสงสัยว่าทำไมยังไม่จบสักที ลาละครับ :-X :-X :-X :-X :-X :-X


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มิ.ย. 14, 11:36
เอาก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำมาเสิฟอีกครั้ง เพื่อดึงกระทู้ขึ้น
ยังหาบะหมี่ที่แปลกไปกว่าที่เคยลงรูปมาแล้วไม่ได้ค่ะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มิ.ย. 14, 11:53
มื้อกลางวันวันนี้


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 04 มิ.ย. 14, 12:47
ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้อยู่ที่ปากช่อง (http://www.holidaythai.com/KAMOOLA/blogs-11239.htm) ไปรับประทานมื้อกลางวันอยู่บ่อย ๆ อร่อยเชียว

เลือกสั่งได้ตามชอบใจ ต้มยำ - เย็นตาโฟแห้ง - เกี๊ยวแห้ง   ;D


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มิ.ย. 14, 13:02
ถ้าไปแถวนั้นจะแวะไปชิม ตาม "เพ็ญชวนชิม"


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: sirinawadee ที่ 04 มิ.ย. 14, 15:21
ขอส่งร้านอร่อยเข้าประกวดด้วยค่ะ

บะหมี่ปูหมูแดงร้านสว่าง แถวๆ สะพานเหลืองก่อนถึงหัวลำโพงค่ะ หมูแดงย่างเองเกรียมนิดๆ หอมอร่อย เส้นบะหมี่เล็กๆ เหนียวนุ่มหนืบ เกี๊ยวอร่อยมาก น้ำซุปไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง แบบธรรมดาห้าสิบบาทขาดตัว
ร้านนี้เคยไปออกรายการทีวีแล้วเกิดดราม่าในพันทิป เพราะแปะเจ้าของร้านแกพูดตามประสาคนแก่ว่าแกรับแต่แบงค์ใหม่ๆ ซึ่งความจริงเวลาไปจ่ายไม่เคยเห็นแกบ่นอะไรนะคะ

ข้อเสียคือ 1. ทางร้านเปิดปิดไม่แน่นอน ต้องโทรไปถามก่อนค่ะ 2. บางทีเกี๊ยวหมด  :'( ก็ยังคิดที่ราคาเดิมห้าสิบบาท  .. แต่ก็กินค่ะ

ผัดซีอิ๊วเนื้อยังหารับประทานได้ที่ร้านวัฒนาพานิชเจ้าเก่าค่ะ แม้ปริมาณจะเล็กลงทุกทีๆ แต่ก็ยังอร่อยค่ะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มิ.ย. 14, 15:38
ก๋วยเตี๋ยวอีกอย่างที่หากินได้ยาก ตั้งแต่เนื้อวัวถูกเนื้อหมูเข้ามาแทนที่   คือก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับ   
บางร้านเปลี่ยนเป็นหมูสับแทน แต่รสชาติก็ไม่เหมือนเนื้อสับของเดิมอยู่ดีละค่ะ

ไม่ได้กินก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับมานานมากแล้ว ตั้งแต่เลิกกินเนื้อวัว แต่ยังจำรสชาติได้ดี  น่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวลูกครึ่งอีกชนิดหนึ่งกระมังคะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: scarlet ที่ 04 มิ.ย. 14, 18:51
ช่างนำเสนอเนื้อ(วัว)กันจัง ทั้งที่เดี๋ยวนี้เลิกกินกันเป็นส่วนมาก ด้วยเหตุผลของแต่ละคน
ทำให้นึกถึงกะหรี่พ้าฟ ซึ่งไม่เจอใส้เนื้อเลยมานาน คิดว่ากว่า 15 ปี ทั้งที่แต่ก่อนนี้มี ใส้หมูก็มี เดี๋ยวนี้เหลือแต่ใส้ไก่ แถมเป็นมันฝรั่งเสีย90% หาเนื้อไก่แทบไม่เจอ

กะหรี่พ้าฟที่เคยกินอร่อย โดยเฉพาะแป้งร่วนๆ ใส้ข้างในหอมมาก คือร้านของการบินไทย แต่นานแล้วครับ เดี๋ยวนี้ไม่ทราบว่ายังอร่อยอยู่หรือเปล่า ไม่มีโอกาส กะหรี่พ้าฟชาวบ้านแป้งแข็ง เผลอๆฟันหักได้ อิอิ ;D

ที่ยังมีชื่อคือที่สระบุรี แต่ก้ไม่อร่อยทุกเจ้า บางเจ้าไม่อร่อยเลย

นึกถึงชา / กาแฟใส่นมอุ่นๆ กินกับกะหรี่พ้าฟ(ไก่) อร่อยดี


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มิ.ย. 14, 20:04
ออกนอกเส้นทางบะหมี่ไปแล้ว


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 04 มิ.ย. 14, 23:30
สวัสดีครับ

ผมได้มีโอกาสอ่านเรื่องบะหมี่ราชวงศ์จึงขอเสนอเรื่องเกี่ยวกับอาหารจีนในย่านราชวงศ์ดังนี้

อาหารในย่านราชวงศ์โดยมากจะเป็นอาหารแต้จิ๋วที่พบในไทย จริงๆถือเป็นส่วนหนึ่งของอาหารตระกูลกวางตุ้ง หรือเรียกเป็นภาษาจีนจะเรียกว่า "เย่ว์ช่าย" (粤菜:yue cai)ซึ่งในอาหารกวางตุ้งจะแบ่งเป็น เป็นสามเขตพื้นที่ ดังนี้

๑.   อาหารกว่างฝู่ (广府菜:Guǎngfǔcài ) อาหารจะมีรสชาติจืด และผลัดเปลี่ยนส่วนผสมไปตาม
ฤดูกาลต่างๆ ส่วนผสมมีหลากหลายไม่ว่าจะแปลกพิสดารอย่างไรก็สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้ อาทิ การใช้หนูหรืองูมาปรุงอาหาร พื้นที่สำคัญคือพื้นที่เขตกว่างฝู่ อันมีศูนย์กลางอยู่ทีเมืองกวางเจาและพื้นที่อื่นๆในเมืองต่างๆภายในในมณฑลกวางตุ้ง กวางสี และไหหลำ

๒.อาหารเฉาโจว (潮州菜: Cháozhōucài ) หรืออาหารแต้จิ๋ว อาหารตระกูลดังกล่าวขึ้น ชื่อโดยเฉพาะวิธีการปรุงโดยใช้วัตถุดิบเป็นอาหารทะเล  อาหารจำพวกอาหารมังสวิรัติ และเครื่องจิ้มจะมีหลากหลายมากในอาหารตระกูลดังกล่าว พื้นที่ของอาหารตระกูลแต้จิ๋วที่สำคัญคือพื้นที่เมืองเฉาโจวหรือแต้จิ๋วนั้นเอง ทั้งนี้ อาหารดังกล่าว ยังแผ่อิทธิพลมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย

๒.   อาหารตงเจียง (东江菜:Dōngjiāngcài ) อีกชื่อหนึ่งคืออาหารเค่อเจีย (客家菜:Kèjiācài )
หรือที่คนไทยเรียกว่า อาหารจีนแคะ อาหารตระกูลนี้จะมีรสจัด มัน สุกจัด กลิ่นหอม นิยมใช้สัตว์ปีกมาปรุงอาหาร เขตพื้นที่อยู่ในบริเวณเมืองฮุ่ยโจวและบริเวณรอบๆลุ่ มแม่น้ำตงเจียง

ที่ทุกๆท่านรับประทานในราชวงศ์ แทบทั้งหมดจะเป็นอาหารตระกูลเย่ว์ช่าย ที่หลายคนติดใจมากก็คือก๋วยเตี๋ยว และเส้นใหญ่ผัดซีอิ้ว

เส้นใหญ่ ในภาษาจีนจะเรียกว่า “ซาเหอเฟิ่น” (沙河粉:sha he fen) ทำจากแป้งข้าวเจ้าผสมน้ำแล้วนำไปนึ่งจนกลายเป็นแผ่นบาง หลังจากนั้นจึงนำไปหั่นเป็นเส้นๆ เป็นอาหารว่างที่ขึ้นชื่อมาในแถบกวางตุ้ง กวางสี และไหหลำ โดยจะขึ้นชื่อมากที่สุดในบริเวณกวางตุ้ง ในเมืองซาเหอ (沙河:sha he) สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลายวิธี ทั้งนำมาทำเป็นผัด หรือนำมาใส่น้ำแกงรับประทาน
 
วิธีการปรุงมีหลายวิธีดังที่ได้กล่าววิธีผัดนี้ในการผัดแบบแห้งและแบบน้ำข้นการทำแบบแห้งจะทำโดยนำน้ำมันมาตั้งในกระทะให้ร้อน ใส่ขิงหั่นฝอยลงไป ผัดให้หอม แล้วใส่เนื้อสัตว์ดั่งเนื้อวัวลงไปและซีอิ้วขาว ผัดพอสุก ต่อจากนั้นจึงใส่ถั่วงอก ผักกุยช่าย ผัดสักครู่แล้วจึงใส่เส้นใหญ่ลงไป ผัดจนได้ที่เส้นใหญ่เป็นสีเหลือง หากผัดแบบน้ำคือการใส่น้ำผสมแป้งลงไปขณะผัดให้เหนียวหนืด หากทำเป็นแบบน้ำแกงจะใส่น้ำซุปลงไป และใส่เส้นใหญ่ที่ลวกแล้วลงไป พร้อมเครื่องปรุงต่างๆ ซึ่งจากวิธีการทำดังกล่าวคือ การทำราดหน้าและผัดซีอิ้วนั้นเอง

เส้นใหญ่ยังมีอีกชื่อหนึ่งคือ “กั๋วเถียว” (粿条:guo tiao) โดยกลุ่มคนที่เรียกคือกลุ่มคนหมิ่นหนาน กลุ่มคนแต้จิ๋ว และกลุ่มคนไห่ลู่เฟิง (海陆丰:hail lu feng) เป็นต้น เนื่องจากคนแถบดังกล่าวนิยมเรียกอาหารใดๆที่ทำจากแป้งทั้งแป้งข้าวเจ้า แป้งสาลี กระทั่งแป้งมันว่า “กั๋ว” (粿:guo) คำว่า กั๋วเถียว เมื่อได้เข้าไปถึงฮ่องกงได้เรียกว่า “กุ๊ยซี” (贵习:gui xi) ซึ่งเป็นการเลียนเสียงของชาวแต้จิ๋วว่ากั๋วเถียวนั้นเอง

ง่วงพอดี เดี่ยวไว้จะมาเล่าต่อ



กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 มิ.ย. 14, 10:17
ต้อนรับคุณ han_bing ค่ะ
ลองเอาคำว่า yue cai ไปหาในกูเกิ้ล  เจออะไรต่อมิอะไรขึ้นมาเต็มไปหมด ล้วนแต่ชวนน้ำลายไหลทั้งนั้น 
ในจำนวนนี้มีอาหารอย่างหนึ่ง ดูๆเหมือนวุ้นเส้นอบ  พอจะเข้ากับเรื่องก๋วยเตี๋ยวได้ เลยเอารูปมาลงให้ดูกันค่ะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 05 มิ.ย. 14, 11:46
ภาพนี้คือพระกระโดดกำแพงแบบง่ายๆไม่ใส่ของเยอะครับ

ของแบบจัดเต็มต้องใส่ ๑๘ อย่าง แต่อย่างในรูปเป็นเป๋าฮื้อ หูฉลาม (จากรูปน่าจะเป็นหูฉลามเจ) ปลิงทะเล เอ็นหอยแห้งครับ

เดี่ยวเย็นนี้จะมาเล่าต่อ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 มิ.ย. 14, 12:42
ซาเหอเฟิ่น แบบหนึ่ง   น่าจะตรงกับก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้งของเรา


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 05 มิ.ย. 14, 12:44
รอเมนูอาหารกลางวันจากคุณเทาชมพูอยู่ทีเดียว

น่ารับประทานเชียว  ;D


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 มิ.ย. 14, 12:55
แถม Sha He Fen Noodles ให้อีกจาน


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 มิ.ย. 14, 18:11

เส้นใหญ่ยังมีอีกชื่อหนึ่งคือ “กั๋วเถียว” (粿条:guo tiao) โดยกลุ่มคนที่เรียกคือกลุ่มคนหมิ่นหนาน กลุ่มคนแต้จิ๋ว และกลุ่มคนไห่ลู่เฟิง (海陆丰:hail lu feng) เป็นต้น เนื่องจากคนแถบดังกล่าวนิยมเรียกอาหารใดๆที่ทำจากแป้งทั้งแป้งข้าวเจ้า แป้งสาลี กระทั่งแป้งมันว่า “กั๋ว” (粿:guo) คำว่า กั๋วเถียว เมื่อได้เข้าไปถึงฮ่องกงได้เรียกว่า “กุ๊ยซี” (贵习:gui xi) ซึ่งเป็นการเลียนเสียงของชาวแต้จิ๋วว่ากั๋วเถียวนั้นเอง

กั๋วเถียว--->guo tiao--->ก๋วยเตี๋ยว   ??? ???


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 มิ.ย. 14, 18:17
ภาพนี้คือพระกระโดดกำแพงแบบง่ายๆไม่ใส่ของเยอะครับ

ของแบบจัดเต็มต้องใส่ ๑๘ อย่าง แต่อย่างในรูปเป็นเป๋าฮื้อ หูฉลาม (จากรูปน่าจะเป็นหูฉลามเจ) ปลิงทะเล เอ็นหอยแห้งครับ

เดี่ยวเย็นนี้จะมาเล่าต่อ

วิกิ บอกว่า
พระกระโดดกำแพง (อังกฤษ: Buddha Jumps Over the Wall; จีนตัวเต็ม: 佛跳牆; จีนตัวย่อ: 佛跳墙; พินอิน: fó tiào qiáng) เป็นอาหารจีนในแบบกวางตุ้ง และฝูเจี้ยน ราคาแพงชนิดหนึ่ง ได้ชื่อว่าเป็นอาหารที่รวมวัตถุดิบในราคาที่มีการซื้อขายแพงมากไว้มากที่สุด  เมื่อรวมราคาวัตถุดิบทั้งหมดแล้วอาจถึงขั้นหลักแสนบาท ในอดีตถือเป็นอาหารที่มีที่มาจากราชสำนักจีน

วัตถุดิบหลักในการปรุงพระกระโดดกำแพงนั้น ได้แก่ หูฉลาม, ปลิงทะเล, เห็ดหอม, หอยเป๋าฮื้อ, กระเพาะปลา ในขณะที่น้ำซุปจะประกอบด้วย โสม, เก๋ากี่ และถังเช่า ซึ่งเป็นสมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง ที่ในฤดูหนาวจะเป็นหนอน เมื่อหนอนจะมุดลงดินและตาย กลายเป็นพืชงอกขึ้นมาในฤดูร้อน ซึ่งเป็นเชื้อราชนิดหนึ่งที่อยู่ในตัวหนอน หรืออาจจะมีแตกต่างไปจากนี้ได้เช่นกัน



กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มิ.ย. 14, 10:37
มื้อกลางวันวันสุดสัปดาห์
หมี่กรอบราดหน้า   


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 08 มิ.ย. 14, 10:20
วันนี้รีบมาเช็คดูก่อนเที่ยงค่ะ  เผื่อจะมีใครใจดีเอาอะไรมาให้กินอีก  เที่ยงนี้จะได้ไม่ต้องออกไปหาของกิน  ;D ;D ;D


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 มิ.ย. 14, 13:19
สงสัยว่าหมี่กรอบ เป็นลูกครึ่งจีนกลายเป็นไทยหรือเปล่าค่ะ


กระทู้: บะหมี่ราชวงศ์
เริ่มกระทู้โดย: MCMLII ที่ 23 ก.ย. 15, 15:31
ไม่ทราบว่ามีภาพการเสิร์ฟอาหารของร้านบะหมี่แถวราชวงศ์  ที่แขวนถาดกับหน้าต่างรถ  ให้ลูกค้ากินบะหมี่ในรถน่ะค่ะ  พอจะมีมั้ยคะ  อ่านเจอในนิยาย นึกภาพตามก็รู้สึกว่ามันน่าจะทุลักทุเล  เพราะคิดว่าคงต้องนั่งเอียงตัวหันข้างกิน  แล้วถ้าไปกันสองคน  ต่างคนต่างหันไปทางหน้าต่างคนละด้าน 
แต่นึกดูอีกที ถ้ามันทุลักทุเลขนาดนั้น


คงหมายถึงร้านสีฟ้า ที่เอาถาดมาเสียบข้างรถ เพื่อเป็นที่วางอาหารสำหรับคนในรถจะหยิบเข้าไปกินในรถ ต้องถือชามคีบด้วยตะเกียบมือเดียว