กระทู้: อยากทราบเรื่องเจ้าจอมมารดาลูกจันทร์ ในรัชกาลที่ ๒ เริ่มกระทู้โดย: benzene ที่ 09 ส.ค. 12, 11:43 เรียนถามผู้รู้ทุกท่านครับ เหี่ยวกับประวัติ และเรื่องเล่าต่างๆ เกี่ยวกับเจ้าจอมมารดาลูกจันทร์ ธิดาเจ้าสุก หลวงพระบาง ถ้ามีรูปภาพด้วย จะขอบคุณเป็นอย่างยิ่งครับ
กระทู้: อยากทราบเรื่องเจ้าจอมมารดาลูกจันทร์ ในรัชกาลที่ ๒ เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 09 ส.ค. 12, 12:02 ได้ข้มูลเบื้องต้นว่า เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์มีอยู่ ๒ ท่านคือ เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์ใหญ่ และเจ้าจอมมารดาลูกจันทน์เล็ก
เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์ใหญ่ ให้ประสูติพระธิดา ๒ พระองค์ คือ พระองค์เจ้าหญิงนิ่มนวล (๒๓๕๔) และ พระองค์เจ้าหญิงโสภา (๒๓๖๓) เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์เล็ก ให้ประสูติพระธิดา ๑ พระองค์ คือ พระองค์เจ้าหญิงแม้นเขียน (๒๓๖๐) กระทู้: อยากทราบเรื่องเจ้าจอมมารดาลูกจันทร์ ในรัชกาลที่ ๒ เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 09 ส.ค. 12, 12:13 คงจะเป็นเจ้าจอมมารดารุ่นเล็ก ที่รำไทยสวยงามมากและเป็นครูของหม่อมคนหนึ่งของสมเด็จกรมพระยาดำรง มีเอกสารในเรื่องนี้ที่ชื่อ แค้นของกวี คุณหนุ่มสยามลองหาดูนะคะ เคยเล่าไว้นานแล้ว กระทู้: อยากทราบเรื่องเจ้าจอมมารดาลูกจันทร์ ในรัชกาลที่ ๒ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ส.ค. 12, 12:28 เรียกกันว่า เจ้าจอมมารดาลูกจันทร์เล็ก เพราะมีชื่อซ้ำกันอยู่อีกท่านหนึ่ง มีพระองค์เจ้าพระองค์เดียวคือพระบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าแม้นเขียน สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๖
เคยเขียนถึงเจ้าจอมมารดาท่านนี้ไว้ใน แค้นของกวี http://vcharkarn.com/reurnthai/poet.php ส่วนในวิกิพีเดียเล่าไว้ว่า เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์เล็ก เจ้าจอมมารดาในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 เกิดในปี พ.ศ. 2341 ธิดาในเจ้าสุกแห่งหลวงพระบาง บ้างก็ว่าสืบเชื้อสายจากเจ้าเมืองเวียงจันทน์[1] มีพี่น้องที่ปรากฎนามอีกสองคนคือ คุณลูกอิน และคุณทองดี หม่อมละครในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย บิดาของคุณลูกจันทน์ได้นำมาถวายตัวแก่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ พร้อมกับน้องสาวอีกสองคนดังกล่าว ได้เป็นละครหลวงรุ่นเล็ก ในรัชกาลที่ 1 ในบท นางวิยะดา เมื่อสิ้นรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกแล้ว คุณลูกจันทน์มีอายุประมาณ 11-12 ปี ต่อมาจึงได้เป็นละครหลวงในสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ในบทนางมะเดหวี และรับราชการเป็นเจ้าจอม และให้ประสูติกาลพระราชธิดา 1 พระองค์ คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าแม้นเขียน (พ.ศ. 2366-2456) ภายหลังการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในปี พ.ศ. 2367 กล่าวกันว่ากรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์ ซึ่งเป็นพระโอรสของรัชกาลที่ 2 ทรงส่งเพลงยาวไปเกี้ยวเจ้าจอมมารดาลูกจันทน์ เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์เล็กจึงใช้ "สิทธิสตรี" ออกจากวังหลวงไปอยู่วังกรมหลวงภูวเนตรฯ จนได้เป็นหม่อมในกรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์ แต่ต่อมาไม่นานก็ย้ายไปยังวังของกรมพระพิพิธโภคภูเบนทร์ พระเชษฐาองค์ใหญ่ และเจ้าจอมมารดาลูกจันทน์เล็กก็เตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆ เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์เล็กได้เป็นครูละครหลวงในรัชกาลที่ 4 และ 5 และเป็นครูละครสำคัญของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ด้วย[2] ท้ายที่สุดเจ้าจอมมารดาลูกจันทน์เล็กถึงแก่อนิจกรรมเมื่อ วันเสาร์ แรม 1 ค่ำ เดือน 3 ปีชวด สัมฤทธิศก หรือวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2431 สิริรวมอายุได้ 90 ปี กระทู้: อยากทราบเรื่องเจ้าจอมมารดาลูกจันทร์ ในรัชกาลที่ ๒ เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 09 ส.ค. 12, 16:00 เจ้าจอมมารดาจัน หรือ ลูกจันทน์ หรือลูกจันทน์เล็ก เป็นธิดาของเจ้าสุก เมืองนครหลวงพระบาง
เจ้าสุก ได้พาขึ้นถวายตัวในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ตั้งแต่อายุได้ ๘ ขวบ และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนางละครหลวง รับพระราชทานเบี้ยหวัด ปีละ ๑๐ ตำลึง ต่อมา ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โปรดเกล้าฯ ให้เป็นเจ้าจอมอยู่งาน รับพระราชทานเบี้ยหวัด ปีละ ๑ ชั่ง และมีประสูติการพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าชาย ๑ พระองค์ และพระองค์เจ้าหญิง ๑ พระองค์ พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าชายสิ้นพระชนม์แต่ยังทรงพระเยาว์ ส่วนพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าหญิงเจริญพระชนม์มา คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าแม้นเขียน เมื่อมีประสูติการพระเจ้าลูกเธอแล้ว ได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดเพิ่ม เป็นปีละ ๓ ชั่ง ตลอดรัชกาล ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ พระราชทานเบี้ยหวัด เหลือปีละ ๒ ชั่ง เนื่องจากไม่ได้มีราชการอันใดต้องปฏิบัติรับผิดชอบ ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เป็นครูฝึกหัดละครหลวง รับพระราชทานเบี้ยหวัด ปีละ ๒ ชั่ง ๑๑ ตำลึง ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ พระราชทานเบี้ยหวัดคงเดิม และรับราชการในหน้าที่ครูฝึกหัดละคร ต่อมา ป่วยเป็นโรคชรา ให้...และ...ไม่ได้ หาหมอมารักษา อาการห็หาได้คลายไม่ ๗ - ๓ - ร ๑ ชวดสัมฤทธิศก บ่ายหอบมาก เวลา ๑๐ ทุ่มนาน ถึงแก่กาลกิริยา นับอายุได้ ๙๐ ปี เป็นเจ้าจอมมารดาในรัชกาลที่ ๒ ที่อายุยืนมาถึง ๕ แผ่นดิน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าแม้นเขียน ทรงจัดการศพ เจ้าพนักงานเชิญศพลงหีบทองทึบ เมื่อสรงน้ำหลวงพระราชทานแล้ว จากนั้น เชิญหีบศพลงจากตำหนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าแม้นเขียน แล้วเชิญออกทางประตู... ขึ้นวอประเทียบ มีเครื่องประกอบเกียรติยศ คือ ฉัตรเบญจา ๔ คู่ กลองชนะเขียว ๔ คู่ ประโคมแห่แหนศพไปไว้ยังวัง... (อ้างอิงจากความทรงจำส่วนตัว ผู้ใดสนใจจะนำไปอ้างอิงต่อ โปรดใช้ดุลยพินิจ) กระทู้: อยากทราบเรื่องเจ้าจอมมารดาลูกจันทร์ ในรัชกาลที่ ๒ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 ส.ค. 12, 18:38 คุณหลวงความจำดีมาก ;)
ต่อไปนี้เป็นข้อมูลจาก คุณวิกกี้ (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%81_%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88_2) ฉบับเต็ม เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์เล็ก เจ้าจอมมารดาในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ เกิดในปี พ.ศ. ๒๓๔๑ ธิดาในเจ้าสุกแห่งหลวงพระบาง บ้างก็ว่าสืบเชื้อสายจากเจ้าเมืองเวียงจันทน์ มีพี่น้องที่ปรากฎนามอีกสองคนคือ คุณลูกอิน และคุณทองดี หม่อมละครในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย บิดาของคุณลูกจันทน์ได้นำมาถวายตัวแก่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ ๑ ตั้งแต่อายุ ๘ ขวบ พร้อมกับน้องสาวอีกสองคนดังกล่าว ได้เป็นละครหลวงรุ่นเล็ก ในรัชกาลที่ ๑ ในบท นางวิยะดา เมื่อสิ้นรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกแล้ว คุณลูกจันทน์มีอายุประมาณ ๑๑-๑๒ ปี ต่อมาจึงได้เป็นละครหลวงในสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ ในบทนางมะเดหวี และรับราชการเป็นเจ้าจอม และให้ประสูติกาลพระราชธิดา ๑ พระองค์ คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าแม้นเขียน (พ.ศ. ๒๓๖๖-๒๔๕๖) ภายหลังการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในปี พ.ศ. ๒๓๖๗ กล่าวกันว่ากรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์ ซึ่งเป็นพระโอรสของรัชกาลที่ ๒ ทรงส่งเพลงยาวไปเกี้ยวเจ้าจอมมารดาลูกจันทน์ เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์เล็กจึงใช้ "สิทธิสตรี" ออกจากวังหลวงไปอยู่วังกรมหลวงภูวเนตรฯ จนได้เป็นหม่อมในกรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์ แต่ต่อมาไม่นานก็ย้ายไปยังวังของกรมพระพิพิธโภคภูเบนทร์ พระเชษฐาองค์ใหญ่ และเจ้าจอมมารดาลูกจันทน์เล็กก็เตร็ดเตร่ไปเรื่อย ๆ เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์เล็กได้เป็นครูละครหลวงในรัชกาลที่ ๔ และ ๕ และเป็นครูละครสำคัญของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ด้วย ท้ายที่สุดเจ้าจอมมารดาลูกจันทน์เล็กถึงแก่อนิจกรรมเมื่อ วันเสาร์ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๓ ปีชวด สัมฤทธิศก หรือวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๓๑ สิริรวมอายุได้ ๙๐ ปี ;D กระทู้: อยากทราบเรื่องเจ้าจอมมารดาลูกจันทร์ ในรัชกาลที่ ๒ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 ส.ค. 12, 18:52 คุณจุลลดา ภักดีภูมินทร์เขียนถึงเจ้าจอมมารดาลูกจันทน์ไว้ใน "เวียงวัง" ดังนี้
เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์ ซึ่งเข้าใจว่าจะเป็นเจ้าจอมพระสนมท่านสุดท้าย เพราะหลังจากมีพระองค์เจ้าหญิงประสูติ พ.ศ.๒๓๖๖ คือ พระองค์เจ้าแม้นเขียนแล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯก็เสด็จสวรรคต พ.ศ.๒๓๖๗ ถัดมาอีกปีเดียว แต่พระองค์เจ้าแม้นเขียนมิใช่พระราชธิดาองค์สุดท้าย พระราชธิดาองค์สุดท้ายประสูติ พ.ศ.๒๓๖๗ คือพระองค์เจ้ากนิษฐน้อยนารี ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาอัมพาหรืออำภา เป็นพระองค์ที่ ๕ ของเจ้าจอมมารดาอัมพา เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์นี้ว่ากันว่าอายุเพียง ๑๘-๑๙ ปี รูปร่างหน้าตาสวยสดงดงาม เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯ เสด็จสวรรคตแล้ว ว่ากันว่า กรมหลวงภูวเนตรฯ ทรงส่งเพลงยาวไป ‘เกี้ยว’ เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์จึงออกจากวังหลวงไปอยู่วังกรมหลวงภูวเนตรฯ การออกจากวังหลวงไปนั้น ไม่ทราบแน่ชัดว่าออกไปเฉย ๆ หรือกราบถวายบังคมลา แต่น่าจะเดาว่าในฐานะของเจ้าจอมมารดา มีพระเจ้าลูกเธออยู่ ๆ คงจะออกไปเฉย ๆ ไม่ได้ เห็นจะต้องมีท้าวนางกราบทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์จึงได้ไปเป็น ‘หม่อม’ ในพระองค์เจ้าทินกร อยู่ต่อมาพักหนึ่ง เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์ก็ออกจากวังพระองค์เจ้าทินกร ย้ายไปอยู่วังกรมหมื่นพิทักษ์เทเวศร์ (พระองค์เจ้ากุญชร กรมพระพิทักษ์เทเวศร์) พระเชษฐาองค์กลาง ไม่นานนักก็ย้ายไปอยู่วัง กรมขุนพิพิธภูเบนทร์ (พระองค์เจ้าพนมวัน กรมพระพิพิธโภคภูเบนทร์) พระเชษฐาองค์ใหญ่ ว่ากันว่า เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์ ท่านเตร็ดเตร่ไปเรื่อย ๆ แม้จะเป็นที่ทราบกันอยู่ แต่เมื่อออกมาจากวังแล้ว ท่านก็มี ‘สิทธิสตรี’ เช่นเดียวกับคุณพุ่ม ตรงนี้อาจมีผู้ถามว่าแล้วพระสุริยภักดีและเจ้าจอมอิ่มทำไมจึงต้องพระราชอาญาถึงประหารชีวิตทั้งคู่ เพราะมีผู้ฟ้องร้องขึ้นไปกราบบังคมทูล จึงได้โปรดฯให้ลูกขุนพิจารณาโทษ ลูกขุนพร้อมกันตัดสินโทษตามกฎมณเฑียรบาล ซึ่งกำหนดโทษไว้ว่า ‘อนึ่ง ข้าเฝ้าทั้งปวงใช้หนังสือกาพย์ โคลงเข้าวัง สื่อชักคบค้ากำนัลสาวใช้ฝ่ายใน โทษถึงตาย อนึ่ง ข้าฝ่ายในคบผู้ชายหมู่นอกใช้หนังสือกาพย์โคลงไปมา โทษถึงตาย’ เสมอนางกำนัลสาวใช้ยังโทษถึงตาย นี่เป็นถึงเจ้าจอมในรัชกาลปัจจุบัน ส่วนเจ้าจอมมารดาลูกจันทน์นั้น เป็นเจ้าจอมในรัชกาลที่ล่วงแล้ว เมื่อออกไปก็ไปอยู่วังเจ้านาย พูดง่าย ๆ ว่าถึงจะมีผัวใหม่ ก็ได้เจ้านายชั้นพระบรมวงศ์ บางทีจะโปรดฯพระราชทานให้ด้วยซ้ำไป เพราะเคยมีปรากฏแล้วเรื่องพระราชทานเจ้าจอมที่ยังสาวและมิได้มีพระเจ้าลูกเธอในรัชกาลก่อนให้แก่พระบรมวงศ์ เรื่องหญิงตามชายไปโดยสมัครใจ และภายหลัง หญิงเลิกราไปอยู่กับชายอื่นนี้ ถึงรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯได้ทรงประกาศพระราชบัญญัติเรื่องลักพาความตอนหนึ่งว่า ‘...อนึ่ง หญิงซึ่งตามชายไปโดยความสมัครรักใคร่กันเอง บิดามารดามิได้ยอมยกให้ ไม่ได้แต่งมีทุนสินสอดอย่างนี้ ก็เชื่อว่าเป็นหญิงไม่ดี ชายจะถือว่าเป็นเมียไม่ได้ ก็เมื่อไม่สมัครอยู่กับชาย จะหนีกลับมาหาบิดามารดาแลญาติพี่น้องก็ดี จะตามชายอื่นไปก็ดี ชายที่เรียกว่าเป็นผัวนั้น จะตามฟ้องร้องเร่งรัดเอาตัวหรือจะเอาเบี้ยปรับแก่ชายชู้ใหม่ไม่ได้ เพราะมันมาฉันใดให้มันไปฉันนั้น...’ ประกาศฉบับนี้ แม้จะทรงตำหนิผู้หญิงว่าไม่ดี แต่พิจารณาอีกแง่ดูจะเป็นการให้ ‘สิทธิสตรี’ ไม่น้อยทีเดียว ในสมัยก่อนโน้น คงจะมีการฟ้องร้องเกี่ยวกับลูกหลานหนีตามผู้ชายกันเสมอๆ ประกาศเรื่องเกี่ยวกับการลักพา จึงมีความอีกตอนหนึ่งว่า ‘บุตรหญิงของใคร ๆ จงระวังรักษาเอง จงหาผัวให้เป็นที่ชอบใจเร็ วๆ เถิด ถ้าเกิดเหตุติดตามผู้ชายไป ก็จะต้องคงลงให้ถามตามใจหญิงสมัคร ผู้ลอบลักพาถ้าไม่ได้ขอสมาก็ให้มีเบี้ยละเมิด ของซึ่งหายในเวลาหญิงหนีตามชายไป (ถ้า) เจ้าทรัพย์สาบาลไว้ว่าหายไปเวลานั้น ผู้ลักพาก็ต้องใช้ ต้องเร่งรัดให้ใช้เจ้าของทรัพย์จนเต็ม หรือตามใจเจ้าทรัพย์ จะยอมลดยอมให้บ้าง (แต่) จะให้ว่ายิ่งกว่านี้ไปไม่ได้ เพราะบิดามารดาแลญาติผู้ใหญ่เลี้ยงบุตรหลานไม่ดี...’ เรื่องเจ้าจอมมารดาลูกจันทน์ในสมัยรัชกาลที่ ๓ คงจะ ‘ดัง’ อยู่ไม่น้อย เมื่อถึงรัชกาลที่ ๔ จึงทรงประกาศ มีพระบรมราชานุญาตให้เจ้าจอมพระสนมในรัชกาลก่อน ๆ หรือแม้แต่ในรัชกาลของพระองค์ที่มิได้มีพระองค์เจ้าลูกยาเธอและลูกเธอ กราบถวายบังคมลาออกจากราชการได้ ให้กราบถวายบังคมลาโดยตรง แม้จะออกไป ‘มีลูกมีผัว’ ก็ไม่ทรงหวงห้าม แต่ ‘ห้ามแต่อย่าให้สนสื่อหาชู้หาผัวแต่ตัวยังอยู่ในราชการด้วยอุบายทางใดทางหนึ่งก่อนกราบบังคมทูลพระกรุณาเป็นอันขาดทีเดียว เป็นดังนั้นจะเสียพระราชกำหนดสำหรับแผ่นดินไป...’ เล่าเรื่องเสียยืดยาว เพราะทั้งคุณพุ่มและเจ้าจอมมารดาลูกจันทน์มีเรื่องราวเกี่ยวข้องกันกับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์ เอ่ยพระนามกรมหลวงภูวเนตรฯ ผู้รู้จักท่านคงมีไม่มากนัก นอกเสียจากผู้สนใจเรื่องกวี แต่ถ้าหากบอกว่า ท่านเป็นผู้ทรงนิพนธ์เรื่องแก้วหน้าม้าที่กำลังแข่งกันกระโดดโลดเต้นในจอโทรทัศน์สองช่องอยู่เวลานี้ และเป็นผู้ทรงนิพนธ์เรื่อง พระมณีพิชัย หรือ ส่วนมากเรียกว่า เรื่องนางยอพระกลิ่น (กินแมว) ก็คงจะร้องอ๋อไปตาม ๆ กัน ;D กระทู้: อยากทราบเรื่องเจ้าจอมมารดาลูกจันทร์ ในรัชกาลที่ ๒ เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 09 ส.ค. 12, 18:55 เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์
เจ้าจอมมารดาในรัชกาลที่ ๒ ธิดาเจ้าสุก แห่งราชอาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง มีพระองค์เจ้า คือ ๑. พระองค์เจ้าหญิงแม้นเขียน บิดาพามาถวายตัวในรัชกาลที่ ๑ ตั้งแต่อายุ ๘ ขวบพร้อมกับน้องสาวอีก ๒ คน ได้เป็นละครหลวงรุ่นเล็ก ในรัชกาลที่ ๑ ในบท “นางวิยะดา” เมื่อสิ้นรัชกาลที่ ๑ ท่านอายุได้เพียง ๑๑ หรือ ๑๒ ปี ต่อมาจึงได้เป็นละครหลวงรัชกาลที่ ๒ ในบท “นางมะดีหวี” ต่อมาได้เป็นครูละครหลวงในรัชกาลที่ ๔ และ ๕ และเป็นครูละครสำคัญของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ด้วย ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อ วันเสาร์ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๓ ปีชวด สัมฤทธิศก (๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๓๑) สิริอายุ ๙๐ ปี ที่มา http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/12/K8690433/K8690433.html ภาพ พระองค์เจ้าหญิงแม้นเขียน กระทู้: อยากทราบเรื่องเจ้าจอมมารดาลูกจันทร์ ในรัชกาลที่ ๒ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 ส.ค. 12, 19:15 บิดาพามาถวายตัวในรัชกาลที่ ๑ ตั้งแต่อายุ ๘ ขวบพร้อมกับน้องสาวอีก ๒ คน ได้เป็นละครหลวงรุ่นเล็ก ในรัชกาลที่ ๑ ในบท “นางวิยะดา” เมื่อสิ้นรัชกาลที่ ๑ ท่านอายุได้เพียง ๑๑ หรือ ๑๒ ปี ต่อมาจึงได้เป็นละครหลวงรัชกาลที่ ๒ ในบท “นางมะดีหวี” ต่อมาได้เป็นครูละครหลวงในรัชกาลที่ ๔ และ ๕ และเป็นครูละครสำคัญของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ด้วย ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อ วันเสาร์ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๓ ปีชวด สัมฤทธิศก (๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๓๑) สิริอายุ ๙๐ ปี ที่มา http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/12/K8690433/K8690433.html จากหนังสือศิลปินแห่งละคอนไทยของคุณธนิต อยู่โพธิ์ กระทู้: อยากทราบเรื่องเจ้าจอมมารดาลูกจันทร์ ในรัชกาลที่ ๒ เริ่มกระทู้โดย: benzene ที่ 09 ส.ค. 12, 19:17 ขอบพระคุณทุกท่านครับ เสียดายที่ไม่มีรูปท่านอยู่เลย บางทีอาจจะมีในหอจดหมายเหตุ
ที่ผมถามขึ้นมา ก็เพราะท่านเป็นนางละครที่มีชีวิตโลดโผนอยู่ทีเดียว และเป็นตัวดีมีฝีมือด้วย จึงได้ไปเป็นครูสอนละครหลวง และละครเจ้านายหลายวัง กระทู้: อยากทราบเรื่องเจ้าจอมมารดาลูกจันทร์ ในรัชกาลที่ ๒ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ส.ค. 12, 19:57 ชีวิตของเจ้าจอมลูกจันทร์เล็ก ธิดาเจ้าสุกแห่งหลวงพระบาง กับเสด็จในกรมฯทั้ง ๓ พระองค์ นั้นคุณนัดดา อิศรเสนา ณ อยุธยาเล่าเอาไว้ชัดเจนพอสมควรในหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพพระยาอิศรพงศ์พิพัฒน์ (ม.ล.สิริ อิศรเสนา)
ตอนท้ายท่านให้รายละเอียดว่า " เจ้าจอมมารดาลูกจันทร์ เมื่อวัยชราหมดที่พึ่ง สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ทรงรับมาอุปถัมภ์ไว้ ณ วังประตูสามยอด เลี้ยงดูพอสมแก่ฐานะที่เคยเป็นครูละครของเจ้าจอมมารดาชุ่ม เจ้าจอมมารดาในพระองค์ท่าน และเมื่อสิ้นชีพแล้ว ได้จัดการปลงศพประทานอีกด้วย" อย่างไรก็ตาม ดิฉันเห็นเป็นส่วนตัวว่าชีวิตส่วนตัวกับทั้ง ๓ พระองค์ ไม่เกี่ยวอะไรกับความเป็นครูละครของท่าน ถ้าหากว่าคุณ benzene จะบรรยายประวัติท่านไว้ในนิทรรศการให้คนเข้าชมงานได้อ่านกัน ลงความยาวขนาดกลางๆอย่างที่คุณ NAVARAT.C นำมาลงก็คงจะดีกว่ากระมัง ขอเสนอให้พิจารณาด้วยค่ะ กระทู้: อยากทราบเรื่องเจ้าจอมมารดาลูกจันทร์ ในรัชกาลที่ ๒ เริ่มกระทู้โดย: benzene ที่ 09 ส.ค. 12, 22:26 ครับผม เป็นความรู้ที่ผมไม่เคยอ่านมาก่อน ดีมากๆ เลยครับ
กระทู้: อยากทราบเรื่องเจ้าจอมมารดาลูกจันทร์ ในรัชกาลที่ ๒ เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 10 ส.ค. 12, 07:38 ชีวิตของเจ้าจอมลูกจันทร์เล็ก ธิดาเจ้าสุกแห่งหลวงพระบาง กับเสด็จในกรมฯทั้ง ๓ พระองค์ นั้นคุณนัดดา อิศรเสนา ณ อยุธยาเล่าเอาไว้ชัดเจนพอสมควรในหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพพระยาอิศรพงศ์พิพัฒน์ (ม.ล.สิริ อิศรเสนา) ตอนท้ายท่านให้รายละเอียดว่า " เจ้าจอมมารดาลูกจันทร์ เมื่อวัยชราหมดที่พึ่ง สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ทรงรับมาอุปถัมภ์ไว้ ณ วังประตูสามยอด เลี้ยงดูพอสมแก่ฐานะที่เคยเป็นครูละครของเจ้าจอมมารดาชุ่ม เจ้าจอมมารดาในพระองค์ท่าน และเมื่อสิ้นชีพแล้ว ได้จัดการปลงศพประทานอีกด้วย" เข้าใจว่าเป็นช่วงสมัยที่สมเด็จกรมพระยาดำรง ทรงอยู่ในตำแหน่งนายกสภาหอพระสมุด ทรงรวบรวมโน๊ตเพลงไทยเดิมและจัดทำเป็นโน๊ตเพลงสากลขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อทำเรื่องดนตรีไทยแล้วก็ต้องมีท่ารำประกอบ สมเด็จกรมพระยาดำรงจึงทรงใหครูนาฏศิลป์ต่าง ๆ รวบรวมท่านาฏศิลป์ไว้ มีการรำท่าแม่บทต่าง ๆ และบันทึกเป็นภาพเป็นหลักฐานให้กับวงการนาฏศิลป์สืบมา กระทู้: อยากทราบเรื่องเจ้าจอมมารดาลูกจันทร์ ในรัชกาลที่ ๒ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 12, 20:19 เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์ เป็นเด็กสวยมาตั้งแต่ยังเล็ก จึงได้รับบทนางวิยะดาในอิเหนา เมื่อโตเป็นสาวก็เป็นที่เลื่องลือว่างามแบบชาวเหนือ ผิวเป็นแตงร่มใบ จริตกิริยาน่ารัก เป็นที่โปรดปรานของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯ มาก เมื่อเสด็จสวรรคต เจ้าจอมลูกจันทน์อายุแค่ 18 ปี ส่วนกรมหลวงภูวเนตรฯ กำลังหนุ่มแน่น พระชันษาได้ 23 ปี ท่านมีโอกาสเห็นเจ้าจอมลูกจันทน์ที่ไหนไม่ทราบ แต่เห็นแล้วศรรักก็ปักทรวง ประกอบกับสิ้นแผ่นดินรัชกาลที่ 2 แล้ว เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์มีอิสระมากขึ้น กรมหลวงภูวเนตรคิดว่ามีหวัง ก็เลยกล้าส่งเพลงยาวถึง
ขอยกมาตอนหนึ่งค่ะ ...................................... .......................... เห็นอยู่เดียวเปลี่ยวอารมณ์มานมนาน คิดสงสารแสนรักจึงชักจูง เดิมไม่เศร้าเสื่อมสลดมียศอยู่ เคยเป็นคู่เคียงหงส์ที่วงศ์สูง (หมายถึงรัชกาลที่ 2) ก็สิ้นหงส์แล้วจงวกลงนกยูง (หมายถึงพระองค์เอง) อย่าให้ฝูงกากวนไม่ควรเคียง (น่าจะมีขุนนางหนุ่มๆมาเล็งอยู่เหมือนกัน) อยากพบพักตร์รักใคร่ให้สนิท ขอชอบชิดชิงรักอย่าหักหวน ถ้าโฉมงามตามอารมณ์เห็นสมควร จงประมวลมิตรใจเป็นไมตรี จะพูนเพิ่มพิศวาสไม่คลาดเคลื่อน ทุกวันเดือนมิได้คลายคิดหน่ายหนี เฝ้ารักใคร่ไปจนตายวายชีวี อยู่เมืองผีจะขออยู่เป็นคู่กัน แม้เกิดใหม่ให้ได้พบประสบสิ้น บาดาลดินแดนดลบนสวรรค์ ทุกทุกชาติอย่าขาดรักเลยสักวัน จนม้วยดับกัปป์กัลป์พุทธันดร เจ้าจอมมารดาลูกจันทน์ฟังฝีพระโอษฐ์เจ้าชายกวีก็คงจะใจอ่อนระทวย แม้จะต้องสูญเสียเบี้ยหวัด และต้องตัดขาดจากพระเจ้าลูกเธอแม้นเขียนซึ่งยังเป็นทารก ก็ยอม จึงออกจากวังหลวงไปเป็นหม่อมอยู่ในวังกรมหลวงภูวเนตรฯ กระทู้: อยากทราบเรื่องเจ้าจอมมารดาลูกจันทร์ ในรัชกาลที่ ๒ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 12 ส.ค. 12, 08:00 อยากพบพักตร์รักใคร่ให้สนิท ขอชอบชิดชิงรักอย่าหักหวน จะพูนเพิ่มพิศวาสไม่คลาดเคลื่อน ทุกวันเดือนมิได้คลายคิดหน่ายหนี เพลงยาวตอนนี้ต่างจากใน ตู้หนังสือเรือนไทย (http://www.reurnthai.com/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A7_%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88_%E0%B9%96_%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%B2) ............................................................ เห็นอยู่เดียวเปลี่ยวอารมณ์มานมนาน คิดสงสารแสนรักจึงชักจูง เดิมไม่เศร้าเสื่อมสลดมียศอยู่ เคยเปนคู่เคียงหงส์ที่วงศสูง ก็สิ้นหงส์แล้วจงวกลงนกยูง อย่าให้ฝูงกากวนไม่ควรเคียง ........................................................... อย่าพบพักตรรักใคร่ให้สนิท ขอชอบชิดเชิงรักอย่าหักหวน ถ้าโฉมงามตามอารมณ์เห็นสมควร จงประมวลมิตรใจเปนไมตรี จะพูลเพิ่มพิศวาสไม่คลาดเคลื่อน ทุกวันเดือนมิได้คลายหน่ายหนี เฝ้ารักใคร่ไปจนตายวายชีวี อยู่เมืองผีจะขออยู่เปนคู่กัน แม้นเกิดไหนให้ได้พบประสบสิ้น บาดาลดินแดนดลบนสวรรค์ ทุกทุกชาติอย่าขาดรักเลยสักวัน จนม้วยดับกัปป์กัลป์พุทธันดร ............................................................ เห็นด้วยว่า อยาก น่าจะถูกต้องกว่า อย่า, ชิง ดูจะดีกว่า เชิง พูน น่าจะถูกต้องกว่า พูล, มี คิด ดีกว่า ไม่มี ;D |