เรือนไทย

 ช่วงนี้อ่านเจอข่าวสำนวนหัวงูในหนังสือพิมพ์ ที่จริงๆเคยได้ยินคำนี้บ่อยๆๆแต่ไม่ทราบที่มาของสำนวนนี้  อยากทราบความเห็นของทุกท่านที่ผ่านมาทุกคนค่ะว่าทำไมต้องเรียกคนเจ้าชู้ว่าหัวงู
  และฝรั่งมีสำนวนนี้ด้วยหรือเปล่าคะเพราะได้ยินฝรั่งเค้าพูดว่าเพื่อนของเค้าว่า snake head
   ขอเชิญหัวงู  เอ๊ยไม่ใช่ค่ะขออภัย  ทุกๆท่านร่วมแจมได้เลยค่ะ

     ช่างสงสัยได้เข้ากับบรรยากาศจริง ๆ นะจ๊ะน้องลิตเติ้ลจ๋า
พี่ทองรักขอมาคอยฟังคำตอบจากหัวงู เอ๊ย! ขอประทานโทษค่ะ ท่านผู้รู้ทั้งหลายด้วยคนนะคะ

 จ๊าก  แม่ตะวันดวงน้อยเล่นของสูง ขึ้นถึงหัวถึงหู  นับว่ายังกรุณาที่เว้นคำว่าเฒ่าไว้  ไม่งั้นจะไม่คุยด้วยแล้วนา

 แม่ทองรักก็เหมือนกัน  รู้นะว่าคิดอะไรอยู่

ที่เข้ามานี่ใช้สิทธิพาดพิืงเฉยๆ  ส่วนคำตอบต้องให้ผู้รู้จริงอย่างคุณหลวงนิล หรือครูBook มาตอบ

 ผมไม่ชำนาญเรื่องเฒ่าหรือหนุ่มหัวงูนี่เลยครับ คงต้องโยน เอ๊ย เชิญกลับไปให้คุณถาวภักดิ์ตอบแหละเหมาะแล้ว

 น่าจะเป็นเพราะเหมือนมีงูอยู่เหนือหัว เพราะสามารถสอดส่ายสายตามองโน่น มองนี่ไปได้กว้างไกล พูดจาก็เลี้ยวลด มือก็เลี้ยวตาม....อีกอย่างนึงหนูหมุดว่าอาจจะเป็นเพราะเวลามองไปที่งูเนี่ยก็ให้ความรู้สึกถึงการคืบคลานอย่าง...เชื่องช้า แต่ว่องไวอยู่ในที หนูหมุดว่าตรงกับลักษณะของคนเจ้าชู้นะคะ ดูเหมือนเฉยๆแต่พอจะฉกล่ะก็ไวเชียวค่ะ ที่เขียนมานี่ก็ลองเดาเอาดูนะคะ ไม่เคยเจอเหมือนกันค่ะ

 ผักบุ้งว่าคำนี้เป็นคำที่ใช้ล้อเลียนในระหว่างเพื่อนสนิทเท่านั้นจริง ๆ  เท่านั้น  ถ้าคนไม่คุ้นเคยมาเอ่ยถึงเราหรือคิดว่าเราเป็นอย่างนั้น   ผู้ฟังคงจะไม่ชอบใจนักนะคะ
สุภาพบุรุษในเรือนไทยนี้  คงไม่มีใครใกล้เคียงคำนี้ค่ะ  ทุกท่านล้วนแต่เป็นผู้มีความรู้สูง และมีเมตตา  ใครถามอะไรมา ก็กรุณาเข้ามาโพสต์ตอบให้ เท่าที่อ่านกระทู้มาการพูดคุยหยอกล้อก็เป็นไปอย่างฉันท์มิตร มีอัธยาศัยดีงามทุกคนเลย  มีแต่ความสนุกสนาน  ผักบุ้งถึงติดใจต้องเข้ามาคุยด้วยไงคะ

 ต้องเข้ามาอีกครั้งเพราะถูกพาดพิงค่ะ
คุณลุงคุณน้าคุณอา เจ้าประจำในเรือนไทยทั้งหลาย
โดยเฉพาะคุณน้าถาวฯ หรือท่านอื่นที่อาจจะร้อนตัวในภายหลังนะเจ้าคะ  ทองรักไม่ได้มีเจตนาที่จะล่วงเกินผู้อาวุโสทั้งหลายเลยเจ้าค่ะ บรรยากาศที่ว่าน่ะ ทองรักหมายถึงบรรยากาศในหน้าหนังสือพิมพ์ที่น้องลิตเติ้ลเธอกล่าวถึงตะหากล่ะ  
ไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่นเลยจริง จริ๊ง  ถึงแม้ว่าช่วงนี้ตัวเองจะเกิดอาการหูอื้อ ตาลายโดยไม่รู้สาเหตุอยู่บ่อย ๆ พาลทำให้มองเห็นบางสิ่งปรากฎอยู่เหนือเบื้องบนของท่านผู้อาวุโสทั้งหลายก็ตามที
พยายามเขม้นมองหลายครั้งแล้วว่าสิ่งที่เห็นน่ะเป็นอะไรก็ยังไม่ชัดแจ้ง

 เอ... ผมว่าผมเก็บหัวงูของผมซ่อนไว้มิดชิดแล้วนา?? ไหงยังมีคนเห็นได้หว่า?    

       ไม่คุ้นนะคะ..กะการใช้สำนวนนี้
คนใกล้ชิดที่เคยพบเคยเห็นน่ารักกันทั้งนั้นนะคะ
ไม่มีนิสัยแบบนี้
ทุกวันนี้ที่กลัวมากๆก็มีแต่พิษงูเห่าแบบไม่กัด
 

 งานนี้ท่านราชครูวิปลาศคัมภีร์ของกระผมดูจะเป็นนกรู้ อุบเงียบ ทำไม่รู้ไม่ชี้เชียว

อันว่าสำนวนนี้กระผมเองก็จนใจเหมือนกัน หามีความรู้ไม่  ได้แต่สังเกตเอาอาการในหมู่สหาย เมื่อไม่นานมานี้  เย็นย่ำหลังเลิกงานก็ชุมนุมสรวลเสเฮฮา ณ สภากาแฟดังปกติ  ขณะที่กำลังถกเถียงปัญหาปรัชญาและธรรมะกันอยู่นั้น  ก็ให้บังเอิญมีดรุณีแรกรุ่นวัยสะอ่อนนุ่งห่มด้วยอาภรณ์น้อยชิ้นอย่างประหยัดสมยุดสมัย  เสียงถกเถียงอันเซ็งแซ่ก็กับสงบเงียบลงโดยพลัน พร้อมอาการชะเง้อชะแง้ยืดคอ ส่ายหาช่องทัศนาให้ชัดเจนที่สุดกันตามอัธยาศัย  นึกพิจารณาดูก็เห็นว่าคล้ายอาการของงูยกหัวขึ้นส่ายอย่างระแวดระวัง ยามมีเหตุให้ต้องสะดุ้งตกใจ จึงขอเรียนเสนอท่านประธานไว้เป็นความคิดเห็นอีกข้อหนึ่ง

แต่โดยวัฒนธรรมแล้ว  กลุ่มชนทางอุษาคเนย์ดูจะมีคติที่เป็นบวกต่อสัตว์ประเภทนี้  โดยจะให้เกียรติยกย่องเหล่านาคเป็นพิเศษ  บางก็มีตำนานการสร้างเมืองโดยพญานาค เช่น ของเขมร  บางก็นับญาตินับถือเป็นต้นวงศ์กษัตริย์ เช่น เรื่องพระทองกับนางนาค  หรือพระร่วงผู้เป็นโอรสกษัตริย์สุโขทัยกับนางนาค  ไปจนถึงเรื่องราวในพระพุทธศาสนาที่กล่าวถึงความศรัทธาในพระศาสนาของนาคจนแปลงตนเข้ามาบวชแล้วถูกจับได้ จนประนีประนอมถนอมน้ำใจ  ถือเรียกผู้ขอบวชว่านาคจนเป็นประเพณี

จึงสรุปได้ว่า หากชายใดถูกเปรียบเทียบเคียงกับสัตว์ไม่มีเท้าเหล่ากอตระกูลนาคแล้วไซร้ หาควรป้องปัดปฏิเสธไม่  ควรแต่ยืดอกยืดคอ ส่ายหัว กระหวัดลิ้น อย่างสง่าผ่าเผย ยอมรับว่าข้านี้คือเฒ่า่หัวงูตัวจริง เฉกเช่นที่ท่านหลวงนิลได้แสดงตัวอย่างอาจหาญ น่ายกย่อง

 ^.^
อ่านสารคดีของคุณถาวภักดิ์มาจนจบ
ถึงได้รู้ว่า....มาชี้ให้เห็นกันชัดๆ.....นี่เอง
คุณหลวงเปลี่ยนชื่อเป็นนิลนาคาแล้วหรือคะ
   

 จำได้ว่าเวลาไปไหนมาไหน คุณนิลนาคานิยมใส่หมวกแสดงเอกลักษณ์พระเอกประจำตัวอยู่เสมอ  นี่ไปเผลอถอดตอนเข้าวัดมั้งคะ ความลับเลยแตก    

 นิลนาคะ (Black Dragon) นั่น ครูยาขอบตั้งให้เป็นชื่อง้าวของกวนอูในสามก๊กฉบับวณิพกง่ะ ไม่ใช่ชื่อผม.... โธ่....

 ผมว่าข้อสันนิษฐานของคุณถาวภักดิ์ หนุ่มเรือนไทยสัญชาติ - " (หัว) นาคีมีพิษเพี้ยง สุริโย" - ฟังเข้าเค้าครับ

เปลี่ยนประเด็นดีกว่าน่า ... นะๆๆ สาวๆ เอาเรื่องของสัตว์อีกชนิดที่ไม่ใช่งูแล้วกัน

ทำไมเราถึงเรียกผู้หญิงบางคนที่มีพฤติกรรมบางอย่างว่า แรด? หรือที่จริง เวลาเราออกเสียงเราจะออกต่างกับคำว่าแรดที่เป็นชื่อสัตว์ แต่จะออกเป็น - แร่ด - ???
ดูเหมือนผมเคยได้ยินมาว่า คำนี้ตัดสั้นมาจากคำว่า แม่รีแม่แรด ปัญหาก็ตามมาอีกว่า แล้วแม่รีแม่แรดน่ะ มันแปลว่าอะไรล่ะหว่า? ความหมายเดิมอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับชื่อสัตว์ชนิดนั้นที่มีนอเลยก็ได้

มีใครทราบบ้างคับผม

เปล่าหมายถึงใครในเรือนไทยเลยซักคน จริงๆ นะครับ เพียงแต่คิดเรื่อยเปื่อยเทียบกับคำที่เป็นหัวข้อกระทู้เท่านั้นเอง

 ไม่ออกความเห็นละนะคะ
ดูซิว่าคุณนิลนาคะจะรอดจาก แรด หรือ แร่ด ไหม    

 ไอ๊หยา คุณหลวงนิลศิรนาคราชของกระผมไปผิดสำแดงอะไรมา  กะจะเข้ามาหลบขอฝนด้วยซะหน่อย  เมื่อกี้ไปเจอแม่เรณูวสันต์ เธอดูเหมือนจะออกท่ารำเจ้าแม่ทุรคา  งานนี้ระงับการแอนด์โกกันชั่วคราว    ทำใจดีๆไว้นะคุณหลวง   กระผมเผ่นก่อนละขอรับ

 ถ้าพูดคำว่า snakehead ฝรั่งจะงงว่าเราล้อเล่นอะไร ไม่ขำ
เพราะมันเป็นชื่อปลาค่ะ  ถ้าเข้าใจไม่ผิดคือปลาช่อน
ลองดูรูปที่
 http://www.snakeheads.org

 มาแนะนำเวบไซต์บ้างค่ะ
เห็นคุณเทาชมพูพาไปอะควาเรียม  เลยขอเชิญไปชมภาพหายากที่นี่ค่ะ

 http://www.geocities.com/zoophotographer/
 http://www.wildlifesearch.com/rhino.htm
 http://www.thai.net/ek-ee-eak-eak/
 http://www.ku.ac.th/e-magazine/march45/agri/hen.html
   

 เอ..ทำไมเรียกแรดไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่เคยได้ยินมาว่าสมัยก่อนเขาจะว่าผู้หญิงลักษณะนั้นว่า แม่สลิด(ดก)ค่ะ มาจากชื่อต้นไม้ที่มันออกดกดก และเร็ว แต่หนูหมุดก็ไม่เคยเห็นเหมือนกันว่าต้นเป็นอย่างไร เคยเห็นแต่ปลาสลิดค่ะ

 ขอบคุณสำหรับทุกๆความเห็นค่ะ  มีเรื่องเฒ่าหัวงูจะเล่าให้ฟังค่ะเจอบนรถเมล์เมื่อวานก่อนนี้เอง  ไว้เป็นข้อคิดสำหรับสาวๆทุกท่านค่ะ เป็นไปได้อย่าได้ไปนั่งด้านสุดหลังสุดของรถเมล์ และพูดกะคนแปลกหน้าจริงๆแล้วทุกคนรู้กันอยู่แล้ว
     เช้าวันนั้นลิตเติ้ลขึ้นรถเมล์ไปซื้อหนังสือตอนนั้นปวดท้องเห็นที่นั่งด้านหลังว่างเลยไปนั่งด้านหลัง  นั่งข้างชายสูงอายุคนนึงเค้าก็ทำทีว่าเป็นห่วงบอกว่าคุณคงเครียดมากนะ ผ่อนคลายซะบ้าง แล้วเค้าก็แนะนำยาสมุนไพร ลิตเติ้ลเห็นเค้าพูดดีก็เลยหลงกลพูดด้วย  ตลอดเวลาที่คุยเค้าไม่ได้พูดจาลวนลามพอลิตเติ้ลลงต่อรถเมล์เค้าก็ตามลงมา   พอเค้าเห็นลิตเติ้ลเค้าก็ทำเป็นว่าบังเอิญจังที่มาเจอกันอีก แต่ลิตเติ้ลสิใจหายคิดว่าต้องมีอะไรแน่ๆเลยโง่มั้ยคะถ้าไม่คุยกะเค้าแต่แรกคงไม่เป็นแบบนี้  แล้วเค้าก้บอกว่าเป็นห่วงบอกว่าเค้าจะไปพันทิพย์ไปด้วยกันมั้ยและชวนไปเลี้ยงข้าว  ลิตเติ้ลปฏิเสธเค้าก็ขอเบอร์โทรบอกว่าจะได้คุยแลกเปลี่ยนความคิด ลิตเติ้ลไม่ไห้  เค้าเลยถามว่ามีแฟนหรือยังลิตเติ้ลเลยรีบบอกว่ามีแล้วเป็นตำรวจนัดกันไว้ที่ร้านหนังสือ  ชายคนนั้นได้ยินเท่านี้เลยเปลี่ยนใจไม่เอาเบอร์โทรและหน้าซีด บอกว่าจะรีบไปธุระ  พอเค้าไปแล้วลิตเติ้ลโล่งใจมาก  บทเรียนนี้จะจำไปตลอดชีวิตเลย  คนเรานี่มีทุกรูปแบบจริงๆ  ทำไมนะจิตใจคนเราเสื่อมลงทุกวัน
     

 เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยจริงๆค่ะ และมาในหลายรูปแบบจริงๆค่ะ ดีใจกับคุณ little sun ด้วยค่ะ ที่รอดพ้นมาได้ บางครั้งหนูหมุดก้คิดเหมือนกันค่ะ เวลามีคนมาชวนคุย เพราะแวบแรกเราไม่รู้นี่คะว่าคนนี้ดีจริงหรือแกล้งดี เค้าพูดมาเราก็พูดตอบเป็นธรรมดา เป็นหนูหมุดอาจจะแก้มุขไม่ได้ด้วยซ้ำไปค่ะ

 ขวัญเอ๊ยขวัญมานะ LS

ผลการสืบค้นของผมในเรื่องแร่ดๆ นี่ ได้ความตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2493 (ที่ทำงานผมมีเล่มนี้แหละครับเล่มเดียว ใหม่กว่านั้นไม่มี) ว่า"แม่รีแม่แรด ว. ทำเจ้าหน้าเจ้าตา"  แปลว่าเป็นคำวิเศษณ์หรือคำขยาย บ่งกิริยาว่าชอบเจ้ากี้เจ้าการเจ้าหน้าเจ้าตา ออกหน้าทำอะไรต่างๆ พจนานุกรมให้แต่ความหมายไว้ ไม่ได้ระบุว่า ที่มามาจากไหนและเกี่ยวกับแรดหรือเปล่า (พจนานุกรมฉบับเดียวกันเก็บคำว่าแรดไว้ด้วย บอกว่า แรดเป็นคำนาม "แรด น. สัตว์ป่าขนาดใหญ่มีหนังหนาทับกันเป็นชั้นๆ มีนอที่สันจมูกนอหนึ่งหรื่อสองนอ." เท่านั้น ไม่บอกไว้ว่าเป็นความเปรียบบรรยายพฤติกรรมของคนไว้เลย แปลว่าสำนวน แรด นี้เกิดขึ้นมาทีหลัง 2493)

ตกมาถึงสมัยเรานี้ เห็นทีสำนวนว่าแม่รีแม่แรดคงจะตายสนิทไปแล้ว เพราะไม่มีใครพูดให้ได้ยินมานานแล้ว คงเหลือกร่อนสั้นแค่คำว่า- แร่ด ซึ่งความหมายก็เคลื่อนที่ไปแล้ว ความหมายเดิม ถ้าเราถือตามพจนานุกรม ไม่ได้ระบุเพศ คือเป็นการที่คนคนหนึ่ง ชายหรือหญิงก็ได้ ออกหน้าออกตาวุ่นวายไปเท่านั้นในเรื่องไหนก็ได้ (แต่มีคำว่า แม่- อยู่ ซึ่งส่อว่าน่าจะเป็นอาการของหญิงมากกว่า แต่พจนานุกรมก็ไม่ได้บอกชัด) เมื่อตัดสั้นเหลือ แร่ด ที่เราใช้กันนี้ ดูเหมือนจะมีนัยไปทางว่า ออกหน้าออกตาไปในเรื่องเฉพาะเรื่องเดียว คือผู้หญิงใฝ่หาผู้ชายจนออกนอกหน้า

เพื่อให้ยุติธรร มผมก็จะค่อยๆ พลิกหน้ากระดาษพจนานุกรมที่เก่าจนเหลืองกรอบ หาคำว่าหัวงู หรือเฒ่าหัวงูต่อ ผลเป็นอย่างไรจะมารายงานครับ

 รายงานผลครับ

คุณปู่พจนานุกรมของผม เล่ม 2493 ไม่ได้เก็บคำว่า เฒ่าหัวงู หรือหัวงู ไว้ครับ อิอิอิอิ...

ที่จริงได้ข่าวว่า สมัยนี้มีพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน (ฉบับใหม่ ไม่ใช่ฉบับ 2493) ออนไลน์แล้ว แต่ไม่ทราบ www อะไร ใครจะลองไปค้นคำเหล่านี้ออนไลน์ก็เชิญ แล้วมาเล่าให้ผมฟังบ้าง

 กำลังสงสัยเพิ่มอีกคำหนึ่งค่ะ คือว่าทำไมถึงเปรียบเทียบสาว ๆ ที่แต่งตัววับ ๆ แวม ๆ ว่า "แต่งตัวล่อเสือล่อตะเข้" คะ อันนี้ทองรักสงสัยมานานแล้วค่ะ แต่หาที่มาไม่พบซักที ถ้าท่านผู้รู้ท่านใดจะกรุณาชี้แจงให้หายสงสัย จะขอบพระคุณมากเลยค่ะ

 มิกล้าไปค้นค่ะ...เกรงข้อครหาตามความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2493 ข้างบนนั่น  
แต่ด้วยวันก่อนฟังธรรมะ... ข้อเมตตาค้ำจุนโลก
ขอมาแค่แนะนำเวบอีกครั้ง
คงไม่เกินงาม หรือทำอะไรเจ้ากี้เจ้าการเกินไปนะคะ

 http://www.royin.go.th/
 http://rirs1.royin.go.th/rid2525/ri2525.php

ปล. คุณเปี้ยวคะ  ขออนุญาตสงบเสงี่ยม..อ่านแบบเงียบๆตามเดิมนะคะ

 ดอกสลิดของหนูหมุดคือดอกขจรครับ ปลาสลิด เคยมีการคิดคำเรียกว่าปลาใบไม้ แต่เลิกใช้ไปแล้วมั้ง

อาศัยเว็บราชบัณฑิตยสถานที่คุณฝอยฝนอุตส่าห์ค้นให้มา ซึ่งเป็นพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถานฉบับ พ.ศ. 2525 ออนไลน์ มีแล้วครับ "เฒ่าหัวงู น. คนแก่หรือคนมีอายุมากที่มีเล่ห์เหลี่ยมหรือกลอุบายหลอกเด็กผู้หญิงในทางกามารมณ์, คนแก่เจ้าเล่ห์" เป็นคำที่ปรับปรุงเพิ่มเข้ามาในพจนานุกรมตั้งแต่ พ.ศ. 2498
ไม่บอกที่มาเหมือนกัน

ถ้าเราหัวหมอถือเคร่งตามความหมายที่พจนานุกรมให้ ก็เถียงได้เช่นเดียวกับคำว่าแม่รีแม่แรด ว่าเฒ่าหัวงูจะเป็นยายเฒ่าหัวงูก็ได้ซิ ไม่ได้บอกนี่ว่าเป็นชายเท่านั้น ยายเฒ่าที่ล่อลวงเด็กผู้หญิงไปขาย จะถือว่าเป็นเฒ่าหัวงูรึเปล่า? แต่ตามความหมายที่ใช้กันดูเหมือนจะต้องเป็นตาเฒ่า เป็นชาย เท่านั้น คือมีเล่ห์เหลี่ยมล่อลวงเด็กสาวไปเพื่อหวังประโยชน์ทางกามารมณ์ให้ตนเอง ที่เอาไปขายต่อไม่น่าจะนับด้วย

ยกมือสงสัย ขอถามราชบัณฑิตว่า คนแก่ต่างจากคนมีอายุมากยังไงครับ?

 ขอบคุณค่ะ ที่คุณนิลกังขาได้ช่วยชี้แนะ แหมพอรู้อย่างนี้แล้วก็อ๋อเลยค่ะ อย่างนี้ต้องขอตืนคำว่าไม่เคยเห็นต้นแล้วค่ะ เพราะมีปลูกอยู่ที่บ้านเองค่ะ (อายจัง)
ส่วนคำว่าปลาใบไม้นั้น ตอนหนูหมุดเรียนเรื่องคำสุภาพก็ยังบอกให้เรียกว่าปลาใบไม้จะสุภาพกว่า แต่นั่นแหละค่ะ ไม่ค่อยมีใครใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว สันนิษฐานว่ามาจากเรารู้สึกว่าคำว่าสลิดก็ไม่เห็นจะไม่สุภาพมังคะ อันเป็นผลต่อเนื่องมาจากเรามีคำฮิตคำใหม่คือคำว่าแรดน่ะเอง    

ที่เค้าว่าแรดนั้น บางทีก็ใช้ในความหมายว่าหน้าหนา ไม่มียาง เหมือนกันนะคะ (ไม่มีอ้างอิงนะคะ สังเกตเอาจากทั่วๆไปค่ะ)

 ขอบบคุณ คุณนกขมากค่ะที่ช่วยเรียกขวัญให้

 มีของแถมค่ะ บทละครเรื่องขุนช้างขุนแผน ของ กรมพระราชวังบวรฯ มีกลอนวันทองว่า ขุนช้างว่า..
" ทุดไม่น่าเลยอะไรกะนี้เล่า  ตะกรามตะกรี้เช่นนี้เด็กขี้เมา
   ฉิอ้ายเฒ่าหัวงูดูดู๋เป็น..............."
   

 คำว่า"สลิด(ดก)" ก็ยังใช้อยู่นะคะในภาษาท้องถิ่นภาคเหนือน่ะค่ะ เพื่อนบอกว่า เป็นคำว่าที่ เจ็บและแรง มากๆค่ะ