“ประเทศสยามนามประเทืองว่าเมืองทอง”
คือคำร้องของเพลงชาติประกาศสยาม
เน้นประเทศชาติประเทืองรุ่งเรืองนาม
บอกสมบูรณ์พูนความงามนามแหลมทอง
นาม “สุวรรณภูมิ”ปูมประเทศ
แสนวิเศษธรรมชาติผุดผาดผ่อง
ทรัพย์ในดินสินในน้ำล้ำเนืองนอง
ข้าวในนาปลาในหนองทองในดิน
ชาติเรามีสายน้ำฉ่ำสวยใส
ธารหลากไหลสาดกระแสแปรสายสินธุ์
ผ่านป่าเขาลำเนาไพรเรื่อยไหลริน
เกษตรกรรมทำกินทั่วถิ่นไทย
มีป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์กว้าง
สลับสล้างเขียวชอุ่มพุ่มไสว
ทุกฤดูชูกิ่งก้านสะท้านไกว
ระบัดใบให้ชุ่มชื้นผืนพสุธา
มีพฤกษ์ไพรไพบูลย์พูนรกชัฏ
สรรพสัตว์เสือสิงห์มหิงสา
จตุบททวิบาทชาตินานา
ผองวิหคนกกาก้องกังวาน
แผ่นดินทองยังเป็นไทยในวันนี้
ด้วยร่มพระบารมีศรีพิศาล
“เย็นศิระเพราะพระบริบาล”
ดั่งโครงการ ”น้ำรักป่า-ป่ารักน้ำ”
แม้กระแสมายาโลกาภิวัตน์
วิสัยทัศน์สองพระองค์คงดื่มด่ำ
ยังปกป้องผองไผทได้ลึกล้ำ
เป็นคุณธรรมคุ้มครองไทยไปนิรันดร์
เราเกิดมาบนถิ่นแผ่นดินนี้
มีแม่พระธรณีคอยคุ้มขวัญ
มีศิลปะวัฒนธรรมล้วนสำคัญ
หลอมรวมกันจากสยามเป็นนามไทย
ระยับพรายปลายพระปรางค์หว่างเจดีย์
ระยิบสีทองทาบฉาบฟ้าใส
พลิ้วลำนำกะดึงดังวังเวงใจ
ระฆังไกวเสนาะศัพท์จับจินดา
เหนือแคว้นถิ่นยินเสียงแคนแว่วแล่นแต
บ้างเซ็งแซ่สะล้อซึงหึ่งภูผา
อาจโหน่งเหน่งเพลงระบำรำโนรา
ฤๅเห่ช้าฉัดฉ่า..เฉียบ..ฮ้าไฮ้
แผ่นดินทองนี้คือถิ่นแผ่นดินเกิด
แสนประเสริฐเหนือเขตแคว้นดินแดนไหน
เพราะที่นี่คือแหลมทองของชาวไทย
ถิ่นที่ให้ไทยสุขสันต์นิรันดร์มา
จงรวมใจไทยร่วมเรียงเพียงหนึ่งเดียว
กระชับเกลียวความเป็นไทยทุกถ้วนหน้า
เป็นพี่น้องร่วมบ้านเกิดเมืองมารดา
เป็นชาติไทยไปตราบหล้าฟ้าดินเทอญ
ราตรี ประดับดาว
(แนวหน้า ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๔)