เรือนไทย

General Category => ภาษาวรรณคดี => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 19 ม.ค. 20, 12:12



กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ม.ค. 20, 12:12
  เมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2563   ฟ้าผ่าลงกลางราชวงศ์อังกฤษ  คือ เมื่อเจ้าชายแฮรี่และพระชายาชาวอเมริกัน อดีตดาราเมแกน มีเกิ้ล ผู้ดำรงพระยศเป็นดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกส์ ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการโดยไม่มีใครคาดคิดว่า ทั้งสองจะลดบทบาทในฐานะพระราชวงศ์ระดับสูงลง   จะขอเป็นอิสระเสรีไม่พึ่งการเงินของพระราชวงศ์ และจะไปใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกาเหนือ 6 เดือน อยู่ในอังกฤษอีก 6 เดือน เพื่อปฏิบัติพระภารกิจต่างๆ
  ไม่เฉพาะแต่ชาวอังกฤษ  ประชาชนเกือบจะทั้งโลกหันหน้าเข้าถามกันอย่างงุนงง ว่า "ลดบทบาท" " ไม่พึ่งการเงิน" นี่คืออะไร    พร้อมกันนั้นความปั่นป่วนอลเวงก็ตามมาทันที    กลายเป็นข่าวร้อนแรงของบรรดาสื่อทั้งหลาย  ร้อนเสียยิ่งกว่าไฟป่าที่กำลังเผาผลาญออสเตรเลียอยู่ในยามนี้เสียอีก

  ห้าวันต่อมา  คำว่า Megxit ที่ใช้อธิบายปรากฏการณ์นี้ ก็ผุดขึ้นมา จากหนังสือพิมพ์ The Sun  กลายเป็นคำที่รู้จักกันทั่วโลก  ทั้งๆไม่เคยมีในพจนานุกรมเล่มใด
  คำนี้มาจากสองคำ คือ Meghan (ชื่อของดัชเชส) และ Brexit  (ประเด็นเรื่องอังกฤษลาออกจากสหภาพยุโรป ที่ยังคาราคาซังอยู่)  


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ม.ค. 20, 13:17
  อันที่จริง บุคคลที่เป็นเจ้าของประเด็นนี้ไม่ได้มีคนเดียว แต่มี 2 คน และมีผลพวงวัยทารกตามมาอีก 1 คน  คือเจ้าชายแฮรี่   พระชายาเมแกน และพระโอรสน้อยชื่ออาร์ชี     แต่คำว่า Megxit  แสดงให้เห็นว่า สื่อปักใจว่าตัวการสำคัญในเรื่องนี้คือเมแกน ไม่ใช่เจ้าชาย  จึงไม่มีใครใช้คำว่า Harxit   ทั้งๆคนที่ออกมาให้ข่าวตั้งแต่ต้น คือเจ้าชายแฮรี่เอง   เมแกนไม่ได้ให้สัมภาษณ์ ไม่ออกสื่อแต่อย่างใด

   ครั้งแรกที่อ่านข่าวนี้   คำที่เจ้าชายแฮรี่ใช้  คือ step back  สื่อไทยแปลว่าลดบทบาท  ซึ่งก็ถูกต้อง  เพราะเจ้าชายไม่ได้บอกว่าจะสละฐานันดรศักดิ์    แปลไทยเป็นไทยคือยังทรงเป็นเจ้านายอยู่ แต่จะทำหน้าที่ในฐานะพระราชวงศ์น้อยลง  ส่วนคำว่า financially independent   แปลตามตัวว่าไม่พึ่งพาเงินทองของพระราชวงศ์ แต่จะทรงหารายได้เอง
   เมื่ออ่านจบ  อดคิดไม่ได้ว่า น่าจะเป็นการใช้คำอ้อมๆอย่างสุภาพ ของคำว่า ลาออก นั่นแหละ     ส่วนอีกคำหนึ่งคือไม่พึ่งเงินหลวง  จะหารายได้เลี้ยงชีพเอง  ส่วนด้วยวิธีไหนอย่างไรแบบไหน  ไม่จำเป็นต้องมาแถลงรายละเอียดถึงขนาดนั้น


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ม.ค. 20, 13:38
  ถ้าหากว่า Megxit เป็นพายุ   ฤทธิ์เดชของมันก็สั่นคลอนกิ่งก้านสาขาจนถึงรากของพฤกษาใหญ่ของอังกฤษ   ทำให้ต้องนัดประชุมด่วน เฉพาะพระราชวงศ์ชั้นสูงเพียงไม่กี่พระองค์ เพื่อหาทางออกให้ปัญหานี้ว่าจะทำกันอย่างไรดี   
  ขั้นแรกคืออนุโลมตามพระประสงค์ของเจ้าชายแฮรี่  ทั้งเรื่องลดบทบาทและเรื่องเงินๆทองๆ  สรุปแบบชาวบ้านให้เข้าใจง่ายๆคืออยากไปก็ยอมให้ไป    ไม่ว่ากัน    สมเด็จพระราชินีนาถทรงออกแถลงการณ์ด้วยพระองค์เอง
  แถลงการณ์ฉบับที่สองในวันที่ 18 มกราคม  มีความคืบหน้าอีกชั้นหนึ่งคือ  เจ้าชายแฮรี่และเมแกนไม่ได้เป็นพระราชวงศ์อีกแล้ว  ไม่ต้องประกอบพระราชภารกิจใดๆอย่างเจ้านายในพระราชวงศ์องค์อื่นๆกระทำ    และจะไม่ได้มีคำนำหน้าว่า "royal highness" อีก   นอกจากนี้ ต้องจ่ายเงินค่าชดเชยค่าตกแต่งปรับปรุงตำหนักที่เจ้าชายและพระชายาเพิ่งจะย้ายไปอยู่จำนวนสองล้านสี่แสนปอนด์ ซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชน 
  ยังไม่หมดค่ะ   ทั้งสองจะไม่ได้รับงบประมาณรัฐ ที่เคยเป็นเงินค่าใช้จ่ายสำหรับการปฏิบัติพระกรณียกิจ  นอกจากนี้จะไม่ได้เป็นผู้แทนพระองค์ในการปฏิบัติพระราชภารกิจของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 อีกต่อไป
  แต่...ทั้งสองก็ยังคงได้ตำแหน่ง ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกส์ ไว้ตามเดิม   สามารถใช้ตำแหน่งนี้เวลาไปไหนๆได้   กับยังเป็นองค์อุปถัมภ์องค์กรเอกชนและสมาคมต่างๆที่เคยเป็นหรือจะเป็นในอนาคตได้   ไม่มีใครห้าม 



กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ม.ค. 20, 17:46
  ย้อนไปถึงคำว่า brexit   สมาชิกเรือนไทยบางท่านอาจรู้จักดีว่ามันคืออะไร    แต่บางท่านก็อาจจะยังไม่รู้จัก
จึงขอเล่าย่อๆให้ฟัง
  ย้อนหลังไป 50 ปีก่อนคือเมื่อปี 1973   ประเทศในยุโรปรวมตัวกันเพื่อจัดตั้งความร่วมมือทางเศรษฐกิจ  ให้ชื่อว่า  "ประชาคมเศรษฐกิจยุโรป"  สองปีต่อมา  ประชาชนอังกฤษก็ลงประชามติ ให้ประเทศเข้าร่วมเป็นสมาชิกด้วย    รัฐบาลยุคที่เซ็นสัญญาเข้าร่วมนี้คือรัฐบาลพรรคอนุรักษนิยม
  อย่างไรก็ตาม  การเข้าร่วมกับประชาคมเศรษฐกิจยุโรป(ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นสหภาพยุโรป  หรือคนไทยเรียกสั้นๆว่า อียู) ถูกคัดค้านจากพรรคฝ่ายค้านคือพรรคแรงงานของอังกฤษว่ามีผลเสียมากกว่าได้   กลายเป็นชักคะเย่อระหว่างสองฝ่ายคือรัฐบาลกับฝ่ายค้าน ทำให้การเป็นสมาชิกในสหภาพยุโรปเจอตอ ลุ่มๆดอนๆ กันเรื่อยมา
  อย่างไรก็ตาม ในเมื่อรัฐบาลพรรคอนุรักษนิยมครองเสียงข้างมากมาหลายยุคหลายสมัย   อังกฤษก็ยังเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป  มาโดยตลอด จนมาสะดุดเท้าตัวเองในปี 2015    
  นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีฝ่ายอนุรักษนิยม ก็เกิดไปหาเสียงว่า หากประชนชนเลือกเขาอีกครั้ง  เขาจะจัดให้มีการลงประชามติเกี่ยวกับการถอนหรือไม่ถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร ตามที่ถกเถียงกันมาหลายปีแล้ว ว่าจะเอายังไงกัน  ให้เด็ดขาดกันลงไป
  นายเดวิด คาเมรอนก็ชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 2 จริงๆ   จึงจัดให้มีการลงประชามติตามสัญญาว่า ประชาชนจะต้องการให้สหราชอาณาจักรคงการเป็นสมาชิกภาพ (Bremain) หรือออกจากการเป็นสมาชิกภาพ (Brexit)  


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ม.ค. 20, 18:01
    นายคาเมรอน แกคงมั่นใจว่าประชาชนอังกฤษยังไงก็เลือกอยู่กับสหภาพยุโรป   เพราะประชาชนเลือกพรรคอนุรักษฺ์นิยมที่สนับสนุนการเข้าร่วมกับสหภาพมาตลอด    ฝ่ายค้านได้จ๋อย เงียบเสียงไปเสียที   แต่ปรากฏว่าผลกลับพลิกล็อค  ประชาชนส่วนใหญ่ กว่า 51.9% ต้องการออกจากสหภาพยุโรป  ส่วนเสียงส่วนน้อย 48.1% ต้องการอยู่กับสหภาพต่อไป   
    พอเป็นแบบนี้  นายเดวิด คาเมรอนก็ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทันที  ส้มทั้งเข่งก็เลยไปหล่นที่นางเทเรซา เมย์  ผู้สมัครตำแหน่งที่ว่าง เธอเลยได้รับเลือกขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนล่าสุด
   นางเทเรซา เมย์ก็สานต่อนโยบายอย่างแข็งขัน ด้วยการร่างแผนออกจากสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างเอาจริงเอาจัง  ทำให้อังกฤษหมดข้อผูกพันที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกหลายอย่าง  กลับมามีอิสระในการกำหนดนโยบายเองได้ แม้ว่าจะมีผลลบต่อเศรษฐกิจในวงกว้างกว่าก็ตาม
    ทีนี้  พอประชาชนพบว่าการออกจากสหภาพมีคุณอนันต์  แต่โทษมหันต์ตามมา   ก็เลยเกิดการระส่ำขึ้นมาอีกครั้งในรัฐสภาอังกฤษ บรรดาผู้แทนทั้งหลายไม่ยอมยกมือสนับสนุนข้อตกลงที่นางเทเรซา เมย์ร่างมาสำหรับจะออกจากสหภาพยุโรป     ยังผลให้นายกหญิงก็ต้องลาออกจากตำแหน่งไปด้วยความโทมนัส
   ส่วนประเด็น brexit  นั้นก็ค้างๆคาๆ เป็นเผือกร้อนชิ้นใหญ่ ส่งต่อให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ คือนายบอริส จอห์นสัน รับไปถือในมือต่อไป


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ม.ค. 20, 10:48
   ทีนี้ เรามาทำความรู้จักกับอีกครึ่งหนึ่งของ Megxit คือ Meghan  Markle

   เมแกนเป็นสาวคาลิฟอร์เนีย เกิดในลอสแองเจลิส   ถ้าเทียบอย่างไทยๆคือเป็นสาวเมืองหลวง  ไม่ใช่สาว ตจว.  มาจากบ้านชนชั้นกลางระดับสูง   พ่อเป็นผู้กำกับภาพยนตร์   ส่วนแม่เป็นนักสังคมสงเคราะห์และครูฝึกโยคะ   ที่พิเศษกว่าคนอื่นแต่ไม่ค่อยจะเป็นผลดีต่อลูกคือ พ่อแม่แต่งงานข้ามผิวกัน   
    พ่อเป็นฝรั่งผิวขาวเชื้อสายเยอรมันปนฝรั่งเศส ปู่ย่าอพยพมาจากยุโรป    ส่วนแม่เป็นคนผิวดำที่บรรพชนเคยเป็นทาสในอเมริกามาก่อน     เมแกนมีพี่ๆต่างแม่ที่เกิดจากภรรยาคนแรกของพ่อ ที่ไม่ได้สนิทสนมรักใคร่ไยดีกัน      พออายุได้ 6 ขวบพ่อแม่ก็หย่าขาด     เธอสนิทกับแม่มากกว่าพ่อในฐานะลูกคนเดียวของแม่
   ความที่พ่อเป็นผู้กำกับภาพยนตร์   เมแกนจึงได้คลุกคลีอยู่หลังกล้อง ดูการทำงานของพ่อมาตั้งแต่เล็ก     ทำให้มุ่่่งมั่นว่าจะเป็นดาราให้ได้ัสักวันหนึ่ง      สติปัญญาเธอดีเอาการ จึงได้เรียนจนจบจากมหาวิทยาลัยชั้นดีอย่าง Northwestern University  โดยเรียนเอกควบสองสาขาคือด้านการแสดงและนานาชาติศึกษา    พอจบก็ได้ไปฝึกงานที่สถานทูตอเมริกาในบัวโนส แอเรส  และได้ไปเรียนเทอมหนึ่งที่กรุงมาดริด ประเทศสเปนอีกด้วย    ภูมิหลังทางด้านการศึกษาแสดงถึงความเอาถ่านทางนี้ทีเดียว


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ม.ค. 20, 11:33
  มีเหตุการณ์เล็กๆที่สะท้อนให้เห็นว่าเมแกน ไม่ใช่ผู้หญิงสติปัญญาธรรมดา  เกิดขึ้นเมื่อเธออายุแค่ 11 ขวบ
  เมแกนเล่าเหตุการณ์นี้ในสุนทรพจน์ที่เธอกล่าวใน วันสตรีสากล เมื่อ 2015. ว่าเมื่ออายุ 11 ขวบ เธอได้ดูรายการโฆษณาของบริษัทProcter & Gamble ผู้ผลิตสบู่ล้างจาน   ในโฆษณามีคำบรรยายว่า "ผู้หญิงทั่วอเมริกากำลังสู้กับคราบไขมันในหม้อและกระทะ"  เพื่อนนักเรียนชายสองคนในห้องก็เลยเอามาล้อกันว่า นี่ไง  หน้าที่ของผู้หญิงคืออยู่ในครัวจริงๆด้วย
  โฆษณานี้ทำให้หนูน้อยเมแกนขุ่นเคืองมาก    เธอทำใจไม่ได้ว่าผู้หญิงเกิดมาเพื่อจะทำหน้าที่แม่บ้านล้างจานอยู่ในครัว  ผิดกับผู้ชายที่ไม่ต้องทำ    เธอก็เลยกลับบ้านมาปรึกษาพ่อว่าเธอไม่เห็นด้วยกับโฆษณานี้  พ่อก็เลยสนับสนุนให้เขียนจดหมายเพื่อส่งเสียงให้สังคมรับรู้      เธอก็กลับมาคิดว่าควรเขียนถึงใคร  ในที่สุดก็เลือกสตรีคนดังในอเมริกามาได้ 3 คน เท่าที่สมองวัย 11 ขวบจะคิดออก   เพื่อขอเสียงสนับสนุน   
  สตรีเหล่านั้นได้แก่สตรีหมายเลข 1 นาง ฮิลลารี่ คลินตัน   ทนายความหญิงด้านสิทธิประชาชน ชื่อกลอเรีย ออลเรด   สื่อดัง ลินดา เอลเลอร์บี และบริษัทผู้ผลิตสบู่ล้างจานรายนี้ด้วย
  หนูน้อยไม่ได้คาดหวังอะไรมาก    เธอทั้งแปลกใจและดีใจที่ได้จดหมายตอบรับจากฮิลลารีและกลอเรีย ว่าเห็นด้วย  ภายใน 1 เดือนต่อมา  บริษัทผู้ผลิตสบู่ก็เปลี่ยนคำโฆษณาจาก ผู้หญิง เป็น ประชาชน   คือไม่แบ่งแยกทางเพศอีกต่อไป
 


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ม.ค. 20, 11:33
https://www.youtube.com/watch?v=tfaGleA4qYo


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ม.ค. 20, 16:29
  เมื่อเข้าสู่วงการดาราตามที่ตั้งเข็มทิศไว้   เส้นทางของเมแกนไม่ง่ายเลย    สาวลูกครึ่งผิวสีพบว่าเธอไม่ดำพอที่จะเล่นบทสาวผิวดำ  แต่ก็ไม่ขาวพอจะเล่นบทสาวผิวขาว   กลายเป็นครึ่งๆกลางๆระหว่างสองเผ่าพันธุ์   ทำให้หาบทได้ยากมาก
   ส่วนใหญ่เมแกนก็ได้แต่บทตัวประกอบเล็กๆน้อยๆ ไร้ความสลักสำคัญ  อยู่หลายปี 


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ม.ค. 20, 16:46
 ดวงของเมแกนเริ่มรุ่งเมื่ออายุ 30   เธอได้เป็นดาราประจำในหนังทีวีเรื่องยาว ชื่อ Suits  เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักกฎหมายในบริษัทกฎหมายแห่งหนึ่งในนิวยอร์ค  แต่ถ่ายทำที่แคนาดา     ตัวเธอเองเล่นเป็นนิติกรสาวชื่อ เรเชิล  เซน   
 หนังชุดนี้เกิดดังขึ้นมา    เมแกนก็เลยกลายเป็นดาราดังขึ้นมาด้วย   ได้เดินพรมแดงในฮอลลีวู้ด

  https://www.youtube.com/watch?v=CL5WS5pao7Y


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ม.ค. 20, 16:47
https://www.youtube.com/watch?v=cFBaxMr0vT8


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 20 ม.ค. 20, 17:16
ใกล้มืดแล้ว, แวะเข้ามาเตรียมเสิร์ฟ ผัดไทยร้าน โชติจิตร แพร่งภูธร ที่เมแกนปลื้มมาก
(ภาพผัดไทย จากฟบ.ของร้าน)


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ม.ค. 20, 17:27
หาร้านนั้นไม่เจอ    ขอเอาผัดไทยประตูผีมาเสิฟเพิ่มให้ชาวเรือนไทยนะคะ


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ม.ค. 20, 18:16
     เมื่ออายุ 23 ปี  เมแกนเริ่มคบหาดูใจกับผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างหนังชื่อเทรเวอร์ เองเกิลสัน  วัย 28 ปี   
คบกันอยู่ 7 ปี ก็วิวาห์กันที่จาเมก้า  แต่แต่งงานกันเพียง 20 เดือนก็ตกลงหย่าขาด ด้วยความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย     
    จากนั้น เธอได้แฟนใหม่เป็นเจ้าของภัตตาคารและเชฟดังของแคนาดาชื่อคอรี่ วิเทียลโล    แต่คบกันได้ 2 ปีไม่ทันจะได้แต่งงานกัน   เมแกนก็เจอเจ้าชายแฮรี่จากนัดบอดที่เพื่อนคนหนึ่งจัดการให้   เธอก็อำลาจากแฟนเก่านับแต่นั้น

   ภาพข้างล่างนี้คืองานฉลองวิวาห์ครั้งแรกของเมแกน ที่จาเมก้า   ชุดขาวที่สวมคือชุดเจ้าสาวค่ะ


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ม.ค. 20, 18:18
แฟนคนที่สอง เชฟดังของแคนาดา


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ม.ค. 20, 08:56
  เมื่อเดือนกรกฎาคม  ปี 2016  เพื่อนคนหนึ่งของเมแกนชักนำเธอไปสู่นัดบอดกับเจ้าชายจากอังกฤษ     เมแกนให้สัมภาษณ์ภายหลังว่าเธอเป็นคนอเมริกัน จึงไม่ค่อยจะรู้เรื่องเจ้าเรื่องนาย  เมื่อรู้ว่าเพื่อนจับคู่นัดให้กับเจ้าชายแฮรี่  ก็ถามเพียงว่า "ท่านใจดีมั้ย" ก็เท่านั้น      
  เมื่อพบกัน  เจ้าชายแฮรี่เป็นฝ่าย "ปิ๊ง" สาวคนนี้อย่างแรง จนกระทั่งขอนัดครั้งที่สอง  จากนั้นทรงมีกำหนดการเสด็จบอตสวานาในแอฟริกา  ก็ขอให้ดาราสาวบินตามไปด้วย เธอก็ตกลง  ทั้งคู่ตั้งแคมป์นอนชมดาวกันอยู่ที่บอตสวานาอย่างสุดโรแมนติค    ความรักก็ก่อตัวขึ้นแนบแน่นและรวดเร็วที่นั่นเอง   บอตสวานา เป็นเมืองแห่งความหลัง
 เห็นได้จากแหวนหมั้นของเมแกน ที่ประดับด้วยเพชร 3 เม็ด  เม็ดใหญ่ตรงกลางเป็นเพชรจากเมืองบอตสวานาแห่งความหลังของคนทั้งสอง ส่วนอีกสองเม็ดมาจากเพชรในคอลเลคชั่นส่วนตัวของไดอาน่า
   เมแกนก็เลิกคบกับแฟนเชฟ มาเป็นแฟนเจ้าชายเต็มตัว    

   เจ้าชายแฮรี่ปิดเรื่องแฟนใหม่ไว้ได้ไม่กี่เดือน  แค่ 31 ตุลาคมปีเดียวกัน  สื่อก็ได้กลิ่นว่าทรงคบอยู่กับดาราสาวจากหนังทีวีชุด Suits    นอกจากชื่อของเมแกน มาร์เคิลจะดังเป็นพลุยิ่งกว่าอาชีพดาราที่เธอทุ่มเทมานานสิบกว่าปี  ผลพวงที่ตามมาคือประวัติตื้นลึกหนาบางของเธอก็ถูกสื่อลากออกมาโชว์กลางแจ้ง   เรียกว่าไม่เหลือหลออะไรให้เก็บไว้กับตัวได้เลย
   นับเป็นชะตากรรมที่หญิงสาวทุกคนที่คบกับเจ้านาย จะต้องประสบกัน ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้        ถ้าหากว่าเธอคนนั้นเป็นผู้หญิงเรียบร้อย ประวัติดีงาม ไม่มีอะไรให้ขุดคุ้ย  เธอก็รอดตัวไป   แต่ถ้าเธอมีอะไรเป็นจุดอ่อน หรือร้ายกว่านี้ มีเรื่องฉาวมาก่อน   ความซวยก็จะติดตามมาทันที  


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ม.ค. 20, 11:02
    ถ้าหากว่าแฟนของเมแกนเป็นหนุ่มอเมริกันสักคน  ต่อให้เป็นเศรษฐีรวยล้นฟ้า   ประวัติของเธอก็ไม่ถือว่าเสียหายตรงไหนในสายตาคนอื่นๆ    อาชีพดารานอกจากเป็นอาชีพมีเกียรติน่านับถือแล้ว  ยังเป็นอาชีพในฝันของหนุ่มสาวจำนวนมาก     การแต่งงานแล้วหย่าก็เป็นเรื่องที่ปกติสามัญมากสำหรับคนอเมริกัน   คนสองคนเข้ากันไม่ได้ก็ต้องแยกทางกันเป็นธรรมดา    ไม่ถือว่าลดคุณค่าของตนเอง   หรือแม้แต่คบแฟนโดยยังไม่ได้แต่งงานกันก็ถือว่าปกติอีกนั่นแหละ  คนเราต้องรู้จักกันถี่ถ้วนก่อนแต่งงานจึงจะรู้ว่าไปกันได้ไหม
  และท้ายสุด  การเป็นลูกครึ่งผิวสีไม่ใช่ความผิด     การเหยียดผิวต่างหากที่ผิดจังๆ   กฎหมายคุ้มครองการเลือกปฏิบัติต่อคนต่างผิว   ใครละเมิดละก็เป็นโดนฟ้องร้องทั้งปรับทั้งจำ
   แต่เมแกนกลับเลือกที่จะมีแฟนเป็นเจ้าชาย  ที่โลกทั้งโลกโดยเฉพาะโลกอังกฤษ เอาตะแกรงมาร่อน กรองผู้ที่จะมาเป็นคู่ของเจ้าชายเขา
   เมแกนเป็นแม่ม่ายร้างหย่ากับสามี     เธอเป็นลูกครึ่งผิวดำ   และที่ร้ายที่สุดคือเธอมีพ่อกับพี่ๆต่างแม่ ที่ทำตัวน่าเกลียดน่าชังมาก    
   พวกนี้แปลก  แทนที่จะแสดงความยินดีด้วยตามมารยาท  กลับฟาดหัวฟาดหาง ส่งข้อความลงทวิตเตอร์บ้าง ให้สัมภาษณ์บ้าง  ด่าว่าเมแกนเสียเละเลย     โดยเฉพาะพี่สาวนั้นทำตัวเหมือนลูกสาวแม่เลี้ยงของซินเดอเรลลาไม่มีผิด คืออิจฉาริษยาจนออกนอกหน้า    นับว่าผิดมารยาทคนอเมริกัน(หรือคนอื่นๆทุกประเทศ)อย่างยิ่ง    
   ทำให้เมแกนกลายเป็นเหยื่อโอชะหนักขึ้นไปอีกสำหรับสื่อ  


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ม.ค. 20, 12:39
  ทั้งสองประกาศตัวว่าเป็นแฟนกันรวดเร็วมาก แค่ 4 เดือนหลังเจอกัน   จึงตกเป็นข่าวจากสื่อที่กระหน่ำเป็นพายุกันมาทุกทิศทุกทาง     ก็นับว่าแปลกอย่างหนึ่งที่เมแกนเดือดร้อนกับเรื่องสื่อเอาเรื่องเล็กเรื่องน้อยจริงบ้างไม่จริงบ้างมาลงกันได้ลงกันดี   
    ที่ว่าแปลกเพราะอาชีพดาราเป็นอาชีพธรรมดาที่จะตกเป็นข่าว  ส่วนใหญ่ก็เป็นข่าวแบบแย่ๆ  ข่าวดีไม่ค่อยจะมี      ดาราทุกคนทำใจกันมานานแล้วว่าถ้าดังเมื่อไหร่ก็ต้องโดน  ถ้าหากว่าไม่โดนคือไม่ดัง    จึงไม่ค่อยมีใครเดือดร้อนกับการเป้าหมายของสื่อ   เว้นเสียแต่ว่าเป็นข่าวที่ทำให้เสียหายถึงหน้าที่การงานจนหมดอนาคต ก็ค่อยลุกขึ้นต่อสู้ฟ้องร้องกันเสียทีหนึ่ง  แต่เมแกนทำใจไม่ได้เลย
  อย่างไรก็ตาม ทั้งสองก็จูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์กันจนได้   ได้รับพระราชทานยศเป็นดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกส์   จากนั้นก็ทำหน้าที่สมาชิกพระราชวงศ์ตามที่ควรทำ คือเจ้าชายกับพระชายาก็เสด็จไปเปิดงานโน่นนี่   ออกงานการกุศลต่างๆ  และที่ขาดไม่ได้คือพิธีหลวงใหญ่น้อยที่มีมาทั้งปี
   จะด้วยอะไรก็ตาม  เมแกนพบว่านอกจากสื่อกระหน่ำเธอไม่ปรานีแล้ว   คนอังกฤษตั้งแต่เจ้านายลงไปถึงชาวบ้านก็ไม่ชอบหน้า   เรื่องบกพร่องเล็กๆน้อยๆของเธอที่เธอไม่เห็นสลักสำคัญ ก็กลายเป็นข่าวพาดหัว   มีรูปขยายใหญ่เอาลงเต็มจอ เต็มหน้ากระดาษ  ประจานกันไม่รู้จบ   ทำเอาเธอเครียดมาก 


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ม.ค. 20, 12:50
   ยกตัวอย่างเรื่องเล็กๆที่ไม่เสียหายเลยสำหรับชาวบ้าน  แต่กลายเป็นเรื่องเสียหายถูกตำหนิติเตียนจากสื่อ กระจายไปทั่วโลก คือเรื่องท่านั่ง
   ค่ะ ท่านั่ง
   เจ้านายสตรีทั้งหลายเมื่อออกงานพิธีต่างๆ  มักจะต้องนั่งกันอยู่นานๆจนกว่าจะจบงาน     ระหว่างนั้นเรียกได้ว่าทุกนาทีจะต้องมีกล้องจับอยู่  พร้อมจะจับภาพออกทีวี หรือขึ้นหน้าหนึ่ง ตอนไหนก็ได้   ดังนั้นสตรีสูงศักดิ์เหล่านี้จะต้องระมัดระวังมากที่จะไม่เผลอตัวนั่งตามสบายแม้แต่นาทีเดียว    เรียกว่าใครกดชัตเตอร์ หรือกวาดกล้องวิดีโอมานาทีไหนต้องดูงามเหมาะสมทุกนาที
  ท่านั่งของผู้หญิงอังกฤษที่ถือว่านั่งเรียบร้อยสุภาพ คือท่านั่งเข่าบีบชิดกัน  น่องวางชิดกันเท่าที่จะทำได้   และถ้านั่งให้สวยคือหัวเข่าชิดกัน  เบนน่องเอนไปด้วยกันทางด้านใดด้านหนึ่ง   ทำให้ขาดูเรียวสวยเมื่อถ่ายภาพหรือวิดีโอออกมา    ท่านี้เรียกกันว่า Duchess slant
  เคท ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์  ชายาเจ้าชายวิลเลียม  เป็นที่มาของคำเรียกท่านี้    เธอนั่งท่านี้เวลาออกงานได้สง่างามมาก  


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ม.ค. 20, 13:01
ทีนี้ นั่งนานๆ ก็ย่อมเมื่อยกันบ้าง     หากจะเปลี่ยนอิริยาบถนิดหน่อยเพื่อคลายเมือย     สตรีอังกฤษก็อาจทำได้ด้วยการขยับขา เปลี่ยนเป็นไขว้ขากันที่ข้อเท้า  แต่หัวเข่ายังคงบีบชิดกัน   
ถือเป็นท่านั่งที่สุภาพได้เช่นกัน


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ม.ค. 20, 13:06
    ส่วนผู้หญิงอเมริกันถือว่า ถ้าต้องนั่งหันตรงมาทางคนอื่น  ท่านั่งที่เรียบร้อย คือท่านั่งไขว่ห้าง แบบไขว้กันตรงหัวเข่า ทำให้เข่าข้างหนึ่งทับอยู่เหนือเข่าอีกข้าง    ท่านี้เป็นท่าปลอดภัยไม่ว่าเจ้าตัวนุ่งกระโปรงแคบและสั้นขนาดไหนก็ตาม  เพราะหัวเข่าจะบังมิดชิดไม่ให้กล้องส่องลอดเข้าไปถึงกกน.ได้    และที่ดีอีกอย่างคือท่านี้ทำให้กระโปรงกระชับคงที่  ไม่ลื่นจนเขยิบร่นขึ้นจากเข่าไปถึงต้นขา  
   ถ้าสังเกตรายการสัมภาษณ์คนดังหรือดารา   หากว่าดาราสาวคนนั้นนั่งหันมาทางคนดู  เธอจะนั่งไขว่ห้างแบบที่ว่านี้  เพราะเรียบร้อยมิดชิดที่สุด
   แต่ถ้าต้องบีบหัวเข่าชิดกัน  ไขว้กันที่ข้อเท้า   ผู้หญิงมักเลือกนั่งหันเบี่ยงไปทางข้างๆ เพื่อความปลอดภัย
 เพราะอาจเผลอ  เบนหัวเข่าออกนิดเดียวก็จะเกิดช่องว่างให้มองลอดกระโปรงเข้าไปได้


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ม.ค. 20, 13:13
     อย่างไรก็ตาม  อังกฤษถือว่าท่านั่งไขว่ห้าง เป็นอิริยาบถตามสบาย ใช้ในโอกาสลำลอง  จะนั่งกับเพื่อนๆ ลูกๆ หรือแฟนไม่มีใครว่า     แต่ถ้าอยู่ในงานพิธี โดยเฉพาะเมื่อมีควีนอยู่ในงานนั้น ใครก็ตามจะนั่งไขว่ห้างต่อหน้าพระองค์ท่านไม่ได้เป็นอันขาด     สมเด็จพระราชินีเองตั้งแต่ยังสาวจนพระชนม์ 93  ก็ยังไม่เคยนั่งไขว้พระชงฆ์ออกงานให้ชาวบ้านเห็นเลยสักครั้ง
    เมแกนเองไม่รู้ว่าตั้งใจหรือเผลอ   ไปนั่งไขว่ห้างขณะนั่งอยู่แถวเดียวกับสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ  แม้ว่ามีอีกภาพหนึ่งเธอเปลี่ยนท่าเป็นนั่งไขว้ตรงข้อเท้าเรียบร้อยแล้ว    ภาพแรกที่เธอนั่งไขว่ห้างก็ถูกตีพิมพ์กระจายไปทั่วโลก  พร้อมด้วยเสียงติฉินนินทาตามมาอีกระนาว


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ม.ค. 20, 19:23
      พ่อของเมแกนบอกว่า ลูกสาวไม่รังเกียจหรอกที่เป็นข่าวขึ้นหน้าสื่อทุกวัน  แต่ที่เธอทนไม่ได้คือเป็นข่าวในทางลบไม่ว่าจะกระดิกตัวไปทางไหนต่างหาก
     ที่จริงผู้หญิงที่เผชิญศึกหนักอย่างเมแกนก็ไม่ใช่มีคนเดียว  สตรีที่เข้ามาเป็นสะใภ้ในพระราชวงศ์ล้วนโดนสื่อจับตา สาดสีใส่ไข่ด้วยเรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้างกันมาทุกคน   ต้องทนสาหัสกันทั้งนั้น   ลองเรียงลำดับดู  ตั้งแต่คามิลล่า  เฟอร์กี้ชายาเจ้าฟ้าชายแอนดรูว์    โซฟีชายาเจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด   แม้แต่คนที่ประชาชนทั้งโลกรักอย่างไดอาน่าก็โดนสื่ออังกฤษขุดคุ้ยแฉเธอไม่เว้นแต่ละวัน   แม้แต่เคทเองก็ถูกเขม่นว่าแม่จุ้นจ้านเข้ามาในวังตั้งแต่เธอแต่งงานใหม่ๆ    
     เมแกนแตกต่างจากสตรีข้างบนที่กล่าวมาคือเธอไม่ทน     คามิลล่าใช้วิธีทน  โซฟีปฏิบัติภารกิจอย่างเงียบเชียบไม่เป็นจุดเด่น ส่วนเฟอร์กี้กระเด็นออกไปแต่ก็แอบกลับมาพึ่งใบบุญเจ้าชายสามีอย่างเงียบๆ   ผิดกับเมแกนที่ปักหลักสู้สื่ออย่างแข็งกร้าวและเปิดเผย
    ยิ่งตอบโต้ ก็ยิ่งโดนหมัดกระหน่ำจากทุกทิศทุกทาง   นำมาซึ่งทางออกแบบฟ้าผ่าลงกลางพระราชวงศ์ แบบเดียวกับเสด็จลุงของควีนเอลิซาเบธเคยทำมาแล้วเมื่อสละราชสมบัติไปแต่งงานกับแม่ม่ายอเมริกัน  
   เมแกนเดินออกจากวังไป  แต่ไม่เดินเปล่าๆ เธอลากเอาเจ้าชายออกจากวังไปกับเธอด้วย


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ม.ค. 20, 19:38
  Megxit (อ่านว่าเม็กสิท) กับ Brexit คล้ายกันในหลายประเด็น   คือเป็นเรื่องคุณอนันต์โทษมหันต์เหมือนกัน    เป็นเรื่องกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนกัน    เป็นเรื่องที่ความเห็นประชาชนอังกฤษแตกออกเป็นสองฝ่ายเหมือนกันอีก     และเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้ว่าในอนาคตจะจบลงอย่างไร  เหมือนกันอีกเช่นกัน
  ไม่มีใครรู้ว่าเมื่ออังกฤษออกจากอียูขึ้นมาจริงๆ  อนาคตประเทศจะดีขึ้นหรือย่ำแย่     ไม่มีใครรู้ว่าชีวิตของเจ้าชายแฮรี่และเมแกนเมื่อออกจากราชวงศ์อังกฤษแล้ว จะมีชีวิตที่สงบสุขตามปรารถนาหรือว่าจะมีความตกต่ำอับจนรออยู่เบื้องหน้า
  แต่เท่าที่รู้แน่ๆคือ
 1   ทั้งสองไม่ใช่เจ้านายในพระราชวงศ์อีก    แฮรี่ไม่ใช่ Prince Harry  ต่อไปนี้จะถูกเรียกว่า  Harry, Duke of Sussex  และเมแกน คือ Meghan, Duchess of Sussex     จะไม่มีใครเรียกว่า Your Highness หรือใต้ฝ่าพระบาท
  2  แฮรี่ไม่มียศทางทหารอีก
  3  แฮรี่ไม่มีสิทธิ์จะไปประกอบพระราชภารกิจหรือเยือนต่างประเทศในฐานะตัวแทนพระองค์ อย่างเมื่อก่อน
  4  ต้องจ่ายค่าซ่อมตำหนักคืนให้หลวง 2.4 ล้านปอนด์
  5  รัฐบาลงดถวายเงินปีที่เคยถวายเจ้านายทุกองค์สำหรับประกอบพระภารกิจต่อประเทศชาติ

   แต่เจ้าชายก็ยังมีสิทธิ์ได้รับเงินอุดหนุนจากพระบิดา คือเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์   ยังได้เงินมรดกประมาณ 5 ล้านปอนด์จากพระมารดา   และมีสิทธิ์ไปทำงานประกอบอาชีพหารายได้ให้ตัวเองได้
   Megxit จบลงแล้ว  เมื่อเจ้าชายแฮรี่และเมแกนพ้นจากพระราชวงศ์ไปดำเนินชีวิตอย่างสามัญชน    ส่วนผลของมันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น  ไม่รู้ว่าจะลงเอยอย่างไร

   ขอจบกระทู้แค่นี้ค่ะ


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 22 ม.ค. 20, 14:29
            ควีนในวัย 90 กว่าชันษาควรจะเป็นวัยเวลาพักผ่อนสำราญพระทัยแล้ว กลับต้องมาพบกับเรื่องเครียดๆ
จากลูก(เจ้าชายแอนดรูว์) และหลานชาย


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 22 ม.ค. 20, 14:31
             พระองค์ได้ผ่านวิกฤตหม้ายเมกันพรากเจ้าชายออกจากราชวงศ์มาแล้ว คร้งแรกแบบไม่น่าจะเครียด
เพราะยังทรงพระเยาว์ แต่ครั้งที่สองนี้ทรงต้องรับจัดการปัญหาไปเต็มๆ


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 22 ม.ค. 20, 14:32
              แต่ ถึงอย่างไร,เหตุการณ์(หลาน)สะใภ้ปฏิวัติครั้งนี้ก็ยังนับได้ว่าไม่หนักหนามากมายนัก เมื่อเทียบกับ
สะใภ้ปฏิวัติครั้งก่อนที่ส่งผลกระทบต่อความนิยมในราชวงศ์อย่างรุนแรงหลังจากที่ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์
เสียชีวิตลง


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 22 ม.ค. 20, 14:33

ป.ล. หวังว่าสามชีวิตใหม่นอกวังจะดำเนินต่อไปอย่างสงบสุข ไม่เป็นไปแบบนี้


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ม.ค. 20, 17:22
การ์ตูนล้อเลียน    อาชีพใหม่ของแฮรี่


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 22 ม.ค. 20, 19:13
(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A116.png)

https://youtu.be/Mnw3XtGHF78


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ม.ค. 20, 19:26
บรรดานักเขียนการ์ตูนล้อเลียนสังคมและการเมือง  เห็นเรื่องนี้เป็นหัวข้ออันโอชะ


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ม.ค. 20, 19:29
นี่ก็อีกภาพหนึ่งค่ะ


กระทู้: Megxit ภาษาอังกฤษวันละคำ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.พ. 20, 11:31
ถ้า Megxit เป็นพายุที่พัดผ่านราชวงศ์วินด์เซอร์   ผลกระทบของมันก็ไม่ใช่เกิดขึ้นกับพระราชวงศ์เท่านั้น แต่ย้อนกลับมาสู่ตัวมันเองด้วย
ข่าวล่าคือ แฮรี่(ที่บัดนี้ไม่ใช่เจ้าชายแล้ว) กับเมแกน ตั้งแบรนด์  Sussex Royal ขึ้นมา  เพื่อวางแผนจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้า จะได้จำหน่ายสินค้าต่างๆรวมทั้งจัดกิจกรรมในนามของ Sussex Royal ด้วย   
พร้อมทั้งวางแผนตั้ง Sussex Royal, The Foundation of the Duke and Duchess of Sussex หรือมูลนิธิชื่อเดียวกันนี้
แต่ก็ถูกเบรคจากพระราชวัง   ไม่ให้ใช้คำว่า Royal  ในเมื่อทั้งสองไม่ใช่พระราชวงศ์อีกต่อไป

ชื่อเว็บไซต์ยังอยู่ ค่ะ
https://sussexroyal.com/