เรือนไทย

General Category => ภาษาวรรณคดี => ข้อความที่เริ่มโดย: paganini ที่ 29 มี.ค. 06, 00:49



กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 29 มี.ค. 06, 00:49
 1.1984
นวนิยายอังกฤษศตวรรษที่ 20 โดย จอร์จ ออร์เวล
เล่าถึงความน่าสะพรึงกลัวของประเทศที่รัฐบาลเผด็จการควบคุมวิถีชีวิตความคิดของประชาชนด้วยสื่อที่ถูกบิดเบือนหลากรูปแบบ




2.Brave New World นวนิยายอังกฤษศตวรรษที่ 20 โดย อัลดัส
ฮักซ์ลีย์ เล่าถึงโลกที่ถูกครอบงำโดยรัฐบาลเผด็จการเช่นเดียวกับ 1984
มิใช่ด้วยการกดขี่ แต่ด้วยการขายฝันงมงายระงับความทุกข์ ด้วยความสุขแบบผิดๆ
/>


3.Dr Faustus บทละครยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการของอังกฤษ โดย
คริสโตเฟอร์ มาร์โลว์
เล่าถึงนักปราชญ์คนฉลาดที่ยอมขายวิญญาณให้กับปีศาจเพื่อแลกกับอำนาจ
และต่อมาก็ใช้พลังอำนาจแบบผิดๆ หมกหมุ่นอยู่กับเล่ห์เพทุบาย
จนในที่สุดจุดจบและโทษทัณฑ์ก็คือนรกโลกันต์



4.The
Emperor's New Clothes หรือ ฉลองพระองค์ชุดใหม่ของพระราชา นิทานสอนใจ
โดยราชเทพนิยายชาวเดนมาร์ก ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน


/>
5.All My Sons บทละคร โดย อาเธอร์ มิลเลอร์ นักเขียนชาวอเมริกัน
เล่าถึงเศรษฐีนายทุนที่ห่วงแต่หาเงินเข้ากระเป๋า แต่ไม่คิดถึงศีลธรรมจรรยา
และผลร้ายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติ แต่ในที่สุดก็ไม่อาจหนีความจริง
/>


6.Macbeth โศกนาฏกรรมอังกฤษ โดย วิลเลียม เชคสเปียร์ เล่าถึง
แม่ทัพผู้เก่งกาจอาจหาญแต่เปี่ยมด้วยความทะเยอทะยาน
กำจัดผู้ที่ขวางเส้นทางสู่อำนาจเพื่อตั้งตนเป็นใหญ่ ในที่สุดกรรมก็ตามทัน
แต่สิ่งที่น่าสนใจจริงๆ เห็นจะเป็น ภรรยาของแม่ทัพ
ที่ร้ายกาจขาดศีลธรรมยิ่งกว่าสามีของตน


/>
7."Ozymandias" บทร้อยกรองอังกฤษยุคโรแมนติก โดย เพอร์ซี
เชลลีย์ เล่าถึง อนิจจังของอำนาจผู้นำเผด็จการ ที่แม้จะยิ่งใหญ่คับฟ้า
แต่ที่สุดก็ต้องสูญสิ้นอำนาจ พังครืนลงมาให้คนรุ่นหลังเย้ยหยัน


/>
8.A Bend in the River นวนิยายสมัยใหม่ยุคหลังอาณานิคม โดย วี เอส ไนพอล
เล่าถึง ทรราชย์โลกที่ 3 แสนฉลาด ชอบเล่นลิ้น
สร้างภาพพจน์ว่าเป็นวีรบุรุษกู้ชาติ มอมเมาประชาชนด้วยเทคโนโลยี กับฝันลมๆ
แล้งๆ                



9.A Christmas Carol
นิยายอังกฤษสมัยศตวรรษที่ 19 โดย ชาร์ลส์ ดิกเคนส์ เล่าถึง "สครูจ"
ชายแก่ที่หมกหมุ่นอยู่กับประโยชน์ส่วนตัว ไม่คิดถึงความทุกข์ยากของผู้อื่น
ในที่สุดมีผีสี่ตนมาเตือน จึงยอมกลับตัวเป็นคนดี และ


/>
10.Don Quixote วรรณกรรมเอกของโลก โดย เซร์บานเตส นักเขียนชาวสเปน
เล่าถึงการต่อสู้เพื่อความฝันและอุดมการณ์แม้จะถูกเย้ยหยันจากคนที่ไม่เห็นคุณค่า
แต่ก็จะดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งตราบเท่าที่มนุษย์ยังมีลมหายใจ


/>
"หนังสือที่แนะนำให้อ่านจะเป็นวรรณกรรมเชิงคุณธรรม จริยธรรม
และที่อยากจะแนะนำให้อ่านมากที่สุดคือ เล่มที่ 9
เพราะมีเนื้อหาที่สนุกและสะท้อนมุมมองต่างๆได้อย่างดี " ผศ.ดร.คารินา
กล่าวย้ำ



เอามาจากข่าวครับ ดร.คาริน่าแห่งอักษรจุฬาครับ
/>


น่าอ่านมากๆไปหามาอ่านกันนะครับ


กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: Karine!! ที่ 29 มี.ค. 06, 14:43
 ง่า....ไม่เคยอ่านสักเรื่อง...แต่เหมือนจะเคยได้ยินว่า
A Christmas Carol เป็นภาพยนตร์นี่ค่ะ....ส่วนเรื่องBrave New World เคยฟังเป็นเพลง...ของCharlotte Churchค่ะ ไพเราะดี
(แล้วมันจะเกี่ยวกันไหมนี่ เฮอะๆๆๆ)

แล้วจะพยายามหาอ่าน... ขอบคุณมากค่ะ


กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: ภูมิ ที่ 30 มี.ค. 06, 17:05
 รู้จักแต่
3.Dr Faustus
10.Don Quixote
จริงๆก็ไม่เคยอ่านหรอกครับ แต่เคยรู้จักจากเวลาเขาquoteมาในนิยาย+การ์ตูนต่างๆ


กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: เฟื่องแก้ว ที่ 30 มี.ค. 06, 23:38
คิดว่า เคยอ่านหมายเลข 4 นะคะ

ไม่ทราบเรื่องนี้ไหม (เคยอ่านเป็นภาษาไทยค่ะ) ที่ว่า
จักรพรรดิ์ใส่ชุดใหม่งามหรูวิจิตร
แต่มีเพียงคนเก่งและฉลาดเท่านั้นที่มองเห็น

เลยไม่มีใครมองเห็นสักคนแม้แต่ตัวจักรพรรดิ์
แต่ไม่มีใครยอมโง่สักคน
ต้องทำพลอยพยักเห็นภาพลวงตาของนายเหนือหัวไปด้วย
ชมชุดว่าเลิศลอยสารพัด
จนกระทั่งมีเด็กไร้มายาพูดออกมาตรงๆ ว่า
ไม่จริ๊ง ตาจักรพรรดิ์น่ะ ไม่ได้นุ่งอะไรเลยตังหาก

จักรพรรดิ์เลยอึ้ง... จำไม่ได้ว่า
ในเรื่องแกกุดหัวเหล่าเสนาบดีลูกขุนพลอยพยักไปหมดหรือเปล่า อิอิ


กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 มี.ค. 06, 08:41
 ใช่ค่ะ คุณเฟื่องแก้วจำได้ถูกต้องแล้ว
อ่านได้ตามลิ้งค์นี่ค่ะ
 http://hca.gilead.org.il/emperor.html  


กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: milaGro ที่ 04 เม.ย. 06, 11:54
 ขอแนะนำอีกเล่มของ จอร์ช ออร์เวลล์ ครับ เรื่อง The Animal Farm เมื่ออ่านแล้ว คุณจะอึ้งกิมกี่ว่ามันคล้ายคลึงกับสถานการณ์ของเราช่วงนี้เช่นไร และสะท้านในความเสื่อมทรามของมนุษย์


กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: ศรีปิงเวียง ที่ 04 เม.ย. 06, 12:08
 เสียดายครับ เป็นภาษาอังกฤษ
คงต้องอาศัย dictionary ประกอบการอ่านครับ


กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: ช่อม่วง ที่ 07 เม.ย. 06, 22:51
 รู้สึกว่าเรื่องแรกนี่เคยเห็นคุณพ่ออ่านอยู่นะคะ ยังไงก็จะลองอ่านดูค่ะ น่าสนใจทุกเรื่องเลย เป็นไปได้จะหาอ่านให้ครบทุกเรื่องที่แนะนำมาเลยค่ะ


กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: เฟื่องแก้ว ที่ 08 เม.ย. 06, 04:55
 The Animal Farm ก็เคยอ่านค่ะ
เป็นหนังสือนอกเวลาตอนอยู่ปี1 หรือ ปี 2 ก็ไม่ทราบ
ยังเรียกเพื่อนคนนึงว่า มอลลี่ จนทุกวันนี้
เพราะเธอขายาวโย่งเย่งเหมือนม้า และชอบผูกโบว์เหมือนกัน อิอิ


กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: milaGro ที่ 10 เม.ย. 06, 13:19
 หนังสือหลายเล่มได้รับการแปลเป็นภาษาไทยแล้วครับ แต่คงต้องหาตามร้านหนังสือเก่า

คุ้มค่าการอ่านแน่ครับ

น่าแปลกใจยิ่งนัก ที่เรื่อง Brave New World ช่างคล้ายคลึงกับโลกที่เราอยู่ทุกวันนี้เหลือเกิน


กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 เม.ย. 06, 14:37
 อ่าe  Brave New World ที่ลงเรื่องย่อไว้ด้วย บทต่อบท
ได้ที่นี่ค่ะ
 http://www.novelguide.com/bravenewworld/novelsummary.html  


กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: หนูหมุด ที่ 10 เม.ย. 06, 16:54
 Don Quixote มีพิมพ์ใหม่แล้วค่ะ วันนั้นเห็นในงานสัปดาห์หนังสือ น่าจะพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ผีเสื้อนะคะ มี 2 แบบราคาประมาณ 5xx กับ 8xx แต่ไม่ได้ซื้อค่ะ เกินกำลังไปนิดนึง


กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 30 พ.ค. 19, 07:01
ขอแนะนำอีกเล่มของ จอร์ช ออร์เวลล์ ครับ เรื่อง The Animal Farm เมื่ออ่านแล้ว คุณจะอึ้งกิมกี่ว่ามันคล้ายคลึงกับสถานการณ์ของเราช่วงนี้เช่นไร และสะท้านในความเสื่อมทรามของมนุษย์

ข่าวจาก workpointnews (https://workpointnews.com/2019/05/29/animal-farm/)

วันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๒ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า "วันนี้นายกฯ ยังคงทำงานตามปกติ โดยเฉพาะงานเอกสารที่มีเข้ามาให้พิจารณาทุกวัน และยังฝากแนะนำให้อ่านหนังสือ Animal Farm ฉบับภาษาไทย ซึ่งเป็นหนังสือน่าอ่านที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี"

ผ่านไป ๑๓ ปีแล้ว สถานการณ์ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่ใคร ๆ ก็ยังสงสัยว่านายกฯเคยอ่านหนังสือเรื่องนี้หรือเปล่า  ;)

อ่านเรื่องย่อได้ที่นี่ https://www.facebook.com/1030548200366605/posts/2251141718307241?s=100006582436536&sfns=mo


กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 พ.ค. 19, 08:19
Animal Farm เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาตอนปี 1   อ่านภาษาเข้าใจเพราะไม่ยาก แต่ความหมายที่แฝงอยู่นั้น ไม่รู้เรื่องเลย
ใครจะไปเข้าใจการเมืองฝ่ายซ้ายฝ่ายชวา ในเมื่อเรายังไม่มีคำพวกนี้  ตอนนั้นเผด็จการคืออะไรยังไม่รู้เลยค่ะ  เมืองไทยตอนนั้นมีแต่กลัวระบอบคอมมิวนิสม์
อาจารย์คงเข้าใจว่าเด็กปี 1 ไม่รู้เรื่องแน่ๆ เลยพิมพ์"ชี้ท"อธิบายความว่าอะไรหมายถึงอะไร   สัตว์ตัวไหนเป็นตัวแทนของนักการเมืองคนไหน   ก็เลยรอดมาได้ตอนสอบ

ชื่อคนแต่ง เราเรียกว่า จอร์ช ออเวลส์  แต่อาจารย์ฝรั่งออกเสียงว่า จอร์จอร์ลซ ออกเสียง s ตอนท้ายด้วย

นิยายเรื่องนี้ทำเป็นการ์ตูนด้วยค่ะ  ตอนเล็กๆแม่พาไปดู   จำได้ว่าเป็นการ์ตูนที่ไม่สนุกเลยสำหรับเด็ก   ออกจะมืดๆโหดๆ ด้วยซ้ำไป
งงไปหมดว่ามันเป็นการ์ตูนอะไร   โตขึ้นจึงรู้ว่าไม่ใช่การ์ตูนสนุกสำหรับเด็ก

https://www.youtube.com/watch?v=h1DcWw9geig


กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 31 พ.ค. 19, 10:26
ทันกระแส,ทันใจ คุณวินทร์ โพสท์ บทวิจารณ์วรรณกรรม Animal Farm ที่

https://www.facebook.com/winlyovarin/posts/2335464793396140?__tn__=K-R

และ หนังสืออีกเล่มหนึ่งของผู้ประพันธ์คนเดียวกันที่ถูกกล่าวถึงเคียงคู่(ความจริงมีการกล่าวถึงเล่มนี้
เป็นบางช่วงมาก่อนแล้ว) - 1984


กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 01 มิ.ย. 19, 10:17
และ ตามมาด้วยบทความในนสพ.คมชัดลึก ฉบับวันนี้

           ......ใครอ่านแล้วเข้าใจได้ทันทีว่า สะท้อน เสียดสี ภาพของสังคมรัสเซียหลังการปฏิวัติและ
การครองอำนาจของ "โจเซฟ สตาลิน“
           ความสนุกมันก็อยู่ที่การ “จับคู่” คนและสัตว์ว่าใครเป็นใครกันแน่ !

http://www.komchadluek.net/news/scoop/374003



กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 19, 11:10
เรื่องย่อ Animal Farm ั

     นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องเปรียบเทียบ (Allegory) ตัวอย่างที่เรารู้จักดีก็คือนิทานอีสป   หมายความว่า ตัวสัตว์ในนิทานไม่ได้หมายถึงสัตว์จริงๆ  แต่หมายถึงมนุษย์ผู้มีพฤติกรรมต่างๆ ตามแต่ผู้เขียนจะต้องการแฝงนัยไว้
     เรื่องนี้เริ่มต้นที่ฟาร์มเลี้ยงสัตว์แห่งหนึ่ง   มีชาวนาเจ้าของฟาร์มเป็นผู้ดำเนินงาน    คืนหนึ่งโอลด์เมเจอร์ หมูอาวุโสเป็นที่นับถือของสัตว์ในฟาร์มเพราะเป็นหมูรางวัลชนะเลิศในการประกวดมาก่อน ได้เรียกประชุมสัตว์แล้วเล่าถึงความฝันของเขาถึงสังคมที่สัตว์ทั้งหลายอยู่กันอย่างผาสุกสันติ โดยไม่มีมนุษย์คอยบังคับกดขี่     เมเจอร์ขอให้สัตว์ทั้งหลายมุ่งหน้าสร้างสังคมอุดมคติแห่งนั้น  และสอนให้ร้องเพลงปลุกใจชื่อ "ปวงสัตว์แห่งอังกฤษ"  ซึ่งบรรยายอุดมการณ์นี้   อุดมการณ์ของเมเจอร์ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากสัตว์ในฟาร์ม
    อย่างไรก็ตาม     เมเจอร์ไม่ทันอยู่ดูความสำเร็จ เพราะตายใน 3 วันต่อมา   เหลือแต่สานุศิษย์หมูหนุ่ม 3 ตัวสืบสานปณิธานต่อไป ได้แก่สโนว์บอล  นโปเลียน และสควีลเลอร์  ดำเนินการตามปรัชญาการเมืองที่ชื่อว่า "สัตว์นิยม"   
    คืนหนึ่ง ฝูงสัตว์ระดมพลกันเข้าโจมตีเจ้าของฟาร์ม  จนหนีกระเจิดกระเจิงออกจากฟาร์มไป  จากนั้นพวกสัตว์ก็เข้ายึดฟาร์มได้เบ็ดเสร็จ  ตั้งชื่อฟาร์มใหม่ว่า "ฟาร์มสัตว์" (Animal Farm) แล้วสืบสานปณิธานของเมเจอร์ต่อไป  โดยได้รับความร่วมมืออย่างแข็งขันจากม้าลากรถในฟาร์มชื่อบ๊อกเซอร์   ผู้ประกาศจะอุทิศแรงงานเพื่อความก้าวหน้าของฟาร์ม  ใช้คำขวัญว่า "ฉันจะทำงานให้หนักกว่านี้"
    ในตอนแรก   ฟาร์มที่ดำเนินงานโดยพวกสัตว์ ก้าวหน้าไปด้วยดี  หมูหนุ่มทั้งสามแบ่งงานกัน  สโนว์บอลสอนให้สัตว์อื่นๆรู้จักอ่านเขียนมีวิชาความรู้     นโปเลียนเอาฝูงลูกหมาในฟาร์มมาฝึกให้เรียนรู้หลักการของสัตว์นิยม    เมื่อเจ้าของฟาร์มย้อนกลับมาจะยึดฟาร์มคืน  พวกสัตว์ก็รวมพลังกันสู้จนชาวนาพ่ายหนีไป   


กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 19, 11:41
   เมื่อสันติภาพกลับคืนมา     ผู้นำทั้งสองคือสโนบอลกับนโปเลียนต่างก็บริหารงานของตัวไป เพื่อนำความเจริญมาสู่ฟาร์ม     แต่ความจริงมีอยู่ว่า อำนาจที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วนนั้นจะต้องกระทบกระทั่งขัดแย้งกันไม่วันใดก็วันหนึ่ง     แล้ววันนั้นก็มาถึงจริงๆเมื่อสโนบอลทำโครงการเครื่องสีลมไฟฟ้าที่นโปเลียนไม่เห็นด้วย  เมื่อตกลงโหวตกันในที่ประชุมสภาสัตว์  นโปเลียนไม่เสียเวลาพูดชี้แจงมากมาย  แต่เรียกหมา 9 ตัวออกมา  มันคือฝูงหมากระหายเลือดที่เติบโตขึ้นมาจากลูกหมาครอกที่นโปเลียนเลี้ยงมาแต่แรก  หมาฝูงนั้นไล่สโนบอลหนีหัวซุกหัวซุนออกจากฟาร์ม แล้วไม่ปรากฏว่ากลับมาอีกเลย
    บัดนี้อำนาจอยู่ในมือเจ้าหมูนโปเลียนแต่ผู้เดียว   นโปเลียนจึงประกาศว่าจะไม่มีการประชุมสภาสัตว์อีกต่อไป  นับแต่นี้พวกหมูเท่านั้นที่จะบริหารงานในฟาร์มทั้งหมด   หมูจะเป็นคนตัดสินเองว่าอะไรดีที่สุดสำหรับสัตว์ในฟาร์มทั้งหมด
   นโปเลียนตกลงสานต่อโครงการของสโนบอล สร้างโรงสีลมให้เสร็จ  สัตว์ทั้งหลายจะต้องร่วมมือกันอย่างหนักกว่าเก่าเพื่อให้โรงสีลมเสร็จบริบูรณ์    คืนหนึ่งเกิดพายุ ทำให้โรงสีที่สร้างไว้ครึ่งทางเกิดพังลงมา     ชาวนามนุษย์ในฟาร์มใกล้เคียงบอกว่าเป็นผลจากสร้างกำแพงบางเกินไป  แต่นโปเลียนประกาศว่าเป็นฝีมือสโนบอลแอบมาทำลาย เพื่อขัดขวางโครงการ    ด้วยเหตุนี้ นโปเลียนจึงออกกฎหมายเด็ดขาดว่าใครที่ขัดขวางงานจะต้องถูกลงโทษถึงตายด้วยแรงขย้ำจากหมาทั้งฝูง    กฎหมายของนโปเลียนได้รับการสนับสนุนด้วยดีจากม้าบ๊อกเซอร์ จนเกิดคำขวัญว่า "นโปเลียนย่อมถูกต้องตลอดกาล"
     นโปเลียนมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม  คล้ายมนุษย์เข้าไปทุกที เช่นเดินสองขาแทนสี่ขา ทั้งๆคำขวัญในตอนแรกที่ยึดฟาร์มได้ คือ "สี่ขาดี  สองขาเลว"   ขึ้นไปนอนบนเตียงแทนที่จะอยู่ในคอกสัตว์   ดื่มเหล้า  และค้าขายกับฟาร์มใกล้เคียงกันที่ดำเนินงานโดยมนุษย์     มีสควีลเลอร์ หมูตัวที่สามซึ่งบัดนี้กลายเป็นมือขวาของนโปเลียนคอนแก้แทนให้ทุกอย่าง  รวมทั้งโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้เห็นว่านโปเลียนเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่   สร้างชีวิตที่ดีให้สัตว์ในฟาร์มทุกตัว  มองข้ามความจริงว่าสัตว์ทุกตัวยกเว้นหมูยังคงหิวโหย อดอยากและทำงานหนักยิ่งกว่าเก่า
   หลักการในยุคเริ่มแรก ถูกต่อเติมดัดแปลงไปจากเดิมเพื่อให้เหมาะสมกับพวกหมู   เช่น " สัตว์ทุกตัวย่อมเท่าเทียมกัน"ก็เปลี่ยนเป็น "สัตว์ทุกตัวย่อมเท่าเทียมกัน  แต่บางตัวก็เท่าเทียมมากกว่าตัวอื่นๆ"   


กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 19, 11:55
   ชาวนาในฟาร์มใกล้ๆที่ค้าขายกับนโปเลียน เกิดโกงขึ้นมา แล้วเลยพาลบุกเข้าโจมตีฟาร์ม ระเบิดโรงสีที่สร้างขึ้นมาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานของสัตว์ในฟาร์ม  จนเกิดการสู้รบกันทั้งสองฝ่าย    ม้าบ๊อกเซอร์ได้รับบาดเจ็บสาหัสในการป้องกันฟาร์มอย่างอาจหาญ   เมื่อสัตว์ขับไล่ศัตรูออกไปได้สำเร็จ   บ๊อกเซอร์ก็หายไปจากฟาร์ม   สควีลเลอร์ประกาศต่อสัตว์อื่นๆว่าบ๊อกเซอร์ตายอย่างสงบเมื่อถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในฐานะวีรบุรษ ก่อนสิ้นลมได้ประกาศเกียรติคุณของการปฏิวัติจนลมหายใจสุดท้าย
   แต่ในความเป็นจริง  เมื่อเห็นบ๊อกเซอร์ร่อแร่จนใช้งานไม่ได้อีก  นโปเลียนก็ขายม้าผู้ซื่อสัตว์และกรำงานหนักมาตลอดชีวิตให้พ่อค้าเอาไปชำแหละ   แลกกับเงินเอามาซื้อเหล้ากิน
   หลายปีผ่านไป     หมูเริ่มจะคล้ายมนุษย์เข้าทุกที   เดินสองขา  ถือแส้  และสวมเสื้อผ้าอย่างมนุษย์   หลักการที่เคยมีก็ถูกละเลยทั้งหมด   ส่วนสัตว์ก็ยังต้องทำงานหนักเพื่อมาเลี้ยงพวกหมู    หมูเริ่มคบค้าสมาคมกับมนุษย์เจ้าของฟาร์มใกล้ๆ   เปลี่ยนชื่อฟาร์มกลับไปเป็นชื่อเดิมเหมือนสมัยเจ้าของเดิม   เชิญเจ้าของฟาร์มมาเลี้ยงดินเนอร์กันเพื่อประกาศความเป็นพันธมิตรร่วมกัน ต่อต้านชนชั้นแรงงานทั้งมนุษย์และสัตว์
   ในฉากสุดท้ายของเรื่อง  ฝูงสัตว์ในฟาร์มที่ได้แต่ทำงานหนัก แต่ไม่มีโอกาสได้รับเชิญมาร่วมงานเลี้ยง ค่อยๆเมียงมองเข้ามาแอบดูทางหน้าต่าง   ขณะที่นโปเลียนและฝูงหมูกำลังเลี้ยงต้อนรับบรรดามนุษย์เจ้าของฟาร์มใกล้ๆกันอย่างหรูหรา   ทุกสายตามองแขกและเจ้าภาพ  ด้วยความงุนงง  เพราะไม่มีใครแยกออกเลยว่า ไหนคือมนุษย์ และไหนคือหมู  ทั้งสองพวกไม่มีความแตกต่างกันเลย
จบ
 


กระทู้: หนังสือ 10 เล่มที่คนไทยควรอ่านในช่วงเวลานี้
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มิ.ย. 19, 13:05
George Orwell สะท้อนภาพให้เห็นว่า อุดมการณ์การเมืองที่หวังเปลี่ยนแปลงสังคมเก่าไปสู่สังคมใหม่    เอาเข้าจริงถ้าอำนาจเบ็ดเสร็จไปตกในมือผู้นำคนใดคนหนึ่ง   อุดมการณ์ก็หลีกทางให้อุดมกิน และอุดมโกงได้เสมอ 
ไม่เฉพาะแต่ในปฏิวัติของรัสเซีย ที่เป็นต้นแบบของนิยายเรื่องนี้เท่านั้นหรอก