^
กลายเป็นพม่าห้าดาว(ย่าง)ไปแล้ว
ต่อจากค.ห. 301
น่าชมเชยโบส่วยอยู่อย่างหนึ่งว่า ในวัย 50 กว่าปี ซึ่งในสมัยปลายศตวรรษที่ 19 ก็ถือว่าชราพอๆกับ 70 กว่า โบส่วยจะเลือกเล่นบทกำนันผู้ใหญ่บ้านนั่งเคี้ยวหมาก เล่นกับหลานๆไปวันๆก็จะไม่มีใครว่า ชีวิตความเป็นอยู่ในหมู่บ้านบ้านนอก ไม่เปลี่ยนแปลงมากนักไม่ว่าคนครอบครองเป็นพระเจ้าสีป่อง หรือทหารอังกฤษ เคยลำบากหรือสบายในด้านไหนก็อยู่อย่างนั้นไปตามประสาพวกเขา
โบส่วยกลับเลือกที่จะจับอาวุธขึ้นต่อสู้ เพื่อปกป้องแผ่นดินและต่อต้านผู้รุกราน ยอมทิ้งบ้านช่องไปซ่อนตัวอยู่อย่างลำบากลำบนกลางเทือกเขา ทั้งๆเขาก็รู้ว่าหนทางจะชนะนับเป็นศูนย์ ไม่ว่าด้วยอาวุธสมัยพระเจ้าเหา ผู้คนที่รวบรวมมาได้เป็นจำนวนหลักร้อย เสบียงอาหารก็ขาดแคลน เงินทองก็ไม่มี แถมยังถูกล่าตัวตั้งค่าหัว
แต่โบส่วยก็ไม่ย่อท้อต่อความเสียเปรียบเหล่านี้ ยังคงคุมลูกบ้านเข้าปะทะกับทหารอังกฤษอย่างสุดชีวิต ผลคือวีรกรรมที่เมืองงาเป โบส่วยสามารถเด็ดชีวิตฝ่ายอังกฤษไปถึง 8 ราย แถมบาดเจ็บอีก 26 ราย ซึ่งถือเป็นความสูญเสียอย่างหนักของอังกฤษ