bookaholic
|
ความคิดเห็นที่ 240 เมื่อ 27 ต.ค. 06, 08:44
|
|
มาห้อยท้ายขบวนการ # 203
คุณธงชัยคงจะเดาจากคำว่า อเนกนิกรสโมสรสมมติ มั้งครับ แต่ผมก็เห็นว่าคำนี้อาจจะยากไปหน่อย คงไม่ใช่ เหตุการณ์ตอนเจ้าฟ้ามงกุฎให้คำตอบไปว่าท่านไม่ลาผนวชกลับไปขึ้นบัลลังค์ ขออยู่ในผ้าเหลืองต่อ เนี่ย ผมไม่ได้อ่านบทความ คุณธงชัยเอามาวิเคราะห์เปล่าครับ คือผมนึกว่าการตัดสินใจของเจ้านายเกิดขึ้นหลังจากเจ้าฟ้ามงกุฎให้คำตอบไปแล้ว ซะอีก เจ้านายไม่ได้ตกลงพร้อมใจกันก่อนล่วงหน้าครับ อย่างน้อยกรมหลวงพิทักษ์มนตรีท่านก็ไม่เอาด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 241 เมื่อ 27 ต.ค. 06, 10:39
|
|
นัยยะความนัยของวันนั้น เราพวก...ก็ได้แต่เดาพุ่งเดาสุ่ม จะเป็นส. เป็นศ. หรือเป็นษ. เอ้าให้อีกซ๋อ ...แถม ล้วนแต่ไม่รู้จริงทั้งนั้น ทีนี้ไม่รู้จริง แต่สรุปเอาแบบดุ่ยๆ แล้วโยงมาพากันเฮโลสาระพา สร้างเป็นทฤษฎีล้ำโลก...ก็ต้องรบกวนหน้ากระดาษพี่ต่วย หรือขายหัวเราะเท่านั้นแหละครับ
มีเกล็ดเล่ากันมาสองเรื่อง อาจจะชวนให้นึกเห็นบางแง่มุมในเรื่องราวครั้งนั้น 1 เล่ากันว่าพระภิกษุเจ้าฟ้าฯ ทรงปรึกษาผู้ใหญ่ ได้รับมติว่า ยังไม่ถึงเวลา.... 2 เล่ากันว่า กรมเจษฎ์ เพียงแต่เสด็จขึ้นบัลลังก์ เท่านั้น ทุกฝ่ายก็ถวายบังคม 1 เกิดก่อน 2 หรือกลับกัน มี 1 แต่ไม่มี 2 หรือกลับกัน ไม่มีทั้ง 1 และ 2
หน้าไพ่ออกได้หมด เป็นประเด็นที่ต้องการเอกสารทั้งหอสมุดมารองรับวินิจฉัย และคงใช้เวลาเป็นปีๆ ยังไงก็ไม่ทั้นส่งจั้งค์แมวเที่ยวสุดท้ายนิ ผมจึงขอย้อนกลับไปที่ความเห็นเริ่มต้นว่า ศอเมืองนอกนี่มันไม่มีมาตรฐานกันเลยรึไงฟะ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 ต.ค. 06, 13:58 โดย นิรันดร์ »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 242 เมื่อ 27 ต.ค. 06, 11:21
|
|
คุณกุ้งหายไปนาน ยินดีที่มาร่วมวงอีกรอบ รอบนี้ออกแนวซีเอสไอ คือชำแหละศพ เอ้ย...ไมใช่ ชำแหละบทความชิ้นเยี่ยมของปัญญาชนนามระบือ แกเขียนเรื่องผลัดแผ่นดิน ตรงกับสามแผ่นดินที่ผมกำลังโม้อยู่ ทนอ่านไปก่อนนะครับ น้ำท่วมไกล้ลดแล้ว
วัดพระธาตุลำปางหลวง เป็นสุนทรียสถานแห่งประวัติศาสตร์ ลานทรายที่เรียบง่าย งามล้ำลึก สายลมทิพย์พัดเอื่อยอ้อยสร้อย ปราสจากกาละเวลา เป็นอีเธอนัลสะเปสที่หาสัมผัสได้ยาก โขงด้านหน้าโอ่อ่าห้าวหาญ แต่มีเมตตา เชื้อเชิญสาธุขนเข้าสู่พุทธสถานโดยมิพักต้องกริ่งเกรง เนินที่ตั้งเป็นดั่งเทพประทาน ย้ำความคิดนบนอบให้แน่วแน่ เ ป็นงานศิลปะที่ต้องใช้ผัสสะทุกช่องทางมารับรู้ อัจฉริยะสถานครับ
เปิดอีกทู้ได้เลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิรันดร์
|
ความคิดเห็นที่ 243 เมื่อ 27 ต.ค. 06, 13:56
|
|
คาดว่าคุณกุ้งฯอาจพลาดมุมมองนี้ที่องค์พระธาตุลำปางหลวง เพราะมีป้ายห้ามสตรีขึ้นไป ที่หลังองค์พระธาตุจะมีวิหารหลังน้อย พื้นที่ไม่น่าจะถึง 10 ตารางเมตร คะเนยากเพราะเมื่อเข้าไปก็จะมีผ้าขาวผืนเบ้อเริ่มขวางห้องอยู่ แล้วก็ปิดประตูสนิท มองอะไรไม่เห็นเลย จนสักพักตาเริ่มคุ้นกับความมืดก็จะเห็นภาพนี้ |
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 ต.ค. 06, 14:36 โดย นิรันดร์ »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิรันดร์
|
ความคิดเห็นที่ 244 เมื่อ 27 ต.ค. 06, 14:45
|
|
การตีนัยแห่งโบราณคดี อาจมีบางคนเพียงเดาสุ่ม แต่ไม่ควรไปเหมารวมท่านอื่นว่า จะเดาสุ่มไปด้วย และเมื่อท่านใดเดาสุ่ม ก็ควรบ่งออกมาด้วยว่าเดาสุ่ม ไม่ควรเชื่อถือเป็นชิ้นอัน
แต่นักโบราณคดีที่ร่ำเรียนมา สามารถใช้หลักฐานทางวิชาการ ทำนายเหตุการณ์ในอดีตได้ แม้ไม่ได้เห็นประจักษ์กับตาตนเอง แต่ก็ไม่ใช่การเดาสุ่ม
ผู้ใดเดาสุ่ม บ่งบอกว่าตัวเองเดาสุ่ม นับเป็นสุภาพบุรุษ แต่การเหมาว่าผู้อื่นเดาสุ่มด้วย นับเป็นการฉุดผู้อื่นให้ต่ำลง นับเป็นการไม่สมควร
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 พ.ย. 06, 15:23 โดย เทาชมพู »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
pipat
|
ความคิดเห็นที่ 245 เมื่อ 27 ต.ค. 06, 19:54
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
V_Mee
|
ความคิดเห็นที่ 246 เมื่อ 15 ธ.ค. 06, 09:51
|
|
สำหรับความเห็นที่ ๒๔๓ ที่ว่าไม่ได้ไปวัดพระสิงห์นั้น ดีแล้วครับ ถ้ามีโอกาสได้ไปขอแนะนำให้ไปที่วิหารลายคำ แล้ฃ่วยผมดูหน่อยครับว่า พระสิงห์ทั้งสามองค์ในวิหารนั้น มีองค์ใดที่พระพักตร์หรือพระเศียรต่างจากอีกสององค์ เพราะผมไปเจอบันทึกมาว่า พระสิงห์หนึ่งในสามองค์นั้นเคยถูกตัดเศียรไปทำกระดิ่งผูกคอวัว แล้วล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ มีพระบรมราชโองการให้เชิญองค์พระนั้นลงไปกรุงเทพฯ โปรดให้พระเทพรจนา (สิน ปฎิมาประกร) ปฏิมากรเอกในพระราชสำนักปั้นหล่อพระเศียรทดแทนพระเศียดเดิม แล้วเชิกลับขึ้นมาสมโภชเมื่อคราวล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๗ เสด็จเฃียงใหม่ พ.ศ. ๒๔๖๙
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|