เรือนไทย

วันนี้ได้มีโอกาสเข้าไปถ่ายภาพที่วัดราชสิทธารามหลังจากพลาดมาหลายหน ทำหนังสือไปขออนุญาตท่านเจ้าอาวาสผ่านพระเลขาฯ ท่านก็อนุญาตแล้วบอกว่ามีเจ้าหน้าที่กรมศิลปมาทำการอนุรักษ์อยู่ เข้าไป มีการตั้งห้างเขียนภาพอยู่บริเวณฝาผนังด้านหุ้มกลอง(สกัด)หน้าพระประธาน โชคร้ายถ่ายจนหมดแบตเตอรี่ก่อนแรกจะหาแบตมาเปลี่ยนปรากฎว่าลืมเอาใส่กระเป๋าไป เซ็งเลย ดีที่เอากล้องคอมแพ็คติดไปด้วยก็ลองใช้ถ่ายดู เออดีเหมือนกันแต่ความคมชัดมันสู้ไม่ได้จริงๆแต่เหมาะกับการถ่ายมุมแคบที่ระยะกล้องDSLRถ่ายไม่ได้ ถ่ายเสร็จก็ได้คุยกับทางพระเลขาฯท่าน เพื่อขออนุญาตมาถ่ายเพิ่ม ท่านบอกว่าช่วงนี้จะมีงานเข้าพรรษา ให้มาหลังงาน ซึ่งทางกรมศิลป์เข้าจะรื้อห้างออกด้วย เลยได้คุยกับช่างอนุรักษ์ เค้าก็ถามว่าถ่ายไปทำอะไร เราก็เล่าจุดประสงค์ให้ฟัง เราก็ถามพี่เค้าเกี่ยวกับงานอนุรักษ์ พี่เค้าก็คุยดีมาก สนทนากันด้วยความเข้าใจ เพราะพี่ท่านนี้(ไม่ได้ถามชื่อพี่เค้า)เป็นช่างรุ่นเดียวกับเมื่อครั้งอนุรักษ์ที่วัดสุทัศน์จากทุนรัฐบาลเยอรมันสมัยที่คุณ วรรณิภา ณ สงขลาเป็นผู้ควบคุมงานและเป็นเพื่อนกับคุณจารุวรรณด้วย ฟังพี่เค้าพูดเราก็เข้าใจ ส่วนเราก็ให้ข้อคิดเห็น แต่อย่างว่า เราทั้ง2ฝ่ายมิได้มีอำนาจอันใดแค่เพียงผู้ทำหน้าที่ รู้และเข้าใจอะไร ก็คงเก็บไว้แล้วปล่อยให้มันเป็นไป คิดอย่างนี้แล้วสบายใจครับ มาพูดถึงหัวเรื่องที่จ่อไว้ดีกว่า หากใครได้เคยชมภาพเขียนสมัยอยุธยามาเป็นพื้นฐานบ้างแล้ว อาจจะมองออกว่าจิตรกรรมฝาผนังที่วัดนี้นั้นแม้เขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่1 ช่างเขียนอาจเป็นช่างฝีมือที่เหลือรอดชีวิตมาแต่เมื่อครั้งกรุงแตก ฉะนั้นอิทธิพลในการแสดงออกทางภาพเขียนจึงมิได้เปลี่ยนแปลงจากเมื่อครั้งเขียนในสมัยอยุธยา ทั้งอิสระในการเขียนตัวภาพ การลำดับเรื่อง และองค์ประกอบต่างๆเช่นโขดหิน เขามอ สรรพสัตว์ ดอกไม้ ใบหญ้า คล้ายคลึงกับภาพเขียนในสมัยอยุธยาตอนปลายเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะแบบที่ปรากฎอยู่ในสมุดข่อย หากจะชี้ชัดให้ละเอียด คงต้องว่ากันยาว เอาเป็นว่าค่อยๆดูภาพและซึมซับเละกันนะครับ

ดูเหล่าสนมกำนัลใน ไว้ผมทรงดอกกระพุ่ม(มหาดไทย)ซิครับ

ดูการวาดต้นไม้ดอกไม้ แบบที่ได้รับอิทธิพลจากจีน

บรรดาโขดหินเขอมอก็เช่นเดียวกันอิทธิพลจีนอย่างอยุธยาก็ปรากฎให้เห็นอย่างเด่นชัด

เสน่ห์ของภาพเขียนที่นี่อีกส่วนนึงก็คือภาพ"กาก"เหล่าลิ่วล้อทั้งหลายนั่นเอง (อธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ)

ภาพการเดินทัพของพระเจ้ากรุงสญชัย เพื่อไปรับพระเวสสันดร เป็นลักษณะการเดินทัพแบบอยุธยาอย่างที่ปรากฎในสมุดข่อยวัดยม(คัดลอกจากจิตรกรรมฝาผนังวัดยมสมัยอยุธยาเขียนเรื่องการเสด็จทางสถลมารค)

ผมชอบโขดหินเขอมอเหล่าสัตว์ทั้งหลายดอกไม้ใบหญ้าที่ปรากฎในผนังนี้จริงๆ อีกไม่นานแล้วผนังที่เคยผุๆพังหลุดร่อน ก็จะปรากฎภาพเขียนจนเต็ม ภาพต่อไปนี้ก็จะเป็นเพียงเรื่องเล่าอดีตเท่านั้นครับ

วันนี้ได้โทรไปคุยกับคุณยุทธนาเกิ่นกันเรื่องร่วมตัวไปเที่ยวดูจิตรกรรมแล้วครับ เนื่องจากสัปดาห์หน้าจะหยุดกันยาว เลือกเอาวันอาทิตย์นี้หละครับเป็นวันรวมตัวพรุ่งนี้จะโทรนัดทางคุณvirain(ไม่รู้หายป่วยรึยัง)กับคุณฉันรักบางกอก ส่วนท่านใดที่สนใจจะไปด้วยกันกับชมรมติดต่อผมที่paparyu15@gmail.comเพื่อนัดแนะกันเลยครับ ขอคนที่ตั้งใจจริงเท่านั้นนะครับ*กระทู้กระเหรี่ยงผมไม่มีคนดูเลย กระทู้นี้จะมีคนสนใจรึเปล่าเนี่ย

รูปจากสมุดข่อยวัดสุวรรณภูมิ สุพรรณบุรี สมัยอยุธยาตอนปลาย สังเกตเครื่องแต่งกายของกษัตริย์กับต้นไม้และศาลา เหมือนกับที่วัดราชสิทธอย่างไม่มีผิดเพี้ยน

ดูภาพตอนนี้จากวัดราชสิทธ สังเกตที่ตัวราชสีห์แล้วเดี๋ยวเปรียบเทียบกับรูปต่อไปนะครับ

สมุดข่อยวัดศรีษะกระบือสมัยอยุธยาที่สุดแสนจะงดงามให้ ดูที่ราชสีห์ น่าจะเป็นแบบอย่างสืบเนื่องไปถึงช่างเขียนที่วัดราชสิทธบ้างไม่มากก็น้อย

อีกรูปของวัดศรีษะกระบือที่น่าจะเด่นชัดว่ากลิ่นอายของอยุธยาปรากฎอยู่ที่วัดราชสิทธารามจริงๆ ไม่ได้โม้ 5555555555555

ปิดท้ายด้วยรูปนี้จากวัดราชสิทธาราม เหล่าทวยเทพมาร่วมฟังเทศนาจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นการส่งเข้าสู่ช่วงอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาเลยนะครับ ขอให้สาธุชนทั้งหลายเข้าวัดฟังธรรม ทำบุญตักบาตรตามอัธยาศัยครับ ส่วนผมเข้าไปถ่ายรูปตามเคย 555555555555555(รูปนี้ถ่ายด้วยกล้องคอมแพ็คครับ) ไปนอนละครับ

นี่ไม่มีใครเข้ามาคุยเลยวุ๊ย คุณvirain กับคุณฉันรักบางกอก โทรไปหาแล้วทำไมไม่รับเลยครับทั้ง2ท่านเลย จะนัดไปเที่ยวกัน สงสัยจะอดไปแล้ว โปรแกรมอาทิตย์นี้

ใจเย็นครับพี่ยีนส์เดี่ยวน้องเขาคงเข้ามาคุยครับใจเย็นๆครับแหมหัวหน้าชมรมเริ่มงอนแล้ว   วัดราชสิทธฺเป็นวัดที่ผมชอบมากในความขลังของสีสรรและความงามของนาฎลักษณ์ที่งามงด
อย่างไรต้องขอบคุณพี่ครับที่เอามาให้ดูครับ   รอดูอีกสักวันก็ได้ครับ  ในห้องนี้ผมเห็นมีคุณโพธิประทับช้างและคุณpipat  เคยมาคุยเรื่องศิลปะไทยกันอยู่ถ้ามีเวลาก็เชิญนะครับถึงความเห็นจะแตกต่างกันบ้างแต่ก็รักและหวงศิลปะเหมือนกันครับ  ขอบคุณครับหรือพี่ยินส์จะส่งเบอร์น้องเขามาทางเมล์ก็ผมก็ได้นะครับจะประสานงานให้ครับ   ช่วงนี้งานที่ทำงานเยอะมากจริงๆบางวันกลับไปสลบเลยอาจจะไม่ได้ตอบบางกระทู้บ้างแต่ก็อ่านทุกกระทู้ครับพี่อย่าน้อยใจครับ

ไม่ได้น้อยใจครับ น้องvirainโทรมาพอดี ยังป่วยไม่หายครับและยังอยู่ต่างจังหวัดด้วย คงต้องโอกาสหน้าแต่ได้คุยกันแล้วคงจะไปเจอกันที่วัดราชสิทธารามงวดหน้า ส่วนคุณฉันรักบางกอกยังเงียบอยู่ (รูปประกอบส่วนหนึ่งของพระเวสสันดรวัดราชสิทธ รูปนี้ถ่ายมา20กว่าปีแล้ว ปัจุบันลบจนเกือบหมดแล้วเดี๋ยวค่อยดูอีกรูป)

สภาพปัจจุบันรูปเดียวกัน

ภาพพระเวสสันดรกัณฑ์มัทรี ส่วนที่หายไปช่วงล่างน่าจะเป็นตอนที่พระอินทร์แปลงมาเป็นพราหมณ์มาขอนางมัทรี ภาพนี้อิทะพลจีนปรากฎชัดเจนในอาศรมของพระเวสสันดรเป็นเรือนเก๋งแบบจีนซะเนี่ย

มาแล้ว .....

ได้เที่ยวด้วยคะ อย่าเพิ่งงอนนะคะ

ขอโทษด้วยนะคะ ที่ไม่ได้รับ และโทรกลับ ... เห็นเบอร์โทรแล้วนึกว่าทวงหนี้ แหะๆๆๆ

 :-\  อยากไปเที่ยวด้วยจังค่ะ    เสียดายจังเข้ามาอ่านช้าไปหน่อย หลังจากห่างหายจากเรือนไทยไปเกือบ สามปี จน password จำไม่ได้ ((ยังดีที่จำทางกลับมายังเรือนได้ ;D))ต้องสมัครใหม่เลย คิดถึงเพื่อนๆทุกคน  โดยเฉพาะท่านเจ้าเรือนนะคะ  ตามอ่านกระทู้ไม่ได้หลับไม่ได้นอนมา 2 วัน   
ไม่ได้ไปเห็นด้วยตาตนเอง รอดูรูปก็ได้ค่ะ .. แหะ แหะ..

สนใจเกี่ยวกับจิตรกรรมครับ....เพราะตอนนี้กำลังทำงานส่งอาจารย์ เรื่อง จิตรกรรมฝาผนัง วัดดุสิตาราม วัดสุวรรณาราม ครับ แต่ผมไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับภาพแต่ละภาพเลย อยากขอความช่วยเหลือจากผู้รู้ครับ ว่าแต่ละภาพอธิบายเกี่ยวกับเรื่องอะไร
ขอบคุณผู้รู้ครับ

น้องจะเอาภาพไหนละครับ เล่นถามมากว้างๆ อย่างวัดดุสิตเขียนเรื่องพุทธประวัติ ส่วนวัดสุวรรณารามเขียนเรื่องทศชาติ แนะนำให้น้องไปหอสมุดแห่งชาติ หาหนังสือของสำนักพิมพ์เมืองโบราณชื่อหนังสือตามชื่อวัดเลยคือวัดดุสิตารามและวัดสุวรรณาราม ข้อมูลน่าจะมากพอครับ