เรือนไทย

จากกระทู้เก่าของคุณไตรวุธค่ะ
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5356.0

ขอทายว่า...คือ

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัติ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร

ทรงฉายพร้อมกับ หม่อมประยูร โสณกุล ณ อยุธยา (สกุลเดิม สุขุม)

มาคนแรกก็ได้คะแนนเต็มไปเลยค่ะ

สาวงามคนนี้เป็นฝีมือถ่ายภาพของ Dimitri Kessell  ระบุว่าเธอเป็นดาราภาพยนตร์ไทย  ในพ.ศ. 2493 (ค.ศ. 1950) แต่ไม่เคยได้ยินชื่อเลย
ใครรู้จักบ้างคะ?

ป้าลี่  สวลี ผกาพันธุ์ มังครับ(พ.ศ.2493นางเอกดังน่าจะเป็นป้าลี่)

ไม่ใช่ป้าเชอรี่ค่ะ     น่าจะเป็นนางเอกที่เล่นหนังน้อยมาก     ค้นหาชื่อในกูเกิ้ลก็ไม่เจอ
ต้องรอคุณ SILA เสียแล้ว เผื่อท่านจะเคยได้ยินชื่อบ้าง
ภาพนี้บรรยายไว้ว่า
Close up of Siamese movie star Thanimnand Ketkeo.
Location:   Bangkok, Thailand
Date taken:   April 15, 1950
Photographer:   Dmitri Kessel

ภาพเพิ่มเติม  ;D

ยอดเยี่ยม
มีประวัติคุณถนิมนันท์ไหมคะ

หาประวัติไม่พบ แต่ลองไปถามคุณกุ๊ก เธอบอกว่าหน้าเหมือนดาราฝรั่งที่ชื่อ  Lauren Bacall  (http://en.wikipedia.org/wiki/Lauren_Bacall)  ;D

ชื่อ-นามสกุลที่ถูกต้องของเธอคืออะไร  ถนิมนันท์  เกศแก้ว หรือเกตุแก้ว คะ?
เป็นผู้หญิงสวยคมจริงๆด้วย   หน้าตาดูทันสมัยมาก   เมื่อนึกว่าเธอเป็นสาวงามเมื่อเกือบ 64 ปีมาแล้ว
ถ้ามีชีวิตอยู่ คงอายุเกิน 80 แล้วละมั้ง

รูปต่อไปนี้ทายง่ายมากว่าใคร  คุณเพ็ญชมพูตอบได้ในพริบตาเดียว  จึงขอตัดสิทธิ์มิให้ตอบ (ง่ายๆยังงี้แหละ)
แต่อาจใบ้ให้ท่านอื่นๆที่เข้ามาตอบช้ากว่านี้ได้ค่ะ

คำใบ้ : สองภาพนี้มีความเกี่ยวข้องกัน

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5879.0;attach=46181;image) (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5356.0;attach=43923;image)

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

ขอทายว่า...เป็นรูป เอ๊ยไม่ใช่ พระรูปของ

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร (องค์ต้นราชสกุล รังสิต)

ส่วนสตรีต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ท่าน ก็น่าจะเป็น หม่อมอลิซาเบท รังสิต ณ อยุธยา (สกุลเดิม ชาร์นแบร์เกอร์ - Scharnberger) ชาวเยอรมัน

.........

 :D :D :D :D

1   ถูก
2   ผิด

เอาไป 50 %  ค่ะ
ทายได้อีกไม่จำกัดครั้งนะคะ

มาแก้ตัวครับ...

สตรีที่เห็นคล้ายสตรีต่างชาติในภาพ คือ ท่านหญิงจารุลักษณ์กัลยาณี บูรณะนนท์ หรือพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าหญิงจารุลักษณ์กัลยาณี รังสิต

พระธิดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร กับ หม่อมเอลิซาเบท รังสิต ณ อยุธยา

ท่านได้ทรงกราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์เพื่อทำการสมรสกับ นายแพทย์เฉลิม บูรณะนนท์ ครับ

 :D

สุภาพสตรีคนทางซ้าย คือใครคะ?

ท่านหญิงพันธุ์สวลี ยุคล

 :D

ขอยกรูปนี้มาให้ดูอีกครั้ง เข้าใจว่าเป็นพระยาโล้ชิงช้าในรัชกาลที่ ๕  จนบัดนี้ก็ยังไม่ทราบว่าท่านเป็นใครค่ะ

ขอข้ามมาที่สาวสวยคนนี้ค่ะ

ขอเข้ามาเสี่ยงนะครับ

ขอเดาว่าสาวสวยจากภาพด้านบน คือ...

คุณยาย (ขอเรียกว่า คุณยาย ก็แล้วกันนะครับ) รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง

อดีตนางเอกชื่อดัง และนักแสดงอาวุโสผู้ล่วงลับครับ....


...........รอลุ้น ว่าจะถูกหรือเปล่า

หน้าเธอคล้ายรัตนาภรณ์มาก  ผมเผ้าก็ทำทรงเดียวกัน
แต่...

นึกแล้วเชียว
ในนี้ไม่มีอะไรที่ง่าย 55

สองภาพนี้ เมื่อเธออายุมากขึ้น
บางทีคุณ scarlet อาจจะนึกออก เพราะเกิดทันแน่ๆ (แม้จะยังเด็กอยู่ก็ตาม)   ส่วนคุณ Fame ดิฉันไม่แน่ใจ
ถ้ายังนึกไม่ออก  ต้องรอคุณเพ็ญชมพูมาใบ้คำละค่ะ

ซูเปอร์เดานาครับ..

คุณศรีสอางค์ ตรีเนตร (เพราะเห็นเป็นนักร้อง อีกอย่างผมไม่เคยเห็นรูปภาพของคุณศรีสอางค์มาก่อน)
คนทางขวา อาจเป็นคุณดอกดิน (สีผิวน่ะใช่ แต่โครงหน้าไม่ใช่)

ถ้าเป็นกลุ่มไฮคลาส ไฮโซ ไม่รู้จักนะครับ
แต่ถ้ารูปคุณหญิงบุญเลื่อน เครือตาชูอาจรู้จักครับ

แป้วเลยเรา...แง แง แง

  :'(

รอท่านอื่นๆ มาเฉลยนะครับอยากทราบเช่นกัน ว่าคือใคร

....................................................................


ปล.หน้าตาเหมือนคุณยายรัตนาภรณ์ มากเลยครับ

พอเฉลยมาว่าไม่ใช่ ทำเอาผมหงายเงิบไปเลย 555
 ;D

^ ^
โครงหน้าเหมือนครับ แต่บุคลิกบางอย่างไม่ใช่ และรู้สึกว่ารอยยิ้มไม่ใช่
ไฝ - ในรูปอาจไม่เห็น และไม่ได้สังเกตว่าไฝคุณรัตนาภรณ์อยู่ด้านซ้ายหรือขวา

คำใบ้ : เกี่ยวกับ พ.ศ. ๒๕๐๔ และภาพข้างล่างนี้  

(http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2009/08/A8154957/A8154957-21.jpg)

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

ใช่...

คุณศักดิ์ศรี ศรีอักษร รึป่าวครับ

อ้อ หมาน่อยธรรมดานี่เอง 55

เลยนึกถึงตอนที่เพลงนี้ดัง มีนิตยสารฉบับหนึ่งไปได้ข้อมูลมาว่า เพลงนี้บันทึกเสียงที่สตูดิโอแห่งหนึงแถวๆคลองบางกอกน้อย บันทึกเสียงตั้งแต่กลางคืน เที่ยวแล้วเที่ยวเล่า ไม่เสร็จเสียที จนรุ่งเช้า ชาวบ้านไม่ได้หลับได้นอน (สตูดิโอยุคนั้น ระบบเก็บเสียงคงไม่ดี และไม่เหมือนยุคนี้ บันทึกเสียงดนตรีไว้ก่อนได้ นักร้องพร้อมเมื่อไหร่ก็มาร้อง) ต่อมาเพลงนี้ก็ดัง และเป็นเพลงดังที่สุดเพลงหนึ่งในวงการเพลงไทย

ที่หน้าตาคล้ายคุณรัตนาภรณ์ คงเป็นเพราะอยู่ภูมิภาคเดียวกัน นามสกุลคุณรัตนาภรณ์ ผู้รู้บอกว่าเป็นคนในภูมิภาคนั้น
(ถ้าแปลเป็นภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า the region แยะเลยนะครับ ท่านอาจารย์เทาชมพู อิอิ)

เฉลย
http://www.youtube.com/watch?v=DaS0JLPuSdA

เอารูปมาโชว์คุณ scarlet และคุณ fame ค่ะ

รูปซ้าย คุณศักดิ์ศรี ศรีอักษร  รูปขวา คุณรัตนาภรณ์ อินทรกำแหง ณ ราชสีมา
เหมือนกันมากจริงๆด้วยค่ะ

บุรุษปริศนา  น่าจะจำกันได้นะคะ   
ถ้ายังนึกไม่ออก คุณเพ็ญชมพูน่าจะเข้ามาให้เลขเด็ด..ขอโทษ..มาใบ้ให้ตามเคย

อีก ๒ ชั่วโมงหากยังไม่มีคำตอบ จะเข้าไปให้เลขเด็ด

ขอเสริมคำถามว่า สุภาพบุรุษ ๒ ท่าน ที่แสดงบนเวทีร่วมกับคุณศักดิ์ศรี ศรีอักษร คือใคร

(http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2009/08/A8154957/A8154957-22.jpg)

(http://ptcdn.info/emoticons/toy_h/17.png)

นั่นซี ผมถึงว่าไม่เคยเห็นรูปคุณรัตนาภรณ์ยิ้มกว้างเหมือนคุณศักดิ์ศรี นางเอกยุคนั้น คุณวิไลวรรณ คุณอัมรา ก็ไม่ยิ้มมากๆ

คนเสื้อดำคล้ายๆสีเผือก อีกคนคล้ายสีสุริยา
(ไม่หวังผลหรือรางวัล แต่ตลก2ท่านนี่ เก่งจริงๆนะ ไม่ตลกปญอ. ไร้คลาสเหมือนยุคนี้)

ซ้าย คุณอัศวิน รัตนประชา
ขวา คุณลือชัย นฤนาทค่ะ

ขอบคุณครับคุณเทาชมพูที่กรุณาทำรูปเปรียบเทียบให้เห็น...

ความจริงผมก็เป็นคนรุ่นหลัง เกิดไม่ทันยุคที่คุณรัตนาภรณ์เป็นนางเอก หรือแม้แต่ช่วงวัยกลางคน เพิ่งจะมาทันได้เห็นเมื่อคุณรัตนาภรณ์สูงอายุแล้ว และมักรับบทคุณแม่ คุณย่า คุณยายในละครหลายๆ เรื่อง และก็จำได้แต่ว่าเค้าหน้าคุณรัตนาภรณ์ในวัยชรา ถ้าหากเป็นวัยสาวน่าจะเหมือนที่คุณเทาชมพูนำมาโพสต์ตั้งคำถาม

พอชักมั่นใจว่าเป็นคุณรัตนาภรณ์ผมก็ไม่ได้ผลีผลามโพสต์ตอบในทันที แต่ก็ได้ลองตรวจสอบกับรูปอื่นๆ ของคุณรัตนาภรณ์สมัยยังสาว ที่สามารถ search หาได้ใน Google พอลองเทียบกันก็เป็นอย่างที่คุณเทาชมพูนำมาเปรียบเทียบให้ดูนั่นแหละครับ เหมือนยังกับแกะ เพียงแต่ว่าสิ่งที่ผมไม่ได้สังเกตในตอนแรกคือคุณภาพของภาพถ่ายของคุณรัตนาภรณ์ จะดูเก่ากว่าของคุณศักดิ์ศรี รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น วิธีการยิ้มของสตรีในแต่ละสมัยตามที่คุณ Scarlet บอก ยิ่งแสดงให้เห็นว่าถ่ายกันคนละยุค

ใครจะไปนึกว่าจะหลอกตาได้ถึงขนาดนี้...

ต่อไปนี้จะเชื่อแต่สิ่งที่เห็นไม่ได้อีกแล้วครับ

 ;) ;)

^ ^
ผมเกิดทันยุคที่คุณรัตนาภรณ์แสดงภาพยนต์ ถึงแม้ตอนนั้นเด็กมาก แต่จำได้ครับว่าอย่างไร ตอนแรกนึกเหมือนคุณ Fame เพียงแต่ไม่เคยเห็นคุณรัตนาภรณ์ยิ้มแบบนั้น อีกอย่างในรูป ยิ้มแบบสาวสังคม ส่วนคุณรัตนาภรณ์ในหนัง ได้รับบทเด็กสาวแก่นๆ ทอมๆ ยิ้มก็เฮี้ยวๆแบบจะหาเรื่องกับพระเอก (ยุคนั้นใครจำไม่ได้แล้วครับ ชนะ ศรีอุบลหรือเปล่าก็ไม่ทราบ)

แต่จริงๆ ผมก็ไม่ทราบหรอกว่าใคร พอเฉลยว่าไม่ใช่ เลยงงๆ อิอิ

คุณรัตนานุช ได้ 100 เต็มค่ะ  ซ้าย คุณอัศวิน รัตนประชา  ขวา คุณลือชัย นฤนาท
ดาวตลกที่คุณเพ็ญชมพูถาม ดิฉันไม่ทราบว่าเป็นใคร  รอคนถามมาเฉลยดีกว่านะคะ

สาวงามรูปที่นำมาทาย อาจจะยากหน่อย สวยเหมือนดาราแต่ไม่ใช่ดารา แต่เป็นเซเล็บที่คุณ scarlet เคยได้ยินชื่อ และเห็นรูปลงน.ส.พ.บ่อย  แน่นอน
คุณ fame อาจจะทันเห็นท่านในวัยชรา

คุณเพ็ญชมพูให้เลขเด็ดได้อีกหนแระ  ;)

^ ^
จะทายว่าสมเด็จเจ้าฟ้าเพ็ชรรัตน์ กระหม่อมก็มิบังอาจ

มิบังอาจก็ดีแล้ว  เพราะหาใช่ไม่ ค่ะ

ขอลองเสี่ยงตอบดูอีกทีนะครับ...

สุภาพสตรีในภาพคือ.......

หม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา (สกุลเดิม วิเศษกุล) ในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา

......




เพี้ยง ถูกด้วยเถอะ...

เพี้ยง...ถูก
ใช่ค่ะ

พันโทหญิงหม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา เกิดวันที่ 5 เมษายน พ.ศ.2451 เป็นธิดาคนสุดท้องของพระยา สุรินทรราชา (นกยูง วิเศษกุล) มหาดเล็กข้าหลวงเดิมในพระ บาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเป็นนางพระกำนัลในสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี  พระบรมราชินีในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว อภิเษกสมรสกับพลโทพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา พระโอรสองค์ใหญ่ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

หม่อมกอบแก้วจบการศึกษาจากโรงเรียนคอนแวนต์ The Convent of Holy Infant Jesus, Penang, Malasia ที่จังหวัดสงขลา พบกับพระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภาครั้งแรกที่วังไกลกังวล ในวันงานพระราชพิธีคฤหมงคลขึ้นพระตำหนักเปี่ยมสุข เมื่อวันที่ 10-11 เมษายน พ.ศ.2472 อภิเษกสมรสวันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2472 ไม่มีทายาท

หม่อมกอบแก้วได้รับการยกย่องให้เป็นแบบอย่างของกุลสตรีไทยยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 คือเป็นสตรีที่มีความรู้และความทันสมัยในแบบของสาวตะวันตก รับหน้าที่เป็นผู้สวมมงกุฎและสายสะพายให้แก่นางสาวไทยทุกคนในยุคก่อนๆ ทั้งยังเป็นต้นแบบของสาวสังคมในยุคนั้นที่ทำงานเพื่อสังคมโดยแท้ โดยออกงานสังคมสงเคราะห์หรืองานการกุศลต่างๆ เพื่อหาเงินช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในสังคมอยู่เป็นประจำ จนกลายเป็นภาพคุ้นตาของคนทั่วไป

หม่อมกอบแก้วถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2551 เวลา 20.30 น. ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด สิริอายุ 100 ปี 1 เดือน 14 วัน

 ;D

เฮ้อ ในที่สุดก็ตอบถูกบ้างแล้ว

ทำเอาเหงื่อตกมาหลายภาพเลยทีเดียว

.......
 :D ;)

ผมสิได้ทันเห็นหม่อมกอบแก้วในวัยชรา หาใช่คุณ Fame ที่ท่านเจ้าเรือนพยายามจะให้เป็นไม่..55
โดยมากได้ยินแต่ชื่อครับ เนื่องจากท่านอยู่ในข่าวสังคมซะเป็นส่วนมาก เห็นรูปถ่ายครั้งแรกๆก็ตอนที่ท่านเข้าวัยกลางคนแล้ว

ทั้ง ๒ ท่านข้างบนคือ สีเผือก และ ศรีสุริยา อยู่ในตลกคณะ "สี่สี่" อันประกอบด้วย

จากซ้ายไปขวา - เทพ เทียนชัย สีหมึก สีเผือก ศรีสุริยา

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

เหงื่อตกอีกสักภาพไหมคะ

อันที่จริงผมแทบไม่เคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับหม่อมกอบแก้วตามสื่อทั่วไปเลยครับ อาจเป็นเพราะเมื่อถึงยุคที่ผมโตจนจำความได้นั้น หม่อมท่านก็คงสูงอายุมากแล้ว ออกงานสังคมต่างๆ น้อยลงหรือแทบไม่ออกเลย

แต่ที่ผมจำท่านได้เพราะเคยเห็นภาพหม่อมท่าน (แต่ไม่ใช่ภาพที่คุณเทาชมพูนำมาตั้งคำถามนะครับ) ในหนังสืออนุสรณ์อะไรสักเล่มหนึ่งซึ่งผมลืมชื่อไปแล้ว แต่ภาพหม่อมกอบแก้วในหนังสือนั้นดูสูงวัยกว่าภาพที่คุณเทาชมพูนำมาโพสต์ แต่ยังพอมีเค้าเหมือนกัน ผมเลยลองเสี่ยงตอบดูครับ

 ;D :D :)

 ??? ::) :'(

ภาพล่าสุดในความเห็นที่ 47 นี่ ผมยอมรับเลยครับว่าเหงื่อตกของแท้

ไม่ทราบจริงๆ ครับ แฮะ แฮะ แฮะ

....................................

ปล. ขอตัวช่วย หรือคำใบ้สักนิด หรือเยอะๆ ก็ได้ครับ

รอเลขเด็ดจากคุณเพ็ญชมพูดีกว่าค่ะ   ท่านยังมีเลขเก็บในสต๊อคอีกหลายชุด

ระหว่างนี้ เอารูปง่ายกว่ามาให้ดู
เป็นรูปเช็คอายุ   ถ้าจำได้ทั้งคุณ scarlet และคุณ fame ก็แปลว่าอายุไม่ห่างกัน

เคยถามไปถามมาให้ผมตอบกระทู้สามย่านจนรู้ว่าผมเคยอยู่ที่ไหน..
คราวนี้ จะหลอกถามอายุ ไม่เอาอีกแระ เข็ด 55

จริงๆ เรื่องภาพถ่าย ผมก็ไม่ค่อยรู้หรอก แถมนางใน ไฮโซ ซะเป็นส่วนมาก ;D ;D
หม่อมกอบแก้ว ดังคับเมืองไทย ยังไม่รู้เลยครับ :-\

ที่จริงพอถามไปถามมา  คนตอบไม่ยอมตอบเนี่ย ก็รู้แล้วว่าคุณ scarlet อายุเท่าไหร่
ว่างๆจะเฉลย  บอกได้ด้วยว่าเคยเรียนที่ไหนมาก่อนอยู่สามย่าน 
จริงๆนะคะ  ไม่ได้ขู่   ;)

รอคำเฉลยจากท่านอื่นๆ   เชิญสมาชิกเรือนไทยตอบได้ทุกท่านค่ะ ไม่ต้องเว้นวรรครอคุณ fame
เพราะดิฉันเตรียมภาพปริศนาไว้ให้คุณ fame อีกแยะเชียว

ภาพนี้ไม่ยากค่ะ

ภาพนี้คุณ scarlet น่าจะเคยเห็นมาก่อน แม้ว่าเกิดไม่ทันตอนท่านหนุ่มขนาดนี้

^ ^
น่าสนใจครับ ใบ้ให้หน่อย
(อาทิ คุณพระเจริญ อจ. ลัยอาจ ฯลฯ)

ถูกทางแล้วค่ะ   
ท่านหล่อไหมล่ะคะตอนหนุ่มๆ
คุณน่าจะไม่ทันได้เรียนกะท่านนะคะ  นอกจากในฐานะอาจารย์พิเศษ

คำใบ้ : รานี - นางงาม - ท่านผู้หญิง - คุณพระ  ;D

คุณ scarlet กับคุณ Fame น่าจะนึกออกแล้วนะคะ

 :-[ ::)

ผมหายตัวไปปาดเหงื่อแปบเดียว

คุณเทาชมพูทิ้งภาพปริศนาชุดใหญ่มาให้ได้ปาดเหงื่ออีกรอบ

และจากที่ไล่ดู ยอมรับครับว่ายากส์เอาการสำหรับชนรุ่นหลังอย่างผม

ยังไงขอเวลาทำใจ หาข้อมูล เตรียมทำการบ้านก่อนนะครับคุณครู...

หรือหากมีท่านผู้รู้เข้ามาช่วยกันจะเป็นพระคุณเหลือหลาย

...............................

ขออนุญาตตอบภาพปริศนาที่คุณเพ็ญชมพูกรุณาเข้ามาใบ้ให้ว่า คือ "รานี" ว่า

ท่านคือ คุณเรียม เพศยนาวิน อดีตนางสาวไทยประจำปี 2482 นับเป็นสตรีไทยมุสลิมคนแรก และคนเดียวที่ได้ครองตำแหน่งนางสาวไทย

ต่อมาท่านได้อภิเษกสมรสกับรายาแห่งรัฐปะลิส จึงได้เป็นรานีแห่งรัฐปะลิสครับ

............................



ถูกหนอ ถูกหนอ ถูกหนอ...
 ;) ;) ;)

แกล้งทำเป็นนึกไม่ออกหรือเปล่าเนี่ย คุณ Fame   ถึงเวลาทาย  เห็นทายออกปร๋อ
คำตอบสุดท้าย  ใช่ค่ะ  เอาไป 100 คะแนนเลย

ใบ้เพิ่มให้นะคะ รูปนี้

และขอส่งการบ้านต่อกันเลยครับ อย่างน้อยจะได้สบายใจที่ได้ส่งเข้าสต็อกให้คุณครูตรวจอย่างน้อยครึ่งนึงแล้ว  ;D ;D ;D

ขอตอบภาพที่คุณเพ็ญชมพูกรุณาไบ้ว่าคือ "ท่านผู้หญิง" ว่า ..........

คือภาพของ.... ท่านผู้หญิงนวลผ่อง เสนาณรงค์ (นามเดิม หม่อมหลวงนวลผ่อง  สนิทวงศ์) ธิดาของ พลตรี หม่อมสนิทวงศ์เสนีย์ (หม่อมราชวงศ์ตัน สนิทวงศ์) กับ ท่านผู้หญิงแผ้ว  สนิทวงศ์เสนี

ท่านผู้หญิงนวลผ่อง สมรสกับ พลเอกเเสวง เสนาณรงค์


.................................
หลับตาปี๋ รอคำเฉลยอย่างใจจดใจจ่อ
 ;)

ผมยอมรับว่า...คำใบ้ของคุณเพ็ญชมพูช่วยได้เยอะเลยครับ

ช่วยเป็นแนวทางในการค้นหาน่ะครับ...

ต้องขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้

 ;D ;)

แบมือมา...
v
v
v
v
v
v
v


รับเกรด

ว้าว A+ ซะด้วย  ;D

งั้นเพื่อเป็นการไม่ให้คุณครูผิดหวังขอตอบภาพปริศนาที่คุณเพ็ญชมพูกรุณาใบ้ให้ว่าเป็น "นางงาม"

และคุณครูยังเข้าใบ้เพิ่มเติมให้ยิ่งง่ายมากขึ้นโดยการเพิ่มรูปของลูกสาวของ "นางงาม" ท่านนั้นมาให้ด้วย

ซึ่งแน่นอนว่าคนรุ่นผมรู้จักลูกสาวของ "นางงาม" มากกว่าซะอีก  ;)

ชักอารัมภบทเยอะไป ขอตอบเลยดีกว่าครับว่าคือภาพของ...


คุณสาวิณี ปะการะนัง อดีตนางสาวไทยประจำปี พ.ศ. 2527

คุณแม่ของ น้องแบมบี้ สิรินโสพิศ ปัจฉิมสวัสดิ์ ผู้เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย ของรายการประกวดร้องเพลงยอดนิยมรายการหนึ่ง (ผมตอบตามภาพที่คุณครูเอามาใบ้เพิ่มน่ะครับ มิได้ตอบมากไปกว่าที่ถามแต่ประการใด)

........................
 ;D ;D ;D

เป็นอันรู้แล้วว่าคุณ Fame อยู่ในยุคไหน  ยุคน้องแบมบี้น่ะเอง
ส่วนรูปข้างล่างนี้ท่านอยู่อีกยุคหนึ่ง   ส่งให้คุณ scarlet ไปทายละกันค่ะ

ก่อนนอน ให้การบ้านเอาไปฝันดีอีกหนึ่งรูปค่ะ
หนุ่มน้อยหน้าตาดีคนนี้ โตขึ้นมาเป็นคนดังคนหนึ่งในวงการบันเทิง    เชื่อว่าคุณ Fame น่าจะเคยเห็นรูปตอนโต

 :-X
ผมดันออกตัวแรงไปหน่อยคุณครูเทาชมพูจึงจับได้ว่าเป็นคนรุ่นไหน  ;)

ส่วนภาพหนุ่มน้อย หน้าตาหล่อเหลา ที่คุณครูฝากมาให้เป็นการบ้านก่อนนอนนั้น ใครจะไปรู้ว่าวันนี้เธอจะสวยเริ่ด ขนาดสาวแท้ยังอาย

เธอคนนี้ คือ คุณปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์ มิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์ส ประจำปี พ.ศ. 2547

คุณปอย มีผลงานในวงการบันเทิงทั้งถ่ายแบบ แสดงภาพยนตร์ ละคร และมิวสิกวิดีโอ

ได้ยินข่าวร่ำๆ ว่าเธอกำลังจะโกอินเตอร์ในเร็วๆ นี้ครับ

..........................................

ส่งการบ้านแล้ว นักเรียนขอลาไปฟังนิทานก่อนเข้านอนนะครับ  ;)

คุณ Fame กวาด A+ ไปแล้ว คงจะฝันดี   
ขอเอารูปน้องปอยมาเสริมให้ท่านอื่นๆฝันดีไปด้วยค่ะ

# 65 คือคุณพระเจริญวิศวกรรมใช่ไหมครับ?

ตัวจริงท่านผมก็ไม่เคยพบครับ เห็นแต่ชื่ออยู่ที่ตึก
ขอบคุณมากนะครับ

เอา A+ ไปอีกคนค่ะ

ศาสตราจารย์พระเจริญวิศวกรรม (26 เมษายน 2438 - 12 กรกฎาคม 2530) มีนามเดิมว่า เจริญ เชนะกุล อดีตคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้วางรากฐานให้แก่วงการวิศวกรรมศาสตร์ของไทย นอกจากนั้นยังเป็น นายกคณะฟุตบอลแห่งสยาม คนที่ 5

พระเจริญวิศวกรรม หรือ James Shea เกิดเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2438 ที่บ้านเลขที่ 110 ถนนสุรวงศ์ ตำบลสีลม อำเภอบางรัก จังหวัดพระนคร เป็นบุตรคนเดียวของ John Edward Austin Shea M.I.E.E. ชาวอังกฤษเชื้อสายไอริช ซึ่งเป็นวิศวกรที่เข้ามาทำงานอยู่กรมการไฟฟ้าในขณะนั้น และคุณแม่ชื่อ กี๋ เป็นชาวนครสวรรค์

ด้านการศึกษาเข้าศึกษาที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน (2445-2450) ต่อมาในระดับมัธยมต้นได้ย้ายมาศึกษาต่อที่โรงเรียนราชวิทยาลัย (2450-2453) และในระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (2453-2455) ในปีสุดท้ายที่ศึกษาที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ได้รับพระราชทานทุนเล่าเรียนหลวงไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ โดยในเดือนกันยายน พ.ศ. 2455 เข้ารับการศึกษาที่ Eastbourne College (2455-2457) ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2457 สอบได้ Matriculation ซึ่งเทียบเท่าหลักสูตรเตรียมอุดมศึกษา และวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2457 เข้าศึกษาวิศวกรรมโยธา (หลักสูตร 3 ปี) ที่ King's College, University of Durham ต่อมาในปีประกาศนียบัตร Intermediate B. Sc. ต่อมาทางราชการได้มีคำสั่งย้ายไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา เนื่องจากสงครามในทวีปยุโรป โดยเข้าศึกษาขนงวิชาวิศวกรรมโยธา ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ (หลักสูตร 4 ปี) แต่ศึกษาสำเร็จภายใน 3 ปี เนื่องจากได้รับโอนหน่วยกิตมาจากมหาวิทยาลัยเดิมในประเทศอังกฤษ 1 ปี และได้รับปริญญา B.S. in Civil Engineering และได้เขียนวิทยานิพนธ์เรื่อง "Design of Double - Track Through Inclined Upper Chord and Sub-divided Panel R.R. Bridge"

ในปี พ.ศ. 2462 เข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ช่วยคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อมาเป็นคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2472 และยังได้เป็นหัวหน้าแผนกวิชาวิศวกรรมโยธา (2480) และหัวหน้าแผนกสถาปัตยกรรม (2481) และเป็นราชบัณฑิต ประเภทวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (2485) และทำหน้าที่รักษาการอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (2495) จนเกษียณเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2499 หลังเกษียณได้รับต่ออายุราชการเป็นรายปีเรื่อยมา จนถึงวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2504 และเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2505 สภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีมติอนุมัติให้ได้รับพระราชทานปริญญาวิศวกรรมศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ และต่อมาวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2509 ได้รับแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์อุปการคุณ

ภาพปริศนาภาพต่อไปค่ะ ใครกันบ้าง?

คุณ Fame น่าจะจำได้

#71 ถ้าคุณ Fame ไม่เข้ามาตอบภายในระยะเวลาอันสมควร ข้อยจะสำแดงเองครับ อิอิ

3 ท่านนี่เสียชีวิตไปหมดแล้ว คนทางขวาสุดเสียชีวิตไปไม่กี่ปีนี่เอง

ทายเลยค่ะ  คุณ Fame มีการบ้านรออีกหลายกองค่ะ ไม่ต้องห่วง

คนกลางคุณเทิ่ง คนขวา ครูใหญ่
คนซ้าย อยู่ๆลืมชื่อไปซะงั้น เดี๋ยวจำได้จะกลับมาบอกนะครับ แต่เป็นระดับพระเอกมาก่อน
ทั้งหมด อยู่บางขุนพรม สถานีโทรทัศน์เพียงหนี่งเดียวสมัยนั้น

เพิ่มเติม** คนซ้ายคุณท้วม ทรนงครับ

ตามสบายค่ะ   เดี๋ยวก็นึกออก  
คนซ้าย เริ่มต้นอาชีพในวงการด้วยบทพระเอก แต่มาดังทางตลก

อ้าว โพสยังไม่ทันจบ คุณ scarlet นึกออกแล้ว
เอาไป 100 คะแนน  ค่ะ
คนซ้ายสุด ท้วม ทรนง

รูปนี้ เห็นปุ๊บ แฟนช่อง 4 วังบางขุนพรหม จะนึกออกปั๊บ
แต่ใครที่โตมากับช่อง 9  อาจนึกไม่ออก

คำถามข้างบนคงไม่ยากสำหรับคุณ scarlet

ขออนุญาตเสริมข้อมูลของ คุณท้วม ทรนง และ คุณเทิ่ง สติเฟื่อง


(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

คนขวาสุดด้วยซีคะ คุณเพ็ญชมพู  ไม่งั้นท่านน้อยใจแย่เลย

พระเอกทึ่จำได้คนแรกของช่อง4 คือคุณฉลองครับ คุณสะอาดก็มีเหมือนกัน ต่อมาคือคุณกำธร ในเรื่องขุนศึก ส่วนที่เป็นนางเอกบ่อยที่สุดคือคุณอารีย์
มรว.ถนัดศรีก็เป็นพิธีกรชื่ออาหย่วน แต่ที่มีสีสันมากที่สุดก็คงเป็นคุณเทิ่งแหละ โดยมากพบตอนเย็นๆ 5โมง ดึกๆก็เป็นคุณดาเรศ ศาตะจันทร์

จาก หนังสืออนุสรณ์พระราชทานเพลิงศพ นายสมาน (ใหญ่) นภายน  ต.ช., ต.ม. วันจันทร์ที่ ๘ มีนาคม  พ.ศ. ๒๕๕๓

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3223.0;attach=9045;image)


(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

  ;D ;D ;D

กลับมาดูอีกที กระทู้ไปเร็วมากๆ ครับ แปบเดียวแปดสิบกว่าแล้ว

ไม่อยากจะบอกเลยครับ ว่านักแสดงรุ่นเก๋าของช่อง 4 บางขุนพรหม หรือแม้แต่ช่อง 9 ยุคต้นๆ ผมไม่รู้จักเลยสักท่านเดียว (เนื่องด้วยเกิดไม่ทัน หรือไม่ก็จำความยังไม่แม่นพอ)

พอเห็นภาพปริศนาของดาวตลกทั้งสามท่าน ผมแทบหงายหลัง

แต่ดีที่คุณ Scarlet รู้จัก แถมคุณเพ็ญชมพูเข้ามาเพิ่มเติมให้ ผมเลยได้ความรู้ไปเต็มๆ (แบบไม่ต้องเหงื่อตกซิกอีกรอบ)

 ;) :) ;) :)

ถ้าคุณ Fame จำสาวน้อยคนข้างบนไม่ได้ น่าจะจำคนล่างได้นะคะ

ส่วนสาวในรูปบน   ลองพึ่งคุณเพ็ญชมพูดูบ้างค่ะ

 :-[

อย่างไรก็ตามเพื่อให้ผมได้มีส่วนร่วม ก็เลยอยากจะขออนุญาตส่งการบ้านตามภาพในความคิดเห็นที่ 72 ที่คุณครูเทาชมพูกรุณาทิ้งไว้ให้น่ะครับ

อันที่จริงพอเห็นภาพของเธอในตอนแรก ผมต้องเพ่งอยู่พักใหญ่ว่าใครกันหนอ ก่อนจะถึงบางอ้อ ไม่ใช่ใครที่ไหน

เธอเป็นอดีตนางเอก และนักแสดงสมทบในภาพยนตร์และละครหลายเรื่อง

แม้ปัจจุบันจะผันตัวมารับบทคุณแม่แล้ว แต่ก็กล่าวได้ว่าเป็นคุณแม่ยังสาว

เธอคือ...คุณขวัญฤดี กลมกล่อม ครับผม

......
 :D ;)

สาวน้อยคนข้างล่าง ตัวเก็งนางเอกในเรื่อง "เรือนมยุรา" ของ แก้วเก้า  ;D

คุณเพ็ญชมพูให้เลขเด็ดมาแล้ว

ฝากอีกภาพค่ะ  ไม่ยากเลย
คุณเพ็ญชมพูจะให้เลขท้ายสองตัวก็ได้นะคะ  ;)

^

แกงเขียวหวานบรั่นดี  ;D

พล.อ.ท่านหนึ่ง 55 (ยศไม่แน่ใจ)
ในรูปไม่เห็นนัยน์ตาปรือเลย..

รูปนี้ศิลปินวาดท่านไว้หล่อ อาจจะเป็นในช่วงวัยกลางคน
มาดูภาพล้อที่เขาวาดภาพท่านดูบ้างค่่ะ

ท่านเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยเลยนะเนี่ย ทำเล่นไป :)

สรุปว่าดูออกกันหมด แต่ไม่ทาย   งั้นใบ้กันต่อไปเรื่อยๆนะคะ
เอาภาพล้อ ภาพเต็มมาให้ดูกันค่ะ

ก้อกะรอMr. Fame อะครับ
ท่านคือ พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ นายกรัฐมนตรีคนที่15 นายกฯคนก่อนท่านคือ นายธานินทร์ กรัยวิเชียร นายกฯคนถัดจากท่านเกรียงศักดิ์ คือพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งดำรงตำแหน่งต่อเนื่องถึง 8 ปี
นายกฯเกรียงศักดิ์ประกาศลาออกจากตำแหน่งประมาณต้นปี 2523 กลางสภาฯเนื่องจากนโยบายขึ้นราคาน้ำมันหลังจากอยู่ในตำแหน่งปีกว่าๆ
อินทรีบางเขน เป็นอีกฉายาที่สื่อมวลชนยุคนั้นตั้งให้นอกจาก แกงเขียวหวานบรั่นดี

ตอนนี้อินทรเนตรของดิฉันส่องเห็นเว็บเดียวคือเรือนไทย    จะถามครูกู๊กเรื่องพลเอกเกรียงศักดิ์มากกว่านี้ก็ไม่ได้ค่ะ

จำได้ว่านอกจากม.ร.ว.คึกฤทธิ์แล้ว ท่านเป็นนายกฯอีกคนที่ทำกับข้าวเก่ง   เชิญนักข่าวไปชิมฝีมือกับข้าวอยู่เสมอ   เลื่องลือในเรื่องแกงเขียวหวานเนื้อที่ต้องใส่บรั่นดีลงไปหน่อย
ในยุคที่คนไทยยังกินเนื้อวัวกันแพร่หลาย  ส่วนไก่เลี้ยงไว้กินไข่    แกงเผ็ด แกงเขียวหวาน  ต้องเป็นเนื้อวัวติดมันถึงจะอร่อย 

มีภาพนี้อยู่ในสต๊อค  ใครนึกออกบ้างคะ?

 :'( :'(

อย่ารอผมเลยครับคุณ Jalito ผมเป็นพวกผลุบๆโผล่ๆ เดี๋ยวแวบไปโน้นมานี่อยู่ไม่สุข

เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าผมทำท่านอื่นๆ ที่ต้องการมีส่วนร่วม เสียโอกาสกันหมด

ช่วยกันตอบการบ้านคุณครู กระทู้นี้จะได้สนุกๆ ครับ

 ;D ;)

ไม่รอแล้วนะครับ
ทาย(แบบไม่ฟันธง)ว่า เจ้าจอมเอิบ บุนนาค ในรัชกาลที่ 5 (ท่านมีหน้าที่เป็นหมอนวดประจำพระองค์ด้วย)

ท่านเดียวกันหรือเปล่า?

 ;D ;D

ขอเข้ามาช่วยทำการบ้านครับ

ภาพบนคือท่านเจ้าจอมเอิบ พระสนมเอกในรัชกาลที่ 5 ท่านมีชื่อเสียงในด้านด้านการถ่ายภาพ

ส่วนภาพล่าง คือ ท่านเจ้าจอมเอี่ยม พระสนมเอกในรัชกาลที่ 5 ท่านนี้แหละครับที่มีชื่อเสียงในเรื่องการถวายงานนวด
จนสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงต้องทรงมีพระราชดำริถึงขณะเสด็จพระราชดำเนินประพาสยุโรป

คุณจอมทั้งสองท่านเป็นเจ้าจอมพี่น้อง (เจ้าจอมเอี่ยมเป็นพี่สาวเจ้าจอมเอิบ) ในกลุ่มเจ้าจอมก๊กออ ซึ่งประกอบไปด้วย

เจ้าจอมมารดาอ่อน เจ้าจอมเอี่ยม เจ้าจอมเอิบ เจ้าจอมอาบ และ เจ้าจอมเอื้อน....

 :D :D :D

ขอบคุณค่ะคุณ Fame  ดิฉันก็คิดว่าเป็นเจ้าจอมเอิบ แต่ไม่แน่ใจ   ตอนนี้เน็ตของดิฉันใช้กูเกิ้ลไม่ได้เสียด้วย

ยกภาพนี้ข้ามหน้าเก่ามาหน้าใหม่ รอคำตอบ
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5879.0;attach=46244;image)

ลอง seach ภาพเจ้าจอมเอิบในอีกอิริยาบถหนึ่งมาลองเทียบดูครับ

ผมค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะเป็นคนเดียวกับที่คุณเทาชมพูโพสต์ โดยสังเกตลักษณะของริมฝีปากที่เหมือนกันมาก

แต่หากผิดพลาดก็ขอรับความผิดนั้นโดยไม่มีข้อโต้แย้งครับ แฮะ แฮะ แฮะ

 ??? ??? :-\ :'(

จนด้วยเกล้าจริงๆ ครับสำหรับภาพปริศนาล่าสุด (ความคิดเห็นที่ 101)

บางมุมก็คล้ายคุณฉัตรชัย เปล่งพานิช บางมุมก็คล้ายคุณกรุง ศรีวิไล

แต่ก็ไม่น่าจะใช่ทั้งสองท่าน เพราะภาพนี้ดูเก่าเกินกว่าจะเป็นภาพถ่ายในยุคของคุณฉัตรชัย

ส่วนถ้าเป็นคุณกรุง ศรีวิไล ผมก็ไม่เคยเห็นภาพท่านในมาดแบบนี้เช่นกัน

...............................

 ;D

คำใบ้  : หัวหน้า "เทิ่ง สติเฟื่อง"  ;D

รอคุณ scarlet อีกท่านดีกว่าค่ะ    คุณ Fame เกิดไม่ทันบุรุษปริศนาใน # 101 แน่ๆ

มีภาพนี้มาคั่นโปรแกรม ระหว่างดิฉันรอกูเกิ้ลให้ใช้งานได้ 

เล่นด้วยคนค่ะ

ภาพบุรุษท่านนี้ คือ คุณจำนง รังสิกุล
อดีต Big Boss ไทยทีวีช่อง 4 บางขุนพรหม

 ;D

 ;D ;D ;D

เข้ามาตอบการบ้านภาพปริศนาในความเห็นที่ 106 ครับ

บุคคลในภาพองค์หนึ่งต่อมาได้เป็นพระมหากษัตริย์ไทย ส่วนอีกสององค์เป็นพระอนุชาธิราชที่ได้ช่วยแบ่งเบาพระราชภาระของพระบรมเชษฐาธิราชอย่างมากมาย โดยเฉพาะองค์เล็ก

เกริ่นมาเยอะ ขอตอบครับว่า...

เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ขณะทรงพระเยาว์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ขณะดำรงพระอิสริยยศที่ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ - พระองค์กลาง) ส่วนพระองค์ทางขวา คือ สมเด็จเจ้าฟ้าจาตุรนรัศมี กรมพระจักรพรรดิ์พงศ์ (องค์ต้นราชสกุล จักรพันธุ์) ส่วนพระองค์ทางซ้าย คือ สมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช (องค์ต้นราชสกุล ภาณุพันธุ์)

ทั้งสามพระองค์เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี (พระนางเจ้ารำเพยภมราภิรมย์)

.......................

 :D :D :D

ทาง who ทาง it ครับ
ภาพที่คุณ Fame ตอบคล่องปรื๋อ ผมละไม่รู้เลย
(อ้อ พอเคยเห็นภาพอีกท่านตอนเรียนหนังสือคือภาพของมรว.ทวีสันติ์ ลัดดาวัลย์ครับ แต่ลืมไปแล้วว่าท่านทำอะำไร?)

คุณ Fame ตอบคล่องปรื๋อจริงๆ
สงสัยจะเป็นคนหน้าเก่าในเว็บบอร์ดพันทิป มาใหม่ในเรือนไทยซะละมั้ง

ขอบคุณ Mr.Fame ครับ คล่องปรื่อจริงด้วย

ผมจำสลับกันด้านความสามารถของเจ้าจอมทั้งสองท่าน :D

พอดิฉันเข้า search engine ทั้งหลายไม่ได้  ไม่ว่ากูเกิ้ล ยาฮู บิง หรืออะไร  ขัดข้องหมด      รูปที่จะหามาทายก็เลยต้องเบรคอยู่แค่นี้   
ใครมีรูปบุรุษสตรีปริศนา จะมาทายบ้างก็เชิญนะคะ

 ::) :o

มายืนยัน นั่งยัน นอนยันครับว่าไม่ได้เป็นใครที่คุณเทาชมพูสงสัยเลยครับ

ผมเป็นแค่คนรุ่นหลัง (ไม่อยากใช้คำว่ารุ่นใหม่เพราะก็ไม่ใหม่นัก) ที่สนใจประวัติศาสตร์ และเรื่องราวเก่าๆ เท่านั้นเองครับ

ความจริงติดตามอ่านกระทู้ต่างๆ ในเรือนไทยนี้มานานแล้วในฐานะคนทั่วไป พอระยะหลังชักกระหายอยากร่วมแจมกับท่านเจ้าเรือน และเพื่อนๆ สมาชิก เลยสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกน้องใหม่หมาดๆ เมื่อไม่นานมานี้

ส่วนที่พันทิปนั้นผมก็ไม่เคยโพสต์เลยครับ เพราะขั้นตอนการสมัครค่อนข้างยุ่งยาก ได้แต่เข้าไปอ่านกระทู้ที่สนใจบ้างเท่านั้น

ส่วนที่คุณเทาชมพู กับคุณ Scarlet บอกว่าตอบได้คล่องปรื๋อนั้น ก็ไม่จริงเลยครับ ผมก็ตอบได้เพียงบางภาพที่สมองจำได้ หรือเคยอ่านพบตามหนังสือต่างๆ เท่านั้น หลายครั้งยังต้องพึ่งคำใบ้ และรีบไป seach จาก google เอามาตอบกันสดๆ เลยครับ อย่างนี้จะว่าคล่องได้อย่างไรกัน

โปรดอย่าสงสัยในตัวข้าน้อยตาดำๆ เลย พูดได้เต็มปากว่า หน้าใหม่ จริงๆ ครับ

 ::) ::)

....................................................

ไม่ต้องกลัวค่ะ  ดิฉันไม่ใช่เกสตาโป  ;)

เอารูปมาให้ทำการบ้านกันอีกรอบ    หนุ่มน้อยในชุดโก้นี้คือใคร

 :D :D

มาส่งการบ้านยามเช้า แบบงัวเงียๆครับ

ขอตอบแบบไม่แน่ใจว่า หนุ่มน้อยท่านนี้คือ....

พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ (หรือ วิจิตร วิจิตรวาทการ (ภายหลังลาออกจาบรรดาศักดิ์), ชื่อเดิม กิมเหลียง วัฒนปฤดา) ครับ

..............................

 :-[

ขนาดงัวเงียนะเนี่ย

   หลวงวิจิตรวาทการ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พุทธศักราช 2441 เจ้าของประวัติบันทึกไว้ว่า "ข้าพเจ้าเกิดบนแพ ริมแม่น้ำสะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานี เมื่อรู้ความ เห็นบิดามารดาของข้าพเจ้ามีเรือพายม้าลำหนึ่ง แม่แจวหัว และพ่อแจวท้าย พวกข้าพเจ้าเป็นพวกมีลูกมาก แม่ของข้าพเจ้ามีลูกถึง 8 คน"

          "แม่ของข้าพเจ้าถึงแก่กรรมตั้งแต่ตัวข้าพเจ้ายังเล็ก ข้าพเจ้าเริ่มลำดับความต่างๆ ได้ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ จำได้ว่าพ่อเคยเขียน ก. ข. ใส่กระดานชนวนไว้ให้ในเวลากลางคืน และพอ 4 นาฬิกา ก็ต้องแจวเรือไปค้าขายสองคนกับแม่ เวลานอนก็นอนกับย่า ซึ่งเป็นคนจดจำนิยายต่างๆ ไว้ได้มาก และเล่าให้ฟังเสมอ จนกระทั่งเรื่องสังข์ทอง เรื่องรามเกียรติ์ เรื่องอิเหนา เรื่องพระอภัยมณี และเรื่องขุนช้างขุนแผนเหล่านี้ อยู่ในสมองของข้าพเจ้าหมดก่อนที่จะลงมืออ่านได้เอง เมื่ออายุ 8 ขวบ ได้เข้าโรงเรียนวัดขวิด ตำบลสะแกกรัง สอบไล่ได้ชั้นประโยคประถม พ่อแม่ไม่มีทุนจะให้เข้าศึกษาต่อไป จึงเปลี่ยนวิธีใหม่ ได้เข้าศึกษาในทางธรรมอยู่ในวัดมหาธาตุตั้งแต่อายุ 13 ขวบ จนถึงอายุ 20 ปี สอบไล่ได้เปรียญ 5 ประโยค จึงออกจากวัด"

          มีคนพูดกันแต่เดิมว่า หลวงวิจิตรวาทการ มีเชื้อสายเป็นจีน เพราะชื่อ "กิมเหลียง" ซึ่งเป็นชื่อเดิม ข้อนี้ตามเอกสารของหลวงวิจิตรวาทการยืนยันไว้เองว่า "มีประเพณีพิเศษอยู่อย่างหนึ่งในจังหวัดอุทัยธานีเวลานั้น คือ บิดามารดามีชื่อเป็นไทยแท้ๆ แต่ลูกต้องมีชื่อเป็นจีน บิดาของข้าพเจ้าชื่ออิน มารดาชื่อคล้าย ซึ่งเป็นชือ่ไทยแม้ๆ ข้าพเจ้าเห็นบิดาของข้าพเจ้าบวชในบวรพุทธศาสนา ไม่เคยเห็นไหว้เจ้า และทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไทย แต่ตัวข้าพเจ้ากลับได้ชื่อเป็นจีน น้องๆ คนหลังๆ เมื่อเกิดมาได้ตั้งชื่อเป็นไทย แต่พอข้าพเจ้าไปยุโรปกลับมา เห็นเขาเปลี่ยนชื่อจีนไปหมด อิทธิพลของจีนในจังหวัดอุทัยธานีนับว่าล้นเหลือ"

          เมื่อออกจากวัดแล้ว หลวงวิจิตรวาทการเริ่มเข้ารับราชการในกองการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ไม่เป็นการยากเลยสำหรับท่าน ที่จะเป็นคนเด่นคนดีขึ้นมาในกอง ทั้งๆ ที่เป็นคนเข้ามาใหม่ เพราะเพียงแต่มาทำงานตรงเวลาเท่านั้น ก็เป็นคนเด่นคนดีได้แล้ว บุคคลแรกที่ท่านไปยอมตัวเป็นสานุศิษย์ก็คือนายเวรผู้เฒ่านั่นเอง แทนที่จะรอให้เขาจ่ายงานมาให้ หลวงวิจิตรวาทการไปของานเขาทำ ขอให้เขาสอนให้ เริ่มจากงานง่ายไปหางานยกขึ้นโดยลำดับ ก่อนที่คนอื่นจะมาพร้อม หลวงวิจิตรวาทการทำงานเสร็จไปแล้วอย่างน้อยสองเรื่อง ชื่อของท่านจึงได้สะดุดตาผู้ใหญ่ไปทุกวัน ทั้งๆ ที่เป็นเสมียนชั้นต่ำที่สุด ท่านกล่าวว่าไม่เป็นการยากลำบากเกินไปเลย ที่จะสร้างความเด่นความสำคัญให้แก่ตัว ขอแต่เพียงให้มีความมักใหญ่ใฝ่สูงในการทำงาน และสร้างความดีเด่นของตนด้วย "งาน" ไม่ใช่ด้วยวิธีอื่น       

   ภายหลังที่ได้ทำงานในกองการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เป็นเวลา 2 ปี หลวงวิจิตรวาทการได้มีโอกาสออกไปยุโรป ในตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการสถานทูตไทยประจำกรุงปารีส ท่านมีส่วนได้เปรียบคนอื่นๆ โดยที่เป็นคนรู้ภาษาไทยดีกว่าคนอื่นในสถานทูต ทำให้ท่านได้ทำงานอย่างกว้างขวาง จึงได้รับหน้าที่ตามเสด็จท่านราชทูตไปในการประชุมหรือในงานเจรจาทุกแห่ง และที่สำคัญต้องทำรายงานส่งเข้ามาในกรุงเทพฯ เป็นภาษาไทย

          ในที่สุดหลวงวิจิตรวาทการก็ได้พบงานประจำสำหรับตัวท่าน คืองานสันนิบาตชาติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรรณไวทยากร ได้ทรงเขียนไว้ที่หนึ่งว่า "การได้เข้าประชุม และทำงานสันนิบาตชาตินั้น เท่ากับว่าได้ผ่านการศึกษาในมหาวัทยาลัยขั้นสูงสุด" หลวงวิจิตรวาทการเห็นจะภูมิใจในตัวเอง ที่ผ่านการศึกษาในมหาวิทยาลัยสูงสุดมาแล้ว 5 ปี ท่านเป็นคนเขียนรายงานการประชุมตั้งแต่ต้นจนปลาย รายงานการประชุมครั้งหนึ่งๆ เป็นหน้ากระดาษพิมพ์ดีดไม่น้อยกว่า 100 หน้า ท่านร่างเอง และพิมพ์เอง

          หลวงวิจิตรวาทการรับราชการอยาในสถานทูตปารีส 6 ปีเต็ม กระทรวงการต่างประเทศจึงได้สั่งย้ายท่านไปรับราชการในสถานทูตไทยที่กรุงลอนดอน ท่านอยู่ลอนดอนได้ไม่นาน ก็ได้ถูกเรียกกลับมารับราชการในกรุงเทพฯ และตำแหน่งที่หลวงวิจิตรวาทการได้รับในกรุงเทพฯ ต่อจากนั้นมา ได้ช่วยให้ท่านเรียนรู้งานของกระทรวงการต่างประเทศอย่างทั่วถึง เพราะถูกโยกย้ายสับเปลี่ยนหน้าที่ไม่หยุดหย่อน ในปี พ.ศ. 2475 ท่านได้เป็นผู้ช่วยอธิบดีกรมการเมือง กระทรวงการต่างประเทศ

อธิบดีกรมศิลปากร
          เมื่อปี พ.ศ. 2477 หลวงวิจิตรวาทการ ได้ย้ายมาเป็นอธิบดีกรมศิลปากรเป็นคนแรก เมื่อเข้ารับตำแหน่งอธิบดีกรมศิลปากร ท่านได้รับความยากลำบากเป็นที่สุด เพราะท่านไม่ได้เกิดมาเป็นนักศิลปะ ท่านเกิดในกระทรวงการต่างประเทศ โดยไม่เคยเกี่ยวข้องกับงานศิลปากร มูลเหตุที่ให้ท่านเข้าไปเป็นอธิบดีกรมศิลปากรนั้น ก็ดูเหมือนจะมีอย่างเดียวคือ ในบรรดางานศิลปากรในเวลานั้น งานที่สำคัญที่สุดคืองานหอสมุดแห่งชาติ ท่านชอบหนังสือ ชอบการค้นคว้า และแต่งหนังสืออยู่มากแล้ว ผลที่รัฐบาลหวังจากท่านในเวลานั้นก็คือจะให้ท่านสร้างสรรค์งานหอสมุดให้ดีที่สุด
 
          แต่เมื่อเข้าไปถึง ก็ได้พบงานอีกหลายอย่างที่หลวงวิจิตรวาทการไม่รู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคืองานสถาปัตยกรรม ช่างเขียน ช่างปั้น และยิ่งกว่านั้น ก่อนท่านเข้าไปก็ได้มีกฎหมายระบุหน้าที่กรมศิลปากรไว้ว่า ต้องรับผิดชอบในเรื่องงานละคร และดนตรีด้วย มีคนเข้าใจผิดเป็นอันมาก ว่าเรื่องละคร และดนตรีของกรมศิลปากรหรือโรงเรียนฟ้อนรำ และดนตรีนั้น หลวงวิจิตรวาทการเป็นผู้คิดตั้งขึ้นด้วยความคิดริเริ่มของท่านเอง ความจริงเรื่องโรงเรียนฟ้อนรำ และดนตรี ที่เป็นโรงเรียนศิลปากรอยู่เวลานี้ มีบัญญัติอยู่ในกฎหมายคือ พระราชกฤษฎีกาแบ่งกองแบ่งแผนกสำหรับกรมศิลปากร ซึ่งได้ประกาศใช้แล้วก่อนท่านเข้าไปเป็นอธิบดี
          หลวงวิจิตรวาทการไม่ได้คิดอะไรใหม่ ไม่ได้มีแผนการโลดโผนอย่างหนึ่งอย่างใด ท่านเข้าไปด้วยความเคารพต่อทุกสิ่งทุกอย่าง งานหอสมุดก็ดี งานพิพิธภัณฑ์ก็ดี งานช่างก็ดี เจ้านายชั้นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือของชาวไทยทั่วไป ได้ทรงสร้างไว้ด้วยความเหนื่อยยาก และอุตสาหะพยายามเป็นอย่างยิ่ง ท่านเข้าไปด้วยความเคารพบูชา และตั้งปณิธานอันแน่วแน่ว่า สิ่งที่ท่านได้สร้างไว้แล้วจะไม่ยอมให้เสื่อมโทรมเลยเป็นอันขาด ท่านจะดำเนินเจริญรอย และทำต่อไปตามแผนการ ให้งานเจริญก้าวหน้า และแตกกิ่งก้านสาขาออกไป โดยไม่รื้อทำใหม่หรือเปลี่ยนแปลงอะไร
 
          เว้นแต่งานอันหนึ่ง ซึ่งได้ออกกฎหมายไว้ แต่ยังมิได้ลงมือทำ คืองานละคร และดนตรี หลวงวิจิตรวาทการจะต้องทำในฐานะงานใหม่ของท่าน ซึ่งท่านเองก็ไม่มีวิชาความรู้ในเรื่องนี้มาก่อน เคยสนใจในเรื่องละคร และดนตรีมาบ้างเมื่ออยู่ยุโรป แต่ก็สนใจแต่เพียงดูเพื่อความสนุกบันเทิงเท่านั้น เมือ่จำต้องทำด้วยตัวเอง ก็ต้องค้นคว้าเล่าเรียนเอาเอง เป็นการเปลี่ยนชีวิตของท่าน ท่านถูกความจำเป็นบังคับให้กลายเป็นนักศิลปะ ซึ่งไม่เคยนึกฝันมาแต่ก่อนว่าจะต้องเป็น ฯลฯ
 
          ถ้าหากหลวงวิจิตรวาทการได้สร้างความสำเร็จสิ่งหนึ่งสิ่งใดไว้ให้แก่กรมศิลปากร ก็เป็นเพราะเหตุอย่างเดียวคือ ท่านไม่ได้รื้อของเก่า สิ่งไรที่มีอยู่เดิมแล้ว เช่น การหอสมุด และพิพิธภัณฑ์ ท่านได้ทำต่อไป หอสมุดซึ่งเดิมมีเพียงในกรุงเทพฯ ท่านได้จัดการเปิดสาขาหอสมุดในต่างจังหวัด และสำเร็จไปได้หลายสิบแห่ง งานพิพิธภัณฑ์ และโบราณคดี ก็ได้ทำไปโดยอาศัยหลักเดิม แต่ได้ขยายให้มีผลไพศาลยิ่งขึ้น
 
          โดยเหตุดังว่านี้ หลวงวิจิตรวาทการจึงใคร่เสนอข้อแนะนำแก่ผู้ที่ทำงาน โดยหวังจะขึ้นสู่ตำแหน่งหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ว่า ความก้าวหน้าของกิจการทั้งหลายจะมีขึ้นได้ ก็โดยผู้รับหน้าที่ตำแหน่งต่อกันไปนั้น ได้ทำงานต่อไปจากที่คนเก่าเขาทำแล้ว และไม่ด่วนลงความเห็นว่าคนเก่าเขาทำไว้เหลวไหล ถ้าทุกคนที่เข้าไปรับตำแหน่งใหม่เริ่มงานกันใหม่ทั้งหมดแล้ว ก็ไม่มีวันที่งานจะก้าวหน้าไปได้เลย

ชาตินิยม
          ในระหว่างดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศิลปากร รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม เริ่มปลูกฝังลัทธิชาตินิยมให้ฟุ้งเฟื่องอยู่ในหมู่ประชาชน ด้วยการคิดคำนึงกันขึ้นในบรรดาผู้เป็นคนชั้นหัวหน้าปกครองว่าลัทธิชาตินิยมหรือลัทธิรักชาติลัทธิเดียว จะเป็นเครื่องป้องกันภัยอันตรายที่จะบังเกิดแก่ชาติได้ทุกทาง และพร้อมกันก็จะเป็นเครื่องมือสร้างชาติได้ดีกว่าเครื่องมืออย่างอื่น การจะปลูกฝังลัทธิชาตินิยมได้โดยสะดวก และมีทางเข้าถึงประชาชนได้ง่ายมีอยู่ทางหนึ่ง ดีกว่าทางอื่นๆ คือปลูกทางดนตรี และละคร อันเป็นงานที่กรมศิลปากรจะต้องทำอยู่ตามหน้าที่
 
          หลวงวิจิตรวาทการได้รับมอบหมายให้มาทำงาน "ปลูกต้นรักชาติ" ขึ้นในหัวใจประชาชน โดยการแต่งละครประวัติศาสตร์ และเพลงที่เป็นบทปลุกใจให้รักชาติขึ้นในระยะเวลาติดต่อกัน อาทิ เช่น ละครอิงประวัติศาสตร์เรื่อง น่านเจ้า เลือดสุพรรณ ราชมนู พระเจ้ากรุงธน อานุภาพแห่งความรัก ศึกถลาง เจ้าหญิงแสนหวี และอื่นๆ อีกมาก เรื่องปลูกต้นรักชาตินี้ หลวงวิจิตรวาทการทำมาไม่ลดละ ตั้งแต่ก่อนสงครามมหาเอเชียบูรพา จนกระทั่งเสร็จสงคราม และทำมาจนใกล้สิ้นชีวิต
        แปลว่าตลอดชีวิตของเจ้าของประวัติ ทำงานเรื่องชาตินิยมมาตลอด เมื่อใกล้จะเกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา (พ.ศ. 2484) ในขณะที่เป็นอธิบดีกรมศิลปากร และเป็นรัฐมนตรีลอยอยู่หลายปี ท่านก็ได้เลื่อนขั้นเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พ.ศ. 2483) และเมื่อกิจการระหว่างประเทศพัวพันกันมากเข้า ก็ถูกย้ายไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (พ.ศ. 2484)
 
          โรงเรียนฟ้อนรำ และดนตรี ซึ่งเรียกว่า "โรงเรียนนาฏดุริยางค์" ได้ตั้งขึ้นท่ามกลางมรสุมแห่งการนินทาว่าร้าย การโจมตีทุกทิศทุกทางในหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับ เพราะตั้งแต่เกิดมาเป็นประเทศไทย ก็ยังไม่เคยมีโรงเรียนชนิดนี้ งานเต้นกินรำกินถือว่าเป็นงานต่ำ แม้จะรู้กันว่ามีอยู่ในนานาประเทศที่เจริญแล้ว ก็ยังเห็นกันว่าไม่เหมาะสมสำหรับประเทศเรา
 
          ความยากลำบากที่สุดนั้น ก็คือการที่ต้องทำอะไรโดยที่ไม่มีเงิน การของบประมาณกรมศิลปากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานละคร และดนตรีนั้น ร้ายยิ่งกว่าขอทาน เพราะนอกจากจะไม่ได้แล้ว ยังถูกเย้ยหยันในการประชุมกรรมการพิจารณางบประมาณ มีหลายครั้งที่ท่านเกิดความคิดจะขอกลับไปกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นที่เกิดของท่าน และได้ทำงานมาโดยมิต้องถูกมรสุมความเย้ยหยันหรือความดูถูกดูหมิ่น แต่ท่านก็ต้องอยู่ อยู่สร้างสิ่งซึ่งท่านมีหน้าที่ต้องสร้าง การตั้งโรงเรียนฟ้อนรำ และดนตรี ซึ่งเรียกว่า "โรงเรียนนาฏดุริยางค์" นั้น ได้อาศัยความช่วยเหลือของกระทรวงธรรมการ ได้ครูมาสอนโรงเรียนนี้ โดยรับเงินเดือนทางกระทรวงไปพลาง จนกว่ากรมศิลปากรจะมีเงินของตัวเอง
 
          ราวหนึ่งปีภายหลังที่ตั้งโรงเรียนนี้ขึ้น นักเรียนของโรงเรียนนี้ก็พอออกแสดงได้บ้างแต่ไม่มีโรงแสดง โรงละครในเวลานั้นก็หายากเต็มที และไม่สามารถจะนำนักเรียนไปแสดงที่อื่นได้ จำเป็นที่จะต้องแสดงในเขตที่ของกรมศิลปากร เมื่อไม่มีทางจะทำอย่างอื่น ท่านก็ปลูกโรงไม้ไผ่เอาผ้าเต็นท์มาขึงเป็นหลังคา รวบรวมเก้าอี้เท่าที่จะหาได้ ละครของกรมศิลปากรได้ออกแสดงภายใต้หลังคาผ้าเต็นท์ และเสาไม้ไผ่ แต่เคราะห์ดีก็มีมา โดยที่ในการแสดงครั้งหนึ่ง ท่านเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศร์ ผู้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในเวลานั้น ได้มานั่งดูการแสดง ท่านเจ้าคุณได้บอกให้หลวงวิจิตรวาทการตั้งงบประมาณสำหรับสร้างโรงละคร ท่านจะช่วยเหลือหาเงินให้
 
          หลวงวิจิตรวาทการตั้งงบประมาณไปสำหรับสร้างโรงละครเป็นจำนวนเท่าไหร่จำไม่ได้ แต่ได้รับอนุมัติเพียง 6,500 บาท สำหรับสร้างโรงละคร ไม่รู้จะสร้างอย่างไรได้ พอตั้งเสา และมุงหลังคา เงิน 6,500 บาท ก็หมดไป ไม่มีทางที่จะขออีก และละครเรื่อง "เลือดสุพรรณ" ได้กำเนิดขึ้นในโรงละครราคา 6,500 บาท นั้นนั่นเอง
 
          "เลือดสุพรรณ" ทำให้หมดทุกอย่าง ทำให้โรงละครมีฝารอบขอบชิด มีรูปร่างซึ่งเป็น "หอประชุมศิลปากร" ที่ใช้มาจน 25 ปีให้หลัง การละคร และดนตรีของกรมศิลปากรตั้งตัวขึ้นได้ด้วยละครเรื่อง "เลือดสุพรรณ"

แต่งงาน - ชีวิตครอบครัว
          ระหว่างดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศิลปากร และเป็นรัฐมนตรีอยู่นั้น หลวงวิจิตรวาทการได้แต่งงานกับนางสาวประภา (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นประภาพรรณ) รพิพันธุ์ อาจารย์โรงเรียนเบญจมราชาลัย บุตรีของขุนวรสาส์นดรุณกิจ เมือ่วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2479 เป็นการเริ่มชีวิตใหม่ที่เนื่องด้วยครอบครัว และความรัก หลวงวิจิตรวาทการเห็นจะได้ชื่อว่าเป็นคนหวานต่อความรัก เป็นสามีที่ดีที่สุด และเมื่อมีลูกก็เป็นพ่อที่ดีที่สุดของลูก ดังบทเสภาตอนหนึ่งที่หลวงวิจิตรวาทการแต่งขึ้นเพื่อขับร้องในวันเกิดของคุณหญิง เมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2502
       "ขออุทิศเส้นประสาทพี่ทั้งสิ้น                    เป็นสายพิณดีดโปรยให้โหยหวล
ขออุทิศใจพี่ที่รัญจวน                                    เป็นบายศรีชี้ชวนเชิญขวัญตา
ขออุทิศมือทั้งสองเป็นแว่นเทียน                            โบกเวียนจากซ้ายแล้วไปขวา
ทำขวัญมิ่งมิตรวนิดา                                            ในสี่รอบชันษาของนวลน้อง"

เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโตเกียว - อาชญากรสงคราม

ชีวิตตอนสงคราม
          ประเทศไทยต้องเข้าสงครามมหาเอเชียบูรพา หลวงวิจิตรวาทการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีส่วนรับผิดชอบในงาน "ประกาศสงคราม" ร่วมกับคณะรัฐบาลชุดนั้น พอเสร็จสงครามก็ต้องหาเป็นอาชญากรสงคราม

          เจ้าของประวัติเคยบอกว่า การประกาศสงครามที่ตนต้องรับผิดชอบอยู่ด้วยนั้น ช่วยให้สมบัติ และชีวิตของสัมพันธมิตร พ้นจากการถูกญี่ปุ่นยึดเอาไปเป็นทรัพย์เชลยได้เกือบหมด ตลอดการสงคราม ไทยก็ได้ใช้ประโยชน์เหล่านี้ให้เกิดแก่สัมพันธมิตรตลอดมา และที่สำคัญที่สุดประเทศไทยรอดตัวมาได้จากการถูกยึดเป็นเมืองขึ้นของทั้งสองฝ่าย

          "หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ข้าพเจ้าต้องหาฐานอาชญากรสงคราม และถูกเจ้าหน้าที่ในกองทัพบกอเมริกัน ที่กรุงโตเกียวจับตัวไปคุมขัง ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2488 ภายหลังได้ถูกส่งตัวเข้ากรุงเทพฯ ถูกขังอยู่ที่สันติบาล และที่เรือนลหุโทษ จนถึงวันที่ 23 มีนาคม 2489 ศาลฎีกาจึงได้พิพากษาว่าพระราชบัญญัติอาชญากรโมฆะ และได้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งหมด"

          ออกจากที่คุมขัง หลวงวิจิตรวาทการไม่มีงานทำ จึงจับงานละครใหม่ ตั้งคณะละครชื่อ "วิจิตรศิลป์" แต่คราวนี้ไม่ได้ผล คนไม่ต้องการ "ปลูกต้นรักชาติ" กันแล้ว การละครขาดทุน จึงหันมาเขียนนวนิยายหลายสิบเรื่อง เช่น ห้วงรัก-เหวลึก พานทองรองเลือด มรสุมแห่งชีวิต ดอกฟ้าจำปาศักดิ์ นวนิยายขนาดยาวก็เขียนขึ้นในยามนี้ และท่านยังให้มีการพิมพ์เผยแพร่ผลงานด้านวิชาการ ที่ท่านได้เขียนไว้แล้ว และเขียนขึ้นใหม่ เช่น มันสมอง กำลังใจ กำลังความคิด มหาบุรุษ และอื่นๆ อีกมาก พ.ศ. 2491 รัฐบาลเก่าเปลี่ยนไป จอมพล ป. พิบูลสงคราม ขึ้นมาตั้งรัฐบาลใหม่ หลวงวิจิตรวาทการกลับไปเป็นกำลังใหม่ของรัฐบาลนี้อีกครั้งหนึ่ง

          รัฐบาลไทยสมัยนั้น เปิดการสัมพันธ์ทางการทูตใหม่กับนานาประเทศ หลวงวิจิตรวาทการไปเป็นเอกอัครราชทูตประจำประเทศอินเดีย (พ.ศ. 2495) แล้วย้ายไปประจำที่ประเทศสวิส ออสเตรีย และยูโกสลาเวีย (พ.ศ. 2496) เป็นเวลานานถึง 7 ปี

อวสานแห่งชีวิต
          จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ตั้งคณะรัฐบาลปฏิวัติขึ้นใหม่ในปลาย พ.ศ. 2500 หลวงวิจิตรวาทการได้เป็นกำลังของคณะปฏิวัติ เดินทางกลับจากยุโรปเข้ามาช่วยจัดการบริหารประเทศ ในฐานะปลัดบัญชาการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี

          ในช่วงนี้ ท่านก็ได้ทำสิ่งที่ท่านปรารถนาไว้นานแล้วสำเร็จ คือได้รับงบประมาณก่อสร้างโรงละครแห่งชาติปัจจุบัน โดยท่านเป็นประธานกรรมการก่อสร้าง และเป็นผู้วางศิลปาฤกษ์ในปี พ.ศ. 2504

          ด้วยเหตุที่ต้องทำงานหนักมาก ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2504 เป็นต้นมา ร่างกายที่ต้องทนงานตรากตรำอย่างหนัก ไม่มีเวลาพักผ่อน ก็เริ่มเสื่อมโทรมลง          ปลัดบัญชาการสำนักนายกรัฐมนตรีล้มป่วยด้วยโรคหัวใจ เมื่อราวปลาย พ.ศ. 2504 และได้ถึงแก่อนิจกรรมในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2505 รวมอายุได้ 64 ปี

         ท่านได้รับพระราชทานปริญญาบัตรเศรษฐศาสตร์สหกรณ์ ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในปี พ.ศ. 2504 ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ทางการทูต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในปีเดียวกัน และปริญญาบัตรอักษรศาสตร์ ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2505
                                                                ***********************        
 

เพลงโชคมนุษย์ ผลงานของหลวงวิจิตรวาทการ
http://www.gotoknow.org/posts/378738

บุรุษปริศนา ท่านใหม่ ง่ายมาก

^ ^
ไม่ทราบท่านผู้นี้และผู้ใต้บังคับบัญชาสามารถทำได้ทุกอย่างภายใต้ดวงอาทิตย์หรือเปล่า?
อิอิ

จอมพลอากาศฟื้น รณนภากาศ ฤทธาคนี อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ

เป็นจอมพลคนแรกของกองทัพอากาศ และเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนนายเรืออากาศ

มีบทบาทสำคัญเมื่อคราวปราบกบฎแมนฮัตตัน โดยสั่งการให้เครื่องบินรบทิ้งระเบิดร.ล.ศรีอยุธยาที่ติดกับอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาจนจมลง

เป็น1ในจำนวน4จอมพลของเหล่าทัพสมัยจอมพลป.เข้าบริหารประเทศยุคหลัง(ประมาณ2490-2500)

 จอมพล ป.พิบูลสงคราม รัฐมนตรีกลาโหมและผู้บัญชาการทหารสูงสุด

 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้บัญชาการทหารบก

 จอมพลเรือหลวงยุทธศาสตร์โกศล ผู้บัญชาการทหารเรือ

 จอมพลอากาศฟื้น รณนภากาศ ฤทธาคนี ผู้บัญชาการทหารอากาศ

 

...เป็น1ในจำนวน4จอมพลของเหล่าทัพสมัยจอมพลป.เข้าบริหารประเทศยุคหลัง(ประมาณ2490-2500)

 2490-2500 ยังมีจอมพลคนสำคัญอีกท่าน

 จอมพลผิน ชุณหะวัณ

บุคคลซ้ายมือคือใคร(มีเชื้อเจ้า)

ภาพถ่ายเมื่อ ปี 2480 ที่สถานีรถไฟลำปาง  (วงกลมแดงไว้)

(ผู้ที่ถ่ายภาพคือ ดร. พินเดิลตัน ที่ปรึกษากระทรวงเกษตร สมัยนั้น)

ขอทายว่าบุรุษคนซ้ายคือ....

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธุ์เพ็ญศิริ

ครับ.....

 ??? ???

คุณ Jalito คำตอบ#127  ถูกต้องค่ะ จอมพลอากาศฟื้น รณนภากาศ ฤทธาคนี อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ

ภาพปริศนาภาพใหม่นี้ คงไม่ยากเกินไปนะคะ

เยี่ยมครับ

 ;) ;)

ขอทายภาพบุรุษปริศนาในความเห็นที่ 131 ว่าคือ...

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม (ต้นราชสกุล เพ็ญพัฒน์) พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดามรกฎ

ทรงเป็นผู้นิพนธ์เพลงไทยเดิมที่มีชื่อเสียงที่คนไทยรู้จักกันดี คือ เพลงลาวดำเนินเกวียน หรือเพลงลาวดวงเดือน ครับ

....................................
 :D

ยอด...ค่ะ 

ใครเคยเห็นรูปนี้บ้าง  มีคำบรรยายภาพซึ่งดิฉันไม่แน่ใจว่าถูกต้อง  ก็เลยมาถามในกระทู้นี้อีกทีค่ะ
ว่าเป็นรูปของใครกันแน่

บุรุษปริศนาอีกรูปค่ะ

อีกรูปหนึ่ง

สุภาพบุรุษชาวไทยผู้นี้คือใคร

 ::) :o

ต๊กกะใจเลยครับ คุณครูเทาชมพูโยนการบ้านภาพปริศนาลงมาโครมใหญ่ทีเดียวสามภาพ

แต่ยังไงนักเรียนจะขอตอบให้คุณครูชื่นใจก่อนเข้านอนนะครับ
 ;D

ภาพแรก (ในความเห็นที่ 136) สุภาพบุรุษเจ้าของภาพคือ...

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน  (ต้นราชสกุล ฉัตรไชย) พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าจอมมารดาวาด

ทรงได้รับยกย่องให้เป็นพระบิดาแห่งการรถไฟไทย และกิจการวิทยุกระจายเสียงไทย ครับ
.............................................................
 ;)

ภาพที่สอง (ในความเห็นที่ 137) เจ้าของภาพคือ...

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ (เป็นต้นราชสกุล วรวรรณ) 

เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับ เจ้าจอมมารดาเขียน

ทรงเป็นกวีและนักประพันธ์ที่มีชื่อเสียง และยังเป็นผู้ให้กำเนิดการแสดงละครร้องอีกด้วย
..............................................................................
 :D

ภาพที่สาม (ในความเห็นที่ 138) บุรุษชาวไทยคนตรงกลางภาพ เป็นบุคคลที่ชาวไทยรู้จักดีในฉายา "เจ้าดาราทอง" แม้แต่ชาวโลกในยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่สองก็รู้จักท่านในนาม Prince Bira
บุคคลผู้นี้คือ ......

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช พระโอรสในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช และหม่อมเล็ก ภาณุพันธุ์ ณ อยุธยา

พระองค์พีระ ทรงเป็นนักแข่งรถที่มีชื่อเสียง โดยทรงชนะเลิศการแข่งขันแข่งรถในรายการระดับโลกหลายรายการ ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศสยามในขณะนั้นเป็นอย่างมาก
................................................................................................
 ;) ;D

ตื่นขึ้นมาฝันร้าย นักเรียนตอบได้หมด   ;D
ต้องหาข้อสอบยากกว่านี้เสียแล้ว

นายทหารหนุ่มในภาพนี้คือใคร จำได้ไหมคะ   จะถามว่าผู้บังคับบัญชาที่หันหลังให้คือใครก็เกรงใจ
แต่ถ้าตอบได้ก็ตอบมาละกัน

คุณเพ็ญชมพูช่วยให้เลขหน่อยนะคะ

๕ : ๒๑  ;D

ยกภาพนี้มาอีกที  ไม่มีใครทายได้หรือคะ
ในเว็บบอกไว้เป็นภาษาอังกฤษว่าเป็นพระรูปของ เจ้าฟ้าชายวชิราวุธ  หมายถึงพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว
แต่ดิฉันคิดว่าไม่ใช่  น่าจะเป็นเด็กผู้หญิงมากกว่า

บุรุษปริศนา ประจำวันนี้

 ;D ;D

ขออนุญาตเข้าห้องสอบครับคุณครู วันนี้ผมมาสายไปหน่อย คุณครูอย่าตัดสิทธิ์ผมนะครับ  ;)

 ???

 ::)
 
:)
 140
ข้อสอบชุดนี้ยากทีเดียวครับ แต่จะขอตอบแม้ว่าจะผิด  อย่างน้อยคุณครูน่าจะให้คะแนนน้ำหมึกว่าบุรุษชายชาติทหาร (ที่หันหน้าเข้ากล้อง) ในภาพปริศนาของความเห็นที่ 140 คือ

จอมพลอากาศ เฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ

ท่านเสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินชนภูเขาขณะมียศ พลโท และได้รับพระราชทานปูนบำเหน็จเลื่อนยศเป็น จอมพลอากาศ ในภายหลัง

ภาพนี้น่าจะถ่ายในขณะที่ท่านเป็นนายทหารยศเรืออากาศเอก กำลังได้รับการประดับเหรียญกล้าหาญจากความสามารถในราชการสงครามจากชายที่ยืนหันหลัง ซึ่งก็คือ

.....จอมพลแปลก พิบูลสงคราม ครับ

 :D :D :D :D

ถูกต้องค่ะ  จอมพลอากาศเฉลิมเกียรติ
คุณเพ็ญชมพูพอจะหาข้อสอบยากกว่านี้มาได้ไหมคะ
ทายง่ายๆเดี๋ยวคนทายหมดสนุก

รูปนี้น่าจะยาก   ต้องขอเลขเด็ดจากคุณเพ็ญชมพู
อ้อ อย่าลืมทายภาพบุรุษปริศนาประจำวันนี้นะคะ

 ;) ;) ;)

โอ้โห หากคุณครูเทาชมพูหาที่ยากกว่านี้ ผมก็ไม่ไหวแล้วครับ คงได้ซ้ำชั้นกันคราวนี้เอง......

ผมขอตอบภาพปริศนาประจำวันก่อนนะครับ...

ผมรู้จักท่านเจ้าของภาพในความเห็นที่ 143 จากพระนิพนธ์ "เกิดวังปารุสก์" ที่มีชื่อเสียงของท่านนั่นเอง

ดังนั้นเจ้าของภาพจะเป็นผู้ใดไปไม่ได้หากไม่ใช่...

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ (พระนามเดิม หม่อมเจ้าพงษ์จักร จักรพงษ์) พระโอรสพระองค์เดียวใน สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ กับ หม่อมคัทริน ณ พิศณุโลก (สกุลเดิม เดสนิตสกี) ชาวรัสเซีย ครับ

..........................................

 :) ;) :D ;D

^

 :'( :-\

เข้ามายกธงขาวให้กับภาพในความเห็นที่ 146 ค้าบ

จนปัญญาจริงๆ ขอตัวช่วยหน่อยครับคุณครู แฮะ แฮะ แฮะ....

 :'( :-\

ดิฉันขยายส่วนพระพักตร์มาให้คุณ Fame ดู อาจจะพอนึกออก 
ดิฉันก็ไม่ทราบคำตอบเหมือนกัน เจ้าของภาพไม่ได้เฉลยไว้ค่ะ

ขออนุญาตเข้ามาช่วย Mr.Fameทำการบ้าน ขอทายน่ะครับ! ไม่ใช่เฉลย แค่ 2 ท่านทางซ้ายแล้วกัน

ซ้ายบน พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ ที่ต่อมาได้ทรงกรมเป็น กรมพระยาเทววงศ์วโรปการ เสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศ ทีดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุด

ซ้ายล่าง พระองค์เจ้ามานุษยนาคมานพ เจ้าชายหนุ่มสุดเนี้ยบ ที่ต่อมาทรงเป็นประมุขแห่งสงฆ์ไทย สมเด็จพระมหาสมณเจ้าพระสังฆราช กรมพระยาวชิรญาณวโรรส

ส่วนซีกซ้ายที่สวมหมวกอีก 2 ท่าน ยังคงให้เป็นภาระของคุณ Mr.Fame ต่อไปนะครับ

โอ เบลอไปแล้ว ขอแก้เป็น

ขวาบน พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ ที่ต่อมาได้ทรงกรมเป็น กรมพระยาเทววงศ์วโรปการ เสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศ ทีดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุด

ขวาล่าง พระองค์เจ้ามานุษยนาคมานพ เจ้าชายหนุ่มสุดเนี้ยบ ที่ต่อมาทรงเป็นประมุขแห่งสงฆ์ไทย สมเด็จพระมหาสมณเจ้าพระสังฆราช กรมพระยาวชิรญาณวโรรส

องค์กลางคือบุรุษปริศนา
ส่วนองค์ซ้ายกับองค์ขวาเป็นเจ้านายต่างพระองค์กัน
ท่านผู้ที่เข้ามาดูกระทู้นี้   เห็นว่าบุรุษปริศนาคือองค์ไหนกันแน่คะ

ขอฝากสักสองภาพครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์เทาชมพูที่เคารพ นานๆ จะได้แวะมาตอบ
พระฉายาลักษณ์ประทับเก้าอี้องค์ซ้าย และ บุรุษปริศนา คือ สมเด็จกรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ
องค์ยืนสวมพระมาลา ซ้าย น่าจะเป็น กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์ ขวา กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์

ขอบคุณค่ะคุณกะออม    

ส่วนภาพของคุณลุงไก่    เจ้านายเล็กๆทั้งสี่พระองค์  องค์ที่สองจากซ้ายคือสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษภูวนาถ  กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
อีกสามพระองค์    รอผู้รู้เข้ามาตอบนะคะ
ภาพใหญ่  ก็รอผู้รู้เหมือนกันค่ะ

ภาพเจ้านายพระองค์เล็กๆ ขอตอบว่าองค์ที่ประทับนั่งคือสมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ องค์ที่ประทับยืนซ้ายสุดคือ สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธค่ะ
ส่วนองค์ขวาสุดไม่ทราบจริงๆค่ะ

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5879.0;attach=46301;image)

จากซ้ายไปขวา : สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ - สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ - สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ - สมเด็จฯ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5879.0;attach=46302;image)

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศรวรฤทธิ์  ;D

รูปที่ 155  ยังไม่ยุติกันเลย
คุณเพ็ญชมพูเห็นว่าเป็นเจ้านายพระองค์ใดบ้างคะ

ขอทายพระองค์ที่ประทับพระเก้าอี้ คือ ซ้าย พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์   ขวา พระองค์เจ้ามานุษยนาคมานพ 

ส่วนอีก ๒ พระองค์ที่ทรงยืน เก็บไว้ให้คุณ Fame ทาย  ;D

การบ้านประจำวันนี้

^

เชื่อว่าคุณ Fame ตอบได้แน่นอน  ขอพ่วงการบ้านเพิ่มอีกภาพหนึ่ง  

ไม่ยากหนอ ไม่ยาก  ;D

การบ้านข้อที่สองค่ะ

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์

ภาพแรก ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช (รัชกาลที่ ๖) พระยารัษฎานุประดิษฐ์แต่งแฟนซีเล่นละครเป็น "ผู้หญิงมีหนวด"

 ;D ;D

กลับมารายงานตัวแล้วครับคุณครู...

ก่อนอื่นขอตอบการบ้านภาพปริศนาในความเห็น 162 ที่คุณครูทิ้งไว้ และท่านอื่นๆ ยังไม่ตอบ

สตรีในภาพ คือ........

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาหม่อมราชวงศ์เนื่อง สนิทวงศ์

ทรงเป็นพระเชษฐภคินี (พี่สาว) ร่วมพระราชบิดา-มารดา กับ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร

เสด็จพระองค์เยาวภาฯ ทรงสนพระทัย และมีพระปรีชาสามารถในการปรุงอาหารคาวหวานต่างๆ ที่พิเศษคือจะทรงเน้นเรื่องการปรุงอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และดีต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของตำรับอาหารสายพระองค์เยาวภาฯ ที่มีการรวบรวมตีพิมพ์เป็นหนังสืออีกด้วย

............................................

 ;) :D

ตอบละเอียดถี่ถ้วนมากค่ะ  เอา A+ ไปอีกตัว
พร้อมกับการบ้านใหม่ค่ะ

 ;D ;D

ขอบคุณคุณครูครับที่ให้การบ้านแบบตอบได้ทันใจ เพราะพอเลื่อนกระทู้ไปดูความเห็นที่ 154 ก็เห็นเจ้าของภาพปริศนาล่าสุดอยู่ในภาพนั้นด้วย

ผมก็เลยขอขี้โกงลอกคำตอบมาเลยครับ ขอตอบว่าคือ...

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเป็นพระราชโอรส (ชั้นเจ้าฟ้า) พระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี (สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี

พระองค์ทรงเป็น สยามมกุฎราชกุมาร พระองค์แรกของไทย แต่น่าเสียดายที่ทรงเสด็จสวรรคตไปก่อนจะได้รับสืบทอดราชสมบัติ

.........................................................
 ;D ;D

ตอบเร็วแทบจะให้การบ้านไม่ทัน    
รูปนี้เป็นการบ้านเกือบสุดท้ายของวันนี้ค่ะ

พระราชกุมารน้อยสองพระองค์นี้คือเจ้านายพระองค์ใดคะ?

^
การบ้าน ๒ ข้อสุดท้ายคงไม่ยากสำหรับคุณ Fame  ;)


ภาพนี้อยู่ที่ พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐมหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) (http://www.oknation.net/blog/print.php?id=881596) ที่อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง

(http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201308/29/2956fe73.jpg)

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

ขอส่งการบ้านด้วยคนครับ พระรูปเจ้านายสตรีความเห็นที่ 169 คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทิพยาลังการ พระราชธิดาในรัชกาลที่ 5 กับเจ้าจอมมารดาแส ครับ  :)

^
เก่งมากค่ะ

พระรูปนี้สรุปได้หรือยังว่าเจ้านายพระองค์ใดบ้างคะ

 ;) ;)

ขอตอบภาพพระราชกุมารปริศนาสองพระองค์ในความเห็นที่ 170 ครับ ว่า...

พระราชกุมารองค์ทางขวาคือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ทรงฉายเมื่อดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์

พระราชกุมารองค์ทางซ้ายคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่ เจ้าจอมมารดาเลื่อน (จากสกุล นิยะวานนท์)

พระองค์เจ้าอุรุพงศ์ ทรงเป็นพระราชโอรสที่รัชกาลที่ 5 ทรงสนิทเสน่หา และโปรดให้ตามเสด็จใกล้ชิดพระองค์เสมอ แม้แต่ยามเมื่อเสด็จพระราชดำเนินประพาสยุโรปก็โปรดให้ตามเสด็จด้วยทั้งสองครั้ง

แต่น่าเสียดายที่ทรงสิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่อยู่วัยรุ่นเมื่อ เดือน ก.ย. พ.ศ.2452 ซึ่งทำให้รัชกาลที่ 5 ทรงโทมนัสมาก

มีหนังสือบางเล่มกล่าวว่าเรื่องนี้ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่บั่นทอนพระสุขภาพของรัชกาลที่ 5 ให้ทรุดโทรมลงจนเสด็จสวรรคตในเดือน ต.ค.ปีต่อมา

ชื่อแยกอุรุพงษ์ ที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ตัดกับถนนพระรามหกก็มีที่มาจากพระนามของพระเจ้าลูกเธอพระองค์นี้

...



 ;D ;D

ดิฉันรู้แต่ว่าองค์ซ้ายคือเจ้าฟ้าอุรุพงศ์  แต่ไม่ทราบว่าองค์ขวาคือพระองค์ใด
คุณ Fame เฉลยมาอย่างมั่นใจก็น่าจะใช่  เอาคะแนนไปตามเคย

ขอแก้ไขคำตอบในความเห็นที่ ๑๗๑  ไม่ใช่คำตอบที่ว่า พระยารัษฎาฯ แต่งแฟนซีเล่นละคร
แต่คำตอบที่ถูกปรากฏในพระราชนิพนธ์ "จดหมายเหตุเสด็จประพาสปักษ์ใต้ ร.ศ. ๑๒๘" ว่า

“วันที่  ๑  พฤษภาคม  รัตนโกสินทร ศก ๑๒๘ (บ่าย)...
เมื่อคืนนี้การเลี้ยงพระราชทานข้าราชการ  อยู่ข้างจะเป็นการสนุกอยู่  ได้จัดตั้งโต๊ะที่ลานหน้าที่ประทับ  เป็นโต๊ะเล็กๆ  นั่งได้โต๊ะละ ๘ คน  รวม ๖ โต๊ะ  มีทั้งข้าราชการชั้นข้าหลวงและนายอำเภอที่มณฑล  ทั้งข้าราชการและมหาดเล็กในพระองค์  ได้พระราชทานตั๋วฉลากทุกๆ คน  ให้ไปขึ้นรับพะราชทานเครื่องแต่งตัวต่างๆ  ตรงตามเลขในฉลาก  เครื่องหาที่แปลกๆ นักไม่ใคร่จะได้  จึงมีที่คล้ายๆ กันอยู่มาก  ถึงกระนั้นก็นับว่าได้ดูเล่นแปลกๆ ดีพอใช้  การแต่งตัวแปลกๆ เช่นนี้  ถ้าใครไปจับได้เครื่องที่ตนแต่งเหมาะหรือสมก็ไม่ใคร่จะขัน  เช่นนายเกื้อ หรือแสงอาทิตย์   จับได้เครื่องแต่งเป็นผู้หญิงไทย  แต่งเข้าแล้วก็ดูไม่สู้จะประหลาดนัก  เพราะรูปร่างหน้าตาพอจะแต่งเป็นผู้หญิงได้  และได้เคยเห็นเล่นละครเป็นตัวผู้หญิงอยู่แล้วด้วย  แต่เจ้าคุณรัษฎา เผอิญได้เก่งจริงๆ  ใครๆ ได้พากันเสกไว้แล้วว่าขอให้จับถูกเครื่องผู้หญิง  ก็เฉพาะไปถูกเข้าจริงๆ  พอแต่งโผล่ออกมาได้ฮาใหญ่  รูปร่างช่างพีงามดีจริงๆ  แต่ดูเหมือนจะยังแพ้ผู้หญิงจริงๆ อยู่คนหนึ่งคือนายนาก   แต่ก็ไม่เลวนัก  นอกจากนี้ว่าที่จริงก็ไม่สู้จะมีใครที่ดูน่าขันมากมายอะไรเหลือเกิน  เป็นแต่อยู่ข้าจะแปลกๆ ในนัยน์ตาบ้างเท่านั้น  ครั้นแต่งตัวกันเสร็จแล้ว  ได้จับฉลากที่นั่งต้องไปนั่งให้ตรงตามฉลากที่ตนจับได้  เมื่อจะถึงของหวานได้จับฉลากเปลี่ยนที่อีกครั้งหนึ่ง”

ขอบคุณค่ะคุณ V_Mee ได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกมากเลย

การบ้านประจำวันนี้ มี 4 ภาพรวดค่ะ แต่จะแบ่งตอบก็ได้ค่ะ   ไม่ผิดกติกาอย่างใด

 :) :) :)

ขอเข้ามาทายภาพราชนารีปริศนาทั้งสี่พระองค์ครับ...

ทุกพระองค์ในภาพปริศนาของความเห็นที่ 178 มีจุดร่วมเหมือนกันคือทรงเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพียงแต่ต่างพระมารดากัน ดังนั้นจะขอตอบเรียงลำดับจากพระองค์ทางซ้ายไปขวา ดังนี้ครับ

1. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรลักษณาวดี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาสุด (จากสกุล สุกุมลจันทร์)

2. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุฑารัตนราชกุมารี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดามรกฎ (จากสกุล เพ็ญกุล)

3. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าเยาวมาลย์นฤมล กรมขุนสวรรคโลกลักษณวดี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค

4. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประเวศวรสมัย พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาทับทิม (จากสกุล โรจนดิศ)

 :D :D
............................................................

 ;D ;D

สุดแสนเสียดาย  ได้แค่ 75 คะแนน
องค์ที่ 1 ผิดค่ะ  จะสอบแก้ตัวไหมคะ คุณ Fame

ไม่น่ายากหากคุณ Fame จะลองค้นหาอีกที  ;)

ลองภาพยากดูบ้าง ใครเอ่ย  ;D

 :o ::)

มาขอแก้ตัวครับผม ผมจำผิดระหว่างพระองค์เจ้าวรลักษณาวดี กับพระองค์ที่ขอตอบ

งั้นขอตอบใหม่ว่าเป็น

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอัจฉรพรรณีรัชกัญญา พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าจอมมารดาตลับ (จากสกุล เกตุทัต)

ทรงมีพระอนุชาร่วมพระมารดา คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (พระบิดาแห่งกฏหมายไทย) องค์ต้นราชสกุล รพีพัฒน์ ครับ

..........................................................

คราวนี้คิดว่าน่าจะถูก เพี้ยงๆๆ

 ;D ;D

อย่าลืมทำการบ้านของคุณเพ็ญชมพูด้วยนะคะ
ส่วนสอบแก้ตัว-ผ่านฉลุยค่ะ

 :o :o

ตอนแรกเห็นภาพที่คุณเพ็ญชมพูนำมาให้ทายแล้วจ้องอยู่พักใหญ่ จากนั้นก็จำได้ว่าเคยเห็นที่ไหน และในที่สุดก็ถึงบางอ้อ ว่าเคยเห็นในหนังสือพระนิพนธ์ "เกิดวังปารุสก์" ของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ งั้นขอตอบเลยนะครับสำหรับภาพปริศนาในความเห็นที่ 182 บุรุษปริศนาผู้นี้คือ....

นายพุ่ม สาคร หรือ นิโคลัย พุ่มสกี้ (Nikolai Pumsky - หลังจากเปลี่ยนสัญชาติไปเป็นรัสเซีย)
 
ท่านผู้นี้เป็นนักเรียนทุนเล่าเรียนหลวงคนแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ได้รับเลือกให้ติดตาม สมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ไปศึกษาต่อวิชาการทหารที่ประเทศรัสเซีย

หลังจบการศึกษาแล้วนายพุ่มตัดสินใจไม่กลับประเทศ โดยได้โอนสัญชาติเป็นรัสเซียพร้อมเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์ นิกายออร์โธด็อกซ์ และเข้ารับราชการในกองทัพบกรัสเซียจนมียศเป็นพันเอก

เมื่อเกิดการปฏิวัติใหญ่ในรัสเซีย ท่านได้หลบหนีออกจากรัสเซียไปทำงานอยู่ที่ฝรั่งเศส จนกระทั่งพบกับพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ซึ่งได้ทรงชักชวนท่านมาพำนักอยู่ด้วย

ก่อนจะมีโอกาสกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดระยะสั้นๆ ในสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม

นายพุ่มถึงแก่กรรมที่อังกฤษ เมื่อปี พ.ศ. 2490 อายุรวม 64 ปี

.........................................................
 ปล.จากภาพที่คุณเพ็ญชมพูโพสต์ ภาพที่นายพุ่มสวมชุดสากลผูกหูกระต่ายนั้น คือภาพที่ถ่ายเมื่อครั้งเดินทางกลับมาเยี่ยมเมืองไทยในสมัยจอมพล ป. เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นช่วงบั้นปลายชีวิต

ส่วนอีกภาพ เป็นภาพนายพุ่มในวัยหนุ่มเมื่อคร้้งรับราชการทหารในกองทัพรัสเซีย ชุดที่เห็นเป็นชุดเครื่องแบบนายทหารม้าฮุสซาร์ของซาร์นิโคลาสที่ 2 ซึ่งถือว่าเป็นกรมทหารที่หรูหราที่สุดในกองทัพรัสเซียสมัยนั้น (คล้ายๆ ทหารรักษาพระองค์ของบ้านเรา)

 :D :D

คุณ Fame ตาไวจริง ๆ  ;D

นายพุ่มอยู่ยุโรปนานมาก  จนหน้าตาเหมือนฝรั่งไปเลย
ตอนไปเรียนก็หน้าตาไทยๆนี่เอง

มีโรงเรียนใหญ่ ๒ โรงเรียนแย่งตัวนายพุ่มเป็นศิษย์เก่า และนี่คือข้อมูลประวัติของนายพุ่มจากฝั่ง ชมพู-ฟ้า    (http://www.osknetwork.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1828&postdays=0&postorder=asc&start=45)  ;D

(http://www.osknetwork.com/sharefolder/chorkularb/SP32-20090225-230705.gif)

ภาพนี้รับรองยากแน่ ๆ

บุคคล ๒ ท่านในภาพคือใคร  และใครเป็นถ่ายภาพนี้   ;D

น่าจะเป็นรัชกาลที่ ๕ ทรงถ่าย และถ่ายที่หน้าพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร พระราชวังบางปะอิน

  :-\??? :'(

ยากจริงๆ ด้วยครับ.....

ขอคำใบ้ หรือตัวช่วยได้หรือไม่ครับ...

...................................................................

ขอถามคุณเพ็ญชมพูว่า เด็กทั้งสองคนในภาพเป็นเจ้านายในราชวงศ์จักรีใช่หรือไม่ ?
และมีสถานะเป็นพระราชนัดดาของรัชกาลที่ 5 ด้วยใช่หรือไม่ครับ ?

....................................................................

 ???  ???  ???  ???

 ??? ???

ขอเข้ามาแก้ไข และเพิ่มเติมคำถามครับ...

เด็กชาย (ที่กำลังถีบจักรยาน) ในภาพเป็นเจ้านายในราชวงศ์จักรีใช่หรือไม่ ?
และมีสถานะเป็นพระราชนัดดาของรัชกาลที่ 5 ด้วยใช่หรือไม่ครับ ?
ส่วนผู้ที่ถ่ายภาพนี้เป็นเจ้านายฝ่ายใน หรือเจ้าจอมท่านใดท่านหนึ่้งของรัชกาลที่ 5 ใช่หรือไม่ครับ ? (เพราะคิดว่าผู้ชายใส่หมวกตรงมุมขวาของภาพที่นั่งตั้งกล้องถ่ายภาพเด็กชายอยู่นั้นคือรัชกาลที่ 5)
..........................................................................

 ??? ???

คุณหนุ่มตอบเรื่องสถานที่ถูก  ;D


ไม่ใช่


ใช่

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

 :D :D

ขอบคุณครับคุณเพ็ญชมพูสำหรับตำตอบในความเห็นที่ 192

.............................................................................

ผมไม่แน่ใจ แต่ก็อยากจะขอลองตอบดูนะครับ....

ขอตอบว่าเด็กชายในภาพปริศนา (ในความคิดเห็นที่ 188) ที่กำลังถีบจักรยานอยู่นั้นคือ...

นายคะนัง เงาะป่ากำพร้า ที่รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้นำชุบเลี้ยงไว้ใกล้ชิดพระองค์ และได้รับพระเมตตาโปรดปรานตลอดรัชกาลครับ

แต่เมื่อขึ้นรัชกาลที่ 6  นายคะนัง (ได้รับพระราชทานนามสกุลว่า "กิราตกะ") ซึ่งเข้าสู่วัยรุ่นก็ตกอับ เพราะไม่เป็นที่ทรงโปรด ต่อมาก็กระทำตนเสเพลจากการชักชวนของมหาดเล็กหนุ่มๆ ในที่สุดก็เสียชีวิตไปด้วยโรคสตรี...

..............................................................................

ส่วนชายสวมหมวกที่นั่งถ่ายรูปเด็กชายคะนังอยู่นั้นก็คือรัชกาลที่ 5 นั่นเอง

..............................................................................

สำหรับผู้ที่ถ่ายภาพนี้ ผมขอเดาว่าเป็นหนึ่งในบุคคลสามคนนี้ ได้แก่
 1. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา
หรือ
2. เจ้าจอมเอิบ (จากสกุล บุนนาค) ในรัชกาลที่ 5
หรือไม่ก็เป็น
3. เจ้าจอม ม.ร.ว.สดับ (จากราชสกุล ลดาวัลย์) ในรัชกาลที่ 5 (ท่านนี้ผมคิดว่าเป็นไปได้น้อยที่สุด)
..............................................................................................
  :-\ :-\ :-\

จะถูกมั๊ยหนอ...

ปล.ขอแถมรูปคะนังมาให้ลองเทียบกับภาพปริศนาดูเผื่อจะใช่คนเดียวกันครับ แฮะๆๆ

 :)

 

เห็นเด็กชาย Fame ขยันทำการบ้านมาก    ปล่อยทิ้งไว้ก็จะง่วงหลับคาห้องเรียน  จึงส่งการบ้านมาให้ทำก่อนนอนอีกข้อ
ง่ายมากค่ะ  เมื่อเทียบกับการบ้านโหดของครูเพ็ญชมพู

ฝากชาวต่างประเทศสักท่านหนึ่งครับ  ;D

 :-[ :-[

ขออภัยคุณครูที่เข้ามาตอบการบ้านภาพปริศนาในความเห็นที่ 194 ช้าครับ

ดังนั้นขอแก้ตัวโดยการส่งการบ้านแต่เช้าตรู่อย่างมั่นอกมั่นใจ โดยขอตอบว่าสตรีในภาพปริศนาคือ...

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศศิพงศ์ประไพ พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าจอมมารดาจันทร์ ครับ

.............................................................................................

 :D :D
 

ผู้ตั้งกล้องถ่ายรูปคือ สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ

เห็นชาวต่างประเทศ + พระพุทธรูป และศิลปะวัตถุพร้อมหนังสือมาก ๆ คำตอบคือ ศาสตราจารย์ยอร์ช เซเดส์ (George Coedes)

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5879.0;attach=46346;image)


ไม่ใช่


ก่อนจะบอกใบ้คำตอบ อยากให้คุณ Fame กรุณาให้เหตุผลว่าทำไมนึกว่าเป็นบุคคลทั้ง ๓ ท่านนี้

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

ก่อนจะบอกใบ้คำตอบ อยากให้คุณ Fame กรุณาให้เหตุผลว่าทำไมนึกว่าเป็นบุคคลทั้ง ๓ ท่านนี้

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)
[/quote]

 ;D ;D

เหตุผลที่ผมคิดว่าผู้ถ่ายภาพเป็นท่านใดท่านหนึ่งในสามท่านนี้เนื่องจาก

1. หากเป็น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี ทรงถ่าย - เนื่องจากสมเด็จหญิงน้อยทรงเป็นพระราชธิดาของรัชกาลที่ 5 ที่ประสูติแต่พระวิมาดาเธอฯ โดยที่พระวิมาดาเธอฯ ทรงเป็นผู้ที่รัชกาลที่ 5 มอบให้เป็นผู้เลี้ยงดู อบรมคะนัง คะนังจึงเรียกพระวิมาดาเธอว่าคุณแม่ และพลอยนับเอาพระราชโอรสธิดาที่ประสูติจากพระวิมาดาเธอฯ ว่าเป็นพี่ไปด้วย จึงคงจะทรงสนิทคุ้นเคยกับคะนัง อีกประการหนึ่งผมคิดว่าในบรรดาพระราชโอรสธิดาที่ประสูติแต่พระวิมาดาเธอฯ องค์ที่น่าจะมีพระปรีชาในการถ่ายรูปก็น่าจะเป็นสมเด็จหญิงน้อยพระองค์นี้ (ทรงเป็นราชเลขานุการิณีของรัชกาลที่ 5)

2. หากเป็น เจ้าจอมเอิบ เป็นผู้ถ่าย - เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าคุณจอมในกลุ่มเจ้าจอมก๊กออท่านนี้มีความสนใจ และมีความสามารถในการถ่ายภาพ โดยอาจถือได้ว่าเป็นฝ่ายในท่านแรกๆ ที่สามารถถ่ายภาพได้ จนอาจกล่าวได้ว่าท่านเป็นช่างภาพมือสมัครเล่นประจำราชสำนักฝ่ายใน

3. หากเป็น เจ้าจอม ม.ร.ว.สดับ เป็นผู้ถ่าย - เนื่องจากคุณจอมสดับท่านมีศักดิ์เป็นหลานสาว และอยู่ในพระอุปการะของพระวิมาดาเธอฯ และต่อมาก็ได้ถวายตัวเป็นเจ้าจอมในรัชกาลที่ 5 ด้วย คงจะมีความสนิทคุ้นเคยกับคะนังซึ่งอยู่ในพระอุปการะของพระวิมาดาเธอฯ เช่นกัน ประกอบกับผมเคยทราบเลาๆ  (อันนี้ไม่แน่ใจว่าข้อมูลถูกหรือไม่) มาว่าคุณจอมสดับเองก็พอมีความรู้ในการถ่ายภาพเช่นกัน
แต่ผมก็ยังคิดว่ามีความเป็นไปน้อยที่สุดที่จะเป็นท่านผู้นี้ เนื่องจากคุณจอมสดับน่าจะมีอายุไล่เลี่ยกับคะนัง คืออาจมากกว่าประมาณ 3-4 ปีเท่านั้น และจากในภาพหากเด็กชายที่กำลังถีบจักรยานเป็นคะนังจริงขณะนั้นคงยังเด็กมากอาจอายุประมาณไม่เกิน 10 ขวบ ซึ่งคุณจอมสดับก็คงอยู่ในวัยประมาณ 13 - 14 ปีเท่านั้น ยังไม่น่าจะเรียนรู้การถ่ายภาพในช่วงนั้น (แต่ก็ไม่แน่เช่นกัน)

ครับ นี่คือเหตุผลที่ผมเดาว่าทั้งสามท่านนี้เป็นผู้ถ่ายภาพปริศนานี้ครับ....

..................................................................
 :-[ :-[

การบ้านที่ส่งตอนเช้าตรู่ได้ A ไปอีกครั้งแล้ว
หลังตอบคำถามคุณครูเพ็ญชมพูแล้ว   ค่อยมาทำการบ้านง่ายๆข้อนี้อีกครั้งนะคะ
พระราชกุมารีและพระราชกุมารน้อยในรูปเหล่านี้มีพระนามว่าอะไร

^
ไม่ยากหนอ  ;)

อ่านเหตุผลที่คุณ Fame ตอบมาน่านับถือในความเป็นนักอ่านผู้รอบรู้  คำใบ้ที่จะให้สำหรับชื่อผู้ถ่ายภาพคือ คนังเรียกท่านผู้นี้ว่า "ดาบ"

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

มาใบ้เพิ่ม   ดูในกระทู้เก่าก็มีนะคะ ว่า"ดาบ" คือใคร
ลองใช้ "ค้นหา" ของเรือนไทยดูค่ะ

ภาพที่ส่งมาให้คราวนี้   ง่ายที่สุด

พ.ศ. ๒๔๑๑  ;D

พ.ศ. ๒๔๑๗  ;) ;) ;)

ปัญหาภาพนี้
มาจากหนังสือศิลปวัฒนธรรมเล่มเก่า
มีภาพนี้จากคอลัมของคุณเอนก

(ประมาณปี 2531  อาจารย์เทาชมพู
เขียนเรื่องนามสกุลพระราชทานไว้ด้วย)

 :o ::)

กลับเข้ามาอีกที การบ้านจากคุณครูทั้งสองกองพะเนินเลย ยังไงจะรีบเคลียร์ให้ไวที่สุดนะครับคุณครู

ก่อนอื่นๆ ต้องขอตอบการบ้านของคุณเพ็ญชมพูที่ถามถึงผู้ถ่ายภาพปริศนาที่ 188 ว่าเป็นผู้ใด ซึ่งท่านก็ได้ช่วยใบ้มาให้ว่าเป็นผู้ที่คะนังเรียกว่า "ดาบ"

ซึ่งท่านผู้นั้นก็คือ เจ้าจอม ม.ร.ว.สดับ (จากราชสกุล ลดาวัลย์) ในรัชกาลที่ 5 นั่นเองครับ....

.................................................................
 ;D ;D ;D  :D :D :D  ;) ;) ;)  :) :) :)

คำบรรยายภาพปริศนาภาพนี้บอกว่าประมาณค.ศ.  1898 คือพ.ศ. 2411

ขอแสดงความยินดีที่คุณ Fame สามารถไขปัญหาข้อสุดท้ายของภาพนี้ได้ถูกต้อง  ภาพนี้อยู่ในหนังสือ "ศรุตานุสรณ์"

(http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2012/05/K12131630/K12131630-1.jpg)

ประกอบอยู่ในบทความ "เรื่องของนายคนังมหาดเล็ก" เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ในรัชกาลที่ ๕ เรียบเรียง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๓  คุณศรีเวียงปิงได้คัดบทความนี้จากวารสารศิลปวัฒนธรรม ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๓ ม.ค. พ.ศ. ๒๕๒๗  ตอนที่กล่าวถึงชื่อที่คนังเรียกชาววังมีดังนี้


หมายเหตุ ได้แก้ไขข้อความที่คุณศรีเวียงปิงคัดมาให้ตรงกับบทความในหนังสือแล้ว

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

คำบรรยายภาพในหนังสือ มีดังนี้

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5879.0;attach=46346;image)

พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงกำลังทรงถ่ายภาพคนัง
ที่หน้าพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร พระราชวังบางปะอิน
(เจ้าจอม ม.ร.ว.สดับ ถ่าย)

 ;D :D ;)

 :D :D

จะขอเข้ามาตอบภาพปริศนา 4 ภาพของคุณครูเทาชมพูในความคิดเห็นที่ 201 ครับ....

ต้องบอกก่อนว่าพระราชกุมาร และพระราชกุมารีทั้งหมดที่เห็นในภาพมีสามสิ่งที่เหมือนกันครับ คือ

1. ล้วนแต่เป็นพระราชโอรสพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 (แต่ต่างพระมารดากัน)

2. ทุกพระองค์ต่างมีพระชนมายุสั้น สิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ทั้งสิ้น

3. ทุกพระองค์ต่างมีพระยศชั้น "เจ้าฟ้า"

...
เกริ่มาเยอะ ขอตอบ โดยเรียงลำดับจากซ้ายไปขวา จากบนลงล่างนะครับ

พระองค์แรก (บนซ้าย) คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านภาจรจำรัสศรี ภัทรวดีราชธิดา พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา สิ้นพระชนม์เมื่อพระชันษา 5 พรรษา

พระองค์ที่สอง (บนขวา) คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าศิราภรณ์โสภณ พิมลรัตนวดี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า สิ้นพระชนม์เมื่อพระชันษา 9 พรรษา
พระองค์ทรงเป็นพระเชษฐภคินี (พี่สาว) ร่วมพระราชบิดา-มารดาของ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ( สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์) จึงทรงมีศักดิ์เป็นพระราชปิตุจฉา (ป้า) ของรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 อีกด้วย

พระองค์ที่สาม (ล่างซ้าย) คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย ประไพพรรณพิจิตร์ นริศรราชกุมารี กรมพระเทพนารีรัตน์ พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สิ้นพระชนม์เมื่อพระชันษา 8 พรรษา
พระนามของพระองค์เป็นที่มาของชื่อย่าน และชื่อถนน "พาหุรัด"  และยังทรงเป็นพระเชษฐภคินี (พี่สาว) ร่วมพระราชบิดา-มารดากับรัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 7 อีกด้วย

พระองค์ที่สี่ (ล่างขวา) คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าตรีเพ็ชรุตม์ธำรง พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ สิ้นพระชนม์เมื่อพระชันษา 6 พรรษา
พระองค์ทรงเป็นพระอนุชา (น้องชาย) ร่วมพระราชบิดา-มารดากับสมเด็จเจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัยฯ (ในภาพที่สาม) และรัชกาลที่ 6 และเป็นพระเชษฐา (พี่ชาย) ร่วมพระราชบิดา-มารดากับรัชกาลที่ 7

..........................................................................................

  ;) ;) ;)

คำตอบในคห. 211   
v
v
v

ขอเวลานอกชั่วคราวค่ะ    เชิญท่านอื่นๆสนุกกันไปก่อน

ขอเชิญทุกท่านเข้ามาสนุกกับภาพนี้

ทั้ง ๕ ท่านนี้คือใครบ้าง  ;D

แถวล่าง ซ้าย สมเด็จฯเจ้าฟ้าเยาวมาลย์นฤมล  ขวา พระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฎฯ
แถวบน จากซ้ายไปขวา เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์ สมเด็จฯเจ้าฟ้ามาลินีนภดารา สมเด็จฯเจ้าฟ้านิภานภดล ค่ะ

คุณรัตนานุชตอบถูกทุกท่าน แต่มีข้อติงบางประการเรื่องชื่อ



(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

ภาพนี้คงยากขึ้นมาหน่อย

๑. บุคคลทั้ง ๕ คือใครบ้าง

๒. รถยนต์คันนี้ชื่อว่าอะไร

๓. ใครเป็นผู้ถ่ายภาพนี้

ขอให้สนุกในการหาคำตอบ  ;D  :D  ;)

ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำค่ะ คุณเพ็ญชมพู

รูปของคุณเพ็ญมันเบลอ เห็นหน้าไม่ชัดค่ะ

ถามคุณเพ็ญฯ มีเจ้าจอมก๊ก อ. ประทับอยู่ด้วยใช่ไหม  :D

ไม่ใช่  ;)

คนที่เขียนชื่อเจ้าจอม ตามด้วยสกุลเดิมของท่าน   ย่อมเป็นที่เข้าใจว่าผู้เขียนมีความประสงค์จะบอกให้รู้ว่าเจ้าจอมท่านนั้นมาจากสกุลใด   ไม่ได้หมายความว่าท่านยังใช้นามสกุลนั้นอยู่ทั้งที่เป็นเจ้าจอมแล้ว  เพราะมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

ถ้าคุณรัตนานุชไม่อยากถูกตำหนิ   ก็อาจจะใช้คำว่า "เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ จากราชสกุลลดาวัลย์" "เจ้าจอมเอิบ จากสกุลบุนนาค"  คุณเพ็ญชมพูคงไม่ว่ากระมังคะ

รถคันเดียวกันหรือเปล่า?

เหมือนกันมั้ยหนอ  ;)

น่าจะใช่หนอ
ถ้าใช่ ก็คือรถพระที่นั่ง แก้วจักรพรรดิ   ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์

รถคันแรกที่คนไทยนำเข้ามา ปรากฏหลักฐานว่า ในปี พ.ศ. ๒๔๔๔ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ทรงประชวร  เสด็จไปรักษาพระองค์ที่กรุงปารีส  และได้สั่งซื้อรถเดมเลอร์  รุ่นปี ค.ศ. ๑๙๐๑ จากตัวแทนจำหน่ายที่ฝรั่งเศสและนำเข้ามากรุงเทพฯ ในปลายปีนั้น  นำขึ้นทูลเกล้าถวายพระราชบิดา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ โปรดรถพระที่นั่งคันนี้มาก เพราะสะดวกสบายและเดินทางได้เร็วกว่ารถม้า นับเป็นรถยนต์พระที่นั่งคันแรกในประวัติศาสตร์  ต่อมาจึงโปรดเกล้าฯ ให้กรมหลวงราชบุรีฯ สั่งเข้ามาอีกคันหนึ่ง จากผู้ผลิตในเยอรมันโดยตรง

รถพระที่นั่งคันใหม่ยี่ห้อเดิม  แต่ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “เมอร์เซเดสเบนช์” รุ่นปี ค.ศ. ๑๙๐๕ สีแดง  เครื่องยนต์ ๗๒ แรงม้า ๔ สูบ เดินหน้า ๔ เกียร์ ถอยหลัง ๑ เกียร์ ความเร็ว ๔๖ ไมล์ต่อชั่วโมง แต่ขณะเทน้ำมันจากปี๊บเติมรถนั้น  ได้เกิดไฟไหม้หายไปแถบหนึ่ง หลังจากซ่อมแล้ว จึงเข้าประจำการเป็นรถพระที่นั่งคันที่ ๒  พระราชทานนามว่า “แก้วจักรพรรดิ”


จาก เว็บของหอจดหมายเหตุอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ  (http://haab.catholic.or.th/PhotoGallery/photos/cars/cars.html)

ที่ไม่เหมือนกันทีเดียว อาจเป็นเพราะในภาพปริศนาเป็นรถหลังจากซ่อมแซมแล้ว  ;D  :D  ;)  

สตรีทั้งสี่ในรถ คือเจ้านายฝ่ายใน    มิใช่เจ้าจอม
พระวิมาดาและพระราชธิดาทั้งสามหรือมิใช่
คนที่อยู่ด้านหน้าของรถคือคะนัง

โปรดระบุนามตามหมายเลข  ;D

หมายเลข 3 

หมายเลข 5

อีก 3 ไม่รู้ว่าองค์ไหนค่ะ

ขอร่วมทายโดยเปรียบเทียบเค้าพระพักตร์จากภาพปริศนากับภาพหมู่ที่ฉาย 5 องค์

ทายตามหมายเลขที่อาจารย์เทาชมพูmarkไว้ในภาพ

 1 สมเด็จเจ้าฟ้ามาลินีนพดารา

 2 สมเด็จเจ้าฟ้าเยาวมาลยนฤมล

 3 พระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ

 4 สมเด็จเจ้าฟ้านิภานพดล

 5 คะนัง

 สำหรับผู้ถ่ายภาพถ้าไม่ใช่เจ้าจอมสดับ ก็น่าจะเป็นในหลวงรัชกาลที่ 5

ทายตามหมายเลขที่คุณเพ็ญชมพูmarkไว้ในภาพ

ดูจากแอ๊คชั่นของผู้ที่เป็นแบบและพร็อพที่เอามาเข้าฉากแล้ว น้ำหนักน่าจะอยู่ที่ในหลวงรัชกาลที่ 5

ข้อ ๑ คุณเทาชมพูตอบถูก ๒ ท่าน  ส่่วนคุณ Jalito ตอบถูก ๔ ท่าน

ข้อ ๒ คุณเทาชมพูตอบถูก

ข้อ ๓ คุณ Jalito ตอบว่า "น่าจะ" เลยยังต้องรอคอตอบ "ฟันธง"

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

เอาละ ถืงนาทีนี้แล้วฟันธงเลยละกัน

 ข้อ 1    1 สมเด็จเจ้าฟ้ามาลินีนพดารา

           2 เจ้าจอม ม.ร.ว.สดับ

           3 พระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ

           4 สมเด็จเจ้าฟ้านิภานพดล

           5 คะนัง

 ข้อ 2    อาจารย์เทาชมพูตอบถูกไปแล้ว

 ข้อ 3    ในหลวงรัชกาลที่ 5 เป็นผู้ถ่ายภาพนี้

           

ภาพนี้ (และภาพหมู่อีกภาพก่อนหน้านี้) อยู่ในหนังสือ "ศรุตานุสรณ์" ประกอบบทความเรื่อง "พระจรรยาของพระวิมาดาเธอฯ กรมพระสุทธาสินีนาฏ" (http://www.archive.ssru.ac.th/document/384.pdf) โดย เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ในรัชกาลที่ ๕

บรรยายภาพไว้ดังนี้

พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ทรงถ่ายขณะที่พระวิมาดาเธอฯ ประทับบนรถพระที่นั่งแก้วจักรพรรดิ์ รถยนต์คันแรกของเมืองไทย

จากซ้าย สมเด็จเจ้าฟ้ามาลินีนพดารา, เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ, พระวิมาดาเธอฯ, สมเด็จเจ้าฟ้านิภานพดล และ คนังมหาดเล็ก

ข้อมูลเรื่องรถพระที่นั่งแก้วจักรพรรดิที่ว่าเป็นรถยนต์คันแรกของเมืองไทย อาจคลาดเคลื่อนไปบ้าง

คุณ Jalito  เก่งจริง ๆ  ;D

ภาพนี้น่าจะง่าย  คุณเพ็ญชมพูใบ้คำได้สบายมากค่ะ

ภาพในความเห็นที่ 239

ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี
ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์) พ.ศ 2528 (ปีแรก)

มีภาพให้ทายครับผม  ;D

ถูกต้องค่ะ

ดิฉันไม่เคยเห็นสตรีในชุดพยาบาลที่คุณเทพกรนำมาทายเลย   ต้องยกให้ท่านอื่นทาย
รูปนี้น่าจะทายไม่ยาก   ชายหญิงในรูปคือใครคะ

พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้ากฤษดาภินิหาร กรมพระนเรศรวรฤทธิ์ กับ เจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่น

เฉลยภาพปริศนา ในความคิดเห็นที่ 241 ครับ
(ท่าจะยากจริง ๆ แฮะ ๆ ๆ)  :-\

ตอบความเหฌนที่ ๒๔๓ ครับ
มหาเสวกเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศวรฤทธิ์ กับเจ้าจอมมารดากลิ่น ในรัชกาลที่ ๔

ถูกต้องทั้งคุณกิ๊กและคุณวีมีค่ะ

ภาพของคุณเทพกรยากมาก     ดิฉันเสนอภาพที่ตอบง่ายกว่านี้ดีกว่าค่ะ
สุภาพสตรีท่านนี้คือใคร

ยายของคุณตั้น  ;)

ฝรั่งคนนี้คือใครครับ?

ภาพท่านผู้หญิงประเทือง คชภักดี นางพยาบาลผู้ถวายพระประสูติกาลสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร อดีตกรรมการอำนวยการสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย  ธิดาพระยาผลากรนุรักษ์ (อิ่ม เกาไศยนันท์)  ภริยาพันเอกนายแพทย์เยื้อง คชภักดี อดีตแพทย์ใหญ่ กองทัพภาคที่ ๓ อดีตหัวหน้ากองแพทย์ กรมการแพทย์ทหารบก  ที่คุณเทพกรนำมาแสดงอยู่ใน หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพท่านผู้หญิงประเทือง คชภักดี ท.จ.ว., ท.ช., ท.ม. (https://www.facebook.com/media/set/?set=a.579323298817623.1073742170.114817521934872&type=1) ณ  เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร วันที่ ๒๖ เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เวลา ๑๗.๐๐น.

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

สตรีท่านนี้ คือผู้ใดครับ

ใบ้ให้ว่าเป็นมารดาของ องคมนตรียศนายพล ท่านหนึ่ง

รูปใน คห.ที่ 248 ของอาจารย์เทาชมพู

"ท่านผู้หญิงเภา" หรือ ท่านผู้หญิงวิยะดา(ราชวัลลภานุสิษฐ์)กฤดากร ณ อยุธยา

อีกซักรูปนะครับ

บุรุษท่านนี้ มีบรรดาศักดิ์ที่ "พระยา"

มีอายุยืนถึง 97 ปี

สืบเชื้อสายชาวจีน และเป็นเจ้าเมืองทางใต้ฝั่งอันดามัน

เป็นคุณตาของ ท่านผู้หญิงสุประภาดา  เกษมสันต์ ณ อยุธยา

เป็นสตรีคนเดียวกับในภาพข้างล่าง  ;D

คุณตาของ ท่านผู้หญิงสุประภาดา  เกษมสันต์ ณ อยุธยา เมื่ออายุ ๙๐ ปี  ;D

ตอบความเห็นที่ ๒๕๔ ปละ ๒๕๖
บุคคลในภาพคอ พระยาประดิพัทธภูบาล (คอยู่เหล  ณ นคร) 

แก้ไขนามสกุลให้คุณวีมี จาก "ณ นคร" เป็น "ณ ระนอง"

คุณวีมีคิดว่าท่านยืนอยู่เคียงข้างผู้ใด   ;D

ตอบภาพปริศนาในความคิดเห็นที่ 252 และ 255
สุภาพสตรีในภาพคือ ท่านผู้หญิงอุศนา ปราโมช ณ อยุธยา
มารดาของ พลเรือเอก หม่อมหลวงอัศนี ปราโมช
องคมนตรี และศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล) พ.ศ. 2537 ครับ :D

ท่านผู้หญิงสุประภาดา เป็นม.ร.ว.โดยกำเนิด อยู่ในราชสกุลเกษมสันต์  ไม่ต้องใช้ ณ อยุธยา ต่อท้ายค่ะ

ขอบพระคุณ คุณเพ็ญชมพูที่กรุณาแก้ไขนามสกุลท่านเจ้าคุณให้ครับ  สงสัยจะเมาหมัดไปหน่อยเลยพิมพ์นามสกุลท่านผิด
ที่ถามว่าท่านยืนอยู่กับใคร  ดูจากการคล้องแขนแล้วน่าจะเป็นหม่อมคล้อง  เกษมสันต์ ชายาหม่อมเจ้าชัชวลิต  เกษมสันต์ ซึ่งเป็นธิดาของท่าน

ใช่ไหมหนอ  คุณฤทธีคงให้คำตอบได้  ;)

ทายง่ายๆอีกภาพหนึ่งค่ะ

บุคคลที่คล้องแขนท่านเจ้าคุณ หาใช่ หม่อมคล้อง บุตรีของท่านเจ้าคุณแต่อย่างใดไม่ขอรับ

แต่เป็น......................(คาดว่า คงจะทราบได้อย่างแน่แท้ทีเดียวเชียวขอรับ)

รูปของท่านอาจารย์เทาชมพู

คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

ส่วนสตรีที่ยืนด้านหลัง คงเป็นพระธิดา องค์ใดองค์หนึ่งของกรมพระยาดำรงฯ ไม่แน่ใจระหว่าง ท่านหญิงพัฒนายุ กับ ท่านหญิงพิไลยเลขา

ดูภาพชัด ๆ  ;D

ได้เห็นรูปชัดๆ เลยขอตอบอย่างไม่ต้องสงสัยว่า คือ "ท่านหญิงพูน" หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย  ดิศกุล

.......................

องค์ขวาคือหม่อมเจ้าพูนพิสมัย  แต่องค์ซ้ายดิฉันไม่ทราบว่าเป็นใคร
ใครทราบบ้างคะ

^

ดูไม่ออก  ใครจะช่วยชี้ขาดได้บ้าง

ใครจำเจ้าของภาพได้บ้างคะ

ป.ล.อยากรู้ว่ารูปนี้ คุณเพ็ญชมพูจะใบ้คำว่าอะไร

^
คำตอบอยู่ใน "กบฎบวรเดช หน้า ๑๖"   ;D

ใครหนอ รอคำตอบ  ;)

ละม้ายคล้ายคลึงกับสมเด็จพระบรมราชชนกมากครับ

 :D

มีมาให้ทายบ้างค่ะ

สมเด็จกรมพระ พระองค์เดียวของไทย?

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5879.0;attach=46716;image)

ตอบความเห็นที่ ๒๗๖ ของคุณครูใหญ่ครับ
ท่านผู้นั้นคือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัตนวิศิษฏ์  ผู้ทรงเป็นต้นราชสกุล สวัสดิวัตน์ ครับ

ถูกต้องทุกคำตอบค่ะ

คำเฉลยอยู่ในหนังสือ "ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๕๐ เรื่อง ตำนานเมืองระนอง" (http://www.digitalrarebook.com/index.php?lay=show&ac=cat_show_pro_detail&pid=86736)  ;D

ขอบคุณมากครับที่เอาภาพพร้อมคำบรรยายมาเสริม
ผมสงสัยนิดหนึ่งว่าทำไมสมเด็จกรมพระสวัสดิฯ นุ่งผ้าแปลกๆ คล้ายกระโปรง
ผ้านุ่งอย่างนี้เรียกว่าอะไรครับ

เป็นฉลองพระองค์สำหรับพระบรมวงศ์ที่ได้ทรงกรมครับ

ท่านนี้ คือบุคคลใดเอ่ย

ใบ้ให้ว่า เป็นพระอนุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้า สายรัชกาลที่ 4 มีพระชนม์ยืนมาก

ตอบความคิดเห็นที่ 284

ท่านในภาพคือ หม่อมเจ้าภัคยพันธุ์ เกษมสันต์ สิ้นพระชนม์เมื่อพระชันษา 101 ปี

 :)

ถูกต้องเลยครับ

เจ้านายชั้น หม่อมเจ้า พระองค์นี้คือใครเอ่ย

สืบจากสายรัชกาลที่ 4 ครับ

มีพระชันษายืนเช่นกัน

ใบ้ให้ว่า เป็นพระราชธิดาในรัชกาลที่ 4 มีพระนามที่ไพเราะมากพระองค์หนึ่ง

และก็มีพระชันษายืนเช่นกัน

องค์เดียวกันใช่ไหมคะ

ใครจำได้บ้างว่าหนุ่มรูปหล่อคนนี้คือใคร

ที่อาจารย์ เทาชมพู นำรูปมาเทียบเคียง ยังไม่ใช่ขอรับ

พระองค์ด้านขวาคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวาปีบุษบากร

ถ้านับสายกันจริงๆ ก็ทรงเป็นเสด็จอาของพระองค์เจ้าวาปีฯ

ใช่คุณครรชิต  ขวัญประชาหรือไม่ขอรับ อาจารย์

ไม่ใช่คุณครรชิต ขวัญประชา ค่ะ
รอคุณเพ็ญชมพูมาใบ้ก็ได้ ว่าใคร

"นาวิน" ทหารเรือมาแล้ว  ;D

มานพ อัศวเทพ

จากภาพยนต์ ละครเร่ จองอัศวินภาพยนต์ เป็นภาพยนต์เรื่องแรกของคุณมานพ

มั่นใจ 95 เปอร์เซ็นต์ เผื่อทำใจไว้ 5 แล้วกันครับ

ตอบรูป ค.ห ที่ 292  ท่านข้างหลัง คุณชรินทร์ นันทนาคร ท่านที่อยู่ข้างหน้า คุณมานพ อัศวเทพ คะ (เดาคะ)

หาภาพมาเทียบ คาดว่า น่าจะใช่ คุณมานพ  อัศวเทพ

288  พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวาณีรัตนกัญญา พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาแก้ว

มานพ อัศวเทพ  ถูกต้องค่ะ

มานพ อัศวเทพ มีชื่อจริงคือ  วิริยะ จุลมกร เกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๐ จบการศึกษาจากโรงเรียนจ่าทหารเรือที่สัตหีบ รับราชการเป็นทหารเรืออยู่ที่กองบัญชาการทหารสูงสุดและเป็นพลขับประจำตัวของจอมพลถนอม กิตติขจร โดยได้รับตำแห่น่งยศพันจ่าเอก ก่อนเข้าสู่วงการโดยบังเอิญในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ด้วยการพบกับ สนาน คราประยูร เจ้าของนครพิงค์ภาพยนตร์ ที่ร้านตัดผม โดยใช้ชื่อในวงการบันเทิงว่า นาวิน เทพโยธี

ข้อมูลจาก คุณวิกกี้ (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E_%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%A8%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E)  ;D

เอาภาพทายง่าย มาให้ดูอีกครั้งค่ะ

บิดาแห่งภาพยนตร์ไทย    ;)

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทองแถมถวัลยวงศ์ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ

เฉลย ในคห.ที่ 288 นะครับ

เจ้านายในภาพคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวาณีรัตนกัญญา พระราชธิดาในรัชกาลที่ 4ครับ

คุณกะออม ตอบถูกต้องแล้วครับ

ถามบ้าง ใครเอ่ย

สำหรับคุณเทพกรคงตอบได้ไม่ยาก จึงขอเพียงคำใบ้ก็พอ  ;)

ภาพสตรีที่คุณเพ็ญชมพูนำมาให้ทายนั้น คือ ด.ญ.จงกล  จบกระบวนยุทธ

ซึ่งต่อมา ก็คือ ท่านผู้หญิงจงกล  กิตติขจร

กำลังจะหารูปท่านผู้หญิงมาทายอยู่ทีเดียว โดนปาดหน้าไปแล้ว
นำรูปนี้มาแทนค่ะ  ใครเอ่ย?

นางเอกหนังไทยคนแรก  ;D

คุณเพ็ญชมพู ใบ้มาซะขนาดนี้

คงไม่พ้น นางเอกหนังไทยเรื่อง นางสาวสุวรรณ

นำแสดงโดย นางสาวเสงี่ยม  นาวีเสถียรล่ะ ขอรับ

..........................

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

หลวงภรตกรรมโกศลกลับสู่วงการอีกครั้ง เมื่อรับบทเป็นหุ่นเจ้าคุณปู่นั่งเก้าอี้โยก ในภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่องห้องหุ่น ของดาราฟิล์ม  พ.ศ.2519 ที่คุณมลฤดี ยมาภัย ยังเป็นดาราเด็ก แสดงนำด้วย

ส่งมาให้อีกรูปหนึ่งค่ะ

ป.ล.คุณเพ็ญ   ที่ใบ้มาก่อนๆหน้านี้น่ะ    น่าจะเรียกว่าบอกข้อสอบนะคะ   ใบ้ให้ยากกว่านี้หน่อยซี

รูปข้างบนนี้ตอบได้ค่ะ  เป็นภาพของคุณจีรนันท์ เศวตนันท์ค่ะ นางสาวไทยปี พ.ศ. 2508 และ รองอันดับ 2 ในการประกวดนางงามจักรวาล 1966

เกิดไม่ทันนะคะ  แต่มีรุ่นน้องในชมรมเป็นลูกสาวคุณจีรนันท์ค่ะ เรายังเคยแซวกันว่าคุณแม่สวยขนาดนี้แล้วลูกสาวล่ะ


http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=beauty-queen&month=07-2008&date=28&group=4&gblog=43

ว่าจะใช้ข้อมูลของคุณเทาชมพูใบ้อยู่เชียว  ;D

เจ้านายพระองค์ใดบ้างคะ

พระรูปหมู่พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๕ ฉายที่ประเทศอังกฤษ พ.ศ. ๒๔๔๔  ;D

ไม่ใบ้แล้วหรือคะ?

ขออภัย  :-[

พระองค์ที่ ๕ ในรูปหมูของคุณเทาชมพูนี้ บางเว็บบรรยายว่าคือ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์

เช่นเดียวกับในพระรูปหมู่นี้


คุณวีมีกรุณาให้ข้อมูลไว้ดังนี้


(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

นอกจากในหลวงแล้ว มีใครบ้างหนอ  ;)

ท่านแรกเบื้องซ้ายพระปฤษฏางค์ = เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ (จิตร ณ สงขลา)
ท่านแรกเบื้องขวาพระปฤษฏางค์ = สมเด็จกรมพระยาชัยนาท

ท่านอื่นๆ จนปัญญาครับ

ไม่เคยเห็นภาพนี้มาก่อน จึงขออนุญาตใช้คำว่า น่าจะ

ช่วงเวลาในภาพน่าจะเป็น มี.ค.ถึง พ.ค.๒๔๙๓ เสด็จนิวัติประเทศไทยแล้ว แต่ก่อนพระราชพิธีถวายพระเพลิงรัชกาลที่ ๘ เพราะยังสวมปลอกแขนทุกข์อยู่

บุคคลที่ยืน ๒ ท่านตรงกลาง ขอทายว่า เป็นคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรรมพระยาชัยนาทนเรนทร และ พระยามานวราชเสวี(ปลอด วิเชียร ณ สงขลา)

อีก ๓ ท่านทางด้านซ้ายและ ๓ ท่าน คาดกระบี่และประดับสายยงยศ น่าเป็นนายทหารราชองครักษ์

๒ ท่านซ้ายสุด เป็นนายทหารเรือ (สวมรองเท้าขาวกับเครื่องแบบปกติขาว เพิ่งเปลี่ยนเป็นรองเท้าดำเมื่อไม่กี่ปีนี่เอง)

ขอทายว่า นายทหารเรือราชองครักษ์ท่านที่สองจากซ้ายคือ พลเรือเอก ม.จ.กาฬวรรณดิศ ดิศกุล

ส่วนท่านอื่นๆที่เหลือยังคงมืดอยู่

ขออนุญาตแก้ไขครับ

...บุคคลที่ยืน ๒ ท่านตรงกลาง ขอทายว่า เป็นคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร และ พระยามานวราชเสวี(ปลอด วิเชียร ณ สงขลา)

อีก ๓ ท่านทางด้านซ้ายและ ๓ ท่านทางด้านขวา คาดกระบี่และประดับสายยงยศ น่าเป็นนายทหารราชองครักษ์...

^
คุณ Jalito ทายถูก 2 ท่านค่ะ

คำตอบนี้ยังไม่ถูกต้อง  ;D

ใครก็ได้ช่วยด้วยครับ!!

คำตอบอยู่ในหนังสือเล่มนี้  ;D

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5879.0;attach=46844;image)

1  นาวาอากาศโทอุสาห์ ชัยนาม
2  นาวาอากาศเอกเพิ่ม ลิมปิสวัสดิ์
3  พลเอกชลอ จารุกลัส
4  ทายแล้ว
5  ทายแล้ว
6  พระศิลปศาสตราคม

อีกสองท่านทางขวาสุด ยกให้คุณเพ็ญชมพูตอบ

ภาพนี้ใครทายถูก ถือว่าเก่ง

(http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/06/K6663855/K6663855-28.jpg)

สุทธิจิตร วีระเดชกำแหง ในบท จ่าโขลน จาก สี่แผ่นดิน เวอร์ชั่น "หม่อมน้อย" หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล พ.ศ. ๒๕๔๖

http://www.youtube.com/watch?v=fAgDWG1UV3k&list=PL789D8F0D65CD242F

หยุด !" เสียงใครคนหนึ่งร้องราวกับฟ้าผ่า "หยุดเดี๋ยวนี้ ! กลับมานี่ก่อน !" เสียงนั้นร้องสำทับมาอีก

พลอยวิ่งมาถึงตัวแม่ และด้วยอารามตกใจ จะวิ่งเลยไปอีก แต่แม่คว้าแขนพลอยไว้ แล้วร้องถาม ด้วยความตกใจว่า

"พลอย ! อะไรกันลูก ! หยุดก่อน ลูกไปทำอะไรมา !" แต่แล้วแม่ก็เข้าใจทันที ทรุดตัวลงนั่งกอดพลอยไว้ แล้วหัวเราะจนน้ำตาไหล

"พลอย !" แม่พูดพลางหัวเราะพลาง "นี่ไปเหยียบธรณีประตูวังเข้าแล้วสิ แม่ก็เผลอไปเองไม่ทันดู" แล้วแม่ก็หัวเราะต่อไปอีก อย่างขบขันเสียเต็มประดา

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

ส่วนภาพนี้ใครทายได้ ถือว่าเก่งกว่า  ;)

ภาพนี้เป็นภาพของท่านผู้ใดขอรับ?  ;D

พระบำราศนราดูร (นายแพทย์บำราศ เวชชาชีวะ) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขค่ะ

เจ้านายในภาพ คือพระองค์ใดครับ

เฉลยภาพใน คห.287

คือ หม่อมเจ้าหญิงวิมลมาศ เกษมสันต์ (22 มกราคม พ.ศ. 2437 – 10 มิถุนายน พ.ศ. 2539) พระชันษา 102 ปี

ทรงนั่งแถวหน้าที่สองจากซ้าย  ;D

ภาพนี้เป็นภาพพระราชโอรสธิดา ชั้นลูกหลวงในรัชกาลที่ 4 หม่อมเจ้าเป็นหลานหลวง ไม่น่าจะเข้ามาฉายพระรูปหมู่ร่วมกับพระองค์อื่นๆ นะครับ แต่แปลกมากไรผม จมูก โหนกแก้ม ริมผีปาก ช่างเหมือนกันอย่างน่าประหลาด

คุณกะออม เยี่ยมมากครับ  :D

โจทย์ใหม่ขอรับกระผม

อ้างถึง คำตอบของคุณ hobo

ไม่แน่ใจว่า คุณhobo ดูภาพคลาดเคลื่อนหรือปล่าวนะครับ

มีภาพสตรีสองภาพให้ทาย ภาพแรก ที่ใส่แว่นตาดำ คือ หม่อมเจ้าหญิงวิมลมาศ  เกษมสันต์

ส่วนภาพที่สองคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น 4 พระองค์เจ้าประดิษฐาสารี

ส่วนภาพพระรูปหมู่นั้น เป็นพระราชโอรสและพระราชธิดาในรัชกาลที่ 4

ไม่มี พระราชนัดดา ชั้นหม่อมเจ้าแต่อย่างใดครับ

ผมดูผิดครับ  ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::) ::)
อ่านเลื่อนต่อกันลงมา เลยงงๆ แปลกใจอยู่เหมือนกันครับ ว่าหม่อมเจ้าเข้าไปแทรกในนั้นได้อย่างไร
ขอบคุณครับ ที่ทักท้วง

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5879.0;attach=46967;image)

อยากทราบพระนามเจ้านายในพระรูปนี้  น่าจะมีในกระทู้เก่าแต่หาไม่เจอ  คุณเพ็ญชมพูจะอนุเคราะห์ได้ไหมคะ

ด้วยความยินดียิ่ง  ;D


(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

^

เงียบจัง มาเฉลยครับ  :-\  ท่านผู้นี้ คือ ขุนเศรษฐบุตรศิริสาร (แช เศรษฐบุตร)

ข้อนี้ ง่าย ๆ แล้วกันนะครับ

สุภาพสตรีต่างชาติท่านนี้มีคำนำหน้าว่า "คุณหญิง" ครับ

ถ้าเป็นคุณหญิงของไทย ก็มีท่านนี้ละค่ะ เพิ่งฉลองอายุ 90 ปีไปหมาดๆเดือนนี้เอง

อาจารย์เทาชมพูมาถูกทางแล้วครับ  ;) คุณหญิงท่านนี้ประวัติท่านไม่ธรรมดาเลย  ;D

คุณหญิงเจเนเวียฟ เลสปันยอล เดมอน (Khunying Geneviève Lespagol Damon) ศิลปินบัลเลต์สัญชาติฝรั่งเศส-อเมริกา อดีตดาราบัลเลต์แห่งคณะบัลเลต์รุส เดอ มอนติคาร์โล หรือคณะบัลเลต์มาควิส ดู ชีวาส ครูผู้บุกเบิกวงการบัลเลต์ในประเทศไทย ผู้ถวายการฝึกซ้อมบัลเลต์แด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอทุกพระองค์  (http://www.naewna.com/lady/91174) ;D

ถูกต้องนะครับ !!!!!!!!  ;D

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

รูปนี้ทายไม่ยากค่ะ

นามนั้นคือนามไม้  ;D

ต้นไม้ออกดอกงามมากครับ สตรีท่านนี้ คือ หม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ บริพัตร ชายาในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต และนางสนองพระโอษฐ์ในสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ครับ

ถูกต้องค่ะ

กุมารีน้อยผู้นี้คือผู้ใด

ขออนุญาตเดาว่า สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ครับ

(http://www.bloggang.com/data/akaya/picture/1202400198.jpg)

หากเป็นในพระรูปนี้คือ หม่อมเจ้าหญิงกัลยาณิวัฒนา มหิดล  ;D

ถูกทั้งคู่ค่ะ

ภาพนี้อาจไม่คุ้นตานัก แต่ก็ไม่ยากเกินไป
คุณเพ็ญชมพูจะใบ้ว่ากระไร  น่าสน..

ท่านหญิงแห่งราชสกุล "รพีพัฒน์"  ;D

ท่านผู้นี้ เป็นแม่ยาย (ขอใช้ภาษาชาวบ้าน) ของคุณอานันท์ ปันยารชุน ใช่หรือไม่ครับ  :-[

^

เชิญเฉลยพระนามข้างบนนี้ได้แล้วค่ะ
รูปใหม่มาทาย

ภาพของท่านนี้ คือ หม่อมเจ้าทิตยาทรงกลด (รพีพัฒน์) จักรพันธุ์ ครับ :D

ตอบภาพของ อ.เทาชมพู
ปริศนาในพระรูป คือ

1. องค์ขวามือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ามยุรฉัตร
2. องค์ซ้าย พระองค์เจ้าประภาวสิทธิ์นฤมล

 ;D

มีภาพให้ทายกันต่อครับ
ท่านในรูปคือท่านผู้ใดครับ?

ใบ้คำ แทนคุณเพ็ญชมพู

"วังบางขุนพรหม"

หม่อมเจ้า จงจิตรถนอม ดิศกุล คะ

หม่อมเจ้าหญิงประสงค์สม บริพัตร ครับ

ขอบพระคุณ อ.เทาชมพู ที่บอกใบ้  :D

คุณ NT ตอบได้ถูกต้องแล้วครับ บุคคลในพระรูป คือ หม่อมเจ้าหญิงประสงค์สม (ไชยันต์) บริพิตร
ทรงเป็น พระชายาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ครับ

นี่เป็นพระรูปที่ถ่ายคู่กัน เมื่อท่านหญิง พระชันษา 18 ปี

ถูกต้องค่ะ

ภาพต่อไป สตรีในภาพนี้คือใคร
ที่ถามนี่ถามจริงๆ เพราะไม่ทราบคำตอบ

หมายเหตุ ได้คำตอบแล้วว่า คือ ม.ร.ว. สอางค์ (ปราโมช)เทวกุล

ท่านหญิงแห่งราชสกุล "อาภากร"  ;D

ตอบไม่ได้เป๊ะๆ แต่พอ narrow down scope ได้ครับ เสด็จในกรมฯ ต้นราชสกุลอาภากร ครั้งเสกสมรสกับพระองค์เจ้าทิพยสัมพันธ์ มีพระโอรส 3 องค์ จึงไม่ใช่รูปนี้แน่ แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่า พระธิดาองค์นี้เกิดจากหม่อมท่านใด คุ้นๆ ว่าเสด็จเตี่ยทรงมีพระธิดา 2-3 องค์ ที่เสกสมรสกับสามัญชน ซึ่งน่าจะสอดคล้องที่คุณเพ็ญชมพูใบ้ว่า "ท่านหญิง"

พระนามของท่านอยู่ในกระทู้นี้ภาคที่ ๑  หน้า ๔๒  ;D

หม่อมเจ้าหญิงศิริมาบังอร (อาภากร)

รูปนี้ คุณเพ็ญชมพูจะใบ้อย่างใดอีก

ท่านหญิงแห่งราชสกุล "ลดาวัลย์"  ;D

ผิดเสียละกระมัง?

ขออภัยยังไม่ได้ตรวจทาน เอาใหม่

คำตอบอยู่ในกระทู้นี้ หน้า ๑๒ ลำดับที่ ๓  ;D

รูปนี้ระบุว่าถ่ายที่ชลบุรี เมื่อพ.ศ. 2490   เดาว่าสาวๆพวกนี้น่าจะเป็นนางงามเข้าประกวด  หรือกลุุ่มนักร้องนักแสดง  เพราะดูหุ่นไล่ๆกัน วัยเดียวกัน ทำผมเผ้ามาอย่างดี    แล้วยังแต่งชุดว่ายน้ำเหมือนๆกันด้วย  ทะเลที่เห็นน่าจะเป็นบางแสน หรือที่ใดที่หนึ่งใกล้ๆ

ตอบความเห็นที่ 379

---

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประเวศวรสมัย ค่ะ

^
ยังไม่ใช่ค่ะ

หรือจะเป็น สมเด็จเจ้าฟ้าเยาวมาลนฤมล พระพักตร์ท่านคล้ายกันมาก

คิดว่าใช่เจ้าฟ้าเยาวมาลย์นฤมลเหมือนกันค่ะ เพราะตอนเห็นครั้งแรก ยังคิดว่าเป็นพระองค์เจ้าอุบลรัตน์นารีนาค พระมารดาของพระองค์เลยค่ะ

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าเยาวมาลย์นฤมล กรมขุนสวรรคโลกลักษณวดี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค  ค่ะ

เจ้านายฝ่ายในในพระรูปนี้  จำพระองค์ใดได้บ้างคะ

(https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/t1/734625_508460095882168_463557275_n.jpg)

ความเห็นข้างต้นมิได้ให้ทายนะครับ เพราะมีพระนามอยู่แล้วด้านล่างของรูป แค่ชอบรูปนี้ครับ เลยขออนุญาต share กันครับ

เพิ่งอ่านพระประวัติพระองค์เจ้าเฉลิมเขตรในวิกิเมื่อสักครู่นี้เองค่ะ

...พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล  ทรงพบกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศร์ ครั้งแรกในงานออกร้านวัดเบญจมบพิตร ดังที่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทองแถมถวัลยวงศ์ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ ทรงเล่าให้หม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล ฟัง ความว่า  “...ในงานออกร้านวัดเบ็ญจมบพิตร เจ้านายหนุ่มๆ อยากดูผู้หญิงก็ไม่กล้า เราต้องจัดการให้ ลุงนั่งอยู่กับพวกหนุ่มๆ หน้าร้านเรียกสาวๆ ให้เข้าไปรับแจก บางคนทำดัดจริตกระมิตกระเมี้ยนเพราะมีหนุ่มๆ อยู่ด้วย แต่พอถึงยายบี้ [พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล] แกก็ทำหน้าเป๋อไปหมอบกราบเอาเงินแจก แล้วยังซ้ำกราบเจ้านายหนุ่มๆ นั้นเสียด้วย สมเด็จชายก็เลยพอพระทัยว่าไม่มีจริต...”

...พระองค์ทรงออกพระนามพระองค์เองว่า "แม่หนูเฉลิมเขตร" ส่วนเจ้านายชั้นผู้ใหญ่พระองค์อื่นๆ ออกพระนามว่า "ยายบี้" ด้วยมีพระนาสิกแบน และพระราชนัดดาองค์อื่นๆ ในรัชกาลที่ 5 ออกพระนามว่า "ยิบหยี" เพราะโปรดทำพระเนตรหยี

พระองค์ไม่สันทัดในงานบ้านงานเรือนนัก แต่ก็ทำหน้าที่ของบุตรที่ดีโดยมิขาดตกบกพร่อง โดยพระองค์เองเคยกล่าวเกี่ยวกับความไม่สันทัดดังกล่าว ความว่า "เกิดมาเป็นลูกเจ้าฟ้า มาแต่งงานก็เป็นเมียเจ้าฟ้า จะให้รู้จักเช็ดกระไดไชรูท่ออย่างไร"

หม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล ได้กล่าวถึงอุปนิสัย และพระจริยวัตรโดยรวมของพระองค์ไว้ ความว่า "พระองค์หญิงเฉลิมเขตรมงคลมีพระรูปโฉมเหมือนสมเด็จพระบิดาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งพระอัธยาศัยก็คล้ายกันเป็นอันมาก กล่าวคือไม่มีใครเกลียดและไม่มีศัตรู เพราะไม่เป็นภัยกับใครเลย ไม่มีการเล่นพวก ไม่ด่าว่าค่อนแคะผู้ใด ไม่ดูถูกเหยียดหยามผู้ใด มีแต่ความซื่อสัตย์สุจริตและตามพระทัยพระองค์เอง เช่นเด็กที่เป็น Spoiled Child มาตั้งแต่เกิดเพราะไม่เคยมีใครขัดใจเท่านั้น ถ้ามีสิ่งใดที่เสียก็เป็นเรื่องที่ท่านทำพระองค์ท่านเอง ไม่มีผู้ใดต้องมาเสียหายด้วย เช่น ทรงใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ก็เป็นเงินของท่านเอง ไม่ได้ไปหยิบยืมใครมาให้เขาสูญทรัพย์"...

ขยายพระรูปให้เห็นชัดๆ

คำบรรยายภาพนี้มีอยู่ในหนังสือเล่มข้างล่างนี้

คุณเทาชมพูจะให้ตอบเลยไหมหนอ   ;)

ใบ้ดีกว่าไหมหนอ

ใครตาดี ลองหาคำตอบดู ;)

คำตอบก็ตามที่คุณเพ็ญชมพูกรุณาลงไว้ครับ ขอ share เพิ่มเติมว่าพระรูปหมู่นี้ เรียกได้ว่ารวบรวมพระราชธิดาขององค์พระพุทธเจ้าหลวง ที่ทรงพระสิริโฉมเมื่อเจริญวัยแล้ว เกือบครบเลยครับ อาจจะยังขาดสมเด็จเจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ พระองค์เจ้าอดิศัยสุริยาภา และพระองค์เจ้าวาปีบุษบากร

เด็กที่นั่งตรงกลาง ในรูปทางซ้ายมือ คือเจ้านายพระองค์ใดครับ ?  ;D

(http://crownprince.msu.ac.th/home/wp-content/uploads/2012/08/v201.jpg)

สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช คะ

ถามต่อ สตรีที่อยู่ทางซ้ายของพระองค์ (ทางขวาของภาพ) คือใคร  ;)

เจ้าจอมมารดาเปี่ยม ในรัชกาลที่ 4 คะ

คำบรรยายภาพมีดังนี้

พระรูปหมู่ พระราชธิดาในรัชกาลที่ ๕

๑. สมเด็จเจ้าฟ้ามาลินีนพดารา                        ๕. สมเด็จเจ้าฟ้านิภานภดล

๒. พระองค์เจ้าสุจิตราภรณี                            ๖. พระองค์เจ้าทิพยาลังการ

๓. ...............                                    ๗. พระองค์เจ้าอาทรทิพยนิภา

๔. ...............


เหลือแต่ หมายเลข ๓ และ ๔ ให้ทาย  ;D

ใครจะช่วยทายบ้าง

ยังไม่มีใครทายจนแล้วจนรอด  คงจะต้องขอเจ้าของภาพช่วยเฉลย

รอคุณเทาชมพูเฉลย  ;D

ตอนนี้งานยุ่ง     ต้องไปทำการบ้านเรื่องคำเรียกขานในวิกใกล้ๆนี้ 
บวกกับขี้เกียจใช้แว่นขยาย
ส่งลูกคืนให้คุณเพ็ญชมพู

ข้อความสีแดงหมายความว่ามีบางพระนามเป็นคำตอบที่เหลือ

รอคุณ NT มาให้คำตอบ

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

ผมจนด้วยเกล้าจริงๆ ครับ อ. เพ็ญชมพู รูปที่เหลือนี้ ยากจริงๆ ครับ

ส่วนตัวผมคิดว่า พระพักตร์ของสมเด็จหญิงทั้ง 2 ในพระวิมาดาเธอฯ ไม่เปลี่ยนมากนักเมื่อทรงเจริญพระชันษา เลยพอจำได้ครับ

๓. พระองค์เจ้าอภันตรีปชา

๔. พระองค์เจ้าอดิศัยสุริยาภา

(http://ptcdn.info/emoticons/toy_h/08.png)

คำถามจากกระทู้ภาคแรก ไม่น่ายากแต่ไม่เห็นมีใครตอบ  ;)

 ???

คิดว่าเป็นท่านผู้นี้

ทำไมเป็นพระขรรค์ครับ ทุกทีเห็นเป็นพระแสงดาบฝรั่ง

Mr.Fame ตอบว่า

4. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประเวศวรสมัย พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาทับทิม (จากสกุล โรจนดิศ)

ผมดูรูปนี้มาหลายครั้งแล้ว และหลายที่ จะบอกว่าคือ พระองค์เจ้าประเวศวรสมัย  แต่ความจริงไม่ใช่ครับ พระองค์นี้คือ

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าหญิงเยาวมาลย์นฤมล กรมขุนสวรรคโลกลักษณวดี

ทำไมถึงคิดว่าเป็นพระองค์ นี้ ถ้าดูรูปเต็มๆ  จะเห็นว่าที่พระอุระ ประดับดาราปฐมจุลจอมเกล้า ซึ่ง
พระองค์เจ้าประเวศวรสมัย  ไม่ได้รับพระราชทานตราชั้นนี้ ส่วนใหญ่ในรัชสมัยพระพุทธเจ้าหลวง ปฐมจุลจอมเกล้า จะพระราชทาน แต่ชั้นเจ้าฟ้า
ชั้นพระองค์เจ้า มีน้อยพระองค์มากๆ

ถึงแม้ในรัชกาลต่อมาจะพระราชทานให้พระเจ้าพี่นางเธอที่มีพระชนมายุสูง
พระองค์เจ้าประเวศวรสมัย  ก็ไม่ได้อยู่ในข่ายที่ได้รับพระราชทาน

แล้วพระรูปนี้ พระชันษา ก็น่าจะยังน้อย

ยกพระรูปมาดูกันอีกที
Mr.Fame ตอบว่า

ถ้าพระองค์ที่ 4  คือเจ้าฟ้าเยาวมาลย์นฤมล   แล้วพระองค์ที่ 3  คือใครคะ?

รูปที่ ๓ ก็คือสมเด็จเจ้าฟ้าเยาวมาลย์นฤมล  เช่นกันครับเพียงแต่ต่างชันษาเท่านั้น

ขอบคุณค่ะ
พระองค์เจ้าประเวศวรสมัย ใช่พระองค์นี้หรือเปล่าคะ

ใช่ครับ

ขอบคุณค่ะ
ถ้าเช่นนั้นต้องเรียงใหม่ตามนี้

1. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรลักษณาวดี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาสุด (จากสกุล สุกุมลจันทร์)

2. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุฑารัตนราชกุมารี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดามรกฎ (จากสกุล เพ็ญกุล)

3. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าเยาวมาลย์นฤมล กรมขุนสวรรคโลกลักษณวดี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค

4. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประเวศวรสมัย พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาทับทิม (จากสกุล โรจนดิศ)

ต้องขอโทษด้วยครับ ที่ลืมเรียนไป ว่า

1. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรลักษณาวดี

ต้องแก้เป็น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอัจฉรพรรณีรัชกัญญา ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาตลับ (จากสกุล เกตุทัต)

ที่ต้องดึงกระทู้นี้ขึ้นมาอีก  เพราะมีเรื่องต้องถามคุณเพ็ญชมพู และคุณ Jalito  (หากว่าแวะเข้ามา) ถึงภาพนี้ค่ะ
คุณ Jalito เป็นคนเฉลยว่า เป็นพระรูปหม่อมเจ้าศิริมาบังอร อาภากร

แต่ดิฉันเกิดความสับสนกว่า เป็นหม่อมเจ้าศิริมาบังอร หรือม.ร.ว.สอางค์ เทวกุล กันแน่

ขอเล่าที่มาของความสงสัย จนต้องดึงกระทู้ขึ้นมาอีกค่ะ

ใน  FB กลุ่ม   เวียงวังและคลังประวัติศาสตร์     คุณปัณณพัทธิ์ คำนึง ได้โพสรูปข้างล่างนี้  โดยระบุว่า เป็นหม่อมราชวงศ์ สอางค์ เทวกุล  ( ราชสกุลเดิมปราโมช ) ท่านเป็นหม่อมในหม่อมเจ้าปรีดิเทพย์พงษ์ เทวกุล
หม่อมราชวงศ์สอางค์ เป็นพระธิดาในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ กับหม่อมนุ่ม ปราโมช ครับ
Cr:หอจดหมายเหตุแห่งชาติ

แต่ดิฉันไปเจอเว็บนี้ ลงรูปหนังสือ 100 ปี หม่อมราชวงศ์สอางค์ เทวกุล 19 ก.พ. 2542  ในเว็บข้างล่างนี้ค่ะ

 100ปี หม่อมราชวงศ์สอางค์ เทวกุล 19 ก.พ. 2542  (https://www.preechabooks.com/product/4311)

ภาพหน้าปกคือภาพนี้ค่ะ

 

คุณปัณณพัทธิ์ บอกว่าได้รูปม.ร.ว.สอางค์ที่นำลงใน FB มาจากหอจดหมายเหตุของชาติ  ก็แสดงว่ามีแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้
แต่หนังสือ 100 ปี ม.ร.ว.สอางค์ก็มีรูปท่านยืนยันอยู่หน้าปก พร้อมทั้งชื่อ    คนจัดทำคงไม่เอารูปคนอื่นมาขึ้นปกหนังสือ 100 ปีของท่านเป็นแน่
ก็เลยสับสน ต้องมาถามคุณเพ็ญชมพู คุณ Jalito  ให้ช่วยดูอีกที ว่าสตรีผู้นี้เป็นใครกันแน่

ช่วยดูหน่อยนะคะว่าเป็นคนเดียวกันไหม

 :)
โปรดสังเกตว่าเสื้อผ้าชุดเดียวกัน  น่าจะถ่ายวันเดียวกันแต่คนละเวลา

ถ้าหากว่าคนทางซ้ายคือม.ร.ว.สอางค์ เทวกุล  คนทางขวาก็ไม่ใช่มจ.ศิริมาบังอร อาภากร

ถ้างั้นคนทางขวาที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติบอกว่าเป็นม.ร.ว.สอางค์  เทวกุล  ที่จริงคือใคร

คนเดียวกันหรือเปล่า

ภาพซ้าย หม่อมเจ้าศิริมาบังอร (เหรียญสุวรรณ)อาภากร  ภาพขวา   ม.ร.ว.สอางค์ (ปราโมช) เทวกุล

ภาพซ้ายยังเป็นปัญหา ส่วนภาพขวาคือ ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี

หม่อมราชวงศ์สอางค์ (ปราโมช) เทวกุล

ภาพซ้ายเมื่อยังเยาว์ ภาพขวาเข้าวัยกลางคน

ตอนนี้เข้าใจชัดเจนแล้วว่า สตรีที่คิดว่าเป็นหม่อมเจ้าศิริมาบังอร อาภากร ในคห. ที่ 374   คุณเพ็ญชมพูเฉลยว่าเป็นหม่อมเจ้าในราชสกุลอาภากร และคุณ Jalito  ตอบว่าหม่อมเจ้าศิริมาบังอร อาภากร  แท้จริงคือ ม.ร.ว. สอางค์ เทวกุล

ต่อมาใน facebook ของคุณปัณณพัทธิ์ คำนึง นำรูปของสตรีที่ระบุว่าเป็นม.ร.ว. สอางค์ เทวกุล มาลง  อ้างอิงจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ  แต่เมื่อเทียบกับภาพ ม.ร.ว. สอางค์ ในหนังสือ 100 ปี ม.ร.ว. สอางค์ เทวกุล แล้ว  ปรากฏว่าเป็นคนละคนกัน

คำถามที่พยายามหาคำตอบก็คือ สตรีที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็น ม.ร.ว. สอางค์ เทวกุล แท้จริงคือใคร   ดิฉันจึงได้นำภาพของสตรีที่คล้ายคลึงกันมาลง เพื่อขอให้ช่วยดูว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่     ไม่ได้ต้องการถามว่าภาพสตรีที่นำมาเปรียบเทียบคือใคร   รู้อยู่แล้วว่าคือท่านผู้หญิงแผ้ว  สนิทวงศ์
ถ้าหากว่ามีคนเห็นว่าเป็นคนเดียวกัน ก็จะได้นำไปสู่คำตอบหนึ่งว่า สตรีปริศนานั้นอาจจะเป็นท่านผู้หญิงแผ้วก็ได้

จนบัดนี้ ก็ยังไม่มีคำตอบค่ะ

ไปเจอภาพเก่า เลยเอามาลง ขอความเห็นว่าเป็นคนเดียวกันหรือเปล่านะคะ

ซูมภาพให้ดูค่ะ

คนซ้ายมือไม่ใช่ท่านผู้หญิงแผ้วอย่างแน่นอนครับ สังเกตจากตราจุลจอมเกล้า ที่ท่านนี้ประดับอยู่คือ จตุตถจุลจอมเกล้า ส่วนท่านผู้หญิงแผ้วได้รับพระราชทานในคราวแรกคือชั้นทุติยจุลจอมเกล้าเลย

จริงด้วยค่ะ    กำลังหาต่อไปว่าถ้าไม่ใช่ท่านผู้หญิงแผ้ว แล้วท่านคือคุณหญิงนามใด   สังหรณ์ว่าสามีท่านน่าจะเป็นข้าราชบริพารในรัชกาลที่ 6   อยู่ในแวดวงเดียวกับพระยาอนุชิตชาญชัย

วานคุณ adinbera  และท่านอื่นๆช่วยดูว่า สตรีในภาพขวา เป็นคนเดียวกับสตรีคนซ้ายในภาพซ้ายหรือเปล่าคะ