เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 195 เมื่อ 11 มิ.ย. 18, 10:14
|
|
แต่งงานกับ Sigrid Valdis ผู้รับบท Helga ในหนังชุด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 196 เมื่อ 12 มิ.ย. 18, 17:45
|
|
ดารานำคนที่สองของหนังชุดนี้คือ Werner Klemperer รับบทพันเอกคลิ้งค์ ผู้บัญชาการค่ายเชลยที่ 13 เป็นนายทหารจอมซ่าส์ ที่โชว์ความงี่เง่าตลอด 6 ปีของหนังทีวีชุดนี้ เส้นทางดาราของเวอเนอร์ เคลมเปอเรอร์ผู้รับบทนี้ค่อนข้างแปลกกว่าดาราคนอื่น เขาเกิดในเยอรมนี เป็นชาวยิวที่พ่อแม่พาอพยพมาอยู่ในอเมริกาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงได้รับการศึกษาอย่างเด็กอเมริกัน เมื่อปลดประจำการจากทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาก็มุ่งเข้าสู่วงการบันเทิง เนื่องจากมีเสียงบาริโทนที่ไพเราะมาก ก็เลยเป็นนักร้องให้กับละครเวทีบรอดเวย์ จนหันเหมาสู่วงการทีวีในที่สุด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 197 เมื่อ 12 มิ.ย. 18, 18:59
|
|
เวอเนอร์รับบทเป็นดารารับเชิญในหนังทีวีหลายเรื่อง หลากหลายรสชาติ ทั้งหนังสืบสวนสอบสวน หนังลึกลับตื่นเต้น หนังชีวิต จนกระทั่งมารับบทนายทหารเยอรมันตัวตลกของเรื่อง บทนี้เป็นบทท้าทายฝีมืออย่างมาก เพราะทหารเยอรมันมักถูกนำเสนอในบทเหี้ยม และโหด เวอเนอร์ตัดสินใจบอกคนเขียนบทให้เขียนตลกแบบสุดโต่งไปเลย ไม่ให้ใกล้เคียงกับชีวิตจริง ผลก็คือเขาประสบความสำเร็จอย่างล้มหลาม ได้รับเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลเอมมี่ตลอด 6 ปีของหนังเรื่องนี้ คว้ารางวัลดาราชายยอดเยี่ยมทางทีวีไปได้ 2 ปีซ้อนคือ 1968-1969
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 198 เมื่อ 12 มิ.ย. 18, 19:04
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 199 เมื่อ 13 มิ.ย. 18, 11:35
|
|
เมื่อ Hogan's Heroes จบชุดไปแล้ว เวอเนอร์ก็เช่นกับดาราอื่นๆ ที่แยกย้ายกันไปคนละทาง เขาไปเป็นดารารับเชิญในหนังทีวีเรื่องอื่นๆบ้างนิดหน่อย เมื่ออายุมากขึ้น บทแสดงก็หายากขึ้น เขาใช้พรสวรรค์ที่ติดตัวมาคือเสียงบาริโทน กลับไปเอาดีทางละครเพลงบรอดเวย์อีกครั้ง จนได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโทนี่ในปี 1987 เมื่ออายุ 57 เข้าไปแล้ว บั้นปลายชีวิตการแสดง เวอเนอร์ใช้เสียงเป็นหลัก มากกว่าเอาหน้าตาออกมาให้เห็น ไปเป็นผู้บรรยายในหนังสำหรับเพลงออเคสตราบ้าง พากย์เสียงการ์ตูนบ้าง เขาทำงานกิจกรรมให้สังคมด้วย จนได้รับเลือกเป็นหนึ่งในกรรมการของสหภาพนักแสดง Actors' Equity Association และเลื่อนขึ้นเป็นรองประธานในบั้นปลายชีวิต เวอเนอร์พำนักอยู่ในนิวยอร์ค เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อปี 2000 อายุ 80 ปี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 200 เมื่อ 13 มิ.ย. 18, 13:14
|
|
ดาราคนที่สาม ผู้ซึ่งเป็นตัวชูรสของหนังชุดนี้ ไม่น้อยกว่าเวอเนอร์ คือ John Banner ผู้รับบทจ่าโช้ลซ์ หัวหน้ายามผู้ทำหน้าที่ควบคุมเชลยศึกในค่ายเชลยที่ 13 จอห์น แบนเนอร์ตีบทแตก ดึงบุคลิกภาพและนิสัยใจคอของจ่าออกมาได้แจ่มชัด ไม่แพ้บทของผู้การคลิ้งค์ จ่าโช้ลซ์เป็นคนขี้ขลาดตาขาว มีจุดอ่อนคือกลัวบกพร่องในหน้าที่การงาน เพราะฉะนั้น ไม่ว่าเชลยศึกทำอะไรลับๆล่อๆ หรือแม้แต่หลุดออกมาให้เห็น ว่าทำอะไรไม่ชอบมาพากลอยู่ในค่ายเชลย จ่าแกก็จะทำไม่รู้ไม่เห็นท่าเดียว ด้วยความกลัวว่าถ้าเรื่องแดงออกไป ตัวเองจะโดนสอบสวน ถูกตำหนิได้ว่าควบคุมเชลยบกพร่อง จากนั้นก็จะถูกลงโทษ ถูกสั่งย้ายหรืออย่างซวยก็ถูกส่งไปไซบีเรีย ข้อหลังนี้ก็เป็นความกลัวของผู้การคลิ้งค์พอกัน คำพูดติดปากของจ่า ที่กลายมาเป็นคำขวัญประจำตัวในเรื่อง คือ "พ้มไม่เห็น พ้มไม่ได้ยิน พ้มไม่รู้อะไรทั้งนั้น" หรือบ่อยกว่านี้ คือ "ไม่รู้ๆๆๆ" แล้วเดินหนีไปเลย ด้วยหลักการ "ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้ยิน" ค่ายเชลยจึงได้ชื่อว่าอยู่สงบเรียบร้อยไม่มีปัญหาใดๆ โผล่ออกมาให้เห็น นึกแล้วก็ช่างเหมือนสังคมใหญ่ๆในประเทศสารขัณฑ์เสียจริง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 201 เมื่อ 13 มิ.ย. 18, 13:17
|
|
บทที่จอห์น แบนเนอร์ ตีแตกกระจุย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 202 เมื่อ 13 มิ.ย. 18, 19:09
|
|
ชีวิตจริงของจอห์น แบนเนอร์ ตรงกันข้ามกับบทตลกในทีวี เขาเกิดในครอบครัวยิวที่อาศัยอยู่ในกรุงเวียนนา ยุคนั้นคืออาณาจักรออสเตรีย-ฮังการี พอโตเป็นหนุ่มก็เข้าเรียนกฎหมายในมหาวิทยาลัยเวียนนา แต่แทนที่จะยึดอาชีพนักกฎหมาย กลับเปลี่ยนใจอยากเป็นนักแสดง ในปี 1938 ขณะกำลังเดินทางไปกับกลุ่มนักแสดง เพื่อไปเปิดแสดงที่สวิตเซอร์แลนด์ กองทัพฮิตเลอร์บุกออสเตรีย กวาดต้อนชาวยิวที่นั่นเข้าค่ายกันหมด รวมทั้งพ่อแม่พี่น้องของเขา แบนเนอร์ลี้ภัยไปอเมริกาได้สำเร็จ เขาไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั่น สมัครเข้าเป็นทหารในกองทัพอากาศสหรัฐ อยู่ประจำการจนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่วนพ่อแม่พี่น้องถูกกวาดล้างสาบสูญไปในค่ายกักกันของนาซี เมื่อปลดจากประจำการ แบนเนอร์มุ่งหน้าเข้าสู่เวทีละครบรอดเวย์ ได้รับบทเล็กๆน้อยๆมาเรื่อยจนเข้าวงการหนังฮอลลีวู้ด บทที่ได้รับเป็นประจำคือบททหารเยอรมัน หรือชาวเยอรมัน เพราะเขาพูดสำเนียงชัดเจนอย่างคนเยอรมัน แบนเนอร์เกลียดบทนี้ แต่ไม่มีทางเลือก เพราะหมายถึงการเลี้ยงชีพ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 203 เมื่อ 13 มิ.ย. 18, 19:16
|
|
สมัยหนุ่ม จอห์น แบนเนอร์ก็หล่อไม่เบาเหมือนกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 204 เมื่อ 13 มิ.ย. 18, 19:36
|
|
เส้นทางของแบนเนอร์ ไม่ได้มาทางตลก เขาเล่นหนังดราม่า และบทหนักๆมาตลอด ทั้งจอใหญ่จอเล็ก ได้เป็นตัวประกอบรองๆมาเรื่อย จนกระทั่งโชคชะตาเปลี่ยนหุ่นเขาจากหนุ่มหน้าคมคาย สูง 185 ซม. หนัก 81 กก. มาเป็นความสูงเท่าเดิมแต่น้ำหนักเพิ่ม 40 กิโล เป็น 120 กิโล เมื่อเขาแต่งงานกับสาวฝรั่งเศสทำอาหารเก่ง ผู้กลายมาเป็นภรรยาคนที่สอง หุ่นตุ้ยนุ้ยนี่แหละนำเขาไปรับบทจ่าทหารนาซีจอมตลกที่ผู้สร้าง Hogan's Heroes คัดเลือกกันอยู่ พอได้รับบทก็ตีแตก จนดังเปรี้ยงขึ้นมา ในที่สุดอดีตเด็กหนุ่มชาวยิวซึ่งเคยถูกกวาดล้างหมดทั้งครอบครัวด้วยอำนาจนาซีเยอรมัน ก็กลายมาเป็นดาราดังในบทของทหารที่เคยสังหารครอบครัวเขาในชีวิตจริง หนังชุดนี้จบลงในปี 1971 จอห์น แบนเนอร์กลับไปตั้งรกรากในบ้านเดิมของเขาที่เวียนนา พร้อมกับภรรยาคนที่สาม แต่อยู่ได้เพียง 2 ปี ก็ป่วยด้วยโรคเลือดออกในกระเพาะอาหาร จนเสียชีวิตเมื่ออายุได้เพียง 63 ปี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 205 เมื่อ 13 มิ.ย. 18, 20:03
|
|
เอาตัวอย่างเรื่องต่อไปมาให้ดูก่อนค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 206 เมื่อ 14 มิ.ย. 18, 10:15
|
|
หนังตลกนาซีเรื่องก่อนเคยผ่านตาอยู่ จำหน้าตาตัวแสดงได้ แต่นึกชื่อไทยไม่ออก มาถึงเรื่องนี้ของคุณลุงโรเจอร์ มัวร์ เห็นหน้าก็นึกถึงชื่อ "สิงห์สำอาง" ลอยเด่นขึ้นมาเชียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 207 เมื่อ 14 มิ.ย. 18, 20:38
|
|
ชื่อ "ยอดเชลยศึก" หรือเปล่าคะ? จำไม่แม่น ส่วนคุณลุงเซอร์โรเจอร์ มัวร์ นั้น ชื่อพากย์ไทยเหมาะกับตัวแกมาก คือ สิงห์สำอาง ชื่อหนังชุดในภาษาอังกฤษคือ The Saint ค่ะ ตอนเริ่มต้นเรื่อง จะต้องมีการเอ่ยชื่อพระเอก คือ Simon Templar และมีวงรัศมีแบบนักบุญ หรือเทวดาของคริสต์ ลอยขึ้นมาเหนือหัว เป็นสัญลักษณ์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 208 เมื่อ 15 มิ.ย. 18, 19:34
|
|
หนังทีวีเรื่อง The Saint ทำมาจากนิยายชื่อเดียวกันของนักเขียนลูกครึ่งจีน-อังกฤษ ชื่อ Leslie Charteris มีอยู่หลายสิบเล่มด้วยกัน เล่มแรกย้อนหลังไปถึงปี 1928 สมัยรัชกาลที่ 7 ของไทย ชื่อ Meet the Tiger ซึ่งมีตัวเอกคือ Simon Templar หรือมีสมญาว่า The Saint เล่มที่สองชื่อ Enter the Saint (1930) เขาปล่อยการผจญภัยของพระเอกเรื่อยมาจนถึงปี 1983 ไซมอน เทมปลาร์ พระเอกของนวนิยายชุดนี้ เป็นผู้ร้ายผู้ดี ประเภทเดียวกับโรบิน ฮู้ด คือปล้นคนรวยมาให้คนจน แต่ขยายความไปมากกว่านั้น คือทำงานราชการลับให้รัฐบาลด้วย ชื่อ ไซมอน เป็นภาษาฮีบรู มาจากพระคัมภีร์เก่า แบบเดียวกับชื่อ ปีเตอร์ แมรี่ เอลิซาเบธ หรือโจเซฟ ที่เรามักจะเข้าใจผิดว่าเป็นชื่ออังกฤษ คำว่า ไซมอน แปลว่าผู้ฟัง หรือผู้ได้ยิน ส่วนเทมปลาร์ มาจาก Knight Templar(s) ซึ่งเป็นกลุ่มอัศวินสมัยยุคกลางของยุโรป มีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองชาวยุโรปที่เดินทางจาริกแสวงบุญไปยังเมืองเยรูซาเล็ม หรือสมัยนั้นเรียกว่านครศักดิ์สิทธิ์ เพราะตามเส้นทางมีผู้ร้ายชุกชุม คอยปล้นฆ่านักเดินทาง รวมความแล้ว ไซมอน เทมปลาร์ ก็คือตัวแทนของอัศวินโบราณที่กำจัดคนพาล อภิบาลคนดี ตามแบบโรบินฮู้ด อักษรย่อชื่อและนามสกุล ST รวมกันก็คืออักษรย่อของคำว่า Saint ในภาษาอังกฤษ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 209 เมื่อ 15 มิ.ย. 18, 21:13
|
|
หนังชุดเรื่องนี้ผลิตในอังกฤษ ออกฉายทางITV ตั้งแต่ปี 1962 ถึง 1969 โรเจอร์ มัวร์ดารานำแสดงของเรื่อง ชอบบทประพันธ์เรื่องนี้มาแต่แรกแล้ว ถึงขั้นคิดจะซื้อมาทำหนังเพื่อแสดงเอง เมื่อพบว่่าทางผู้สร้างชาวอังกฤษซื้อไปก่อน แล้วกำหนดเขาแสดงเป็น "เดอะ เซนท์" โรเจอร์ก็ดีใจมาก ตกลงทันที จากนั้นก็ทุ่มเทฝีมือเล่นบทนี้ ให้ไซมอน เทมปลาร์ มีชีวิตชีวาขึ้นมา เขาทำได้สำเร็จ The Saint ออกอากาศยาวนานถึง 7 ปี เรียกว่ายาวที่สุดในบรรดาหนังทีวีอังกฤษ เพิ่งจะมาถูกแซงหน้าไปโดยหนังชุด The Avengers (ขวัญใจสายลับ) ส่งชื่อเสียงโรเจอร์ มัวร์ดังเป็นพลุแตกในอังกฤษ แล้วข้ามมาดังในอเมริกา หลังจากเคยลองมาเล่นหนังในอเมริกาบ้างแล้วแต่ไม่ดังก่อนหน้านี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|