กำลังจะประหมัดกับคุณประกอบอยู่ทีเดียว ว่าด้วยเรื่อง "ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะต้องบังคับขับไส..."
ขอเชิญท่านอาจารย์เทาชมพูเบิกโรงเรื่องพม่าดาค้อยท์เลยครับ ผมจะได้ตามด้วยรูปสนับสนุน
อ้าว เวรกรรมแล้วซี
ตั้งใจจะขัดคอคุณประกอบนิดเดียวเท่านั้นเอง ว่าด้วยเรื่องตกเป็นอาณานิคมว่ามันเลวมากกว่าดี เผลอแป๊บเดียว ถูกท่านอาจารย์ใหญ่กว่า ไล่เข้าป่าไปสมทบกับสงครามกองโจรพม่าเฉยเลย
ดังนั้นเราอาจจะต้องเปรียบเทียบพม่าตอนบนที่นายทีบอแกเป็นกษัตริย์อยู่ กับพม่าตอนล่างภายใต้การปกครองอังกฤษว่าประชาชนพม่าแถวไหนมีคุณภาพชีวิตดีกว่ากันด้วย มีอิสระเสรีในการทำมาค้าขายกว่าไหม มีระบบกฏหมายที่เป็นหลักเป็นฐาน มีระบบการคุ้มครองสิทธิพลเมืองที่ดีกว่าเดิมไหม เพราะสำหรับประชาชนทั่วไปแล้วผู้ปกครองเป็นใคร เอกราชเป็นใครในช่วงนั้นคงไม่ใช่สิ่งสำคัญมากกว่าว่าชีวิตของชาวบ้านตอนนั้นอยู่ที่ไหนคุณภาพชีวิตจะดีกว่ากัน ประวัติศาสตร์มักจะพูดถึงการต่อสู้ต่างๆ ของชนชั้นปกครอง แต่ไม่ค่อยบอกว่าวิธีชีวิตของคนภายใต้การปกครองเป็นอย่างไร ต้องถูกเกณฑ์แรงงานอย่างไร การเสียเอกราชจริงๆ แล้วอาจจะเป็นแค่การเปลี่ยนสิทธิในการปกครองจากฝ่ายหนึ่งไปเป็นอีกฝ่ายหนึ่ง แต่ผู้ใต้ปกครองก็เหมือนเดิม เพราะไม่ว่าฝ่ายไหนปกครอง ผู้ใต้ปกครองก็ไม่มีสิทธิมีเสียงอะไรแต่อย่างใดเหมือนเดิม
การเข้ามาของมหาอำนาจตะวันตกไม่ใช่มีแต่เพียงข้อเสียเพียงอย่างเดียวต่อภูมิภาคแถวๆ นี้ ตามที่ประวัติศาสตร์แบบชาตินิยมมักจะให้ภาพไว้ในแนวๆ นั้น เพราะบางชาติก็ปรับตัวได้ดี บางชาติก็ล่มสลายไป แต่การล่มสลายจริงๆ แล้วเป็นการล่มสลายของชนชั้นปกครองหรือผู้มีอำนาจที่มีการเปลี่ยนมือไปมากกว่าจะเป็นการล่มของชาติจริงๆ การเข้ามาของตะวันตกไม่ได้มีแต่การเข้ามาดูดกลืนทรัพยากรจากตะวันออกแบบที่เรามักจะเชื่อกันมาเพราะตำราเราไม่ชี้ข้อดีอื่นๆ บ้าง เช่น การทำให้ระบบการผูกขาดการค้าหายไป ทำให้มีการพัฒนาระบบคมนาคมแบบก้าวกระโดด พัฒนาระบบการศึกษา ทำให้มีการพัฒนาระบบการศาลยุติธรรมแบบมีมาตรฐานที่ไม่ใช่ขึ้นกับผู้ตัดสินเพียวๆ แบบเดิม และอื่นๆ แต่ไอ้ที่ห่วยๆ เข้ามาก็มีเช่นเอาฝิ่นมาบังคับขาย ดังนั้นต้องดูเป็นเรื่องๆ ไป
ตั้งใจจะบอกคุณประกอบว่า ประเทศอาณานิคมทั้งหลายต่างก็ได้ข้อดีจากนายฝรั่งมาบ้าง ไม่ใช่ไม่มีดีซะเลย อย่างหนึ่งคือวัฒนธรรมฝรั่งถูกปลูกฝังลงในอาณานิคมแข็งแรงเอาการ เห็นได้อย่างหนึ่งคือหลักสูตรการเรียนการสอนในประเทศอาณานิคมเหล่านี้แข็งแกร่งกว่าประเทศที่ไม่เคยเป็นอาณานิคม
สมัยอังกฤษครอบครองอินเดีย นักเรียนอินเดียรู้ภาษาอังกฤษแน่นเปรี๊ยะ คนเก่งๆสมองดียิ่งแบกวรรณคดีภาษาและวิทยาการอินเดียลงในหัวไว้เพียบ ข้อนี้ประยุกต์กับมาเลย์เซียได้เช่นกัน วิชาการที่อังกฤษวางหลักสูตรไว้ให้ทำให้เขาพัฒนาไปได้โลด
แม้แต่พม่าเอง คนพม่าเก่งภาษาอังกฤษ ไม่เฉพาะชนชั้นหัวกะทิ แต่สืบทอดมาถึงชาวบ้านร้านถิ่น สาวลูกจ้างพม่าที่มาทำงานบ้านเพื่อนดิฉัน สื่อสารกับนายด้วยภาษาอังกฤษ เวลาถูกใช้ให้ไปซื้อของ ถ้าสินค้าพิมพ์ชื่ออังกฤษและคำอธิบายภาษาอังกฤษไว้ เธอซื้อได้ถูกต้อง เพราะอ่านฉลากได้คล่องกว่านายเสียอีก
แต่...
ความดีแค่นี้ก็เหมือนอังกฤษเอากุ้งฝอยมามอบให้ หลังจากเอาอวนกวาดปลากะพงไปหมดทะเลแล้ว สิ่งสำคัญคือทรัพยากรของประเทศนั้นๆไม่ว่าในน้ำหรือบนดิน ในปราสาทราชวังหรือตามเมืองตามหมู่บ้าน โดนดูดไปเพิ่มความมั่งคั่งให้นายอย่างไม่อั้น เหลือไว้แต่ความกระจอกงอกง่อยให้อยู่กันไป
ของมันก็เห็นๆ ในเมื่อเข้ามายึดประเทศได้ทั้งที ก็ต้องเด็ดยอดกลับไปบ้านตัวเอง ยอดยังไม่พอ ดอกใบทั้งหลายถูกรูดไปเกลี้ยง เหลือรากฝอยเอาไว้ยืนต้นซังกะตาย ไม่ถึงกับตายซาก
หลักฐานที่ยืนยันได้คือถ้าชีวิตที่มีฝรั่งอยู่เป็นนายมันทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นแล้วไซร้ ประเทศอาณานิคมทั้งหลายคงไม่ดิ้นรนต่อสู้เพื่อเอาอิสรภาพคืนมา ก็คงอยู่กันไปแบบนี้ดีกว่า
เอาเข้าจริงเมื่ออังกฤษหมดความเป็นมหาอำนาจ อาณานิคมทั้งหลายก็ขอเป็นไทแก่ตัวกันเป็นแถวๆ ไม่เห็นมีชนชาติไหนเดินขบวนขอกลับไปอยู่กับเจ้าอาณานิคมเลยสักราย แถมตอนเป็นอาณานิคมยังมีขบวนการกู้ชาติเกิดขึ้นประเทศโน้นบ้างประเทศนี้บ้าง ยอมตายยอมลำบากกันเพื่อเอาเอกราชคืนมา