อีกสำนวนหนึ่ง คือนิราศสุพรรณ ของเสมียนมี หรือหมื่นพรหมสมพัตสร (มี)
คุณเทพ สุนทรศารทูล ท่านได้สืบค้นว่านามสกุล
มีระเสนเสมียนมีต้องเดินทางไปเก็บอากรที่เมืองสุพรรณ เมื่อปี พ.ศ.๒๓๘๗ คือหลังสุนทรภู่เพียง ๓ ปี
เป็นโอกาสให้ท่านแต่งนิราศสุพรรณขึ้นครั้งนั้น
ท่านผู้นี้ก็เป็นลูกศิษย์สุนทรภู่เช่นกัน
จะขอคัดลอกตอนที่ท่านมาถึงสุพรรณ แล้วก็ไปไหว้ศาลเจ้าพ่อฯ เลยครับ
ครั้นเย็นค่ำย่ำแสงพระสุริยา ทัศนานั่งดูเมืองสุพรรณ
ดูโรยร่วงแรมร้างน่าสังเวช ดังประเทศแถวป่าพนาสัณฑ์
พฤกษาชาติแทรกแซมขึ้นแกมกัน อเนกนันต์เล็กใหญ่ไม้นานา
คืนวันนั้นจันทร์เพ็งเปล่งประเทือง ดาราเรืองเรียงรายพรายเวหา
ไปไหว้เจ้าหลักเมืองเรืองศักดา ตั้งบูชาบัตรพลีพลีกรรม
น้อมคำนับอภิวาทประกาศว่า ขอเทวาช่วยชุบอุปถัมภ์
อย่าให้ขาดทุนรอนอากรนำ ทั้งทางน้ำทางบกอย่าปกบัง
ใครบังไร่ไว้ไหนช่วยไปจับ เอาค่าปรับให้สมอารมณ์หวัง
ขอให้เรือลูกค้ามาประดัง จะเก็บทั้งค่าตลาดอย่าขาดทุน
ครั้นไหว้แล้วกลับมานิทราหลับ จนเดือนลับลำเนาภูเขาขุน
เจ้าหลักเมืองเรืองศักดาช่วยการุณ มาค้ำจุนจิตนั้นให้ฝันไป
ว่าย่านางนาวานั้นมาบอก กำไรออกมั่นคงอย่าสงสัย
บอกว่าเรือที่ขี่นั้นมีชัย ได้กำไรค้าขายมาหลายคราว
ให้แลเห็นรูปร่างของนางไม้ งามวิไลแลละมุนพึ่งรุ่นสาว
อร่ามเรืองเครื่องประดับดูวับวาว พอฟ้าขาวหายวับไปกับตา
ประจักษ์จำความฝันไว้มั่นแม่น ให้สุดแสนสมมาดปรารถนา
สังเกตดูฤกษ์ยามตามเวลา ต้องตำราความฝันขยันดี