เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: ทับทิมจันทร์ ที่ 13 ก.ค. 11, 22:04



กระทู้: วิธีห่มสไบ
เริ่มกระทู้โดย: ทับทิมจันทร์ ที่ 13 ก.ค. 11, 22:04
  อยากขอสอบถามเรื่องวิธีห่มสไบของคนสมัยก่อนนะคะ อยากทราบว่าสามารถห่มให้อยู่บนไหล่ได้อย่างไรโดยไม่หลุดและจากรูปที่เห็นไม่มีการกลัดเข็มกลัดด้วยคะ
  ขอถามอีกเรื่องนะคะ เรื่องสไบอัดจีบว่ามีแต่ครั้งสมัยไหนคะ


กระทู้: วิธีห่มสไบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ก.ค. 11, 22:53
ขอยก "สี่แผ่นดิน" มาให้อ่านนะคะ

พลอยยังจำได้ดีถึงวันที่ตนและช้อย เริ่มห่มผ้าอย่างผู้ใหญ่ทั้งหลาย ถ้าจะว่าไปแล้ว วันนั้นก็เป็นวันสำคัญมาก เพราะเท่ากับว่าพลอยได้สละความเป็นเด็ก ย่างเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่อย่างสมบูรณ์ โดยที่คนทั้งปวงตั้งแต่เสด็จลงมาจนถึงคนอื่นๆ ก็ยอมรับว่าพลอยสมควรเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว วันที่เริ่มห่มผ้า และต่อมาอีกหลายวัน ทั้งพลอยและช้อยต้องนั่งอยู่นิ่งๆ ไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหนไกล เพราะกลัวผ้าห่มจะหลุด ยิ่งจะให้คลานไปมาบนตำหนักแล้ว ดูเหมือนจะเป็นเรื่องนอกปัญญา ทำไม่ได้ทีเดียว พลอยเห็นผู้ใหญ่เขาห่มผ้า ดูเป็นของง่ายๆ เพราะห่มทีเดียวแล้วก็อยู่ไปได้ตลอด นานๆจึงจับให้เข้าที่รัดกุมเสียทีหนึ่ง แต่พอตัวได้ห่มเข้าเอง จึงรู้ว่ายากเย็นสักเพียงใด เพราะผ้าที่ห่มไว้กับตัวนั้น จะอยู่ได้ก็เพราะความชำนาญ มิได้อยู่ได้ก็เพราะเข็มกลัด กระดุมหรือเครื่องเหนี่ยวรั้งอื่นๆ เสด็จก็ดูเหมือนจะเข้าพระทัยเรื่องนี้ดี เพราะในตอนแรกๆ ก็มิได้ทรงใช้สอย บ่อยครั้งเหมือนแต่ก่อน ทรงให้เวลาพลอยคุ้นกับผ้าห่มอยู่หลายวัน จนในที่สุดก็รับสั่งถามว่า
"พลอยห่มผ้าเป็นแล้วหรือยัง"
เมื่อพลอยทูลตอบว่าเป็นแล้วก็รับสั่งกำชับว่า
"ไม่หลุดแน่นา" พลอยต้องกราบทูลยืนยันอีกครั้งหนึ่ง จึงได้ทรงใช้สอยต่อไป และดูเหมือนจะมากกว่าเมื่อก่อน เพราะเดี๋ยวนี้ใครๆก็รู้กันทั่วตำหนักแล้วว่า พลอยเป็นข้าหลวงคนโปรด


กระทู้: วิธีห่มสไบ
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 14 ก.ค. 11, 10:41
โดยทั่วไปสามัญ สตรีอยู่กับบ้านไม่สวมสไบ นุ่งผ้าแถบพันไว้ ครั้นจะออกไปทำธุระบางเรื่องที่แต่งตัว ก็จะห่มสไบ ผ้าสไบมีหลายเนื้อ หลายเกรดแล้วแต่ละฐานะ คาดว่าน้ำหนักของชายผ้าที่อยู่ด้านหลัง ก็ช่วยถ่วงผ้าที่หัวไหล่ ไม่ให้หลุดเลื่อนไป และพบว่าบริเวณช่วงลำคอ มักจะดึงสไบมาเก็บย่นไว้จำนวนหนึ่งด้วย


กระทู้: วิธีห่มสไบ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ก.ค. 11, 10:44
  อยากขอสอบถามเรื่องวิธีห่มสไบของคนสมัยก่อนนะคะ อยากทราบว่าสามารถห่มให้อยู่บนไหล่ได้อย่างไรโดยไม่หลุดและจากรูปที่เห็นไม่มีการกลัดเข็มกลัดด้วยคะ
  ขอถามอีกเรื่องนะคะ เรื่องสไบอัดจีบว่ามีแต่ครั้งสมัยไหนคะ
ไม่ทราบว่าปลายรัชกาลที่ 4  มีหรือยัง แต่ต้นรัชกาลที่ 5 เห็นพระรูปเจ้านายฝ่ายในทรงสไบอัดจีบกันแล้ว  อย่างพระรูปพระองค์เจ้าทักษิณชาในค.ห.นี้

ถ้าจะรอคำตอบละเอียดกว่านี้  ต้องถูตะเกียงอลาดิน  เดี๋ยว genie จะมาตอบค่ะ  :)


กระทู้: วิธีห่มสไบ
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 14 ก.ค. 11, 10:47
การจะห่มสไบให้งาม ต้องจัดทิศทางผ้าให้เข้ากับตัวเอง ไม่หลวมเกินไป และไม่รัดฟิตเกินไป จึงจะดูงาม สมัยโบราณเก่าแก่ ห่มสไบคลุมผิวเนื้อมิให้ชายใดได้แอบมอง พอระยะต่อมาเริ่มโชว์เนื้อนวล การห่มสไบเลยเปลี่ยนแปลงเห็นเนื้อมากขึ้น แต่ก็ดูงามไม่น่าเกลียดจนเกินไป


กระทู้: วิธีห่มสไบ
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 14 ก.ค. 11, 10:56
การจะห่มสไบให้งาม ต้องจัดทิศทางผ้าให้เข้ากับตัวเอง ไม่หลวมเกินไป และไม่รัดฟิตเกินไป จึงจะดูงาม สมัยโบราณเก่าแก่ ห่มสไบคลุมผิวเนื้อมิให้ชายใดได้แอบมอง พอระยะต่อมาเริ่มโชว์เนื้อนวล การห่มสไบเลยเปลี่ยนแปลงเห็นเนื้อมากขึ้น แต่ก็ดูงามไม่น่าเกลียดจนเกินไป

ก็ไม่แน่นักดอกครับ คุณพี่ siamese ...
 
(เก็บภาพจากกระทู้เก่าในเรือนไทยนี้มาแปะ)


กระทู้: วิธีห่มสไบ
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 14 ก.ค. 11, 10:59
ไม่ทราบเช่นกันว่าในสมัยอยุธยาตอนต้นและตอนกลาง นั้นท่านจะห่มสไบมีจีบแล้วหรือไม่ ก็ต้องไปดูตามภาพจิตรกรรม ไม้แกะสลักสมัยอยุธยาที่คงเหลือหลักฐานอยู่

สำหรับการแต่งกายในสมัยอยุธยาตอนปลาย น่าจะมีการห่มสไบจีบแล้ว โดยจีบใหญ่มาก ใหญ่กว่าสมัยกรุงรัตนโกสินทร์เสียด้วยซ้ำ และส่งต่อมายังธรรมเนียมราชสำนักในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์


กระทู้: วิธีห่มสไบ
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 14 ก.ค. 11, 11:00
ภาพเขียนสมัยอยุธยา


กระทู้: วิธีห่มสไบ
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 14 ก.ค. 11, 11:09
อยุธยาตอนปลาย หอเขียน วังสวนผักกาด


กระทู้: วิธีห่มสไบ
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 14 ก.ค. 11, 11:40
ขอยก "สี่แผ่นดิน" มาให้อ่านนะคะ

พลอยยังจำได้ดีถึงวันที่ตนและช้อย เริ่มห่มผ้าอย่างผู้ใหญ่ทั้งหลาย ถ้าจะว่าไปแล้ว วันนั้นก็เป็นวันสำคัญมาก เพราะเท่ากับว่าพลอยได้สละความเป็นเด็ก ย่างเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่อย่างสมบูรณ์ โดยที่คนทั้งปวงตั้งแต่เสด็จลงมาจนถึงคนอื่นๆ ก็ยอมรับว่าพลอยสมควรเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว วันที่เริ่มห่มผ้า และต่อมาอีกหลายวัน ทั้งพลอยและช้อยต้องนั่งอยู่นิ่งๆ ไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหนไกล เพราะกลัวผ้าห่มจะหลุด ยิ่งจะให้คลานไปมาบนตำหนักแล้ว ดูเหมือนจะเป็นเรื่องนอกปัญญา ทำไม่ได้ทีเดียว พลอยเห็นผู้ใหญ่เขาห่มผ้า ดูเป็นของง่ายๆ เพราะห่มทีเดียวแล้วก็อยู่ไปได้ตลอด นานๆจึงจับให้เข้าที่รัดกุมเสียทีหนึ่ง แต่พอตัวได้ห่มเข้าเอง จึงรู้ว่ายากเย็นสักเพียงใด เพราะผ้าที่ห่มไว้กับตัวนั้น จะอยู่ได้ก็เพราะความชำนาญ มิได้อยู่ได้ก็เพราะเข็มกลัด กระดุมหรือเครื่องเหนี่ยวรั้งอื่นๆ เสด็จก็ดูเหมือนจะเข้าพระทัยเรื่องนี้ดี เพราะในตอนแรกๆ ก็มิได้ทรงใช้สอย บ่อยครั้งเหมือนแต่ก่อน ทรงให้เวลาพลอยคุ้นกับผ้าห่มอยู่หลายวัน จนในที่สุดก็รับสั่งถามว่า
"พลอยห่มผ้าเป็นแล้วหรือยัง"
เมื่อพลอยทูลตอบว่าเป็นแล้วก็รับสั่งกำชับว่า
"ไม่หลุดแน่นา" พลอยต้องกราบทูลยืนยันอีกครั้งหนึ่ง จึงได้ทรงใช้สอยต่อไป และดูเหมือนจะมากกว่าเมื่อก่อน เพราะเดี๋ยวนี้ใครๆก็รู้กันทั่วตำหนักแล้วว่า พลอยเป็นข้าหลวงคนโปรด

ผมเข้าใจเอาเองนะครับว่า วันที่พลอยเริ่มห่มผ้าสไบใหม่ๆ คงจะเป็นการห่มผ้าสไบแบบเปลือยไหล่ ไม่ได้ห่มสไบทับเสื้อ ก็น่าจะหมายความว่าไม่มีเสื้อชั้นใน เพียงแต่ชายผ้าด้านหนึ่งรัดอกไห้แน่น ชายผ้าอีกด้านหนึ่งดึงให้แน่น แล้วพาดบ่า ชายผ้าที่เหลือปล่อยให้ห้อยเพื่อให้เป็นตัวถ่วงให้น้ำหนักผ้าดึงผ้าให้แน่นไว้ หรือปลายชายผ้าอาจจะมาเหน็บไว้ที่ขอบสไบตรงเอวก็อาจจะเป็นได้





กระทู้: วิธีห่มสไบ
เริ่มกระทู้โดย: ทับทิมจันทร์ ที่ 14 ก.ค. 11, 17:35
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงคะ แล้วผ้าสไบอัดจีบใหญ่ๆนี่จะยังสามารถหาซื้อได้ที่ไหนบ้างคะ (แบบไม่สำเร็จรูป ที่เนื้อผ้าแบบ คห.ที่6นะคะ)


กระทู้: วิธีห่มสไบ
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 15 ก.ค. 11, 17:44
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงคะ แล้วผ้าสไบอัดจีบใหญ่ๆนี่จะยังสามารถหาซื้อได้ที่ไหนบ้างคะ (แบบไม่สำเร็จรูป ที่เนื้อผ้าแบบ คห.ที่6นะคะ)

ค้นหาด้วย google ครับ มีมากมายเลย บอกกล่าวในนี้ตรงๆ จะกลายเป็นโฆษณาแฝง

จากความเห็นที่ ๙ ของผม เป็นเรื่องที่ผมเดาผิดอย่างแท้จริง เมื่อไปพบคำอธิบายของท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ ที่อธิบายการห่มผ้าของสตรีว่ามีเพียงผ้าสองผืน คือ ผืนในกับผืนนอก ... "เขาห่มผ้าแถบข้างในบาง แล้วข้างนอกมีผ้าหนาอีกผืนห่มทับ ห่มทับอย่างนี้ทั้งสองผืน" และท่านได้ยกตัวอย่างการแต่งกายของพิมพิลาไลยตอนไปฟังเทศน์

".....
นุ่งยกลายกระหนกพื้นแดง        ก้านแย่งทองระยังจับตาพราย
ชั้นให่มสไบชมพูนิ่ม                สีทับทิมทับนอกดูเฉิดฉาย
ริ้วทองกรองดอกพรรณราย       ชายเห็นเป็นที่เจริญใจ"

เพิ่มเติม - จากบทความเรื่องความเป็นไทยในละคร คอลัมน์ซอยสวนพลู วันที่ ๒๐กันยายน ๒๕๓๔

"ส่วนเด็กรุ่นแม่พลอยนั้น เมื่อยังไว้จุกและยังเป็นเด็กก็ถอดเสื้อเป็นพื้น แต่เมื่ออายุประมาณ ๑๔ ขวบ ทำท่าจะไม่ดีขึ้นมาก็ให้ห่มผ้าเหมือนผู้ใหญ่เหมือนกับสาวๆ เขาทำกัน เมื่อโกนจุกแล้วก็ห่มผ้าอย่างผู้ใหญ่ต่อไป เด็กบางคนโกนจุกเร็วหน่อยคือไปโกนจุกตั้งแต่อายุ ๑๐ ขวบ ๑๑ ขวบ โกนจุกแล้ว การห่มผ้าก็ไม่จำเป็น ต้องไปหัดห่มผ้ากันเอาใหม่เมื่อร่างกายไม่อำนวยให้ถอดเสื้อวิ่งกันได้"


"ทีนี้ก็ลงมาถึงผ้านุ่ง คนสมัยแม่พลอยไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย พอรู้ความวิ่งได้แล้วก็ดูเหมือนจะนุ่งผ้าโจงกระเบนกันทั้งนั้น นอกจากจะโจงกระเบนไว้ไม่อยู่ก็ร่วงลงมาเป็นผ้าลอยชายหรือเป็นผ้าพันตัวไว้เฉยๆ ตามประสาเด็ก แต่หลักใหญ่ของคนไทยในการนุ่งผ้าคือ นุ่งผ้าโจงกระเบน"