ต่อเรื่องของญี่ปุ่นอีกเล็กน้อยครับ
้เคยมีโอกาสร่วมอยู่ใน Petit forum ของรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งจัดขึ้นเพื่อแสดงถึงเรื่องพัฒนาการและความก้าวหน้าในด้านต่างๆที่ญี่ปุ่นมี จัดเป็นกลุ่มเล็กสำหรับนักการทูตที่มีความสนใจ ครั้งละประมาณ 20 คน ปีละ3-4 ครั้ง ครั้งหนึ่งเป็นเรื่องของการอยู่ร่วมกันอย่าง win-win ระหว่างอุตสาหกรรมผลิตสาเก การปลูกข้าว สิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยว เป็นโครงการในพื้นที่ของชุมชนท้องถิ่นที่เกิดผลสัมฤทธิ์อย่าง win-win จริงๆ คือผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทุกอาขีพ ล้วนได้รับผลที่เป็นประโยชน์ทั้งในเชิงของรายได้และคุณภาพชีวิต
ปัญหาที่มีมาแต่ดั้งเดิมนั้นก็คือ น้ำเสียจากโรงงาน การปลูกข้าว ผลผลิตและการขายข้าว สิ่งแวดล้อมโดยทั่วไปแย่ลง(หิ่งห้อยหายไป) นักท่องเที่ยวหายไป ผลสรุปรวมก็คือ รายได้ของโรงงานและของชาวบ้านต่างก็ลดลง เข้าสู่สภาวะเริ่มอยู่ลำบากมากขึ้น ทั้งภาคโรงงาน ชาวนา และชาวบ้าน จึงหันหน้ามาจับเข่าคุยกัน สรุปออกได้ว่าจะร่วมกันดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนเพื่อประโยชน์ของทุกภาคส่วน ก็เริ่มต้นด้วยการมีความเห็นตรงกันว่า หากน้ำที่มีปรากฎอยู่ในพื้นที่เป็นน้ำที่สะอาด ก็ย่อมหมายถึงการเป็นพื้นที่ๆมีคุณภาพของสิ่งแวดล้อมใกล้กับธรรมชาติแต่เดิม สิ่งบ่งชี้ว่าสิ่งแวดล้อมมีความสะอาดและคุณภาพดีก็คือ หิ่งห้อย (ทิ้งถ่วง ชื่อน่ารักดี
) กรรมการผู้ตรวจสอบผลความสำเร็จของการดำเนินการต่างๆก็ควรจะเป็นเด็กที่จะช่วยกันรายงานว่าพบที่ใดบ้างและมากน้อยเพียงใด (ข้อสำคัญคือไม่น่าจะมีการโกหก)
ผลสรุปสุดท้ายที่เป็นรูปธรรมก็คือ บนพื้นฐานของข้อมูลในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและความเป็นธรรมชาติที่ดี สาเกของโรงงานในก็เป็นที่นิยมและขายดี เพราะใช้ว้ตถุดิบ(ข้าว)ที่ปลูกในพื้นที่ๆมีน้ำสะอาด ยังผลต่อเนื่องให้เปลี่ยนสภาพการทำนาไปเป็นแบบ Contract farming มีรายได้ที่มั่นคง มีนักท่องเที่ยวมาดูหิ่งห้อยและพักผ่อน ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายของและที่พักแรมแบบเรียวกัง (Ryokan) ทุกคนในพื้นที่ล้วนได้มีชีวิตที่มีความสุขอย่างพอเพียง