NickyNick
พาลี
ตอบ: 290
ทำงานแล้วครับ
|
ความคิดเห็นที่ 105 เมื่อ 19 ส.ค. 06, 18:11
|
|
หารูปไม่ค่อยได้ครับ ต้องนั่งเครื่องไปหาที่สุพรรณแบบรีบเร่ง ได้มารูปหนึ่ง เป็นภาพถ่ายเอกสารที่เก็บไว้นานแล้ว เป็นรูปน้องสุดท้องของเทวรูปศักดิ์สิทธิ์สามพี่น้องของเมืองสุพรรณครับ ขณะนี้ท่านอยู่ที่วัดเขาพระ อ.อู่ทอง
กุรุกุลาพอจะพิจารณารายละเอียดเห็นไหมครับ
ส่วนองค์กลางที่ศาลริมน้ำจระเข้สามพัน ตลาดท่าพระฯ อู่ทอง หารูปมาโชว์บ่ได้ แฟนๆ คนไหนอยู่อู่ทองฝากถ่ายรูปมาให้ดูบ้างเด้อ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NickyNick
พาลี
ตอบ: 290
ทำงานแล้วครับ
|
ความคิดเห็นที่ 106 เมื่อ 21 ส.ค. 06, 11:51
|
|
พยายามไปหารูปหลายที่ หารูปเจ้าพ่อพระยาจักรไม่ได้เลยจริงๆ เจ้าพ่อจักรนารายณ์ก็อย่างภาพข้างบน ไม่รู้ว่าศิลปะจะเหมือนกับองค์เทพารักษ์หลักเมืองสุพรรณมั้ย ใครตาดีช่วยสังเกตหน่อยดิ
หากใครไปอู่ทอง องค์เจ้าพ่อทั้งสององค์อยู่กลางตลาดอู่ทองเลยครับ ห่างกันไม่มาก จะถึงกิโลเปล่าก็ไม่รู้ แล้วก็ตั้งอยู่ในสถานที่เคารพที่คนเข้าไปกราบนมัสการได้ง่ายๆ เหตุไฉนไม่เห็นมีภาพเผยแพร่กันเลย งงงง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NickyNick
พาลี
ตอบ: 290
ทำงานแล้วครับ
|
ความคิดเห็นที่ 107 เมื่อ 22 ส.ค. 06, 08:53
|
|
พอดีช่วงนี้ได้อ่านเกี่ยวกับเรื่องศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสามชุกอยู่ เป็นอำเภอตอนเหนือของจังหวัดสุพรรณบุรี ท่านศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องคุ้มครองภัยจากไฟไหม้ ว่างๆ เชิญแวะไปเยี่ยมกระทู้ตลาดร้อยปีสามชุกของอาจารย์เทาชมพูได้ครับ
กล่าวด้วยว่าองค์เจ้าพ่อก็เป็นเทวรูปเหมือนกัน ก็เป็นวัฒนธรรมแบบพราหมณ์ฮินดู แต่อายุน้อยกว่า จะหารูปมาโชว์ก็ไม่มี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Louvorian
อสุรผัด
ตอบ: 11
|
ความคิดเห็นที่ 108 เมื่อ 23 ส.ค. 06, 06:37
|
|
เอารูปมาฝาก เป็นรูปเจ้าพ่อพระกาฬ จากเมืองลพบุรี เป็นเทวรูปพระนารายณ์สี่กร ประดิษฐานอยู่ที่กลางเมืองลพบุรีปัจจุปัน น่าจะเป็นศิลปะบายน เพราะตัวศาลเดิมเป็นปราสาทศิลาแลงปัจจุปันเหลือแต่ฐาน ตัวปราสาทได้พังหายไปแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NickyNick
พาลี
ตอบ: 290
ทำงานแล้วครับ
|
ความคิดเห็นที่ 109 เมื่อ 23 ส.ค. 06, 15:01
|
|
รูปไม่ออก สงสัยคุณ Louvorian ใส่รูปใหญ่เกินพิกัดไป เวปไม่ยอม สมาชิกรายใหม่ที่ยังโพสต์ไม่มาก เขาจะยอมให้ส่งภาพได้ไม่เกิน ๔๐ กิโลไบต์ครับ กว่านิดหน่อยก็ไม่ได้ ถ้าโพสต์เยอะๆ ได้สัก ๕๐-๖๐-๗๐ reply เขาถึงจะยอมให้ถึง ๕๐ แล้วจะรอครับ
ระหว่างรอ ก็ขอนำพระนิพนธ์โต้ตอบในสาส์นสมเด็จของทั้งสองพระองค์มาลงต่อ เกี่ยวกับองค์เทพารักษ์หลักเมืองสุพรรณแหละครับ ต่อจาก คหพต.๑๐๓ ครับ
....... คราวนี้จะกราบทูลถึงเทวรูปซึ่งมีอยู่ที่ศาลนั้น เขาว่ามีสององค์เป็นเทวรูปจำหลักด้วยศิลามีพนังหลังตั้งพิงไว้ในศาล รู้ได้ว่าเป็นของเอาแต่ที่อื่น รูปมีพนังหลังชนิดนั้นเขาทำสำหรับฝังเข้าไปในคูหาที่เจาะผนังเข้าไป ว่ากันว่าองค์หนึ่งเป็นรูปพระนารายณ์ อีกองค์หนึ่งเป็นรูปพระหลักเมือง แต่จะเป็นไปไม่ได้ เพราะหลักเมืองต้องเป็นเสาหลัก ไม่เป็นเทวรูป พระพรหมพิจิตรว่าจะดูให้รู้ว่าเป็นรูปอะไรก็ไม่ได้ ด้วยคนเอาทองเปลวปิดทับถมเข้าไว้เสียท่วมทึบ รู้ได้แต่ว่าที่เป็นมีสี่กรทั้งสององค์........
(สาส์นสมเด็จ กรมนริศฯ ล.๑๑, ๒๕๐๔ ลว.๑๘ ก.ย. ๘๐)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Louvorian
อสุรผัด
ตอบ: 11
|
ความคิดเห็นที่ 110 เมื่อ 23 ส.ค. 06, 21:35
|
|
เมื่อคืนรีบโพส ลืมดูขนาดไปหน่อย
เอารูปมาฝาก เป็นรูปเจ้าพ่อพระกาฬ จากเมืองลพบุรี เป็นเทวรูปพระนารายณ์สี่กร ประดิษฐานอยู่ที่กลางเมืองลพบุรีปัจจุปัน น่าจะเป็นศิลปะบายน เพราะตัวศาลเดิมเป็นปราสาทศิลาแลงก่อเป็นทรงสูงสอบขึ้นไป ปัจจุปันเหลือแต่ฐาน น่าจะคล้ายๆกับปราสาทปักษีจำกรง ที่เมืองเสียมเรียบ แต่ปัจจุปัน ตัวปราสาทได้พังหายไปแล้ว บางข้อมูลอาจจะกล่าวว่าเป็นเทวรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร แต่ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นเทวรูปพระวิษณุ(พระนารายณ์)มากกว่าเพราะมีการพบทับหลังรูปนารายณ์บรรทมสินธุิ์บนศาลเดิมด้วย(ปัจจุปันจัดแสดงอยู่ในพระที่นั่งพิมานมงกุฎ ในพระนารายณ์ราชนิเวศน์เมืองลพบุรี)
ตัวศาลที่เราเห็นในปัจจุบันเป็นศาลที่สร้างขึ้นใหม่สมัยจอมพลแปลก ด้านบนที่สมควรจะเป็นตัวปราสาทนั้น ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยาได้มีการสร้างอาคารก่ออิฐไว้แต่ปัจจุบันเหลือผนังอยู่2-3ด้าน สามารถไต่บันไดขึ้นไปชมได้ และยังปรากฎมีซากเท้าเทวรูปศิลปะร่วมสมัยเมืองพระนครอยู่ด้านบนด้วย |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Louvorian
อสุรผัด
ตอบ: 11
|
ความคิดเห็นที่ 111 เมื่อ 23 ส.ค. 06, 21:44
|
|
ด้านขวามือขององค์เทวรูปเจ้าพ่อพระกาฬ หรือซ้ายเมือเรา(ในรูป)ปรากฎมีรูปแกะสลักนูนสูงพระวิษณุที่น่าจะเคบเป็นกลีบขนุนประดับองค์ปราสาทเดิมปรากฎอยู่ แต่ในรูปเป็นองค์จำลอง ของจริงนั้นตั้งแสดงอยู่ในอาคารที่กล่าวไว้ข้างต้น
และยังปรากฎกลีบขนุน2ใบที่อาคารแสดงศิลปะเขมรที่พบในประเทศไทย ที่พิพิธภัณฑสถานฯพระนคร กทม จัดแสดง กลีบขนุน รูปเทวะสตรีประทับยืนค่อกันถือดอกบัวในพระหัถต์ และกลีบขนุนรูปพระพรหม รายละเอียดกล่าวว่าพบที่ศาลสูงเมืองลพบุรีเช่นกัน น่าจะเป็นที่กระจ่างแล้วว่า เทวสถานแห่งนี้เป็นเทวสถานในศาสนาพราหมณ์ลัทธิไวษณพนิกาย (พระวิษนุเป็นใหญ่) และสนับสนุนให้รูปเคารพที่ศาลพระกาฬปัจจุบันน่าจะเป็นเทวรูปพระวิษณุมากกว่า รูปอื่นใด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NickyNick
พาลี
ตอบ: 290
ทำงานแล้วครับ
|
ความคิดเห็นที่ 112 เมื่อ 24 ส.ค. 06, 12:46
|
|
จาก คหพต.๑๑๒ จะเป็นความรู้ว่า เทวรูปมีพนังหลังแบบที่ขององค์เจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณ เขาออกแบบสำหรับฝังเข้าไปในคูหาที่เจาะผนังเข้าไป ไม่ได้ตั้งไว้ธรรมดาแบบที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไป
ขอบพระคุณมากครับ คุณ Louvorian สำหรับรูปเจ้าพ่อศาลพระกาฬ หากเป็นศิลปะแบบบายน ก็เป็นสมัยหลังจากขององค์เจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณ
ใครมีความรู้เรื่องเจ้าพ่อศาลพระกาฬ หรือที่อื่นๆ ด้วย เพิ่มเติมได้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NickyNick
พาลี
ตอบ: 290
ทำงานแล้วครับ
|
ความคิดเห็นที่ 113 เมื่อ 25 ส.ค. 06, 08:30
|
|
ต่อจาก ๑๑๒ ครับ
..... เรื่องซ่อมศาลหลักเมืองสุพรรณนั้น หม่อมฉันเห็นชอบด้วยดังทรงพระดำริ เทวรูปนั้นทูลยืนยันได้ว่ารูปพระวิษณุทั้ง ๒ รูป เพราะหม่อมฉันได้พิจารณาแล้ว หม่อมฉันมีวินิจฉัยที่จะทูลในเรื่องหลักเมืองต่อไปอีกหน่อย คือ ในประกาศพระราชพิธีที่หลักเมืองในรัชกาลที่ ๔ เรียก หลักเมืองในภาษามคธว่า "โตรณ" หม่อมฉันเคยได้ยินแปลศัพท์โตรณอีกอย่างหนึ่งว่า เสาไต้ (ประทีป) แต่หลักเมืองเมืองเชียงใหม่เขาเรียกว่า "หลักอินทขีล" เมื่อหม่อมฉันไปมณฑลเพชรบูรณ์ไปได้หลักเมืองศรีเทพลงมา (อยู่ในพระที่นั่งศิวโมกข์พิมานที่ตั้งหอพระสมุดวชิรญาณบัดนี้) มีจารึกอักษรคฤนถ์แตกเสียมาก แต่ยังเหลือคำว่า "ขีลํ" ปรากฏอยู่ หม่อมฉันค้นดูในอภิธานภาษาบาลีของอาจาร์จิลเดอ แปลศัพท์ Tora man ว่าซุ้มประตู Gateway แปลศัพท์ Khi Lo ว่า Pin หรือ Stake คือหลัก ดังนี้ขอให้ทรงพิจารณาดู ..........
(สาส์นสมเด็จ - กรมดำรงฯ ล.๑๑, ๒๕๐๔ ลว.๒๓ ก.ย. ๘๐)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
กัลปพฤกษ์
อสุรผัด
ตอบ: 3
|
ความคิดเห็นที่ 114 เมื่อ 25 ส.ค. 06, 12:32
|
|
ขออนุญาตสมัครเข้าเป็นสมาชิกกระทู้ว่าด้วยเรื่องเมืองสุพรรณ..ด้วยคนค่ะ ในฐานะผู้อ่านและผู้ดู ขอชื่นชมบทความให้ความรู้ของคุณ Nicky จากศาลหลักเมือง เรือย ๆ มาถึงภาพสวยมาก ๆ ของคุณโพธิ์ฯค่ะ ..พอเห็นภาพแล้วอยากให้ท่านผู้รู้เข้ามา Post ประวัติของสถานที่นั้น ๆ เพื่อความสมบูรณ์แบบต่อการให้เป็นวิทยาทานแก่ผู้อ่านด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NickyNick
พาลี
ตอบ: 290
ทำงานแล้วครับ
|
ความคิดเห็นที่ 115 เมื่อ 26 ส.ค. 06, 11:04
|
|
ขอบพระคุณมากครับคุณ กัลปพฤกษ์ ผมพยายามเขียนต่อเนื่องให้เป็นระบบมาเรื่อยๆ ครับ ถึงตอนนี้ก็เกี่ยวข้องกับองค์เทพารักษ์หลักเมือง แล้วต่อไปก็จะเป็นเกี่ยวกับลักษณะวิวัฒนาการของตัวอาคารสถานที่ ซึ่งจะเป็นตอนสุดท้ายแล้วครับ
คุณ โพธิ์ประทับช้าง ก็ได้นำภาพสวยๆ ทางด้านโบราณสถาน-วัตถุของเมืองสุพรรณมาร่วมด้วย ซึ่งก็เป็นที่น่าชื่นชมสำหรับทุกท่านเป็นอย่างยิ่งด้วยครับ ก็ยินดีที่คุณกัลปพฤกษ์ได้พบเห็นช้างเผือกเชือกนี้เหมือนกับพวกเราหลายท่าน แต่ตอนนี้ท่านคงจะมีธุระยุ่งจึงไม่สามารถเข้ามาร่วมเสนอความคิดเห็นได้แม้ในกระทู้ของท่านเอง
แต่เนื่องจากเรื่องศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณเป็นเรื่องที่อยู่ในวงจำกัด ผู้สนใจทั่วประเทศอาจมีจำนวนน้อย ยิ่งในเรือนไทยยิ่งมีจำนวนน้อยแทบจะนับตัวได้ หรือไม่มีเลยก็ว่าได้ และเวลาซึ่งเป็นสิ่งชักนำให้เข้ามาร่วมพูดคุยก็เป็นสิ่งสำคัญของแต่ละท่าน รวมความแล้วคนยิ่งเข้ามาน้อยใหญ่ แล้วก็ไม่ใช่เฉพาะกระทู้นี้เท่านั้นครับ แต่ที่เห็นก็เป็นในหลายๆ กระทู้ด้วย จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจ หรือน่าน้อยใจอะไรทั้งสิ้น
อีกประการหนึ่ง ขณะนี้ผมมีแหล่งพำนักอยู่ไกลกับสถานที่แห่งนี้อย่างลิบลับ ไม่มีความสามารถรวบรวมความรู้ระดับชาวบ้านที่เขียนสั่งสมกันมาได้เพิ่มเติมจากที่มีอยู่ รวมทั้งไม่มีแหล่งข้อมูลใกล้เคียงอื่นเพิ่มเติมอีกเลยนอกจากบารมีที่เคยสั่งสมมาเป็นเวลาหลายปี ความตั้งใจที่จะทำให้สมบูรณ์พร้อมแต่แรกก็เลยมีอันตัองพับไป เหลือแต่ความตั้งใจจริงในการรวบรวมเสนอข้อมูลที่พอมีให้ดีที่สุดครับ
ก็จะนำลงเรื่อยๆ จนกว่าภาระนี้จะเสร็จสิ้นครับ เป็นความตั้งใจจริงแต่แรกอยู่แล้ว เพื่อเสนอเรื่องให้ครอบคลุมอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
ขอบคุณมากครับคุณกัลปพฤกษ์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tuka007
พาลี
ตอบ: 291
คนจับจอบจับเสียม
|
ความคิดเห็นที่ 116 เมื่อ 26 ส.ค. 06, 14:49
|
|
ยังติดตามอยู่ตลอดนะคะ คุณนิค ((ว่าแต่ว่า คุณนิค พิมพ์เร็วจังค่ะ ไม่เข้ามาอ่านหลายวันกว่าจะตามทันเหนื่อยเลย))
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
จงยิ้มให้โลก...แล้วโลกจะยิ้มให้เรา
|
|
|
NickyNick
พาลี
ตอบ: 290
ทำงานแล้วครับ
|
ความคิดเห็นที่ 117 เมื่อ 27 ส.ค. 06, 15:08
|
|
ขอบคุณครับ ความจริงไม่เหนื่อยอะไรหรอก เรื่องพิมพ์ ง่ายๆ เป็นงานเสมียนที่เราเป็นโปรเฟสชั่นน้อลอยู่แล้ว
ขณะนี้มีปัญหาหนึ่งที่สำคัญที่ยังค้างคาใจอยู่
ยังหาขนาดความกว้างยาวสูงขององค์เจ้าพ่อหลักเมืองจริงๆ ไม่ได้เลย ค้นจากที่ไหนก็ไม่เจอทั้งสิ้น จะไปวัดขนาดที่องค์ท่านเอง ก็กลัวคนจะหาว่าเพี้ยน เฮ้ออออ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NickyNick
พาลี
ตอบ: 290
ทำงานแล้วครับ
|
ความคิดเห็นที่ 118 เมื่อ 27 ส.ค. 06, 17:01
|
|
ขอเรียนอธิบายให้ทราบคร่าวๆ อีกครั้งครับ ว่ากระทู้นี้ได้รวบรวมอะไรไว้แล้วบ้าง เพื่อผู้ที่เพิ่งมาติดตามอ่านจะได้เข้าใจกันง่ายขึ้น
เดี๋ยวจะหาว่าโม้ ที่คุยไว้ว่าทำอย่างเป็นระบบ
- ความหมายของ ๓ วัฒนธรรม มีอะไรบ้าง (คหพต.๑-๙, ๑๓, ๑๖) - ตำแหน่งที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ดูเปรียบเทียบกับแผนที่ทางอากาศ และบรรยากาศในอดีต - ความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอื่นๆ เช่น สถานที่สำคัญ วัดร้าง เพนียดคล้องช้าง คูเมืองโบราณในแต่ละยุคสมัย (สองหัวข้อนี้ปะปนกันใน ๑๗-๓๕) - คติที่เกี่ยวข้องกับองค์เจ้าพ่อหลักเมืองในปัจจุบัน คืองานประเพณีทิ้งกระจาด (๑๑, ๔๘) - คติโบราณห้ามเจ้าไปเมืองสุพรรณ (๓๙-๔๗, ๘๔) - ภาพที่คุณโพธิ์ประทับช้างนำมาร่วม เป็นภาพสวยงามมาก มากถึงมากที่สุด ใครเห็นใครอดชมไม่ได้ ประกอบกับคำอธิบายเพิ่มเติมของผม (๔๙-๘๑) - ความเชื่อเรื่องเสาหลักเมือง (๘๕-๘๖) - ความเชื่อเรื่องที่มาขององค์เทพารักษ์หลักเมืองสุพรรณ (๘๗-๘๙) - วรรณคดีที่เกี่ยวข้อง โคลงนิราศสุพรรณของสุนทรภู่ และนิราศสุพรรณของเสมียนมี (๙๐-๙๘) - ลักษณะขององค์เทพารักษ์หลักเมือง รวมทั้งภาพเพิ่มเติมของคุณ Louvorian (๑๓, ๑๖, ๙๙-๑๑๖)
ตอนต่อไปจะเกี่ยวกับลักษณะของตัวอาคารสถานที่ จากอดีตที่ผ่านมา ถึงปัจจุบัน แล้วก็ถึงอนาคตด้วย เท่าที่พอจะรวบรวมได้ครับ ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายแล้วล่ะ ทนๆ กันหน่อย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
กุรุกุลา
|
ความคิดเห็นที่ 119 เมื่อ 28 ส.ค. 06, 19:33
|
|
ไม่ได้เข้าวิชาการมาน้านนานครับ เพราะงานยุ่ง มาดูอีกทีคุณนิกต่อกระทู้เสียจนผมอ่านไม่ทัน ตอนนี้ก็มาเก็บอ่านต่อครับ
เมื่อวานก่อนผมไปสุพรรณมาครับ ไปอู่ทอง ตอนเขาให้กินข้าวในตลาดผมก็แอบแวบไปชมเจ้าพ่อพระยาจักรมา ได้ถ่ายรูปมาด้วย คงไม่ต้องกวนคุณนิกแล้วครับ ไปคราวนี้เหมือนในเสภาเลยที่ว่า
บิณฑบาตกาญจน์บุรีศรีสุพรรณ จะพบขวัญตาพี่ให้จงได้ จำจะเขียนเพลงยาวติดเอาไป สมคะเนก็จะให้เสียทีเดียว
คือไปดูทั้งสุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรีได้ภายในวันเดียว กลับมาเหนื่อยไข้ขึ้นเลยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|