ขออนุญาตซ่อมระโยงของคุณหมอแอ๊ดเพื่อให้ได้ความกระจ่างมากขึ้น
ข้อมูลต่อไปนี้นำมาจาก
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ / เล่มที่ ๕ / เรื่องที่ ๕ พืชหัว / สาคู http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=5&chap=5&page=t5-5-infodetail06.htmlสาคูเมื่อกล่าวถึงต้นสาคู มีคนจำนวนมากที่ไม่รู้จัก หรือไม่เคยเห็น แต่ก็มีมากที่เคยได้ยิน และรู้จัก และมีความรู้แตกต่างกันออกไป บางคนนึกถึงต้น สาคูที่เป็นต้นไม้ยืนต้น เป็นต้นไม้ประเภทปาล์ม คล้ายต้นมะพร้าว ใช้ส่วนของลำต้นนำมาทำเป็นเม็ดสาคู หรือแป้งสาคู เมื่อสมัยนานมาแล้ว เนื่องจากต้นไม้ชนิดนี้มีจำนวนน้อย ไม่มีการปลูกเพิ่มขึ้น ปริมาณการผลิตเม็ดสาคูจาก "ต้นสาคู" (sago palm) จึงลดน้อยลงและหมดไป และหันมาผลิตสาคูจากแป้งมันสำปะหลังแทน จนกระทั่งในปัจจุบันนี้ เม็ดสาคูผลิตจากแป้งมันสำปะหลังทั้งสิ้น ต้นสาคู ที่กล่าวนี้เป็นไม้ยืนต้น จึงไม่จัดเป็นพืชหัว และจะไม่นำมากล่าวในที่นี้
สาคูที่จะกล่าวในที่นี้ หมายถึง ต้นสาคูที่เป็นพืชหัวชนิดหนึ่ง เนื่องจากเราใช้หัวเป็นประโยชน์ ไม่ใช่ต้นสาคูที่เป็นต้นไม้ประเภทปาล์ม ที่เรียกว่าต้นสาคู ประโยชน์ที่สำคัญคือ เป็นอาหาร แป้งที่ได้จากหัวสาคูนี้ เป็นแป้งในรูปของคาร์โบไฮเดรตที่บริสุทธิ์ที่สุดชนิดหนึ่ง เป็นแป้งที่มีความเหนียวมาก ย่อยง่าย เป็นที่นิยมในตลาดโลก มีราคาแพงกว่าแป้งชนิดอื่น มีหลายประเทศที่สามารถผลิตแป้งสาคูได้มาก จนสามารถส่งเป็นสินค้าออกทำเงินให้แก่ประเทศปีละมาก ๆ ประเทศไทยใช้สาคู เพื่อการบริโภคภายในประเทศ และมีปริมาณไม่มากนัก ถ้ามีการผลิตแป้งจากสาคู เพื่อการค้าได้ จะทำให้สาคูเป็นพืชที่มีความสำคัญมากขึ้น
ประเทศไทยไม่มีสถิติเกี่ยวกับการปลูก การผลิต การค้า แต่เซนต์วินเซนต์ (St. Vincent) ส่งออก ในปี พ.ศ. ๒๕๐๓-๒๕๑๐ ปีละ ๒,๐๘๗ ตัน บราซิล ส่งออกในปี พ.ศ. ๒๕๐๙ ปีละ ๑๓๙ ตัน
ราคาแป้งสาคูในตลาดโลกประมาณตันละ ๕,๐๐๐ บาท
ประวัติความเป็นมาและแหล่งปลูกสาคูมีชื่อภาษาอังกฤษว่า แอร์โรว์รูต (Arrow- root) และยังมีชื่ออื่นๆ นอกเหนือไปจากนี้อีก ได้แก่ เวสต์อินเดียน แอร์โรว์รูต (West Indian arrow root) เบอร์มิวดา แอร์โรว์รูต (Bermuda arrowroot) เซนต์วินเซนต์ แอร์โรว์รูต
สาคูเป็นพืชดั้งเดิมของอเมริกาเขตร้อน แต่ปลูกเป็นล่ำเป็นสันที่หมู่เกาะอินเดียตะวันตก และที่เซนต์ วินเซนต์ ซึ่งผลิตสาคูได้มากคิดเป็น ๙๔ เปอร์เซ็นต์ของตลาดโลก โดยเฉพาะที่เซนต์ วินเซนต์ นั้น ผลิตสาคูได้ปีละประมาณ ๙๘๐-๓,๘๐๖ ตัน บราซิล อีกประเทศหนึ่งที่ปลูกสาคูเป็นการค้า แต่ละปีผลิตได้ประมาณ ๔,๐๐๐ ตัน นอกจากนี้ก็มีปลูกอยู่ทั่วๆ ไปในอินเดีย ศรีลังกา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ในประเทศไทยประชาชนรู้จักต้นสาคูกันมานานแล้ว จนคิดว่า คงจะเป็นพืชที่ขึ้นอยู่ดั้งเดิมนานมาแล้ว ปัจจุบันมีการปลูกสาคูเป็นสวนครัวรายละเล็กละน้อย ยังไม่มีการปลูกกันเป็นล่ำเป็นสัน แหล่งที่ปลูกสาคูมาก ได้แก่ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เช่น จังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น เป็นต้น
ลักษณะทั่วไป สาคูเป็นพืชที่มีอายุอยู่ได้หลายฤดูฝน ลักษณะ ใบคล้ายใบคล้า ต้นคล้ายต้นขิง ต้นสูง ๖๐-๑๘๐ ซม. ขึ้นอยู่เป็นกอ หัวเล็กยาว แผ่กว้างลึก อีกชนิดหนึ่ง ต้นและใบคล้ายพุทธรักษา หัวสั้นใหญ่ มีหัวน้อย อยู่ไม่ลึก
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ สาคูมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า แมรันตา อะรันดินาซี แอล (
Maranta arundinacea L.) อยู่ในตระกูล แมรันเตซี (Marantaceae) เป็นพืชเนื้ออ่อนมีอายุอยู่ได้หลายฤดู มีหัวซึ่งเกิดจากลำต้นใต้ดิน โดยหัวขยายตัวอยู่ใต้ระดับดิน หัวใหญ่กลม ยาว ขนาดของหัว ๒.๕ ซม. ยาว ๒๐-๔๕ ซม. ใบเป็นชนิดแลนซิโอเลต (lanceolate) เหมือนใบคล้า ดอกสีขาว เป็นช่อแฝด เมล็ดสีแดง แต่ไม่ค่อยติดเมล็ด
ชนิดแบ่งตามลักษณะหัวมีอยู่ ๒ ชนิด ชนิดหัวเล็กยาว แผ่กว้าง และหยั่งลงในดินลึก เรียก เครโอล (creole) ชนิดหัวสั้นใหญ่ หัวไม่มาก หัวอยู่ไม่ลึก เรียก แบนานา (banana)