เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: NAVARAT.C ที่ 30 ก.ย. 12, 09:49



กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ก.ย. 12, 09:49
เมื่อเด็กๆ ผมได้ยินชื่อตรอกที่คนไทยเรียกว่าตรอกกัปตันบุด ยังเข้าใจไปว่าสะกด กัปตันบุตร เมื่อเห็นป้ายชื่อกลายเป็นเขียนว่า “กัปตันบุช” อ้าว..ไม่ใช่คนไทยดอกหรือ แล้วกัปตันฝรั่งคนนี้เป็นใครล่ะ

ในเวปต่างๆที่ลอกกันไปลอกกันมาไม่ทราบใครเขียนเป็นคนแรก ค้นหาประวัติกัปตันบุชได้ประมาณนี้

ตรอกกัปตันบุช ตั้งอยู่ระหว่างตรอกฮ่องกง กับที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขกลาง ถนนเจริญกรุง มีระยะทางจากถนนเจริญกรุงไปจดแม่น้ำเจ้าพระยา ชื่อตรอกมาจากชื่อกัปตัน จอห์น บุช

จอห์น บุช เป็นชาวอังกฤษ เข้ามารับราชการในประเทศไทยเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๓๙๖ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตำแหน่งเจ้าท่า สังกัดกรมท่า มีความรู้ความสามารถ และความฉลาดเฉลียวในการปฏิบัติราชการ จนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์อย่างขุนนางไทยตามลำดับ คือ หลวงสาครหรือหลวงสุรสาคร พระวิสูตรสาครดิฐ และพระยาวิสูตรสาครดิฐ

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กัปตันบุชมีโอกาสสนองพระเดชพระคุณใกล้ชิด ในฐานะผู้บังคับการเรือพระที่นั่งเสด็จประพาสที่นั่งต่างๆ หลายครั้ง ทั้งในประเทศและนอกประเทศ เช่น ครั้งเสด็จสิงค์โปรและอินเดีย พ.ศ. ๒๔๑๓ และพ.ศ. ๒๔๑๔ เป็นต้น จึงเรียกกันว่า กัปตันบุช นอกจากราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว กัปตัน จอห์น บุช ยังประกอบธุรกิจส่วนตัว คือเป็นผู้จัดการบริษัทบางกอกด๊อกอีกด้วย

กัปตันบุชตั้งบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้ที่ทำการกรมเจ้าท่า จนถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๐
ปัจจุบันแม้จะไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับบ้านเรือนของกัปตันบุช แต่สิ่งที่ยังคงเหลือเป็นอนุสรณ์คือ ตรอกที่ตั้งบ้านเรือนของท่าน เรียกว่า “ตรอกกัปตันบุช” ปัจจุบันตรอกกัปตันบุชมีชื่อเป็นทางการว่า ซอยเจริญกรุง ๓๐


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ก.ย. 12, 09:53
เมื่อตามไปดูเวปของกรมเจ้าท่า ในเรื่องประวัติของกรม ก็เขียนเกี่ยวกับกัปตันบุชไว้เพียงเท่านี้ ชื่อของท่านภาษาอังกฤษยังสะกดผิดเลย

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทางราชการได้ทำสัญญาจ้างกัปตัน จอห์น บูช (John buch) ชาวอังกฤษ  มาเป็นผู้ริเริ่มงานฝ่ายเจ้าท่า มีการลงนามในสัญญาระหว่างไทยกับอังกฤษ เมื่อวัน  8ฯ9 ค่ำ จุลศักราช 1221 ปีมะแม เอกศก ตรงกับวันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2402 กรมเจ้าท่าจึงถือเอาวันที่ 5 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนากรมเจ้าท่า

สมัยกัปตัน บูช เป็นเจ้าท่า ตำแหน่งเจ้าท่าขึ้นอยู่ในกรมพระคลัง ต่อมาย้ายสังกัดอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเดิมมีชื่อว่า "กรมท่า" (Kromata) พ.ศ. 2432 ย้ายไปอยู่กระทรวงโยธาธิการ ครั้นพระยาวิสูตรสาครดิษฐ์ชราภาพ ได้กราบถวายบังคับลาออกจากราชการ กัปตัน เอ. อาร์. วิล เป็นเจ้าท่าสืบแทน ต่อมา เมื่อกัปตันวิล ถึงแก่กรรม ใน พ.ศ. 2438 ได้ยุบตำแหน่งเจ้าท่าลงเป็นตำแหน่งเวรท่ามีนาย โยเกนซัง ชาวเดนมาร์ก เป็นเวรท่า ทำหน้าที่ตรวจตราลำแม่น้ำ

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งที่ทำการของกรมที่ตึกเจ้าสัวเส็งริมแม่น้ำเจ้าพระยา ข้างตลาดน้อย ตรงข้ามปากคลองสาน (คือที่ตั้งของกรมเจ้าท่าในปัจจุบัน) ใน พ.ศ. 2439 ทรงยกฐานะเวรท่าเป็น กรมเจ้าท่าและทรงแต่งตั้ง ม.ร.ว. พิณ สนิทวงศ์ เป็นเจ้ากรมเจ้าท่า พ.ศ. 2444 ย้ายสังกัดกรมเจ้าท่าไปขึ้นอยู่ในกระทรวงนครบาล พ.ศ. 2448 กรมเจ้าท่าได้ยกฐานะเป็นกรมชั้นอธิบดี และ ทรงให้ตราพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย ร.ศ. 124 (พ.ศ. 2448) และในปีนี้เอง ทรงเริ่มปรับปรุงกิจกรรมกรมเจ้าท่าขึ้นใหม่ โดยยกเอางานบางส่วนจากกรมคลองเดิมมารวมกับกรมเจ้าท่า

ผมต้องหันไปพึ่งเวปภาษาอังกฤษจึงพอจะแกะรอยกัปตันคนดังนี้ได้บ้าง พอจะเอามาเขียนกระทู้ให้อ่านสนุกๆเป็นความรู้รอบตัวของคนกรุงเทพได้สักเรื่องหนึ่ง ก่อนอื่นต้องบอกว่าชื่อภาษาอังกฤษของกัปตันบุช เขียนอย่างถูกต้องตามที่จารึกบนหลุมฝังศพของท่านดังนี้

ADMIRAL SIR JOHN BUSH K.C.W.E. 

 เซอร์ จอห์น บุช เคซีดับเบิ้ลยูอี
(ตัวย่อท้ายชื่อเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ผู้ได้รับสามารถใช้คำว่าเชอร์นำหน้าชื่อได้)

ในภาคภาษาไทยท่านชื่อ นายพลเรือเอก พระยาวิสูตรสาครดิฐ
 


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ก.ย. 12, 09:57
จอห์น บุชมาถึงกรุงเทพพร้อมกับศรีภรรยา อลิซาเบท ลอร์สัน บุช ในปีพ.ศ.๒๔๐๐ หลังจากที่สยามลงนามในสนธิสัญญาทางพระราชไมตรีกับอังกฤษเพียงปีเดียว โดยข้อตกลงข้อหนึงในนั้นคือการที่สยามจะต้องเปิดท่าเรือรับการค้าจากต่างประเทศ นอกจากอังกฤษแล้วฝรั่งเศสและอเมริกาก็เป็นชาติที่ติดตามเข้ามาทำสนธิสัญญาฉบับเดียวกันอย่างรวดเร็ว การพาณิชย์นาวีก็เบิกบานขึ้นในทันใดจนท่าเรือกรุงเทพแน่นขน้ดไปด้วยเรือสินค้านานาชาติ สุดปัญญาที่ข้าราชการกรมท่าคนไทยจะบริหารจัดการได้

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯจึงทรงมีพระราชประสงค์จะได้ฝรั่งสักคนที่มีประสพการณ์มารับราชการในงานนี้ จึงทรงทาบทามกัปตันบุชนายทหารระดับผู้บังคับการเรืออังกฤษที่มาประจำการอยู่ในกรุงเทพ เมื่อเซอร์ซอมเบิร์กกงสุลใหญ่อังกฤษสนับสนุน จอห์น บุชก็ตอบรับพระกรุณา ลาออกจากราชการอังกฤษ ทรงตั้งตำแหน่งให้เป็นที่หลวงวิสุทธิ์สาครดิฐเจ้าท่า และกัปตันบุชก็รับหน้าที่เป็นนายท่าของท่าเรือกรุงเทพอันคึกคักมากที่สุดแห่งหนึ่งในอุษาคเนย์

ในภาพเป็นท่าเรือกรุงเทพในสมัยรัชกาลที่สี่ ตามจินตนาการของผู้สร้างหนังเรื่อง “แอนนาแอนด์เดอะคิง"


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ก.ย. 12, 10:01
สยามมิได้เพียงแต่จะมีกิจการด้านการท่าเรือเท่านั้น แต่ยังออกแบบและสร้างเรือของตนเอง ทั้งเรือขนาดใหญ่มีปั้นจั่นยกของในตัวไปจนเรือขนาดเล็ก ที่กำลังทดลองเรือกลไฟต้นแบบอยู่ก็มี แต่สยามก็ขาดบุคคลากรระดับกัปตันผู้มีประสพการณ์มาขับเคลื่อนมัน ในบรรดาข้าราชการคนไทยไม่มีใครจะมีความรู้ความชำนาญเท่ากัปตันบุช พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯเวลาจะเสด็จทางทะเล ก็โปรดที่จะใช้กัปตันบุชให้ทำหน้าที่ผู้บังคับการเรือพระที่นั่ง อ่างศิลาหรืออ่างหินก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่เสด็จบ่อย เพราะทรงมีพระตำหนักอยู่ที่นั่น
 
ในคราวที่เสด็จคลองวาฬเพื่อทอดพระเนตรสุริยุปราคาที่ตำบลหว้ากอ กัปตันบุชก็เป็นผู้บังคับการเรือพระที่นั่งเป็นเรือธงนำขบวนหมู่เรือรบไป ณ จุดที่ทรงคำนวณไว้นั้น


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ก.ย. 12, 10:05
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของสยามที่เสด็จไปทั่วพระราชอาณาจักรโดยชลมารค โดยกัปตันบุชจะเป็นผู้บังคับการเรือพระที่นั่งเป็นส่วนใหญ่ ส่วนพระราชโอรสที่เสด็จขึ้นครองราชย์สืบต่อจากพระองค์คือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ถือเป็นพระองค์แรกที่เสด็จต่างประเทศ ในปีพ.ศ.๒๔๑๔ พระองค์ได้เสด็จอินเดีย สมเด็จเจ้าพระยาฯ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินได้ซื้อเรือสินค้าของเอกชนชื่อเรือบางกอก ซึ่งเป็นเรือใบจักรท้ายทันสมัยให้เป็นเรือพระที่นั่งแทนลำเก่าที่ใช้มาแต่รัชกาลที่แล้ว ให้กัปตันบุชเป็นกัปตันสนองพระเดชพระคุณ
หลังจากทรงผ่านพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก ได้โปรดเกล้าให้สั่งต่อเรือพระที่นั่งลำใหม่จากประเทศอังกฤษในปีพ.ศ.๒๔๒๑ เป็นเรือสกูนเนอร์ที่มีใบจักรท้าย แต่มีกระโดงให้แล่นใบได้ พระราชทานชื่อว่า “เรือเวสาตรี” ทรงโปรดที่จะใช้เรือลำนี้เสด็จพระราชดำเนินทั้งทางแม่น้ำและทางทะเล กัปตันที่ทำหน้าที่ผู้บังคับการเรือคือกัปตันริชลิว(นาวาเอก พระชลยุทธโยธิน ยศขณะนั้น)

ในคราวที่เสด็จแปรพระราชฐานไปพระราชวังบางปะอินครั้งหนึ่งกัปตันตัวจริงไม่อยู่ กัปตันบุชถูกเรียกตัวไปปฏิบัติราชการแทน เมื่อถึงท้องคุ้งแถวปทุมธานีที่เรียกว่าลานเท ลมแรงเกิดพัดกระหน่ำมาด้านขวางทำให้เรือเวสาตรีวิ่งพลาดร่องลึก ไถลไปติดสันทรายใต้น้ำ พระเจ้าอยู่หัวต้องเสด็จต่อโดยเรือพระที่นั่งสำรอง ซึ่งเป็นเรือกลไฟใบจักรข้าง ทิ้งให้กัปตันบุชอยู่แก้สถานการณ์เองจนกระทั่งนำเรือออกจากสันทรายได้


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ก.ย. 12, 10:08
ดูเหมือนว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯจะไม่โปรดให้กัปตันบุชเป็นมือหนึ่งอีกต่อไป แต่ยังทรงเรียกหาใช้งานอยู่ในเรื่องที่สำคัญ เช่นครั้งนี้ ให้โดยเสด็จตามที่ทรงมีพระราชประสงค์จะไปทอดพระเนตรระบบรักษาความปลอดภัย ในเส้นทางเดินเรือภายในน่านน้ำของสยาม


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ก.ย. 12, 10:14
ปกติ งานราชการในรัชกาลนี้คงเบามือ เพราะคนไทยเริ่มปฏิบัติหน้าที่แทนได้ กัปตันบุชจึงใช้เวลาหนักไปทางธุรกิจ เขาจัดตั้งอู่เรืออันทันสมัยขึ้นรับทั้งงานหลวงงานราษฎร์ตั้งแต่พ.ศ.๒๔๐๘แล้ว ชื่อว่า บางกอกด๊อกกัมปานี มีชื่อเสียงไปทั่วย่านนี้ เรือดีๆไม่ต้องลากไปซ่อมที่สิงคโปร์อีกต่อไป

ทั้งรับเงินเดือนราชการ ทั้งรับเงินกำไรทางธุรกิจโดยเปิดเผย ไม่มีใครว่ากล่าวอะไรในสมัยนั้น ชีวิตน่าจะสบายๆลงตัวดีอยู่



กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ก.ย. 12, 10:20
แต่ประมาณสิบปีหลังจากนั้น กลับเกิดเหตุเลวร้ายหนักหนาสาหัส คือในปีพ.ศ.๒๔๓๓  กัปตันชราอายุ๗๑ปี ไม่ทราบถูกใครเรียกใช้งาน เป็นกัปตันเรือเวสาตรีอีก เพื่อเกาะหมู่เรือพระที่นั่งอุบลบูรทิศ เสด็จประพาสแหลมมลายูฝั่งตะวันตกของอังกฤษ คราวนี้ไปชนหินโสโครกถึงกับอับปางเลยทีเดียว แม้จะไม่ได้เป็นเรือพระที่นั่งแล้ว กัปตันบุชก็เหมือนกับตกที่นั่งพันท้ายนรสิงห์เหมือนกัน แต่เป็นภาคภาษาอังกฤษ

การอัปปางของเรือเวสาตรี ปรากฏในบทความของพลเรือเอก ประพัฒน์ จันทวิรัช ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารนาวิกศาสตร์ ก่อนจะหาอ่านได้ทางอินเทอเน็ทดังนี้

เรือเวสาตรี ได้ไปเกยหินอัปางในวันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๓๓ ระหว่างเดินทางไปเข้าแม่น้ำกลัง (ที่ตั้งของท่าเรือปอร์ตกลังอันทันสมัย ของกัวลาลัมเปอร์ในปัจจุบัน)
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์เหตุการณ์สำคัญนี้ไว้ในเรื่อง"ระยะทางเสด็จประพาสทางบก ทางเรือรอบแหลมมลายู ร.ศ.๑๐๙" เล่ม ๒ ดังนี้

"ออกเรือ (อุบลบุรทิศ-ผู้เขียน) จากเกาะดินดิง เวลาเช้า ๒ โมง กินข้าวเช้าแล้วนอน กลางวัน พอบ่ายตื่นขึ้นเขียนหนังสือตลอดทาง เวลาที่กะแต่เดิมว่าจะมาถึงแต่เย็น แต่เป็นการ ไปอย่างบาลูน เข้าช่องกังซาไปจนถึงข้างใน ทอดสมอระหว่างทางเวลายามเศษ….
…..ในค่ำวันนี้ เรือเวสาตรีก็ตามมาถึงที่ไลต์เฮาส์ แล่นหนีไลต์เฮาส์ไปเกยหินที่ริมนั้น ทุ่นเขาก็มี เดินบุ่มบ่ามเอง แต่ซัดกันป่นไปว่านำร่องบอกให้ไปทางโน้น เห็นว่าอย่างไรก็เป็นความผิดของพระยาวิสูตรทั้งนั้น"

รายงานของพระยาวิสูตรสาครดิฐ เกี่ยวกับการอับปาง และการกู้เรือเวสาตรี

เอกสารของหอจดหมายเหตุแห่งชาติแฟ้ม ต.๔๒/๑๖ มีรายงานของพระยาวิสูตรสาครดิฐ (จอห์น บุช) กล่าวถึงการแล่นไปเกยหินและความพยายามกู้เรือเวสตรีโดยละเอียด ซึ่งผู้เขียนขอคัดลอกและแปลสรุปมาบางตอน ดังนี้ (รายงานเป็นภาษาอังกฤษทั้งฉบับ)

"วันที่ ๒๖ พฤษภาคม เวลาเช้านำร่องชาวมาเลย์ชื่อ AHMET ซึ่งมาจากแม่น้ำกลัง พร้อมกับคนอื่น มาขึ้นเรือเพื่อนำเรือผ่านช่อง ถอนสมอจากเกาะดินดัง เดินเข็มต่างๆตามเรือที่แล่นไปข้างหน้า เวลา ๒๑.๐๐ ไฟเกาะปูโลอังซาอยู่ตรงกราบเรือ เรือเดินเข็ม ซอ. นำร่องสั่งเปลี่ยนเข็มไปทางตะวันออกมากขึ้น ข้าพระพุทธเจ้าได้ถามถึงความรู้และความชำนาญเกี่ยวกับร่อง นำร่องยืนยันว่ารู้ร่องน้ำและที่เรือดี น้ำทางด้านใต้ของร่องตื้นและมีโป๊ะมาก ระหว่างนี้ได้หยั่งน้ำด้วยดิ่งตลอดเวลา ความลึกของน้ำ ๖,๕,๗ ฟาธอม นำร่องจึงเปลี่ยนเข็มเป็นเซาท์บายเวสท์ พอเปลี่ยนเข็มเรือก็เกยหินด้วยความเร็ว ๖ นอตครึ่ง ก่อนเกยหินหยั่งน้ำได้ ๕ วา ๒ ศอก (เรือเวสาตรี กินน้ำลึกหัว ๘ ฟุต ท้าย ๑๑ ฟุต แสดงว่าได้แล่นขึ้นไปบนกองหิน เต็มลำ - ผู้เขียน) ได้ชักโคม ๓ ดวง ระหว่างเสา จุดไฟสีน้ำเงินยิงปืนใหญ่ทุก ๗ นาที หย่อนเรือโบตลงน้ำ นำสมอกะไปยึดเรือและดึงสายสมอตึง……
…….กัปตันลิงการ์ด นำเรือมูรธาวสิตสวัสดิ์เข้ามาใกล้ส่งเรือเล็กและเรือกลไฟผูกท้าย และจูงเรือหะเบสสมอกะช่วย แต่เรือเวสาตรีไม่เคลื่อนที่ น้ำยังไม่เข้าเรือ….
 …..วันที่ ๒๗ พฤษภาคม เวลา ๐๑๑๕ เรือเวสาตรีเอียงลงทางกราบขวาอย่างกระทันหัน๔๕ องศา โครมใหญ่ น้ำเข้าเรือจนถึงฝากระจกระบายอากาศเหนือดาดฟ้าท่วมห้องหมดต้องขนของ ไปลงเรือมูรธาฯ เรือเคพเคลียร์ เรือบางกอก พยายามโยงเชือกจากปลายเสาใหญ่ทั้งสองไปผูกกับหินเพื่อไม่ให้เรือเอียงมากขึ้น …..
……วันที่ ๓๐ พฤษภาคม เรือ SUNDA (เข้าใจว่าเป็นเรือจูงจากสิงคโปร์มาถึงพร้อมกับ กัปตันมอสส์ (MOSS) และประดาน้ำ) ประดาน้ำลงดำตรวจท้องเรือพบหินตำเข้าในห้องหม้อน้ำ ใต้หม้อน้ำหินอีกก้อนหนึ่งตำทะลุท้องเรือตรงห้องกัปตันจนถึงดาดฟ้า เป็นรูโตประมาณ ๓ ฟุตหินก้อนนี้ทำให้เรือไม่คว่ำและทำให้ดึงเรือออกไม่ได้ เวลาน้ำขึ้นมีคลื่นใต้น้ำจากทิศเวสท์ เซาท์เวสท์ ทำให้เรือกระแทกอย่างรุนแรงเมื่อประดาน้ำดำตรวจเรืออีกครั้งหนึ่งปรากฎว่าหิน ก้อนท้ายตำทะลุมากขึ้นจนถึงดาดฟ้าทำให้ดาดฟ้าแอ่นขึ้นประมาณ ๖ นิ้วเรือจมลึกยิ่งขึ้น…..”

รายงานการกู้เรือมีต่อไปทุกวันคณะกู้เรือได้ทำการต่าง ๆ คือ ตัดเสาใหญ่ออกทั้ง ๒ เสา ขนตะกั่วอับเฉาออกจากเรือเพื่อให้เรือลอยขึ้น นำเรือ TONGKANG (ไม่ทราบว่าเป็นเรือ อะไร - ผู้เขียน) มาจากสิงคโปร์ ๖ ลำ ขนของออกจากเรือจนหมดรวมทั้งถอดใบจักรออก บางวันทะเลเรียบบางวันมีคลื่นลม แต่ไม่ได้ผลดีขึ้น

"วันที่ ๒๙ มิถุนายน (กู้มาแล้ว ๑ เดือน - ผู้เขียน) เรือเวสาตรี ถูกคลื่นใต้น้ำซัดให้เอียงลง อีกจนหัวเรือจมน้ำลึก ๔ ฟาธอม เวลาน้ำขึ้นเรือจมมิดน้ำ วันที่ ๓๐ มิถุนายนคณะกู้เรือลงความเห็นว่า ไม่มีทางกู้เรือเวสาตรีได้เรือต่าง ๆ เดินทางกลับในวันที่ ๑ กรกฎาคม"

ท่านที่ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ขอได้อ่านจากเอกสาร ที่หอจดหมายเหตุฯ ที่กล่าวข้างต้น
พระยาวิสูตรสาครดิฐ (จอห์น บุช) ได้กล่าวถึงความรับผิดชอบในการอับปางของเรือ เวสาตรีไว้ในรายงาน ซึ่งผู้เขียนขอคัดลอกมาเป็นภาษาอังกฤษตามต้นฉบับดังนี้
"CONSCIENTIOUSLY I FEEL THAT I CANNOT ATTACH ANY BLAME TO MYSELF FOR THE LOSS OF THE 'VESATRI,'…etc.".
แปลความว่า…ถ้าจะว่ากันอย่างจริงจังแล้ว ข้าพระพุทธเจ้ารู้สึกว่าข้าพระพุทธเจ้ามิอาจจะผนวกข้อตำหนิต่อตนเองได้สำหรับการสูญเสียของเรือเวสาตรี…ฯลฯ
.
แต่ผมเชื่อว่าคงไม่มีผู้ใดจะเห็นด้วยเช่นนั้น หลังเหตุการณ์นี้กัปตันบุชโดนลบหลู่มาก และบางทีอาจจะกลัวผลที่ติดตามมาด้วย ท่านผู้เฒ่าเลยหลบไปอยู่กับลูกสาวที่สิงคโปรชั่วคราว ในที่สุดก็ยอมวางมือในทุกสิ่งทุกอย่าง มอบกิจการทั้งหมดในกรุงเทพให้เธอไปเลย


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ก.ย. 12, 10:22
เมื่อยังหนุ่มยังแน่นนั้น กัปตันบุชได้ทำธุรกิจควบคู่ไปด้วยกับงานราชการโดยอิสระ เช่นเดียวกับข้าราชการทั้งฝรั่งทั้งไทยที่ “มีหัว”ทั้งหลาย กิจการที่โด่งดังมีหน้ามีตาของเขานอกจากอู่บางกอกด๊อกซึ่งท่านเป็นทั้งผู้บริหารเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่ตั้งของอู่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อดีตเคยเป็นโบสถ์โปเตสแทนส์เก่าที่ขายให้บริษัทบอร์เนียวและท่านซื้อต่อมาอีกทีหนึ่ง แต่การลงทุนที่ทำให้ได้กำไรมากมหาศาลก็คือการซื้อที่ดิน เมื่อตัดถนนสาธรใหม่ใหม่ กัปตันบุชเป็นคนแรกๆที่เลือกซื้อที่แปลงงามๆไว้หลายแปลงอยู่ วันดีคืนดีก็ขายให้ฝรั่งด้วยกันรายใหม่ที่มาทำมาหากินในกรุงเทพ ฟันกำไรเป็นกอบเป็นกำ นอกจากนั้นก็มีบ้านที่ปากคลองโอ่งอ่าง ขายให้รัฐบาลอิตาลี่ไปทำสถานทูตแห่งแรกในสยาม

บางกอกด๊อก ถูกขายเปลี่ยนมือแหลายครั้ง สุดท้ายรัฐบาลไทยซื้อไว้เป็นรัฐวิสาหกิจ เพื่อสนับสนุนการพาณิชย์นาวี ภายใต้การดูแลของกองทัพเรือ ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด ภาษาอังกฤษว่า Bangkok Dock company (1957) Limited


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ก.ย. 12, 10:25
ร่ำรวยอย่างนี้ ไม่แปลกที่ตอนเป็นนายท่า กัปตันบุชจึงป๊อบปูล่ามากในบรรดาฝรั่งทั้งหลาย ก็เขาเป็นคนแรกที่ผู้โดยสารจะลงจากเรือมาเจอ นางแอนนาคนดังเองที่จูงลูกผู้ชายชื่อนายหลุยส์ลงมาทำท่าระร้าระรังยังได้รับการเอาใจใส่จากเขา เมื่อรู้ว่าไม่มีใครมารับและนางก็ไม่รู้จะไปแห่งใด เขายังแสดงความเอื้ออารีให้ไปพักที่บ้าน แอนนาเขียนไว้ในหนังสือของเธออย่างสำนึกในบุญคุณว่า กัปตันบุชเป็นชายชาวอังกฤษที่มีท่าทางรื่นเริง ใบหน้าออกกลมๆ แดงก่ำแบบผิวฝรั่งโดนแดด ดูมีชีวิตชีวา หลังจากที่เธอได้ที่พักเป็นหลักแหล่งแล้ว เขายังให้ความอนุเคราะห์แก่เธออีกหลายอย่าง

เมื่อฮอลิวูดเอาเรื่องที่แอนนาเขียนไว้ไปแปลงเป็น “คิงแอนด์ไอ” สร้างภาพครูผู้หญิงแม่ลูกติดเจ้าปัญหาไปเป็นหม้ายแสนสวย เรื่องจริงที่กัปตันบุชเห็นแหม่มจูงลูกเงอะงะแบบว่าไม่รู้จะไปทางไหนถูกนำมาอยู่ในฉากละครด้วย แต่ตัวแสดงเป็นกัปตันบุชดูจะเป็นเบ๊ประจำท่าเรือไปหน่อย ในขณะที่นางเอกดูมาดมั่นเหลือเกิน


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ก.ย. 12, 10:28
ลูกชายของนาง จากเด็กชนๆวันนั้น เติบโตเป็นนายหลุยส์ ลีโอโนแวนส์ ต่อมาเป็นนักธุรกิจค้าไม้สักใหญ่และเพลย์บอยรุ่นเดอะในคุ้มหลังงามที่เชียงใหม่


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ก.ย. 12, 10:34
กัปตันบุชมีบ้านอยู่ที่อ่างศิลาหลังหนึ่ง ซื้อที่ดินไว้ตั้งแต่เป็นกัปตันนำเรือพระที่นั่งมาประพาสที่นี่บ่อยๆ สมัยนั้นเรียกว่าอ่างหิน วิวทะเลยามน้ำขึ้นสวยพอได้แต่จะสวยยิ่งขึ้นยามอาทิตย์อัศดง เขาใช้พำนักหลังปลดระวางตัวเองขึ้นคานโดยสิ้นเชิง ที่นี่เขาแก้เหงาด้วยการเป็นเจ้าภาพต้อนรับเด็กอัสสัมชัญ(คงมาจากศรีราชามั้ง)ที่ครูพามาเที่ยวเป็นหมู่คณะ และเป็นที่รับรองพวกฝรั่งนักเล่นเรือใบที่มาจากทางปากน้ำ เขาจะเลี้ยงดูอย่างดีด้วยอาหารและเครื่องดื่ม  ให้ที่พักที่อาบน้ำ สร้างความประทับใจยากที่แขกผู้มาเยือนจะเลือนจากความทรงจำ ตัวเขาจะวางท่าแบบกลาสีรุ่นเก๋า ชอบนั่งฟังแขกเรือนอ่านเรื่องที่น่าสนใจจากหนังสือพิมพ์บางกอกไทม์ให้ฟัง เขาเองอ่านไม่ออกแล้วเพราะตาเป็นต้อเกือบจะมองอะไรไม่เห็น นี่กระมังที่เป็นเหตุ เขาไม่น่าจะไปรับงานจ๊อบสุดท้าย ที่เอาชื่อเสียงอันรุ่งโรจน์ของเขาไปฝังเสียในแม่น้ำกลังเลย


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ก.ย. 12, 10:41
กัปตันบุชมีลูกอย่างน้อยหกคนกับสองภรรยา คนแรกที่ชื่ออลิซาเบท(ลอร์สัน)ตายในกรุงเทพตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๔๐๙ มีชีวิตชาวกรุงเทพได้ไม่ถึงสิบปี  ตามประวัติที่ฝรั่งเขียนกล่าวว่าลูกชายของนางได้รับราชการเป็นนายท่าแทนพ่อ แต่ผมหาไม่เห็นจะมี นามสกุลของลูกหลานถ้ามีในเมืองไทยจริง จะว่ากระไรก็ไม่ทราบ  แต่กัปตันบุชแต่งงานใหม่กับแม่หญิงมอญบ้านทวาย ปากคลองโอ่งอ่าง ชื่อแม่เพียรมีลูกด้วยกันสองคน ชื่อวิกเตอร์และวิกตอเรีย ทั้งคู่เลือกที่จะเป็นฝรั่ง วิกเตอร์เป็นนายทหารอังกฤษแต่ไปตายเสียในสงครามโลกครั้งที่๑ น้องสาว(คงเป็นคนที่อยู่สิงคโปร์ช่วงหนึ่ง)แต่งงานและไปอยู่แคลิฟอเนีย ลูกชายของเธอเป็นอเมริกันชื่อวิลเลี่ยม บุช (ไม่ได้เกี่ยวดองอะไรกับนายบุชสองพ่อลูกที่เคยอยู่ในทำเนียบขาวนั่น) นายคนนี้เคยมากรุงเทพในปีพ.ศ.๒๕๒๙เพื่อสืบหาญาติ ไม่ทราบเจอใครบ้าง และได้ไปด้อมๆมองๆเดินดูบ้านที่เคยเป็นที่อาศัยของครอบครัวในตรอกกัปตันบุช สมัยคุณตามาเมืองไทยครั้งแรกเมือร้อยห้าสิบปีที่แล้ว

ภาพข้างล่าง(เขาว่า)เป็นบ้านหลังนี้


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ก.ย. 12, 10:42
ตอนตาย สมบัติของกัปตันบุชประเมินค่าได้ ๑,๒๔๐,๐๐๐ บาท ค่าของเงินในขณะนั้น บ้านดีๆหลังหนึ่ง ค่าก่อสร้าง๑๐,๐๐๐บาท ถ้าสร้างโบสถ์ฝรั่ง มีงบ๕๐,๐๐๐ บาทก็เอาอยู่แล้ว


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ก.ย. 12, 10:46
พลเรือเอก เซอร์ จอห์น บุช เป็นคนอังกฤษที่รับราชการสนองพระเดชพระคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของสยามสองพระองค์ อยู่กว่าสี่สิบปี เมื่อมาอยู่ในพระราชอาณาจักรของพระราชาผู้ทรงคุณธรรมอันประเสริฐแล้ว เขาก็ไปไหนไม่รอด ชีวิตที่โลดแล่นของเขาจบบริบูรณ์ลงที่นี่ เมื่อหาชีวิตไม่แล้วยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ อนุสรณ์สถานที่โดดเด่นเหนือร่างที่ถูกฝังไว้ของเขาในสุสานโปรเตสแทนต์กรุงเทพ เป็นแท่งหินสี่เหลี่ยมทรงสูงปลายแหลม พระราชทานให้พร้อมจารึกคำอาลัยจากองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเอง

SACRED
TO THE MEMORY
OF
ADMIRAL SIR JOHN BUSH K.C.W.E.
PYA WISUTH SAKORADITH.
BORN 4th AUGUST 1819
DIED 3rd APRIL 1905
AGED 86.
HE SERVED HIS LATE MAJESTY
MAKA MONGKUT AND HIS PRESENT
MAJESTY CHULALONGKORN FOR A
PERIOD OF OVER 40 YEARS.
Thy Kingdom come.
Thy will be done.

ERECTED BY H.M.THE KING OF SIAM



กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 12, 11:13
หลุมศพของกัปตันบุช ในปัจจุบัน


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 30 ก.ย. 12, 12:18
ADMIRAL SIR JOHN BUSH K.C.W.E. 

 เซอร์ จอห์น บุช เคซีดับเบิ้ลยูอี
(ตัวย่อท้ายชื่อเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ผู้ได้รับสามารถใช้คำว่าเชอร์นำหน้าชื่อได้)


ยังติดใจว่า K.C.W.E. ย่อมาจากคำเต็มว่ากระไร

 ???


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 30 ก.ย. 12, 13:09
^
มาอภิปรายกันหน่อยก็ดีครับ
 
ผมเองก็สงสัยว่า อยู่ดีๆอังกฤษจะเรียกกัปตันบุชไปมอบเครื่องราชย์ให้เป็นท่านเซอร์ได้อย่างไร ผลงานที่เป็นคุณกับประเทศอังกฤษไม่เห็นจะมี ค้นอยู่นานมาก พบว่าเครื่องราชย์ที่ใครได้แล้ว จะได้เป็นท่านเซอร์มีอยู่ตระกูลหนึ่ง เรียกว่า Order of the Wolf (OW) ผู้รับจะต้องได้ระดับขั้น Knight Commander ขึ้นไปจึงจะสามารถใช้คำว่า เซอร์ นำหน้านาม และตามหลังด้วย(KCW) ย่อมาจาก Knights Commander of the Order of the Wolf ได้

K.C.W.E. ของอังกฤษไม่มี !

แต่สยามมีอยู่ตระกูลหนึ่ง เรียกว่า เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ภาษาอังกฤษว่า The Most Exalted Order of the White Elephant  ระดับที่พระยาจะได้รับสมัยโน้นเรียกว่า จุลวราภรณ์ ซึ่งเปลี่ยนเป็น ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก เรียกย่อว่า ท.ช. ในปัจจุบัน
   
ระดับทวีติยาภรณ์ช้างเผือกนี้มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Knights Commander of the Order of the White Elephant ตรงกันหากจะย่อว่า K.C.W.E.

ถ้าเป็นดังที่ผมวิเคราะห์นี้ กัปตัน จอห์น บุช ก็เป็นท่านเซอร์แบบไทยๆ ที่แปลความหมายมาจากคำว่า พระยา ให้เป็นเกียรติแก่ผู้ตาย ว่ากันว่าจารึกที่หลุมศพของท่าน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯทรงลิขิตด้วยพระองค์เองทีเดียว

His grave in the Protestant Cemetery is marked by a fine obelisk with an inscription composed by King Chulalongkorn himself.

อาจไม่จริงเช่นที่ว่าทั้งหมด แต่อย่างน้อย ก็คงผ่านสายพระเนตรแน่นอน




กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 12, 13:33
ตอนตาย สมบัติของกัปตันบุชประเมินค่าได้ ๑,๒๔๐,๐๐๐ บาท ค่าของเงินในขณะนั้น บ้านดีๆหลังหนึ่ง ค่าก่อสร้าง๑๐,๐๐๐บาท ถ้าสร้างโบสถ์ฝรั่ง มีงบ๕๐,๐๐๐ บาทก็เอาอยู่แล้ว
สมมุติว่าบ้านดีๆสมัยนี้ ค่าก่อสร้าง(ไม่รวมที่ดิน) ๑๐ ล้านบาท   ก่อสร้างโบสถ์ธรรมดาๆ ไม่หรูหรา ราคา ๕๐ ล้านบาทคงเอาอยู่   ทรัพย์สินของกัปตันบุชก็ต้องเอา ๑๐๐๐ คูณเข้าไป เป็น ๑๒๔๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท  โอ้โฮ  :o


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ต.ค. 12, 09:03
ได้ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์เสตร์ทไทมส์ ตีพิมพ์ในสิงคโปรมาเพิ่มครับ


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ต.ค. 12, 09:06
มรณกรรมของคนเก่าแก่คนหนึ่งของสยาม

นายพลเรือเอกจอห์น บุชแห่งราชนาวีสยามถึงแก่กรรมเมือวันที่๓เดือนที่แล้วขณะอายุได้๘๖ปี เขานำเรือสินค้ามาสยามในนามของกัปตันบุชเมื่อปี๑๘๕๔ และพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดให้เขาเข้ารับราชการในตำแหน่งนายท่าของกรุงเทพในปี๑๘๕๘ งานหลักของผู้วายชนม์คือปรับปรุงองก์กรทหารเรือสยาม เขาได้ดำรงตำแหน่งนายท่าและเจ้ากรมจนกระทั่งปี๑๘๙๓ จึงได้เกษียณจากราชการมารับบำนาญในระดับนายพลเรือเอก ยามนั้นนายพลเรือเอกบุชยังเป็นชายชราที่แข็งแรงสุภาพดี และเพราะธุรกิจสำคัญของเขาอยู่ในสยาม เขาจึงตัดสินใจที่จะอยู่จนตราบสุดท้ายในกรุงเทพแทนที่จะกลับคืนสู่บ้านเกิด นางบุชนั้นถึงแก่กรรมนานแล้ว แต่ในบรรดาลูกๆ อย่างน้อย ก็มี นายเรือ เจ.เอช.เอ็ม. บุช  นางคูร์ตซาลส์ และนางเดวิดสันที่ยังอยู่ หลานตาสองคนคือ นายแฟรงค์ สต๊วร์ต และกัปตันสต๊วร์ตแห่งบริษัทบอร์เนียว ก็เป็นที่รู้จักดีอยู่ในกรุงเทพ นางจอห์น แอนเดอร์สันผู้ล่วงลับที่เคยอยู่ในสิงคโปรนั้นก็เป็นลูกสาวคนหนึ่งของนายพลเรือเอกนี้


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ต.ค. 12, 10:23
กัปตันบุชรวยถึงขนาดนี้คงทำการค้าหลายอย่าง ไม่เฉพาะแต่บริษัทบางกอกด๊อค     แต่ซื้อขายที่ดินด้วย  ในประวัติบอกว่าท่านมีบ้านอยู่ที่ปากคลองผดุงกรุงเกษม  ซึ่งกว้างพอจะต้อนรับคณะทูตจากอิตาลีให้พักอยู่ด้วยได้ตอนเดินทางมาทำสนธิสัญญาการค้ากับสยาม  นอกจากนี้ยังมีที่ดินสองข้างคลองพ่อยมอีกหลายแปลง     ตอนชรา เกษียณจากงานก็ไปสร้างบ้านอยู่ริมทะเลที่อ้างศิลา

นึกถึงข้อความที่คุณ siamese โพสไว้ในกระทู้นายอาลาบาศเตอร์

สถานทูตอังกฤษที่ถนนเจริญกรุงนั้นเป็นที่ดินที่รัชกาลที่ ๔ ทรงซื้อตารางวา ๑ บาท เป็นจำนวนเงิน ๑๖,๐๐๐ บาทเพื่อให้เป็นที่ทำการสถานกงสุลอังกฤษ ซึ่งก่อนหน้านี้ยังมี "คดีนายเส็ง" ที่ขายที่ดินให้อังกฤษเช่า ๙๙ ปี แต่ต้องพระราชอาญาเฆี่ยนจนตายที่บางคอแหลม


คุณ NAVARAT.C  เขียนต่อไว้ในกระทู้อาลาบาศเตอร์ ถึงเรื่องนี้ ว่า

ผลของสนธิสัญญายังเป็นการให้สิทธิเสรีภาพในการถือครองที่ดินแก่ทั้งราษฎรไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งแต่ก่อนราษฎรไม่ค่อยกล้าให้ชาวต่างประเทศถือครองที่ดินเพราะกลัวในหลวงจะกริ้ว รัฐบาลไทยอยากให้ฝรั่งเข้ามาตั้งโรงงานสมัยใหม่ จำต้องยอมผ่อนปรนเรื่องการถือครองที่ดินให้แก่ฝรั่ง แต่ก็ไม่ใช่จะถือครองได้ทุกที่ รัฐบาลแบ่งที่ดินออกเป็นสามเขต คือ ในพระนครและห่างกำแพงพระนครออกไปสองร้อยเส้นทุกทิศ ยอมให้เช่าแต่ไม่ยอมให้ซื้อ ถ้าจะซื้อต้องเช่าครบ 10 ปีก่อน หรือจะต้องได้รับอนุญาตจากเสนาบดี เขตที่ล่วงออกไป  เจ้าของที่และบ้านมีสิทธิให้เช่าหรือขายกรรมสิทธิ์ได้โดยไม่มีข้อแม้  แต่ล่วงจากเขตนี้ไปอีก ห้ามมิให้ฝรั่งเช่าหรือซื้อโดยเด็ดขาดเมื่อราษฎรได้รับสิทธิในการถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน ราษฎรก็มีทางทำมาหากินเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง คือ การจำนองที่ดินเพื่อกู้เงิน หรือขายฝากขายขาดที่ดินของตนได้

บ้านของกัปตันบุชที่ปากคลองผดุงฯ น่าจะหมายถึงบ้านที่ตรอกกัปตันบุชในปัจจุบัน  เป็นบ้านในเขตพระนคร   ส่วนที่ดินริมคลองพ่อยมน่าจะอยู่นอกเขต     แต่อ่านแล้วเหมือนท่านเจ้าคุณวิสูตรสาครดิฐก็สามารถซื้อที่ดินผืนงามๆ ได้หลายแห่ง ไม่มีข้อขัดข้อง      จึงคิดว่าในช่วงที่ท่านซื้อหาที่ดินสมัยรัชกาลที่ ๕   ฝรั่งคงถือครองที่ดินได้แล้วกระมัง


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ต.ค. 12, 14:51
ความทุกข์ของกัปตันบุชตามมาติดๆในยามดวงตก เมื่อปีพ.ศ.๒๔๓๓ หลังจากเกิดเรื่องใหญ่นำเรือพระที่นั่งสำรองเวสาตรี ไปชนหินจนอับปางเสียในมลายู จนต้องหลบไปตั้งหลักอยู่กับลูกสาวในสิงคโปร

ลูกสาวคนนี้แต่งงานกับจอห์น แอนเดอร์สัน อดีตนายเรือพาณิชย์นาวีและเป็นกงสุลใหญ่ของสยามประจำสิงคโปร มีบรรดาศักดิ์เป็นพระพิเทศพานิช คราวที่พระเจ้าอยู่หัวเสด็จที่นั่นอีกครั้งในปีพ.ศ.๒๔๓๙ คุณพระฝรั่งคนนี้ได้รับเสด็จคนเดียว เพราะภรรยาเสียชีวิตไปก่อนหน้านั้นแล้วตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๔๓๗

แสดงว่า กัปตันบุชมาอยู่กับลูกสาวได้พักหนึ่ง แล้วก็มอบสมบัติในกรุงเทพให้เธอหมดหลังปลงตก จากนั้นอีกสองสามปี ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง ลูกสาวเกิดตายไปก่อน สมบัติที่ยกให้ลูกสาวคงตกเป็นของลูกเขยตามกฏหมาย

ไม่นานลูกเขยก็แต่งงานใหม่ เพราะเห็นว่าลูกสาวกัปตันบุชเป็นภรรยาคนแรก ถ้าเป็นความจริงดังที่ปะติดปะต่อนี้ ก็มิน่าเล่าที่จอห์น บุชถึงต้องกลับมาตายในกรุงเทพ แต่กว่าจะถึงฉากสุดท้ายก็ในปีพ.ศ.๒๔๔๘โน่น


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 01 ต.ค. 12, 14:53
อ่านเรื่องกัปตันบุชที่ผมเขียนมาถึงบันทัดนี้ ท่านคงสับสนในเรื่องลูกๆและการแบ่งสมบัติของกัปตันบุช ผมเองก็เป็นเช่นนั้น  ได้ประวัติเรื่องแรกจากเวปของพวกโปแตสแท้นส์มาก็นึกว่าแม่นแล้ว แต่พอทีหลังแกะรอยจากข่าวหนังสือพิมพ์ที่ออกในยุคนั้นได้ ก็เห็นว่าไม่ยักกะเหมือนกัน ท่านตัดสินใจเองก็แล้วกันว่าจะเชื่ออย่างไร โปรดอย่ามาคาดคั้นจากผม ผมเห็นอะไรมาก็เขียนอย่างนั้น ไม่มีความสามารถจะหยั่งรู้ได้เป๊ะๆว่าอะไรจริงอะไรไม่จริง


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ต.ค. 12, 20:36
เว็บของโปรแตสแตนท์  เอ่ยถึงฝรั่งชื่อ George James Bush  ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอดีตประธานาธิบดีที่เรารู้จักกัน    เขาผู้นี้มีสุสานอยู่ใกล้ๆกัปตันบุช  (ดูตามรูป)  เว็บเอ่ยไว้อย่างไม่ค่อยจะแน่ใจนักว่าอาจเป็นลูกชายอีกคนของกัปตันบุชก็เป็นได้   
หลักฐานที่จารึกไว้ก็คือ  George James Bush died in Luang Prabang    29 June 1884  ตรงกับพ.ศ. 2427 และระบุด้วยว่าเขารับราชการด้วย
ถ้าเขาเป็นลูกชายของกัปตันบุชจริงๆ ก็เสียชีวิตไปก่อนพ่อถึง 21 ปี      มรดกของพ่อจึงตกไปที่ลูกสาวแทน


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 03 ต.ค. 12, 10:07
เรือพระที่นั่งเวสาตรี ภาพจาก The Illustrated London News


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 03 ต.ค. 12, 10:08
หลังจากอับปางที่มลายู ในขณะที่กัปตันบุชเป็นผู้บังคับการคนสุดท้ายแล้ว ไม่เหลือซากอะไรอีกนอกจากระฆังมองเหลืองประจำเรือ ซึ่งได้รับการเก็บกู้กลับคืนมาสู่สยาม ปัจจุบันแขวนอยู่ที่โรงเรียนนายเรือ


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 03 ต.ค. 12, 16:14
จากเวปของราชบัณฑิตยสถาน

ตรอกกัปตันบุช  (๒๖ มีนาคม ๒๕๕๒)

ตรอกกัปตันบุช (อ่านว่า กับ-ตัน-บุด) ตั้งอยู่ระหว่างตรอกฮ่องกง กับที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขกลาง ถนนเจริญกรุง มีระยะทางจากถนนเจริญกรุงไปจดแม่น้ำเจ้าพระยา
ชื่อตรอกกัปตันบุช มาจากชื่อพระยาวิสูตรสาครดิฐ (อ่านว่า วิ-สูด-สา-คอน-ดิด) หรือกัปตันจอห์น บุช (Captain John Bush) คำว่า บุช ภาษาอังกฤษเขียน Bush ภาษาไทยเขียน บุช. กัปตันจอห์น บุช เป็นชาวอังกฤษที่เข้ามารับราชการในตำแหน่งเจ้าท่า สังกัดกรมท่า และได้มีโอกาสปฏิบัติราชการใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในการตามเสด็จประพาสต่างประเทศ

กัปตันบุชและครอบครัวพำนักอยู่ที่บ้านในตรอกเล็ก ๆ ใกล้กับที่ทำการกรมเจ้าท่า ตรอกบ้านของกัปตันบุชจึงเรียกว่าตรอกกัปตันบุชจนถึงทุกวันนี้. ปัจจุบันตรอกกัปตันบุชมีชื่อเป็นทางการว่า ซอยเจริญกรุง ๓๐



ที่มา : บทวิทยุรายการ "รู้ รัก ภาษาไทย" ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เวลา ๗.๐๐-๗.๓๐ น .


http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=2889


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 12, 16:50
จากเวปของราชบัณฑิตยสถาน

ตรอกกัปตันบุช  (๒๖ มีนาคม ๒๕๕๒)

ตรอกกัปตันบุช (อ่านว่า กับ-ตัน-บุด)

http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=2889


เพิ่งเห็นข้างบนนี้ค่ะ
ขอเชิญคุณเพ็ญชมพู  คุณ crazyhorse  คุณสุจิตรา  และท่านที่ไปตอบกระทู้คำทับศัพท์ มาที่นี่ด่วน  :o :o :o  


Bush ทับศัพท์ว่า บุช  ราชบัณฑิตท่านให้ อ่านว่า บุด  จริงๆหรือนี่่
งั้นอดีตประธานาธิบดี George W. Bush   ที่ผู้อ่านข่าวอ่านว่า ประธานาธิบดี จ๊อจ  บุ๊ช   ก็อ่านผิดมาทุกครั้งน่ะซี   ต้องอ่านว่า
ประธานาธิบดี จอด บุด


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 03 ต.ค. 12, 17:23
ช้าก่อนพระเจ้าข้า ช้าก่อน

ผมว่าฯพณฯรอยอิน ท่านอนุโลมให้อ่านออกเสียงตามโบราณ เช่น หมอบรัดเล นายกัลฝัด หมอเหา เป็นต้น
กัปตันบุช คนไทยอ่านบุด ก็ต้องบุดต่อไป

ดังนี้....แล

ประธานาธิบดี จ๊อช์จ  บุ๊ช เป็นคนเกิดสมัยนี้ หมดสิทธิ์ที่จะเป็นนายจอดบุดไปแล้ว



กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 12, 17:31
แปลว่าคนสมัยรัชกาลที่ 5   เรียกพระยาวิสูตรฯ ว่ากัปตันบุด  ???
ดิฉันเรียกตรอกกัปตันบุ๊ชมาตลอด   ต้องกลับไป "บุด" ใหม่เสียแล้ว
ถ้าลากเสียงยาวสักหน่อย กลายเป็นกัปตันบูดไปเลยนะเนี่ย

ป.ล. ถ้างั้นคุณพระนิเทศชลธี  ในกระทู้โน้น ก็ต้องเรียกว่าท่านว่ากัปตันลอบเตอด นะคะ  ไม่ใช่ลอฟตัส


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 03 ต.ค. 12, 18:36
tus มันเป็น เตอด ได้อย่างไร ? ยังเป็นงงอยู่ไม่หาย

Loftus เป็น ลอบตัด ยังจะใกล้กว่า
แต่คงเห็นว่าเขียนอย่างนั้นไม่สู้จะเป็นมงคลเทาไหร่ ฟังดูเหมือนพวกแก๊งค์แมวน้ำกระมัง


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 12, 18:57
ไปเช็คกับเว็บออกเสียง     พบว่า  Loftus  อ่านออกเสียงแบบอังกฤษได้ 2 แบบคือ ล๊อฟ-ถัส  กับอ่านออกเสียงว่า ล๊อฟ- เถ่อส ค่ะ       
คนโบราณกินหมากลิ้นแข็ง  ออกเสียงเอสท้ายคำไม่ได้   ตัวสะกดในภาษาไทยที่เป็นคำตาย  มีแค่แม่กก กด กบ   
เสียงตัวเอส ออกเสียงเป็น ด นับว่าใกล้เคียงสุด       ส่วนเสียงตัว   t  ไทยรุ่นเก่าออกเสียงเป็น ต 

นางสาว  Rose ก็กลายเป็นนางสาวโร๊ด      Loftus  กลายเป็น ลอบเตอด  และ..เพิ่งผ่านมาหยกๆ  กัปตัน Bush  เป็นกัปตันบุด ไงล่ะคะ


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 03 ต.ค. 12, 21:09
ยอร์ช  เจมส์ บุช เป็นใคร หาข้อมูลยากมาก ปรากฏชื่อในบันทึกของพระวิภาคภูวดล ( เจมส์  แมคคาร์ธี ) เจ้ากรมแผนที่คนแรกในต้นรัชกาลที่๕ ที่มาทำแผนที่สยามแทนนายอาลาบาศเตอร์
ความดังนี้

เพิ่งจะหายไข้ได้ไม่นาน  ข้าพเจ้าก็ต้องออกเดินทางไปยังคาบสมุทรมลายู  เพราะตอนนั้นเกิดปัญหาเรื่องเขตแดนระหว่างเปรักซึ่งเป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษ  กับปัตตานีแต่การกำหนดเขตแดนที่เป็นปัญหานั้นทำได้โดยยาก  เพราะข้อเสนอฝ่ายมลายูระบุถึงดินแดนในสภาพที่เคยเป็นอยู่เมื่อสี่สิบห้าปีมาแล้ว  เนื่องจากไม่เคยได้รับรู้ว่ารัฐบาลสยามได้จัดแบ่งเขตการปกครองรัฐปัตตานีออกเป็นเจ็ดรัฐย่อย  ดังจะได้กล่าวถึงต่อไปข้างหน้า  บริเวณที่เกิดวิวาทกันนั้นอยู่ในรัฐรามัน (State of Raman)

เมื่อเตรียมการเบื้องต้นเสร็จแล้ว  นายยอร์ช  บุช (Mr.George Bush)  ร่วมเดินทางไปกับข้าพเจ้าด้วย  เราลงเรือชื่อ  แนโรว์  บีม ("Narrow Beam")  พร้อมกับกรรมาธิการฝ่ายสยาม  พระยาพิไชยสงคราม  กัปตันเรือเป็นลูกครึ่งเขมร - มาเลย์  ซึ่งเพิ่งจะขอลาไปแสวงบุญที่เมกกะแล้วไม่ได้รับอนุญาต  จึงออกจะอารมณ์ไม่สู้จะดีนัก  เขาออกตัวว่าไม่รู้จักฝั่งตะวันตกของอ่าวไทยเลย  มีอยู่แต่แผนที่เดินเรือแถบชายฝั่งโนวา  สโกเชีย

บันทึกนี้ยาวมาก ไปจบที่หลวงพระบาง แต่ไม่ได้เอ่ยถึงการตายของยอร์ช  เจมส์ บุช

แต่หลุมศพทั้งสองนี้ น่าจะเป็นพ่อลูกกัน


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 03 ต.ค. 12, 21:30
ไปเช็คกับเว็บออกเสียง     พบว่า  Loftus  อ่านออกเสียงแบบอังกฤษได้ 2 แบบคือ ล๊อฟ-ถัส  กับอ่านออกเสียงว่า ล๊อฟ- เถ่อส ค่ะ        
คนโบราณกินหมากลิ้นแข็ง  ออกเสียงเอสท้ายคำไม่ได้   ตัวสะกดในภาษาไทยที่เป็นคำตาย  มีแค่แม่กก กด กบ  
เสียงตัวเอส ออกเสียงเป็น ด นับว่าใกล้เคียงสุด       ส่วนเสียงตัว   t  ไทยรุ่นเก่าออกเสียงเป็น ต  

นางสาว  Rose ก็กลายเป็นนางสาวโร๊ด      Loftus  กลายเป็น ลอบเตอด  และ..เพิ่งผ่านมาหยกๆ  กัปตัน Bush  เป็นกัปตันบุด ไงล่ะคะ

ล้อฟ กับ โร้ด กระมัง

 ::)


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 02 มี.ค. 13, 08:09
ที่ดึงกระทู้นี้กลับมาไม่ได้หมายจะเรียกratingนะครับ แต่เหตุก็เนื่องจากข้อความที่ผมเคยลงไว้นี้
อ้างถึง
กัปตันบุชมีลูกอย่างน้อยหกคนกับสองภรรยา คนแรกที่ชื่ออลิซาเบท(ลอร์สัน)ตายในกรุงเทพตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๔๐๙ มีชีวิตชาวกรุงเทพได้ไม่ถึงสิบปี ตามประวัติที่ฝรั่งเขียนกล่าวว่าลูกชายของนางได้รับราชการเป็นนายท่าแทนพ่อ แต่ผมหาไม่เห็นจะมี นามสกุลของลูกหลานถ้ามีในเมืองไทยจริง จะว่ากระไรก็ไม่ทราบ แต่กัปตันบุชแต่งงานใหม่กับแม่หญิงมอญบ้านทวาย ปากคลองโอ่งอ่าง ชื่อแม่เพียรมีลูกด้วยกันสองคน ชื่อวิกเตอร์และวิกตอเรีย ทั้งคู่เลือกที่จะเป็นฝรั่ง วิกเตอร์เป็นนายทหารอังกฤษแต่ไปตายเสียในสงครามโลกครั้งที่๑ น้องสาว(คงเป็นคนที่อยู่สิงคโปร์ช่วงหนึ่ง)แต่งงานและไปอยู่แคลิฟอเนีย ลูกชายของเธอเป็นอเมริกันชื่อวิลเลี่ยม บุช (ไม่ได้เกี่ยวดองอะไรกับนายบุชสองพ่อลูกที่เคยอยู่ในทำเนียบขาวนั่น) นายคนนี้เคยมากรุงเทพในปีพ.ศ.๒๕๒๙เพื่อสืบหาญาติ ไม่ทราบเจอใครบ้าง และได้ไปด้อมๆมองๆเดินดูบ้านที่เคยเป็นที่อาศัยของครอบครัวในตรอกกัปตันบุช สมัยคุณตามาเมืองไทยครั้งแรกเมือร้อยห้าสิบปีที่แล้ว

ภาพข้างล่าง(เขาว่า)เป็นบ้านหลังนี้

ปลายปีที่แล้ว วารสารศิลปากร ปีที่๕๕ ฉบับที่๖ พ.ย.-ธ.ค. ๒๕๕๕ ได้ลงเรื่อง “การผาติกรรมวัดแก้วแจ่มฟ้า และที่มาของบ้านเลขที่ ๑ ซอยกัปตันบุช” โดยคุณจิรนันท์ คอนเซฟซิออน ผมอ่านแล้วก็ได้นำข้อมูลที่เกี่ยวกับเรื่องข้างต้นมาค้นคว้าต่อ โดยเฉพาะในเรื่องบ้านของกัปตันบุช และขอนำมาเติมไว้แก่ผู้สนใจเรื่องนี้ดังนี้


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 02 มี.ค. 13, 08:14
คุณจิรนันท์เขียนเล่าว่าเมื่อกัปตันบุชเมื่อเป็นนายท่า หรือ Harbour Master มีบรรดาศักดิ์เป็นพระวิสูตรสาครดิฐนั้น ในสมัยรัชกาลที่๔คนไทยเรียกท่านตามตำแหน่งว่า ฮัปมาสเตน แล้วก็กลายเป็น หันประมาสะแตน  ไปโน่นเลย คงพอๆกับคำว่าCaptain Bush ที่ก็เรียกตามถนัดปากของตนเหมือนกันว่า กับตันบุด

หลักฐานที่แสดงว่ากัปตันบุชมีบ้านอยู่ในตรอกที่ตั้งชื่อตามท่าน คือข้อความเล็กๆในหนังสือพิมพ์Bangkok Calenderของหมอบร้ดเลย์ ฉบับปีคศ๑๘๗๒ ระบุว่าท่านและครอบครัวพำนักอยู่บ้านที่ตั้งอยู่ปากคลองผดุงกรุงเกษม ใกล้โรงภาษี(ภาพข้างล่าง)ซึ่งอยู่ถัดไปบนถนนเจริญกรุงอีกสองซอย

บทความภาษาอังกฤษฉบับหนึ่งกล่าวว่า บ้านของท่านนี้ ใหญ่โตกว้างขวางพอจะต้อนรับคณะทูตจากอิตาลีที่เดินทางเข้ามาทำสนธิสัญญาทางไมตรีและพาณิชย์กับสยามในปีค.ศ.๑๘๖๘(พ.ศ. ๒๔๑๑) ให้พักอยู่ด้วยได้

ทุกสำนวนจะจบลงที่ว่าบ้านและที่ดินตรงนั้นต่อมาได้เป็นธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ของอังกฤษ ซึ่งเปิดทำการในกรุงเทพเมื่อปีค.ศ. ๑๘๘๘(พ.ศ. ๒๔๓๑)


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 02 มี.ค. 13, 08:15
ผมตามเข้าไปค้นหาประวัติของธนาคารแห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในนามว่าเอชเอสบีซี(HSBC) ได้ความว่าธนาคารแห่งนี้เปิดดำเนินการในประเทศไทย และเป็นธนาคารแรกของสยามด้วย ในนามธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่นจำกัด เมื่อวันที่๒ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๓๑ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยสำนักงานแห่งแรกตั้งอยู่ ณ อาคารสำนักงานเก่าของสถานกงสุลเบลเยี่ยม ถนนเจริญกรุง (ภาพล่าง)

แต่ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๓๓ (ปีเดียวกับที่กัปตันบุชหลบไปพำนักอยู่ที่สิงคโปร์กับลูกสาว) ธนาคารได้ย้ายที่ทำการไปยังอาคารคอนกรีตทรงโรมันโดยมีกรมพระจันทบุรีนฤนาถ ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้น เสด็จมาเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารอย่างเป็นทางการ อาคารแห่งนี้ตั้งอยู่ปากคลองขุดใหม่(อีกชื่อหนึ่งของคลองผดุงกรุงเกษม)ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

อาคารทรงโรมันนี้นับเป็นอาคารประวัติศาสตร์ของธนาคารเพราะใช้เป็นที่ทำการนานถึง๘๗ปี และเป็นที่ตั้งของธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อเริ่มเปิดใหม่ โดยได้มาเช่าตึกนี้เป็นการชั่วคราว ก่อนที่จะเปลี่ยนเจ้าของและต่อมาได้ถูกรื้อลงเพื่อสร้างเป็นโรงแรมระดับ๕ดาว เปิดดำเนินการในวันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ ชื่อว่าโรงแรมรอยัลออร์คิด เชอราตัน


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 02 มี.ค. 13, 08:17
เป็นอันว่า บ้านของกัปตันบุชเดิมก็อยู่ตรงโรงแรม ไม่ใช่ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ที่อยู่ถัดไป และไม่ใช่บ้านเลขที่๑ ที่ยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนหน้าโรงแรมในปัจจุบัน ดังที่ผู้คนจำนวนหนึ่งเชื่อกัน


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 02 มี.ค. 13, 08:18
ส่วนตัวบ้านนั้น จะเป็นบ้านทรงโรมันที่ธนาคารนำมาดัดแปลงเป็นสำนักงานหรือไม่ เมื่อก่อนผมเห็นเฉพาะภาพถ่ายทางอากาศก็คิดว่าเป็นไปได้ที่เศรษฐีฝรั่งระดับกัปตันบุชสมัยรุ่งโรจน์จะมีบ้านหรูหราขนาดนั้น แต่ครั้นเมื่อมาได้ภาพถ่ายชัดๆ ในมุมมองระดับพื้นดินตามปกติ ก็ประจักษ์ในสัดส่วนความสูงของอาคารที่ไม่น่าจะได้รับการออกแบบให้เป็นบ้านอยู่อาศัย(แม้กระทั่งวัง) อาคารหลังนี้สถาปนิกได้ออกแบบให้เป็นที่ทำการของสำนักงานธนาคารโดยตรงเลย


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 02 มี.ค. 13, 08:22
ส่วนบ้านของกัปตันบุชตัวจริงคงจะเป็นอาคารไม้ทรงโคโรเนียล เหมือนบ้านพักของชาวยุโรปร่วมสมัย และคงถูกรื้อทิ้งไปเพื่อหลีกทางให้ความเจริญยุคใหม่กว่าที่มาในรูปแบบของตึกทรงโรมัน ซึ่งไม่กี่ทศวรรษต่อมา ตึกอันโอ่อ่าของธนาคารยักษ์ใหญ่ของอังกฤษที่มีสาขาทั่วโลกนี้ก็ต้องถูกทุบทิ้งไปเหมือนกันเพื่อหลีกทางให้ความเจริญยุคใหม่ยิ่งขึ้นอีก คราวนี้มาในรูปแบบของอาคารสูง รองรับกิจการโรงแรมระดับอินเทอร์เนชันแนลห้าดาว ที่ตอนนี้ก็ชักจะเริ่มเก่าแล้ว

ซึ่งก็เป็นไปตามสัจจธรรมของกฎพระไตรลักษณ์ที่ทุกสรรพสิ่ง ล้วนแต่ เกิดขึ้น..ดิ้นที่จะดำรงอยู่…แล้วก็..ดับไป


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 02 มี.ค. 13, 19:27
เมื่อ คุณอา NAVARAT.C ยกไว้ว่าบ้านกัปตันบุช น่าจะเป็นที่ตั้งของฮ่องกงเซี่ยงไฮ้แบงค์ จึงรีบเข้าไปนำแผนที่เก่า พ.ศ. ๒๔๓๐ นำมาให้วิเคราะห์ จะเห็นว่าโครงสร้างประธานของบ้าน ออกไปทางสี่เหลี่ยม


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 02 มี.ค. 13, 19:35
ลำดับต่อมาเข้าไปค้นหาสารบาญชี ส่วนที่ ๓ คือราษฏรในจังหวัด บ้านหมู่และลำน้ำ พิมพ์ที่โรงพิมพ์หมอบรัดเล จศ. ๑๒๔๕

ไม่พบชื่อกัปตันบุช เนื่องจากเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่บาญชีระบุไว้อย่างละเอียดถึง "บ้านหมู่อู่พระวิสูทสาครดิฐ" มีประชากรอยู่ในตำบลนี้ ๒๐๐ กว่าชีวิต

ประชากรมีหลายหลาย ไทย จีน แขก อยู่ปะปนกันในพื้นนี้ใต้ลำน้ำคลองผดุงกรุงเกษมและแนวถนนเจริญกรุง ยกตัวอย่างเช่น

สรั่งสุก บุตรอำแดงคิม ขึ้นพระยารังสัน เช่าที่อำแดง ดี โรงแตะ

แขกอะซัน ร่มธงฮอลันดา

สรั่งซัน ร่มธงกงสุลฮอลันดา

นายเต่า บุตรนายแก้วขึ้นพระองค์เนาวรัตน์ เช่าโรงแตะเจ้าสัวเท้ง  (เจ้าสัวเท้ง มีห้องให้เช่า ๑๖ ห้อง)

จีนแบ้ แซ่หุ้น ผูกปี้ เช่าโรงมิศน๊อก โรงฝากระดาน (มิศน๊อก มีห้องให้เช่า ๕ ห้อง)

อำแดงปุก (บ้านเจ๊สัวสอน) มีโรงแตะให้เช่า ๖ ห้อง


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มี.ค. 13, 09:06
ทิ้งเป็นปริศนาต่อไปว่า บ้านเลขที่ ๑ ตรอกกัปตันบุช เป็นบ้านของพ่อค้าวาณิชฝรั่ง หรือคหบดีไทยท่านใด    ???


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 04 มี.ค. 13, 09:16
ส่วนตัวบ้านนั้น จะเป็นบ้านทรงโรมันที่ธนาคารนำมาดัดแปลงเป็นสำนักงานหรือไม่ เมื่อก่อนผมเห็นเฉพาะภาพถ่ายทางอากาศก็คิดว่าเป็นไปได้ที่เศรษฐีฝรั่งระดับกัปตันบุชสมัยรุ่งโรจน์จะมีบ้านหรูหราขนาดนั้น แต่ครั้นเมื่อมาได้ภาพถ่ายชัดๆ ในมุมมองระดับพื้นดินตามปกติ ก็ประจักษ์ในสัดส่วนความสูงของอาคารที่ไม่น่าจะได้รับการออกแบบให้เป็นบ้านอยู่อาศัย(แม้กระทั่งวัง) อาคารหลังนี้สถาปนิกได้ออกแบบให้เป็นที่ทำการของสำนักงานธนาคารโดยตรงเลย

ธนาคาร HSBC ออกแบบโดย โยอาคิม กราซี (Joachim Grassi/Gioachino Grassi) สถาปนิกชาวอิตาลี-ออสเตรีย

รายละเอียดอยู่ใน วิทยานิพนธ์เรื่อง "สถาปัตยกรรมของโยอาคิม กราซีในสยาม" (http://www.thapra.lib.su.ac.th/objects/thesis/fulltext/thapra/Piriya_Pittayawattanachai/fulltext.pdf) โดย นางสาวพิริยา  พิทยาวัฒนชัย  หน้า ๑๗๐-๑๗๕

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 มี.ค. 13, 18:21
อ้างถึง
ทิ้งเป็นปริศนาต่อไปว่า บ้านเลขที่ ๑ ตรอกกัปตันบุช เป็นบ้านของพ่อค้าวาณิชฝรั่ง หรือคหบดีไทยท่านใด

ในบทความที่อ้างถึง กล่าวว่าวัดแก้วแจ่มฟ้าเดิมตั้งอยู่บริเวณนั้นจนกระทั่งพระยาวิสูตรสาครดิษฐ์ และพวกชาวต่างประเทศรวม๑๓คน ได้ทำหนังสือร้องทุกข์ถึงเสนาบดีว่าการต่างประเทศเมื่อวันที่๒๕มีนาคม๒๔๔๐ ว่าพวกตนได้รับความเดือดร้อนรำคาญจากกลิ่นและสิ่งโสโครกในวัด เสี่ยงต่ออหิวาห์ตกโรคดังเช่นที่มีฝรั่งในละแวกนายหนึ่งตายเพราะโรคดังกล่าวไปแล้วก่อนหน้า ทางการจึงส่งคนไปสำรวจได้ความว่า ความโสโครกดังกล่าวมาจากในพื้นที่เดิมที่เป็นป่าช้าเก่าของวัด ซึ่งมีส้วมสาธารณะตั้งอยู่ให้ชาวบ้านข้างเคียงไปใช้ บ้านเหล่านี้บางหลังก็ทำคอกเลี้ยงหมูกลิ่นตลบ ทั้งยังมีการนำขยะปฏิกูลไปทิ้งในป่าช้าจนสกปรกส่งไปทั่ว
 
ในรายงานยังได้กล่าวถึงการตรวจสอบอาณาเขตดั้งเดิมของวัดว่าแต่เดิมนั้น ที่ดินธรณีสงฆ์ติดกับแม่น้ำและคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งได้มีการผาติกรรมไปเป็นธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ และยูไนเต็ดคลับ กับทั้งมีการตัดถนนเข้าไปชิดกำแพงแก้ว ทำให้วัดถูกล้อมรอบด้วยบ้านของชาวตะวันตก ยกเว้นด้านที่ราษฎรไทยครอบครองอยู่ดังกล่าวข้างต้น จึงเสนอให้ทางราชการผาติกรรมพื้นที่วัดทั้งหมดแล้วย้ายวัดไปสร้างใหม่ พื้นที่เดิมควรนำมาปลูกตึกให้ฝรั่งเช่า

แม้ฝรั่งจะเร่งรัดให้รีบดำเนินการ โดยสถานกงสุลอังกฤษและฮอลันดามีหนังสือขอให้จัดการกับปัญหาก่อนฤดูฝนจะมาถึง แต่กว่าหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการแบบไทยๆ และพระคลังข้างสามารถหางบประมาณมาย้ายวัดไปสร้างใหม่ในที่อยู่ปัจจุบันได้ ก็ใช้เวลาร่วม๑๐ปี

บ้านเลขที่๑ ซึ่งอยู่ในอาณาบริเวณของวัดเดิม หากดูตามแผนที่ฉบับตีพิมพ์พ.ศ.๒๔๕๐ ตรงนั้นปรากฏเป็นพื้นที่โล่ง(ป่าช้าเก่าหรือเปล่าละนั่น) แต่ถ้าดูแผนที่ซึ่งสำรวจปีพ.ศ.๒๔๖๘ ตีพิมพ์พ.ศ.๒๔๗๕ บ้านหลังนี้ได้ปรากฏขึ้นแล้วบนที่โล่งดังกล่าว เจ้าของบ้านคือพระคลังข้างที่ ไม่ทราบผู้เช่า ต่อมาในปี๒๕๐๑ ได้โอนมาเป็นของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ผู้เช่าล่าสุดคือกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งได้ให้บริษัทสุรามหาราษฎรจำกัด เช่าช่วงต่อจนหมดสัญญาเช่าในปี๒๕๓๗ หลังจากนี้มา ไม่ปรากฏผู้เช่า แม้ว่าอาคารจะมิได้ถูกทิ้งร้างโดยสิ้นเชิงก็ตาม


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 มี.ค. 13, 19:19
อ้างถึง
ในรายงานยังได้กล่าวถึงการตรวจสอบอาณาเขตดั้งเดิมของวัดว่าแต่เดิมนั้น ที่ดินธรณีสงฆ์ติดกับแม่น้ำและคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งได้มีการผาติกรรมไปเป็นธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ และยูไนเต็ดคลับ


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 มี.ค. 13, 19:20
^จากหนังสือ Twentieth Century Impression of Siam


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 มี.ค. 13, 19:24
แต่อันนี้ซิครับ ต้องร้อง "อ้าว" ดังๆ


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 มี.ค. 13, 19:27
บทความดังกล่าวมิยักติดตามไปที่กรมท่า เพื่อหาบ้านพักของกัปตันบุช ?!


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มี.ค. 13, 19:57
ตอนที่โพสต์รูปในค.ห 33  ก็นึกสงสัยตะหงิดๆเหมือนกันว่า ที่ดินตรงนี้มีมูลค่ามหาศาลในปัจจุบัน  เหตุไฉนเจ้าของบ้านหมายเลข ๑ จึงทิ้งบ้านเอาไว้ในสภาพรกร้าง    ถ้าไม่คิดจะซ่อมแซม  ก็ขายที่ดิน เอาเงินเลขเก้าหลักไปซื้อคฤหาสน์จัดสรรอยู่ก็ยังเหลือเงินอีกแยะ        ทำให้นึกขึ้นมาได้ว่า ฤๅจะเป็นที่ของทรัพย์สินฯ  ไม่ใช่ที่ของเอกชน 


บ้านเลขที่๑ ซึ่งอยู่ในอาณาบริเวณของวัดเดิม หากดูตามแผนที่ฉบับตีพิมพ์พ.ศ.๒๔๕๐ ตรงนั้นปรากฏเป็นพื้นที่โล่ง(ป่าช้าเก่าหรือเปล่าละนั่น) แต่ถ้าดูแผนที่ซึ่งสำรวจปีพ.ศ.๒๔๖๘ ตีพิมพ์พ.ศ.๒๔๗๕ บ้านหลังนี้ได้ปรากฏขึ้นแล้วบนที่โล่งดังกล่าว เจ้าของบ้านคือพระคลังข้างที่ ไม่ทราบผู้เช่า ต่อมาในปี๒๕๐๑ ได้โอนมาเป็นของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ผู้เช่าล่าสุดคือกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งได้ให้บริษัทสุรามหาราษฎรจำกัด เช่าช่วงต่อจนหมดสัญญาเช่าในปี๒๕๓๗ หลังจากนี้มา ไม่ปรากฏผู้เช่า แม้ว่าอาคารจะมิได้ถูกทิ้งร้างโดยสิ้นเชิงก็ตาม

ลางสังหรณ์ทำท่าว่าจะแม่นค่ะ


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 มี.ค. 13, 20:28
เชิญอ่านต่อครับ เผื่อจะใช้ลางสังหรณ์ได้

ตรอกกัปตันบุช
โดย อิสริยา เลาหตีรานนท์

ท่านที่ผ่านไปแถวถนนเจริญกรุง อาจจะเคยสังเกตเห็นตรอกชื่อ ตรอกกัปตันบุช และอาจสงสัยว่าเหตุใดชื่อตรอกจึงเป็นชื่อฝรั่ง วันนี้ดิฉันมีที่มาที่ไปของชื่อตรอกนี้มาเล่าให้ฟัง

พจนานุกรมวิสามานยนามไทย วัด วัง ถนน สะพาน ป้อม ของนางสาวกนกวลี ชูชัยยะ ซึ่งราชบัณฑิตยสถานจัดพิมพ์เผยแพร่ เล่าถึงตรอกกับตันบุช ว่า ตรอกนี้ตั้งอยู่ระหว่างตรอกฮ่องกงกับที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขกลาง ถนนเจริญกรุง มีระยะทางจากถนนเจริญกรุงไปจดแม่น้ำเจ้าพระยา เหตุที่ตรอกนี้มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า กัปตันบุช ก็มาจากชื่อของพระยาวิสูตรสาครดิฐ หรือกัปตันจอห์น บุช ชาวอังกฤษ ที่เข้ามารับราชการในตำแหน่งเจ้าท่า สังกัดกรมท่าหลวง ซึ่งมีหน้าที่ดูแลกิจการทั่วไปและติดต่อกับชาวยุโรป กัปตันบุชเป็นชาวอังกฤษเดินทางเข้ามารับราชการในไทยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้น ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงวิสูตรสาครดิฐ เจ้าท่า ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญเพราะหลังการลงนามในสนธิสัญญาเบาว์ริงกับอังกฤษและนานาประเทศนั้น ประเทศไทยก็มีเรือจากต่างประเทศเข้ามาค้าขายจำนวนมาก ตำแหน่งเจ้าท่านั้น นอกจากจะอำนวยการด้านการท่า และการนำร่องแล้ว ยังต้องทำหน้าที่ไต่สวนคดีความที่เกิดขึ้นในท้องน้ำด้วย ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กัปตันบุชได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระวิสูตรสาครดิฐ และพระยาวิสูตรสาครดิฐตามลำดับ และได้มีโอกาสปฏิบัติราชการใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในการตามเสด็จประพาสต่างประเทศ

กัปตันบุชและครอบครัวพำนักอยู่ที่บ้านใกล้กับโรงภาษีซึ่งเป็นที่ทำการกรมเจ้าท่า ต่อมาโรงภาษีได้ย้ายไปตั้งในตรอกโรงภาษี ส่วนตรอกบ้านของกัปตันบุชเรียกว่าตรอกกัปตันบุชจนถึงปัจจุบัน แต่เดิมนั้นตรอกกัปตันบุชเป็นที่ตั้งของร้านค้าชาวต่างประเทศจำนวนมาก ปัจจุบันมีสถานเอกอัครราชทูตโปรตุเกสตั้งอยู่ กัปตันบุชถึงแก่กรรมใน พ.ศ. ๒๔๔๘ ที่กรุงเทพมหานคร ศพของกัปตันบุชอยู่ที่สุสานโปรเตสแตนต์ ถนนเจริญกรุง.  


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 มี.ค. 13, 20:34
เขียนโดย Ploypapat  วันศุกร์, มิถุนายน 25, 2553


ตัวที่ทำการศุลกากร (Customs House) หรือโรงภาษี เริ่มมีเป็นครั้งแรก หลังจากไทยได้ทำสนธิสัญญาบาวริงกับประเทศอังกฤษ ซึ่งในตอนหนึ่งระบุว่าจะต้องปลูกโรงภาษีให้ใกล้ท่าจอดเรือพอสมควร ถึงแม้ว่าภายหลังจากสนธิสัญญาบาวริง ได้มีที่ทำการศุลกากร (Customs House) หรือโรงภาษีขึ้นแล้ว แต่ก็ทราบได้แน่นอนราวปี พ.ศ. 2428 ว่าที่ทำการศุลกาการเวลานั้น เดิมเรียกว่า โรงภาษีร้อยชักสาม หรือเรียกสั้นๆ ว่าโรงภาษีตั้งอยู่ปากคลองผดุงกรุงเกษม เยื้องธนาคารฮ่องกงและเซียงไฮ้แบงค์ปัจจุบัน ลักษณะของอาคารเป็นเรือนปั้นหยาชั้นเดียว หันหน้าลงแม่น้ำ

ภายหลัง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานที่หลวง ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงภาษีนี้แก่พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอิศริยาภรย์ เพื่อทำตึกให้ฮ่องกงแอนด์เซียงไฮ้แบงค์เช่า (พระราชหัตถเลขาในรัชกาลที่ 5 ถึงเจ้าพนักงาน พระคลังมหาสมบัติ ลงวันที่ 7 ปีชวด สัมฤทธิศก พ.ศ. 2430) จึงได้ย้ายมาตั้ง ณ ที่อาคารเก่าศุลกากร ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีตำรวจดับเพลิงบางรักในปัจจุบัน  


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 มี.ค. 13, 21:04
ลักษณะของอาคารเป็นเรือนปั้นหยาชั้นเดียว หันหน้าลงแม่น้ำ  

อย่างกับหลังที่ตกขอบด้านซ้ายมือของรูปนี้เลย



กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 04 มี.ค. 13, 21:37
ขออนุญาตย้อนกลับไป # ๔๕

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5389.0;attach=39396;image)

หมายเลข ๑, ๒ และ ๓ คืออะไรหนอ

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/smiley19.png)


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มี.ค. 13, 22:11
กัปตันบุชถึงแก่กรรมเมื่อพ.ศ. ๒๔๔๘   ในตอนนั้นบ้านเลขที่ ๑ ยังไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมา   ในแผนที่ฉบับตีพิมพ์พ.ศ.๒๔๕๐  ที่ดินผืนนี้็ยังว่างอยู่     ต่อมาอีกหลายปี  ในแผนที่ซึ่งสำรวจปีพ.ศ.๒๔๖๘ ตีพิมพ์พ.ศ.๒๔๗๕ บ้านหลังนี้ได้ปรากฏขึ้นแล้วบนพื้นที่โล่งดังกล่าว เจ้าของบ้านคือพระคลังข้างที่ ไม่ทราบผู้เช่า

เก็บลางสังหรณ์ลงลิ้นชัก เอาข้อมูลฉบับนวรัตนดอทซีในกระทู้นี้มาปะติดปะต่อกันก็ได้คำตอบว่า พระคลังข้างที่เป็นเจ้าของบ้าน   จะซื้อมาจากใคร  หรือปลูกบ้านนี้ขึ้นมาเองก็ไม่ทราบ    แต่หารายได้โดยให้เช่า     ดูจากลักษณะของบ้าน ใหญ่โตโอ่อ่าแบบฝรั่ง น่าจะเป็นบ้านให้ฝรั่งเช่ามากกว่าไทย  เพราะคนไทยที่กล้าเช่าบ้านขนาดนี้ น่าจะรวยพอปลูกบ้านอยู่เองได้อยู่แล้ว

จากข้อมูลนี้   แสดงว่าบ้านเลขที่ ๑ ถือกำเนิดมาภายหลังกัปตันบุชถึงแก่กรรมไปแล้วหลายปี   สรุปว่าไม่ใช่บ้านท่าน    


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 05 มี.ค. 13, 06:55
ในกระทู้นี้นวรัตนดอทซีให้ข้อมูลว่า พระคลังข้างที่เป็นผู้ผาติกรรมวัดแก้วแจ่มฟ้าไปอยู่ที่อื่น แล้วนำที่ดินนั้นมาลงทุนสร้างเป็นบ้านใหญ่ๆเพื่อให้ฝรั่งเช่าได้๔หลัง ดังหมายเลข๑ ๒ ๓ และ๔ ในแผนที่ที่คุณเพ็ญชมพูถาม
เดี๋ยวนี้ที่ดินผืนนี้ยังเป็นของทรัพย์สินฯรวมทั้งบ้านเลขที่๑ ส่วนใครเป็นผู้เช่าบ้าง ทราบแต่รายสุดท้ายของบ้านเลขที่๑ที่กล่าวไปแล้ว ปัจจุบันเหลือแต่คนเฝ้าบ้านพำนักอยู่  

และที่ดินอีกส่วนหนึ่งของวัดนั้น ได้ผาติกรรมมาก่อนหน้านั้นนับสิบปี ตั้งแต่สมัยที่กัปตันบุชยังมีชีวิตอยู่ แล้วแบ่งให้ยูไนเต็ดคลับและธนาคารฮ่องกงเซี่ยงไฮ้เช่าไปสร้างตึกหรูหราใหญ่โต


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 05 มี.ค. 13, 07:04
หยิบสารบาญชีเล่ม ๑ มาเปิดตรงกรมท่า พบว่า บ้านพระวิสูทสาครดิฐ (กับตันบุช) บ้านปากคลองผดุง ลำน้ำฝั่งตะวันออก ๑๐



กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 05 มี.ค. 13, 07:08
บทความดังกล่าวมิยักติดตามไปที่กรมท่า เพื่อหาบ้านพักของกัปตันบุช ?!

กรมท่า ตั้งอยู่เลยวัดแม่พระลูกประคำไปทางเหนือเล็กน้อย  "กัปตันบุช" เคยมาอยู่แถวกรมท่าหรือ  ???


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 05 มี.ค. 13, 07:41
นั่นแหละครับ จึงต้องการลางสังหรณ์มาช่วยกันหาบ้าน “หลังใหญ่ที่กัปตันบุชพำนัก” ตามตำนาน

นวรัตนดอทซีนำข้อมูลมาลงไปแล้ว ขอเรียงตามtime lineว่า กัปตันบุช สมัยรัชกาลที่๔ พำนักอยู่ในกรมท่า หรือโรงภาษีเก่าที่เป็นอาคารไม้ชั้นเดียวหลังคาทรงปั้นหยา ตั้งอยู่ปากคลองผดุงกรุงเกษมนี้แหละ แต่ด้านหน้าที่ติดแม่น้ำจะยาวไปแค่ไหนไม่ทราบ แต่ก็ต้องยาวพอที่เรือใหญ่จะเข้าเทียบได้(ที่ใหญ่เกินก็ต้องทอดสมออยู่กลางแม่น้ำเอาเรือเล็กเทียบถ่ายสินค้าอีกทีหนึ่ง) ที่ดินผืนนี้เคยเป็นของวัดแก้วแจ่มฟ้ามาก่อนจะถูกผาติกรรม(ครั้งแรก)
 
สมัยรัชกาลที่๕ ได้สร้างโรงภาษี(กรมท่า)ขึ้นใหม่เมื่อประมาณปี ๒๔๓๐ เป็นอาคารหรูหราเชิดหน้าชูตาสยาม ที่ดินตรงโรงภาษีเก่าพระราชทานให้พระเจ้าพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอิศริยาภรณ์ เพื่อทำตึกให้ธนาคารฮ่องกงแอนด์เซียงไฮ้เช่า

บ้านของกัปตันบุชยังคงอยู่ที่เดิม ไม่ได้ย้ายตามกรมท่าใหม่ไป เห็นได้จากการเข้าร่วมลงชื่อร้องเรียนให้ทางราชการเข้ามาจัดการกับมลภาวะในวัดแก้วแจ่มฟ้า(ส่วนที่ยังเหลือ)ในปี๒๔๔๐

กัปตันบุชถึงแก่กรรมในปี๒๔๔๘ บ้านที่เคยอยู่ อาจจะเป็นบ้านของตนปลูกในที่หลวง หรือบ้านหลวงทั้งหลังที่พระราชทานให้อยู่จนตายนั้น ทายาทก็ต้องคืนให้หลวงไป และยุคปัจจุบันโรงแรมโรยัลออคิดได้เช่ารวมกับที่ดินแปลงที่ติดแม่น้ำทั้งหมดจากสำนักงานทรัพย์สินฯ


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 มี.ค. 13, 08:40
^
แหล่ม ค่ะ


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 05 มี.ค. 13, 09:12
ในกระทู้นี้นวรัตนดอทซีให้ข้อมูลว่า พระคลังข้างที่เป็นผู้ผาติกรรมวัดแก้วแจ่มฟ้าไปอยู่ที่อื่น แล้วนำที่ดินนั้นมาลงทุนสร้างเป็นบ้านใหญ่ๆเพื่อให้ฝรั่งเช่าได้๔หลัง ดังหมายเลข๑ ๒ ๓ และ๔ ในแผนที่ที่คุณเพ็ญชมพูถาม
เดี๋ยวนี้ที่ดินผืนนี้ยังเป็นของทรัพย์สินฯรวมทั้งบ้านเลขที่๑ ส่วนใครเป็นผู้เช่าบ้าง ทราบแต่รายสุดท้ายของบ้านเลขที่๑ที่กล่าวไปแล้ว ปัจจุบันเหลือแต่คนเฝ้าบ้านพำนักอยู่  

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5389.0;attach=39419;image)

เข้าใจแจ่มแจ้ง  ;D

หมายเลข ๓ ผู้เช่าคือ บริษัทหลุยส์ ที. เลียวโนเวนส์

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5552.0;attach=39395;image)

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 05 มี.ค. 13, 09:23
ลักษณะอาคารบริษัทหลุยส์ ที. เลียวโนเวนส์ คล้ายๆบ้านเลขที่๑เหมือนกัน


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 05 มี.ค. 13, 09:52
ตำนานกรมศุลกากร โดยพระยาอนุมานราชธน

"โรงภาษี ตั้งอยู่ปากคลองผดุงกรุงเกษมแง้มใต้ ตรงที่เป็นธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงก์เดี่ยวนี้ ว่าเป็นเรือนปั้นหยาชั้นเดียวหันหน้าลงน้ำ ภายหลังโปรดเกล้าฯ พระราชทานที่หลวงซึ่งเป็นโรงภาษีนี้แก่พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอิศริยาภรณ์ เพื่อทำตึกธนาคารฮ่องกงฯ ส่วนสถานที่เป็นกรมศุลกากรในบัดนี้ (โรงร้อยชักสาม) สถานที่เดิมเป็นตึกจีน ภายหลังเป็นของหลวง เป็นของนายนุดอาหารบริรักษ์ เห็นจะสร้างเมื่อ จ.ศ. ๑๒๔๖ (พ.ศ. ๒๔๒๗ - ๒๔๓๑) เรียกโรงภาษีซึ่งทำใหม่ มีผู้บังคับบัญชาคือ เจ้าพระยาภาสกรวงศ์


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 09 มี.ค. 13, 10:59
ครูบอกว่าให้หาที่ตั้งโรงภาษีเก่า ก่อนที่จะย้ายมาตั้งที่โรงภาษีชักสาม จะได้ปิดกระทู้ซะที แต่ไปเจอบทความนี้ จึงยกมาให้อ่านกัน

"ตัวที่ทำการศุลกากร (Customs House) หรือโรงภาษี เริ่มมีเป็นครั้งแรก หลังจากไทยได้ทำสนธิสัญญาบาวริงกับประเทศอังกฤษ ซึ่งในตอนหนึ่งระบุว่า จะต้องปลูกโรงภาษีให้ใกล้ท่าจอดเรือพอสมควร ถึงแม้ว่าภายหลังจากสนธิสัญญาบาวริง ได้มีที่ทำการศุลกากร (Customs House) หรือโรงภาษีขึ้นแล้ว แต่ก็ทราบได้แน่นอนราวปี พ.ศ. 2428 ว่าที่ทำการศุลกาการเวลานั้น เดิมเรียกว่า โรงภาษีร้อยชักสาม หรือเรียกสั้นๆ ว่าโรงภาษีนั้น ตั้งอยู่ปากคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งก็คือบริเวณช่วงปลายถนนสีพระยาที่มีท่าเรือข้าฝากในปัจจุบัน ลักษณะของอาคารเป็นเรือนปั้นหยาชั้นเดียว หันหน้าลงแม่น้ำ ภายหลัง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานที่หลวง ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงภาษีนี้แก่พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอิศริยาภรย์ เพื่อทำตึกให้ฮ่องกงแอนด์เซียงไฮ้แบงค์เช่า (พระราชหัตถเลขาในรัชกาลที่ 5 ถึงเจ้าพนักงาน พระคลังมหาสมบัติ ลงวันที่ 7 ปีชวด สัมฤทธิศก พ.ศ. 2430) จึงได้ย้ายมาตั้ง ณ ที่อาคารเก่าศุลกากร ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีตำรวจดับเพลิงบางรักในปัจจุบัน"

ที่มา http://catadmin.cattelecom.com/km/blog/choosiri/?p=26


ถ้าอ้างถึงตรงนี้แล้ว บ้านกัปตันบุชที่เคยอยู่ตรงธนาคารฮ่องกง ? ไปไหนหนอ


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 09 มี.ค. 13, 11:20
อาคารอันเป็นที่ตั้งสถานทูตฝรั่งเศสในปัจจุบันนี้จัดเป็นอาคารที่อยู่ในกลุ่มอาคารอนุรักษ์มาตั้งแต่ปีพ.ศ.2527   ในอดีตบ้านไม้ทรงยูโรคลาสสิคนี้เคยเป็นโรงภาษีเก่ามาก่อน อันเป็นที่มาของชื่อ "ซอยโรงภาษีเก่า" อีกชื่อหนึ่งของถนนแบรสต์ ตัวอาคารก่อสร้างโดยช่างชาวอิตาเลียน เป็นอาคารยกพื้นสูง และมีระเบียงด้านหน้าหันสู่แม่น้ำเจ้าพระยา

ที่มา มติชนออนไลน์


กระทู้: กัปตันบุช ทหารเรือเชื้ออังกฤษที่คนไทยรู้จักเพียงชื่อตรอก
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 05 ก.พ. 18, 10:35
ปุจฉา

ทิ้งเป็นปริศนาต่อไปว่า บ้านเลขที่ ๑ ตรอกกัปตันบุช เป็นบ้านของพ่อค้าวาณิชฝรั่ง หรือคหบดีไทยท่านใด    ???


วิสัชนา

บ้านเลขที่ ๑ นี้สร้างระหว่าง พ.ศ. ๒๔๕๐ - ๒๔๖๘ บนพื้นที่ที่เช่าจากพระคลังข้างที่ เป็นที่ทำการของบริษัทฝรั่งเศส ชื่อ “Societe Francaise des Distilleries de l’Indochine (SFDI)” ซึ่งดำเนินกิจการกลั่นสุราในช่วงล่าอาณานิคมอินโดจีน เนื่องด้วยทำเลบริเวณนั้นที่เป็นแหล่งชุมชนและที่ตั้งสำนักงานของชาวยุโรปที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ ต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๐๑ ได้โอนมาเป็นของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ผู้เช่าล่าสุดคือกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งได้ให้บริษัทสุรามหาราษฎรจำกัดเช่าช่วงต่อจนหมดสัญญาเช่าใน พ.ศ. ๒๕๓๗ หลังจากนี้มา ไม่ปรากฏผู้เช่า แม้ว่าอาคารจะมิได้ถูกทิ้งร้างโดยสิ้นเชิงก็ตาม

ด้วยคุณค่าและความสวยงามของอาคารนี้ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก โดยใช้กระเบื้องรูปเพชรสร้างเป็นหลังคาทรงปั้นหยา ทาด้วยสีเหลืองนวลตา หากปล่อยให้เสื่อมโทรมไปก็เป็นที่น่าเสียดาย สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จึงได้ฟื้นฟูอาคารหลังนี้กรมศิลปากรยังได้ประกาศขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถานที่มีคุณค่าแก่การศึกษาทางด้านประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอีกด้วย

http://www.bangkokriver.com/th/place/house-no-1/
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5389.msg119634#msg119634

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6040.0;attach=66866;image)

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6040.0;attach=66854;image)
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6040.0;attach=66855;image)