จะเล่าถึงเกร็ดรื่องราวสั้นๆบางตอนใน "อภินิหารบรรพบุรุษ" ขอให้ถือว่าเป็นตำนานนะคะ ไม่มีในพระราชพงศาวดาร
ในสมัยพระเจ้าบรมโกศ เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินยังทรงเป็นนายสิน ชายหนุ่มบุตรบุญธรรมของเจ้าพระยาจักรี ครบปีบวชก็ได้ไปบวชอยู่ที่วัดโกษาวาศน์ ซึ่งเป็นวัดที่เจ้าพระยาจักรีสร้างไว้ ส่วนสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ หรือนายทองด้วง บุตรหลวงพินิจอักษร( ในหนังสือเรียกแตกต่างไปจากในพระราชหัตถเลขา) บวชอยู่ ณ วัดมหาทลาย
วันหนึ่ง พระหนุ่มทั้งสองรูปออกไปบิณฑบาต มาพบกันเข้าก็หยุดยืนสนทนากันอยู่ พอดีมีจีนชราผู้หนึ่งเดินมาถึงตรงนั้น หยุดยืนดูหน้าพระสงฆ์ทั้งสองอยู่นานแล้วก็หัวร่อ แล้วเดินห่างไป ก็เหลียวกลับมามองหลายครั้ง หัวร่ออีก เดินห่างไปแล้วเหลียวมามองแล้วก็หัวร่อ ทำดังนี้ซ้ำๆกัน
พระเจ้าตากสินหรือพระภิกษุสิน สงสัย ก็กวักมือเรียกให้จีนชราเดินกลับมาแล้วถามว่า ท่านแลดูหน้าเราแล้วหัวร่อด้วยเหตุอันใด ก็ได้ความว่า จีนชรานั้นเป็นซินแสหมอดู ชำนาญในการดูลักษณะและชะตา เมื่อดูหน้าและขอดูดวงชะตาวันเดือนปีเกิดแล้ว ก็บอกว่าทั้งสองจะได้เป็นกษัตริย์เหมือนกัน เมื่อมาอยู่คู่กันอย่างนี้ ไม่เคยเห็นมาก่อนจึงเกิดความขบขัน
น.ม.ส. หรือกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ฯ ทรงเล่าไว้ในพระนิพนธ์ "สามกรุง" บรรยายคำพูดของซินแสว่า
เกิดมาข้าพเจ้าไม่..................เคยเห็น
สองสหายหลายประเด็น...........เด่นชี้
ภายหน้าว่าจักเป็น..................จอมกษัตริย์
นั่งอยู่คู่กันฉะนี้........................แน่ล้วนชวนหัว
สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯหรือนายทองด้วง ฟังแล้วก็หัวเราะ ตอบว่า เราอายุอ่อนกว่าแค่ 2 ปีเท่านั้นจะเป็นกษัตริย์พร้อมกันได้อย่างไร ไม่เคยได้ยิน สัดตวงข้าวดอกกระมัง แล้วทั้งสองก็เดินกันต่อไป
ส่วน ปฐมวงศ์ ฉบับนายกุหลาบ เล่าไว้ตรงกัน และมีอีกตอนเพิ่มขึ้นว่า เมื่อสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯและกรมพระราชวังบวรฯยังทรงพระเยาว์ พระบิดาพาไปที่วัดมหาทลาย เพื่อนำของไปถวายเจ้าอาวาส ณ ที่นั้นได้พบจีนชราอายุ 80 เศษ เจ้าอาวาสดูลักษณะของเด็กชายทั้งสองแล้วทำนายว่า บุตรของท่านจะได้เป็นกษัตริย์ต่อไปภายหน้า พระบิดาก็ว่าเจ้าคุณว่าอะไรยังงั้น กษัตริย์ในกรุงศรีอยุธยายังมีอีกมากนัก
เจ้าอาวาสตอบว่า เจ้าไม่รู้อะไร อีกหน่อยไม่ช้า กษัตริย์ในกรุงก็จะหมดไป จีนชราจึงจับมือจีนเรืองที่เป็นบุตรชายมาส่งให้ ทั้งสองพระองค์ แล้วทูลว่าเสียดายที่ข้าพเจ้าชรามากแล้ว ถ้าท่านได้เป็นเจ้าต่อไปภายหน้า ขอให้ตั้งจีนเรืองบุตรข้าพเจ้าเป็นเจ้าด้วย จีนเรืองก็กล่าวขอโทษแทนบิดาว่าท่านอายุมากแล้ว พูดอะไรก็อาจพลาดพลั้งไป
จีนเรืองนี้ต่อมาคือกรมขุนสุนทรภูเบศร์ ต้นราชสกุลสุนทรกุล ณ ชลบุรี
อ่านได้ที่
http://www.vcharkarn.com/snippets/vcafe/show_message.php?Pid=14184