ศรีสรรเพชญ์
|
ตามความเข้าใจของผม ตำแหน่งจางวาง จะหมายถึงตำแหน่ง 'หัวหน้า'
ดังที่ปรากฏใช้กับมหาดเล็กอย่าง 'จางวางมหาดเล็ก' ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สูงกว่า 'เจ้าหมื่น' ๔ ตำแหน่ง เช่น พระยาราชมนตรี (ปิ่น) หรือพระยาธิเบศร์บดี ที่เป็นจางวางมหาดเล็กในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ และยังปรากฏมาถึงสมัยรัตนโกสินทร์อีกหลายตำแหน่งอย่าง พระยาศรีสุริยวงศ์ พระยามนตรีสุริยวงศ์ ฯลฯ
หรือไม่ก็หัวหน้ามหาดเล็กหรือข้าในพระองค์ในวังทั่วไป ซึ่งจะไม่มีบรรดาศักดิ์ มักพบในผู้ที่เล่นดนตรีไทยในวังหลวง อย่าง 'จางวางศร' ที่เป็นจางวางมหาดเล็กห้องบรรทมของสมเด็จวังบูรพาฯ หรือ 'จางวางทั่ว พาทยโกศล'ซึ่งเป็นจางวางของเจ้าฟ้ากรมหลวงศรีรัตนโกสินทร
นอกจากนี้จางวางยังได้ใช้ในความหมายเทียบกับ 'เจ้ากรม' ด้วย อย่างในพระไอยการนาพลเรือนและนาทหารหัวเมือง ที่ระบุตำแหน่ง 'จางวาง' ไว้หลายตำแหน่ง เช่น
พระเพทราชาธิบดีศรีสุริยาภิชาติสุริวงษ องคสมุหะพระคชบาล จางวางขวา พระสุรินทราชานราธิบดีศรีสริยศักดิ องคสมุหะพระคชบาล จางวางซ้าย
พญาอะไภยรณฤทธ จางวางกรมพระตำรวจซ้าย พระอนุชิดทะราชา จางวางกรมพระตำรวจขวา
ซึ่งในกรมพระคชบาลเป็นกรมใหญ่ มีกรมย่อยลงไปอีกจำนวนมาก ซึ่งเข้าใจว่าตำแหน่ง 'จางวาง' น่าจะเป็นตำแหน่ง 'หัวหน้า' ที่คุมกรมย่อยไปทั้งหมด
แต่พอมาดูหลักฐานอื่นประกอบ เหมือนกับว่าในบางครั้งตำแหน่ง 'จางวาง' กลับเป็นเหมือนตำแหน่งที่ไม่ได้มีอำนาจในการบริหารจริงๆ และดูไม่เหมือนตำแหน่ง 'เจ้ากรม' เท่าไหร่ แต่กลับไปคล้ายกับผู้ช่วยราชการมากกว่า
มีตัวอย่างคือในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ช่วงสงครามเก้าทัพ เจ้าพระยาธรรมาธิกรณ์ (บุญรอด) กระทำการย่อหย่อนในราชการสงคราม จึงถูกกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทกริ้วจะประหารชีวิต แต่รัชกาลที่ ๑ ทรงขอไว้ เลยโดนลงอาญาแล้วถอดจากฐานาศักดิ์ แต่ต่อมารัชกาลที่ ๑ ทรงเห็นว่าเป็นข้าราชการเก่ามีความรู้ขนบธรรมเนียมอยู่มาก จึงโปรดให้ตั้งเป็นพระยาศรีธรรมาธิราช จางวางกรมวังแทน แล้วให้พระยาพิพัทธโกษาเลื่อนเป็นเจ้าพระยาธรรมาธิกรณ์ เสนาบดีกรมวังแทนที่
อีกตัวอย่างคือในสมัยรัชกาลที่ ๓ เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย) ถึงแก่อสัญกรรม โดยเจ้าพระยานครน้อยมีบุตร ๓ คนคือ พระยาพัทลุง (น้อยใหญ่) พระยาเสนหามนตรี (น้อยกลาง) นายฤทธิหลวงเวร (น้อยเอียด) ทรงโปรดให้พระยาเสนหามนตรีเป็นเจ้าพระนครแทน ส่วนพระยาพัทลุงนั้นโปรดให้เป็นจางวาง โดยทรงเห็นว่า
"...พระยาพัทลุงก็เป็นพี่ผู้ใหญ่ จะโปรดให้ว่าที่เจ้าพระยานคร ฯ เล่าก็เป็นคนง่อยเพลีย มีราชการมาจะไปก็ไม่ได้ ให้พระยาเสนหามนตรีนั้นว่าที่เจ้าพระยานครฯ เอาพระยาพัทลุงยกมาว่าที่จางวาง"
จากตัวอย่างที่ยกมา เลยสงสัยว่าในทางปฏิบัติแล้ว 'จางวาง' นั้นมีหน้าที่รับผิดชอบอย่างไรกันแน่ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Naris
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 26 เม.ย. 16, 13:45
|
|
ผมเคยถามปัญหานี้เหมือนกันครับ แต่จำไม่ได้แล้วว่าได้ถามไว้ในกระทู้ใด เรื่องใด คราวนั้น ได้รับคำอธิบายว่า เนื่องจากข้าราชการไทยสมัยโบราณ รับราชการตลอดชีวิต การออกจากราชการ ถ้าไม่เสียชีวิต ก็ต้องได้รับพระบรมราชานุญาตให้ลาออกจากราชการ ฉะนั้น ในบางครั้ง ข้าราชการระดับหัวหน้าหน่วยบางหน่วยงาน อาจจะรับราชการจนแก่เฒ่าก็ได้ เมื่อท่านไม่ได้ทำความผิดอะไร และท่านก็ยังใจสู้ขอรับราชการต่อ จะให้ท่านออกจากราชการก็ใช่ที่ ก็ต้องให้ท่านทำราชการต่อไป
แต่เพื่อให้การบริหารราชการไม่เสียหาย ทางราชการก็จะยกท่านผู้นั้นขึ้นในตำแหน่ง จางวาง เพื่อให้ตำแหน่งเจ้ากรมว่างลง จะได้เลื่อนผู้ที่มีความเหมาะสมแต่ยังหนุ่มกว่าขึ้นทำงานบริหารแทน
เทียบกับปัจจุบันคงเทียบได้กับตำแหน่งที่ปรึกษากระมังครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศรีสรรเพชญ์
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 26 เม.ย. 16, 14:42
|
|
ขอบคุณคุณ Naris ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
V_Mee
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 27 เม.ย. 16, 20:42
|
|
จางวางเป็นตำแหน่่งระดับสูงเหนือเจ้ากรมหรือเจ้าเมือง เป็นข้าราชการผู้ใหญ่ที่ผ่านงานมานานมีความรู้ความเชี่ยวชาญจนถึงเป็นเจ้ากรมหรือเจ้าเมือง เมื่อมีอายุมากขึ้นก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกขึ้นเป็นจางวางดังที่คุณ Naris กล่าวไว้ จึงอาจกล่าวได้ว่า จางวางเป็นตำแหน่งเกียรติยศมีหน้าที่เป็นที่ปรึกษามากกว่าจะเป็นผู้ที่ลงมือปฏิบัติงาน
แต่อีกความหมายคือ จางวางมหาดเล็กของเจ้านาย เป็นตำแหน่งหัวหน้าบังคับบัญชาไพร่พลในสังกัดเจ้านายที่ไม่มีกรม เช่น พระยาบำเรอบริรักษ์ (สาย ณ มหาชัย) เคยเป็นจางวางมหาดเล็กในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อแรกเสด็จกลับจากทรงศึกษา เรียกกันว่าจางวางสาย และพระคทาธรบดีสีหราชบาลเมือง (เทียบบ อัศวรักษ์) เมื่อครั้งรยังไม่มีบรรดาศักดิ์ก็เรียกกันว่า จางวางเทียบ เพราะมีตำแหน่งเป็นจางวางรถม้าหรือหัวหน้าพระราชพาหนะในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ (คือรัชกาลที่ ๖) นอกจากนั้นในกรณีที่เจ้านายทรงกรม มีตำแหน่งเจ้ากรม ปลัดกรม และสมุห์บัญชีแล้ว บางครั้งก็เรียกหัวหน้าที่คุมคนในสังกัดวังนั้นๆ ว่า จางวาง เช่น จางวางศร ศิลปบรรเลง เป็นจางวางดนตรี หรือหัวหน้าวงดนตรีในสมเด็จพระราชปิลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าฯ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช
นอกจากนั้นยังมี จางวางทนายอีกประเภทหนึ่ง เป็นตำแหน่งหัวหน้าผู้คนในสังกัดสมเด็จเจ้าพระยา เทียบได้กับตำแหน่งเจ้ากรมในเจ้านายที่ทรงกรม
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 เม.ย. 16, 18:20 โดย เทาชมพู »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศรีสรรเพชญ์
|
ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อ 27 เม.ย. 16, 21:12
|
|
ขอบคุณครับคุณ V_Mee
แล้วอย่างตำแหน่งที่ในพระไอยการนาพลเรือนนาทหารหัวเมืองบัญญัติมาอยู่แล้วว่าเป็นจางวาง ซึ่งมีหลายกรมมากและดูแล้วน่าจะมีอำนาจเต็ม้ทียบเท่าอย่างเจ้ากรม น่าจะแตกต่างจากจางวางที่เป็นที่ปรึกษาหรือเปล่าครับ
เพราะตำแหน่งจางวางที่เป็นที่ปรึกษานี้ เท่าที่ดูไม่มีในพระอัยการแต่เดิม น่าจะมาบัญญัติสมัยหลัง
อย่างเช่นพระเพทราชา จางวางกรมช้างในสมัยอยุทธยาก็ปรากฏว่ามีอำนาจเต็มโดยตลอด หลักฐานต่างประเทศที่ร่วมสมัยก็ต่างระบุว่าทรงเป็นเจ้ากรมช้าง มีอำนาจจนสามารถชิงราชสมบัติจากสมเด็จพระนารายณ์ได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
V_Mee
|
ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ 28 เม.ย. 16, 07:24
|
|
จางวางที่มีในบทพระไอยการตำแหน่งนาพลเรือนนั้นเป็นข้าราชการผู้ใหญ่ผู้ควบคุมส่วนราชการเหนือเจ้ากรมขึ้นไปอีกชั้นหนึ่งครับ เช่น พระยาอภิชิตชาญยุทธ พระยาอนุชิตชาญชัย เป็นจางวางกรมพระตำรวจขวา ซ้าย สองท่านนี้เปรียบได้กับเป็นตำแหน่งแม่ทัพ เพราะมีอำนาจควบคุม ๘ กรมพระตำรวจ คือ กรมพระตำรวจในขวา ซ้าย กรมพระตำรวจรนอก ขวา ซ้าย กรมพระตำรวจใหญ่ขวา ซ้าย กรมพระตำรวจสนมทหาร ขวา ซ้าย ซึ่งแต่ละกรมต่างก็เป็นกรมใหญ่ มีไพร่พลจำนวนมากครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 เม.ย. 16, 18:19 โดย เทาชมพู »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศรีสรรเพชญ์
|
ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อ 29 เม.ย. 16, 18:07
|
|
ขอบคุณคุณ V_Mee มากครับ เข้าใจชัดเจนแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|