เรือนไทย

General Category => ศิลปะวัฒนธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: อำแดงริน ที่ 02 ส.ค. 02, 03:02



กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: อำแดงริน ที่ 02 ส.ค. 02, 03:02
 ไปอ่านเจอในต่วยตูน ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับกฤษณาสอนน้อง
นางกฤษณามีสวามีห้าคน ยังสามารถผูกใจไว้ได้..ว้าว

ที่สงสัยคือเรื่องของช่วงเวลาค่ะ
เธอแบ่งเวลาให้แต่ละสวามีได้ยังไง........
แล้วมีลูกมั้ย........
ถ้ามีลูก รู้ได้ไงว่าลูกใคร.......
^_____________^


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.ค. 02, 08:38
 จำไม่ได้ว่ามีลูกหรือเปล่าค่ะ   ยังหาหนังสือไม่พบ
แต่จำได้ว่า  มีการแบ่งเวลาให้นางไปอยู่กับสามีแต่ละคน  ตามกำหนด  คราวละเจ็ดวันหรืออะไรทำนองนี้
มีเงื่อนไขว่า ระหว่างที่นางอยู่กับสามีคนใดคนหนึ่ง   สามีที่เหลือจะเฉียดกรายเข้าไปใกล้ที่อยู่นั้นไม่ได้ค่ะ


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: ภูมิ ที่ 26 ก.ค. 02, 11:44
 เคยได้ยินมานานแล้ว เรื่องกฤษณาสอนน้อง
แต่ยังไม่เคยอ่านต้นฉบับสักที

ใครช่วย brief ให้ฟังหน่อยซิครับว่า เป็นอย่างไร
ขอบคุณครับ


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.ค. 02, 15:36
 เรื่องกฤษณาสอนน้อง พระนิพนธ์ในสมเด็จกรมพระปรมานุชิตนิโนรส เป็นเรื่องเกร็ดย่อย แต่งขึ้นในระยะหลังจากเรื่องเดิมมาก
เรื่องนางกฤษณามาจากมหาภารตะ   มหากาพย์ของอินเดีย

เล่าเท่าที่จำได้นะคะ    ผิดถูกอย่างไรใครรู้ ช่วยแก้ไขด้วย
นางกฤษณาหรืออีกชื่อว่านางเทราปที เป็นหญิงผิวดำที่สวยมาก   นางเป็นชายาของเจ้าชายพี่น้องปาณฑพทั้ง ๕ คือยุธิษเฐียร   ภีมะ อรชุน นกุล และสหเทพ
สาเหตุก็คืออรชุนไปประลองยุทธเลือกคู่แล้วชนะ ได้นางมา
เมื่อพานางมาถึงที่อยู่ของแม่     ไม่ทันจะให้แม่เห็น  ก็บอกว่าได้โชคลาภวิเศษมาอย่างหนึ่ง
แม่จึงบอกว่า  ถ้าได้อะไรมาก็ขอให้แบ่งปันให้พี่น้องด้วย  
ปาณฑพทั้งห้าเคารพคำพูดของแม่ว่าเป็นวาจาสิทธิ์ อรชุนจึงยกนางเป็นภรรยาของทั้งห้าคน

นางเทราปทีได้ปรนนิบัติสามีทั้งห้าด้วยดี    ทุกคนก็รักนางมาก  อยู่กันมาด้วยดีตามระเบียบที่วางไว้   แต่มีครั้งหนึ่งนางแสดงความหึงหวงอรชุน เมื่อมีหญิงอื่น
แสดงว่าใจของนางคงรักอรชุนมากกว่าเพื่อน

ในบั้นปลายชีวิต  ยุธิษเฐียร สละราชสมบัติให้หลาน  แล้วเดินขึ้นภูเขาเพื่อจะไปสวรรค์พร้อมน้องๆ  และนางเทราปที
นางเป็นคนแรกที่ทนความลำบากไม่ไหว  ล้มลงสิ้นใจก่อนสามีทั้ง ๕ คน
สามีแต่ละคนก็ล้มตายลงไปเรื่อยๆจนถึงยุธิษเฐียรเป็นคนสุดท้าย   ได้พบพระอินทร์มารอรับขึ้นสวรรค์อยู่แล้ว
ส่วนน้องๆก็ล่วงหน้าไปรออยู่ในสวรรค์แล้ว   คงจะรวมนางด้วย


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 26 ก.ค. 02, 17:12
 ชาติก่อนของนางเทราปทีนั้น เธอใฝ่ฝันจะได้สามีที่เป็นคนดีพร้อม จึงพยายามบำเพ็ญภาวนาให้เทพเจ้าเห็นใจ จนในที่สุดพระศิวะเกิดเห็นใจ ปรากฎกายขึ้นต่อหน้าเธอ เธอเลยรีบขอพรให้ได้ชายที่ดีพร้อมมาเป็นสามี ด้วยความที่ตื่นเต้นจัดไปหน่อย เธอเลยพูดซ้ำซากซะ 5 ครั้ง ผลลัพธ์เป็นอย่างไรคงเดากันได้ ผมว่าไม่รู้ว่าพระศิวะหวังดีหรือหวังร้าย แต่คงเป็นอุทธาหรณ์ที่ดีสำหรับสาวๆนะครับ  

เรื่องการจัดการเพื่อป้องกันความหึงหวงนั้น ทั้งหก(กฤษณาหรือเทราปทีกับสามีทั้ง 5) มีกติกาอย่างที่คุณเทาชมพูว่าไว้แหละครับ และมีการปฏิบัติตามกติกาที่เคร่งครัดมาก  เพราะครั้งหนึ่งอรชุนเคยวิ่งตามแม่โคไปเจอเอานางเทราปทีอยู่กับยุธิษฐิระ อรชุนจึงเนรเทศตัวเองไปอยู่ป่า 12 ปีตามกฏกติกามารยาท โดยไม่ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความแต่อย่างใด เรียกว่าสปิริตแรงว่างั้นเถอะ  ผลบุญคืออรชุนได้เมียเพิ่มอีก 3 คน(แบบไม่ต้องแบ่งกับใคร) ก็ระหว่างปลีกวิเวก 12 ปีนี่แหละครับ อันนี้จะเป็นอุทธาหรณ์ได้หรือไม่นั้นคงต้องดูยุคสมัยด้วยนะครับ ท่านชายทั้งหลาบ  

เรื่องลูกนั้นนางเทราปทีมีลูก 5 คนกับสามีทั้ง 5 ดังนี้ครับ
กับ ยุธิษฐิระ มีลูกชื่อ ประติวินัย
กับ ภีมะ มีลูกชื่อ ศรุตโสม
กับ อรชุน มีลูกชื่อ ศรุตกรรม
กับ นกุล มีลูกชื่อ ศตานีกะ
กับ สหเทพ มีลูกชื่อ ศรุตเสน
ลูกๆทั้ง 5 นี้ถูกฝ่ายเการพเล่นนอกกติกา ย่องเข้าหากลางดึก ลอบสังหารพร้อมๆกันในระหว่างสงครามครับ

อ้างอิงจาก มหาภารตยุทธ ฉบับอ.กรุณา-อ.เรืองอุไร กุศลาสัยครับ


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: อำแดงริน ที่ 27 ก.ค. 02, 16:45
 เพิ่งทราบว่านางเป็นหญิงผิวดำค่ะ ทมิฬหรือเปล่าคะ

แล้วปาณฑพกับเการพเป็นพวกไหนเอ่ย

เรื่องลูกทั้งห้านี่ยังสงสัยค่ะ
แบ่งเวลาแค่คนละเจ็ดวัน จะพอให้แยกแยะบิดาได้ไง....

หลังจากอ่านข้างบนนี้แล้ว ต่อไปดิฉันจะอธิษฐานช้าๆชัดๆค่ะ
.......กลัวโชคหลายชั้น....5555

กฤษณาสอนน้อง สอนหญิงให้รู้จักทำให้ถูกใจสามีน่ะค่ะ
นัยว่าน้องสาวนางกฤษณา(จำชื่อไม่ได้)มีสามีแค่คนเดียว
ก็ยังเอาไว้ไม่อยู่..ประมาณนี้
เธอสอนตั้งแต่การรักษารูปร่างไปจนถึง
ดูแลทรัพย์สมบัติโน่นเลย
รายละเอียดดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ
ได้แต่อ่านมาจากต่วยตูนหน่อยเดียว


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ค. 02, 10:52
 น้องสาวชื่อจีระประภาค่ะ
กฤษณาสอนน้อง ก็เพียงแต่เอาชื่อนางมาจากมหาภารตะ เพื่อเน้นว่าขนาดมีสามี ๕ คนนางก็รับใช้ดูแลได้เยี่ยม
แต่เนื้อหาอยู่ในวัฒนธรรมไทยนี่เองละค่ะ
เป็นข้อประพฤติของภรรยาของสามีที่ใหญ่โต มีอำนาจวาสนา ว่าเธอควรวางตัวยังไง มากกว่าจะเป็นภรรยาของชายหาเช้ากินค่ำ
 จำได้ ๒-๓ ข้อ เช่น ตื่นก่อน นอนหลังสามี
ล้างเท้าให้สามี ลูบไล้ด้วยของหอม
ตัดความหึงหวงบรรดานางเล็กๆให้ได้หมด
 
ส่วนเรื่องลูกชาย   คุณอำแดงรินก็สงสัยราวกับว่าเป็นเรื่องจริง
ไม่ทราบว่าอาจารย์กรุณา ท่านอธิบายไว้ละเอียดถึงขั้นนั้นหรือเปล่า
ดิฉันเดาตามประสาว่า สมัยโน้นเขามีวิธีการเช็คได้ จากการนับวันย้อนหลังนะคะ


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 29 ก.ค. 02, 09:57
 เรื่องใครเป็นลูกใครนั้นไม่เคยอ่านพบครับว่านางกฤษณาเธอรู้ได้อย่างไร แต่เรื่องนี้น่ะมันเป็นแค่นิยายโบราณนะครับ คุณจะแปลกใจกว่านี้อีกถ้ารู้ว่าฝั่งพี่น้องเการพนั้นเป็นฝาแฝดแบบแฝด 1000 น่ะ พูดจริงนะครับแฝด 1000 คนที่เกิดจากการโคลนนิ่งในไหน้ำผึ้งหรืออะไรทำน้องนี้แหละ พี่แขกนี่จินตนาการช่างกว้างไกลซะจริงจริ๊ง


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ก.ค. 02, 17:35
 ชวนคุยต่อค่ะ

ฝ่ายตรงข้ามกับปาณฑพ คือพวกเการพ มีผู้นำชื่อทุรโยธน์
ทุรโยธน์พยายามหาทางกำจัดพี่น้องปาณฑพทั้งห้ามานานแต่ไม่สำเร็จ  
จนใช้อุบายเล่นสกาพนัน จนพี่น้องทั้งห้าแพ้ ต้องยกเมืองให้   เนรเทศตัวเองไปอยู่ป่า  
ส่วนนางเทราปทีตกเป็นทาสรับใช้ทุรโยธน์
ทุรโยธน์หยาบหยามนางต่อหน้าสามี  นางร้องให้ภีมะ
ซึ่งมีนิสัยดุร้ายกว่าพี่น้องช่วย    ภีมะสาบานว่าจะแก้แค้นให้ได้
ครบกำหนด ทุรโยธน์ไม่ยอมคืนเมือง จึงเกิดรบกันขึ้น กินเวลา ๑๘ วัน   ปาณฑพเป็นฝ่ายมีชัย
พระกฤษณะ อวตารปางหนึ่งของพระนารายณ์มาเป็นสารถีขับรถให้อรชุน
ทุรโยธน์ตายเพราะน้ำมือภีมะตามที่สาบานไว้
ยุธิษเฐียรจึงได้กลับมาครองเมืองตามเดิม

เชื้อสายของปาณฑพที่ครองเมืองในยุคหลัง เป็นผู้อาราธนาฤาษีวยาสให้เล่าเรื่องการรบในครั้งโน้นให้ฟัง  
ฤาษีให้ศิษย์เล่าแทน
เรื่องนี้ก็คือมหาภารตะ  เป็นมหากาพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ๑ ใน ๒ เรื่อง
อีกเรื่องคือรามายณะ หรือรามเกียรติ์


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: อำแดงริน ที่ 29 ก.ค. 02, 21:16
 
อ่า  ถ้าเจอจินตนาการระดับแบบแฝด1000
ดิฉันยกเลิกความอยากรู้อยากเห็นแล้วก็ได้ค่ะคุณเทาชมพู..^.^

มหาภารตยุทธ์นี้เคยอ่านตั้งแต่8-9ขวบน่ะค่ะ
เป็นการ์ตูน ลงในชัยพฤกษ์
จำได้ว่าอ่านสนุกมาก แต่ไม่ค่อยเข้าใจบางตอน
เช่นตอนอรชุนไปได้นางเทราปทีมา พอเข้าบ้านแม่ก็บอกให้หารห้า
ดิฉันเป็นงง ^_______^คนแบ่งได้ไง

ที่ประทับใจมากคือภีษมค่ะ
เขาแบ่งแยกหน้าที่กับความพอใจส่วนตัวได้เก่งจริงๆ
โดยส่วนตัวเขาเห็นใจปาณฑพมากกว่า
แต่เนื่องจากเขาเป็นข้าราชการของทุรโยธน์
จึงต้องเป็นแม่ทัพ นำทัพออกรบให้ฝ่ายเการพ
เมื่อถึงเวลาตาย เขายังตายเท่อีก
นอนตายบนธนูบิฐ(จำไม่ได้ว่าถูกยิงแล้วอยู่ได้อีกกี่วันค่ะ)

อีกตอนหนึ่ง ยุธิษฐิรสละราชย์ เดินทางไปจนได้ขึ้นสวรรค์ทั้งเป็น
โดยมีเพื่อนเดินทางตัวล่าสุดเป็นสุนัข และยุธิษฐิรขอให้เทวดา
ยอมให้สุนัขขึ้นสวรรค์ไปด้วย เขาถึงจะยอมขึ้นไป
แต่แล้วสุนัขกลับกลายเป็นเทวดา บอกว่าแปลงกายมาทดสอบ....

เอ เรื่องที่มีสุนัขเดินทางไปด้วยนี่ ฉบับของอาจารย์กรุณามีหรือเปล่าคะ

แล้วเพื่อนๆในห้องนี้ ชอบคนไหนเป็นพิเศษบ้างคะ
มาคุยกันหน่อยสิคะ    


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: ฝอยฝน ที่ 29 ก.ค. 02, 23:03
 แหม..ไม่ใช่ไม่อยากคุย  แต่ไม่รู้จักใครเลยสักคน(ทั้ง5 ชื่อ)ที่ว่ามานั่นค่ะ
รายละเอียดแค่ข้างบน ตัดสินใจยากนะคะว่าจะชอบใคร
เข้ามาคุยแล้วนะคะคุณเปี้ยว
ร้อนท้องไปหมดแล้วค่ะ


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: ผักบุ้ง ที่ 30 ก.ค. 02, 00:16
 จำได้แต่ว่า  เคยเรียน  กฤษณาสอนน้องคำฉันท์  ที่เป็นพระนิพนธ์ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ค่ะ
ขออนุญาตมานั่งฟัง ตักตวงความรู้ด้วยคนค่ะ


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ค. 02, 10:20
 ดูรูปพระกฤษณ์กับอรชุนได้ที่นี่ค่ะ
 http://home.earthlink.net/~shubhrasudha/lopa3.html
เสียดายที่เขาไม่ให้ copy รูปมา


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ค. 02, 10:22
 ตัวละครในมหาภารตะ ดูได้ที่นี่ค่ะ เขาไม่ให้ก๊อปปี้รูปอีกเหมือนกัน
 http://www.pandavas.com/html/default.htm


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: ทองรัก ที่ 30 ก.ค. 02, 11:54
 คัดบางตอนจาก   กฤษณาสอนน้องคำฉันท์  มาฝากค่ะ

พระองคทรงคุณพิเศษ…………………วรเวทประสิทธิ์ศิลป์
อาจผะโอนมนัสขัตติย์นรินทร์………ทั้งห้าท้าว ฤ ร้าวราน
ร่วมรมย์ผทมสุข บ่ สร่าง………………สวาทร้างฤดีสมาน
เชิญเฉลยในเล่ห์เสน่หวาน……………วจนารถประศาสน์สอน
   
………………
(วสันตดิลกฉันท์ ๑๔)   

อย่าแม่อย่าแปรประทุษฐจิต…………ทุจริตจัญไรภัย
ซึ่งซ้อมถนอมสัตยใน…………………… บทเรณุภรรดา
   
แม้รักด้วยฤทธิ์ประสิทธิมน…………ตรวิกลกฤติยา
พลันหน่ายบังวายสวาทอา……………ดุรร้าง บ่ รางนาน

   
เสน่ห์สนิทด้วยมิตรธรรมแท้………บ่ปรวนแปรจักร้าวฉาน
สุจริตเจริญคุณ ฤ ราน…………………เมตรมุ่งคุงวายวาง

   
สารแล่นครรไลคือใครจักฉุด………และจักยุดจักยื้อหาง
จักแจ้งแสดงอรรถภิปราย……………บรรยายเรื่องระบอบระบิล
   
โอวาทนุศาสนยุพิน……………………ทรเพื่อจักเพียรผดุง
โดยกิจสวามิบริรักษ์…………………พิทักษ์ราชอำรุง
   
กอบกัตเวทิธรรมคุง…………………ชิพิตม้วยด้วยสัตยา
อีกการภิบาลพิบุลวัตร………………ปฏิบัติและวาจา
   
หย่อนหยาบสุภาพพจนมา………รยาทพร้อมละม่อมกาย
สิ่งนี้เป็นที่ภิรมเยศ…………………บุรุษเจตนาหมาย

   
………………………………

สวามีเป็นศรีสวัสดิ์แสดง………… ศักดิ์สง่าแก่นารี
ชายใดแม้ได้เป็นภรรดา……………บ่ โศภาทั้งอินทรีย์
สูญเสื่อสติวิริย์ฤมี……………………ปัญญาโหดและโฉดเฉา
ไป่ควรจักคิดจิตประมาท………บริภาษดูเบา
ควรคิดสนิทเสน่หเคา…………รพเพิ่มภักดีสนอง


(กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘)

อย่าเยี่ยงหญิงชั่ว………ไป่รู้คุณผัว
ไม่กลัวความอาย……………ลิ้นลมข่มคำ
ห่อนยำเยงชาย…………….จงจิตคิดหมาย
มุ่งร้ายภรรดา
ต่อหน้าปราศรัย……………ลับหลังตั้งใจ
ดูหมิ่นนินทา…………………คอยหาข้อผิด
ห่อนคิดกรุณา………………ไป่ได้นำพา
กิจการงานเรือน


(อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑)

ตื่นก่อนเมื่อนอนหลัง………พึงเฝ้าฟังบรรหารแสดง
ตรัสใช้ระไวระแวง……………ระวังศัพท์รับสั่งสาร
ยามไท้ธิเบศทรง………………ประชวรองค์ บ่ สำราญ
อย่าคลาพยาบาล………………บำเรอรักษ์ภักดีตระโบม
ปางท้าว ธ ไสยา………………อย่าลีลาให้เครงโครม
อำรุงฤทัยประโลม……………บพิตรผู้อย่าดูเบา
 ที่สูงที่ไสยาสน ์………………อย่าอุกอาจจักเอื้อมเอา
 สิ่งใด บ่ ได้เคา…………………รพไท้ ฤ ไป่ควร


ถ้าสนใจจะอ่านฉบับเต็ม  ทางภาควิชาวรรณคดีเปรียบเทียบ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
มี กฤษณาสอนน้อง ฉบับออนไลน์ไว้ให้อ่านค่ะ เข้าไปดูได้ที่นี่นะคะ
 http://www.arts.chula.ac.th/~complit/etext/kritsana.htm  


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 30 ก.ค. 02, 21:02
 แถมครับ
คำว่ากฤษณา ตามศัพท์แปลว่าดำ คล้ำ นางเทราปทีเธอเป็นสาวผิวคล้ำที่ขำคม จึงเป็นเหตุให้ได้อีกชื่อหนึ่งว่านางกฤษณาหรือไม่ เดาว่าคงเป็นเพราะความที่เธอผิวดำนี่แหละครับ

อวตารปางหนึ่งของพระวิษณุเป็นเจ้าคือ ปางมาเป็นพระกฤษณะ ก็ศัพท์คำเดียวกัน เห็นจะเป็นเพราะพระกายสีคล้ำเช่นเดียวกัน พระกฤษณะนี้ รูปเขียนแขกเขาชอบวาดให้พระกายสีหนักยิ่งกว่าสีคล้ำอีก คือสีม่วงอื๋อเลยทีเดียว ครับ ผิวสีม่วงครับ ไม่ประหลาดอะไรหรอกครับ ก็ท่านใช่คนธรรมดาเราๆ เสียที่ไหนเล่า ท่านเป็นเทวดาลงมาก็ต้องมีอะไรประหลาดๆ อย่างนี้แหละเป็นธรรมดา (ของเทวดา)

คำว่า กฤษณ เป็นภาษาสันสกฤต ตกมาถึงบาลีกลายเป็น กัณห ครับ ใช่ครับ นางกัณหาน้องพระชาลี ธิดาพระเวสสันดรในมหาเวสสันดรชาดกนั่นแหละครับ ชื่อเดียวกันกับนางกฤษณาครับ


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 30 ก.ค. 02, 21:04
 ลืมไปครับ พระกฤษณ์ก็อยู่ในเรื่องเดียวกับนางกฤษณานั่นเอง คุณเทาชมพูทำลิ้งก์ไว้ให้ไปดูภาพพระกฤษณ์ข้างบนแล้วครับ


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: ฝอยฝน ที่ 30 ก.ค. 02, 21:58
   คารวะด้วยน้ำชาค่ะ   ขอขอบคุณทุกท่านที่แนะนำแม่นางกฤษณาให้รู้จัก...
บ่นไปหน่อยเดียวเอง ได้อ่านตั้งหลายเวบแน่ะค่ะ


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: ถาวภักดิ์ ที่ 31 ก.ค. 02, 09:14
เอ ดูเหมือนว่าพระกฤษณะนี่เป็นยอดชายในอุดมคติเลยเชียว  จำได้ว่ามีภรรยาเป็นหมื่น  และยังสามารถให้ความสุขแก่ภรรยาทุกคนได้อย่างไม่บกพร่อง  เรื่องเป็นมาอย่างไรก็ชักเลือนๆ  ท่านใดพอมีข้อมูล ช่วยสงเคราะห์ทีเถอะ  อยากศึกษาเคล็ดลับนี้ใจจะขาด


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ก.ค. 02, 10:33
 นางกัณหา  ลูกสาวของพระเวสสันดร มีชื่อเต็มว่า กัณหาชินานาฏ   แปลว่า นางผู้รองรับด้วยหนังหมีดำ
คือตอนเกิด  คลอดออกมา ถูกรองรับด้วยหนังหมีดำค่ะ
เรื่องกฤษณาสอนน้องเป็นการสอนภรรยาให้เคารพนับถือสามีอย่างสุดโต่ง
แม้แต่สามีขี้ริ้วหาหล่อไม่ได้ทั้งเนื้อทั้งตัว   สติก็ไม่ค่อยจะดี  ขี้เกียจไม่มีความขยัน     นิสัยเลวร้ายและโง่อีกต่างหาก  ก็สอนให้ต้องเคารพรัก และภักดีหนักขึ้นไปอีก

สวามีเป็นศรีสวัสดิ์แสดง………… ศักดิ์สง่าแก่นารี
ชายใดแม้ได้เป็นภรรดา……………บ่ โศภาทั้งอินทรีย์
สูญเสื่อมสติวิริย์ฤมี……………………ปัญญาโหดและโฉดเฉา
ไป่ควรจักคิดจิตประมาท………บริภาษดูเบา
ควรคิดสนิทเสน่หเคา…………รพเพิ่มภักดีสนอง

ไม่เอาละค่ะ  ยอมสอบตก รีไทร์จากตำแหน่งภรรยาโดยไม่เอ็นฯเข้าไปใหม่

คุณถาวภักดิ์  พระเอกในวรรณคดีไทย  พวกพระรามพระลักษณ์ มีสนม" แปดหมื่นสี่พันกัลยา" มากกว่าพระกฤษณ์อีกนะคะ


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: ถาวภักดิ์ ที่ 31 ก.ค. 02, 11:28
 โถ  มิน่าเล่า  ผิวแต่ละท่านถึงได้ออกเขียวออกเหลือง ผิดมนุษย์ไปตามๆกัน  น่าสงสารแท้ๆ

คตินิยมความเป็นกษัตริย์ผู้มากด้วยบุญญาธิการ เฉกเช่นเหล่ากษัตริย์ตามท้องเรื่องมหาภารตยุทธและรามเกียรติ์ ดูจะมีอิทธิพลมาโดยตลอดในประวัติศาตร์ของลุ่มน้ำเจ้าพระยา นับตั้งแต่นครพระกฤษณ์ อโยธยา ลพบุรี อยุธยา มาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์อันมีพระมหากษัตริย์เฉลิมพระนาม สมเด็จพระรามาธิบดี มาโดยตลอด  เป็นที่น่าสังเกตว่าชื่อกรุงปัจจุบันได้เปลี่ยนไปจากความนิยมแต่โบราณ ยักเยื้องมาเป็นเมืองเทวดาคล้ายดาวดึงส์ของท้าวโกสีย์แทน  ซึ่งคงเป็นเพราะศรัทธาความเชื่อในเทพเจ้าของฮินดูที่ลดน้อยถอยลง และแทนที่ด้วยความมั่นคงในพระพุทธศาสนา  โดยดูจะรุ่งเรืองเป็นที่สุดจากการเอ่ยขานพระนามพระเจ้าอยู่หัวอย่างเคารพรักและเทิดทูนว่า พระพุทธเจ้าหลวง ในรัชสมัยรัชกาลที่ ๕ แห่งกรุง


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 31 ก.ค. 02, 21:07
 คุณถาวภักดิ์ครับ พระกฤษณ์นั่นท่านเป็นเทวดานี่ครับ คุณกะผมใช่เทวดาซะที่ไหนล่ะ อย่าไปเอาอย่างท่านเล้ย ถึงพระราม พระลักษมณ์ ก็เหมือนกัน เทวดาทั้งนั้น ไอ้ผมน่ะอย่าว่าแต่หมื่นแปดพันนางหรือแปดหมื่นสี่พันนางเลย นางเดียวก็ยังหาไม่ได้ ไม่มีโอกาสทำให้นางซักหนึ่งนางมีความสุขได้เลย ป่วยการเลียนแบบพระกฤษณ์

ตามนิทานแขกเขาว่า พระกฤษณ์ท่านแบ่งภาคได้ครับ แบ่งภาคไปร่วมภิรมย์สมสู่กับนางทั้งหมื่นแปดพันหรือหมื่นแปดร้อยอะไรนั่นได้พร้อมๆ กันในคราวเดียว ทำให้แต่ละนางนึกว่าพระกฤษณ์รักนางคนเดียวเป็นพิเศษจึงมาอยู่ร่วมแต่กับนาง โดยไม่รู้ว่าท่านแบ่งภาคได้ ตรงนี้จะว่านิทานโม้หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ปรัชญาฮินดูเขาตีความได้ในเชิงปรัชญาว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างพระผู้เป็นเจ้ากับมนุษย์ตัวเล็กๆ ทำนองว่า ถ้ามอบใจภักดีแก่พระเจ้า (คือพระวิษณุ) เต็มที่แล้วก็จะได้รับความสุข ได้รับพระกรุณาดูแลเอาใจใส่เราคล้ายๆ กับว่าเราเป็นคนพิเศษ แต่แท้จริงแล้วพระเจ้าท่านมีฤทธิ์ ท่านเอาใจใส่คนทุกคนตั้งแต่คนใหญ่คนโตจนคนเล็กคนน้อยยังงี้แหละทั่วหน้าเป็นสากล ไม่มีขีดขั้นจำกัด แต่คนเราแต่ละคน ซึ่งมีความรับรู้จำกัด ก็จะรู้สึกเหมือนกับว่าท่านเอาใจใส่เฉพาะเราเท่านั้น .... อะไรเทือกนี้ทำนองนี้แหละครับ ผมไม่ใช่สวามี (สามีก็ยังไม่ใช่ -แฮ่ม...) อย่าซักปรัชญาฮินดูผมมาก เดี๋ยวผมจน

แต่ถ้าจะว่ากันเรื่องปรัชญาฮินดูกันแล้ว คัมภีร์สำคัญที่สุดเล่มหนึ่งของฮินดู คือภควัทคีตา ก็มาจากการสนทนาระหว่างพระกฤษณ์กับอรชุนในเรื่องมหาภารตยุทธนี่แหละ แขกเขาว่า "คือบทสนทนาทางวิญญาณระหว่างมนุษย์กับพระผู้เป็นเจ้า"

ในเรื่อง กามนิต ที่ท่านเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีปแปล ท่านผู้แต่งที่เป็นฝรั่งเขียนเป็นพระพุทธดำรัส (ไม่ใช่พระพุทธดำรัสจริงๆ เป็นพุทธดำรัสในนิยายเท่านั้น) ให้พระพุทธเจ้าตรัสเปรียบเทียบพระกฤษณะกับพระพุทธองค์ เขียนได้เข้าท่าดีครับ เช่นว่า พระกฤษณะในตำนานเก่าเคยสู้กับช้างร้ายจนฆ่าช้างได้ พระพุทธเจ้าก็เคยทรงผจญช้างร้าย (อยู่ในคาถาพาหุงหรือพุทธชัยมงคลคาถา) และทรงเอาชนะได้ด้วยพระเมตตาจิต ไม่ต้องทำร้ายเข่นฆ่ากัน พระกฤษณ์เวลาอยู่ร่วมกับนางทั้งหลายสามารถนิมิตแบ่งภาคตัวเองจนนางทั้งหลายนึกว่าพระกฤษณ์รักแต่นางคนเดียว ฉันใด พระพุทธองค์เวลาทรงแสดงพระธรรมเทศนาต่อประชุมชน ก็ทรงสามารถแสดงธรรมที่ปรากฏแก่ใจผู้ฟังแต่ละคนๆ ตรงใจ หรือแทงใจดำคนฟัง เหมือนหนึ่งว่าท่านโปรดเขาคนนั้นเป็นการเฉพาะ ทั้งที่ท่านเทศน์โปรดคนฟังกลุ่มนั้นทั้งหมด ฉันนั้น


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: ฝอยฝน ที่ 31 ก.ค. 02, 23:02
 สาธุ๊ ..เมตตาธรรมค้ำจุนโลก จริงๆค่ะ

ในเบื้องต้น...ถ้าเจอคำสอนของคุณพี่กฤษณาแบนี้ ขอยอมเป็นน้องดื้อ ไม่เชื่อฟังใดใดทั้งสิ้นค่ะ

อันความรักที่เหมาะสมด้วยกาละเทศะ น่าสรรเสริญทั้งนั้นแหละค่ะ
ความรักในเพื่อนมนุษย์ เมตตาธรรมที่พระพุทธองค์ทรงมีต่อสัตว์โลกเป็นสิ่งที่สมควรศึกษาเข้าใจและปฏิบัติตาม

ส่วนความรักที่พระเจ้าในนิทานแขก ท่านโปรดแบ่งภาคมาประกอบภารกิจ อย่างไม่ทำให้มนุษย์ตัวเล็กๆเป็นทุกข์ ด้วยการเอาใจใส่เหมือนกับตัวเองเป็นคนพิเศษ น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับมนุษย์เดินดินได้ในประเด็นที่ว่า  ปฏิบัติอย่างไรให้คนตัวเล็กๆ รู้สึกว่าตัวเองมีค่า ได้รับการเอาใจใส่ดีพอต่างหากล่ะคะ ที่สมควรปฏิบัติตาม

ถ้าเจอมนุษย์ที่ปฎิบัติได้แบบนี้ ที่นี้ละค่ะ ที่นี้ละกฤษณาสอนน้องยังไงก็เชื่อฟังทุกประโยค ทุกคำพูดเลย


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ส.ค. 02, 08:26
"ปฏิบัติอย่างไรให้คนตัวเล็กๆ รู้สึกว่าตัวเองมีค่า
ได้รับการเอาใจใส่ดีพอต่างหากล่ะคะ ที่สมควรปฏิบัติตาม"
ชอบมากค่ะคุณฝอยฝน


กระทู้: นางกฤษณา....
เริ่มกระทู้โดย: หนูหมุด ที่ 03 ส.ค. 02, 03:02
 มานั่งอ่านอยู่นานมากเลยค่ะ แต่ขอสารภาพว่าไม่เคยทราบเรื่องมหาภารตะยุทธมาก่อนเลยค่ะ เคยแต่ได้ยินชื่อพระกฤษณะ อรชุน ข้าน้อยด้อยปัญญานัก ได้แต่ติดตามไม่อาจเสนออันใดได้...
ชอบที่คุณฝอยฝนกล่าวจังเลยค่ะ ทำให้นึกถึงเทวดากรีก จอมเทพซีอุสค่ะ รู้สึกคล้ายๆกันดีค่ะ