นี่สะท้อนว่า ครั้งรัชกาลที่ 1 บทกวีเที่ยวเล่นอย่างนิราศเมืองแกลง หรือนิราศพระบาท
ที่อ้างถึงพระคลังแก้บน ละคอนนายบุญยัง....ฯลฯ
เกิดมะด้ายครับ
เอ หนูกลับคิดว่า ๑๕ ปี ในสมัยกรุงธนบุรี เป็นช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน
ครั้นถึง ร.๑ บ้านเมืองเริ่มตั้งลำได้ ฝ่ายบู๊ก็บู๊กันไป ฝ่ายบุ๋นก็ผลิตวรรณคดีหลายเรื่อง
เช่น กากีคำกลอน ร่ายยาวมหาชาติ ลิลิต ๒ เรื่อง สมบัติอมรินทร์
และแปลสามก๊กจากพงศาวดารจีน ราชาธิราชจากพงศาวดารมอญ
นอกจากนี้ ร. ๑ ทรงปฏิสังขรณ์วัดแจ้งใหม่ทั้งวัด แม้ยังไม่เสร็จก็ตาม
พระนิพนธ์ตำนานละครอิเหนา ของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
กล่าวว่าละครนอกที่เล่นกันนอกวังและใช้ผู้ชายเป็นตัวแสดง
ตั้งแต่ครั้งกรุงเก่า มีฉบับอยู่ในหอพระสมุด ด้วยกัน ๑๙ เรื่อง
แต่ไม่จบสักเรื่องเดียว คือ
๑. เรื่องการเกษ (หรือการะเกด)...... ๒. คาวี
๓. ไชยทัต................................ ๔. พิกุลทอง
๕. พิมพ์สวรรค์........................... ๖. พิณสุริวงศ์
๗. นางมโนราห์.......................... ๘. โม่งป่า
๙. มณีพิไชย............................. ๑๐. สังข์ทอง
๑๑. สังข์ศิลป์ไชย....................... ๑๒. สุวรรณศิลป์
๑๓. สุวรรณหงส์..........................๑๔. โสวัต
๑๕. ไกรทอง.............................. ๑๖. โคบุตร
๑๗. ไชยเชษฐ์............................. ๑๘. พระรถ
๑๙. เรืองศิลป์สุริวงศ์
ใน ร. ๒ พระองค์เจ้าทับ ทรงนิพนธ์สังข์ศิลป์ไชย
ใน ร. ๓ พระองค์เจ้าทินกร ทรงนิพนธ์มณีพิไชย (ยอพระกลิ่นกินแมว)
สุวรรณหงส์ แก้วหน้าม้า และนางกุลา