กาพย์เห่เรือ
พระนิพนธ์ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์
เห่ชมเรือ กระบวน โคลง @ ปางเสด็จประเวศด้าว..........ชลาไลย
ทรงรัตนพิมานไชย....................กิ่งแก้ว
พรั่งพร้อมพวกพลไกร.............. แหนแห่
เรือกระบวนต้นแพร้ว................เพลิศพริ้งพายทอง ฯ
ช้าลวะเห่ @ พระเสด็จโดยแดนชล............ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย
กิ่งแก้วแพร้วพรรณราย.............พายอ่อนหยับจับงามงอน
@ นาวาแน่นเป็นขนัด.................ล้วนรูปสัตว์แสนยากร
เรือลิ่วปลิวธงสลอน....................สาครสั่นครั้นครื้นฟอง
@ เรือครุฑยุดนาคหิ้ว.................ลิ่วลอยมาพาผันผยอง
พลพายกรายพายทอง...............ร้องโห่เห่โอ้เห่มา
@ สรมุขมุขสี่ด้าน........................เพียงพิมานผ่านเมฆา
ม่านกรองทองรจนา....................หลังคาแดงแย่งมังกร
@ สมรรถไชยไกรกาบแก้ว.........แสงแวววับจับสาคร
เรียบเรียงเคียงคู่จร.....................ดังร่อนฟ้ามาแดนดิน
@ สุวรรณหงส์ทรงภู่ห้อย............งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์
เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์.............ลินลาศเลือนเตือนตาชม
@ เรือไชยไวว่องวิ่ง......................รวดเร็วจริงยิ่งอย่างลม
เสียงเส้าเร้าระดม.......................ห่มท้ายเยิ่นเดินคู่กัน ฯ
มูละเห่ @ คชสีทีผาดเผ่น.............ดูดังเป็นเห็นขบขัน
ราชสีห์ทียืนยัน.................คั่นสองคู่ดูยิ่งยง
@ เรือม้าหน้ามุ่งน้ำ...........แล่นเฉื่อยฉ่ำลำระหง
เพียงม้าอาชาทรง.............องค์พระพายผายผันผยอง
@ เรือสิงห์วิ่งเผ่นโผน........โจนตามคลื่นฝืนฝาฟอง
ดูยิ่งสิงห์ลำพอง.................เป็นแถวท่องล่องตามกัน
@ นาคาหน้าดังเป็น...........ดูขะเม่นเห็นขบขัน
มังกรถอนพายพัน.............ทันแข่งหน้าวาสุกรี
@ เลียงผาง่าเท้าโผน.........เพียงโจนไปในวารี
นาวาหน้าอินทรีย์...............ที่ปีกเหมือนเลื่อนลอยโพยม
@ ดนตรีมี่อึงอล...................ก้องกาหลพลแห่โหม
โห่ฮึกครึกครื้นโครม............โสมนัสชื่นรื่นเริงพล
@ กรีฑาหมู่นาเวศ..............จากนคเรศโดยสาชล
เหิมหื่นชื่นกระมล................ยลมัจฉาสารพันมี ฯ
...................................................................
เอามาฝากคุณลุงแก่ครับจาก
http://203.154.104.10/service/mod/heritage/nation/boatsong/btsong10.htm
อ่านพบประวัติของพระราชพิธี จากหนังสือ "เรือ วิถีชีวิตริมน้ำภาคกลาง" ของกองวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร เลยย่อมาฝากค่ะ
*******************************************
จุดประสงค์ของพระราชพิธีนี้ คือการเตรียมพร้อมสำหรับการรบ เนื่องจากในสมัยโบราณ การรบในแม่น้ำมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะในสมัยอยุธยา
ฉะนั้นผู้ชายทุกคนต้องได้รับการฝึกให้พร้อมอยู่เสมอทั้งในการรบและความแข็งแกร่งในการเป็นพลพาย จึงต้องมีการซ้อมรบเป็นครั้งคราว
กระทำในเดือน ๑๑ หรือ ๑๒ เพราะเป็นฤดูน้ำหลาก และจะตรงกับเทศกาลทอดผ้าพระกฐิน ดังนั้นกระบวนพยุหยาตราที่พระมหากษัตริย์เสด็จไปถวายผ้าพระกฐินคือขบวนพยุหยาตราที่ซ้อมรบนั่นเอง