"สิทธิอย่างเป็นทางการ" เกี่ยวกับเรื่องนี้ ถือครองโดยใครครับ หมายถึงว่า บ.Universal Pictures ต้องติดต่อบุคคลแต่ละบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อขออนุญาตจากบุคคลเหล่านั้นเป็นรายบุคคล อย่างนั้นใช่ไหมครับ
และถ้าท่านใดไม่อนุญาต ก็จะไม่สามารถปรากฎเรื่องราวของบุคคลผู้นั้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ อย่างนั้นสินะครับ
ข้อสงสัยกรณีหนัง “ถ้ำหลวง” : หนัง Based on a True Story ใครเป็นเจ้าของเรื่อง, ใครควรได้รับเงินเกิดคำถามขึ้นทันที เมื่อมีข่าวว่าผู้สร้างหนังจากฮอลลีวูดกำลังจะสร้างหนังจากเหตุการณ์กู้ชีวิตในถ้ำหลวงที่เกิดขึ้นที่ประเทศไทย ว่าสุดท้ายแล้วใครคือ เจ้าของเรื่องกันแน่, บุคคลที่เกี่ยวข้องสามารถหาผลประโยชน์จากการสร้างหนังเหล่านี้ได้หรือไม่ และผู้สร้างหนังจำเป็นต้องจ่ายเงินให้กับใครในการสร้างหนังจากเรื่องจริงแบบนี้
เหตุการณ์จริงคือ “สมบัติของสาธารณะ” จริงแล้วโดยทั่วไปตามกฎหมายของประเทศต่าง ๆ “เหตุการณ์จริง” คือสมบัติของสาธารณะที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้ใด นอกเสียจากว่าจะมีใครนำเหตุการณ์ดังกล่าวไป “เขียนเล่าเรื่องราว” ในมุมมองที่แตกต่างก็จะได้รับความคุ้มครองในฐานะเป็น ลิขสิทธิ์ผลงานส่วนบุคคล
ซึ่งหากใครต้องการนำ “งานเขียน” ถึงเหตุการณ์จริงดังกล่าวไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ก็จำเป็นที่จะต้องจ่ายเงินให้กับผู้เขียนในฐานะเจ้าของผลงาน เหมือนกับหนังคลาสสิกของฮอลลีวูดอย่าง All the President's Men ที่แม้จะสร้างมาจากเหตุการณ์จริง แต่หนังก็ถือว่าเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวจากหนังสือของสองนักข่าวคนดัง คาร์ล เบิร์นสตีน และ บ็อบ วูดเวิร์ด โดยตรง หรือหนังเกี่ยวกับชีวิตของอดีตผู้จัดการทีมฟุตบอล น็อตติงแฮม ฟอร์เรสต์ ไบรอัน คลัฟ ที่ไม่ได้อ้างอิงจากชีวิตของ คลัฟ โดยตรง แต่มีเนื้อหามาจากหนังสือ The Damned United ของ เดวิด เพียซ ต่างหาก
แต่แน่นอนว่างานเขียนเกี่ยวกับเหตุการณ์จริงที่จะอ้างลิขสิทธิ์ได้จะต้องมีแง่มุม หรือข้อมูลที่แตกต่างจากที่สาธารณะชนรับรู้กันอยู่โดยทั่วไปอย่างชัดเจนอยู่ด้วย
ทุกคนทีสิทธิ์สร้างหนังจากเหตุการณ์จริงโดยไม่ต้องไปขออนุญาต (และจ่ายเงิน) ให้ใครสุดท้ายแล้วผู้สร้างหนังจึงมีสิทธิ์ที่จะหยิบเหตุการณ์จริงใด ๆ มาสร้างเป็นภาพยนตร์ก็ได้ โดยไม่ต้องไปขออนุญาตใครเลย เหมือนกับหนังเกี่ยวกับชีวิตของคนดังอย่าง The Social Network ที่สร้างจากหนังสือเล่มหนึ่ง โดยที่บุคคลจริงในหนังอย่าง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เองก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก
หนังเกี่ยวกับชีวิตของเทพกีตาร์ระดับตำนาน จิมมี เฮนดริกซ์ ที่ชื่อว่า Jimi: All Is by My Side ก็ไม่ได้ไปขออนุญาตใครเช่นเดียวกัน และยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เพลงของ เฮนดริกซ์ ในหนังเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป
หนังจากชีวิตของคนดัง ๆ มากมาย ส่วนใหญ่ก็สร้างขึ้นโดยไม่ได้ถามเจ้าตัวแต่อย่างใด หลายครั้งที่แม้เจ้าตัวจะไม่พอใจ แต่เลือกที่จะ “ปล่อยผ่าน” และบางครั้งก็เกิดการฟ้องร้องตามมาว่าหนังมีเนื้อหาบิดเบือนความเป็นจริง
ทำไมผู้สร้างหนังยอมต้องจ่ายเงินให้กับบุคคลเจ้าของเรื่อง ? อย่างไรก็ตามแม้เหตุการณ์จริงจะเป็น “สมบัติสาธารณะ” แต่ผู้สร้างหนังจำนวนไม่น้อยก็ยังยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อขอใช้สิทธิ์ในการสร้างหนังจากเหตุการณ์เกี่ยวกับบุคคลนั้น ๆ “อย่างเป็นทางการ” แม้กฎหมายของหลาย ๆ ประเทศโดยเฉพาสหรัฐฯ ดินแดนแห่งหนังฮอลลีวูดจะไม่ได้บังคับเอาไว้ก็ตาม
เหตุผลก็คือ ผู้สร้างหนังหลายรายเลือกที่จะจ่ายเพื่อ “ความสะดวก” ในการสร้างหนังเรื่องนั้น ๆ นั่นเอง
โดยผู้สร้างที่จ่ายเงินให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์จริงมักจะได้รับข้อมูล “พิเศษ และลับเฉพาะ” ที่เป็นรายละเอียดที่ไม่เคยเปิดเผย หรือถูกบันทึกในสื่อใด ๆ จากบุคคลดังกล่าว เพื่อเสริมให้หนังมีเนื้อหาที่แตกต่าง และมีรายละเอียดที่ชัดเจนที่สุด
อย่างไรก็ตามสาเหตุสำคัญที่ผู้สร้างหนังบางรายยอมจ่ายเงินเพื่อให้ได้สิทธิ์ดังกล่าว ก็เพื่อเป็นการป้องการฟ้องร้องนั่นเอง โดยเฉพาะหากบุคคลจริงรู้สึกว่าหนังอาจจะมีเนื้อหาที่ “บิดเบือนความจริง” และอาจจะทำลายชื่อเสียงของของพวกเขา หากหนังได้ออกฉายไปในวงกว้าง ก็อาจจะยื่นฟ้องร้องเพื่อขอค่าเสียหายได้
จึงเป็นเรื่องที่ผู้สร้างหนังต้องตัดสินใจเองว่าสุดท้ายแล้วจะยอมจ่ายเงินเพื่อป้องกันการฟ้องร้อง หรือหากมั่นใจในข้อมูลสาธารณะ และเชื่อว่าหนังของตนเองจะมีความถูกต้องตรงตามเหตุการณ์จริง ก็ไม่จำเป็นต้องไปจ่ายเงินให้กับบุคคลในเรื่องแต่อย่างใด