ชาวนาไทย
บุคคลทั่วไป
|
อยากรู้ว่าวิถีชีวิตของชาวนาในสมัยก่อนเค้าจะมีความเป็นอยู่อย่างไร ท่านทั้งหลายมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
CrazyHOrse
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 26 ม.ค. 01, 08:02
|
|
ในแง่ความอุดมสมบูรณ์นั้นคงจะดีมาก มีเอกสารจีน(จิตรว่าไว้นะครับ ไม่ได้ผมว่า) ว่า ดินแดนแถบนี้ ทำนาปีหนึ่งพอกินถึง 3 ปี แต่ไอ้ทำแล้วจะได้กินเท่าไร คงขึ้นกับระบอบการปกครองแรงงาน ถ้าเป็นระบบศักดินาก็คงพอลืมตาอ้าปาก แต่ถ้าเป็นระบบทาสแบบขอมก็ลองจินตนาการดูแล้วกันครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 26 ม.ค. 01, 09:31
|
|
ถ้ายึดศิลาจารึกเป็นหลัก ว่า " ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว" ชาวนาสุโขทัยคงไม่อดอยาก มีข้าวมีปลากินอุดมสมบูรณ์ดี นอกจากนี้ ยังเป็นการค้าเสรี ใครใคร่ค้าช้าง ค้าวัว ค้าควาย ก็ทำได้เสรี วัว ควายนี่เกี่ยวกับไถนา ชาวนาเลี้ยงวัวควายมีลูกออกมา ก็จูงวัวควายไปซื้อขายตามเมืองต่างๆกันได้สะดวก เจ้าเมืองบ่เอา จกอบลู่ทาง คือไม่คิดค่าภาษีผ่านด่าน
พอมาถึงอยุธยา เรามีระบบ ไพร่ กับเจ้า เพราะสังคมอยุธยาเป็นสังคมแรงงาน ไม่ใช่แรงเงินอย่างในยุคโลกาภิวัตน์ ชาวนาก็ต้องสละเวลาปีละ ๖ เดือนบ้าง น้อยกว่านั้นบ้าง มาเป็นไพร่หลวงหรือไพร่หลวง มาทำงานให้เจ้านายขุนนาง แล้วแต่ใครสังกัดที่ไหน แรงงานชาวนาก็ไปในด้านการขุดคลอง สร้างป้อมค่าย ก่อสร้างสถานที่เช่นวังและวัดวาอาราม ครบกำหนดแล้วกลับไปทำนาเหมือนเดิม แต่ชาวนาไทยก็ไม่ได้ทำนาทั้งปี หมดหน้านา ผู้หญิงก็ทอผ้า ผู้ชายก็ตีเหล็ก หรือจะหย่อนใจ พนันปลากัด ตีไก่ ชกมวย ไปบ้างก็ได้ เมื่อเกิดศึกสงคราม ทางเมืองหลวงก็ระดมคนเข้าเป็นทหารหมด ไม่แบ่งเป็นทหารและพลเรือนอย่างทุกวันนี้ มีหน้าที่ป้องกันเมืองหรือยกไปทำศึกกับที่อื่น หมดศึกแล้วกลับไปทำนา
ความเป็นอยู่ของชาวนาสมัยอยุธยา ถ้าพูดว่าไม่มีเงินก็ใช่ค่ะ แต่จะว่าอดอยากไหม-ไม่นะคะ เว้นแต่ปีไหนข้าวยากหมากแพงเพราะฝนแล้ง เกิดโรคระบาด อยู่ได้เพราะที่ดินอุดมสมบูรณ์มาก โดยเฉพาะภาคกลาง ทำนาก็พอกิน อาหารการกินหาได้จากแผ่นดินและน้ำ ทุกอย่าง
คนจีนและคนที่อพยพจากถิ่นอื่นมาอยู่ จึงตั้งตัวทำมาหากินได้ดีบนผืนแผ่นดินไทย ไม่เคยอ่านพบในประวัติศาสตร์ว่าชาวนาไทยทิ้งถิ่นอพยพไปอยู่ประเทศอื่นแบบไปตายเอาดาบหน้าค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นกข.
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 26 ม.ค. 01, 18:29
|
|
สมัยก่อนประวัติศาสตร์นี่หาหลักฐานยากหน่อยครับ ก็ยังไม่มีประวัติศาสตร์จารึกเป็นตัวอักษรน่ะ คงต้องใช้หลักฐานทางโบราณคดีแทน มีใครบอกผมว่าอารยธรรมบ้านเชียง หรืออย่างไร เป็นที่แรกๆ ในโลกที่มนุษย์รู้จักปลูกข้าว (เจ้า) อยู่ในเมืองไทยนี่เองครับ ต้นตระกูลชาวนา แต่ข้อนี้ก็ยังถกเถียงกันอยู่ เห็นบางสำนักว่าเป็นอารยธรรมโบราณในดินแดนที่เป็นเมืองจีนเดี๋ยวนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Oatmeal
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อ 26 ม.ค. 01, 23:58
|
|
ในสมัยอยุธยา แนะนำให้ลองอ่านใน จดหมายเหตุลาลูแบร์ดูครับ ค่อนข้างกล่าวไว้อย่างละเอียด อีกเล่มคือ ประวัตฺสาสตร์แห่งพระราชอาณาจักรสยาม โดย ตุรแปง เอาไว้แล้วผมจะพิมพ์ มา Post ลงในนี้ให้อีกทีนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Oatmeal
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ 27 ม.ค. 01, 00:00
|
|
ขอโทษครับ กำลังง่วงเลยพิมพ์คำว่า ประวัติศาสตร์ผิด อิอิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาวนาไทย
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อ 27 ม.ค. 01, 02:04
|
|
แล้วคิดว่าชาวนาเค้าจะทำนากันอย่างไรอะครับ มีควายไถนาหรือป่าว เกี่ยวข้าวอย่างไงอะครับ แล้วเค้าทำอย่างไรกะข้าวบ้างอะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Oatmeal
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อ 27 ม.ค. 01, 11:40
|
|
ขออนุญาตยกข้อความในบทที่เกี่ยวกับชาวนาไทย จากจดหมายเหตุลาลูแบร์ มาตามที่สัญญาไว้ครับ เป็นฉบับแปลโดยกรมพระยานริศรา ปี ๒๔๕๔
“ชาวสยามปลูกข้าวในที่นาดอน ในพระราชอาณาจักร ซึ่งน้ำฝนไม่ไหลท่วม นาอย่างนี้มั่นคงมากกว่านาลุ่มดังกล่าวแล้ว และได้เมล็ดข้าวดีกว่าด้วย เก็บไว้ได้นานกว่า เมื่อข้าวกล้างอกงามอยู่ในเทือกตกกล้าที่หว่านเพาะไว้นานพอแล้ว ก็ถอนมาดำใหม่ในที่นาอื่นซึ่งได้ไถคราดทำเทือกเตรียมไว้ เสร็จแล้วระบายน้ำเข้าไปท่วมอย่างเราทำนาเกลือ กระทั่งน้ำเพียงพอนวดดินให้น่วม เพราะต้องการเช่นนี้จึงต้องหาที่ดอนหน่อยและนาอย่างนี้ต้องขังน้ำฝนไว้ในนาเอง จึงยกคันนารอบๆเป็นกะทงๆ และระบายน้ำเข้าไปเลี้ยงพื้นดินได้ระดับ เมื่อมีน้ำท่วมแม้เพียงเฉาะแฉะแล้วก็เอาต้นข้าวกล้าที่ถอนมาดำรากมิดลงไปในดินทีละกอๆ ด้วยใช้นิ้วหัวแม่มือกดลงไป”
ผมว่าวิธีการของชาวนาไทยในสมัยอยุธยากับปัจจุบันนั้นไม่แตกต่างกันสักเท่าไร
และใช้วัวควายเหมือนเดี๋ยวนี้ละครับ เอาไว้จะคัดบทที่เกี่ยวกับวัวควายสมัยนั้นมาฝากอีกทีครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
คุณพระนาย
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อ 28 ม.ค. 01, 00:58
|
|
แล้วการที่ชาวนาหลาย ๆ บ้านมาช่วยกันเกี่ยวข้าว แบบที่เรียกว่า การลงแขก (ไม่น่ากลายเป็นความหมายอื่นไปเลย) นี่มีหลักฐานมาตั้งแต่สมัยไหนครับ พอจะทราบมั้ยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชาวนาไทย
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อ 28 ม.ค. 01, 03:12
|
|
แล้วพิธีกรรมเกี่ยวกับการทำนาหละครับ เค้าทำอะไรกันบ้าง ทั้งในสมัยก่อนและปัจจุบัน ผมก็อยากทราบครับว่าการลงแขกมีแต่สมัยไหน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Oatmeal
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อ 28 ม.ค. 01, 14:00
|
|
พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญนี่มีมาแต่ สมัยอยุธยาแล้วครับ ในจดหมายเหตุลาลูแบร์ก็กล่าวถึงอยู่หลายตอน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
คุณพระนาย
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อ 29 ม.ค. 01, 00:19
|
|
อย่างนั้นสนามหลวงในสมัยอยุธยานี่คือ ที่ไหนครับ ใช่ทุ่งพระเมรุหรือเปล่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สำรวย
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อ 30 ม.ค. 01, 04:58
|
|
อ่านแล้วชวนสงสัยหลังจากว่างจากการทำงานแล้วชาวนาเค้าทำอะไรกันค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
แจ้ง ใบตอง
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อ 30 ม.ค. 01, 13:09
|
|
ชนบทสมัยก่อนชาวนาทำนาได้เฉพาะในฤดูทำนาเท่านั้น บางที่ก็ปีละครั้ง บางที่ก็ปีละสองครั้ง เมื่อหมดจากหน้านาชาวนาก็ว่าง มีเวลาว่างมากก็ต้องหาอะไรทำเพื่อให้แก้เซ็ง ชาวนาที่มีฝีมือ ทางด้านศิลปะ หรือทางด้านช่างก็อาจจะเข้าวัดเข้าวา สร้างสรรค์ศิลปะที่เป็นโบราณสถาน โบราณวัตถุในเวลาต่อมา ตามแต่กำลังฝีมือ คนที่ไม่มีฝีมือทางศิลปะ ก็หาอะไรทำที่มันสนุกสนาน ตามเทศกาลหรือขี้เกียจหน่อยก็เล่นการพนัน ต้มเหล้ากินกันบ้าง ที่ยิ่งกว่านั้น อาจจะรวบรวมพวก ออกปล้น คุณชายคึกฤทธิ์ท่านว่าการปล้นสมัยก่อนเป็นกีฬาของลูกผู้ชายอย่างหนึ่ง ก่อนปล้นก็ต้อง มีการแจ้งเจ้าทรัพย์ล่วงหน้าว่าเสือจะเหยียบแดนเมื่อไหร่ เจ้าทรัพย์จะได้เตรียมตัวป้องกันเสียแต่เนิ่นๆ พอปล้นได้ก็เอาทรัพย์สินมาแบ่งพวกพ้องลูกเมีย ปล้นก็มิได้เอาทรัพย์สินไปหมดเหลือติดบ้านไว้ให้ เจ้าของทรัพย์ทำทุนบ้าง เป็นสปริตของโจรน่ะครับ ความจริงผมก็ไม่ค่อยทราบรายละเอียดมาก เพราะยังไม่เคยเป็นโจร ฟังจากคุณตาเล่าให้ฟังอีกที...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สำรวย
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อ 01 ก.พ. 01, 00:36
|
|
ไม่มีเรื่องเล่าจากคุณตาอีกแล้วเหรอครับ อยากฟังอีก ครับคุณแจ้ง ใบตอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|