NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 120 เมื่อ 07 ม.ค. 13, 00:03
|
|
แผนของพม่าแต่แรกคือถ้าทัพหน้าตรึงกองกำลังของอังกฤษไว้ที่เมียงยานได้ ทัพหลวงที่มีกำลังพลกว่า๖๐๐๐นายซึ่งปักหลักอยู่ที่อังวะและสะกายจะยกมาช่วยรุมกินโต๊ะฝรั่ง เมืองที่กล่าวทั้งสองนี้เป็นเมืองหลวงเก่าของพม่า ย้ายเมืองหลวงทีไรก็ไปไหนไกลไม่ได้ ต้องกระจุกตัวอยู่แถวๆเดียวกันนี้แหละ และพระเจ้าแผ่นดินกี่สมัยๆก็มักจะเรียกตนเองว่าพระเจ้าอังวะ คล้ายๆกับของไทยเหมือนกันที่พระราชวงศ์จักรีก็ยัง ณ อยุธยาอยู่แม้ต้นพระราชวงศ์จะเป็นผู้ที่ทรงสร้างกรุงเทพฯ
ที่เมียงยานนี้รายงานของอังกฤษโม้ว่า ข้าราชการพลเรือนชาวพม่าตลอดจนราษฎรและพระสงฆ์องค์เจ้ามาต้อนรับด้วยความยินดี และฟ้องว่าตอนที่ทหารมาตั้งค่ายยึดครองอยู่นั้น ได้ข่มเหงชาวเมืองได้รับความทุกข์เป็นอันมาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 121 เมื่อ 07 ม.ค. 13, 00:07
|
|
วันที่๒๖พฤศจิกายน กองเรืออังกฤษเคลื่อนขบวนต่อจากเมียงยานไปนิดเดียวก็ผ่านหมู่บ้านยันดาโบ จุดที่สงครามอังกฤษกับพม่าครั้งแรกในปี๑๘๒๖ยุติลงด้วยการทำสนธิสัญญาต่อกัน สักพักหนึ่งก็เห็นเรือเร็วของพม่าขนาด๔๔ฝีพาย ปักธงขาวที่หัวเรือและอัญเชิญธงประจำพระองค์ไว้ท้ายเรือวิ่งตรงเข้ามาหา ที่นั่งวีไอพีที่หัวเรือนั้น ขุนทหารสองนายนั่งวางท่าเหมือนหุ่นขี้ผึ้งอยู่ ปรากฏนามที่คนไทยเรียกขานได้สบายๆสไตน์นวรัตนดอทซีว่า ขวากเมือง อัศวินหวุ่น(Kyaukmyaung Atwin Wun) สองพยางค์หลังนี้เป็นชื่อตำแหน่ง อีกคนหนึ่งชื่อ เว็จไม่สุด หวุ่นดวก (Wetmasut Wundauk) ทั้งคู่ถอดรองเท้าของตนออกก่อนที่จะขึ้นมาบนเรือของแม่ทัพอังกฤษ เพื่อยื่นสาส์นให้แก่นายพลเพรนเดอกาสต์ (General Prendergast) และพันเอกสลาเดน (Colonel Sladen - ผู้แสดงนำในกระทู้ที่แยกออกไปก่อนหน้านี้ ซึ่งที่นั่นท่านออกนามว่าพันเอกสเลเดน ผมเอาไปตรวจสอบในเวปเสียงอ่านภาษาอังกฤษแล้ว ฝรั่งออกเสียงทั้งสลาเดนและสเลเดน ดังนั้นในกระทู้นี้ผมก็ขอสลาเดนต่อไปนะครับ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 122 เมื่อ 07 ม.ค. 13, 00:11
|
|
สาส์นดังกล่าวขึ้นต้นว่ามาจากรัฐบาลพม่าแต่ไม่มีตราพระราชลัญจกรนกยูงรำแพนประทับ เนื้อความว่าพม่ายินดีปฏิบัติตามคำขาดของอังกฤษในการที่จะจ่ายเงินค่าปรับที่เคยเป็นความต่อกัน และยินดีที่จะทำสัญญาทางพระราชไมตรีขึ้นใหม่ แต่แม่ทัพเพรนเดอกาสต์(รูปข้างล่าง)ปฏิเสธว่าตนไม่มีอำนาจที่จะเจรจาความเมืองใดๆ แต่หากพระเจ้าสีป่อจะยอมมอบพระองค์ มอบกองทัพตลอดจนเมืองหลวงให้อังกฤษ และปรากฏว่าชีวิตและทรัพย์สินของคนยุโรปในมัณฑเลย์ยังคงอยู่รอดปลอดภัยดีอยู่ ก็จะไว้ชีวิตพระองค์และถวายความเคารพต่อพระราชวงศ์ต่อไป ว่าแล้วก็ขีดเส้นตายจะเอาคำตอบภายใน๑๐นาฬิกาของวันรุ่งขึ้น พร้อมทั้งออกคำสั่งให้กองเรือเดินหน้าในบัดเดี๋ยวนั้น แล้วไปจอดพักแรมจ่อเมืองอังวะไว้ที่หมู่บ้านเล็กๆห่างจากตัวเมืองเพียง๗ไมล์
ถึงเวลาเส้นตาย พม่าก็ไม่โผล่มาให้เห็นแม้ผ้าโพกหัว อังกฤษก็กางแผนรบพร้อมและเคลื่อนขบวนไปยังจุดหมายที่กำหนดจะยกพลขึ้นบก พอใกล้จะถึง เรือหลวงลำเมื่อวานก็ปรากฏขึ้นในสายตา จ้ำพรวดๆมาหาเพื่อนำพระราชโทรเลขมาให้ดูความในนั้นว่าทรงยอมรับข้อเสนออย่างไม่มีเงื่อนไข และมีพระราชบัญชาไปยังเสนาบดีที่คุมทหารอยู่ที่สะกายและอังวะมิให้ลั่นกระสุนใส่พวกอังกฤษ โดยขอให้อยู่ในความสงบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 123 เมื่อ 07 ม.ค. 13, 00:17
|
|
ที่ป้อมค่ายเมืองอังวะซึ่งมีกำลังทหารรวมที่ถอยจากสารพัดที่มั่นมารวมกันอยู่ประมาณ๘๐๐๐นาย สองในสามมีอาวุธปืนแต่ที่เหลือมีแต่หอกกับดาบ แต่พร้อมที่สู้ตายกับอังกฤษให้แตกหักเป็นยกสุดท้าย นายพลเพรนเดอกาสต์จึงให้ผู้แทนพระองค์ไปสั่งทหารพม่าที่นั่นวางอาวุธ แต่แม่ทัพชื่อโบมูขิ่น อัศวินหวุ่น (Bohmu Kin Atwin Wun) ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามหากไม่มีพระราชบัญชามาให้เห็นกับตา และกว่าอังกฤษจะเทียบเรือเข้าฝั่งและส่งทหารขึ้นบกไปปลดอาวุธเอง พวกที่รู้ว่ากษัตริย์ของตนคงจะยอมแพ้ต่ออังกฤษแน่แล้วก็แตกกระสานซ่านเซ็นไปทุกสาระทิศโดยนำอาวุธติดตัวไปด้วย
ทหารอังกฤษจึงได้รับมอบอาวุธเป็นปืนในการยอมแพ้อย่างเป็นทางการของทหารที่เหลือรวมทุกค่ายแล้วไม่ถึงพันกระบอก
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 124 เมื่อ 07 ม.ค. 13, 00:21
|
|
ทหารอังกฤษยึดปืนใหญ่ได้เป็นจำนวนมากที่อังวะและสะกาย คัดเอาที่สวยๆไปเป็นโทรฟี่ที่ระลึก๒๘กระบอก อีก๔๖กระบอกถูกถอดชิ้นส่วนออกทำลายทิ้งเสีย ดังส่วนหนึ่งที่เห็นในภาพ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 125 เมื่อ 07 ม.ค. 13, 00:22
|
|
ป้อมค่ายที่อังวะอังกฤษยึดส่วนหนึ่งไว้สำหรับทหารรักษาการ ที่ไม่ต้องการก็พังลง กำลังส่วนใหญ่ที่เหลือก็ลงเรือมุ่งหน้าต่อไปมัณฑเลย์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 126 เมื่อ 07 ม.ค. 13, 06:13
|
|
ทหารพม่าที่ยังถืออาวุธพวกนี้ ได้ไปรวมตัวกันเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยในลักษณะกองโจร ทั้งโจรจริงและโจรกู้ชาติ ทำสงครามที่ไม่ได้ประกาศด้วยการที่ดักทำร้ายชาวอังกฤษ ถือเป็นผู้ก่อการร้ายขบวนการแรกๆของชาวเอเซียที่ต่อสู้กับนักล่าอาณานิคมอย่างเป็นรูปธรรม และสร้างความเสียหายให้แก่อังกฤษมากมายถึงขนาดต้องใช้งบประมาณมหาศาลให้กองทัพเข้าไล่ล่ากองโจรกู้ชาติพม่าเหล่านี้ ซึ่งอังกฤษบัญญัติศัพท์ขึ้นเพื่อเรียกโดยเฉพาะว่าพวกดาค้อยท์ (Dacoit) กว่า๓ปีจึงจะปราบให้ราบคาบลงได้ ตรงนี้คือสงครามที่แท้จริงที่พม่ารบอังกฤษแต่คนทั่วไปไม่ค่อยจะได้รับรู้
หากว่าพวกดาค้อยท์นี้ได้รับน้ำเลี้ยงจากมหาอำนาจฝ่ายตรงกันข้ามกับเจ้าอาณานิคม ส่งอาวุธดีๆทัดเทียมกันให้ใช้เหมือนกับพวกเวียตกง(ที่เป็นศัพท์บัญญัติของฝรั่งเพื่อเรียกผู้ก่อการร้ายกู้ชาติชาวญวน) ก็ไม่แน่ว่าผู้ดีอังกฤษจะทนได้ไหม อาจต้องหนีญญ่ายพ่ายจะแจเหมือนทหารฝรั่งเศสและอเมริกันในเวียตนามก็ได้
ผมจะนำท่านตามกองเรืออังกฤษไปมัณฑเลย์ก่อน แล้วจึงจะกลับมาค้นหาเรื่องราวของพวกดาค้อยท์ต่อไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
warisa
อสุรผัด
ตอบ: 30
|
ความคิดเห็นที่ 127 เมื่อ 07 ม.ค. 13, 06:58
|
|
...ขอบพระคูณอาจารย์นวรัตนมากๆค่ะ....ดิฉันติดตามเรื่องพม่ารบฝรั่งที่อาจารย์เขียนตั้งแต่พันทิป...เป็นแฟนพันธุ์แท้ตามมาต่อที่เรือนไทย...บอกตรงๆเข้าเว็บนี้เกร็งมากๆ ;Dกลัวเขียนผิดเขียนถูกเพราะมีผู้มีความรู้ระดับปรมาจารย์เยอะมาก...ขอนั่งหลังห้องฟังอย่างเงียบๆนะคะ...แต่อยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าของไทยใหญ่(หรือไทใหญ่?)ด้วยค่ะ...ด้วยบรรพบุรุษของดิฉันสืบเชื้อสายมาจากไทยใหญ่...เลยอยากรู้เรื่องนี้เป็นพิเศษค่ะ......
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 128 เมื่อ 07 ม.ค. 13, 09:48
|
|
คุณวริศราเข้ากระทู้ผมไม่ต้องเกร็งนะครับ ผมไม่ใช่ครูบาอาจารย์จริงๆตามที่เขาอุปโลกน์ ให้ผมเกร็งคนเดียวก็พอ กลัวว่าจะมีกระทู้ภาษาพม่าวันละคำ หรือขออนุญาตแก้ชื่อพม่าที่สะกดผิดงอกขึ้นมาข้างๆกระทู้ผม พรรคพวกเล่นยกให้ผมเป็นอาจารย์ ตนเป็นศิษย์หลังห้องบ้าง ศิษย์มาสายบ้าง ทำเอาคนที่เข้ามาใหม่ใบ้รับประทานไปหมด ไม่กล้าเขียนแสดงความเห็นอย่างที่เคยเฮกันในพันทิป(ยุคโน้น) อย่างงี้ผมก็เหงาแย่ เรื่องไทใหญ่สักพักน่าจะไปถึงนะครับ คุณวาริซ่าส์เตรียมแก้ชื่อคนไทใหญ่ที่นวรัตนดอทซีตั้งให้ก็แล้วกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 129 เมื่อ 07 ม.ค. 13, 10:05
|
|
...ขอบพระคูณอาจารย์นวรัตนมากๆค่ะ....ดิฉันติดตามเรื่องพม่ารบฝรั่งที่อาจารย์เขียนตั้งแต่พันทิป...เป็นแฟนพันธุ์แท้ตามมาต่อที่เรือนไทย...บอกตรงๆเข้าเว็บนี้เกร็งมากๆ ;Dกลัวเขียนผิดเขียนถูกเพราะมีผู้มีความรู้ระดับปรมาจารย์เยอะมาก...ขอนั่งหลังห้องฟังอย่างเงียบๆนะคะ...แต่อยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าของไทยใหญ่(หรือไทใหญ่?)ด้วยค่ะ...ด้วยบรรพบุรุษของดิฉันสืบเชื้อสายมาจากไทยใหญ่...เลยอยากรู้เรื่องนี้เป็นพิเศษค่ะ......
ไทใหญ่ อาศัยอยู่กันมากบริเวณเหนือเชียงรายขึ้นไป บริเวณสิบสองปันนา และดินแดนต่าง ๆ ที่รวมเรียกว่า "รัฐฉาน" ต้นบรรพบุรุณคุณวริศสา มาจากแถวนี้หรือเปล่าครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 130 เมื่อ 07 ม.ค. 13, 10:07
|
|
พรรคพวกเล่นยกให้ผมเป็นอาจารย์ ตนเป็นศิษย์หลังห้องบ้าง ศิษย์มาสายบ้าง ทำเอาคนที่เข้ามาใหม่ใบ้รับประทานไปหมด ไม่กล้าเขียนแสดงความเห็นอย่างที่เคยเฮกันในพันทิป(ยุคโน้น) อย่างงี้ผมก็เหงาแย่
ระดมพลขาประจำ คุณเพ็ญชมพู คุณ siamese คุณ V_Mee คุณประกอบ ฯลฯ ไปไหนกันหมดค้า มาช่วยกันตั้งกองเชียร์หลังห้องให้ท่านอาจารย์..ขออำภัย..ท่านนวรัตนดอทซี ได้เฮหน่อย ป.ล.หัวข้อมันยากเหลือเกินนะคะท่าน แค่ถอดเสียงพม่าเป็นไทยก็มึนแล้ว ป.ล. 2 ชนกลางอากาศกับคุณหนุ่มสยาม มาเร็วปานสายฟ้าแลบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
warisa
อสุรผัด
ตอบ: 30
|
ความคิดเห็นที่ 131 เมื่อ 07 ม.ค. 13, 12:06
|
|
...ใช่ค่ะคุณหนุ่มสยาม...ดิฉันเป็นคนลำปาง...คุณพ่อบอกว่าคุณทวดเป็นไทใหญ่...เทือกเขาเหล่ากอก็ไม่ทราบมาจากไหนดิฉันก็ไม่ได้ถาม...เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่เสียแล้วเลยไม่รู้จะไปถามใครเพราะพี่น้องก็ไม่มีใครสนใจสืบประวัติ...แต่ดิฉันสนใจวิถีการดำรงชีวิตของคนไท...เนื่องจากวัฒนธรรม ความเป็นอยู่มีความคล้ายคลึงกับคนที่อาศัยอยู่ภาคเหนือตอนบนเป็นอันมากค่ะ.....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 132 เมื่อ 07 ม.ค. 13, 14:00
|
|
ระดมพลขาประจำ คุณเพ็ญชมพู คุณ siamese คุณ V_Mee คุณประกอบ ฯลฯ ไปไหนกันหมดค้า มาช่วยกันตั้งกองเชียร์หลังห้องให้ท่านอาจารย์..ขออำภัย..ท่านนวรัตนดอทซี ได้เฮหน่อย
มาเชียร์คุณนวรัตนดอทซี ด้วยแผนที่รัฐฉาน
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประกอบ
|
ความคิดเห็นที่ 133 เมื่อ 07 ม.ค. 13, 17:29
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 134 เมื่อ 08 ม.ค. 13, 06:54
|
|
เอาละครับ ตกลง อาจารย์ก็อาจารย์ ว่าแล้วก็ฉายสไลด์ต่อ เชิญนักเรียนหลับตามสบาย
๒๘ พฤศจิกายน
๑๐โมงเช้า กองเรืออังกฤษก็มาถึงฝั่งแม่น้ำหน้าเมืองมัณฑเลย์แต่ทหารยังคงเตรียมพร้อมอยู่ในเรือ ชาวบ้านที่อยากรู้อยากเห็นก็พากันมาไทยมุงอย่างเฉยเมยเหมือนดูเขาเล่นหนังเล่นละครกัน ใครจะไปใครจะอยู่กูก็ไม่เกี่ยว ก่อนหน้านี้มีพระราชโองการมาป่าวประกาศไม่ให้ผู้ใดต่อต้านขัดขืนกองทัพอังกฤษ ฉะนั้นฉากบู๊จึงไม่น่าจะเกิดขึ้น
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|