เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ เป็นช่วงที่ต้องติดตามภารกิจสำรวจดาวอังคารอย่างใกล้ชิดยานอวกาศ ๓ ลำมีกำหนดเดินทางถึงดาวเคราะห์สีแดงเพื่อศึกษาชั้นบรรยากาศและธรณีวิทยา นอกจากนี้ยังมีการหาสัญญาณที่เป็นไปได้ของการมีชีวิตอยู่ของแบคทีเรียในสมัยโบราณด้วย
โฮปของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เข้าสู่วงโคจรของดาวอังคารแล้วเมื่อ ๙ กุมภาพันธ์ หลังจากเดินทางจากโลกเมื่อ ๗ เดือนก่อน ในวันนี้ (๑๑ กุมภาพันธ์) เทียนเวิ่น-๑ ของจีน เดินทางเข้าสู่วงโคจรของดาวเสาร์แล้วเช่นกัน ส่วนยานเพอร์เซเวียแรนซ์ (Perseverance) ขององค์การนาซา คาดว่าจะเดินทางไปถึงดาวอังคารในวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์
ทั้ง ๓ ภารกิจ ต่างฉวยจังหวะที่โลกและดาวอังคารโคจรเข้าใกล้กันในการเริ่มภารกิจ โดยระยะห่างระหว่างดาวเคราะห์ทั้งสองดวงเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากความเร็วที่แตกต่างกันในการโคจรรอบดวงอาทิตย์ ช่วงเวลาที่สามารถเริ่มภารกิจโดยใช้เชื้อเพลิงน้อยที่สุดจะเกิดขึ้น ๑ ครั้งทุก ๆ ๒๖ เดือน
ภารกิจโฮปของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ภารกิจเดินทางสู่ดาวอังคารภารกิจแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี เริ่มขึ้นจากการปล่อยจรวดจากญี่ปุ่นเมื่อเดือนกรกฎาคม ปีที่แล้ว
ยานอวกาศนี้จะสำรวจชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์สีแดงดวงนี้ ซึ่งเป็นภารกิจที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน นักวิทยาศาสตร์คิดว่า ภารกิจนี้จะทำให้เราเข้าใจดียิ่งขึ้นว่าดาวอังคารสูญเสียอากาศและน้ำจำนวนมากไปได้อย่างไร ต่างไปจากภารกิจของจีนและสหรัฐฯ โฮปจะไม่ลงจอดบนดาวอังคาร แต่จะโคจรรอบดาวเคราะห์ดวงนี้อย่างน้อย ๑ ปีดาวอังคาร หรือเท่ากับ ๖๘๗ วันบนโลก คาดว่าข้อมูลที่ได้จะเริ่มส่งมายังโลกในช่วงเดือนกันยายนนี้
ภารกิจเทียนเวิ่น-๑ ของจีนเทียนเวิ่น (天问) แปลว่า "คำถามต่อสวรรค์" ยานเทียนเวิ่น-๑ (天问一号) จะยังไม่แล่นลงจอดในช่วงเวลา ๓ เดือนนี้ เพื่อที่เหล่าวิศวกรจะได้ประเมินสภาพชั้นบรรยากาศบนดาวเคราะห์ดวงนี้ก่อนที่จะพยายามแล่นลงจอดบนพื้นผิวดาวอังคารซึ่งเป็นภารกิจที่อันตราย
ในการแล่นลงจอดบนดาวอังคาร นักวิทยาศาสตร์จำเป็นต้องลดความเร็วของยานอวกาศจากระดับ ๒๐,๐๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลงมาอยู่ที่ความเร็วเท่ากับคนเดินในตอนที่ "ล้อแตะพื้น" จีนหวังว่าจะนำหุ่นยนต์น้ำหนัก ๒๔๐ กิโลกรัมลงจอดบนพื้นที่ราบในบริเวณแอ่งยูโทเปียที่เกิดจากการพุ่งชุน (Utopia impact basin) ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ หุ่นยนต์ที่ใช้พลังงานจากแผงโซลาร์ที่กางออกมา จะศึกษาธรณีวิทยาในภูมิภาคนี้ ทั้งในระดับพื้นผิวและต่ำกว่าระดับพื้นผิวของดาวอังคาร เสาสูงมีกล้องติดตั้งอยู่เพื่อถ่ายภาพและให้ความช่วยเหลือในการนำทาง อุปกรณ์เพิ่มเติมอีก ๕ อย่างจะช่วยประเมินด้านแร่วิทยาของหินในพื้นที่นั้นและตรวจสอบว่ามีน้ำแข็งอยู่หรือไม่
ภารกิจเพอร์เซเวียแรนซ์ของสหรัฐฯภารกิจเพอร์เซเวียแรนซ์ขององค์การนาซาคือการหาหลักฐานการมีชีวิตอยู่ของแบคทีเรียในสมัยดึกดำบรรพ์บนดาวอังคาร โดยจะเก็บตัวอย่างหินที่อาจจะให้เบาะแสอันประเมินค่าไม่ได้ว่า เคยมีสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวเคราะห์สีแดงดวงนี้หรือไม่
คาดว่าเพอร์เซเวียแรนซ์จะแตะพื้นผิวดาวอังคารบริเวณปล่องที่อยู่ใกล้กับเส้นศูนย์สูตรซึ่งมีชื่อว่า เยเซโร (Jezero) ในเวลาประมาณ ๒๑.๐๐ น. ตามมาตรฐานกรีนิช ของวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ หรือตรงกับเวลาประมาณ ๔.๐๐ น. ของวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ตามเวลาในประเทศไทย
ยานลำนี้มีขนาดไม่ต่างจากรถเอสยูวีขนาดเล็ก และมีน้ำหนัก ๑ ตัน ยานสามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเองราว ๒๐๐ เมตรต่อวัน มีกล้อง ๑๙ ตัวและไมโครโฟน ๒ ตัวติดตั้งอยู่ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์หวังว่า จะใช้บันทึกเสียงแรกบนดาวอังคารไว้ นอกจากนี้ ภารกิจนี้ก็จะพยายามส่งโดรนที่มีน้ำหนัก ๑.๘ กิโลกรัมขึ้นไปบินบนดาวเคราะห์ดวงอื่นเป็นครั้งแรกด้วย
แม้ว่าจะมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ แต่เราจะค้นพบคำตอบของภารกิจเพียร์เซเวียแรนซ์ได้อย่างเต็มที่ก็ต่อเมื่อตัวอย่างที่เก็บมาจากดาวเคราะห์สีแดงดวงนี้ถูกส่งกลับมาบนพื้นโลก นั่นหมายถึงหลังจากภารกิจนี้สิ้นสุดลง หรือ ๒ ปีนับจากนี้
ข้อมูลจาก
บีบีซีไทย