กระทู้: พระฤาษี นารอด เริ่มกระทู้โดย: Gabriel ที่ 06 มิ.ย. 06, 01:15
กระทู้: พระฤาษี นารอด เริ่มกระทู้โดย: ornyupa ที่ 06 มิ.ย. 06, 13:46 พระฤาษีนารอด เป็นครูของฤาษีทั้งปวง ทรงกำเนิดจากเศียรที่๕ของพระพรมธาดา ทรงเพศเป็นฤาษี พระฤาษีนารอดถือว่าเป็นฤาษีองค์แรกของไตรภูมิ ไม่ว่าจะมีการบูชาสิ่งใด หากไม่มีการเชิญท่านแล้ว พิธีกรรมนั้นมักไม่สมบูรณ์
กระทู้: พระฤาษี นารอด เริ่มกระทู้โดย: ornyupa ที่ 06 มิ.ย. 06, 17:47
กระทู้: พระฤาษี นารอด เริ่มกระทู้โดย: ornyupa ที่ 06 มิ.ย. 06, 17:54 พระฤาษีนารอดส่วนมากคนชอบจำสับสนกับพระนาฏมุนี ชอบคิดว่าเป็นองค์เดียวแต่ความจริงเป็นบรมครูต่างสาขากัน พระฤาษีนารอดเป็นบรมครูทางด้านดนตรี รูปลักษณ์ของท่านที่สร้างเป็นหัวโขน(ศรีษะครู)สำหรับบูชาเป็นรูปหน้าพระฤาษีหน้าปิดทอง สวมลอมพอกฤาษี มี(กระดาษ)ทำเป็นผ้าพับเป็นชั้นลดหลั่นกันไป เสียบอยู่กลางลอมพอก
กระทู้: พระฤาษี นารอด เริ่มกระทู้โดย: ornyupa ที่ 06 มิ.ย. 06, 18:00
กระทู้: พระฤาษี นารอด เริ่มกระทู้โดย: ลำดวนเอ๋ยพี่จะด่วนไปก่อนแล้ว ที่ 08 มิ.ย. 06, 11:14 พระนาถ หรือ พระนารอด หรือ พระนาระทะ (แล้วแต่จะออกเสียง) เป็นพระเทวฤษี ผู้ประดิษฐ์ วีณา (พิณ) ขึ้นเป็นครั้งแรก โดย โดยพระเทวฤษี มีกลุ่มนี้ มี ๑๐ ตน คือ
๑. พระมรีจิ ๒. พระอตริ ๓. พระอังคีรส ๔. พระปุลหะ ๕. พระกระตุ ๖. พระปุลัสตยะ ๗. พระวสิษฐ์ ๘. พระทักษะ ๙. พระพฤคุ ๑๐. พระนารทะ ดังนั้นพระฤษีที่เป็นบรมครูของดนตรีน่าจะเป็นพระนารทะ ด้วยว่าเป็นผู้ประดิษฐ์ วีณา (พิน) ขึ้น เป็นปฐม อ้างอิงจาก http://www.sakulthai.com/webboard/Questionv.asp?GID=218 กระทู้: พระฤาษี นารอด เริ่มกระทู้โดย: ลำดวนเอ๋ยพี่จะด่วนไปก่อนแล้ว ที่ 08 มิ.ย. 06, 11:40 กลับมาที่พระภรต(พะ-รด)ฤษีกันบ้าง ผมคุ้นๆว่าเคยอ่านเจอมาว่า ครั้งที่พระอิศวร ปราบอสูรลงแล้วได้ทรงร่ายรำเป็นการฉลอง ต่อมาพญาอนันตนาคราชใคร่ชมอีก จึงไปบำเพ็ญตบะขอพรจาพระอิศวร เมื่อพระอิศวรทรงให้พร ก็ทรงให้พระภรตฤษีเป็นผู้มาจดจำตำรารำของพระองค์ไว้ เกิดเป็นนาฏยศาสตร์ขึ้นมา อีกประการหนึ่งที่ทำมห้ผมมั่นใจว่า พระภรตฤษี คือบรมครูทางนาฏศิลป์ คือ นามสกุลของ พระยานัฏกานุรักษ์ (ทองดี สุวรรณภารต) ซึ่งเป็งนามสกุลพระราชทานจากรัชกาลที่ ๖ โดยพระราชทานพระระบำภาษา (ทองใบ) กับพระนัฏกานุรักษ์ (ทองดี) ทั้งสองท่านเป็น ครูโขน กรมมหรสพ บุตรนายทองอยู่โขนหลวง และ พระยานัฏกานุรักษ์ (ทองดี สุวรรณภารต) ก็เป็นครูโชนละครท่านสำคัญ เพราะท่านเป็นผู้สืบถอดท่ารำพระพิราพเต็มองค์ไว้ ตั้งแต่ราชกาลที่ ๗ ผมจึงสรุปเอาเองว่า ถ้าพระนารถฤษีเป็นครูนาฏศิลป์แล้วไซร้ นามสกุลของพระยานัฏกานุรักษ์ น่าจะออกชื่อพระนารถฤษี มิใช่ออกชื่อพระภารต(ภรตฤษี) อย่างชัดแจ้ง
และที่ผมมั่นใจอีกประการหนึ่งก็เพราะว่า การพระราชทานนามสกุลนั้น พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๗ ทรงพิถีพิถันมาก อย่างนามสกุล สุนทรเวช ที่ทรงพระราชทานให้อย่างนี้ก็เพราะว่า ผู้ขอพระราชทานนามสกุลนั้นเป็นแพทย์ หรือ ทรงพิจารณาจากชื่อบรรพบุรุษของผู้นั้นๆ ดังนั้น พระภรตฤษี หรือ พระภารตฤษี (แล้วแต่จะออกเสียง) สมควรที่จะชี้ว่าเป็นครูทางนาฏศิลป์ เพราะพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ คงไม่พระราชทานนามบรมครูของดนตรี ให้แก่ผ้ขอพระราชทานที่เป็นครูโขนละคร เป็นแน่ กระทู้: พระฤาษี นารอด เริ่มกระทู้โดย: ornyupa ที่ 08 มิ.ย. 06, 13:04 ข้อมูลผิดต้องขอโทษด้วยค่ะ ทีหลังจะหาข้อมูลให้เยอะกว่านี้ จะไม่อ่านหนังสือเล่มเดียวแล้วเอามาตอบอีกแล้วค่ะ ขอโทษจริงๆคะน่าอายมากๆ
กระทู้: พระฤาษี นารอด เริ่มกระทู้โดย: ลำดวนเอ๋ยพี่จะด่วนไปก่อนแล้ว ที่ 09 มิ.ย. 06, 10:24 แก้ไข ผมพิมพ์ผิดไปไม่ได้ตรวจอักษร นามสกุล สุวรรณภารต เป็นนามสกุลพระราชทานจาก พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖(กระทู้ที่ ๖ พิมพ์พลาดไปว่า รัชกาลที่ ๗) โดยพระราชทาน พระระบำภาษา (ทองใบ) และ พระนัฏกานุรักษ์ (ทองดี) ทั้งสองท่านเป็น ครูโขน ในกรมมหรสพ บุตรนายทองอยู่ โขนหลวง
อ้างอิงจาก http://www.amed.go.th/AboutUs/palace/sur_order.htm กระทู้: พระฤาษี นารอด เริ่มกระทู้โดย: ลำดวนเอ๋ยพี่จะด่วนไปก่อนแล้ว ที่ 14 มิ.ย. 06, 14:34 หลังจากไปค้นคว้าดู เรื่องตำนานเกี่ยกับ นาฏราช (จากกระทู้ที่ 6) พบว่า ได้กล่าวไว้ดังนี้ "ในกาลครั้งหนึ่ง มีฤาษีสามีภรรยาพวกหนึ่งตั้งอาศรมอยู่ในป่าตาระกะ ต่อมาฤาษีพวกนี้ ได้ประพฤติอนาจารฝ่าฝืนเทวบัญญัติ ไม่ให้ความเคารพยำเกรงพระผู้เป็นเจ้า เป็นเหตุให้พระอิศวรทรงขัดเคืองพระทัย จึงชวนพระนารายณ์เสด็จลงมายังโลกมนุษย์
เพื่อกำราบฤาษีพวกนี้ โดยพระอิศวรแปลงเป็นฤาษีหนุ่มรูปงาม ส่วนพระนารายณ์ แปลงเป็นภรรยาสาวสวย ทำให้เหล่าฤาษีและภรรยาพวกนี้เห็นเข้า เกิดหลงรักและพยายามเกี้ยวพาราสี แต่ไม่สำเร็จเพราะทั้งสองพระองค์ไม่ได้ สนใจ พวกฤาษีจึงเกิดความโกรธหาวิธีทำร้ายทั้งสองพระองค์หลายครั้ง เช่น สาปพระผู้เป็นเจ้า ทั้งสอง เนรมิตเสือและนาคมาทำร้าย แต่พระอิศวรกำราบลงได้ เมื่อพระอิศวรเห็นว่าพวกฤาษี สิ้นฤทธิ์เดช จึงทรงฟ้อนรำทำปาฏิหาริย์ขึ้น ซึ่งในขณะนั้นมียักษ์ค่อมตนหนึ่ง ชื่อ มุยะกะละ (บางตำราเรียกว่า มุยะละคะ หรืออสูรมูลาคนี) มาช่วยพวกฤาษี แต่ถูกพระอิศวรปราบลงได้ และทรงเอาพระบาทข้างหนึ่งเหยียบไว้ แล้วทรงฟ้อนรำต่อจนหมดกระบวนท่า การร่ายรำในครั้งนี้ ทำให้เทวรูปที่เรียกว่า ปางนาฏราช หรือ ศิวนาฏราช หรือ ปางปราบอสูรมูลาคนี การร่ายรำครั้งนี้ถือเป็นการร่ายรำครั้งที่ 1 ของพระอิศวรหลังจากพระอิศวรกำราบพวกฤาษีจนยอมรับผิดและขอขมาโทษแก่พระองค์แล้ว ก็เสด็จกลับ ไปที่ประทับของพระองค์ที่เขาไกรลาส ส่วนพระนารายณ์เสด็จกลับไปยังเกษียรสมุทร ต่อมาพระยาอนันตนาคราช ผู้ที่ติดตามพระผู้เป็นเจ้าทั้งสองพระองค์ไปปราบพวกฤาษี เกิดความประทับใจ ในลีลาการฟ้อนรำที่งดงามของพระอิศวร จึงอยากชมอีก พระนารายณ์ได้แนะนำให้พระยาอนันต-นาคราช ตั้งพิธีบำเพ็ญตบะบูชา พระอิศวรที่เชิงเขาไกรลาส เพื่อขอประทานพรจากพระอิศวร ซึ่งก็ประสบผลสำเร็จ พระยาอนันตนาคราช จึงกล่าวขอให้พระอิศวรทรงฟ้อนรำอีก พระอิศวรก็รับ คำ และพระองค์ได้เสด็จลงเมืองมนุษย์ ที่ตำบลจิดรัมบรัม หรือจิทัมพรัม แล้วได้แสดงการร่ายรำให้ ประชาชนชมถึง 108 ท่า ประชาชนมีความชื่นชมและเลื่อมใสบูชาพระอิศวรมาก จึงสร้างเทวาลัย ขึ้นและได้สลักท่าร่ายรำของพระอิศวรจนครบทั้ง 108 ท่าในเทวาลัยแห่งนี้ การร่ายรำครั้งนี้ถือเป็น การร่ายรำครั้งที่ 2 ของพระอิศวร ในสมัยต่อมาพระอิศวร ต้องการแสดงการฟ้อนรำให้เป็นแบบฉบับ จึงเชิญเหล่าพระผู้ เป็นเจ้ามาขับร้องและบรรเลงดนตรี และให้เทพยดา ฤาษี คนธรรพ์ ยักษ์ และนาค ทั้งหลาย มาเฝ้าชม จากนั้นพระอิศวรร่ายรำให้ดู โดยทรงให้พระนารทฤาษีเป็นผู้บันทึกท่ารำ เพื่อนำมาสั่งสอน แก่เหล่ามนุษย์ ซึ่งการร่ายรำครั้งนี้ถือเป็นการร่ายรำครั้งที่ 3 ของพระอิศวร" พออ่านจบตรงนี้ ก็เริ่มชักงง แล้วซิเรา ตกลงพระนารถ กับพระนารอด เนี่ยเป็นพระฤษีตนเดียวกันหรือเปล่า แล้วพระภรตฤษี เป็นใครมาจากไหน แต่ว่าในมหาภารตะ ก็บอกไว้ชัดว่า พระนารทะฤษี เป็นผู้ประดิษฐ์ว วีณา ขึ้นเป็นครั้งแรก สับสนๆ ท่าทางเทวปรณัมของอินเดียก็คงจะวุ่นๆ พอสมควร เอาเป็นว่า รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหามดีกว่า กระทู้: พระฤาษี นารอด เริ่มกระทู้โดย: ลำดวนเอ๋ยพี่จะด่วนไปก่อนแล้ว ที่ 14 มิ.ย. 06, 15:38
|