เรือนไทย

พวกเราบางคนคงเคยรู้จักกีฬาโรดีโอจากหนังสารคดี หรือไม่ก็หนังคาวบอยของฮอลลีวู้ด    มันเป็นกีฬาของอเมริกันแท้ๆ   ของจริงต้องอยู่ในประเทศนี้เท่านั้น  และจำกัดอยู่ทางรัฐตะวันตกอันเป็นแหล่งกำเนิดของคาวบอย  เช่นเทกซัส  ไวโอมิง  โคโลราโด นีบราสก้า ฯลฯ   รัฐทางตะวันออกอย่างนิวแฮมป์เชอร์  แมสสาชูเสตต์  นิวเจอร์ซี่  ไม่มีคาวบอย
คำว่า cowboy   เมื่อก่อนเราเรียกว่าโคบาล แปลว่าคนเลี้ยงวัว

โรดีโอเป็นที่รวมของกีฬาหลายๆชนิดของคาวบอย  กำเนิดขึ้นมาจากคอกปศุสัตว์ที่มีม้า วัว และแกะ ที่คาวบอยเลี้ยงเอาไว้ขาย    เมื่อศตวรรษที่ 19  ฝรั่งอพยพมาทางตะวันตก เห็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เหมาะจะเลี้ยงสัตว์ก็เลี้ยงกันไปเลี้ยงกันมาอยู่ในไร่อันกว้างใหญ่และเงียบเหงาของทุ่งกว้าง    
ในที่สุด ก็คงจะเอางานประจำนั่นแหละมาเล่นแข่งขันกันเองระหว่างเจ้าของไร่ใกล้ๆกัน  แก้เหงาและฆ่าเวลาให้เพลิดเพลิน

อาจารย์เปิดกระทู้เรื่อง RODEO ทำให้คิดถึงอดีตพระเอกฮอลลีวู๊ดยุคคาวบอย JOHN WAYNE ขึ้นมาทันที และนักแสดงอีกหลายท่านที่ผมไมได้จดจำชื่อไ้ว้

ในเวปของฝรั่งเขากล่าวที่มาของ  ไ้ว้เป็นภาษาอังกฤษ สำนวนแปลแบบอากู๋ของผมคงพาผู้อ่านเข้าป่าแน่ๆ ยกภาระการแปลและเรียบเรียงนี้ให้อาจารย์ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่งครับ

What is rodeo?

The word 'rodeo' was borrowed from the Spanish cowboys or vaqueros. Rodeo is a form of the verb 'rodear', which means 'to surround' or 'round-up'. The word was used to describe the act of gathering cattle before a cattle drive.

American Rodeo was originated in the early 1700's when the Spanish still occupied the western part of the country. Spanish cattlemen, known as vaqueros, wore the clothes and performed similar duties as the contemporary American cowboys. The vaqueros rode horses, branded animals, herded cattle, and did a lot of roping. Many of these duties have been integrated into modern rodeo events to this day.

When America expanded westward in the 1800's, the pioneers incorporated the dress and techniques of the Spanish and Mexican ranchers. They raised the cattle that fed Americans during the 19th century, and had to travel around the country sending the cattle for consumption. During these long journeys, these American cowboys would have competitions to see who was the best herder, roper and rider. These competitions led to Wild Wild West shows formed by legends like Buffalo Bill Cody, which was the forerunner to what we know today as the modern rodeo competitions.

ดิฉันก็เพิ่งรู้จากที่คุณลุงไก่หามาให้นี่เองว่า โรดีโอของอเมริกันมาจากสเปนที่เคยครองอยู่ทางใต้รวมทั้งคาลิฟอเนียด้วย   เพราะในเว็บที่ไปหามา  เล่ากันคนละเรื่องเลยเชียว

ที่ไปเจอ เล่าว่ากีฬาโรดีโอถือกำเนิดมาในค.ศ. 1864 เมื่อโคบาลสองพวกในคอกปศุสัตว์ใกล้ๆกันในเมือง  Deer Trail รัฐโคโลราโดเถียงกันว่าใครเก่งกว่ากันเรื่องฝีมือขี่สัตว์และจับสัตว์ในคอก   ก็เลยลงมือแข่งกันให้ดูซะเลย   
การแข่งขันกันนี่แหละถือว่าเป็นการแข่งโรดีโอนัดแรก  จากนั้นก็แข่งกันมาเรื่อยๆ และพัฒนาจนเป็นล่ำเป็นสันอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

ส่วนเว็บที่คุณลุงไก่กรุณาไปหามาให้  เล่าประวัติไว้ยืดยาว ยกต้นกำเนิดไปให้สเปน บอกว่า คำ rodeo มาจากภาษาสเปน  คาวบอยสเปนนั้นเรียกว่า  vaqueros  ส่วนคำกริยา  'rodear'  ที่กลายมาเป็น rodeo นั้น หมายถึงการ"ไล่ต้อนจับ"  ซึ่งเป็นคำอธิบายวิธีเล่นกีฬาชนิดนี้

Rodeo ย้อนหลังไปได้ถึงช่วงต้นทศวรรษ 1700 เมื่อสเปนยังคงครอบครองภาคตะวันตกของอเมริกา  พวกคาวบอยสเปนก็แต่งกายและทำงานปศุสัตว์แบบเดียวกับคาวบอยอเมริกัน  พวกนี้ขี่ม้า  ประทับตรา(นาบเครื่องหมาย) ลงบนตัวสัตว์  เลี้ยงปศุสัตว์  และขว้างบ่วงจับสัตว์   งานพวกนี้ก็กลายมาเป็นอย่างที่เราเห็นในโรดีโอสมัยใหม่ทุกวันนี้


ถึงเมื่ออเมริกาขยายตัวไปทางทิศตะวันตกในช่วงศตวรรษ  1800  บรรดานักบุกเบิกอเมริกันก็รับวิธีการแต่งกายตลอดจนวิธีเลี้ยงปศุสัตว์มาจากเจ้าของคอกชาวสเปนและเมกซิกัน    พวกนี้ต้องเดินทางไปทั่วประเทศ  ต้อนสัตว์ไปขายเพื่อการบริโภค  ระหว่างการเดินทางไกลอันยาวนานนั้น คาวบอยอเมริกันก็แข่งขันกันว่าใครจะต้อนสัตว์ ขว้างบ่วงบาศคล้องวัว และขี่ม้าขี่วัวได้เก่งกว่าเพื่อน  แข่งกันไปแข่งกันมาก็พัฒนาเป็นการแสดงโชว์     นักแสดงโชว์ที่กลายเป็นตำนานไปแล้วก็คือบัฟฟาโล บิล โคดี้   
ใครเป็นคอหนังคาวบอยคงเคยได้ยินชื่อแกบ้างนะคะ  แกมีตัวจริง  เอารูปมาลงไว้ข้างล่างนี้

การแสดงโชว์ของบัฟฟาโล บิล และคนอื่นๆก็พัฒนามาเป็นแข่งโรดีโออย่างที่เห็นทุกวันนี้ละค่ะ

คำว่า buffalo ในชื่อของ Buffalo Bill มิใช่หมายถึงควายที่มีหน้าอย่างบ้านเรา แต่เป็นสัตว์พื้นเมืองของอเมริกาอันมีนามว่า bison (http://en.wikipedia.org/wiki/American_bison)

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/8/8d/American_bison_k5680-1.jpg/640px-American_bison_k5680-1.jpg)

Buffalo Bill (http://en.wikipedia.org/wiki/Buffalo_Bill) เป็นชื่อเล่นของ William Frederick Cody ซึ่งนอกจากเป็นนักแสดงโชว์แล้วยังเป็นทหารและนักล่า bison อันที่มาของชื่อเล่นของเขา

 ;D

เจ้าทุยบ้านเรา  ฝรั่งจำแนกลงไปอีกขั้นหนึ่งว่า water buffalo  ส่วน bison เรียกว่า buffalo bison   เห็นทีแรกดูมันเหมือนวัวมากกว่าควาย  แต่เขาจัดเข้าประเภทควาย  เอ้า ควายก็ควายค่ะ
ควายฝรั่งพวกนี้อยู่ในภูมิประเทศเขตหนาว  ไม่เคยเห็นเลี้ยงกันที่เอเชียอาคเนย์  หรือคุณเพ็ญชมพูอาจจะค้นมาได้ว่ามีอยู่แถวๆนี้ ก็เป็นได้

ปัจจุบันฝรั่งทำฟาร์มควายไบซัน เพื่อบริโภค   เคยผ่านไปเห็นแถวรัฐนีบราสก้า เลี้ยงใส่คอกไว้กลางแจ้งเหมือนคอกวัว   ไม่รู้ว่าเนื้อมันคล้ายเนื้อควายบ้านเราหรือเปล่า หรือว่าเนื้อวัว รู้แต่ว่าเอามาทำสเต๊กก็ได้ ทำไบซันเบอร์เกอร์ก็ได้  แต่ไม่เคยกินค่ะ
ใครเคยรับประทานช่วยมาแบ่งปันความรู้ก็จะขอบคุณ

ภาพล่าง ซ้ายคือไบซันสเต๊ก  ขวาคือไบซันเบอร์เกอร์

ป.ล. เดี๋ยวขอกลับไปโรดีโอต่อ

กลับมาเรื่องโรดีโอ
สมัยเรียนหนังสือ   เคยไปดูโรดีโอหนหนึ่งที่รัฐไวโอมิง  เพื่อนนักเรียนไทยด้วยกันมีเพื่อนฝรั่งเป็นเศรษฐีลูกทุ่งเจ้าของฟาร์มอยู่แถวนั้น ก็เลยชวนกันไปค้างคืนที่บ้านเขา  เช้าก็พาไปดูโรดีโอ   จึงเพิ่งรู้ว่าเขาแข่งขันกันยังไง   ก็ยังติดตามาจนบัดนี้

มาอเมริกาปีนี้ตรงกับฤดูร้อนบ้านเขาพอดี    โรดีโอจะจัดตามเมืองต่างๆในช่วงนี้  เมื่อมาจัดที่สนามกีฬาในเมือง ก็เลยซื้อตั๋วเข้าไปดู  ค่าชมไม่ถือว่าแพง ตามมาตรฐานอเมริกันคือ 12 ดอลล่าร์  (แต่ถึงคิดตามเงินไทย  ราคานี้ก็ถูกกว่าบัตรคอนเสิร์ตนักร้องดังๆ)  เป็นกีฬาที่ดูกันได้ทุกเพศทุกวัย  มีพ่อแม่อุ้มลูกจูงหลานมาดูกันมากมายเกือบจะเต็มอัฒจันทร์

สนามกีฬาที่ใช้แข่งและโชว์โรดีโอคือสนามในภาพข้างล่างนี้   พื้นเป็นดินร่วนซุย นุ่มๆ  มีคนมาเกลี่ยให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย พื้นสนามโรดีโอต้องนุ่ม  ไม่แข็งอย่างคอนกรีต  เพราะจะต้องรับแรงกระแทกอยู่ตลอดเวลา   ถ้าแข็งคงมีคนแขนขาหักคอหักกันเกลื่อนกลาด

เมื่อเดินเข้าไปถึงที่นั่ง  ก็เห็นคาวบอยขี่ม้าป้วนเปี้ยนกันอยู่สามสี่คน  พวกนี้มีหน้าที่คล้ายๆกำกับเวที คือดูแลสนาม ต้อนวัวให้กลับเข้าคอก  ร่วมแสดงในงาน   คอยระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ   
ขี่ม้ากันเก่งและชำนาญในการบังคับวัวอีกด้วย

จอสี่เหลี่ยมสีดำข้างบนนั้นเป็นกระดานอีเล็กโทรนิคส์   ขึ้นจอบอกรายชื่อผู้ที่ทำเวลาได้มากน้อยแค่ไหน ลดหลั่นกันลงมา   ถ้าทำได้สำเร็จในเวลาน้อยที่สุดถือว่าดีที่สุด    แบบเดียวกับวิ่งแข่งหรือว่ายน้ำ
เขาขึ้นรายชื่อและเวลาที่ทำ  ตามลูกศรชี้ค่ะ

บรรยากาศในสนามก่อนเริ่มงาน

จะข้ามพิธีเปิดไปเพราะไม่มีอะไรมาก  ก็มีสาวโคบาลหน้าตาจิ้มลิ้มมาควบม้ารอบสนาม ถือธงโบกสะบัดในมือหนึ่ง ถือบังเหียนมือเดียว  จากนั้นงานก็เริ่ม
การแข่งขันชุดแรกเป็นชุดขี่ม้าพยศ    ดูว่าใครจะทำเวลาได้นานกว่ากันกว่าจะพ้นจากหลังม้า     
คาวบอยที่ขึ่ม้าพยศเขามีท่าขี่โดยเฉพาะ คือต้องรั้งบังเหียนด้วยมือเดียว  อีกมือชูสูงๆให้คนเห็น    เมื่อม้าถูกปล่อยออกจากคอก  มันก็ดีดหกหน้าหกหลัง เหมือนจะสะบัดคนขี่ให้หล่นลงไป   แต่คาวบอยก็ต้องมือเหนียวรั้งเอาไว้จนได้  ถ้าพลาดหล่นลงไปเสียแต่แรกก็จบกัน คืออดได้คะแนน   

ถ้าถามว่ากีฬานี้อันตรายไหมก็ถือว่าอันตรายมาก    คนที่เข้าแข่งขันแต่ละคนล้วนแต่มีชั่วโมงบินในการขี่ม้าพยศกันมาแยะแล้ว  แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะอยู่บนหลังม้าได้  
ดูจากรูปนี้  ม้าสลัดคนขี่ลอยก่อนกระเด็นลงไปคลุกดินข้างล่าง   ดิฉันไม่เห็นคาวบอยสวมหมวกกันน็อค  พอหมวกคาวบอยหลุดก็เหลือหัวเปล่าๆ   ส่วนเสื้อที่สวมดูเหมือนจะมีเสื้อกั๊กแบบกันกระแทกสวมไว้ด้วย    

ในเมื่อไม่มีความรู้เรื่องโรดีโอมาก่อนและยังไม่ได้ไปค้นในอินทรเนตรถึงวิธีเล่น   ก็จะเล่าได้แบบสเน้คๆฟิชๆ ตามที่เห็น  ว่าม้าพยศที่ปล่อยออกมานั้น เขาเอาสายหนังสีเหลือง (ดูตามรูป)รัดพุงมันเอาไว้แน่น    เข้าใจว่าสายสีเหลืองนี้เองที่ทำให้ม้าเกิดอาการพยศดีดหน้าดีดหลัง
เมื่อคาวบอยบนหลังม้ามือเหนียวควบติดหลังม้าไปได้สักพัก  ก็จะมีคาวบอยอีกสามคนที่อยู่บนเวทีพุ่งม้าเข้าไปประกบ   คนหนึ่งจะกระชากคาวบอยให้พ้นจากหลังม้าพยศมาอยู่บนหลังม้าเขา  แล้วค่อยปล่อยให้เลื่อนตัวลงไปยืนบนพื้นดินได้อย่างปลอดภัย    คนที่สองใช้ความเร็วควบม้าเข้าประกบม้าพยศ  แล้วกระชากสายสีเหลืองให้หลุดจากพุงม้า  เขามีวิธีกระชากยังไงไม่ทราบหลุดออกมาได้ทันที   พอสายเหลืองหลุด ม้าก็หยุดพยศ   ส่วนคนที่สามถือบ่วงบาศคอยคล้องม้าที่หายพยศ ถ้ามันวิ่งเตลิด    แล้วต้อนให้มันวิ่งกลับเข้าคอกที่ริมสนาม

นี่คือการควบม้าเข้าประกบ  คาวบอยหมวกขาวคนซ้ายสุดกระชากตัวคาวบอยบนหลังม้าพยศ ให้หลุดจากหลังม้ามาขึ้นหลังม้าเขา แล้วค่อยปล่อยให้เลื่อนลงจากหลังม้าไปยืนบนพื้นดิน  คนขวาทำหน้าที่ปลดสายเหลือง

ดูอีกรูป ให้เห็นทีมงานที่ทำงานร่วมกันรวดเร็วภายใน 2-3 วินาที ไม่ให้พลาดได้

จากนั้น เขาก็ต้อนม้าพยศ ที่ตอนนี้หลังเปล่า และไม่มีสายเหลืองรัดตัวอยู่  กลับเข้าคอกไป

ม้าบางตัวยังฟิตจัด  ควบไม่ยั้งก็ต้องไล่ต้อนกันอุตลุดเหมือนกัน
แต่ส่วนใหญ่ม้าพวกนี้ถูกฝึกมาแล้วอย่างดี    มันรู้หน้าที่ว่าจะต้องกลับเข้าคอกของมันที่ริมสนาม

ภาพที่นำมาลงข้างล่างนี้ จะเห็นว่าคาวบอยที่ขี่ม้าพยศ ถูกมันสลัดหงายหลังทุกคน   บางคนก็กระเด็นลงมาคลุกฝุ่น  บางคนก็มือเหนียวทรงตัวอยู่ได้จนกระทั่งม้าช่วยควบเข้ามาดึงตัวไปได้จากบนหลังม้าพยศ   
นอกจากม้าพยศแล้ว ยังมีขี่หลังวัวพยศ ซึ่งสาหัสกว่าม้าเสียอีก

เมื่อนั่งดูอยู่บนอัฒจันทร์  แปลกใจว่าพวกนี้หล่นลงคลุกฝุ่นข้างล่าง ไม่เห็นมีใครเป็นอะไรสักคน   กลิ้งลงไปก็ลุกขึ้นมาเดินได้ตามปกติ  ราวกับกระโดดลงจากไม้ลื่นในสนามเด็กเล่น   ถ้าหากว่าเป็นอย่างเราๆคงคอหัก อย่างเบาะๆก็ซี่โครงเดาะลงไปตั้งแต่นาทีแรกแล้ว     
จึงรู้ว่าคาวบอยพวกนี้กว่าจะได้เข้าแข่ง  เขาต้องได้เรียนได้ฝึกกันในโรงเรียนที่เปิดวิชาให้ลงทะเบียนเรียนการแข่งโรดีโอโดยเฉพาะ  เรียนจบแล้วได้ A.A. (อนุปริญญา)   ไม่ใช่เดินดื้อๆเข้ามาขอแข่งขัน   ไม่งั้นผลีผลามเข้าไปแข่งอาจจะหัวน็อคพื้น  ถูกม้าเหยียบตายคานัดแรกได้ง่ายๆ

แต่ละคนลอยอยู่บนหลังม้าทั้งนั้น กระแทกกระเทือนแค่ไหนไม่ต้องพูดถึง

         http://www.youtube.com/watch?v=8ePPK5ppDfo&feature=related

         อันตราย และน่ากลัวมาก ครับ โดยเฉพาะหากโดน 'ม้าดีดกระโหลก' โดยที่ไม่ได้
สวมหมวกนิรภัย

           ถ้าต้องการจะสนุกอย่างปลอดภัยต้องใช้เครื่อง Rodeo Simulator ครับ

เห็นแล้วหวาดเสียว ดั่งไส้พุงจะลงมากองรวมกัน  :)

ขออนุญาตเสริมครับในกรณีของวัว ว่าถ้าเป็นการขี่วัวพยศ ปัจจุบันมักจะใส่หมวกกันน็อคด้วยครับ เพราะอย่างที่บอกว่า อันตรายกว่าม้ามาก กติกาก็ง่ายๆ ครับนั่นคือประคองตัวเองให้อยู่บนตัววัวให้ได้ในเวลา ๘ วินาที โดยใช้มือจับเพียงมือเดียว (เป็นเหตุให้อีกมือต้องโบกโชว์ เพราะถ้ามือนั้นไปโดนตัววัว ถือว่าฟาล์วทันที) ถือว่าผ่าน โดยคะแนนจะขึ้นอยู่กับอันดับความพยศของวัวด้วย มีการแข่งขันแบบเก็บคะแนนประจำปีเลยนะครับ ส่วนวัวที่เป็นตำนาน (พยศที่สุดเท่าที่เคยมีมา) ชื่อว่า Little Yellow Jacket ครับ

นี่คือลิงค์ของสมาคมขี่วัวครับ

http://www.pbr.com/

 ;D

ขอแหกโค้งออกไปหน่อยครับ

เห็นคำว่า โคบาล ทำให้นึกถึงชื่อ โคบัง สะกดเป็นภาษาอังกฤษว่า Koban

เป็นป้อมยามตำรวจประจำชุมชนต่างๆในญี่ปุ่น การปฏิบัติงานมีลักษณะเป็นเหมือนเพื่อนที่จะคอยให้ความช่วยเหลือในยามมีปัญหา

ว่าแต่ว่า คำว่า โคบาล นี้ มาแต่หนใด ??? ครับ

ก่อนผู้เชี่ยวชาญจะมาตอบ ขอตอบแบบงูๆ ปลาๆ ก่อนนะครับ


เคยอ่านจากเว็บ thaicow.org (ปิดไปแล้ว) เขาว่าโคบาลมาจากภาษาอินเดีย ที่แปลว่าเด็กเลี้ยงวัวครับ ;D

โคบาล เป็นคำที่ยืมมาจากภาษาบาลีและสันสกฤตว่า โคปาล "ผู้ดูแลวัว, คนเลี้ยงวัว" ซึ่งมาจากคำว่า โค "วัว" และ ปาล "ผู้ปกป้อง, ผู้ดูแล" ประสมกัน

ภาษาไทยใช้คำว่า โคบาล มานานแล้ว ดังปรากฏในมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์กุมาร  ว่า

"มาตรว่าถ้าบิดานี้มีเงินและทองเล่าเถิดรา พ่อมิให้สองกำพร้าต้องระเหินระหกตกไปไกลเลยนะลูกเอ่ย ครั้งนี้พระบิดามาไร้สิ้นไร้เสียที่สุด เห็นแต่หน้าพระปิยบุตรเจ้าทั้งสอง ก็ดูยิ่งกว่าเงินและทองได้ร้อยเท่าพันทวี พระบรมราชฤๅษีเธอจึ่งคาดค่าสองกุมาร เหมือนนายโคบาลอันสันทัดคาดค่าโค"

แต่ในภาษาไทยนิยมใช้คำว่า โคบาล เป็นคำแปลของคำว่า Cowboy ในภาษาอังกฤษเนื่องจากมีเสียงและความหมายใกล้เคียงกัน ในภาษาอังกฤษเมื่อใช้ว่า Cowboy มิได้หมายถึง "ผู้เลี้ยงวัวโดยทั่ว ๆ ไป" แต่มีนัยแฝงถึง "ผู้ชายที่อาศัยอยู่แถบตะวันตกของอเมริกาในยุคที่การปักปันเขตแดนยังไม่มีกฎหมายรับรองแน่นอน ต้องพกปืนสั้นไว้ป้องกันตัว มีอาชีพเลี้ยงสัตว์ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่บนหลังม้า นิยมนุ่งกางเกงยีนส์ สวมหมวกมีปีก"

เมื่อคำว่า โคบาล ถูกนำไปเชื่อมโยงกับคำว่า Cowboy ในภาษาอังกฤษ คำว่า โคบาล ที่ใช้ในภาษาไทย แทนที่จะมีความหมายแฝงโยงไปถึงวัฒนธรรมอินเดีย กลับมีความหมายแฝงเหมือนกับ Cowboy ไป

จากบทความเรื่อง "คำไทย-คำเทศ" โดยคุณอนันต์ เหล่าเลิศวรกุล วารสารภาษาและวรรณคดีไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๓

 ;D

^
กระจ่าง  ขอบคุณมากๆครับ  ;D

เคยได้ทราบว่า ม้าที่ใช้ขี่แข่งขันในโรดิโอนั้น โดยพื้นนิสัยปรกติของตัวมันแล้ว ไม่ไช่จะพยศมากมายอะไรปานนั้น

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า เขาเอาเข็มขัดที่มีอะไรเป็นหนามแหลมๆรัดตัวม้า ทำให้มันระคายเคืองพอๆกับรำคาญคนที่มาขี่บนหลัง จึงพยายามจะสลัดให้หลุดพ้นไป

จริงเท็จอย่างไรพอจะทราบใหมครับ 

ถ้าตามกฎแล้ว ตรงเข็มขัด (เรียกว่า flank strap) จะไม่มีอะไรแหลมๆ มารัดครับ เพราะธรรมชาติของม้าถ้าเจ็บจะไม่กระโดดเตะ แต่จะวิ่งหนีอย่างเดียว และถ้าทำให้เจ็บอาจโดนข้อหาทารุณสัตว์ซึ่งก็โดนเพ่งเล็งอยู่แล้วในกีฬาประเภทนี้ ผ้าที่ใช้รัดกลับต้องหุ้มด้วยหนังแกะเพื่อให้นุ่มด้วยซ้ำ


แต่เหตุที่ว่าทำไมม้าหรือวัวถึงกระโดดเตะมากมายเหลือเกินเวลาใส่เข็มขัดนี้เข้าไปทั้งที่เวลาอยู่เฉยๆ ก็ไม่ดีดดิ้นขนาดนั้น เพราะว่าเข็มขัดดังกล่าวจะรัดอยู่ตรงเอวของม้าหรือวัว ซึ่งถือว่าเป็นจุด "จักกะจี้" และ"รำคาญ" ที่สุดครับ ทำให้ต้องพยายามดีดออกไปจากตัวให้ได้ (คงเหมือนคนเราเวลาโดนจักกะจี้ที่เอวกระมังครับ)
 :D

คนไทยเจ๋งกว่า   ;)

แข่งวิ่งควายครับ  ;D

ไม่มีอะไรเลยนอกจากเชือกที่ใช้เป็นเสมือนแส้เส้นเดียว

ดิฉันก็คิดตรงกับคุณ nol ว่ากีฬาขี่วัวพยศเป็นเรื่องอันตรายกว่าม้าพยศเสียอีก   เพราะวัวมันดุกว่ามาก    หลายครั้งในการแข่ง พอสลัดคาวบอยลงจากหลังได้      มันยังไม่ตามไปเหยียบและขวิดไม่ลดละ  คาวบอยต้องโกยอ้าวเผ่นขึ้นรั้วหลบไม่คิดชีวิต  เห็นแล้วรู้สึกว่าผู้เข้าแข่งขันควรจะสวมเกราะเหล็กทั้งตัวเลยเสียด้วยซ้ำ 
แต่ก็แปลก
ขอยืนยันว่าผู้เข้าแข่งไม่สวมหมวกกันน็อคค่ะ   หัวเปล่าๆ  มีหมวกคาวบอยสวมอยู่ใบเดียว  พอกระแทกเข้าหมวกหลุด ก็เหลือแต่หัว ที่พร้อมจะโหม่งพื้นดินได้ตลอดเวลา    ไม่รู้ว่าทำไมเขาไม่กลัวกัน   ดิฉันละงงจริงๆ
ดูในรูปนะคะ

รูปนี้ วัวสะบัดคาวบอยตกลงมานอนแอ้งแม้งอยู่ระหว่างกีบวัว   ถ้าเหยียบตรงๆซี่โครงอาจจะกลับบ้านเก่าทั้งแถบ   แต่พ่อเจ้าประคุณก็หนังเหนียว หลบรอดมาจนได้

นี่คือท่าคาวบอยกระเด็นตกจากหลังวัว   ไม่มีหมอนรองก้น  ไม่มีเกราะ ไม่มีหมวกกันน็อค
ไม่รู้ว่าแกอยู่ยกคงกระพันจากหลวงพ่อรุ่นไหน   หล่นลงมาแล้วก็วิ่งอ้าวหนีวัวไปได้ต่อ  เหมือนหล่นจากชิงช้างั้นแหละ

กีฬาอีกอย่างหนึ่งในโรดีโอ คือมัดวัว   วัวรุ่นๆตัวยังไม่โตเต็มที่ถูกปล่อยวิ่งจากคอก  จากนั้นคาวบอยที่เข้าแข่งก็ควบม้าตรงเข้าไป 2 คนด้วยกัน คนหนึ่งขว้างบ่วงคล้องคอวัว อีกคนขว้างบ่วงรวบขาหลังดึงให้ล้มลง แล้วโดดลงไปมัดขาวัวไว้ให้แน่นภายในเวลาเร็วที่สุด  จนวัวนอนแอ้งแม้งอยู่กลางสนาม เป็นอันว่าจบ
งานนี้มีสิทธิ์พลาดได้ทุกขณะค่ะ ตั้งแต่ขว้างบ่วงไม่สำเร็จ วัวหนีทัน  หรือไม่คล้องขาหลังทั้งสองขา  วัววิ่งโขยกเขยกต่อไปได้ก็เป็นอันว่าฟาวล์

.

.

ไม่เคยดูวิ่งควายค่ะ   ถ้าคุณตั้งเคยดูกรุณาเล่าสู่กันฟังบ้าง

ท่านเทาชมพูลองสังเกตดูดีๆ สิครับ ที่คาวบอยใส่อยู่บนศีรษะในรูปนั่นแหละครับ หมวกกันน็อค :D แต่เป็นแบบที่ไม่ใช่หมวกกันน็อคแบบขับมอเตอร์ไซค์ แต่จะออกไปทางหมวกแบบเล่นฮอกกี้มากกว่า นี่คือรูปประกอบครับ :)
http://www.rodeomart.com/Bauer-7500-ProtectiveHelmet-w-Cage-p/protective-7500-helmet-wcage.htm


ส่วนเกราะป้องกัน เขาก็ใส่นะครับ แต่ไม่ใช่แบบแข็งๆ แต่เป็นเหมือนเกราะอ่อน แต่ก็ป้องกันไม่ได้มากหรอกครับ ตามรูปประกอบเลยครับ
http://www.rodeomart.com/2020-Phoenix-Pro-Max-Rodeo-Vest-p/2020-phoenix-pro-rodeo-vest.htm


สำหรับเกราะอ่อนนี่เห็นมานานแล้วครับ แต่หมวกกันน็อคนี่ จำได้ว่าเคยนั่งดูตอนเด็กๆ น่าจะเกือบ ๒๐ ปีที่แล้ว ยังไม่ค่อยมีใครใส่เลยครับ หมวกคาวบอยล้วนๆ มีบ้างประปรายคือพวกที่เพิ่งลงสนามมืออาชีพเป็นครั้งแรก แต่ปัจจุบันนี่ใส่กันแทบจะทุกคน น่าจะเพราะป้องกันการเกิดสมองกระทบกระเทือนกระมังครับ

 :D

ใส่หมวกกันน็อกและเกราะอ่อนเต็มอัตรา

 ;D

ส่วนวิ่งควายที่ชลบุรี

ไม่มีหมวกกันน็อกและเกราะอ่อนให้เห็น

 ;D

ถ้างั้นโรดีโอที่ดิฉันไปดู   คงได้รับการยกเว้นไม่ต้องสวมหมวกกันน็อค หรือว่าเรื่องนี้แล้วแต่สมัครใจ  จะสวมก็ได้ไม่สวมก็ได้
ดูอย่างในรูปนี้ คือแข่งกีฬาจับวัวมัดขา   คาวบอยผิวสีที่โดดจากหลังม้าเข้ากอดคอวัว กดให้ล้มลง   หมวกคาวบอยหลุดกระเด็นออกไป เหลือแต่หัวโล้นเหม่ง ค่ะ   
จำได้แม่นเพราะเขาเป็นคาวบอยผิวดำคนเดียวในสนาม

ไม่มีหมวกกันน็อค เสี่ยงกับหัวฟาดพื้นตายได้มากทีเดียว

หาคำตอบมาได้แล้ว  จากการซูมเข้าไปดูในแต่ละรูป
พบว่าการแสดงในแต่ละชุด มีทั้งสวมหมวกและไม่ได้สวมหมวก    มิน่าเล่าพออ่านของคุณ nol  ถึงงง
คาวบอยขี่วัวพยศ สวมหมวกกันน็อคและเกราะอ่อนค่ะ

ในโรดีโอ มีการแสดงอีกชุดที่เรียกเสียงปรบมือและเฮฮากันได้ทั่วสนาม   คือแข่งขันขี่แกะ sheep riding
กติกาก็ไม่มีอะไรมาก  ควบติดหลังแกะไปให้นานที่สุด ก่อนจะหล่นลงมา
ที่พิเศษคือนักแข่งทั้งหลายล้วนเป็นพ่อหนูแม่หนูตัวจิ๋วๆ อายุ 6 ขวบ  เดินเรียงแถวมาโชว์ตัวเรียกเสียงปรบมือเกรียวกราว    ค่อยยังชั่วหน่อยที่ทุกคนสวมหมวกกันน็อคแบบวินมอเตอร์ไซค์ มิดชิดรัดกุมและมีเสื้อเกราะอ่อนตัวเล็กๆสวมทับด้วย

เริ่มแข่งขัน จะมีคาวบอยผู้ใหญ่สองคนคอยประกบ ปล่อยแกะออกมา  แล้วดึงแกะไว้ให้นิ่งก่อนจะส่งนักแข่งรุ่นจิ๋วขึ้นหลังแกะ  ขยับแล้วขยับอีกให้ทะมัดทะแมงที่สุด  ก่อนจะปล่อยแกะออกวิ่ง
แกะมันวิ่งเฉยๆ ไม่ได้พยศดีดหน้าดีดหลังอย่างม้าหรือวัว    แต่เมื่อควบติดหลังไปสักพัก  หนูน้อยก็จะลื่นหลุดลงมาเอง
 
มีคนหรือสองคนที่มือเหนียว ควบติดหลังแกะไปจนสุดขอบสนาม  เรียกเสียงเชียร์กันสนั่น
แต่ส่วนใหญ่ ทรงตัวไม่อยู่ ลื่นหลุดตกหลังแกะลงมาคลุกฝุ่น ร้องไห้จ้าก็มี   ร้อนถึงแม่ต้องวิ่งไปอุ้มเข้ากะเอว กลับมายืนที่ขอบสนาม

ภาพถ่ายไม่ค่อยชัดค่ะ เลยต้องไปเอาภาพในอินทรเนตรมาให้ดูแทน

ขอกลับมาพูดถึงวัวที่ใช้ในโรดีโอ อีกทีนะคะ
ตอนที่เดินขึ้นไปบนอัฒจันทร์    ในสนามเขาต้อนวัวฝูงใหญ่มาโชว์    คือเข้าใจว่าเอามาโชว์เฉยๆเพราะไม่เห็นมันมาทำอะไรอีกหลังจากนั้น
เป็นวัวเขายาวโง้งราวกับเขาควาย   เห็นแล้วน่าหวาดเสียวว่าถ้าหลุดเข้าไปอยู่กลางฝูง ถูกเขาสะกิดเอา   ลำไส้เราอาจจะถูกแยกออกจากตัวได้ง่ายๆ
วัวพวกนี้มีชื่อว่า Texas longhorns   แต่เป็นวัวอะไร วัวเนื้อ วัวนม หรือใช้สอยอะไรนั้น ไม่รู้     คนรู้น่าจะเป็นคุณเพ็ญชมพู หรือไม่ก็คุณ DD

ส่วนวัวที่ใช้แข่งขัน  เขาสั้นขนาดนี้
อินทรเนตรบอกว่าเป็น longhorn เหมือนกัน

วัวพยศในโรดีโอ แต่ละตัว สังเกตว่าปลายเขาของมันเหมือนถูกตัดหรือเลื่อยออก  กลายเป็นเขาทู่ๆ บางตัวก็ตัดเหลี่ยมไปเลย     เข้าใจว่าถ้าปล่อยให้เขาแหลมเปี๊ยบตามธรรมชาติของมัน   คาวบอยที่ขี่หลังมันอาจจะตายเร็วเข้า

ตัวที่อยู่ในรูปนี้เป็นวัวดุ และบ้าเลือดที่สุดในสนาม วันนั้น   นอกจากพยศหกหน้าหกหลัง เหวี่ยงคาวบอยกระเด็นลงมาอย่างในรูปแล้ว   มันยังโมโหโทโสวิ่งไล่ขวิดคาวบอยไม่ยอมหยุด  
ในโรดีโอ  วัววิ่งไล่ขวิดคนเป็นเรื่องธรรมดา   ดูเหมือนเขาจะเตรียมกันพร้อม คือพอวัวไล่กวดคาวบอยนักแข่งขัน ที่วิ่งอ้าวหนีไปที่ขอบสนาม   ก็จะมีตัวบอดี้การ์ดที่เดินเตร่ๆอยู่ในสนามวิ่งเข้ามาแซงทันที   เพื่อเรียกความสนใจไปจากวัว   ให้วัวเบนไปจากคนเดิม ไล่กวดคนใหม่
พวกนี้คงจะมีวิธีวิ่งหนีที่ฝึกเอาไว้ชำนาญแล้ว   พอวัวผละจากคาวบอยมาทางเขา  เขาก็วิ่งโกยอ้าวไปอีกทาง เผ่นขึ้นรั้วหลบไปทัน

แต่ในเมื่อโรดีโอเป็นกีฬาอันตรายมาก    อุบัติเหตุจึงเกิดได้บ่อยๆ   วันนั้นก็เห็นกับตาว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นต่อหน้าต่อตา

การ์ดคนที่วิ่งมาล่อวัวให้เบนไปจากคาวบอยคนแรก   อายุมากแล้ว   คงจะวิ่งไม่เร็วเท่าตอนหนุ่มๆ   แกวิ่งอ้าวตรงไปที่รั้วสีฟ้าในภาพ  โหนตัวขึ้นไปให้พ้นวัว  แต่เจ้าวัวแทนที่จะวิ่งเลยไปอย่างวัวตัวอื่นๆ   มันกลับพุ่งเข้าชนทั้งรั้วทั้งคน
แกก็หงายหลัง  หกคะเมนตกลงไปหลังรั้ว   แล้วเลยลงไปกองอยู่บนพื้น
คนอื่นๆวิ่งเข้ามามุง   แต่ไม่มีใครเข้าไปพยุงให้ลุก เข้าใจว่าเจ้าตัวคงร้องบอกว่าบาดเจ็บ  ถ้าเป็นแบบนี้  แพทย์ห้ามยกตัวให้เคลื่อนไหว  เพราะทำแบบนั้นกระดูกอาจจะเคลื่อน กลายเป็นอัมพาตไปได้

ตอนเลิกแข่งขันเดินออกมาข้างนอก  เห็นรถพยาบาลมาจอดรออยู่ เปิดไฟวาบๆ  คงจะพาการ์ดบาดเจ็บนี้ไปส่งโรงพยาบาล
หวังว่าคงไม่เป็นอะไรมาก  ใจคอไม่ดีแทนแกเหมือนกันค่ะ

จบโรดีโอแล้ว  คนดูก็ลงจากอัฒจันทร์มาเที่ยวสวนสนุกกัน     สวนสนุกที่ว่านี้ก็คล้ายๆงานวัดของเรา หรือพูดอีกทีคือเราไปได้แบบอย่างมาจากเขา  มีเครื่องเล่นหลายชนิด    นอกจากนี้ก็มีอาหารและเครื่องดื่มขายอีกด้วย
จึงขอนำชมกันสักครั้ง    ขอออกตัวก่อนว่าคนไทยคงไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะมันก็คล้ายๆสวนสนุกของเราน่ะแหละค่ะ

ในงานนี้มีคาวบอยและคาวเกิร์ลมาเดินชมงานกันขวักไขว่    เลยถ่ายรูปมาให้ดูว่าโคบาลฝรั่งจริงๆแล้วเขาแต่งตัวกันยังไง   ส่วนใหญ่ก็แต่งกันเรียบๆ ไม่ได้หวือหวาอย่างพวกขึ้นเวทีโชว์    สัญลักษณ์ของเขาคือกางเกงยีนส์และหมวกปีกกว้าง     
กางเกงยีนส์เป็นประดิษฐ์กรรมของอเมริกาโดยเฉพาะ   ประเทศอื่นไม่มี    เดิมผลิตขึ้นมาสำหรับชาวบ้านอพยพมาทางตะวันตกที่ต้องทำงานสมบุกสมบันกลางแจ้ง   ต้องใช้ผ้าหนาคงทนและไม่ขาดง่าย อย่างผ้าเดนิม  เย็บเดินตะเข็บแน่นหนาแถมตอกหมุดด้วย  จึงกลายเป็นกางเกงยีนส์ที่เดี๋ยวนี้วัยรุ่นถือเป็นของเท่

ชาวบ้านทางรัฐตะวันตกนุ่งยีนส์กันเป็นเสื้อผ้าประจำวัน เหมือนสมัยก่อนคนไทยนุ่งกางเกงขาก๊วยและผ้าถุง     นุ่งกันทุกวัยตั้งแต่วัยตั้งไข่หมาดๆ ไปจนอายุเก้าสิบก็นุ่งได้ไม่มีใครว่า
คาวบอยที่นี่มักจะมีฐานะดี  เป็นเจ้าของฟาร์ม   อาชีพชาวไร่ชาวนาเป็นอาชีพรวย ไม่จนเหมือนบ้านเรา  กางเกงยีนส์ที่พวกนี้นุ่งมาดูโรดีโอก็เลยไม่ใช่ยีนส์กระจอก แต่ราคาแพงเช่นเดียวกับหมวกซึ่งเป็นหนังกลับอย่างดี   ใบนึงเป็นร้อยเหรียญทีเดียว

ส่วนประกอบสำคัญอีกอย่างของคาวบอยคือรองเท้าบู๊ต     ถ้าแต่งคาวบอยแล้วไปสวมรองเท้าคัทชูเข้าก็หมดท่าเท่านั้นเอง    คาวบอยต้องมีหมวกและรองเท้าบู๊ตเป็นองค์ประกอบสำคัญ   ต่อให้แต่งตัวแบบอื่นที่ไม่ใช่คาวบอย  สองอย่างที่ว่านี้ก็ต้องนำมาประกอบให้ได้กลิ่นอายของโคบาล

สาวๆกลุ่มนี้แต่งตัวรับฤดูร้อน   แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะสวมหมวกโคบาลและรองเท้าบู๊ต  ไม่ให้เสียยี่ห้อ

สวมบู๊ตอย่างเดียวกับเสื้อกระโปรงสั้นๆรับลมร้อนก็มี

เครื่องเล่นของเขาก็คล้ายๆของที่เห็นในบ้านเรา

สัตว์ประหลาด...

แถมยังมีสินค้ามาขายเหมือนงานวัดของเรา

อีกมุมหนึ่ง

 :D

จบแล้วค่ะ