ก.ส.ร.กุหลาบดังขึ้นมาก็เพราะได้พิมพ์พงศาวดารเมืองสุโขทัย เล่าจนถึงตอนเสียกรุงศรีอยุธยาว่า พระเจ้าแผ่นดินที่ครองราชย์ทรงพระนามว่า พระปิ่นเกษมีพระราชโอรสทรงพระนามว่าพระจุลปิ่นเกศ ไม่มีความสามารถที่จะรักษาบ้านเมืองไว้ได้จึงเสียเมืองแก่พม่า เป็นการกระทบเบื้องพระยุคลบาทจากการที่สยามต้องเสียดินแดนริมฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงให้ฝรั่งเศสในร.ศ. ๑๑๒ จึงโปรดเกล้าให้เอาตัวไปขังไว้ที่โรงพยาบาลบ้าเสีย ๗ วัน และปล่อยออกมา
เรื่องนี้คุณหลวงเล็กเคยทำให้ข้อมูลกระจ่างขึ้นครั้งหนึ่งแล้ว
สวนดุสิต
มีพระบรมราชโองการดำรัสเหนือเกล้าฯ สั่งว่า ....จนในที่สุดนี้บังอาจแต่งความโกหกลงในหนังสือสยามประเภทว่า มีบาญชีพระนามเจ้าแผ่นดินครั้งกรุงศุโขทัยทุกพระองค์ ไม่มีเหตุอันใดซึ่งเกี่ยวข้องแก่เรื่องที่ตั้งขึ้น จะกล่าวแลไม่มีผู้ใดไต่ถามบังอาจกล่าวคำโกหกว่าพระเจ้าแผ่นดินที่สุดวงษ์สุโขทัยทรงพระนามว่าพระจุลปิ่นเกษ เหตุด้วยแต่ก่อนได้โกหกไว้ว่า เจ้าแผ่นดินสุโขทัยองค์หนึ่งชื่อพระปิ่นเกษ ที่ให้มีจุลปิ่นเกษขึ้นนั้นด้วยหวังจะเทียบพระจอมเกล้าแลพระจุลจอมเกล้า หมายความเปนเทียบว่าเหมือนเปนที่สุดวงษ์ด้วยกัน ....
แต่ทรงพระราชดำริห์ว่า นายกุหลาบก็เปนคนมีอายุมากนับว่าชราอยู่แล้ว แลความฟุ้งส้านเดิมของอัทยาศรัยนายกุหลาบใกล้ไปข้างทางเสียจริตนั้น ก็ย่อมปรากฏอยู่แล้ว การที่แต่งถ้อยคำฟุ้งส้านหนักขึ้นครั้งนี้จะเปนด้วยความเสียจริตนั้นกล้าขึ้นก็ได้ จึงดำรัสสั่งให้พระยาอินทราธิบดีสีหราชรองเมืองจับตัวนายกุหลาบไปส่งโรงพยาบาลคนเสียจริตไปคุมขังไว้กว่าจะสิ้นพยศเปนปรกติ
มีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งแต่วันที่ ๘ กันยายน รัตนโกสินทร ศก ๑๒๕
สยามินทร
พระราชหัตถเลขาฉบับต่อมา ซึ่งเกี่ยวเนื่องกัน
ที่ ๒๘/๑๐๐๕
พระที่นั่งไอสวรรค์ทิพยอาศน์ เกาะบางปอิน
วันที่ ๑๓ ตุลาคม รัตนโกสินทร ศก ๑๒๕
ถึง กรมหลวงนเรศรวรฤทธิ์
ด้วยได้รับหนังสือมีมาที่กรมขุนสมมตอมรพันธ์ ที่ ๑๗๐/๙๗๐๕ ลงวันที่ ๑๐ ตุลาคม ส่งเรื่องราวนายกุหลาบขอความกรุณาพ้นจากการคุมขังที่โรงพยาบาลเสียจริตมานั้น ได้ตรวจดูแล้ว
เห็นว่าเรื่องราวไม่ฟุ้งส้าน ค่อยสงบระงับลงแล้ว ยอมเชื่อทานบล ให้ปล่อยตัวไป เมื่อไปฟุ้งส้านอีก ก็จะต้องรักษากันอีก
สยามินทร
จากพระราชหัตถเลขา ๒ ฉบับข้างต้น เท่ายืนยันได้ว่า นายกุหลาบถูกคุมขังที่โรงพยาบาลเสียจริต จากกรณีที่เขียนเรื่องพระปิ่นเกษและพระจุลปิ่นเกษ เมื่อ ร.ศ. ๑๒๕ เป็นเวลานาน ๑ เดือนเศษ (๓๓ วัน) ไม่ใช่ ๗ วันตามที่เคยว่าตามกันมา
จากข้อมูลของคุณหลวงเล็กที่กรุณาค้นหามาแสดง ทำให้เราทราบว่าพระนิพนธ์สมเด็จเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพตอนนี้มีความคลาดเคลื่อนอยู่ ๒ ประการคือ
๑. ในสยามประเภท พระจุลปิ่นเกษไม่ใช่พระราชโอรสของพระปิ่นเกษ แต่เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของสุโขทัย
๒. ก.ศ.ร.กุหลาบ ถูกคุมขังที่โรงพยาบาลเสียจริตเป็นเวลา ๓๓ วัน ไม่ใช่ ๗ วัน
เรื่องผิดพลาดในการเขียนประวัติศาสตร์เกิดขึ้นได้เสมอ ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ