ระแหง อยู่ที่ อ.เมืองตาก เหนือเชียงทองขึ้นไปครับ เห็นว่าตำแหน่งจะสลับกับที่ปรากฏในขุนช้างขุนแผนนิดหน่อย ข้อนี้อาจเป็นเพราะ ในสำนึกของคนยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น เห็นว่าตากเป็นพื้นที่ของอยุธยา ดังนั้นรอยต่อแดน อยุธยา-ล้านนา น่าจะอยู่เหนือตากขึ้นไป
แต่ข้อนี้ คงต้องประกอบกับสมมติฐานว่า คนในยุคนั้นไม่รู้ว่าเชียงทองอยู่ที่ไหนเสียแล้ว
เห็นได้ว่าข้อนี้ขัดกับข้อมูลที่คุณเงินปุ่นสีให้ไว้ว่า
ชื่อเมืองเชียงทองนั้น ยังปรากฎอยู่ในการแต่งตั้งขุนนางในสมัยรัชกาลที่ ๕
โดยเป็นเมืองขึ้นของเมืองตาก ตามนี้ครับ
"ให้พระสุนทรบริรักษ์ ผู้ช่วยราชการเมืองตาก เปนพระสุวรรณราชธานี ผู้สำเร็จราชการเมืองเชียงทองขึ้นแก่เมืองตาก
ถือศักดินา ๘๐๐ ตั้งแต่ ณ วัน ๒ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑ ปีมโรง สัมฤทธิศก จ.ศ.๑๒๓๐"
ดังนั้นเมืองเชียงทองในสมัยนี้น่าจะอยู่ไม่ไกลจากเมืองตากเท่าใดนัก
และเข้าใจว่าทั้งเมืองเชียงเงินและเมืองเชียงทองทั้งคู่ต่างก็เป็นเมืองขึ้นของเมืองตากเมืองหน้าด่านที่สำคัญ
ที่น่าแปลกใจคือในพระราชนิพนธ์เรื่องเที่ยวเมืองพระร่วง ให้ข้อมูลที่ดูเหมือนว่าในสมัยรัชกาลที่ ๖ เชียงทองเป็นเมืองที่ไม่มีใครรู้จักเสียแล้ว
ต่อมาเมื่อได้ทราบกระแสพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวในเรื่องเมืองเก่า จึงได้กลับความคิดเห็นว่าพระแก้วมรกตคงจะได้มาประดิษฐานไว้ที่ในวัดหนึ่งใน เมืองนครปุ คือเมื่อพระแก้วมรกตมาอยู่กำแพงเพชรนั้น เมืองกำแพงเพชรใหม่ยังไม่ได้สร้างขึ้น ครั้นได้ตรวจหนังสือในหลักศิลาจารึกว่าด้วยสุโขทัยมีปรากฏอยู่ว่า เมืองกำแพงเพชรเวลานั้นยังเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ห่างลำน้ำแควน้อยจึงได้ไป ขึ้นเรือที่เชียงทอง ซึ่งเข้าใจอยู่ว่าอยู่เหนือกำแพงเพชรขึ้นไป
.
.
.
ยังมีสิ่งที่ทำให้น่าเชื่อมากขึ้นคือ ถนนระหว่างกำแพงเพชรกับสุโขทัยนั้นได้ผ่านไปใกล้เมืองย่อมๆ ๓ เมือง ตรงตามความในหลักศิลา แต่เมื่อข้าพเจ้าเดินตามถนนนั้นได้เห็นปลายถนนทางด้านตะวันตก ไปหมดอยู่เพียงขอบบึงใหญ่อันหนึ่ง ห่างจากเมืองกำแพงเพชรกว่า ๑๐๐ เส้น พระวิเชียรปราการแสดงความเห็นว่าน่าจะทำข้ามบึงไป แต่น้ำได้พัดทำลายไปเสียหมดแล้ว ข้อนี้ก็อาจจะเป็นได้ แต่ข้าพเจ้ายังไม่สู้จะเชื่อนัก ยังนึกสงสัยอยู่ว่าคงจะมีต่อไปจนถึงเมืองเชียงทอง ซึ่งเป็นเมืองท่าเรือ ถามถึงเมืองเชียงทองแต่เมื่ออยู่เมืองกำแพงเพชรก็ยังไม่ได้ความ ครั้นจะอยู่รอค้นหาต่อไปก็ไม่มีเวลาพอ จึงได้ขอให้พระวิเชียรปราการจัดหาคนที่รู้จักภูมิประเทศ เที่ยวตรวจค้นดูทางเหนือเมืองกำแพงเพชรขึ้นไป ว่าจะหาที่อะไรที่พอจะสันนิษฐานว่าเป็นเมืองได้บ้างหรือไม่ แล้วก็ออกเดินทางต่อไป
.
.
.
ฝ่ายพระวิเชียรปราการได้ไปด้วย ถึงที่บ้านพรานกระต่ายพบสนทนากับขุนภักดีนายอำเภอ ตกลงสั่งให้ขุนภักดีไปตรวจค้นหาเมืองตามที่ข้าพเจ้าแนะนำ ขุนภักดีได้ไปเที่ยวตรวจค้นจนพบ แล้วรีบตามไปที่สวรรคโลก บอกว่าได้พบเมืองโบราณเมืองหนึ่งอยู่เหนือเมืองกำแพงเพชรขึ้นไปประมาณ ๒๐๐ เส้นเศษ เป็นเมืองย่อมๆเป็นคูและเทินดิน ราษฎรตามแถบนั้นเรียกว่าเมืองเทินทอง หรือชุมนุมกองทอง เมืองนั้นตั้งอยู่ริมลำน้ำเรียกว่าคลองเรือ ปากคลองทะลุลำน้ำแควน้อย และมีถนนจากเมืองนั้นไปทางตะวันออกเฉียงใต้ แต่มาขาดเสียกลางทาง นี่เป็นพยานอยู่ว่า การที่สันนิษฐานไว้นั้นถูกต้องแล้ว และถนนคงจะได้มีมาจนต่อกับที่ขาดอยู่ที่บึงอยู่นั้น ส่วนเมืองกองทองหรือเนินทองนั้นข้าพเจ้าเชื่อว่าคือเมืองเชียงทองที่กล่าว ถึงในหลักศิลานั้นเอง เพราะฟังดูภูมิฐานที่ตั้งก็ดูเหมาะกับที่จะเป็นเมืองท่าเรือทะเล และที่นี้เองน่าจะเป็นเมืองเชียงทองที่กล่าวถึงอยู่หลายแห่งในพระราช พงศาวดารกรุงทวาราวดี และน่าจะเป็นเมืองนี้เองที่กล่าวถึงในเรื่องขุนช้างขุนแผน
.
.
.
แต่ต้องขอแก้ตัวไว้ในที่นี้ว่าบางทีจะมีบกพร่องอยู่มาก เพราะประการหนึ่งเวลามีน้อยอยู่สักหน่อย เพราะฉะนั้นบางทีมาได้ข่าวถึงสถานที่สำคัญๆเมื่อเดินพ้นมาเสียแล้ว จะย้อนกลับไปก็ไม่มีเวลาเช่น เมืองเชียงทองพึ่งมาได้ข่าวมีเมื่อมาอยู่ที่สวรรคโลกแล้ว และถ้ำพระรามใกล้สุโขทัยซึ่งกล่าวถึงอยู่ในศิลาจารึก และซึ่งข้าพเจ้าตั้งใจไว้ว่าจะไปแต่หาไม่พบ จนเมื่อมาอยู่ที่พิษณุโลกแล้วจึงได้ข่าวว่ามีดังนี้เป็นตัวอย่าง อีกประการหนึ่ง ตามสถานที่เหล่านี้ไม่ใคร่มีใครไป จึงเป็นการลำบากในการค้นหาเป็นอันมาก บางแห่งต้องหักร้างถางพงเข้าไป ไปกว่าจะถึงก็ยากนัก ซึ่งทำให้สงสัยอยู่ว่าตามในที่รกๆซึ่งยังเข้าไปไม่ถึงนั้นน่าจะมีสิ่งที่ควร ดูอยู่อีกบ้าง
คัดมาจาก
บล็อกของคุณกัมม์