เหตุแห่งการโกนผมไว้ทุกข์การโกนศีรษะให้ผู้ตายน่าจะมาจากอินเดีย ไทยน่าจะรับจากกัมพูชา บันทึกจีนสมัยราชวงศ์เหลียงระบุว่าชาวฟูนันโกนผมไว้ทุกข์ แสดงว่าโกนกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ ๖ เป็นอย่างต่ำ ผ่านมา ๑,๒๐๐ ปีแล้ว ทุกวันนี้ที่กัมพูชายังรักษาธรรมเนียมโกนศีรษะในงานศพ (สามีหรือภรรยาและลูก ๆ แล้วแต่งขาว) โดยเฉพาะในงานพระศพพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุเมื่อปี ๒๕๕๕ ก็มีสตรีโกนศีรษะไว้ทุกข์หลายคน (อนึ่งคำว่าโกนในภาษาไทยคล้ายกับภาษเขมรว่า "โกร" (เขียนว่า เการ) โกนผมคือ "โกร ส็อก" ส่วนใครรับของใครมา ค่อยว่ากันทีหลัง)
อยากรู้ว่าทำไมไทยโกน เขมรโกน ต้องย้อนกลับไปที่อินเดีย แต่เดิมงานศพที่อินเดียจะโกนผม ทั้งหญิงชาย แต่งขาวไว้ทุกข์ (บันทึกของการะฟัด) ปัจจุบันผู้ชายบางพื้นที่ยังโกนผม ผู้หญิงที่โกนผมไปตลอดชีวิต คือพวกแม่หม้าย ที่โกนผมมีเหตุผล ๒ ระดับ
๑. เหตุผลระดับประเพณี เพื่อแสดงความเคารพผู้ตาย เรื่องนี้เป็นคำอธิบายที่คนส่วนใหญ่มักใช้กัน "แต่" ประเพณีย่อมมีนัยลึกซึ้งกว่านั้น
๒. เหตุผลในระดับศาสนา เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบพิธีศพรับพลังด้านลบรุนแรง (รชะ-ตะมะ) จากศพผู้ตาย โดยเฉพาะสีดำของเส้นผมจะรับพลังงานนี้ได้ง่าย (คำอธิบายจาก Hindu Janajagruti Samiti)
คำอธิบายนี้มาจากสมาคมฮินดูในอินเดีย แต่ผมยังไม่ปักใจเชื่อเพราะยังไม่ได้ตรวจคัมภีร์พระเวท-พระธรรมศาสตร์ ซึ่งน่าจะมีเหตุผลอย่างละเอียด
https://www.facebook.com/765197073525028/posts/1672257926152267?sfns=mo