|
Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 76 เมื่อ 22 มิ.ย. 17, 14:11
|
|
๐ ปลอบตัวเอง ๐
มากน้อยในสิ่งหวังนั้นฝั่งหนึ่ง เหตุย่อมพึ่งเพียรพาไปหาผล หลายระยะผสานผ่านวังวน บ้างทุกข์ทนท้อไหมเมื่อไกลเกิน
จึงวัดใจว่าใจที่ไหวนั้น จะบากบั่นเพียงใจไม่ขาดเขิน รู้ลุกรับกับก้าวคราวเผชิญ แม้ยับเยินอยู่บ้างในบางที
ด้วยเหตุผลคนหวังเป็นดั่งเชื้อ จึงจะเหลือลายลักษณ์เป็นสักขี เขาคนเราก็ใช่ ไฟก็มี ย่อมถึงที่วาดหวังอันรังรอง
เพราะยังหายใจอยู่รับรู้สึก โดยสำนึกดีเดินเกินจะหมอง เถิด ศรัทธาฟ้ามีวันสีทอง รอผู้จองจับฝันอันอำไพ .. ความเป็นอื่นคืนกลับการรับรู้ วนเวียนอยู่ย่ำคิดความชิดใกล้ ทอดสายตาสามารถอาจเข้าใจ ทางที่ไร้แรงตื่นเคยยืนยัน
ดอกหญ้ายังพลิ้วไหวในลมหนาว คอยส่งข่าวคนหลงทางกลางความฝัน บอกความจริงอิงอ้างระหว่างวัน ว่าผกผันเพียงใดไม่ยั่งยืน
ข้างขึ้นแรมลงบ้างอยู่อย่างนี้ เพื่อให้มีมุ่งมั่นมีวันตื่น เป็นแรงใจใฝ่ฝันในวันคืน ให้เราฝืนเราฝ่าชะตาตน
ธรรมดา ๑๐/๑/๒๕๕๙ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 77 เมื่อ 07 ส.ค. 17, 10:08
|
|
“คนรักคนแรก”
คิดถึงหนึ่งอาทรอันอ่อนหวาน ดั่งสายธารทอดสายจากปลายสรวง รื่นฤดีดาวพร่างกระจ่างดวง ซึ้งสู่ห้วงแห่งรักประจักษ์ใจ
คือคนคอยเคียงข้างทุกทางฝัน ปลอบโยนอย่างเท่าทันยามหวั่นไหว ล้าแรงหวังทั้งปวงยังห่วงใย คอยค้ำชูอยู่ใกล้แต่ไรมา
วันคืนเคลื่อนเดือนปีจะกี่กาล เก็บวันหวานวาดซึ้งคะนึงหา ห่มห้วงใจจากใจใส่ลมพา เคียงคำว่ารักแท้ที่ “แม่” มี
รักล้นกว่าคนใดอยู่ในโลก แม้สุขโศกสับสนบนวิถี เติมใจให้ห้วงรักและภักดี ตราบนานนี้น้อมอยู่ ลูกบูชา
ลูกรำลึกถึงคุณอบอุ่นนั้น ด้วยผูกพันยังอยู่อย่างรู้ค่า มิเลือนร้างห่างไกลในเวลา ยังหวังว่าไม่นานกลับบ้านเรา
กลับมากราบกับแทบตัก รักยิ่ง ได้อุ่นอิงใดเปรียบมิเทียบเท่า มั่นละมุนมิ่งแล้วแนวลำเนา แม่ปัดเป่าเปลื้องทุกข์ให้สุขทรวง
ธรรมดา ๑๕/๒/๒๕๕๕ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 78 เมื่อ 24 พ.ค. 18, 14:51
|
|
ฉันนับถือหัวใจเธอ ลูกสาวประเทศเธอคือลูกสาวเรา ยืนอยู่นอกร่มเงาไม้ใหญ่ แกร่งต่อฟ้ากล้าขวางทุกทางไป มีหัวใจเท่ากำปั้นแต่มั่นคง
กล้าที่จะยืนหยัดถนัดถนี่ กล้าที่จะบอกชี้สิ่งประสงค์ กล้าแสดงความเห็นมาตรงตรง ตัวเล็กเล็กแต่สูงส่งมหัศจรรย์
ยิ่งจับกุมก็ยิ่งแกร่งยิ่งแบ่งพวก ยิ่งผนวกความแค้นแสนหฤหรรษ์ ยิ่งจับกุมยิ่งพลาดอนาถอนันต์ ยิ่งนานวันยิ่งลำบากยิ่งยากใจ
ฉันนับถือหัวใจเธอ ลูกสาวประเทศ เมื่อเกิดเหตุ เธอยังกล้าฝ่าฟันได้ เธอคือลูกของเราโปรดเข้าใจ เรารักลูกเราแค่ไหนต้องรักเธอ
ชมัยภร แสงกระจ่าง ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 79 เมื่อ 20 มิ.ย. 18, 17:09
|
|
กว่ามีสุขเสพซึ้ง ชมจันทร์ ขมขื่นข้ามคืนวัน ว่ายว้าง ลุหลายเล่ห์โลกพลัน ปรากฏ ทรงสู่ตนแต่สร้าง เสพสิ้นสมัย ฯ |
"ห่างหายไปพักใหญ่ ระยะหลังๆไม่ค่อยได้เขียนครับ ฝีดมาก ขอบคุณ อ.เพ็ญชมพู ที่นำงานเขียนทรงคุณค่าความหมาย ที่ควรแก่การจดจำ มาให้อ่านครับ"
ธรรมดา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 82 เมื่อ 25 ก.ค. 18, 18:46
|
|
๐ เธอ ๐
มือเท้าเธอนั้น นักสู้ เธอรู้เธอรักโลกใหม่ ฟ้าด้าวเดียวเด่นเป็นไท ซื่อใสศรัทธา ท้าทาย
เถื่อนทุ่งท้องเลโลกฝัน เธอปั้นปรุงคำความหมาย ดินหอมดาวพร่างเดือนพราย สร้างสายสะพานผู้คน
เธอทุกข์เธอทำลำบาก เธอยากเธอยิ้ม ให้หน กี่ก้าวก็ก้าวเท้าทน แม้นหม่นไม่ท้อทำนอง
นั่นเธอถึงแท้แก่กล้า บนบ่าแบกโลกทั้งผอง เธอเห็นวันหน้ามามอง เรียกร้องรางวัลชีวิต
แล้วโลกก็รัก เธอรู้ คุณ“ครู”คำนี้ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมือถือไม้เป็นมิตร ด้วยจิตด้วยแจ้งจรรยา
ส่องทางสร้างคนคือครู โลกรู้รำลึกคุณค่า มีคนมีครู ปูชา ดินฟ้าคำนับ นิรันดร์
ธรรมดา ๒๕ กรกฏาคม ๒๕๖๑
"เพื่อนผมคนหนึ่ง เธอเป็นครูมาหลายปีแล้ว เธอชอบย้ายไปสอนตามชนบทห่างไกล วันนี้วันคล้ายวันเกิดเธอ ก็เลยเขียนกลอนส่งไปให้ เป็นกำลังใจครับ" |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 83 เมื่อ 11 ส.ค. 18, 23:14
|
|
๐ แม่ ๐
มีคำเป็นล้านคำคอยย้ำอยู่ จึงเรารู้ว่า“แม่”นั้นแค่ไหน กว้างกว่าฟ้ากว่าดินจนสิ้นใจ แม้เกิดใหม่ก็แม่ดูแลเรา
พระคุณท่านหนึ่งนี้ไม่มีสอง จะเรืองรองในโลกกี่โศกเศร้า มือแม่แท้ถนอมที่กล่อมเกลา กี่หนักเบาบนบ่ากี่ท้าทาย
ทุกข์เท่าท่านไม่มีที่โลกรู้ ท่านคือผู้ไม่พร้อมจะยอมพ่าย อุปสรรคหนักไหนทั้งใจกาย นั้นอย่าหมายรักสิ้นในวิญญาณ
สองมือแม่อุ้มชูเป็นผู้ให้ ด้วยดวงใจด้วยธาตุที่อาจหาญ เปี่ยมพลังฝังแฝงแรงบันดาล ด้วยอ้อมอุ่นอ่อนหวานประมาณพรหม
เพื่อลูกรักนักสู้ไม่รู้สิ้น จะอาจิณอยู่หยาดทุกชาติสม ให้โลกรู้ปูชาค่าน้ำนม นั้นอุดมนักหนาที่อาทร
จากใจลูกคนหนึ่งในวันนี้ กราบเท้าที่เช้าค่ำทุกคำสอน เมื่อไกลแม่แต่ใจจะไม่จร เฝ้าขอพรพันหมื่นให้ชื่นทรวงฯ
ธรรมดา ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๑ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 84 เมื่อ 16 ส.ค. 18, 15:13
|
|
๏ ครอบครัวดวงตะวัน ๏
พบแล้วว่าบทกวีซึ่งมีค่า เกิดแต่นาดินน้ำชุ่มฉ่ำใส สัมผัสรอยควายน้อยในดวงใจ ร่วมรอยไถรอยถากรักรอยแรง
มิใช่การไขว่คว้าปรัชญาวิจิตร มิใช่ปรุงประดิษฐ์คิดศัพท์แสง หากแต่ปรนแต่ปรุงทุ่งรักแล้ง ด้วยฝนพรำน้ำแพงแห่งน้ำพจน์
เพียงชำแรกรู้สึกในรู้สา ก็รู้ไหวไม้หญ้าอันปรากฏ ทั้งกำเนิดกำหนดอรรถรส และกำสรดกำซาบอาบอกเกรียม
ทุ่งปัญญานากวีคือชีวิต เมล็ดพันธุ์ความคิดคือจอบเสียม แดดอารมณ์ ลมอารีที่ทัดเทียม ก็ถักเหลี่ยมทอคมได้สมกัน
เพลี้ยแมลงแมงร้ายจากเมืองร้อน ทุกรอยบ่อนรอยเบียนกี่เกวียนบั้น คือบทเพลงเร่งเร้าให้เท่าทัน ศาสตราวรรณศิลป์ต้องทรงพลัง
ดั่งตะวันดวงนั้นที่ฉานฉาย ทุกอณูกรวดทรายได้แฝงฝัง ร้อนคือเย็น เย็นคือร้อนซ่อนตอซัง ในนาปีนาปรังทั้งนาคร
พบแล้วว่าบทกวีมีเสียงเรียก ให้เรารู้สำเหนียกในอักษร ให้ตื่นรับอรุณอุ่นอาทร พลิกหัวไร่ปลายดอนก่อนอัสดง
และที่สุดบทกวีก็บอกว่า ราคาของบทกวีที่สูงส่ง คือเลือดเนื้อจิตวิญญาณที่จารผจง และดำรงอยู่ในหัวใจกวี
หนังสือ: ครอบครัวดวงตะวัน ประพันธ์โดย อ.ศิวกานท์ ปทุมสูติ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 85 เมื่อ 18 ส.ค. 18, 23:08
|
|
๏ ฝั่ง ๏
สามโลกธาตุทะเลลึก ล้วนผนึกแนบแน่นดั่งแก่นหิน หุ้มห้วงจิตปิดตาเป็นอาจิณ จึงชาชินภพผังในวังวน
ว่ายวิถีมีมาผู้ล้าหลง กี่ปลดปลงก็เปลี้ยละเหี่ยหน กี่เงื่อนงำล้ำลึกกี่ตรึกตน ต้องคิดค้นข้ามเขื่องกี่เปลื้องปม
คำหลวงปู่รู้ร้อนและเย็นย้ำ รู้ถลำเย็นร้อนผ่อนผสม สติมั่นมัฌชิมาที่อารมณ์ รู้ทับถมก่อนทิ้งต้องจริงจัง
พุทธธรรมดำรงประสงค์ชี้ จะผิดถูกชั่วดีให้มีหวัง มีวันตื่นฟื้นฟ้าขึ้นมาฟัง ธรรมที่รั้งใจรู้ผู้เบิกบาน
นฤมิตมรรคาก็ปรากฏ หมื่นบรรพตพ้นพรางจางหมอกม่าน ข้ามความคิดติดดินดวงวิญญาณ เมื่อตื่นต้านต่อเหตุเมตตาธรรม
ในเราล้วนทะเลและหุบเหว สุขซ่านเปลวเป็นไฟใจถลำ ทุกข์ถาโถมทั้งสิ้นแผ่นดินดำ จึงต้านต่ำต่อสู้เยี่ยงผู้พ้น
เพียงประโยชน์ยังเราและท่านถ้วน สำเร็จล้วนต่อโลก โศก สับสน มากน้อยรอยเลื่อนรับผู้อับจน ให้รู้ร่นหลีกแล้งสู่แสงทอง
ครั้งธารธรรมทอดท้นทุกชนชั้น ซึ่งปรากฏบทบรรณที่ผันผอง เพื่อนเกิดแก่เจ็บตายตามครรลอง รู้ตื่นตรองตนฝ่าชลาลัย
ปรารถนานั้นล้วนจักถ้วนถึง ช้าเร็วซึ่งต่างตั้งต่อฝั่งใฝ่ บานบนทางเที่ยงธรรมประจำใจ แม้ยังไกลกว่ากัป นับจากนี้ ธรรมดา ๒๓ กรกฏาคม ๒๕๖๑ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 86 เมื่อ 23 ส.ค. 18, 19:18
|
|
๏ แสงเช้า ๏
ขอบคุณคนคุ้นเคยที่เคียงข้าง ขับข้องความอ้างว้างระหว่างหวัง ดุจแสงเช้าชุ่มกายผู้พ่ายพัง ขณะนั่งในหนาวและร้าวราน
สองมือมั่นไมตรีที่โอบเอื้อ ด้วยจุนเจือจากใจไหลรินผ่าน อักษราเรืองพรแห่งกลอนกานท์ ก็ผสานซึ่งโศกคราโลกลวง
.......เพื่อนรัก ต่างตระหนักพิษภัยอันใหญ่หลวง ครั้งใจคนหม่นไหม้ไฟสุมทรวง ช่างหนักหน่วงเหนื่อยล้าน้ำตาคลอ
คืนมืดนั้นยืดยาวกว่าคราวก่อน ร้างสัญจรทางใจอยู่ไหนหนอ จ่อมจมระงมเหงาและเฝ้ารอ ต้องชุบช่อชีวิตสู่ทิศใด
คืนความหวังทั้งที่โศกในโลกลึก ผู้ผนึกน้ำตามาฝันใฝ่ พยายามหยัดยืนอย่างฝืนใจ บนโลกไร้ขอบเขตเจตนา
เพื่อทิศทางวางวาดโดยธาตุแท้ สู่กระแสสร้างตนอย่างคนกล้า ลุกลำดับขับขานกาลเวลา แล้วทวงค่าคนจริงจะยิ่งยืน
ธรรมดา ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๕ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 88 เมื่อ 17 ต.ค. 18, 17:18
|
|
๐ คนเขียนกลอน ๐ .. เขียนคำรักทักทายจากปลายฟ้า หมอกภูผาพรรณรายสายน้ำใส ทุ่งแสงทองท้องน้ำวามวิไล ลมพลิ้วไหวหว่านหวานนิทานดาว
เก็บดอกไม้มาฝากจากความฝัน แสงตาวันวาดรุ้งจรุงหาว ปาฏิหาริย์หว่านหวังสะพรั่งพราว หมู่เมฆขาวเคลื่อนคละเริงระบำ
เขียนความฝันฝากใจในมิ่งมิตร วาดวิจิตรจันทร์ดาว,คราวถลำ จินตนาถาโถมชโลมคำ ให้ชื่นฉ่ำชีวิตจิตวิญญาณ
ชื่นอุษาในทรวงทุกช่วงเช้า กล่อมขวัญเจ้าละไมในวันหวาน แต้มโลกรุ้งเลอสรวงด้วยดวงมาน ท่องสายธารโลกศิลป์อจินไตย
โพ้นทะเลเห่ห้อมล้อมรวงคลื่น ค่ำดาษดื่นดาราโรยฟ้าใหม่ มุ่งมโนนั่นฟ้าสุราลัย ปั้นด้วยไฟน้ำดินรินอารมณ์
แล้วปรุงเปลี่ยนเขียนท้องทะเลลึก นิมิตหมึกน้ำค้างสร้างผสม ระรื่นโรยโบยโบกแห่งโลกกลม ก็พร่างพรมด้วยรักพักวิมาน .. คั่นความจริงรัญจวนจึงล้วนโลก ใสซึ้ง โศก ศรัทธา ปาฏิหาริย์ สมมุติผุดบัญญัติมิทัดทาน ทั้งขมหวานวันวัยในวังวน
เฝ้าขีดเขียนเรียนโลกประโยคหยั่ง ผ่านภวังค์หวั่นไหวในห้วงหน สุข,ทุกข์ท่ามวิถีเสรีชน ซึ่งผลิผลพรรณนามาเป็นกลอน ธรรมดา ๒๗ มกราคม ๒๕๕๕ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Thammada
ชมพูพาน
ตอบ: 104
ฤๅคู่ขนานนั้น ไร้วันจะบรรจบ
|
ความคิดเห็นที่ 89 เมื่อ 13 พ.ย. 18, 15:28
|
|
๐ คนไกล ๐
แม้ยามห่างต่างฟ้าสัญญาอยู่ เหมือนนกคู่เคียงคอนจะนอนไหน แค่ค่ำเคลื่อนเดือนปีที่คลาไคล ซึ้งสายใยอยู่เยี่ยง,เพียงคำแพง ผ่านฟ้าดาวเดือนฉายรำบายโบก ไพเราะโลกมโหรีล้วนสี,แสง กล่อมกมลคนคว้างเมื่อคลางแคลง โลกใช่แล้งรางวัลอันอุดม
ด้วยมีหมายลายรุ้งทุกทุ่งท่อง นั่นแสงก่องเมืองไกลก็ใช่สม หากหัวใจไฟฟื้นต่อรื่นรมย์ จะกว้างกลมก็ใกล้ในดวงมาน
แม้ยามห่างต่างใจใกล้กันอยู่ เหมือนดาวคู่ฟ้าค้ำความฉ่ำหวาน เคียงถนอมกล่อมเกื้อกี่เรื่อลาญ รักจะต้านต่อโศกแห่งโลกเรา .. หลับฝันดีที่รักหนักเหนื่อยแล้ว จะกล่อมแก้วขวัญนอนรอนความเศร้า ดงดาวราวรุ้งฝันถึงบรรเทา ขับความเหงาขึ้นงามยามราตรี
ธรรมดา ๑๒ กันยายน ๒๕๖๑ |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|